ที่นี่.......นาผักขวง ด้วยรักและผูกพัน

ksomchai · Posted: 13/04/2012 11:12 pm Post subject:

มาที่ที่พักผู้โดยสาร ตอนนี้ มีป้ายติดบอกทางไปห้องน้ำแล้ว

ห้องน้ำใหม่ ครับ สะดวกสบาย น่าใช้

_________________

ksomchai · Posted: 13/04/2012 11:32 pm Post subject:

๑๐.๒๐ น. ข.๒๕๔ ก็มาถึงสถานีนาผักขวง ครับ

ถึงแม้ว่าสายใต้จะไม่มีรถขบวนพิเศษเสริม เหมือนสายเหนือและอิสาน(ทั้งๆที่สายใต้ ระยะทางยาวกว่า) แต่ก็พ่วงตู้โดยสารยาวมาก

ออกไปแล้ว มุ่งหน้าสู่ปลายทาง ธนบุรี ต่อไป

ผู้โดยสารที่ลงที่นี่ ครับ วันนี้หนาตาเป็นพิเศษ

_________________

ksomchai · Posted: 13/04/2012 11:41 pm Post subject:

ปิดท้ายสงกรานต์ที่นาผักขวง ครับ

ขอให้เพื่อน ๆ ทุกท่านมีความสุขและมีความปลอดภัย ตลอดช่วงสงกรานต์และตลอดไป ครับ

สวัสดี ครับ emot106

_________________

ketkaew · Posted: 14/04/2012 12:45 am Post subject:

ขอบคุณมากค่ะพี่สมชายที่นำภาพดีๆอย่างนี้มาให้พวกเราได้ชมกัน Very Happy

ksomchai · Posted: 14/04/2012 11:59 pm Post subject:

ขอบคุณ คุณketkaew มากครับ ที่เข้ามาเยี่ยมชม กิจกรรมวันสงกรานต์เล็กๆ ของชุมชนบ้านผม สงกรานต์ที่นี่ ถึงวันที่ ๑๕ ครับ

แต่ที่บ้านกรูดถึงวันที่ ๑๗ ครับ
_________________

ksomchai · Posted: 11/06/2012 9:58 pm Post subject:

หยุดเสาร์อาทิตย์ สองวัน ได้ไปช่วยทาสีให้โรงเรียนวัดนาผักขวง ครับ

ผมขึ้นไปชั้น ๒ เห็นทำเนียบรายนามผู้ บริหารโรงเรียนวัดนาผักขวง ทราบว่าโรงเรียนวัดนาผักขวง
เป็นโรงเรียนเก่าแก่โรงเรียนหนึ่ง ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ๒๔๗๓ นับถึง พ.ศ.๒๕๕๕ ร่วม ๘๒ ปีแล้ว
แต่กอ่นไม่มีอาคารเรียน เรียนที่ศาลาการเปรียญ ของวัดนาผักขวง ครับ

มีภาพเก่ามาให้ชม ครับ ณ อาคารหลังเก่า ภาพนี้ก่อนปี ๒๕๐๘ ครับ ครู ๒ คน ภารโรง ๑ คน
คนกลางคือ ครูใหญ่ ครับ ครูใหญ่คนที่ ๕ ซึ่งคนนาผักขวงที่อายุ ๔๐ ปีขึ้นไปล้วนเป็นลูกศิษย์ท่านทั้งสิ้น รวมทั้งผมด้วย ตีเจ็บมาก อิอิอิ

ภาพนี้ถ่ายประมาณ ปี ๒๕๑๕ ผมจบแล้ว มีครูเพิ่มเป็น ๔ คน

สำหรับอาคารเรียนหลังเก่า เป็นอาคารไม้ยกพื้น มี ๓ ห้อง ห้องกลางตรงบันได เป็นห้องครูใหญ่ และห้องพักครู
ห้องซ้ายมือเป็นชั้นเรียน ป.๑-๒ เรียนรวมกัน ห้องขวามมือ เป็นชั้นเรียน ป.๓-๔ เรียนรวมกัน ครู ๑ คนสอน ๒ ชั้น

หลังปี ๒๕๑๕ มีครูครบทุกชั้นเรียน ครับ Very Happy

_________________

Mongwin · Posted: 11/06/2012 10:38 pm Post subject:

ภาพเก่าภาพบน เห็นแผ่นเหล็ก เอามาห้อยไว้ ใช้ตีแทนระฆังหรือเปล่าครับ

เห็นภาพอาคารเรียนแบบนี้ แล้วนึกถึงอาคารหลังเก่าที่โรงเรียนบ้านเทพาเลยครับ น่าจะมีแปลนคล้าย ๆ กัน แต่สมัยที่ผมเรียนนั้น ซ้ายมือเป็นห้องสมุด ที่เหลือเหมือนกับโรงเรียนพี่สมชายครับ คือ ตรงกลางตรงกับบันไดเป็นห้องพักครูใหญ่ และขวามือเป็นห้องพักครูครับ Very Happy

โีรงเรียนบ้านเทพา ตั้งเมื่อ 1 ก.ค. 2474 ใกล้เคียงกับโรงเรียนวัดนาผักขวงด้วยครับ
ภาพอาคารนี้ ที่ผมเข้าไปถ่ายไว้เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาครับ
http://static.panoramio.com/photos/original/41052612.jpg

milkonline · Posted: 11/06/2012 10:52 pm Post subject:

ksomchai · Posted: 12/06/2012 10:02 pm Post subject:

อาจารย์เอก และคุณ milkonline ช่างสังเกตุนะครับ แม้ภาพจะเลือน ระฆัง ของโรงเรียนวัดนาผักขวง ใช้เหล็กจานรองหมุดที่ใช้กับหมอนไม้ เป็นระฆัง ครับ
ใช้มาตลอดจนเมื่อคราวที่ไฟฟ้าภูมิภาคจ่ายไฟไปถึง จึงใช้กริ่งไฟฟ้าจนถึงปัจจุบัน แบบอาคารเรียน ผมพยายามหาภาพมา ครับ
แต่ยังหาไม่ได้เลย น่าจะเป็นต้นแบบของอาคารเรียนรุ่นแรก ๆ นะครับ เท่าที่จำได้ โรงเรียนบ้านชะม่วง เมื่อก่อนอยู่หลังสถานีรถไฟชะม่วง
ก็เป็นแปลนแบบเดียวกัน ปัจจบันย้ายไปอยู่ที่ใหม่ เป็นอาคารชั้นเดียวไม่ยกพื้น ส่วนอาคารเรียนของโรงเรียนวัดนาผักขวงปัจจุบันเป็นอาคารเรียน ๒ ชั้น อาครแบบนี้ ครับ

แต่รูปแบบของอาคารโรงเรียนเทพา เป็นชั้นเดียวยกพื้น นะครับ แต่ดูโครงสร้างหลังคาคล้าย ๆ กัน กับโรงเรียนวัดนาผักขวง

จากชั้น ๒ ของอาคารเรียนมองไปทางสถานีรถไฟนาผักขวง ครับ อาคารเรียนจะอยู่ตรงประแจด้านทิศเหนือของสถานีนาผักขวง ครับ
ป้ายโรงเรียนหันไปทางรถไฟ เป็นหลักฐาน ว่าการคมนาคมหลักเมื่อก่อนก็คือรถไฟ

จากชั้น ๒ มองไปทางทิศเหนือ เป็นโรงอาหารและที่สำหรับทำกิจกรรมของนักเรียน อาคารหลังเก่า อยู่บริเวณนี้ ครับ

ป.ล.ระฆังโรงเรียนสมัยก่อนใช้เหล้กจานรองหมอนรถไฟ ส่วนวัสดุที่ใช้ตีก็เป็นตาปูยึดราง นั่นละครับ
ส่วนระฆังบอกเวาลาเข้าออกรถไฟที่สถานีนาผักขวง ใช้เหล็กราง ครับ ยาวประมาณ ๒ ฟุต ใช้ตาปูยึดรางตีเช่นเดียวกัน เสียงดังกังวานมาก ครับ
_________________

Mongwin · Posted: 13/06/2012 7:02 am Post subject:

เห็นภาพอาคารเรียน 2 ชั้นของโรงเรียนวัดนาผักขวง
ทำให้นึกขึ้นได้ว่า ที่โรงเรียนบ้านเทพา ก็เคยมีอาคารลักษณะเดียวกันนี้
แต่มีเพียงชั้นบน ชั้นล่างปล่อยโล่งไว้ กลายเป็นใต้ถุน ถมดินลูกรังอัดแน่น
ใช้ประโยชน์สำหรับเป็นที่ประชุมสวดมนต์ในตอนเย็นวันศุกร์

วันอื่น ๆ กลายเป็นที่จอดจักรยาน
สำหรับชั้นบน ที่เป็นห้องเรียนสำหรับชั้นประถมปลาย (ป.5-6)
คุณครูเคยบอกผมว่า ชั้นล่างยังไม่ได้สร้าง เพราะจำนวนนักเรียนยังไม่มากพอ
เลยยังไม่ได้งบประมาณมาสร้าง

ผมจบชั้น ป.6 เมื่อเดือนมีนาคม 2526 และไม่เคยมีโอกาสกลับไปที่โรงเรียนอีกเลย
จนกระทั่งอีก 26 ปีต่อมา ในเดือนเมษายน 2552 ผมขึ้นรถไฟกลับไปที่โรงเรียนอีกครั้ง
เพื่อดูว่าอาคารเรียนแห่งนี้ ที่ผมเอาจักรยานมาจอดไว้ใต้ถุนในวัยเด็ก ต่อเติมเสร็จแล้วหรือยัง

ปรากฏว่าอาคารถูกรื้อไปหมดแล้วครับในปี 2551 เพื่อสร้างอาคารหลังใหม่ที่ได้งบมาก้อนใหญ่
เสียดายมากครับ อาคารหลังใหม่ไม่มีความสวยงามเลย หลังคาระบายอากาศด้วยลูกหมุน ๆ เหมือนดอกเห็ด คล้ายหลังคาโรงงาน
http://static.panoramio.com/photos/original/41052634.jpg

แต่ผมโชคดีมากที่ได้เจอคุณครูที่สอนสังคมผม บ้านยังอยู่ที่เดิม แต่อายุ 70 ปีแล้ว
ท่านหันไปทำสวนยางพาราให้ลูกหลานดูแลครับ