ปัญหาที่จะเกิดในอนาคตของ ARL !!!

nathapong · Posted: 30/09/2009 5:41 pm Post subject:

ติ็งต่อง .....
อย่างแรก....Please mind the gap between the train and platform …… wide 13 cm. Ohh… Question

ตอนนี้รอดูผลว่า ช่องว่างระหว่างตัวรถกับชานชลา
กรณีคนพิการที่ต้องใช้รถเข็น สามารถใช้บริการได้หรือไม่ ถ้าไม่ จะแก้ไขได้อย่างไร
และแนวทางการป้องกันอุบัติเหตุ จากช่องว่างนี้

อย่างที่สอง เรื่องของป้าย ชี้ไปทางไหน ใครไปเจอป้ายบอกทางแปลก ๆ เช่นชี้ขึ้นเพดาน ชี้ไปหาผนัง

ช่วยถ่ายรูปมาฝากบ้างเน้อ อะอะ Rolling Eyes

Compressor · Posted: 30/09/2009 6:29 pm Post subject:

1 ตุลาคมนี้ สุวรรณภูมิมีการเปลี่ยนแปลง รถแท็กซี่ทั้งหลาย ให้ย้ายไปรออยู่ชั้นหนึ่ง ที่ๆเดี๋ยวกับรถ Airport Bus ไปอยู่

ถ้าจะเทียบผู้โดยสารแล้ว ผมเชื่อว่าเรามีศักยภาพเพียงพอ ที่จะนำรายได้ในส่วน City Line มาใช้หมุนเวียนมากกว่ารายได้จากรถด่วน ถ้าจะเทียบกับแอร์พอร์ตลิงค์ของ KLIA อย่างมาเลเซีย มันคนละเคส ที่นั่น ต่อให้นั่งรถด่วนหรือรถธรรมดา ค่าโดยสารก็เท่ากันคือ 350 บาท (KL Sentral ไป KLIA) แต่ผิดกับของไทย ที่ราคารถธรรมดามีค่าโดยสารเพียง 45 บาทเท่านั้น

Wisarut · Posted: 15/02/2010 9:38 am Post subject:

ถึงเจ้าของกระทู้,

นี่ก็คงเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่จะเกิดกับ Airport Link ตามข่าวต่อไปนี้:
//---------------------------------------------------------------------------------------

7สถานีแอร์พอร์ตลิงก์
เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 8:02 น

โครงการระบบขนส่งเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ “รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์” (AIRPORT RAIL LINK) ที่คนกรุงเทพฯเริ่มมองเห็นฝันที่ใกล้เป็นจริงเข้ามาทุกขณะ เมื่อการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการไปหลายครั้งตั้งแต่ปี 2552 ที่ผ่านมา และมีคำยืนยันออกมาเป็นระยะ ๆ ว่าจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ภายในเดือน เม.ย. หรืออีก 2 เดือนข้างหน้านี้

อย่างที่ทราบกันว่า โครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ เป็นโครงการที่ให้บริการรถไฟฟ้า 2 ระบบ คือ รถไฟฟ้าด่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (EXPRESS LINE) และ รถไฟฟ้าท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ (CITY LINE) เป็นขบวนที่ให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารระหว่างสถานีพญาไทถึงสถานีปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิภายใน 30 นาที โดยจอดรับ-ส่งผู้โดยสารตามสถานีรายทางทุกสถานี ตลอดแนวสายทาง 28 กิโลเมตร มีสถานีทั้งหมด 8 สถานี ได้แก่ สถานีพญาไท สถานีราชปรารภ สถานีมักกะสัน หรือสถานีรับ-ส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง สถานีรามคำแหง สถานีหัวหมาก สถานีบ้านทับช้าง สถานีลาดกระบัง และ สถานีสุวรรณภูมิ ยังน่าแปลกใจว่าบางสถานีคนกรุงเทพฯยังหลับตานึกไม่ออกว่าจะเข้าไปทางไหนดี

เริ่มกันที่ สถานีพญาไท เป็นสถานีเริ่มต้นของโครงการตั้งอยู่บนถนนพญาไท ใครมาใช้บริการที่สถานีนี้จะมาได้ทั้งจากถนนพญาไทและถนนศรีอยุธยา โดยสถานีตั้งอยู่บนถนนพญาไท ฝั่งขาเข้าเมืองห่างจากแยกพญาไทประมาณ 500 เมตร สำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้าบีทีเอสแล้วต้องการมาต่อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ที่สถานีนี้คงต้องทำใจ เพราะยังไม่สามารถเดินเชื่อมกันที่ชั้นขายตั๋วได้ จะต้องหิ้วกระเป๋าเดินลงมาจากบีทีเอส แล้วลากเลาะทางเท้าเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์อีกที ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทั้ง รฟท.และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ผู้ให้สัมปทานบีทีเอสไม่วางแผนทำทีเดียวให้เสร็จซะตั้งแต่ทีแรกเพราะยังไงก็ต้องมีคนใช้อยู่แล้ว ต้องมาเสียเวลารอทำทางเชื่อมกันอีกหลายเดือน คนที่ต้องใช้รถไฟฟ้าก็ได้แต่ปวดใจ ชะโงกไปก็เห็นสถานีของอีกโครงการหนึ่งอยู่ใกล้ ๆ ไม่ถึง 5 เมตรแค่นี้ แต่กระโดดไปไม่ถึง ???

มาต่อที่ สถานีราชปรารภ ตัวสถานีคร่อมทางรถไฟอยู่บนถนนราชปรารภ ถ้านึกไม่ออกก็ให้จำเส้นทางจากวิภาวดีรังสิตวิ่งเข้าเมืองผ่านแยกสามเหลี่ยมดินแดงแล้ววิ่งไปทางประตูน้ำ ตัวสถานีจะอยู่ตรงทางรถไฟในปัจจุบันช่วงก่อนที่จะมีทางเลี้ยวไปทางถนนนิคมรถไฟ สถานีนี้ทั้งคนมาจากในเมืองและนอกเมืองจะสะดวกตรงที่สามารถขึ้นสถานีได้ทั้ง 2 ฝั่งของถนน

สถานีมักกะสัน หรือสถานีรับ-ส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (BCAT) ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นการเดินรถของรถไฟฟ้าด่วนท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ และจะเป็นสถานีรถไฟฟ้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้บริการเช็กอินเคาน์เตอร์ และนำสัมภาระส่งต่อไปยังสายการบินต่าง ๆ ในอนาคตนั้น ทางเข้า-ออกสถานีนี้อยู่บนถนนอโศก-รัชดาฯ ในฝั่งที่มุ่งหน้าไปแยกพระราม 9 หากจะเดินทางมาที่สถานีสามารถมาได้ทั้งจากถนนในแนววงแหวนรัชดาฯ และเข้าซอยลัดจากถนนพระราม 9 และถนนเพชรบุรี ผ่านซอยศูนย์วิจัยมาออกซอยด้านหลังสถานีมักกะสันและขับเข้าถนนเลียบทางรถไฟและตัวสถานีมาออกถนนอโศก-รัชดาฯแล้วเลี้ยวซ้ายข้ามทางรถไฟเพื่อเข้าสถานี ในอนาคตมีโครงการที่จะสร้างทางเดินเชื่อมกับรถไฟฟ้าใต้ดิน (เอ็มอาร์ที) สถานีเพชรบุรี แต่หากขึ้นจากรถไฟใต้ดินในช่วงนี้ต้องเดินลากกระเป๋าข้ามถนนมายังตัวสถานีซึ่งก็เป็นระยะทางไกลพอสมควร

สถานีถัดมาเป็น สถานีรามคำแหง ตัวสถานีตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง ฝั่งทิศมุ่งหน้าไปทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง จากนั้นเป็น สถานีหัวหมาก ตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์ ฝั่งเดียวกับจัสโก้ (ด้านมุ่งหน้าไปแยกศรีนครินทร์ตัดกับถนนพัฒนาการ) สถานีแห่งนี้สำหรับผู้ที่ใช้บริการรถขนส่งสาธารณะเพื่อมาขึ้นรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ที่สถานีต้องเหนื่อยมากกว่าสถานีอื่นเพราะทางเดินเข้าจากป้ายรถเมล์บนถนนศรีนครินทร์ไปถึงตัวสถานีไกลราว 500 เมตร ตัวสถานีอยู่ลึกเข้าไปมาก สำหรับคนที่จะเดินทางไปขึ้นเครื่องบินและมีสัมภาระไปด้วยก็ทำใจไว้ก่อนเลยว่าเหนื่อย ยกเว้นนั่งแท็กซี่เข้ามาส่งถึงสถานี

สถานีบ้านทับช้าง แม้ว่าตัวสถานีจะอยู่บริเวณเดียวกับสถานีรถไฟดีเซลเดิมแต่หาทางเข้า-ออกยากมาก ยกเว้นแต่เป็นคนในพื้นที่ถึงจะรู้ สถานีนี้เข้า-ออกได้ทางเดียวคือจากถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ซึ่งการเดินทางมายังถนนดังกล่าวมาได้ 2 ทางคือ เข้าซอยพัฒนาการ 53 หรือซอยหมู่บ้านเมืองทอง 2 โครงการ 3 ผ่านพื้นที่หมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร จะมีทางออกไปสิ้นสุดที่ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ให้เลี้ยวขวามาตามทางประมาณ 2-3 กิโลเมตรจะเห็นสถานีบ้านทับช้างอยู่ขวามือ สำหรับทางเข้าอีกเส้นทางหนึ่งคือ วิ่งไปตามถนนอ่อนนุช (สุขุมวิท 77) ผ่านวัดกระทุ่มเสือปลา จากนั้นตรงไป จนถึงทางขึ้นมอเตอร์เวย์บริเวณสวนสาธารณะ เมื่อเลี้ยวซ้ายขึ้นไปแล้วให้ลงถนนมอเตอร์เวย์ที่มุ่งหน้าไปทางพระราม 9 จากนั้นสังเกตด้านซ้ายมือที่เป็นศูนย์สร้างทางของกรมทางหลวง จะมีถนนเล็ก ๆ ผ่านศูนย์สร้างทางฯ ทะลุถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ให้เลี้ยวขวาวิ่งตามถนนขึ้นไป จนเห็นสถานีบ้านทับช้างอยู่ทางซ้ายมือ บริเวณสถานีนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยสำนักการโยธาอยู่ระหว่างพิจารณาทำถนนทะลุจากแยกประเวศมาที่สถานีดังกล่าว ขณะนี้ยังติดปัญหาการเวนคืนพื้นที่เอกชนและจะต้องเจรจากับรฟท.และกรมทางหลวง เพราะต้องสร้างเป็นทางยกระดับข้ามทางรถไฟมาที่สถานีดังกล่าว

ส่วนสถานีสุดท้าย คือ สถานีลาดกระบัง ตั้งอยู่ริมถนนมอเตอร์เวย์และถนนร่มเกล้า และอยู่ใกล้กับวัดลาดกระบัง การเดินทางมาที่สถานีนี้มาได้จากถนนลาดกระบังและถนนร่มเกล้า โดยผู้ที่ใช้เส้นทางถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง วิ่งมุ่งหน้าไปทางลาดกระบัง ลอดใต้ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนฯ) เมื่อถึงแยกโรงเรียนเอกวิทย์อ่อนนุชบริหารธุรกิจ ให้เลี้ยวซ้ายขึ้นทางยกระดับข้ามทางรถไฟ (ดูป้ายไปทางมีนบุรี) เข้าสู่ถนนร่มเกล้า จากนั้นหาจุดกลับรถวิ่งย้อนกลับมาที่ทางรถไฟ ตัวสถานีจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ ซึ่งขณะนี้กำลังมีการปรับปรุงสร้างถนนเข้าไปที่สถานี ส่วนผู้ที่มาจากถนนร่มเกล้าย่านมีนบุรีให้วิ่งตรงบนถนนร่มเกล้าฝั่งมุ่งหน้าลาดกระบัง ก็จะถึงทางเข้าสถานีลาดกระบังได้เช่นกัน 2 สถานีสุดท้ายนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วงว่าจะหาทางเข้า-ออกลำบาก

หากรฟท.ยังยืนยันว่าสามารถเปิดให้บริการได้ภายในเดือน เม.ย.นี้ได้จริง คงต้องเร่งติดป้ายประชาสัมพันธ์ทางเข้า-ออกของทุกสถานีจากถนนสายหลักที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อให้ผู้ที่จะไปใช้รถไฟฟ้าสะดวกมากขึ้น และที่สำคัญสถานีส่วนใหญ่มีที่จอดรถน้อยมากราว 10-20 คันเท่านั้น สถานีที่มีที่จอดรถมากหน่อยก็มีเพียงที่สถานีมักกะสันและสถานีหัวหมากเท่านั้น โดยรูปแบบการเดินรถเข้าไปรับ-ส่งคนทุกสถานีจะเป็นทางบังคับ 2 ช่องจราจร ไป-กลับ โดยให้ขับรถตรงไปแล้ววนออก ไม่มีจุดที่ทำเป็นช่องเว้า จะต้องหยุดส่งบนทางวิ่งที่เป็นทางบังคับขนาด 1 ช่อง ซึ่งหากมีผู้ใช้บริการมากขึ้นคงจะเป็นปัญหาการหมุนเวียนรถเข้า-ออกในสถานีอย่างแน่นอน

คงต้องฝากให้รฟท.เร่งไปดำเนินการปรับแก้จุดที่ยังเป็นปัญหาให้เรียบร้อย ก่อนที่จะเปิดให้บริการ เพื่อให้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางสำหรับคนกรุงเทพฯอย่างแท้จริง.

Wisarut · Posted: 05/03/2010 1:08 pm Post subject:

ตร.หวั่นสถานีแอร์พอร์ตลิงก์พญาไท-ราชปรารภ
เดลินิวส์ วันศุกร์ ที่ 5 มีนาคม 2553 เวลา 8:09 น

เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ดูแลงานจราจร เรียกประชุม 4 สน.ท้องที่ตามแนวสายทางโครงการรถไฟฟ้าต่อเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ตลิงก์ ประกอบด้วย สน.พญาไท สน.ดินแดง สน. มักกะสัน และ สน.ประเวศ เพื่อให้จัดเตรียมแผนการจัดจราจรทางเข้า-ออกสถานีให้พร้อมรับการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าแอร์ พอร์ตลิงก์

พล.ต.ต.ภาณุ เปิดเผยว่า ทางเข้า-ออกสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ตลอดแนวสายทางมีข้อจำกัดมาก มีถนนแคบเพียง 3 เมตรเท่านั้น ซึ่งจะเป็นปัญหาอย่างยิ่งหากนำรถบัสขนาดใหญ่เข้ามาส่งผู้โดยสาร จะส่งผลกระทบต่อการจราจรได้ สำหรับสถานีที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ

1. สถานีพญาไท และ
2. สถานีราชปรารภ เพราะ

สถานีทั้งสองเป็นสถานีต้นทางในเมืองที่คาดว่าจะมีประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ซึ่งสถานีพญาไทยังเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอสด้วย แต่จากการสำรวจที่จอดรถพบว่า สถานีพญาไท มีที่จอดรถได้ 7 คันเท่านั้น และสถานีราชปรารภ มีที่จอดรถเพียง 14 คัน ถือว่าน้อยมากไม่พอให้บริการประชาชนอย่างแน่นอน

ส่วนสถานีนอกเมืองที่สถานีหัวหมากและสถานีบ้านทับช้าง มีที่จอดรถรองรับได้สถานีละ 100 คัน จากการประเมินเบื้องต้น ยังพบว่า การเข้าใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มีปัญหาทั้งเรื่องการเดินทางเข้าสู่ตัวสถานีได้ยาก ไม่มีรถประจำทางเข้าถึง หากเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็ไม่มีที่จอดรถ รถบัสขนาดใหญ่เข้า-ออกลำบาก หากไม่มีการเตรียมแผนจัดการจราจรไว้ก่อนล่วงหน้า อาจเกิดปัญหาการจราจรอย่างหนัก.

KaittipsBOT · 1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 4150

เมื่อคืนฟังข่าวว่า....เลื่อนเปิดให้บริการจากเดือน เม.ย. 53 ไปเป็น ก.ค. 53 เนื่องจากผู้รับเหมาไม่สามารถส่งมอบงานได้ โดนค่าปรับไปราวๆ 17 ล้านบาท เปิดช่วงแรกเข้าใจว่าฟรีค่าโดยสารไปก่อน......

kikoo · Posted: 26/03/2010 1:47 pm Post subject:

การเดินทางโดยการใช้สาธารณูปโภคที่เป็นระบบราง มันยังไม่ฝังในสายเลือดคนไทย(ส่วนใหญ่)นิครับ
ถึงจะให้มันเป็นโครงข่ายยังไง แต่ถ้าไม่มีการรณรงค์ให้หันไปใช้การเดินทางด้วยระบบรางนั้น ทำไปก็เปล่าประโยชน์
คนไทยยุคหนึ่งสอนและสนับสนุนลูกหลานให้มีทัศนคติเกี่ยวกับรถไฟในบ้านเราว่าเป็นของล้าสมัย โบราณ(ไม่ต้องสงสัยว่าทำไม รถไฟไทยถึงล้าหลัง เพราะ คนไทยด้วยกันเองยังไม่สนับสนุนเลย)
ต่างจากคนญี่ปุ่นที่เค้าสนับสนุนเรื่องระบบรางมากๆ(เค้าดูแบบจากบ้านเรา แล้วไปพัฒนาจนไกลกว่าที่บ้านเราจะเอื้อมถึงแล้ว) เวลาไปไหนมาไหนเค้าจะนึกถึงรถไฟก่อน(มันฝังรากลึกจนสะท้อนให้เห็นได้ในการ์ตูนหรือภาพยนตร์เลยทีเดียว ซึ่งจะมีฉากที่ผู้คนกำลังยืนรอรถไฟกัน)

เอ่อ....ผมยิ่งพูด ยิ่งออกทะเลมั้ยครับ?

donatt76 · Posted: 26/03/2010 2:51 pm Post subject:

^
^
อ่านจากข่าวที่เฮียวิศรุตนำมาวันนี้แล้ว....ผมว่า ทาง บก.จร. และ บช.น. ยังไม่เข้าใจเรื่องระบบขนส่งสาธารณะเอามากๆเลยนะครับ (ต้องจับไปนั่งเรียนใหม่ให้หมด)......

สถานีในเมืองอย่าง พญาไท และ ราชปรารถ ไม่มีความจำเป็นต้องมีที่จอดรถจำนวนมากเลยครับ...สาเหตุเพราะว่า ที่เราทำระบบขนส่งสาธารณะมาเพื่ออะไรกันครับ??? ถ้าไม่ใช่เพื่อให้คน "เลิกขับรถ เข้าเมือง" ดังนั้นที่จอดรถแค่ 7 คันตามเนื้อข่าวที่ว่า ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะไม่ได้ต้องการให้คนขับรถเข้ามาจอด ที่สำคัญคือ 7 และ 14 ที่จะต้องไม่ใช่สำหรับรถส่วนตัวครับ....ควรเป็นที่จอดของ Taxi หรือรถประจำทาง นะครับ

อีกอย่างคือ ย่านพญาไท ราชปรารถ มีโรงแรม ห้างสรรพสินค้าใกล้เคียงอยู่หลายแห่งที่มีที่จอดรถไว้บริการมากมายอยู่แล้ว (อยากขับรถเข้าเมืองก็ต้องยอมจ่ายแพงครับ)

สถานีนอกเมืองอย่างหัวหมาก บ้านทับช้าง ลาดกระบัง ที่ว่าอยู่ห่างไกล มีปัญหาที่ต้องแก้คือ ป้ายบอกทางเข้าสถานี รวมทั้งต้องโหมโปรโมต ให้คนละแวกนั้นรู้จักคำว่า Park & Ride จึงสมควรอย่างยิ่งที่ต้องมีที่จอดรถเยอะ เพื่อให้คนในละแวกนั้นขับรถจากบ้าน มาแค่สถานีที่ใกล้บ้าน.....แล้วนั่งรถไฟเข้าเมืองมาแทนการขับรถ

ส่วนเรื่องรถบัส.....ถ้าทัวร์ใช้รถบัสแล้ว ใครเค้าจะให้มาส่งผู้โดยสารที่สถานีระหว่างทางล่ะครับ สู้เอารถบัสวิ่งเข้าไปรับถึงสุวรรณภูมิ หรือ รอรับที่ BCAT เลยอยู่แล้วน่าจะเหมาะสมที่สุด.....

ส่วนเรื่องรถติด....ถ้าเป็นผมตอบแบบ Hardcore หน่อยจะบอกว่า "ช่างหัวมัน" ก็ทำรถไฟให้ใช้เข้าเมืองแล้วอยากขับรถเข้ามา....ก็รับชะตากรรมกันต่อไปครับไม่ต้องบ่น

ไม่ต้องอ้างเด็ก คนชรา คนพิการนะครับ เพราะเค้ามี Facility เรื่อง Disable Person อยู่แล้ว
--------------------------------------------------------------------------------------------------------

ที่น่าสงสารต่อไปก็ย่านมีนบุรี ลาดพร้าว รามอินทรา....ทีแผนรถไฟฟ้ายังไปไม่ถึงนี่แหละ
_________________
Click on the image for full size

Wisarut · Posted: 26/03/2010 3:15 pm Post subject:

^^^
ก็ไม่ได้ เงินจากการ xxx คุณตำรวจเลย พาลพาโลเช่นนี้

prasertniti · Posted: 26/03/2010 5:06 pm Post subject:

เห็นว่าเดือนเมษายนนี้จะเปิดให้นั่งฟรีอีกหรือครับ

Wisarut · Posted: 31/03/2010 12:29 am Post subject:

แอร์พอร์ตลิงค์ ไม่ผ่านปลอดภัย 30จุด"บกพร่อง"

หน้าเศรษฐกิจ
ไทยโพสต์ 31 มีนาคม 2553
เช็คระบบปลอดภัยแอร์พอร์ตลิ้งค์ คค.สั่งแก้ไขด่วน 4 จุดสำคัญ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 มีนาคม 2553 07:17 น.

นายเทียนโชติ จงพีร์เพียร ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารในเมือง (แอร์พอร์ตเรลลิงค์) เปิดเผยว่า จากการที่วิศวกรอิสระ (ICE) ได้ตรวจสอบความเรียบร้อยของโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงค์ พบจุดบกพร่องกว่า 30 รายการ แต่จุดใหญ่คือ

1. ทางหนีไฟบริเวณสถานีต่างๆ ที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงกำแพงกั้นไฟที่ยังเตี้ยเกินไป และมีจำนวนไม่เพียงพอ
2. ระบบไฟฟ้าสำรองตามสถานียังมีไม่เพียงพอ
3. ระบบวิทยุสื่อสารภายในอุโมงค์ยังไม่สมบูรณ์

ทั้งนี้ ในส่วนระบบไฟฟ้าสำรอง ซึ่ง ICE เกรงว่าหากเกิดปัญหาขึ้นจริง ระบบไปฟ้าภายในสถานีจะมีเพียงพอหรือไม่ ระบบวิทยุสื่อสารภายในอุโมงค์ พบว่า ไม่สามารถติดต่อระบบภายในขบวนรถหรือสถานีได้อย่างชัดเจน ดังนั้น จะแก้ไขได้โดยการติดตั้งเคเบิลใยแก้วบริเวณปากอุโมงค์ ซึ่งปัญหาทั้งหมดอยู่ระหว่างแก้ไข

นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันภายหลังตรวจความคืบหน้าระบบแอร์พอร์ตลิ้งค์ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า ภายในเดือนก.ค.2553 นี้ จะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ และในปลายเดือนเม.ย. การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะเปิดทดสอบเดินรถตามตาราง คือ เช้าและเย็น โดยจะเดินรถในช่วงเช้า 2 ชั่วโมง 4 เที่ยว และช่วงเย็น 4 เที่ยว ซึ่งการทดสอบเดินรถในช่วงดังกล่าวนั้นจะเป็นช่วงเดียวกันกับที่วิศวกรอิสระ ตรวจความพร้อมและความปลอดภัยของโครงการตามมาตรฐาน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน

อย่างไรก็ตาม นายโสภณกล่าวว่า ระบบความปลอดภัยของแอร์พอร์ตลิ้งค์นั้น มีความคืบหน้ากว่า 90% แล้วซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงคมนาคมวางไว้
โดยที่ประชุมได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปปรับปรุง จากนั้นให้รายงานความคืบหน้า ในวันที่ 7 เม.ย.2553 อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าจะสามารถเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ หรืออย่างช้าภายในเดือน ส.ค.2553
__________________