View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 24/07/2009 9:19 pm Post subject: |
|
|
ระหว่างรอจังหวะเหมาะที่จะทำการบุกห้องสมุดการรถไฟฯ เอ๊ย . . . รอให้เดินถ่ายรูป และชมบรรยากาศภายใน ตญ.ห้องสมุด ทั้ง 5 คันได้อย่างสะดวก ผมกับน้องปู๊นก็ขอพาพี่ ๆ น้อง ๆ เดินกลับมาที่ชานชาลาหน้าอาคารสถานี เพื่อที่จะมาติดตามอ่านเรืองราวความเป็นมาเป็นไปในอดีตที่ปรากฏอยู่ในป้ายที่จัดตั้งแสดงอยู่บนชานชาลาในขณะนั้นกันครับ
เท่าที่เดินดูแล้วลองนับดูทั้งหมดก็เห็นว่าป้ายที่จัดแสดงอยู่บนชานชาลาที่เห็นอยู่ในรูปนั้น มี 2 ด้าน ด้านละ 12 ป้าย รวมเป็น 24 ป้าย ทุกป้ายเป็นผลงานของ ศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการท่องเที่ยว การรถไฟฯ ซึ่งก็รวมถึงป้ายที่จัดแสดงอยู่ในบริเวณที่ ตญ.ห้องสมุด ทั้ง 5 คันจอดอยู่ด้วย
ผมจะนำเสนอไล่เรียงไปทีละด้าน และขอ ( บังอาจ ) จัดเรียงตามลำดับก่อน - หลัง โดยอาศัยความรู้ ( เท่าหางอึ่ง ) และความเข้าใจที่มี ( หลังจากที่ได้ยืนอ่านข้อความในป้ายมาตั้งแต่วันงานแล้ว ) อาจจะเรียงลำดับไม่เหมือนกับที่เห็นในรูป เพราะผมคิดว่าถ้าเรียงตามลำดับที่ผมจัดใหม่แล้ว น่าจะเข้าใจเรื่องราวได้ง่ายกว่าครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 24/07/2009 9:39 pm Post subject: |
|
|
ก่อนที่จะได้อ่านข้อความที่อยู่ในป้ายทั้งหมด ผมต้องบอกเอาไว้ก่อนว่าผมคัดลอกออกมาแบบคำต่อคำ ไม่ได้ไปแก้ไขใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าตั้งใจอ่านดี ๆ อาจจะพบคำบางคำที่เห็นว่าผมพิมพ์ผิด สะกดไม่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ หรือคำบางคำที่สะกดไม่เหมือนกับที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ขอให้เข้าใจว่า ข้อความที่ปรากฏอยู่ในป้ายที่จัดแสดงอยู่ก็เขียนเอาไว้แบบนั้น ครับ
ข้อมูลตามป้าย wrote: | กำเนิดรถไฟ จากความใฝ่หาอิสระเสรี
รถไฟมีองค์ประกอบสำคัญสองสิ่งคือรางและรถจักรที่แล่นหรือลากจูงรถพ่วงเป็นขบวนไปบนรางนั้น ทั้งสองสิ่งนี้ประกอบกันยังความสำเร็จแก่ความใฝ่ฝันของมนุษย์
หลายพันปีมาแล้วที่มนุษย์พบว่าแรงลมหรือกระแสน้ำอาจนำเขาไปสู่จุดมุ่งหมายได้ แต่ไม่สะดวกรวดเร็วและมีอิสระเสรีตามที่ต้องการ สำคัญก็คือไม่สามารถทำได้เมื่ออยู่บนพื้นดิน
ในเวลาต่อมาเมื่อมนุษย์เริ่มรู้จักสัตว์ป่ามาฝึกและเลี้ยงสัตว์ไว้เพื่อใช้ประโยชน์ต่าง ๆ เริ่มได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น เมื่อรู้จักทำรถและเกวียนให้สัตว์ลากจูงไปทำให้นำคนและสิ่งของบรรทุกไปได้มากขึ้นรถและเกวียนที่ลากจูงเคลื่อนที่ไปได้ด้วยแรงสัตว์ ไม่ให้อิสระเสรีสมบูรณ์แก่มนุษย์ เพราะยังต้องพึ่งพาช้างม้าวัวควายที่มีการเหน็ดเหนื่อย เจ็บป่วยล้มตายและสิ้นเปลืองมากในการเลี้ยงดู มนุษย์จึงเริ่มค้นคว้าหาพลังงานที่จะใช้ทดแทนแรงงานสัตว์ที่มีชีวิตเพื่อให้มนุษย์มีอิสระเสรียิ่งขึ้น |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 24/07/2009 9:51 pm Post subject: |
|
|
ข้อมูลตามป้าย wrote: | กำเนิดรถไฟ จากความใฝ่หาอิสระเสรี
ชาวอังกฤษชื่อ " โธมัส เซเวอรี " ค้นพบว่า ถ้าเอาน้ำใส่ภาชนะตั้งบนไฟต้มให้เดือด น้ำที่กลายเป็นไอลอยขึ้นบนอากาศนั้น ถ้าสามารถนำมาใช้เป็นพลังงานได้ก็จะขับดันเครื่องสูบน้ำทำงานได้ดีกว่าการใช้แรงคนหรือสัตว์เป็นแน่
พลังไอน้ำจึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการสูบน้ำเป็นประการแรกโดย " โธมัส นิวโคแมน " ซึ่งเป็นคนแรกที่ค้นพบว่าถ้าเก็บรวบรวมไอน้ำเอาไว้ให้มาก ๆ แล้วนำไปใช้ดุนเดินลูกสูบให้เคลื่อนที่ภายในกระบอกสูบ แรงจากการเคลื่อนที่ของลูกสูบนั้นจะนำไปใช้ในการดันเครื่องสูบน้ำที่ใช้อยู่ในเหมืองแร่ได้ดีกว่าแรงคนหรือแรงสัตว์ |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 24/07/2009 9:59 pm Post subject: |
|
|
ข้อมูลตามป้าย wrote: | กำเนิดรถไฟ จากความใฝ่หาอิสระเสรี
เครื่องจักรไอน้ำที่เซเวอรีกับนิวโคแมนคิดประดิษฐ์ขึ้นได้มีกำลังไม่มากพอที่จะใช้งานอย่างอื่นนอกจากเพื่อฉุดชักเครื่องสูบน้ำตามเหมือง จนต่อมามีชาวอังกฤษคนหนึ่งชื่อ " เจมส์ วัตต์ " คิดทำเครื่องจักรไอน้ำที่มีประสิทธิภาพและประหยัดไอน้ำยิ่งกว่าแบบของนิวโคแมนเกือบเท่าตัว เจมส์ วัตต์ จึงได้รับการยกย่องไปทั่วโลกว่าเป็นบิดาแห่งเครื่องจักรไอน้ำ แต่ผู้ที่นำเครื่องจักรไอน้ำไปใช้ในการขับเคลื่อนพาหนะได้สำเร็จเป็นคนแรกของโลกคือ ชาวฝรั่งเศส ชื่อ " โจเซฟ กีนโย่ต์ "
กีนโย่ต์คิดทำรถสำหรับลากปืนใหญ่โดยไม่ต้องใช้ม้าลาก กีนโย่ต์จึงเอาเครื่องจักรไอน้ำของเจมส์ วัตต์ ติดตั้งเข้าบนเกวียนไม้เล่มใหญ่ที่ใช้ชื่อว่า " ฟาร์ดิเอร์ " ใช้จักรแล่นไปได้ในกรุงปารีส เมื่อปี ค.ศ. 1769 กีนโย่ต์จึงได้รับยกย่องว่าเป็นคนแรกที่ประดิษฐ์ " รถที่แล่นได้โดยไม่ต้องง้อม้า " อย่างไรก็ตามคนที่ประดิษฐ์รถคันแรกที่แล่นโดยไม่ต้องใช้ม้าลากและแล่นอยู่บนรางที่เรียกว่า " รถไฟ " นั้น เป็นชาวอังกฤษที่ชื่อ " ริชาร์ด เทรวิธิค " |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 24/07/2009 10:09 pm Post subject: |
|
|
ข้อมูลตามป้าย wrote: | กำเนิดรถไฟ จากความใฝ่หาอิสระเสรี
เทรวิธิคเอารถจักรไอน้ำที่ชื่อ " แค็ทช์ มี ฮู แคน " ลากจูงขบวนรถไฟบรรทุกคนโดยสารเป็นครั้งแรกที่บลูมสเบอรี่โดยวางรางเป็นวงกลมแล้วเอาขบวนรถไฟแล่นวนเพื่อเก็บเงิน ต่อมา " ยอร์ช สตีเฟนสัน " ชาวคอร์นวอลล์ สามารถประดิษฐ์รถจักรไอน้ำคันที่ทำขึ้นลากจูงขบวนรถไฟบรรทุกคนโดยสารเดินทางระหว่างเมืองได้สำเร็จในวันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 1825 รถจักรไอน้ำชื่อ " โลโคโมชั่น " ของยอร์ช และโรเบิร์ต สตีเฟนสันบุตรชาย ใช้จักรลากจูงรถพ่วง 34 คัน ออกเดินทางจากสถานีรถไฟชิลดอน นำผู้โดยสาร 600 คน และถ่านหิน 6 คันรถไปถึงเมืองท่าสต็อคตันด้วยความเรียบร้อย และยอร์ช สตีเฟนสันก็เป็นตัวตั้งตัวตีจัดให้มีการประลองความเร็วระหว่างรถจักรไอน้ำขึ้นที่ตำบลเรนฮิลล์ ซึ่งมีรถชื่อ " ร็อคเก็ต " ที่ยอร์ช สตีเฟนสัน และโรเบิร์ต ลูกชายช่วยกันสร้างขึ้นรวมอยู่ด้วย และเป็นคันที่ชนะการแข่งขันโดยสามารถใช้จักรลากจูงขบวนรถบรรทุกหินรวมน้ำหนักสามเท่าของน้ำหนักตัวรถจักร |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 24/07/2009 10:55 pm Post subject: |
|
|
ข้อมูลตามป้าย wrote: | กำเนิดรถไฟ จากความใฝ่หาอิสระเสรี
หลังจากความสำเร็จที่เรนฮิลล์ โรเบิร์ต สตีเฟนสัน ได้สร้างรถจักรไอน้ำแบบเดียวกับร็อคเก็ตขึ้นอีก 4 คัน เพียงพอที่จะเปิดการเดินรถไฟได้ สถานีรถไฟลิเวอร์พูล ถนนคราวน์สตรีต ก็มีผู้คนนับหมื่น ๆ ไปชุมนุมแน่นขนัดในพิธีเปิดการเดินรถไฟโดยมีคนกว่า 5 หมื่น ที่เรียงรายเฝ้าดูตลอดทางจนถึงแมนเชสเตอร์ " ร็อคเก็ต " ลากจูงขบวนรถไฟเคลื่อนออกจากสถานีต้นทางด้วยความเรียบร้อย ท่ามกลางเสียงโห่ร้องอย่างตื่นเต้นของคนนับหมื่น ๆ จนกระทั่งถึงสถานีปาร์คไซค์จึงหยุดเพื่อให้รถจักรเติมน้ำ
รถไฟได้พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีการขนส่งใด ๆ จะมีศักยภาพเหนือกว่าคุ้มโสหุ้ยกว่า เช่น สามารถลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งถ่านหินที่แต่เดิมคิดเป็นเงิน 12 เซ็นต์ต่อตันต่อไมล์ ลงเหลือเพียง 2.4 เซ็นต์ เป็นต้น
รถจักร " ร็อคเก็ต " ของยอร์ช และโรเบิร์ต สตีเฟนสัน สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1829 ความเร็ว 29 ไมล์ต่อชั่วโมง เป็นรถที่สร้างชื่อเสียงให้แก่สองพ่อลูกคู่นี้เป็นอย่างมาก |
จบเนื้อหาเกี่ยวกับหัวข้อเรื่อง กำเนิดรถไฟ จากความใฝ่หาอิสระเสรี แต่เพียงเท่านี้ครับ _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/07/2009 5:49 am Post subject: |
|
|
ต่อไปก็มาอ่านข้อมูลที่อยู่ในกลุ่มป้ายที่ใช้ชื่อหัวข้อว่า " อิทธิพลรถไฟ แผ่ขยายถึงสยามประเทศ " กันต่อครับ
ข้อมูลตามป้าย wrote: | อิทธิพลรถไฟ แผ่ขยายถึงสยามประเทศ
สมเด็จพระราชินีวิคตอเรียทรงเห็นการณ์ไกลอย่างยิ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่อังกฤษเป็นผู้ริเริ่มขึ้นก่อนผู้ใดในโลก และเพิ่งเริ่มต้นใช้เป็นกิจการขนส่งมวลชนสาธารณะเพียงชั่วเวลา 7 ปี ก่อนที่จะเสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงส่งเสริมการพัฒนาในกิจการรถไฟถึงขนาดที่หนังสือพิมพ์อังกฤษในสมัยนั้นเสนอบทวิจารณ์เรียกว่าเป็น " บุคคลคลั่งรถไฟ "
สมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย ได้สนับสนุนให้มีการสร้างทางรถไฟขึ้นอีกมากมายหลายสายทั่วประเทศ จนภายในเวลาเพียง 20 ปี อังกฤษมีทางรถไฟรวมได้ความยาวถึงกว่า 6,000 ไมล์ |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/07/2009 5:59 am Post subject: |
|
|
ก่อนจะอ่านข้อความที่ผมคัดลอกจากป้ายมาพิมพ์ลงใน Reply นี้ ผมต้องบอกเอาไว้ก่อนว่ารูปภาพของป้ายต่อไปที่ผมถ่ายมาไม่ชัดเจน อาจจะทำให้ข้อความที่ถอดออกมาไม่เหมือน และครบถ้วนตรงกับข้อความที่ปรากฏอยู่ในป้ายทั้ง 100% เหมือนกับป้ายอื่น ๆ ก็จะมีมัว ๆ เบลอ ๆ อยู่แค่ป้ายนี้ป้ายเดียว ตอนถ่ายเสร็จผมรีบจนลืมเช็ครูป ต้องขออภัยพี่ ๆ น้อง ๆ ที่ตั้งใจรอชม + สนใจเรื่องราวในอดีตเป็นพิเศษด้วยครับ
ข้อมูลตามป้ายทางซ้าย wrote: | อิทธิพลรถไฟ แผ่ขยายถึงสยามประเทศ
ในระหว่างเวลาเดียวกัน การรถไฟได้แพร่หลายจากประเทศอังกฤษไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยรัฐบาลอังกฤษที่กำลังแสวงหาอาณานิคมเพื่อเป็นแหล่งเกื้อกูลวัตถุดิบแก่ยุค " ปฏิวัติอุตสาหกรรม " ได้ใช้กิจการรถไฟเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
ในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 สมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย ทรงแต่งตั้งราชทูตมาแก้สัญญาทางพระราชไมตรีที่อังกฤษมีอยู่กับสยามประเทศ โดยให้ " มิสเตอร์ฮาร์ปิก " ซึ่งเคยเป็นทูตเข้ามาทำหนังสือสัญญาพร้อมกับ " เซอร์ยอน โบว์ลิ่ง " เมื่อครั้งก่อนนำเอาหนังสือสัญญาออกไปประทับตราแผ่นดินอังกฤษ แล้วกลับเข้ามาเปลี่ยนหนังสือสัญญาซึ่งประทับตราแผ่นดินกรุงเทพมหานคร |
ข้อมูลตามป้ายทางขวา wrote: | อิทธิพลรถไฟ แผ่ขยายถึงสยามประเทศ
ในวันที่ xx มีนาคม พุทธศักราช xxxx หรือ ค.ศ. xxxx มิสเตอร์ฮาร์ปิคกับขุนนางอังกฤษ 17 นาย เข้าเฝ้าออกใหญ่ถวายพระราชสาสน์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อถวายเครื่องราชบรรณาการ อันมีบันทึกไว้ในพระราชพงศาวดารรัชกาลที่ 4 ว่า ประกอบด้วยอย่างรถไฟ 1 อย่าง กำปั่นไฟ 1 กระจกฉากรูปควีนวิคตอเรียเมื่อได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ 1 กระจกฉากรูปควีนวิคตอเรียกเมื่อมีบุตร กับเครื่องเขียนสำรับ 1 เครื่องคิดเลขสำรับ 1 และของต่าง ๆ เป็นอันมาก เจ้าพนักงานในตำแหน่งทั้งปวงมารับไปต่อมือฮาร์ปิคเองเนือง ๆ เจ้าพนักงานกรมท่าจึงได้บัญชีไว้บ้างไม่ได้ไว้บ้าง ของถวายในพระบรมราชวังก็มีเป็นอันมาก ท่านก็ให้เจ้าพนักงานมารับไปเหมือนกัน |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/07/2009 6:11 am Post subject: |
|
|
ข้อมูลตามป้ายทางซ้าย wrote: | อิทธิพลรถไฟ แผ่ขยายถึงสยามประเทศ
ตามพระราชพงศาวดารรัชกาลที่ 4 กล่าวว่า " รถไฟ " ที่สมเด็จพระราชินีอังกฤษให้ราชทูตนำมาถวายเป็นราชบรรณาการนี้เป็นรถไฟจำลองย่อส่วนจากของจริง ประกอบด้วยรถจักรไอน้ำและรถพ่วงครบขบวนเดินบนรางด้วยแรงไอน้ำทำนองเดียวกับรถใหญ่ที่ใช้อยู่ในเกาะอังกฤษ ขบวนรถไฟจำลองนี้สมเด็จพระราชินีวิคตอเรียทรงมีพระราชประสงค์จะให้เป็นเครื่องดลพระราชหฤทัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ให้ทรงคิดสถาปนากิจการรถไฟขึ้นในราชอาณาจักรไทยเช่นเดียวกับในสหราชอาณาจักรอังกฤษบ้าง ปรากฏว่ารถไฟจำลองดังกล่าวยังผลให้เกิดความสนใจขึ้นในราชสำนักและปวงชนชาวไทยในสมัยนั้นอย่างยิ่ง |
ข้อมูลตามป้ายทางขวา wrote: | อิทธิพลรถไฟ แผ่ขยายถึงสยามประเทศ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งให้ " พระยามนตรีสุริยวงศ์ " เป็นราชทูตนำคณะรวม 27 คน เชิญพระราชสาสน์และเครื่องมงคลราชบรรณาการคือ ราชูปโภคและเครื่องสูงและตัวอย่างสินค้าต่าง ๆ ออกไปเจริญทางพระราชไมตรีสมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย โดยคณะราชทูตกราบถวายบังคมลาเดินทางจากกรุงเทพมหานครด้วยพาหนะเรือรบกลไฟชื่อ " เยอระเปียน " ที่รัฐบาลอังกฤษจัดมารับเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2400
ระหว่างที่คณะราชทูตพิเศษของไทยอยู่ในประเทศอังกฤษนั้นได้มีโอกาสเดินทางโดยรถไฟไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ หลายแห่งซึ่งทำให้เกิดความประทับใจเป็นอันมาก
ในการเดินทาง รถไฟต้องผ่านภูเขา อุโมงค์ สะพานหลายสิบแห่งคณะราชทูตได้เห็นกิจการเดินรถระบบทางคู่ การใช้เครื่องโทรเลขสื่อสาร การโดยสาร การสินค้าอย่างทั่วถึงก่อนที่จะเดินทางกลับสยามประเทศ |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 25/07/2009 6:19 am Post subject: |
|
|
ข้อมูลตามป้าย wrote: | อิทธิพลรถไฟ แผ่ขยายถึงสยามประเทศ
ความประทับใจที่คณะราชทูตไทยได้รับจากเมืองอังกฤษอาจจะเพียงพอโน้มน้าวจิตใจให้คนไทยเห็นดีเห็นงามให้มีการเดินรถไฟขึ้นในสยามประเทศบ้าง หากไม่เป็นเพราะในไม่ช้าภายหลังที่คณะราชทูตเดินทางกลับถึงเมืองไทย รัฐบาลสยามก็ได้รับหนังสือจาก " มิสเตอร์ไวซ์ " แห่งบริษัทลอยด์ ในกรุงลอนดอนฉบับหนึ่ง
หนังสือจากอังกฤษฉบับนั้นมีความสำคัญเพื่อขอสัมปทานสร้างทางรถไฟสายแรกขึ้นในประเทศสยามโดยตัดจากชายฝั่งทะเลอันดามันด้านมหาสมุทรอินเดียข้ามคอคอดกระไปจรดชายฝั่งทะเลอ่าวไทยทางด้านตะวันออก โดยจะขอแผ่นดินสองข้างทางรถไฟข้างละประมาณ 5 ไมล์ โดยบริษัทจะมีอำนาจสิทธิขาดเหนือแผ่นดินนั้นตลอดทั้งสินแร่ทรัพยากรในที่ดินดังกล่าวจะต้องตกเป็นของบริษัทด้วย นอกจากนั้นถ้าหากรัฐบาลสยามต้องการจะสร้างทางรถไฟสายใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ บริษัทก็ยินดีจะจัดหาวิศวกรและรางเหล็กให้แก่รัฐบาลสยาม |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
|