View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42739
Location: NECTEC
Posted: 07/02/2014 8:59 pm Post subject:
ทางรถไฟสายใหม่ (ทางคู่) ช่วงอำเภอดอนสัก-จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เชื่อมต่อกับทางรถไฟสายใต้) หรือ ผมรู้หรอกนา ได้ยกระดับสถานีเขาพลูเป็นชุมทางเขาพลูแน่ๆ เพราะ หมายใจจะใช้ทางหลวง 44 (กาญจนดิษฐ์ - กระบี่) เป็นหลัก - ส่วน ทางที่จะไปกระบีนั้นต้องรอให้ทางไปท่านุ่นเสร็จเป็นรูปเป็นร่างเสีก่อน ค่อยเชื่อมก้ได้
Back to top
srinopkun
1st Class Pass (Air) Joined: 08/04/2010 Posts: 2877
Location: นครปฐม
Posted: 08/02/2014 8:55 am Post subject:
นึกภาพความสุขในการเดินทาง นั่งๆ กินๆ ไปบนขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางนั่งปรับอากาศ กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี-ภูเก็ต
ออกกรุงเทพฯไปสุราษฎร์ฯก่อน แล้ววิ่งกลับมาเข้าบ้านทุ่งโพธิ์เลี้ยวไปคีรีรัฐนิคม-พังงา-ภูเก็ต
หรืออาจจะจัดขบวน สุราษฎร์ฯ - ภูเก็ต โดยให้เวลาสัมพันธ์กับรถด่วนพิเศษ / ด่วน / เร็ว ที่มาจากกรุงเทพฯ - สุราษฎร์ ก็ยังดี
แฮ่ ๆ ...... เมื่อไหร่ ๆ ๆ ๆ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42739
Location: NECTEC
Posted: 24/02/2014 9:05 pm Post subject:
เพิ่มรถไฟทางคู่ลงใต้+รองรับท่องเที่ยว
ข่าวเศรษฐกิจ - เดลินิวส์
วันจันทร์ 24 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 16:30 น.
คมนาคม เดินหน้า 2 เส้นทางรถไฟทางคู่ สุราษฎร์-ภูเก็ต, หาดใหญ่-ประดังเบซาร์ รับการท่องเที่ยวอันดามัน อ่าวไทย พร้อมเชื่อมมาเล สิงคโปร์ รับการค้าเปิดเออีซี
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กำลังศึกษาโครงการสร้างรถไฟทางคู่ลงสู่ภาคใต้ 2 เส้นทาง เพื่อรองรับการเติบโตการท่องเที่ยว การค้า และการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยเส้นทางแรก เป็นเส้นทางสุราษฎร์ธานี-ภูเก็ต เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวทางชายทะเลฝั่งอ่าวไทย และอันดามันเพิ่ม เบื้องต้นได้ศึกษามาแล้วประมาณ 4 เดือน และหลังจากนี้จะใช้งบประมาณปี 58 มาศึกษาออกแบบและดำเนินการโครงการก่อสร้างเพิ่มเติม
ที่ศึกษาไว้ตอนนี้อาจวิ่งไปถึงสะพานสารสิน จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นรถรางไฟฟ้าเข้าไปยังภูเก็ต โดยเส้นทางที่ผ่านเข้าตัวเมืองจะเป็นโครงสร้างใต้ดินเพื่อไม่ให้บดบังทัศนียภาพ เบื้องต้นประชาชนในพื้นที่ให้ความเห็นชอบ เพราะมองเห็นประโยชน์ที่จะได้รับแล้ว ส่วนรายละเอียดที่ชัดเจนคงต้องรอผลการศึกษาที่ชัดเจนก่อน
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42739
Location: NECTEC
Posted: 25/04/2014 1:13 pm Post subject:
สนข. ดันรถไฟสุราษฎร์-พังงา-ภูเก็ต
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ-คมนาคม
ออนไลน์เมื่อ วันอังคารที่ 22 เมษายน 2557 เวลา 13:11 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,942 วันที่ 24 - 26 เมษายน พ.ศ. 2557
สนข.เร่งโครงการออกแบบรถไฟเส้นทางสุราษฎร์ธานี-พังงา-ภูเก็ต เชื่อมโยงแลนด์บริดจ์ฝั่งทะเลอันดามัน-อ่าวไทย ผสมผสานทั้งรถไฟฟ้าและระบบแทรม มีทั้งทางราบ-ทางยกระดับและอุโมงค์ ด้านผู้ว่าฯภูเก็ตหนุนเต็มที่ จี้ที่ปรึกษาเร่งทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งสรุปผลศึกษาโครงการศึกษาและออกแบบทางรถไฟสายใหม่เพื่อการท่องเที่ยว เส้นทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี-พังงา-ภูเก็ต ให้สามารถพัฒนาการเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย และอันดามัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้อยู่ระหว่างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาส่งร่างรายงานฉบับกลาง ส่วนแนวเส้นทางแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ
ช่วงแรกดอนสัก-สุราษฎร์ธานี (ที่เขาพลู)
ช่วงที่ 2 คีรีรัฐนิคม-ท่านุ่น
ช่วงที่ 3 การขนส่งในพื้นที่เมืองภูเก็ต
โดยกำหนดความเร็วไว้ที่ประมาณ 100-120 กม./ชม.จึงต้องปรับแนวเส้นทางให้ได้แนวตรงมากขึ้น และต้องมีการเวนคืนบ้างในบางจุด
"เช่นเดียวกับการขนส่งมวลชนในพื้นที่ภูเก็ตก็ได้รูปแบบชัดเจนแล้ว ว่าจะใช้ระบบรถไฟฟ้ารางเบา(LRT) และ Tramway รถรางบนพื้นที่ระดับเดียวกับถนนนั่นเอง อาจมีการยกระดับในช่วงเกาะกลางเป็นช่วงๆ หรือระดับถนนและการขุดอุโมงค์ โดยรถไฟให้สิ้นสุดที่ท่านุ่นแล้วนำระบบแทรมเข้าไปเชื่อมโยงสู่สนามบินภูเก็ต มีปลายทางในเขตเมืองอยู่ที่ช่วง 5 แยกฉลองซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองภูเก็ต กลุ่มที่ปรึกษาต้องไปจัดระบบเชื่อมโยงเส้นทางให้ดี โซนในเมืองภูเก็ตจะใช้ระบบแทรมเพื่อลดปริมาณการจราจรในพื้นที่โดยอาจมีการจัดเส้นทางวิ่งหลากหลาย"
สำหรับพื้นที่เลือกสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง(เดโป)ในเบื้องต้นกำหนดไว้ประมาณ 5-6 จุด ขนาดพื้นที่ประมาณ 25-30 ไร่ การคาดการณ์ผู้โดยสารปี 2563 ช่วงท่านุ่น-ท่าอากาศยานภูเก็ต ประมาณ 5 พันคน/วัน ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต-อนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี ท้าวศรีสุนทร ประมาณ 1.8 หมื่นคน/วัน ช่วงอนุสารีย์ท้าวเทพกษัตรีย์ ท้าวศรีสุนทร - ถนนถลาง ประมาณ 1.1 หมื่นคน/วัน ช่วงถนนถลาง-ดาวรุ่ง ประมาณ 7 พันคน/วัน และช่วงดาวรุ่ง-ห้าแยกฉลอง ประมาณ 6 พันคน/วัน
ด้านนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าเมื่อที่ปรึกษาได้ลงพื้นที่ชี้แจงรายละเอียดพบว่าประชาชนให้การตอบรับมากขึ้นซึ่งต้องมีผลการศึกษาให้ชัดเจนว่าจะเน้นการขนคนในแนวเส้นทางหรือนักท่องเที่ยวเป็นหลัก
ขณะเดียวกันต้องตอบโจทย์ให้ชัดเจนว่าวัตถุประสงค์เพื่ออะไร และจะใช้รูปแบบไหนจึงจะเหมาะสมมากที่สุด ไม่จำเป็นต้องใช้เพียงรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเท่านั้น อาจผสมผสานกันได้ โดยรูปแบบการก่อสร้างคงมีทั้งระดับดิน อุโมงค์ รางเดี่ยวหรือรางคู่ แต่ต้องเชื่อมโยงให้ครอบคลุมทั้งท่าเรือ สนามบินและพื้นที่ย่านชุมชนเมือง ประการสำคัญต้องเร่งทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่ภูเก็ตถึงความสำคัญและความจำเป็นของการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนดังกล่าวอย่างทั่วถึงจริงๆ
"คาดว่าจะสามารถสรุปผลการศึกษาให้ชัดเจนในเร็วๆนี้ แม้ไม่ใช่เส้นทางโลจิสติกส์แต่จะเน้นให้บริการนักท่องเที่ยวได้มากกว่า ดังนั้นจึงต้องสามารถตอบโจทย์ให้ได้มากที่สุด เพราะในพื้นที่ภูเก็ตมีโจทย์ให้ต้องคำนึงถึงการออกแบบที่หลากหลาย มีทั้งแหล่งวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งประวัติศาสตร์ ชุมชนเมืองขนาดใหญ่ ต้องให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด"
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42739
Location: NECTEC
Posted: 28/04/2014 5:17 pm Post subject:
นี่ครับ ที่ปรึกษาโครงการ ได้ตอบคำถามแก่ผู้ถามชาวไชยาดั่งนี้
marut wrote: ผมส่งเมล์ไปสอบถามทางทีมที่ปรึกษาโครงการนี้มา ได้คำตอบมาว่า...
1. เส้นทาง สุราษฎร์ ภูเก็ต ออกแบบเป็นทางคู่ครับ
2. ระบบเดินรถ อาจจะมีได้ทั้ง 2 ระบบคือ
-รถทางไกล ใช้เป็นระบบรถจักร ดีเซล
- รถท้องถิ่ิ่น ใช้เป็นระบบ ไฟฟ้า หรือ ดีเซล ขึ้นอยู่กับความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ
3. เส้นทางใหม่จะสร้างตั้งแต่ สถานี ชุมทางทุ่งโพธิ์ - ท่านุ่น ครับเป็นทางใหม่หมดตลอดเส้น
4. การศึกษาและออกแบบครั้งนี้ สนข.ดำเนินการ แต่การก่อสร้าง ยังเป็นของการรถไฟครับ
5. การออกแบบครั้งนี้ มี Chord Line ที่ มะลวน ครับ
6. มีสถานีใหม่ที่ข้างๆ Co-op แน่นอนครับ
7. มีการศึกษาเส้นทาง จากสถานีข้างๆ Co-op เพื่อเข้าสนามบินสุราษฎร์ที่หัวเตย ด้วยครับ
8. การต่อรถไฟทางไกล ข้ามเข้าไปถึงตัวเมืองภูเก็ตต้องใช้พื้นที่มาก มีผลกระทบต้องเวนคืนพื้นที่เพิ่มเพื่อสร้างสถานี ซึ่งยากต่อการทำความเข้าใจต่อชุมชนในพื้นที่ ที่ต้องถูกเวนคืนครับ
การต่อเชื่อมจากท่านุ่น ข้าม มาภูเก็ต จะไม่ต้องเสียพื้นที่ในการก่อสร้างสถานีมากเหมือนกับ ให้รถไฟทางไกลข้ามเข้ามาในภูเก็ตครับ
ออกจะเสียดายที่ แม้จะมีที่รถไฟที่ภูเก็ตแต่ไม่ได้นำมาใช้งานเพื่อการนี้ออกจะเป็นเรื่องน่าเสียดายแท้
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42739
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42739
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44611
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 30/06/2014 9:38 pm Post subject:
สุราษฎร์ฯ ดันเต็มสูบรถไฟสายใหม่ สุราษฎร์ฯ-พังงา เชื่อม 2 ฝั่งอ่าวไทย-อันดามัน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 มิถุนายน 2557 17:27 น.
สุราษฎร์ธานี - จังหวัดสุราษฎร์ฯ เร่งผลักดันโครงการทางรถไฟสายใหม่เพื่อการท่องเที่ยว เส้นทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี-พังงา เพื่อเชื่อมโยงฝั่งทะเลด้านอ่าวไทยกับฝั่งทะเลอันดามัน คาดตามแผนเปิดบริการได้ภายในปี 2565
นายอวยชัย อินทร์นาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะโครงการศึกษาและออกแบบทางรถไฟสายใหม่เพื่อการท่องเที่ยว เส้นทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี-พังงา-ภูเก็ต เพื่อเชื่อมโยงฝั่งทะเลด้านอ่าวไทยกับฝั่งทะเลอันดามัน โดยจะเชื่อมโยงระบบทางรถไฟเข้ากับโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนของจังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งเสริมศักยภาพด้านการท่องเที่ยว และอำนวยความสะดวกในการเดินทางเชื่อมโยง 2 ฝั่งทะเลคือ อ่าวไทย และอันดามัน ให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
นายอวยชัย กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษาออกแบบ และวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินก่อสร้างได้ภายในอนาคตอันใกล้นี้ และจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการประมาณในปี 2564-2565 นี้ โดยแนวเส้นทางก่อสร้างจะเริ่มจากสถานีคีรีรัฐนิคม ตัดผ่านทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 ที่ตำบลพังกาญจน์ อ.พนม ผ่านพื้นที่ราบ และราบเชิงเขา ไปบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4118ที่ กม.690+500 จากนั้นแนวเส้นทางจะขนานไปกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4118 สลับซ้าย-ขวา ก่อนไปบรรจบ และขนานกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 415 ที่ตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา จนถึง กม.743+500 เข้าสู่เขตเทศบาลเมืองพังงา หลังจากนั้นแนวเส้นทางจะปรับทิศทางไปตะวันตกเฉียงใต้ ขนานไปกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 และสิ้นสุดโครงการที่ กม.793 ที่บ้านท่านุ่น ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา รวมระยะทางโดยประมาณ 131 กิโลเมตร
ทั้งนี้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จคาดว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย และส่งเสริมให้เกิดการขนส่งด้วยรูปแบบต้นทุนต่ำ ซึ่งจะส่งผลต่อการลดต้นทุนลอจิสติกส์ในการขนส่งสินค้าของประเทศโดยรวม นอกจากนี้ ยังช่วยบรรเทาปัญหาการคมนาคมขนส่งที่คับคั่งของจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ ก่อให้เกิดผลดีในด้านเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่โครงการ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42739
Location: NECTEC
Posted: 29/09/2014 2:23 am Post subject:
รมต.คมนาคมลงพื้นที่ภูเก็ตพร้อมจัดงบเดินหน้าโครงการแก้ปัญหาจราจร
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 กันยายน 2557 18:34 น.
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคมลงพื้นที่ภูเก็ตรับทราบปัญหาและติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างแก้ปัญหาการจราจรภูเก็ตในระยะยาว พร้อมจัดสรรงบประมาณลงพื้นที่เดินหน้าต่อโครงการที่ศึกษาออกแบบแล้วเสร็จและผลกระทบสิ่งแวดล้อมผ่านการเห็นชอบของ สผ.แล้ว เพื่อแก้ปัญหาจราจรทั้งระบบตั้งแต่ตอนเหนือถึงตอนใต้ของเกาะ ด้านโครงการใหญ่ อุโมงค์ป่าตอง รถไฟฟ้ารางเบา อยากให้คนท้องถิ่นได้ร่วมลงทุนในลักษณะกองทุน ฝากผู้บริหารทุกระดับกำหนดเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวในอีก 10 ปีข้างหน้า เพื่อเตรียมวางแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (28 ก.ย.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นางสร้อยฟ้า ไตรสุทธิ ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจราชการและรับทราบความคืบหน้าโครงการพัฒนาระบบการคมนาคมในภูเก็ต ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ โดยมีนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลาง ภูมิภาคและท้องถิ่น ร่วมบรรยายสรุปโครงการก่อสร้างคมนาคมทางถนน ทางบก และทางอากาศในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ณ.ห้องประชุมสโมสรวิทยุการบินภูเก็ต
นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับการก่อสร้างระบบคมนาคมทางบกในภูเก็ตเพื่อแก้ปัญหาการจราจร ว่า ภูเก็ตมีถนนที่เป็นถนนหลักเพียงเส้นเดียวคือทางหลวงหมายเลข 402 หรือถนนเทพกระษัตรี ซึ่งปัจจุบันภูเก็ตมีปัญหาจราจรติดขัดในเขตตัวเมืองภูเก็ตและจุดที่เชื่อมไปยังแหล่งท่องเที่ยว ทางกระทรวงคมนาคมจึงได้จัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างทางลอดในหลายจุดเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยขณะนี้ได้ก่อสร้างในส่วนของทางลอดดาราสมุทรที่จะแล้วเสร็จในเร็วๆนี้ และทางลอดสามกองกำลังก่อสร้างอยู่เช่นกัน นอกจากนี้ที่ได้ทำการศึกษาแล้วเสร็จและอยู่ในขั้นตอนของการของบประมาณมาดำเนินการคือทางลอดที่บริเวณสามแยกบางคู และทางลอดที่บริเวณห้าแยกฉลองที่ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาออกแบบรายละเอียดและผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งทางลอดทั้งสองจุดนี้จะของบประมาณในปี 2559 มาดำเนินการก่อสร้างต่อไป หากทางลอดทั้ง 4 จุดก่อสร้างแล้วเสร็จการระบายรถจะสะดวกขึ้นแก้ปัญหาการจราจรติดขัดได้ในระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ทางจังหวัดภูเก็ตยังได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกรมทางหลวงชนบทก่อสร้างทางยกระดับที่คลองเกาะผี เพื่อระบายการจราจรทางตอนใต้ของตัวเมืองภูเก็ต ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างและเป็นไปตามกำหนด รวมทั้งทางกรมทางหลวงได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างถนนคู่ขนานกับถนนเทพกระษัตรี จากบ้านสาคู-เกาะแก้ว ระยะทาง 30 กว่ากิโลเมตร ถนนวัดหลวงปู่สุภา-ฉลอง ระยะ ทาง 13 กม.เพื่อเชื่อมการเดินทางฝั่งฉลองไปป่าตอง การออกแบบแล้วเสร็จอยู่ในขั้นตอนการขอความเห็นชอบจากสำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) เนื่องจากถนนสายดังกล่าวต้องตัดผ่านป่าโซนซี
รวมทั้งยังมีโครงการอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง ที่อยู่ในความรับผิดชอบของการทางพิเศษและโครงการรถไฟฟ้ารางเบาจากท่านุ่น-สนามบิน-ห้าแยกฉลอง ที่อยู่ในความรับผิดชอบ สนข.เป็นต้น
ด้านนายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ) กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ กทพ.เข้ามาดูแลโครงการอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งทาง กทพ.ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการทั้งหมด รวมทั้งการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งการศึกษาทั้งหมดได้แล้วเสร็จและนำ EIA เสนอต่อ สผ.ในเดือนตุลาคม 2557 นี้ และตามกำหนดการนั้นที่วางไว้อุโมงค์ดังกล่าวจะสามารถเปิดใช้ได้ในปี 2563
โดยจะเป็นอุโมงค์มีความยาว 3.98 กิโลเมตร เริ่มต้นที่ถนนสาย ก.ป่าตอง และไม่สิ้นสุดจบที่ถนน 4029 ความยาวอุโมงค์ 1.83 กิโลเมตร 4 ช่องจราจร แบ่งเป็นช่องสำหรับรถยนต์ 2 ช่อง รถจักรยานยนต์ 2 ช่อง จากผลการศึกษาใช้งบประมาณลงทุนประมาณ 10,496 ล้านบาท และจากการศึกษาจะเป็นในลักษณะของการร่วมลงทุนระหว่าง กทพ.กับเอกชน
ขณะที่นายพีรพล ถาวรศุภเจริญ ผอ.สนข.ได้ชี้แจงความคืบหน้าโครงการรถไฟเส้นทางศีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี - ท่านุ่น จ.พังงา และโครงการรถไฟฟ้ารางเบาในภูเก็ต ว่า ทาง สนข.ได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้และรายละเอียดของโครงการรถไฟในเส้นทางดังกล่าวเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยว โดยในส่วนของรถไฟจากศีรีรัฐนิคม-ท่านุ่นนั้น จะเป็นระบบรถไฟปกติของไทย และทางในเส้นทางที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เวนคืนที่ดินไว้แล้วมาบรรจบที่ท่านุ่น ซึ่งจะมีสถานีสำหรับผู้โดยสารและสินค้า และเมื่อเป็นการเชื่อมต่อการขนส่งผู้โดยสารจากท่านุ่นมายังภูเก็ต ทาง สนข.ได้ทำการศึกษาแล้วพบว่าระบบขนส่งด้วยรถไฟฟ้ารางเบามีความเหมาะสมกับภูเก็ตมากที่สุด โดยจะเป็นเส้นทางจากท่านุ่น-สนามบินภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร มีทั้งหมด 20 สถานี ใช้เวลาเดือนทางประมาณ 1 ชั่วโมง ใช้เงินลงทุนประมาณ 23,500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ทางกรมเจ้าท่าได้นำเสนอโครงการลงเรือขึ้นเครื่อง ซึ่งเป็นโครงการที่ทางกรมเจ้าท่าเห็นว่าจะสามารถแก้ปัญหาการจราจรของภูเก็ตและเป็นการสร้างทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยว โดยจะมีการก่อสร้างท่าเรือรูปตัวแอลที่บริเวณใกล้กับวิทยุการบิน ขนาดไม่เกิน 100 ตันกรอส ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งโครงการพัฒนาท่าเรือและการติดตั้งระบบ GPS เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทางเรือที่ได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว และได้รับการจัดสรรงบประมาณกลุ่มจังหวัดอันดามันอีก 40 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2558 เพื่อขยายโครงการให้ครอบคลุมทั้งอันดามัน
นอกจากนี้ทางการท่าภูเก็ตได้นำเสนอการพัฒนาสนามบินภูเก็ตเพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งประสิทธิภาพของศูนย์ควบคุมการบินภูเก็ตอีกด้วย
หลังจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่ท่านุ่น จุดที่จะก่อสร้างสถานีผู้โดยสารและสินค้าของรถไฟเส้นทางคีรีรัฐนิคม สำรวจเส้นทางคมนาคมทางถนนของภูเก็ต จุดก่อสร้างทางลอดสามแยกบางคู สามกอง ดาราสมุทร และห้าแยกฉลอง ซึ่งที่บริเวณห้าแยกฉลอง นายสำราญ จินดาพล นายกเทศมนตรีตำบลฉลอง นายอรุณ โสฬส นายกเทศบาลตำบลราไวย์ และชาวบ้านได้ให้การต้อนรับและขอให้ทางรัฐมนตรีฯสนับสนุนและจัดสรรงบประมาณมาก่อสร้างทางลอดห้าแยกฉลองด้วย เนื่องจากบริเวณห้าแยกฉลองการจราจรติดขัดมากในช่วงเวลาเร่งด่วน และขณะนี้การศึกษาออกแบบฯโครงการดังกล่าวก็ใกล้จะแล้วเสร็จ โดยขอให้จัดสรรงบประมาณในปี 2559 นี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นจุดผ่านไปทางหาดราไวย์ แหลมพรหมเทพ หาดกะตะ กะรน เป็นต้น
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการก่อสร้างโครงข่ายคมนาคมในภูเก็ตทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศนั้น หากเป็นโครงการที่ได้ทำการศึกษาออกแบบรายละเอียดและผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้วเสร็จ ให้เดินหน้าโครงการต่อไป โดยทางกระทรวงคมนาคมจะพิจารณาจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการต่อไป เพราะภูเก็ตมีความจำเป็นที่จะดำเนินการโครงสร้างพื้นฐานในเรื่องของการคมนาคมให้เพียงพอกับการรองรับการเติบโตของเมืองและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาภูเก็ต ซึ่งการลงมาพื้นที่วันนี้ทำให้ได้ทราบถึงปัญหาและอุปสรรคทางด้านคมนาคมของภูเก็ตจากผู้ว่าฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศว่าเป็นอย่างไร และมีส่วนไหนที่จะต้องเร่งรัดในการก่อสร้าง เพื่อให้การจราจรในภูเก็ตได้คลี่คลาย และให้ภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าจดจำตลอดไป โดยการรักษาสภาพแวดล้อมให้ยั่งยืน
ส่วนงบประมาณที่จะจัดสรรให้กับภูเก็ตในการดำเนินโครงการแก้ปัญหาการจราจรและเพิ่มขีดความสามารถด้านคมนาคมนั้น จะต้องมีการประชุมกันอีกครั้งถึงความเหมาะสมและความเร่งด่วนของแต่ละโครงการ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จังหวัดภูเก็ตจะต้องดำเนินการนั้น การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตของเมือง โดยจะต้องประมาณการว่าในอีก 10-15 ปีข้างหน้า คนภูเก็ตจะมีเท่าใด คนที่เข้ามาทำงาน และนักท่องเที่ยว จะเข้ามาปีละเท่าใด เพื่อจะได้วางแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานให้เพียงพอ โดยการทำงานร่วมกันของหลายกระทรวง
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวยังกล่าวถึงโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในภูเก็ตเพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดและลดอุบัติเหตุ เช่น โครงการอุโมงค์กะทู้ โครงการรถไฟฟ้ารางเบา ว่า จะต้องถามความคิดเห็นของคนในพื้นที่ด้วย ซึ่งทั้งสองโครงการน่าที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นได้ แม้ว่าต้องใช้งบประมาณการลงทุนที่สูงก็ตาม ซึ่งอาจจะออกมาให้รูปแบบของการร่วมลงทุนกับเอกชน และสิ่งสำคัญนั้นอยากจะให้ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบไปพิจารณาถึงการให้นักธุรกิจในพื้นที่ภูเก็ตได้เข้ามามีส่วนร่วมกับการลงทุนโครงการดังกล่าวด้วย เช่น อาจจะเป็นในรูปแบบของการจัดตั้งเป็นกองทุนแล้วจ่ายผลตอบแทนคืนในระยะเวลา 20 -30 ปี คนพื้นที่จะได้มีความรู้สึกว่าเป็นเจ้าของโครงการด้วย และการก่อสร้างโครงการนั้นไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดใหญ่หรือเล็กจะต้องให้คนในพื้นที่เห็นด้วยและไม่ส่งผลกระทบทั้งวิถีชีวิต สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม
//-----------------------------
รมว.คมนาคม ติดตามการแก้ไขปัญหาจราจร จ.ภูเก็ต
สำนักข่าวไทย
28 กันยายน 2557 16:18
กรุงเทพฯ 28 ก.ย.-รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาจราจร จ.ภูเก็ต พร้อมให้นโยบายเดินหน้าเส้นทางรถไฟสายใหม่ เพื่อการท่องเที่ยวพื้นที่ภาคใต้ วงเงินลงทุน 23,000 ล้านบาท
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อติดตามปัญหาการจราจร จ.ภูเก็ต และพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมติดตามความคืบหน้าแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า วันนี้ (28 ก.ย.) ได้ให้นโยบายการพัฒนาโครงการต่างๆ ในสังกัดกระทรวงคมนาคม เช่น โครงการพัฒนาทางรถไฟสายใหม่ โครงการทางด่วนพิเศษ และการก่อสร้างถนนที่อยู่ในการกำกับดูแลของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท แต่ละโครงการเน้นย้ำว่าต้องคำนึงถึงประโยชน์ของโครงการ การผลักดันให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งดูแลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แต่ละโครงการเป็นที่ยอมรับ
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขอให้ศึกษาถึงการเติบโตของจังหวัดอย่างยั่งยืน โดยให้มองไปในอนาคตว่าปริมาณผู้ใช้โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะขยายตัวในทิศทางใด เช่น จ.ภูเก็ต ปัจจุบันจะมีทั้งประชาชนในพื้นที่ แรงงานที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวภูเก็ตมากกว่าปีละ 10 ล้านคน ซึ่งต้องดูแลให้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพียงพอต่อการใช้งาน ขณะเดียวกันต้องประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านอื่นๆ เพื่อดูแลให้การเติบโตอยู่ในขีดความสามารถที่จังหวัดรับได้ หากเร่งให้ขยายตัวด้านการท่องเที่ยวและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับอย่างเดียว เมื่อถึงจุดหนึ่งมีคนเดินทางมามากเกินขีดความสามารถของ จ.ภูเก็ต จะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ไม่ว่าขยะ ปัญหาสิ่งแวดล้อม
ส่วนการพัฒนาโครงการสำคัญนั้น รมว.คมนาคม ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านท่านุ่น ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ซึ่งจะเป็นพื้นที่ก่อสร้างสถานีรถไฟสายสุราษฎร์ธานี-พังงา ซึ่งโครงการดังกล่าวอยู่ในแผนการพัฒนาขนส่งทางรางเส้นทางสุราษฎร์ธานี-พังงา-ภูเก็ต อยู่ระหว่างการศึกษาและออกแบบรถไฟสายท่องเที่ยวของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) โดยในอนาคตจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวทางทะเลในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมากกว่า 24 ล้านคน รวมทั้งเส้นทางดังกล่าวจะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อม 2 ฝั่งทะเลทั้งอ่าวไทยและอันดามัน นอกจากนี้ บ้านท่านุ่นยังมีการศึกษาโครงการสถานีรถไฟคีรีรัฐนิคม-ท่านุ่น รวมทั้งแนวทางรถไฟสายใหม่ทางคู่ช่วงดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี และยังมีการติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนารถรางในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
รมว.คมนาคม กล่าวว่า การพัฒนาเส้นทางรถไฟสายสุราษฎร์ธานี-พังงา-ภูเก็ต รวมถึงระบบรางภายในจังหวัดที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยว กระทรวงคมนาคมพร้อมเดินหน้าโครงการ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างปี 2559 และเสร็จปี 2562 ใช้งบประมาณลงทุน 23,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมกำลังศึกษารูปแบบการลงทุนว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนในส่วนการลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนแบบพีพีพี หรือใช้เงินจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนการตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการนั้น กระทรวงคมนาคมจะจัดสรรงบประมาณของรัฐเป็นงบประมาณเริ่มต้นการศึกษารายละเอียดโครงการ เพื่อผลักดันให้โครงการเกิดขึ้นโดยเร็ว
ส่วนการติดตามปัญหาจราจรทางอากาศของท่าออากาศยานภูเก็ต รวมทั้งปัญหางานด้านบริการการบิน รมว.คมนาคม รับปากติดตามปัญหา ก่อนเข้าประชุมเวิร์กช็อป เพื่อสรุปแนวทางการแก้ปัญหาวันที่ 4 ตุลาคมนี้.-
//-------------
คมนาคมจ่อเสนอ ครม.รถไฟท่องเที่ยวสาย สุราษฎร์ พังงา งบลงทุน 22,000 ล้านบาท
มติชน
วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 19:11:40 น.
เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2557 นี้ พลเอกประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม พร้อมด้วย นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมเจ้าท่า รองผู้ว่าการทางพิเศษ และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านท่านุ่น ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เพื่อดูพื้นที่การทางรถไฟแห่งประเทศไทย ในการนำเสนออนุมัติการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายสุราษฎร์ธานี ท่านุ่นจังหวัดพังงา ต่อ ครม. ในวันอังคารที่ 30 กันยายน 2557 จะถึงนี้ โดยรถไฟสายสุราษฎร์ธานี ท่านุ่น ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา จะเป็นรถไฟรางเดี่ยวเพื่อการท่องเที่ยว จากทะเลฝั่งอ่าวไทย เชื่อมต่อ ทะเลฝั่งอันดามัน ใช้งบประมาณ 22,000 ล้านบาท ซึ่งทาง กระทรวงคมนาคมได้มีการสำรวจเส้นทางของที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่มีการเวนคืนที่ดินตั้งแต่ปี พ.ศ.2488 จนปัจจุบันยังไม่มีการก่อสร้างเส้นทางสายดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีการดูพื้นที่และรับฟังข้อมูลการวางระบบรถไฟรางเบา สาย ท่านุ่น-ภูเก็ต โดยจะเชื่อมต่อระหว่างท่านุ่น-ภูเก็ต ซึ่งมีประมาณการณ์ว่าจะมีผู้ใช้บริการ 17,000 คนต่อวัน หรือลดการใช้รถยนต์จำนวน 8,000 คันต่อวัน
พลเอกประจิน กล่าวว่า ตนพร้อมจะนำเสนอ ครม. ที่จะประชุมในวันอังคารที่ 30 กันยายน 2557 เพื่อให้ ครม.อนุมัติในการก่อสร้างรถไฟสาย สุราษฎร์ธานี-ท่านุ่น ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง ซึ่งเป็นรถไฟสายท่องเที่ยว เป็นการเชื่อมการขนส่งระหว่าง อ่าวไทย และอันดามัน เพื่อเป็นเส้นทางสายการท่องเที่ยว และการขนส่งมวลชน นักท่องเที่ยว รวมไปถึงการขนส่งด้านอุตสาหกรรม เกษตรกรรม โดยใช้งบประมาณ 22,000 ล้านบาท และมีระยะเวลาในการก่อสร้างซึ่งสามารถให้บริการได้ใช้ปี พ.ศ.2562 ซึ่งคาดว่าจะมีการคืนทุนได้ประมาณ 20 ปี
นายเฉลิมศักดิ์ อบสุวรรณ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดพังงา กล่าวว่า ชาวพังงา และ ชาวอันดามัน ได้ประโยชน์พร้อมๆกับชาวฝั่งทะเลของอ่าวไทย และทางด้านกิจกรรมการท่องเที่ยวจะเกิดขึ้นต่อเนื่องทำให้นักท่องเที่ยวถ่ายเทระหว่าง 2 ฝั่งทะเล เพิ่มความเข็มแข็งทางด้านการท่องเที่ยวคือสามารถที่จะเที่ยวทะเลได้ทั้งปี โดยปรับเปลี่ยนระหว่าง 2 ฝั่งทะเลในช่วงมรสุมที่ต่างกัน ผมคิดว่า โครงการอย่างนี้น่าจะเกิดขึ้นได้ในรัฐบาลอย่างนี้แจะเป็นประโยนช์กับประเทศอย่างมาก
//-----------------
รมว.คมนาคมจ่อเสนอครม.สร้างรถไฟสายท่องเที่ยว
ข่าวเศรษฐกิจ
INN
วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ.2557 17:06น.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอ ครม. สร้างรถไฟเพื่อการท่องเที่ยว สายสุราษฎร์ธานี-ท่านุ่น งบประมาณลงทุน 22,000 ล้านบาท คาด คืนทุนภายใน 20 ปี
พล.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่บ้านท่านุ่น ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เพื่อนำเสนออนุมัติการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายสุราษฎร์ธานี-ท่านุ่น ต่อ ครม. ในวันอังคารที่ 30 กันยายน ที่จะถึงนี้
โดยรถไฟสายสุราษฎร์ธานี-ท่านุ่น ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา จะเป็นรถไฟรางเดี่ยวเพื่อการท่องเที่ยวจากทะเลฝั่งอ่าวไทย เชื่อมต่อ ทะเลฝั่งอันดามัน ใช้งบประมาณ 22,000 ล้านบาท ทางกระทรวงคมนาคมได้มีการสำรวจเส้นทางของที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่มีการเวนคืนที่ดินตั้งแต่ปี พ.ศ. 2488 จนปัจจุบันยังไม่มีการก่อสร้างเส้นทางสายดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมีการดูพื้นที่และรับฟังข้อมูลการวางระบบรถไฟรางเบา สายท่านุ่น-ภูเก็ต โดยจะเชื่อมต่อระหว่างท่านุ่น-ภูเก็ต มีประมาณการณ์ว่าจะมีผู้ใช้บริการ 17,000 คนต่อวัน หรือลดการใช้รถยนต์จำนวน 8,000 คันต่อวัน
โดยทาง พล.อ.ประจิน กล่าวว่า ตนเองพร้อมจะนำเสนอ ครม. ที่จะประชุมในวันอังคารนี้ โดยใช้งบประมาณ 22,000 ล้านบาท และมีระยะเวลาในการก่อสร้างซึ่งสามารถให้บริการได้ใช้ปี พ.ศ. 2562 คาดว่าจะมีการคืนทุนได้ประมาณ 20 ปี
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42739
Location: NECTEC
Posted: 06/01/2015 9:39 pm Post subject:
ข่าวโครงการทางรถไฟ จาก สุราษฎร์ธานี ไป ท่านุ่น และ เครือข่าย ตามโผบัญชีต่อไปนี้
1. สุราษฎร์ธานี ไป ท่านุ่น - 163 กิโลเมตร
1.1. ชุมทางบ้านทุ่งโพธิ์ กม. 631 + 000 - ที่ขนถ่ายคอนเทนเนอร์ - ยกระดับเป็นชุมทางแต่ 1 มกราคม 2498
1.2. สถานี สุราษฎร์ธานี 2 สถานีขนาดกลาง - น่าจะใช้ว่าหัวเตย เพราะ ชาวบ้านแถวนั้น เรียกสนามบิน สุรษฎร์ธานี ว่า สนามบินหัวเตย - แต่จะให้ดี ก็ควรจะเป็นสถานี บ้านดอนรักจึงจะเหมาะ เพราะการยกระดับ ที่หยุดรถบ้านดอนรัก (รก.) รหัส 4230 กม.634 + 350 - เปิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2501 แทน ที่หยุดรถหนองขลี ที่ กม. 636 + 700 ได้รับการยกระดับเป็น สถานี สุราษฎร์ธานี 2
1.3. ที่หยุดรถบ้านทุ่งหลวง (าว.) รหัส 4232 กม.640 + 750 - เปิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2501
1.4. ที่ หยุดรถ บ้านขนาย - บ้านขนาย (าย.) รหัส 4233 กม.644 + 550 - เคยเป็นสถานี เปิดแล้วตั้งแต่ 13 เมษายน 2499 ถูกยุบเป็นที่หยุดรถเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2520
1.5. ที่ หยุดรถ บ้านดอนเรียบ ที่หยุดรถบ้านดอนเรียบ (ดเ.) รหัส 4234 กม.649 + 350 - เปิดแล้ว แต่ 13 เมษายน 2499
1.6. ที่ หยุดรถ คลองยัน - กม.652 + 600 เคยเป็นสถานี เปิดแล้ว แต่ 13 เมษายน 2499 ถูกยุบเป็นที่หยุดรถเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2520
1.7. ที่ หยุดรถเขาหลุง - กม.655 + 580
1.8. ที่ หยุดรถบ้านยาง - กม.658 + 000 เปิดแล้ว แต่ 13 เมษายน 2499
1.9. สถานี คีรีรัฐนิคม กม. 662 + 000 - เปิดแล้ว แต่ 13 เมษายน 2499
1.10. ที่หยุดรถปากถ้ำเรียน กม. 669 + 750 (สถานีบ้านทำเรียง ก.ม.๖๕๙+๒๕๐)
1.11. สถานี บ้านดาขุน - จุดลงรถไฟเขือนรัชชประภา กม. 675 + 200
1.12. ที่ หยุดรถ พระแสง กม. 680 + 500 (สถานีคลองแสง ก.ม.๖๘๐+๕๐๐)
1.13. สถานีพนม - สถานีเล็ก- กม. 693 + 100 (สถานีคลองพนม ก.ม. ๖๙๓+๑๐๐
1.14. ที่ หยุดรถ บ้านลูกเดือน
1.15. ที่ หยุดรถบางสาน กม. 696 + 100 (สถานีบางสาน ก.ม. ๖๙๖+๐๐๐ )
1.16. ที่ หยุดรถ คลองชะอุ่น
1.17. สถานีบ้านเบญจา - สถานีเล็ก กม. 675 + 200 (สถานีบ้านเบ็ญจา ๖๙๙+๔๗๕ )
1.18. ที่ หยุดรถ บางโหว่- ที่หยุดรถสุดท้าย ของสุราษฎร์ธานี กม. 715 + 872.25 (สถานีบางแดน ก.ม.๗๑๕+๘๗๒.๒๕ )
1.19. สถานีบางเหลียง - สถานีเล็ก- กม. 721 + 600 (สถานีบางเหรียง ก.ม.๗๒๑+๖๐๐)
1.20. ชุมทางทัปปุด - สถานีใหญ่ กม. 730 + 600 มีย่านคอนเทนเนอร์ด้วย
1.21. ที่ หยุดรถบ้านทัปปุด
1.22. สถานีบ่อแสน - สถานีเล็ก- กม. 737 + 4000
1.23. ที่ หยุดรถ บางเตย - น่าจะใช้ชื่อว่า ที่ หยุดรถเขาทอย ให้ตรงกะอุโมงค์เขาทอยทางคู่ ยาว 500 เมตร (สถานีเขาเฒ่า ก.ม. ๗๔๓+๐๐๐ )
1.24. สถานีพังงา - สถานีขนาดกลาง - ประจำจังหวัด ก.ม. 752 + 500
1.25. ที่ หยุดรถ สุวรรณคูหา กม. 759+900 (ที่หยุดรถบ้านถ้ำ ก.ม.๗๕๙+๙๐๐) - ตรงนี้ก็ว่ามีอุโมงค์เหมือนกัน
1.26. สถานีตะกั่วทุ่ง - สถานีเล็ก- กม. 763 + 350
1.27. ที่ หยุดรถ กะไหล -กม. 771 + 850 ( สถานีกระไหล ก.ม.๗๗๑+๘๕๐)
1.28. สถานีท่าอยู่ - สถานีเล็ก- กม. 779 + 000
1.29. ที่ หยุดรถ โคกกลอย - กม. 788 + 150(ที่หยุดรถนาหยง ก.ม. ๗๘๘+๑๕๐ )
1.30. สถานีปลายทาง ท่านุ่น - สถานีใหญ่ - กม. 791 + 000
ปลายรางบ้านท่าฉัตรไชย กม. 796+091.670
ค่าก่อสร้าง 36,128.25 ล้านบาท รวมถึงค่ารถจักรรถพ่วง 10,728.35 ล้านบาท
2. เขาพลู - ดอนสัก - 77 กิโลเมตร
2.1. ชุมทาง เขาพลู- กม. 0+000
2.2. สถานีวัดประดู่ กม. 21+500
2.3. สถานีขุนทะเล กม.27+300
2.4. ที่หยุดรถบ้านทุ่งหัวหมากล่าง กม. 30+800
2.5. ที่หยุดรถบ้านวังหวาย กม. 37+100
2.6. สถานีทุ่งกง กม. 41+000
2.7. ที่หยุดรถบ้านบ่อน้ำร้อน - กม. 44+500
2.8. สถานีกาญจนดิตถ์ - กม. 48+500
2.9. ที่หยุดรถวังทองสามัคคี - กม. 56+800
2.10. สถานีไชยคราม กม. 64+000
2.11. ที่หยุดรถวัดสิงขร - กม. 70+000
2.12. สถานีดอนสัก - กม. 76+700
3. ทับปุด - กระบี่ - 68 กิโลเมตร
3.1. สถานีชุมทางทับปุด - สถานีใหญ่ มีโรงเก็บรถจักรและโรงซ่อมรถจักร กม. 0+ 000
3.2. ที่หยุดรถนาเหนือ กม. 6+800
3.3. ที่หยุดรถเขาใหญ่ กม. 14+000
3.4. สถานีอ่าวลึก กม. 21+700
3.5. ที่หยุดรถบ้านกลาง กม. 29+600
3.6. สถานีคลองหิน- กม. 35+200
3.7. ที่หยุดรถเขาคราม กม.43+000
3.8. ที่หยุดรถทับพริก กม. 55+000
3.9. สถานีกระบี่ กม.62+000
3.10. สถานีสนามบินกระบี่ กม. 67+500
กะว่าใช้เวลาให้ ครม. อนุมัติ 1 ปี เวนคืนที่ในส่วนที่ยังไม่เวนคืน 2 ปี ก่อสร้าง 3 ปี หมายใจว่าจะเสร็จปลายปี 2564
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=961&start=260
http://suratphuket-railtransit.com/Dowload/Sum_M1.pdf
http://suratphuket-railtransit.com/Dowload/SUM_M2.pdf
http://suratphuket-railtransit.com/Dowload/Board_M3_Surat.pdf
https://www.youtube.com/watch?v=alLiaJ5KqoM Last edited by Wisarut on 13/02/2015 12:16 pm; edited 3 times in total
Back to top