View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 20/08/2009 11:11 am Post subject: |
|
|
พระอาทิตย์ยามเช้าอีกสักรูป เผื่อจะทำให้เกิดนึกอยากไปเที่ยวทะเลขึ้นมาอีก . . .
น้ำทะเลในเช้าวันนั้นก็ถือว่าใสครับ แต่ถ้าจะให้ไปเทียบกับน้ำทะเลแถว ๆ สัตหีบ หรือว่าทะเลกระบี่ที่พี่ตุ้ยกำลังนำเสนออยู่ในขณะนี้คงจะเป็นหนังคนละม้วนกันเลยล่ะครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 20/08/2009 11:35 am Post subject: |
|
|
ปิดท้าย Along The Road บันทึกชีวิตนอกราง ตอน เที่ยววัดเพชรบุรี ชมทะเลชะอำ - หัวหิน ด้วยรูปของโปสการ์ดรูปรถไฟที่ซื้อมาจากตลาดโต้รุ่งที่หัวหินเมื่อคืนนี้ครับ
วันนี้ขอไปเตรียมรับมือกับปัญหาเกี่ยวกับ Photobucket ก่อนครับ เดี๋ยวยังไงถ้าแม่พันธุ์ยังไม่ตกลูก พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ วันเดียวจบกันต่ออีกทริปหนึ่งครับ
pattharachai wrote: | ขอนั่งรถไฟใต้ดินไปเพชรบุรีด้วยคนนะครับพี่เต้ย |
ลง MRT ที่เพชรบุรี แล้วจะไปชะอำ - หัวหินยังไงครับน้องบอย MRT + BTS ไม่ผ่าน ใช้บริการโคปเตอร์หรือเปล่า กด F5 เรียกโคปเตอร์รัว ๆ เดี๋ยวก็คงบินผ่านมาเอง เหอะ เหอะ . . .
อย่าใช้สีแดงเลยนะ มันทำให้นึกไปถึง . . . น่ะ พี่ขอร้อง ( เพลงอะไรดี ? )
tuie wrote: | ตอนไปพักแถวริมหาดชะอำ-ห้วยทรายเหนือ ทีไร พี่ก็คอยเงี่ยหูฟังเสียงรถไฟสายใต้ทุกทีเช่นกันครับคุณเต้ย เสียดายไม่ได้ไปพร้อมกับชาว RFT ไม่อย่างนั้นคงได้ชวนกันไปนั่งกินลมชมรถไฟยามราตรีแถวๆห้วยทรายเหนือ-ห้วยทรายใต้เป็นแน่
เดี๋ยวนี้ชายหาดชะอำ/หัวหิน มีคอนโดฯ อาคารโรงแรมสูงๆขึ้นเพียบเลย ทำให้นึกถึงสมัยเป็นเด็ก ทางบ้านพาไปเที่ยวชายทะเลแถบนี้บ่อยๆ ยังสงบเงียบเป็นธรรมชาติมากเลยครับ |
ช่วงปีหลัง ๆ นี่ที่บ้านผมไปเที่ยวทะเลหัวหินบ่อย ๆ ครับพี่ตุ้ย มาปีนี้ที่กลับมาพักที่คอนโดแห่งนี้ รู้สึกว่าได้อยู่ใกล้ชิดกับรถไฟมากกว่าทุกปี ปีที่แล้วเขาไปพักที่ไหนกันนะผมจำไม่ได้เพราะมัวแต่หลงแสงสีแดนอีสานอยู่ ก็เลยไม่ได้ไปเที่ยวทะเลกับที่บ้านครับ _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 20/08/2009 11:44 am Post subject: |
|
|
^^^
พักนี้ไม่สู้จะสบาย เห็นท่าจะต้องไปทะเลเหมือนกันหละครับ |
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 21/08/2009 4:29 am Post subject: |
|
|
Along The Road บันทึกชีวิตนอกราง : ตอนที่ 2 ไหว้พระ + เที่ยวตลาด @ อยุธยา
การเดินทางไปพักผ่อนท่องเที่ยวแบบนอกไร้ล้อเหล็กในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมาครับ เนื่องจากเป็นการไปเที่ยวแบบสาย ๆ ไปเย็น ๆ กลับก็เลยไปไหนไกลจากกรุงเทพไม่ได้ มองหาที่เที่ยวอยู่นานในที่สุดก็ลงเอย ณ เมืองเก่าของเราแต่ก่อน . . . จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั่นเอง
โดยที่จุดหมายแห่งแรกในวันนั้นก็คือ วัดใหญ่ชัยมงคล ครับ
มาอ่านประวัติโดยย่อของวัดเก่าแก่แห่งนี้จากป้ายที่อยู่ในบริเวณวัดกันก่อนครับ
ข้อมูลตามป้าย wrote: | วัดใหญ่ชัยมงคล WAT YAI CHAIMONGKHON
วัดนี้เดิมพระเจ้าอู่ทองทรงสร้างเมื่อ พ.ศ. 1900 สำหรับเป็นสำนักของพระสงฆ์ ซึ่งไปบวชเรียนมาแต่สำนักพระ วันรัตนมหาเถรในลังกาทวีป เรียกนามนิกายนี้ว่า " คณะป่าแก้ว " จึงได้นามว่า " วัดป่าแก้ว " ต่อมาคนทั้งหลายพากันเลื่อมใสบวชเรียน พระสงฆ์นิกายนี้ก็เจริญแพร่หลาย พระราชาธิบดีจึงตั้งอธิบดีสงฆ์นิกายนี้เป็นสมเด็จพระวันรัตนมีตำแหน่งเป็นสังฆราชฝ่ายขวาคู่กับพระพุทธโฆษาจารย์ เป็นอธิบดีสงฆ์ฝ่ายคันถธุระคือสังฆราชฝ่ายซ้าย และวัดนี้เป็นที่สถิตของสมเด็จพระสังฆราชจึงได้ชื่อว่า " วัดเจ้าพญาไท " สำหรับพระอุโบสถของวัดนี้ พระเทียรราชาเคยไปเสี่ยงเทียนอธิษฐานแข่งบารมีกับขุนวงศาธิราชก่อนที่จะได้ราชสมบัติในแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหาอุปราชาแห่งพม่าได้ยกกองทัพเข้าตีกรุงศรีอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 2135 หมายจะปราบปรามเมืองไทยไว้ในอำนาจ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกกองทัพออกไปต่อสู้ข้าศึก จนได้ชนช้างกันกับพระมหาอุปราชาที่ตำบลหนองสาหร่าย แขวงเมืองสุพรรณบุรี สมเด็จพระนเรศวรมหาราชมีชัยชนะทรงฟันคู่ต่อสู้สิ้นพระชนม์บนคอช้าง แต่ครั้งนั้นไม่สามารถจะตีกองทัพของข้าศึกให้แตกแยกยับเยินไปได้ เนื่องจากกองทัพต่าง ๆ ติดตามไปไม่ทันพระองค์ ครั้นเมื่อเสด็จการสงครามแล้ว สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงทรงพิโรธแม่ทัพนายกองเหล่านั้น จะให้ประหารชีวิตแม่ทัพนายกองที่ตามเสด็จไปไม่ทันเสียให้หมด สมเด็จพระวันรัตนวัดป่าแก้วถวายพระพรขอพระราชทานโทษไว้ แล้วทูลแนะนำให้ทรงสร้างเจดีย์ไว้เป็นที่ระลึกเพื่อเฉลิมพระเกียรติยศที่ได้มีชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในครั้งนั้น สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงโปรดให้สร้างเจดีย์ใหญ่ขึ้นที่วัดนี้ เจดีย์ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงสร้างขึ้นที่วัดนี้ขนานนามว่า " พระเจดีย์ชัยมงคล " ต่อมาจึงเรียกวัดนี้ว่า " วัดใหญ่ชัยมงคล "
Initially, this monastery was constructed by King U - thong in 1900 B.E. to accommodate the monks that once were ordained from Phra Wanratana Mahathera Bureau in Ceylon. This denomination is called The Pakaew Group. Thereby this monastery was named " Wat Pakaew ". Many people because followes of this donomination and there were many monks ordered in the order so that Pakaews Group quickly because propous during this period. Later on many people were faithful in this domination. Many of them were ordained the monks of this domination so that Pakaew Group became prosperous rapidly during that time.
Phra Rachathibodi then appointed the director of this sect as the right - sided patriarch named " Phra Wanratana " while " Phra Putthakosajarn " held the position of the left - sided patriarch. Since the patriarch stayed here, this monastery was named " Wat Chao Phayatai ". The Ubosot of this monastery was the place where King Tianracha had prayed for the throne before he could beat Khun Worawongsathiraj, another candidate for the throne. In 2135 B.E. in the reign of King Naraesuan the Great, Phra Maha Uparacha of Burma marched his army to Ayutthaya in order to take control over the Thai Kingdom. King Naraesuan then marched his army to combat the invader. They met at Nong Sarai, Supan Buri district. King Naraesuan had a fight on elephant back with Phra Maha Uparacha. King Naresuan was able to kill his rival but he could not destroy the enemies army because his soldiers were further behind. King Naraesuan was full of rage when he came back to Ayutthaya and wanted the commanders to be executed because they were unable to follow him. However, Phra Wanratana of Wat Pakaew asked him for the death penalty and suggested him to build a Chedi to celebrate the victory instead. King Naraesuan the Great then decided to construct a large Chedi in this menastery name " Phra Chedi Chaimongkhon ". This monastery became " Wat Yai Chaimongkhon " later on. |
ข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับ วัดใหญ่ชัยมงคล สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จาก
1. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
2. วัดใหญ่ชัยมงคล.net _________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 21/08/2009 5:55 am Post subject: |
|
|
จากบริเวณลานจอดรถเดินข้ามสะพานเข้ามาด้านในก็จะพบกับอุโบสถหลังใหญ่ ซึ่งก็มีป้ายแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับอุโบสถหลังนี้ติดตั้งเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้อ่านเช่นเดียวกันครับ
ข้อมูลตามป้าย wrote: | พระอุโบสถ ORDINATION HALL
- พ.ศ. 1900 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ( พระเจ้าอู่ทอง ) โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อแรกสถาปนาเป็นพระอารามหลวงฝ่ายอรัญญวาสี
- พ.ศ. 2092 สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ ( พระเฑียรราชา ) เสด็จมาเสี่ยงเทียนในพระอุโบสถนี้ เมื่อก่อนเสวยราชย์
- พ.ศ. 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โปรดฯ ให้สร้างขยายพระอุโบสถกว้างใหญ่ออกไปอีก ( ยังเหลือซากผนังให้เห็นอยู่บางส่วน )
- พ.ศ. 2522 พระครูภาวนารังสี เจ้าอาวาส สร้างพระอุโบสถใหญ่บนรากฐานเดิม โดยย่อส่วนให้ลึกลงเพื่อรักษาโบราณสถานไว้ กรมศิลปากรออกแบบแปลนให้
- In 1900 B.E. King Ramathibodi I ( King U - thong ) established this Ubosot to be a royal temple for the Aranyawasi.
- In 2092 B.E. King Mahachakrapat ( King Thianracha ) visited this Ubosot to prophesy before he could sit on the throne.
- In 2135 B.E. King Naresuan the Great had an order to enlarge this Ubosot. ( Nowadays, there are some parts of the wall remain ).
- In 2309 B.E. The Ubosot was destroyed by invaders and it was abandoned after that. However, in 2500 B.E. this Ubosot became a temple accommodation monks once again.
- In 2522 B.E. Phra Pawanarangsi - the abbot, built up a large Ubosot on the old pedestal by scaling it down to maintain the ancient site. The plan was designed by the Fine Arts Department. |
แต่ก่อนที่จะเข้าไปด้านใน บริเวณข้างหน้าของอุโบสถมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่ หลังคาที่คลุมบริเวณนี้อยู่เป็นส่วนที่สร้างต่อเติมขึ้นมาในภายหลังครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 21/08/2009 7:20 am Post subject: |
|
|
พอเข้ามาในอุโบสถจะเห็น พระพุทธชัยมงคล ซึ่งเป็นองค์พระประธานประดิษฐานอยู่ด้านในสุดครับ
ส่วนบนผนังด้านขวาเป็นภาพวาดสงครามยุทธหัตถี เป็นเหตุการณ์ช่วงที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชกำลังชนช้างกับพระมหาอุปราชาที่ตำบลหนองสาหร่าย ถ้าภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาค 3 เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ว เราคงจะได้เห็นฉากสงครามอันยิ่งใหญ่นี้กันแบบชัด ๆ ล่ะครับ . . .
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 21/08/2009 7:55 am Post subject: |
|
|
กราบ พระพุทธชัยมงคล กันแล้วก็เดินออกไปชมบริเวณอื่นของวัดแห่งนี้กันต่อ เริ่มจากทางด้านซ้ายของอุโบสถกันก่อนเลย มองไปด้านหลังจะเห็นเจดีย์สูงตระหง่าน ซึ่งเจดีย์ที่เห็นอยู่ในรูปข้างล่างนี้ก็คือ พระเจดีย์ชัยมงคล ครับ
ด้านข้าง พระเจดีย์ชัยมงคล มีพระพุทธรูปเรียงรายเป็นทิวแถว
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 21/08/2009 8:48 am Post subject: |
|
|
เดินวนอ้อมมาจนถึงอีกด้านหนึ่งของ พระเจดีย์ชัยมงคล ก็ไปเจอเข้ากับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่ง กำลังยืนฟังไกด์ทัวร์เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่ที่กำลังเยี่ยมชมอยู่ในขณะนั้น เท่าที่ผมพยายามเดินผ่านไปช้า ๆ ( จะได้ไม่ผิดสังเกต ) แล้วเงี่ยหูฟัง ( พูดง่าย ๆ ว่า " แอบฟัง " นั่นล่ะครับ . . . ) จับใจความมาได้แค่ว่า ที่ฐานของ พระเจดย์ชัยมงคล ไม่ได้เป็นแนวเส้นตรง ( ลองสังเกตดูดี ๆ ) นั้น เป็นรูปแบบของสถาปัตยกรรมในสมัยอยุธยา ซึ่งข้อมูลตรงจุดนี้ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย ยังไงก็อ่านผ่าน ๆ ไปอย่าเชื่อมากแล้วกันครับ . . .
ตอนนี้เราเดินวนรอบ พระเจดีย์ชัยมงคล ครบ 1 รอบแล้ว มายืนดูเจดีย์เก่าแก่แห่งนี้จากอีกด้านหนึ่งของอุโบสถกันบ้าง เจดีย์แห่งนี้ใหญ่และสูงเพียงใด ลองเทียบกับตัวนักท่องเที่ยวที่อยู่ตรงบันไดดูสิครับ เหลือตัวเล็กนิดเดียวเอง . . .
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 21/08/2009 8:59 am Post subject: |
|
|
ได้เวลามาชมความยิ่งใหญ่ของ พระเจดีย์ชัยมงคล กันแบบใกล้ชิดแล้วล่ะครับ
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/07/2006 Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร
|
Posted: 21/08/2009 9:19 am Post subject: |
|
|
ข้อมูลตามป้าย wrote: | พระเจดีย์ชัยมงคล
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โปรดให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์เฉลิมพระเกียรติในคราวยุทธหัตถีมีชัยชนะสมเด็จพระมหาอุปราชาแห่งพม่า เมื่อ พ.ศ. ๒๑๓๕
เป็นปูชนียวัตถุสำคัญแห่งหนึ่งของชาติไทย
เป็นนิมิตหมายของเอกราช เตือนใจให้ระลึกถึงความกล้าหาญและความเสียสละของบรรพบุรุษ
เป็นสัญลักษณ์แห่งอภัยทานของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อันเนื่องมาจากธรรมอันประเสริฐแห่งพระพุทธศาสนา
The Great Chedi Chaya Mongkhol
The Great Chedi Chaya Mongkhol was built by the command of King Naresuan the Great, to commemorate his decisive victory over the Burmese invasion in A.D. 1592. The event was climaxed in the momentous elephant combat between the King and the Burmese crown prince Maha Uparaja, in the province of Suparnburi the renown of King Narasuan was such that there was no more outside invasion for the following two hundred years.
Thus, the Great Chedi Serves as a symbol of prowess and sacrifice of the King and his soldiers, who with their national and religious devotion have brought about calm and peaceful assurance to the Thai people. |
_________________ Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.
|
|
Back to top |
|
|
|