RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311286
ทั่วไป:13267902
ทั้งหมด:13579188
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - เก็บตก : จากเว็บกิมหยง
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

เก็บตก : จากเว็บกิมหยง
Goto page Previous  1, 2, 3, 4  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สัพเพเหระ
View previous topic :: View next topic  
Author Message
suraphat
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 12/02/2007
Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง

PostPosted: 02/10/2009 5:32 pm    Post subject: Reply with quote

สำหรับความเห็นของกระผมนั้นเห็นว่า หากจะทำการฟื้นการเดินรถมาได้นั้น ก็ลำบากเต็มทนแล้ว

เนื่องจากในตอนนี้ ได้มีการบุกรุก(ทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย) เขตทางอยู่เป็นจำนวนมาก

แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะฟื้นได้บ้างนะครับ อย่างดีก็ขอให้มีการฟื้นเขตทางเอาแค่บ้านบางดาน(กม.ที่ 9 ของทางหลวงหมายเลข 407) ก็ดูจะเพียงพอแล้วนะครับ

ซึ่งไอ้ครั้นจะขอฟื้นไปจนถึงปลายทางเลยนั้นก็ดูจะเป็นไปไม่ได้แล้ว เนื่องมาจากได้มีการทำสัญญาเช่ากันอย่างถูกต้องไปแล้ว

ส่วนที่ว่าทำไมถึงเสนอให้มีการทำการฟื้นเส้นทางแค่บ้านบางดานนั้นก็เพราะ ที่บ้านน้ำกระจายอันเป็นเส้นทางผ่านของทางสายนี้ จะได้มีการต่อทางแยกเพื่อแยกไปเข้าที่ท่าเรือน้ำลึกสงขลาบริเวณหาดทรายแก้วฝั่งอำเภอสิงหนครได้ยังไงละครับ Wink
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/07/2006
Posts: 1346

PostPosted: 02/10/2009 6:08 pm    Post subject: Reply with quote

แถมอีกสะพานครับ

Click on the image for full size

หาดใหญ่ร่วมใจช่วยกันรณรงค์การใช้รถจักรยาน.(หน้า ๘)
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=57&t=88669&start=210
เก็บของตกมาได้อีกครับ


[img]http://www.thaimtb.com/forum/download/file.php?id=143217[/img]
ที่มา
http://www.thaimtb.com/forum/download/file.php?id=143217
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44592
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/11/2009 3:46 am    Post subject: Reply with quote

ผลงานชิ้นใหม่ของเว็บกิมหยงดอทคอมครับ
ตามรอยรถไฟหาดใหญ่ - สงขลา จากสถานีสงขลาถึงเขารูปช้าง
Arrow http://www.gimyong.com/webboard/index.php/topic,32082.msg89904.html#msg89904

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44592
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/11/2009 7:24 am    Post subject: Reply with quote

เล่าเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟในยุค 2510 ระหว่างปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ และ หาดใหญ่-สงขลาครับ
Arrow สถานีสอง,ป้อมหก

คนแต่แรก wrote:
ไหนๆก็เข้ามาแล้ว อยากจะเล่าเรื่องขึ้นรถไฟจากสถานีปาดังเบซาร์มาหาดใหญ่ แล้วต่อรถไฟที่สถานีหาดใหญ่ไปสงขลา จะขอเล่าประสบการณ์ช่วงประมาณปี พ.ศ.2510 รถไฟขบวนหาดใหญ่ไปปาดังเบซาร์ ซึ่งเป็นรถไฟตู้โดยสารมีประมาณ 5-6 ตู้ ไม่มีตู้สินค้านะครับ
ขบวนรถไฟตู้สินค้าจะแยกอีกขบวนหนึ่ง พอรถไฟไปถึงสถานีปาดังเบซาร์ ผู้โดยสารจะลงจากรถจนหมด เพราะสุดสายแล้ว แล้วหัวรถไฟก็จะถอดหัวออกจากตู้โดยสาร สมัยนั้นหัวรถไฟยังเป็นหัวรถจักรไอน้ำอยู่นะครับ (สมัยก่อนเขาเรียกว่าหัวรถจักร) หัวรถไฟก็จะวิ่งไปเติมน้ำ(จะมีท่อน้ำใหญ่ๆโยงเข้าทางหลังคาหัวรถจักร) น้ำที่เติมนี้ใว้สำหรับต้มให้เดือดเป็นไอเพื่อไปขับลูกสูบของหัวรถจักร เมื่อเติมน้ำเต็มแล้ว ก็ขับต่อไปที่สำหรับกลับหัวรถจักร เป็นเหมือนจานวงกลมใหญ่ๆ หรือวงเวียน หัวรถจักรขับเข้าไปอยู่ตรงกลางจาน แล้วจานก็จะหมุนตัวพร้อมกับหัวรถจักร เพื่อกลับหัวกลับหาง พอนึกภาพออกนะครับ
พอหัวรถจักรกลับหัวเสร็จแล้วก็จะวิ่งออกมาจากจานนั้นหรือวงเวียนนั้น (วงเวียนที่กลับหัวรถจักรนั้น สมัยนี้อยู่ฝั่งมาเลเซียเสียแล้ว เหตุผลทางการเมืองระหว่างประเทศ ไม่ขอกล่าวถึงนะครับ) แล้ววิ่งไปต่อกับขบวนรถโดยสารที่จอดทิ้งใว้ เพื่อรอผู้โดยสารที่จะขึ้นรถกลับไปหาดใหญ่กัน
ส่วนมากจะเป็นแม่ค้าที่ซื้อของหนีภาษีไปส่งในตลาดหาดใหญ่กันเป็นส่วนมาก เมื่อรถออกจากสถานีปาดังเบซาร์ ไปสักพักก็ถึงสถานีบ้านท่าข่อย สถานีบ้านคลองรำ สถานีคลองแงะ สถานีทุ่งลุง สถานีบ้านพรุ และปลายทางที่สถานีหาดใหญ่ บางครั้งก็มีเรื่องตื่นเต้นก่อนขบวนรถไฟจะถึงสถานีหาดใหญ่ แถวๆวัดปลักกริม คือ รถไฟจะหยุดรถตรงแถวๆนั้นแหละ แล้วแม่ค้า พ่อค้า จะรีบเก็บของแบกของหนีภาษีวิ่งลงจากรถไฟกันอย่างโกลาหล ก่อนที่จะถึงสถานีหาดใหญ่ เพราะว่าพ่อค้า แม่ค้า เขารู้กัน จะมีคนคอยส่งสัญญาณอยู่แถวๆข้างทางรถไฟตรงวัดปลักกริมนั่นแหละ ว่ามีด่านหรือตำรวจมาคอยดักจับของหนีภาษีที่สถานีหาดใหญ่
พวกค้าของหนีภาษีที่อยู่บนรถไฟ(เขาเรียกว่าพวกพลร่ม คือพวกนี้ชอบนั่งบนหลังคารถไฟ ไม่ต้องเสียค่าโดยสาร) จะปลดท่อลมที่ข้อต่อลากรถระหว่างตู้รถไฟด้วยกัน เมื่อลมออกจากท่อ ทำให้ระบบเบรคของรถไฟทำงานจนทำให้รถไฟต้องหยุดเอง พ่อค้า แม่ค้าก็สามารถนำของหนีภาษีลงจากรถได้ ก่อนที่จะโดนจับที่สถานีหาดใหญ่ ขอจบภาคหนึ่งก่อนนะครับ เดี๋ยวภาคสองจะเล่าต่อจากสถานีหาดใหญ่ไปสงขลานะครับ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42722
Location: NECTEC

PostPosted: 30/11/2009 9:14 am    Post subject: Reply with quote

^^^
สถานีปาดังเบซาร์ รวมทั้งวงเวียนนั้นอยู่ฝั่งมาเลย์มาแต่แรกสร้างแล้วหละ ผู้เขียนคงทึกทักเอาจากกรณีที่ ชานชลา ที่เป็นเกาะ กลางอันเดิม ซึ่งอยู่ในเขต No-Man's Land ถึงได้เขียนออกไปอย่างนั้น
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 30/11/2009 2:50 pm    Post subject: Reply with quote

ก็เพราะค้าขายจนเป็นล่ำเป็นสัน กล้าถอดท่อลมห้ามล้อได้แบบนี้นี่แหละ

เขาถึงได้ยุบขบวนรถสายปาดังเบซาร์จากสารบบเดินรถ Cool
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44592
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/11/2009 5:18 pm    Post subject: Reply with quote

คุณคนแต่แรกมาเล่าต่อแล้วครับ
คนแต่แรก wrote:
เล่าเรื่องรถไฟต่อจากภาคที่หนึ่งนะครับ
พ่อค้า แม่ค้า ที่พาของหนีภาษีลงจากลงจากรถไฟหมดแล้ว พวกพลร่ม (ดูความหมายจากภาคที่หนึ่ง)ก็จะต่อท่อลมเข้าคืนเหมือนเดิม รถไฟก็จะวิ่งได้เหมือนเดิมจนถึงสถานีหาดใหญ่ พวกนายด่านและนายตำรวจที่มายืนรอจับของตรงสถานี ก็แห้วตามเคย มีแต่ผู้โดยสารธรรมดา พ่อค้า แม่ค้า ลงตรงแถววัดปลักกริมกันหมดแล้ว

สถานีรถไฟหาดใหญ่ตอนนั้นยังเป็นเรือนไม้ทั้งหลัง และยกพื้น พื้นชานชาลารถไฟยังเป็นไม้คล้ายระแนงตีเป็นช่อง ๆ เวลาเดินจะมองเห็นใต้ถุนหรือเห็นพื้นดินข้างล่างอยู่เลย ผมลงจากรถไฟผมก็เดินไปซื้อน้ำโอเลี้ยงกับขนมมาทานที่สถานี เพื่อรองท้องนั่งรอรถไฟจะไปสงขลาต่อ เมื่อรถไฟมาถึงแล้ว ผมก็ขึ้นไปนั่งรอบนรถ เพื่อรอเวลาตีระฆังให้รถออก

รถไฟสายสงขลาไม่ต้องซื้อตั๋วที่สถานี ค่อยขึ้นไปจ่ายค่าโดยบนรถไฟเลย พอเขาตีระฆังเตือนครั้งที่หนึ่งว่ารถไฟกำลังจะออกแล้ว ผู้โดยสารที่จะไปสงขลาก็รีบวิ่งขึ้นรถกัน เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่าไม่มีผู้โดยสารวิ่งขึ้นรถแล้ว ก็จะตีระฆังอีกครั้งเพื่อให้รถไฟออกจากสถานีได้ เมื่อรถไฟวิ่งมาได้สักประมาณ 4-5 นาที รถไฟก็จอดตรงสถานีสอง(เลยตลาดสดเทศบาลไปหน่อยหนึ่ง) เพื่อรับผู้โดยสารตรงสถานีสอง เมื่อรับเสร็จแล้วรถก็จะออกเดินทางต่อไป

อ้อ ลืมบอกไปว่าหัวรถจักรที่ไปสงขลาเป็นหัวรถจักรเครื่องยนต์ดีเซลแล้ว แต่ถ้าไปปาดังเบซาร์หัวรถจักรจะเป็นหัวรถจักรไม้ฟืนขับไอน้ำ(สมัยเด็กๆเรียก ว่าหัวรถจักรไม้ฟืน เพราะต้องใช้ไม้ฟืนเผาหรือต้มน้ำให้เดือด )

เมื่อรถออกสถานีสองไปได้สักพัก จะมีพนักงานเก็บเงิน แต่งชุดสีกากี หิ้วกล่องสี่เหลี่ยมหรือหีบที่บรรจุตั๋วโดยสาร ตั๋วโดยสารจะเหมือนกับตั๋วรถเมล์สมัยนี้ เป็นม้วนยาวเหมือนกันเลย เจ้าหน้าที่จะถามว่าลงที่ไหน ผมบอกว่าลงสงขลา เจ้าหน้าที่ก็จะดึงตั๋วจากกล่องหรือหีบตามจำนวนราคา รู้สึกว่าค่าโดยสารไปสงขลาประมาณ 2 บาท แต่งชุดนักเรียนก็ 1 บาท เพราะว่าวันนั้นผมแต่งชุดนักเรียนจะไปเที่ยวงานวันเด็กที่แหลมสมิหลากัน

ระยะทางจากหาดใหญ่ไปสงขลา ผมจำสถานีไม่ได้แล้วว่ามีกี่สถานีกว่าจะถึงสถานีสงขลา แต่รู้สึกว่าสถานีตรงระหว่างทางจะไม่มีเจ้าหน้าที่ประอยู่ ถ้าจำไม่ผิดจะมีสถานีน้ำน้อยเท่านั้นที่มีเจ้าหน้าที่และมีอุปกรณ์สื่อสาร ประจำสถานีอยู่ นอกนั้นไม่มีเลย แต่จะทำเป็นเพิงและมีที่นั่งรอ เหมือนกับป้ายรถเมล์สมัยนี้ แต่จะมีป้ายชื่อบอกว่าสถานีอะไร รถไฟก็จะจอดหรือหยุดรถทุกสถานี เมื่อรถไฟถึงสถานีสงขลา พวกผมก็รีบลงจากรถเพื่อต่อรถสองแถวไปเที่ยวแหลมสมิหลากัน เที่ยวกันจนเย็นก็นั่งรถสองแถวกลับมาที่สถานีรถไฟสงขลา เพื่อรอรถไฟขบวนต่อไป รถไฟสายสงขลาจะวิ่งไปกลับประมาณสี่หรือห้าเที่ยว จำไม่ค่อยได้แล้วต้องขออภัยด้วย รู้สึกว่ารถไฟสายสงขลาจะวิ่งกันจนค่ำ เพราะสมัยก่อนรถเมล์ รถสองแถว วิ่งระหว่างสงขลากับหาดใหญ่ ยังมีน้อยอยู่ ประชาชนเลยต้องอาศัยโดยสารรถไฟกันมาก ไม่เหมือนสมัยนี้ทุกครอบครัว ทุกบ้าน เกือบจะมีรถยนต์กันหมดแล้ว พอแค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวมีอะไรค่อยเข้ามาเล่าต่อนะครับ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44592
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/12/2009 9:10 am    Post subject: Reply with quote

มีภาพเก่า เข้าใจว่าถ่ายที่สถานีชุมทางหาดใหญ่
สงสัยว่าตู้โดยสารที่เห็นในภาพนี้เป็นตู้โดยสารแบบไหนครับ
ปัจจุบันยังมีให้ดูหรือไม่
รบกวนเข้าไปชมที่กระทู้นี้ครับ
http://www.gimyong.com/webboard/index.php/topic,32594.30.html
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
therock
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 25/09/2007
Posts: 1575
Location: อดีตเด็กมหาชัย

PostPosted: 30/12/2009 9:58 am    Post subject: Reply with quote

ไม่แน่ใจจากภาพอาจจะเป็นโบกี้แบบทุกชั้นหรือเปล่านะครับคือมีทั้งชั้น 1 /2/3เลยแต่ตู้รุ่นนี่ปัจจุบันก็ไม่มีให้เห็นแล้วนะครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/03/2006
Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง

PostPosted: 30/12/2009 10:06 am    Post subject: Reply with quote

^
เท่าที่เข้าไปดูภาพแล้ว คิดว่าเป็นรถโบกี้ทุกชั้น (บทช.) ครับ รถรุ่นนี้สร้างโดย Cravens ประเทศอังกฤษ เข้าประจำการในปี พ.ศ.2467 ประกอบด้วยหมายเลข 1 , 2 , 3 , 16 และ 17 เป็นรถโดยสารนั่งทั้งคัน มีที่นั่งดังนี้

ชั้นสาม เป็นที่นั่งในห้องโถงรวมเหมือน บชส ทั่วไป จำนวน 40 ที่นั่ง
ชั้นสองและชั้นหนึ่งจะเป็นห้องที่เป็นสัดส่วนคล้ายกับรถ บนท.ป JR-west คือมีเบาะนั่ง 2 ฝั่งนั่งหันหน้าชนกัน ทางเดินจะอยู่ริมหน้าต่าง ที่นั่งชั้นสองมี 2 ห้อง ห้องละ 6 ที่นั้ง ชั้นหนึ่งมี 1 ห้อง ห้องละ 4 ที่นั่ง Arrow ในภาพที่เห็นเป็นห้องโดยสารชั้นสอง สังเกตจากเลข 2 ที่หน้าห้อง และผู้โดยสารนั่งติดกัน 3 คน

อนึ่ง เนื่องจากรถรุ่นที่ผมกล่าวถึงนี้เป็นรุ่นเดียวที่ผมได้เห็นแบบแปลนตัวรถ ทำให้พอจะบอกได้ว่ามีรถนั่งที่จัดให้มีที่นั่งแยกเป็นสัดส่วนอยู่ในห้องเล็กที่มีลักษณะตรงกันกับภาพถ่ายจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่นั่งชั้นสอง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีรถแบบอื่นที่มีลักษณะที่นั่งแบบนี้อีกหรือไม่ โดยเฉพาะรถในยุคเดียวกัน อาทิ รถโบกี้ชั้นที่ 2-3 ติดกัน (บสส.) รุ่นหมายเลข 14-20 ซึ่งสร้างโดย Cravens เช่นเดียวกัน และเข้าประจำการในปี พ.ศ.2472 เป็นต้น


Last edited by Nakhonlampang on 30/12/2009 8:51 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สัพเพเหระ All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4  Next
Page 3 of 4

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©