GEK. Travel #3 : ตะลอนทัวร์ . . . " 5 แพร่ง " !

[ExtendeD]

เสาโทรเลขที่อยู่ทางฝั่งนี้ก็คือเสาโทรเลขที่ 125/4 ครับ




หันกลับหลังไปก็จะพบ " ช่องเขาขาด " ผมไม่ได้เดินไปดูใกล้ ๆ ครับ เพราะข้อจำกัดเรื่องเวลา เสร็จงานนี้แล้วก็ต้องรีบเดินกลับออกไปทันที . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

จากนั้นผมก็กลับลงมาบนแพ พอลูกทัวร์ทุกคนกลับมากันครบแล้ว เรือเล็กก็ลากแพทั้ง 2 หลังออกจากท่าน้ำวัดถ้ำเขาปูน . . .




พวกเราลอยละล่องตามแม่น้ำแควน้อยมาจนสุดได้แค่นี้ ตามโปรแกรมทัวร์เรือเล็กจะลากแพทั้ง 2 หลังย้อนกลับไปตามทางเดิม เพื่อส่งลูกทัวร์ขึ้นรถไปซื้อของฝาก ผมก็ขออำลาสหายตัวน้อย และวัดถ้ำเขาปูนด้วยรูปนี้ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ระหว่างเดินทางกลับ มีกิจกรรมสันทนาการแพหลังที่ 2 เป็นการ Entertain เหล่า ส.ว. ซึ่งเป็นลูกทัวร์ส่วนใหญ่ของทริปนี้ครับ




กิจกรรมสันทนาการที่พูดถึงก็มีทั้ง ออกไปวาดลวดลายขยับแข้งขยับขาตามจังหวะเสียงเพลง และตามแต่สังขารของแต่ละคนจะรับไหว นอกจากนั้นก็ยังมีการตอบปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ วารสารรถไฟสัมพันธ์ ประจำเดือนกันยายน - ตุลาคม 2552 เล่มนี้ก็เป็นรางวัลที่หม่าม๊าได้มาจากการตอบคำถามครับ คุณพี่ไกด์ทัวร์เขาถามเรื่องเกี่ยวกับการเดินทาง / สถานที่ที่เราไปเที่ยวกันในวันนี้ แต่จะถามยากก็ไม่ได้ เพราะกลัวจะไม่มีใครตอบถูก เดี๋ยวจะไม่ได้แจกรางวัล ( จริง ๆ รางวัลก็เป็นของแจกฟรีอยู่แล้วนะ บริษัททัวร์นี่ไม่ลงทุนเลย . . . ) คำถามแต่ละคำถามก็เลยง่ายซะ ผมตอบได้หมดล่ะครับ เพราะจดเอาไว้ในกระดาษ เหอะ เหอะ . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ผมไม่ได้อยู่ที่แพหลังที่ 2 นานนักครับ เพราะรู้สึกว่าบรรยากาศแบบนั้นมันไม่ค่อยเหมาะกับผมสักเท่าไหร่ เลยมานั่งดูวิว คุยเล่นอยู่กับน้อง ๆ กลุ่ม Under20 ดีกว่า ( ทำตัวกลมกลืน ) . . .




จากท่าน้ำวัดถ้ำเขาปูน เรือเล็กก็ลากแพที่มีลูกทัวร์กลุ่มวัยกลางคน ( ที่ส่วนใหญ่จะนั่งจับกลุ่มทั้งโม้ทั้งเมาท์มันส์แบบ Non Stop ) + กลุ่ม Under20 ( ที่เน้นนั่งคุยกัน นั่งชมวิว ฟังเพลง ) อยู่ในแพหลังแรก และกลุ่ม ส.ว. ( ที่กำลังเต้นยึกยือยึกยือกันอย่างสนุกสนาน ) อยู่ในแพหลังที่ 2 ย้อนกลับไปตามแม่น้ำแควน้อย ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีก็กลับมาถึงบริเวณที่แม่น้ำแควใหญ่ และแม่น้ำแควน้อยไหลมารวมกันจนกลายเป็นแม่น้ำแม่กลองครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

พอผ่านมาถึงที่นี่ในช่วงบ่าย ผมถึงนึกขึ้นมาได้ว่าทำไมรู้สึกเหมือนว่าแถว ๆ นี้ช่างดูคุ้นตาซะเหลือเกิน เมื่อก่อนตอนที่ตามปะป๊ากับหม่าม้ามาเที่ยว ล่องแพไปชมงานแสดงที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว ก็ลงรถทัวร์แล้วมาลงแพแถว ๆ นี้ล่ะครับ




หลังจากขึ้นมาจากแพแล้วก็ต้องมาต่อรถอีกทีหนึ่ง รถสองแถวสี่ล้อคันใหญ่ ๆ นี่ล่ะครับที่จะพาลูกทัวร์ทุกคนไปเที่ยวกันต่อ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

รถสองแถวสี่ล้อพาลูกทัวร์มาแวะซื้อของฝากที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสุสานดอนรักครับ สินค้าทีเด็ดขึ้นชื่อของที่ร้านนี้ก็คือ " ทองม้วน " ซึ่งก็มีทั้งทองม้วนรสหวาน และรสเค็มอย่างที่เคยเห็น เคยลิ้มลองชิมรสชาติกันมาหลายต่อหลายทีแล้ว และมีทองม้วนสดด้วยครับ ทำกันสด ๆ ชิมกันร้อน ๆ เลย อร่อยมากชิมชิ้นเดียวไม่พอ เผลอเป็นหยิบ เผลอเป็นหยิบ . . . แล้วก็อิ่ม . . .




จริง ๆ แล้วสถานที่ท่องเที่ยวแห่งต่อไปตามโปรแกรมทัวร์ก็คือ สุสานทหารสัมพันธมิตร หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ สุสานดอนรัก แต่ลูกทัวร์ที่อยู่บนรถคันนี้ ( ที่นอกจากผมทุกคนล้วนแล้วแต่สังกัดกลุ่ม ส.ว. ทั้งนั้น ) ลงมติกันเป็นเอกฉันท์ว่า ในเมื่อได้ของฝากกันจนเต็มไม้เต็มมือแทบจะถึงกันไม่ไหวแล้ว ก็ไม่ขอลงไปเที่ยวที่ไหนต่อ ให้คนขับรถสองแถวพาไปส่งที่สถานีรถไฟเพื่อรอเวลาขึ้นรถกลับกรุงเทพเลย ในช่วงเย็นวันนั้นผมก็เลยได้แต่มองสุสานดอนรักจากท้ายรถสองแถวคันนี้เท่านั้นครับ



ก็เพิ่งรู้นะครับว่าไม่ใช่แค่ปะป๊าเท่านั้นที่พอได้ของฝากลูกฝากหลานสมใจที่ต้องการแล้ว ก็ไม่สนใจอะไรอย่างอื่นอีกแล้ว ส.ว. ที่เข้าร่วมโปรแกรมทัวร์ในวันนั้นก็มีอาการแบบนี้เช่นกัน เหอะ เหอะ . . .
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

แล้วผมกับเหล่า ส.ว. ที่อยู่บนรถสองแถวคันเดียวกัน ก็มาถึง สถานีกาญจนบุรี โดยสวัสดิภาพ ถึงตอนนี้ต่างคนก็ต่างหอบหิ้วของฝากพะรุงพะรังเข้ามานั่งพักให้หายเหนื่อยกันอยู่บนชานชาลา ผมก็เลยใช้ช่วงเวลาที่ต้องรอขบวนที่ 910 อยู่ที่นี่ เดินเล่นต่ออีกนิดหน่อย . . .




ในเย็นวันนั้นผมมาถึงที่ สถานีกาญจนบุรี เวลาประมาณ 16:20 น. ฟ้าสวย ๆ แดดดี ๆ ที่เคยเห็นเมื่อเช้าไม่รู้หายไปไหนหมด ตอนนี้มองขึ้นไปบนท้องฟ้ามีแต่เมฆฝนครับ . . .



สถานีกาญจนบุรี ในเส้นทางสายใต้ ( สถานีชุมทางหนองปลาดุก - ที่หยุดรถน้ำตกไทรโยคน้อย )
เป็นสถานีระดับที่ 1 อักษรย่อ กญ. รหัสสถานี 4057
ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
ระยะทางจาก สถานีกรุงเทพ 133.04 กิโลเมตร
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

แล้วขบวนที่ 910 ก็เข้ามาถึง สถานีกาญจนบุรี เวลา 16:25 น. ไม่กี่วินาทีหลังจากถ่ายรูปนี้ ฝนก็ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ผู้โดยสารที่มากับขบวนที่ 910 ไม่มีใครได้ไปเที่ยวที่ สุสานดอนรัก เลยสักคน เพราะต้องนั่งหลบฝนกันอยู่บนรถ ขณะเดียวกันผู้โดยสารที่ไปล่องแพด้วยกัน พอขบวนรถมาถึงพร้อมกับนำพาเอาพายุฝนตกกระหน่ำติดมาด้วย ต่างก็รีบขึ้นไปหลบฝนอยู่บนรถ นั่นเป็นความคิดที่ผิดถนัดครับ เพราะเท่ากับว่าไปแย่งอากาศกันหายใจ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ยังมีน้ำรั่วมาจากบนหลังคาของ กซข.1257 อีกด้วย เล่นเอาวุ่นวายกันไปพักใหญ่



ระหว่างที่หลบฝนอยู่ที่ สถานีกาญจนบุรี รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( AHK. ) หมายเลข 4209 ก็ทำขบวน ขบวนรถธรรมดาที่ 259 ต้นทางสถานีธนบุรี - ปลายทางสถานีน้ำตก เข้ามา แต่ผมไม่ได้เก็บภาพเอาไว้ครับ ฝนตกกระหน่ำขนาดนั้น . . .

ส่วนขบวนที่ 910 กว่าจะได้ออกจาก สถานีกาญจนบุรี ก็ต้องรอจนถึงเวลา 17:15 น. ระหว่างทางผมก็ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรอีกเลย เพราะฝนยังตกลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ต่อเนื่องและยาวนาน น้ำก็ยังคงรั่วลงมาจากหลังคาเป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะเวลาที่คุณพี่พขร. ลงห้ามล้อ น้ำบนหลังคาจะไหลไปทางหัวขบวน แล้วก็ไหลลงมาตามรูรั่ว ผู้ที่รับเคราะห์คือผู้โดยสารที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ทางเดินเข้าห้องน้ำครับ

แค่นั้นยังไม่พอ ตอนที่ประกอบร่างเข้ากับขบวนที่ 912 ที่ สถานีชุมทางหนองปลาดุก อยู่ดี ๆ ห้ามล้อเกิดไม่คลายขึ้นมาซะอย่างนั้น รถทั้ง 2 ขบวนก็เลยล่าช้าเพิ่มเข้าไปอีก ถึงตอนนี้ก็เริ่มมีเสียงบ่นถึงสภาพรถดังระงมให้ไม่สบายใจเป็นการส่งท้ายอีกจนได้ เฮ้อ . . .

ค่ำนั้นกลับถึงหัวลำโพงกี่โมงผมจำไม่ได้แล้วครับ แต่ที่จำได้แม่นเลยก็คือ ขบวนที่ 910 + 912 ออกจาก สถานีบางบำหรุ ตอน 19:32 น. น้องชายผมโทรมาบอกว่าที่ปากน้ำฝนกำลังตกกระหน่ำได้ที่เลยทีเดียว . . .


ปิดท้าย แพร่งที่ 1 ( /1 ) ล่องแพเมืองกาญจน์ ไป 909 กลับ 910 . . . ด้วยรูปของโปสการ์ดที่ซื้อมาจากร้านค้าบริเวณ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

GEK. Travel Episode 3 ตะลอนทัวร์ " 5 แพร่ง " ( Director's Cut ) : แพร่งที่ 2 เยือนถิ่นอีสาน อีกสักที ( อีกที และอีกที ) . . .

วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2552

เพิ่งกลับมาจากกาญจนบุรีเมื่อคืน นอนหลับได้ตื่นเดียว ก็ต้องรีบมาขึ้นรถไฟอีกแล้ว เช้าวันนั้นผมมาถึงที่หัวลำโพงเวลาประมาณ 06:00 น. ครับ




เช้าวันนั้นไม่ค่อยมีขบวนรถสายไกล ๆ ทำขบวนเข้ามาให้เห็นเลยครับ ก็นับว่าเงียบเหงาพอสมควร ว่าแล้วก็เดินมาดูพระเอกของผมที่จอดเทียบชานชาลาที่ 7 กันดีกว่า . . . รถจักรโดนขนาบ 2 ฝั่งเป็นแซนวิชอีกแล้วครับ . . . รถนอนที่พ่วงติดอยู่กับรถจักรในตอนนั้นก็คือ บนท.1070 และ บนท.ป.1208 ที่มากับ ขบวนรถเร็วที่ 108 ต้นทางสถานีเด่นชัย - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ได้ CTV. ไปใช้อีกแล้ว เดี๋ยวถ้าปลายเดือนนี้เปลี่ยนเป็นรถนอนแบบอื่นมานะ . . . ( ก็ทำอะไรไม่ได้ ยังไงก็ต้องไปอยู่ดี . . . )


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

และนี่คือตั๋วที่ผมใช้เดินทางในวันนั้นครับ คิด ๆ ดูแล้ว ไปกับขบวนที่ 135 ดีกว่า ไม่ได้นั่งรถขบวนนี้ไกล ๆ นานแล้วครับ




ขบวนที่ 135 ในเช้าวันนั้นประกอบด้วย ALS.4124 ( เป็นรถจักรที่ทำขบวนที่ 108 มา และจะรับหน้าที่ทำขบวนที่ 135 ถึง สถานีชุมทางบางซื่อ ) + บพห.55 + 4 บชส. ( 1226, 1365, 1369, 1122 ) + บกข.22 + 5 บชส. ( 1221, 1079, 1060, 1242, 1225 ) + บชท.105 ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.