Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311276
ทั่วไป:13258161
ทั้งหมด:13569437
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - 60 นาทีที่ไทรโยคใหญ่ และ Hellfire Pass
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

60 นาทีที่ไทรโยคใหญ่ และ Hellfire Pass
Goto page 1, 2, 3  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> พักผ่อนหย่อนใจ
View previous topic :: View next topic  
Author Message
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 18/03/2006
Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น

PostPosted: 20/08/2006 9:12 pm    Post subject: 60 นาทีที่ไทรโยคใหญ่ และ Hellfire Pass Reply with quote

สวัสดีครับทุกท่าน

หลังจากที่อุดๆ อู้ๆ อยู่แต่ในเมืองกรุงฯ เป็นเวลานานพักใหญ่ๆ ก็ถึงเวลา ที่ได้ออกเดินทางไปยืดเส้นยืดสายที่ต่างจังหวัดกันอีกแล้วครับ เนื่องจากเดือนสิงหาคมนี้ มีวันหยุดเพิ่มเติมจากปกติอีก 1 วัน คือ ชดเชยวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินาถ ทำให้คนทำงานอย่างพวกผม ได้แฮปปี้กระดี๊กระด๊า หยุดงานฟรีๆ อีก 1 วัน และแน่นอนครับโอกาสแบบนี้ แถมยังเป็นช่วงเทศกาลวันแม่อีกต่างหาก จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่คนส่วนใหญ่ ต่างก็หันหน้าออกต่างจังหวัดกันหมด รวมทั้งผมด้วย

โดยทริปนี้ เริ่มต้นในวันแม่ 12/8/49 พอดิบพอดี ซึ่งผมมุ่งหน้าไปที่จังหวัดใหญ่ทางทิศตะวันตก ของกรุงเทพ ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำตกสวยๆ มีชื่อเสียงมากมาย อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่ประธานเว็บไซต์รถไฟไทยดอทคอมหรือ พี่หมอรักษ์พงศ์ และครอบครัว ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นด้วย ... บอกใบ้ซะขนาดนี้ ก็น่าจะเดาออกนะครับ ว่า "จังหวัดกาญจนบุรี" แหงมๆ

ภารกิจส่วนหนึ่งของทริปนี้ ก็คือ แวะเยี่ยมพี่หมอรักษ์พงศ์ และครอบครัว พร้อมด้วยลูกชายฝาแฝด ที่กำลังน่าชัง (คนโบราณเขาห้ามชมว่าน่ารัก) และอีกส่วนหนึ่งก็ถือโอกาสมาพักผ่อนเป็นการส่วนตัวด้วยครับ ... แต่ที่ผมพลาดไปหน่อยนึง ก็คือด้วยความชะล่าใจ ว่ารีสอร์ตที่เคยไปพัก จะต้องว่างแน่ๆ (เพราะไปกี่ทีก็ว่าง ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเทศกาลก็ตาม) กลับกลายเป็นว่า วันนั้นดันมี บ. นึง เล่นจองเหมาหมดทั้งรีสอร์ต คาดว่าคงจะมาทำกิจกรรม Outing กัน เหมือนที่ บ. ผม เคยไปเหมารีสอร์ตชาวบ้านเขา จัดกิจกรรมแบบนี้ด้วยเช่นกัน ....เหอๆๆๆ ซวยสิครับ งานนี้ จะไปนอนที่ไหนล่ะ

กว่าจะเสด็จออกจาก กทม. ได้ ก็อ่วมอรทัยแล้ว เพราะเจอรถติดตั้งแต่พุทธมณฑล ร่ายยาวจนไปถึงนครปฐม กว่าจะหลุดมาหายใจโล่งๆ นิดนึง ก็เป็นตอนที่มาถึง อ.บ้านโป่ง เข้าไปแล้ว แล้วเท่าที่สังเกตดู รถส่วนใหญ่กว่า 80% ที่วิ่งอัดอยู่บนถนนตั้งแต่นครปฐม ก็มุ่งหน้ามาทางเมืองกาญจน์ แทบจะทั้งนั้น ... ผมออกจาก กรุงเทพ 9 โมงเช้า มาถึงเมืองกาญจน์ปาเข้าไปเที่ยง แถมยังหาที่พักไม่ได้อีก ... เหอๆๆๆ แต่สุดท้ายก็ยังดีนะครับ ที่คนส่วนใหญ่ มุ่งหน้าออกไปนอนที่รีสอร์ต แถวๆ ไทรโยค หรือริมแม่น้ำกันหมด ทำให้ที่พักในเมืองยังมีห้องเหลืออีกพอสมควร ซึ่งในที่สุดก็มาลงเอยที่โรงแรมริเวอร์แคว โรงแรมใหญ่ กลางเมืองกาญจนบุรีนั่นเองครับ

เฮ้อ .. โล่งไปที เสร็จภารกิจหาที่พักได้แล้ว ก็มุ่งหน้าไปเที่ยวล่ะครับ โดยผมยังพอมีเวลาอีกประมาณ 4-5 ชั่วโมง ก่อนที่จะค่ำ ในการขับรถตะลอนๆ ไปตามสถานที่ต่างๆ โดยผมเลือกเส้นทาง ทางหลวงหมายเลข 323 มุ่งหน้าสู่อำเภอไทรโยค ซึ่งก็เล็งๆ ที่เที่ยวไว้ 2 ที่ ก็คือน้ำตกไทรโยคน้อย และน้ำตกไทรโยคใหญ่ .... ใช้เวลาประมาณเกือบๆ 1 ชั่วโมง ก็มาถึงจุดหมายแรกครับ (แต่ก่อนหน้านั้นก็เล่นเอาเกือบจะไปไม่ถึงเหมือนกัน เพราะหวิดจะไปจวกกับรถเบนซ์ ตอนขณะกำลังจะ U-Turn หน้าทางเข้าสถานีรถไฟน้ำตกซะแล้ว) ..... แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ไม่แวะดีกว่า เพราะเห็นรถราจอดกันเต็มพรืด ที่หน้าน้ำตกไทรโยคน้อย พร้อมทั้งคนเดินไปมาข้ามถนน ยังกับมด ผมเลยถอดใจ ขอไปหาความสงบกว่านั้น ที่ดาบหน้าดีกว่า ... ก็โน่นล่ะครับ น้ำตกไทรโยคใหญ่ ซึ่งผมไปถึงในเวลาราวๆ เกือบ 3 โมงเย็นพอดี

ถึงนักท่องเที่ยวจะจัดว่าเยอะ แต่ก็ดูโล่ง ไม่แออัดเหมือนที่ไทรโยคน้อย เรียกได้ว่ากำลังสบายๆ เลยล่ะครับ .... แต่เสียอย่างเดียว คือ วันนั้น น้ำในแม่น้ำแควน้อยสูงมากๆ ทำให้ท่วมน้ำตกไทรโยคใหญ่ จนเหลือความสูงแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง (น้ำตกไทรโยคใหญ่ เป็นน้ำตกที่ตัวน้ำตก มีลักษณะเป็นหน้าผาอยู่ติดกับฝั่งแม่น้ำแควน้อย ถ้าระดับน้ำในแม่น้ำไม่สูง เราก็จะมองเห็นน้ำตกได้ชัดเจน แต่ถ้าระดับน้ำในแม่น้ำสูง น้ำก็จะท่วมน้ำตกไปส่วนนึง)

ไหนๆ ก็มาน้ำตกไทรโยคใหญ่แล้ว ก็ขอถือโอกาสชักภาพมาฝากเล็กๆ น้อยๆ กันก่อนครับ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 18/03/2006
Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น

PostPosted: 31/08/2006 11:12 am    Post subject: Reply with quote

การจะไปชมน้ำตกไทรโยคใหญ่ จากทางด้านหน้า ก็มีอยู่สองแบบ คือ ถ้าไม่เดินข้ามสะพานแขวน แล้วชมจากจุดชมวิว ก็เหมาเรือหางยาว
ให้ไปจอดที่บริเวณหน่าน้ำตกก็ได้ครับ พอดีวันที่ไปนั้น น้ำในแควน้อยขึ้นเยอะมากๆ จนทำเอาน้ำตกไทรโยคใหญ่ เหลือขนาดเล็กนิดเดียว

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 18/03/2006
Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น

PostPosted: 31/08/2006 12:04 pm    Post subject: Reply with quote

เอ ... แล้วต้นกำเนิดของน้ำตกไทรโยคใหญ่ มาจากที่ไหนล่ะ เดินวนไปวนมาสักพัก ก็เห็นป้ายบอกทาง สำหรับไปดูพุต้นน้ำ ระยะทางกำลังดี ประมาณ 500 เมตร จากตัวน้ำตก ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ก็เลยขอแว่บไปดูเสียหน่อยครับ .... เดินลัดเลาะริมลำธารเล็กๆ ไปเรื่อยๆ จนมาสุดอยู่ที่แอ่งน้ำเล็กๆ ตรงริมเนินเขา ซึ่งมีน้ำพุ่งออกมาอย่างแรง ตลอดเวลา อ่านจากคำอธิบายบริเวณใกล้ๆ ก็ทราบว่า ต้นกำเนิดของน้ำตกไทรโยคใหญ่ เกิดจากธารน้ำใต้ดิน เมื่อไหลมาเจอกับรอยแตกของชั้นหิน บริเวณหน้าผา หรือเชิงเขา น้ำก็จะไหลออกมาตามรอยแตก หรือรอยแยกนั้น จนกลายมาเป็นตาน้ำ หรือพุต้นน้ำ แบบที่เห็นในภาพนั่นเองครับ ซึ่งลักษณะการเกิด ก็คล้ายๆ กับพุต้นน้ำ ที่น้ำตกเขาพัง หรือไทรโยคน้อยด้วยเช่นเดียวกัน

แล้วยิ่งฝนตกติดต่อกันแทบทุกวันแบบนี้ น้ำก็เลยเยอะมากเป็นพิเศษ ตามไปด้วย

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 18/03/2006
Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น

PostPosted: 31/08/2006 12:36 pm    Post subject: Reply with quote

ในบริเวณพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติไทรโยค หรือน้ำตกไทรโยคใหญ่ นอกจากจะมีธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาตร์ สมัยสงครามโลกครั้งที่สองด้วย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว เป็นบริเวณค่ายพักของทหารญี่ปุ่น และเชลยศึกสมัยสงคราม อีกทั้งยังเคยมีการวางรางรถไฟผ่านอีกด้วย โดยมีหลักฐานที่เห็นชัดเจน ก็คือ ฐานของสะพานรถไฟ ซึ่งจะอยู่จากแถวๆ พุต้นน้ำไปอีกประมาณ 500 เมตร แต่ในวันนั้นไม่ได้เข้าไปดูหรอกครับ เพราะฝนเริ่มตั้งเค้ามาอีกรอบแล้ว เกรงว่ากว่าจะเดินไปเดินกลับ คงได้เปียกมะล่อกมะแล่ก เป็นลูกหมูตกน้ำไปก่อนแน่ๆ

แต่ก็ยังมีหลักฐานสำคัญอย่างอื่น ให้ดูอีกนะครับ ซึ่งนั่นก็คือ "เตาหุงข้าวของทหารญี่ปุ่น" มีอยู่หลายใบ เอ๊ย หลายเตาเลยทีเดียว พร้อมๆ กับความสงสัยส่วนตัวของผมเอง ว่ามันจะก่อไฟ และทำงานยังไงหว่า แล้วกระทะหรือหม้อที่จะเอามาหุงข้าวเนี่ย จะต้องใหญ่โตมโหฬารขนาดไหน แล้วหม้อนึงจะกินกันกี่คน แล้วก็ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อีกสารพัด

ดูรูปดีกว่าครับ ก่อนที่จะเพ้อเจ้อไปกว่านี้

Click on the image for full size

รูปอาจจะมืดไปสักนิด เพราะสภาพอากาศไม่ค่อยเอื้ออำนวย ฟ้าครึ้มๆ ตลอดวัน

Click on the image for full size

Click on the image for full size

สำหรับบางท่าน ที่อาจจะอ่านข้อความไม่ออก ผมขออนุญาตคัดลอกออกมาให้ใหม่ ตามด้านล่างนี้ครับ

Quote:
เตาหุงข้าวทหารญี่ปุ่น

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2484 กองทหารญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่ประเทศไทย เพื่อจะเข้าตีกองทัพพม่า มีการจัดสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะ เพื่อเคลื่อนย้ายกำลังพล อาวุธ ยุทธโธปกรณ์ โดยยึดพื้นที่บริเวณน้ำตกไทรโยค เป็นสถานที่หุงหาอาหาร ค่ายพัก ค่ายกักกันเชลยศึก เป็นสถานที่หลบภัยดังปรากฏซาก เตาหุงหาอาหาร ทางรถไฟ ร่องรอยประวัติศาสตร์ ให้เห็นจนถึงทุกวันนี้ ในการก่อสร้างทางรถไฟครั้งนั้น ใช้เชลยศึกกว่า 200,000 คน มีเชลยศึกเสียชีวิต จากไข้มาเลเลีย และเหตุทางสงครามกว่า 40,000 คน และในการก่อสร้างต้องยุติกลางคัน เนื่องจากญี่ปุ่นแพ้สงครามในปี 2486

Japanese Troop Stoves

During the World War II Japan moved it armed forces in to Thailand in the year 1941 A.D. The Japanese's ultimate goal was to moved their troops in to Burma. They construction infamous Death Railway and securing the Sai Yok District was imperative to the Japanese's overrun. And today one can still on the earth the remnant of stoves the army built to fed their troops.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 18/03/2006
Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น

PostPosted: 31/08/2006 3:13 pm    Post subject: Reply with quote

ส่งท้ายที่น้ำตกไทรโยคใหญ่ก่อนจะอำลา ด้วยบทกลอนบนแผ่นไม้ หน้าตาแบบในภาพครับผม
ซึ่งว่าด้วยเรื่องราวความรัก ระหว่างต้นสัก และต้นไทร .... แหม เข้าใจคิดจริงๆ

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 18/03/2006
Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น

PostPosted: 31/08/2006 3:46 pm    Post subject: Reply with quote

หลังจากใช้เวลาสักพักใหญ่ อยู่ท่ามกลางความสดชื่นของน้ำตกไทรโยคใหญ่ ก็ได้เวลามาออกแรงเดินทางตามประวัติศาสตร์กันอีกนิดๆ หน่อยๆ จริงๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะแวะในตอนแรก แต่เนื่องจากยังพอมีเวลาอีกเยอะ กว่าจะไปพบกับท่านประธานในตอนเย็น ก็เลยถือโอกาสแวะซะ ต่อให้มาที่นี่สักกี่ครั้ง ผมก็ไม่เบื่อนะครับ เพราะว่ามีอะไรให้ศึกษา และค้นคว้า โดยเฉพาะเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ มากมายหลายอย่างเลยล่ะ ซึ่งที่นี่ก็คือ สถานที่ที่เรียกว่า "ช่องเขาขาด" หรือ "ช่องเขาไฟนรก" หรือ "Hellfire Pass" นั่นเอง

ถ้ามาจากเมืองกาญจน์ ก็ขับรถมาตามทางหลวงหมายเลข 323 มุ่งหน้าสู่ อ.ไทรโยค ด้วยระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้ากองการเกษตรและสหกรณ์ กองกำลังทหารพัฒนา อ.ไทรโยค จะถึงที่ตั้งของอนุสรณ์สถานแห่งนี้ ที่ซึ่งเป็นอนุสรณ์ที่ระลึกถึง ชีวิตสุดแสนจะโหดร้าย ทารุณ และลำเค็ญของเชลยศึกชาวออสเตรเลีย อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และชาวเอเชีย ที่ถูกกองทัพญี่ปุ่น บังคับให้สร้างเส้นทางรถไฟที่ช่องเขาขาด เชื่อมต่อระหว่างไทยกับพม่า เมื่อประมาณ 65 ปีก่อน แต่ในกรณีของผม ต้องขับย้อนลงมาจากน้ำตกไทรโยคใหญ่ โดยใช้เวลาไม่นานประมาณ 10 กว่านาที ก็มาถึงครับ

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 18/03/2006
Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น

PostPosted: 31/08/2006 3:47 pm    Post subject: Reply with quote

สิ่งแรกที่เห็น ก็คือตัวอาคารพิพิธภัณฑ์สีขาว ขนาดกระทัดรัด ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ ซึ่งในเวลาที่ผมไปถึงนั้น เป็นเวลาที่เขาปิดทำการพิพิธภัณฑ์ไปเรียบร้อย ก็เลยไม่ได้เข้าไปดูอะไรข้างใน ไม่งั้นคงจะมีอะไรมาฝากทุกๆ ท่านกันอีกพอสมควร แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ไว้โอกาสหน้าดีกว่า เพราะผมตั้งใจเอาไว้แล้วว่า จะต้องมาบรรลุ Mission แห่งประวัติศาสตร์ที่ช่องเขาขาด แบบสมบูรณ์ให้ได้ในเร็วๆ นี้ ... ซึ่งตามปกติแล้ว พิพิธภัณฑ์ที่เห็นจะ เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. แต่ตอนที่ผมไปนั้น ปาเข้าไป 16.15 น. แล้วล่ะครับ คงได้เห็นแต่ประตูพิพิธภัณฑ์ล่ะ (ถึงว่าสิ ว่าทำไมไม่มีคนเลย ฮ่าๆๆๆ) ... ว่าแล้ว ผมก็เปลี่ยนใจ เดินไปสำรวจตามเส้นทางรถไฟดีกว่า เท่าที่สังเกตด้วยสายตา ก็มีการพัฒนาปรับปรุงสถานที่ใด้ดีขึ้นอยู่เรื่อยๆ นะครับ ทั้งป้ายบอกทาง ป้ายเตือน ข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็น ซึ่งทำออกมาได้ดีทีเดียว

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 18/03/2006
Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น

PostPosted: 31/08/2006 3:54 pm    Post subject: Reply with quote

เดินตามเส้นทางในภาพด้านบนไปเรื่อยๆ ก็จะพบกับทางแยก ซึ่งก็เลือกได้ครับว่าจะเดินขึ้นเขา หรือจะเดินลงไปทางด้านล่าง ซึ่งผมเลือกเส้นทางที่สอง เนื่องจากตอนที่มารอบที่แล้ว ดันเลือกเส้นทางที่ทำให้ต้องเดินขึ้นเขาซะลิ้นห้อย รอบนี้ขอเปลี่ยนเป็นเดินลงบ้างดีกว่า (แต่ขากลับนี่สิ ต้องเดินขึ้น) เดินลงบันไดไปสักพัก ก็พบแล้วล่ะครับ แนวคันทางรถไฟสมัยสงครามโลก อยู่ด้านล่างลิบๆ นั่นแล

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 18/03/2006
Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น

PostPosted: 31/08/2006 4:07 pm    Post subject: Reply with quote

ลงมาถึงข้างล่างแล้ว เท่าที่ดูด้วยตา ก็คิดว่าน่าจะมีการปรับปรุงพื้นที่กันใหม่พอสมควร ดูสวยงามและเรียบร้อยมากกว่าตอนที่ผมเคยมาเมื่อ 4-5 ปีก่อนเยอะเลย อากาศกำลังเย็นสบาย ไม่ร้อนอบอ้าว ซึ่งอาจจะเป็นเพราะฝนกำลังจะตกด้วยกระมัง .... ไม่น่าเชื่อนะครับ ว่าด้วยสถานที่และสภาพภูมิประเทศแบบนี้ เมื่อ 60 กว่าปีก่อน มีขบวนรถไฟแล่นผ่านด้วย

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 18/03/2006
Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น

PostPosted: 31/08/2006 4:15 pm    Post subject: Reply with quote

จากจุดที่ผมลงมาจากบันได ซึ่งก็คือรูปเมื่อสักครู่นี้ หากเดินไปทางทิศตะวันออก ก็จะหันกลับไปยังสถานีรถไฟน้ำตก แต่หากเดินลงไปทิศทางตะวันตก ก็คือเส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปที่ช่องเขาขาด และด่านเจดีย์สามองค์ นั่นเอง ... ระหว่างเดินไป ก็อดจินตนาการถึงภาพการก่อสร้างทางรถไฟของเชลยศึก ในสมัยสงครามโลกไม่ได้ ว่าจะโหดร้าย ทารุณ และน่ากลัวเพียงใด ซึ่งพวกเขาเหล่านั้น ต้องทำงานกันตลอดวันตลอดคืน ถึงแม้ว่าจะมีการผลัดเวรหรือเปลี่ยนกะในการทำงานก็ตาม สองมือของเหล่าบรรดาเชลยศึก คือเครื่องมือสำคัญในการก่อสร้างทางรถไฟสายนี้ โดยทำงานแลกกับเศษอาหารเพียงน้อยนิดเท่านั้น

(ภาพแรก ถ่ายไปทางช่องเขาขาด, สถานีหินตก และด่านเจดีย์สามองค์)

Click on the image for full size

(ส่วนภาพนี้ เป็นการถ่ายย้อนไปทางสถานีน้ำตกนะครับ)

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> พักผ่อนหย่อนใจ All times are GMT + 7 Hours
Goto page 1, 2, 3  Next
Page 1 of 3

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©