รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS

[Mongwin]

'บีทีเอส' แจงพนักงานสำนักงานใหญ่ติดโควิด-19
กรุงเทพธุรกิจ 7 มกราคม 2564

บีทีเอส แจงพนักงานติดโควิด -19 ยันเป็นพนักงานในอาคารสำนักงานใหญ่ เร่งปิดพื้นที่ พร้อมทำความสะอาด

รายงานข่าวจากบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันที่ 7 มกราคม 2564 บริษัทฯ ตรวจพบว่าพนักงานจำนวน 1 ราย ที่ปฏิบัติงานภายในอาคารสำนักงานใหญ่ บริเวณชั้น 2 ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อเป็นการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว ฝ่ายอาคารฯ ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดขั้นสูงสุด โดยปิดพื้นที่ การทำงานชั้นดังกล่าวทันที เพื่อทำความสะอาด ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และพื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงจุดสัมผัสสาธารณะทั้งหมดทันที เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

ข้อมูลไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ

29 ธ.ค. 2563 ไปทานข้าวกับเพื่อน ๆ ที่ร้านตำนัว
30 ธ.ค. 2563 เดินทางมาทำงานตามปกติ โดยรถยนต์ส่วนตัว (ผ่านจุดคัดกรอง ตรวจ
วัดอุณหภูมิ) โดยสวมหน้ากากอนามัยระหว่างปฏิบัติงาน
31 ธ.ค. 2563 – 3 ม.ค. 2564 หยุดปีใหม่
4 ม.ค. 2564 เดินทางมาทำงานตามปกติ โดยรถยนต์ส่วนตัว (ผ่านจุดคัดกรอง
ตรวจวัดอุณหภูมิ)
5 ม.ค. 2564 เดินทางมาทำงานตามปกติ โดยรถยนต์ส่วนตัว (ผ่านจุดคัดกรอง ตรวจวัด อุณหภูมิ) ทราบข่าวเจ้าของร้านเมมโมรีผับ สุขุมวิท105 ย่านบางนา ติดโควิด–19 ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกันกับร้านตำนัว จึงขอหยุดงานเพื่อไปพบแพทย์ เดินทางออกจากบริษัทฯ เวลา 16.00 น. แพทย์แจ้งเบื้องต้นว่าอาจเป็นไซนัส และนัดตรวจเพิ่มเติมในวันรุ่งขึ้น
6 ม.ค. 2564 พบแพทย์เวลา 13.00 น. และตรวจโควิด-19 ที่ ร.พ. ศิครินทร์
7 ม.ค. 2564 ได้รับผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 เวลา 15.00 น. บริษัทฯ ปิดทำความสะอาดอาคารสำนักงานใหญ่ทันที

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน และผู้โดยสารทุกท่านเป็นสำคัญ รวมถึงให้พนักงานกลุ่มเสี่ยง ไปรับการตรวจหาเชื้อไวรัส (Swab test) ทันที และทำการกักกั้นตัวเองไว้สังเกตอาการในที่พักเป็นเวลา 14 วัน หรือตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อสังเกตอาการและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และบริษัทฯ ขอแจ้งว่า พนักงานคนดังกล่าว ไม่ได้มีส่วนทำงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการการเดินรถไฟฟ้าแต่อย่างใด

[Wisarut]

BTS-แอร์พอร์ตลิงก์ เลี่ยงโควิดจัด “วันเด็กวิถีใหม่” ผ่านออนไลน์แจกถุงผ้า-บัตรของขวัญ
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 6 มกราคม 2564 - 15:13 น.

วันเด็กวิถีใหม่ยุคโควิด BTS-แอร์พอร์ตลิ้งก์ จัดงานแบบออนไลน์ “บีทีเอส” จัดกิจกรรมถ่ายรูปรักษ์โลกแจกถุงผ้า – เด็กสูงไม่เกิน 140 ซม./อายุไม่เกิน 14 ปี มากับผู้ปกครองนั่งฟรีสายสีเขียว-สีทอง-บีอาร์ที ด้านแอร์พอร์ตลิ้งก์จัดแชะถ่ายรูป แจกบัตรของขวัญ 1,000 บาท

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 9 ม.ค. 2564 บริษัทขอเชิญชวนเด็กไทยทุกคน มาทำกิจกรรมรักษ์โลก ในแบบวิถีใหม่ กับรถไฟฟ้าบีทีเอส แทนการออกเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพ เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในปัจจุบัน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ

BTS รักษ์โลกแจกถุงผ้า
เพื่อความปลอดภัยของทุกคน จึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบงานวันเด็กแห่งชาติ โดยการส่งเสริมให้เด็กไทย หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่บ้านของตนเองกับครอบครัว เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และให้สอดคล้องตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่รัฐบาลได้ขอความร่วมมือไว้

โดยการโพสต์ภาพถ่ายกิจกรรม “วันเด็ก วิถีใหม่” ชวนเด็กไทยรักษ์โลก พร้อมกับครอบครัว อาทิ การปลูกต้นไม้ การทิ้งขยะคัดแยกถูกต้อง การนำของใช้เก่ามาประดิษฐ์กลับมารีไซเคิลใช้ได้ใหม่ ผ่าน Facebook Fanpage รถไฟฟ้าบีทีเอส กิจกรรมใดตรงใจแอดมิน รับเลยถุงผ้ารักษ์โลกสีสันสดใส พร้อมหน้ากากผ้าบีทีเอส จัดส่งถึงบ้านผู้โชคดี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันที่ 9 -10 ม.ค. 2564 เท่านั้น



ขึ้นฟรีทุกสถานีสายสีเขียว-สีทอง-บีอาร์ที
ทั้งนี้ ในวันเด็กแห่งชาติ รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าสายสีทอง รถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ที ยังเปิดโอกาสให้เด็กที่มีความสูงไม่เกิน 140 ซม. หรืออายุไม่เกิน 14 ปี ที่เดินทางมากับผู้ปกครอง และขึ้น-ลงสถานีเดียวกัน เดินทางฟรีตลอดสายทุกเส้นทาง โดยติดต่อขอรับบัตรโดยสารเดินทางฟรีได้ทุกสถานี


และเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ขอให้ผู้โดยสารทุกท่านระมัดระวังตนเองตลอดการเดินทาง เน้นย้ำให้ผู้โดยสารทุกท่านต้องสวมหน้ากากอนามัย / หน้ากากผ้า และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อที่บีทีเอสเตรียมไว้ให้ ณ โต๊ะตรวจการบริเวณทางเข้า – ออกทุกสถานี เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่อบุตรหลานและตัวท่านเอง

แอร์พอร์ตลิงก์แจกบัตรของขวัญ
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้จัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติมาโดยตลอดเป็นประจำทุกปี แต่ในปีนี้พื้นที่กรุงเทพฯ กำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 บริษัทจึงปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดกิจกรรมวันเด็กเป็นในรูปแบบออนไลน์แทน เพื่อลดความเสี่ยงและให้สอดคล้องตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด

โดยเปิดโอกาสให้ผู้โดยสาร หรือเด็ก ๆ ได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมผ่าน Facebook : Airport Rail Link ( Official Page ) ด้วยกติกาง่าย ๆ เพียงโพสต์ภาพถ่ายในวัยเด็กของตัวเองใต้โพสต์กิจกรรม ในวันที่ 9 ม.ค. 2564 นี้

โดย 30 ภาพถ่ายในวัยเด็กที่มียอดกดถูกใจสูงสุด รับฟรีบัตรของขวัญ ( Gift Card ) สำหรับเลือกซื้อ อุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์การเรียนการศึกษา หรือของขวัญอื่น ๆ มูลค่า 1,000 บาท รวม 30 ภาพถ่าย 30 รางวัล จัดส่งตรงถึงบ้านผู้โชคดีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

[Wisarut]

เส้นตายเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวมาแล้ว
THAN TALK
7 มกราคม 2564 เวลา 15:53 น.



THAN TALK - 07/01/64 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00 -11.50 น. เจาะลึก เส้นตายเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวมาแล้ว เป็นอย่างไรติดตามได้จากรายการ

https://www.youtube.com/watch?v=jlHThPWKZI4

[Wisarut]

[Wisarut]

เปิดใช้ ก.พ.64 BTS สถานี ศึกษาวิทยา รับตึกหรูพรึบ
เผยแพร่: 8 มกราคม 2564 เวลา 12:53

ดีเดย์ เดือนหน้า (ก.พ.64) BTS เปิดให้บริการสถานีศึกษาวิทยา สาทรใต้ ย้ำ ดักคนได้อีกกว่า5,000 คน หลัง คอนโดหรูแบนด์ดังอาคารสำนักงานเกรดพรีเมียมพรึบ AIA -ตึกหุ่นยนต์ UOB สำนักงานใหญ่ คอนโดหรูค่าย AP

[Wisarut]

[Wisarut]

"นับถอยหลัง 10 วัน กทม.ผ่าทางตันค่าโดยสารรถไฟฟ้าพุ่ง
THAN TALK
11 มกราคม 2564 เวลา 15:53 น.


THAN TALK - 11/01/64 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00 -11.50 น. เจาะลึก นับถอยหลัง 10 วัน กทม.ผ่าทางตันค่าโดยสารรถไฟฟ้าพุ่ง เป็นอย่างไรติดตามได้จากรายการ

https://www.youtube.com/watch?v=bXLI5-bWH8E

[Wisarut]

ให้นั่งฟรีอีก 1 เดือน ตัดปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว
อสังหาริมทรัพย์

วันที่ 8 มกราคม 2564 - 18:04 น.





รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย “หมอชิต-คูคต” และ “แบริ่ง-สมุทรปราการ” นั่งฟรีอีก 1 เดือน รอ “ครม.ประยุทธ์” อนุมัติยืดสัมปทาน 30 ปี หากไฟเขียวเก็บค่าตั๋ว 15-65 บาท ยื้อต่อ “กทม.-บีทีเอส-เคที” ไม่รอ ชง 3 สูตรเก็บค่าโดยสารใหม่ให้ “อัศวิน ขวัญเมือง” เคาะ ไม่เกิน 158 บาท 161 บาท และ 131 บาท หารายได้ จ่อขอรัฐอุดหนุนหมื่นล้านจ่ายหนี้ ส่วนสายสีทอง ดีเดย์ 16 ม.ค.นี้ เก็บ 15 บาทตลอดสาย

แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กทม.รอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ระยะเวลา 30 ปี เริ่มต้นสัญญาใหม่หลังสัมปทานเดิมสิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค. 2572-4 ธ.ค. 2602 โดยเอกชนจะรับภาระหนี้กว่า 1 แสนล้านบาท แทน กทม. มีค่าก่อสร้างส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่รับโอนจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ประมาณ 6-7 หมื่นล้านบาท ที่เหลือเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ ค่าจ้างเดินรถ เป็นต้น

ทั้งนี้ กทม.ได้ชี้แจง 4 ข้อคิดเห็นของกระทรวงคมนาคมไปยัง ครม.แล้ว จะไม่มีเปลี่ยนรายละเอียดแต่อย่างใด เนื่องจากคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาตาม ม.44 ได้มีการเจรจาจบไปนานแล้ว โดยเฉพาะค่าโดยสารใหม่มีเก็บค่าแรกเข้าครั้งเดียว และคิดตามระยะทางในอัตรา 15-65 บาท ยังคงเดิม

“รอลุ้นจะเข้า ครม.วันที่ 12 ม.ค.นี้หรือไม่ เพราะโปรโมชั่นใช้ฟรีส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ จะสิ้นสุดวันที่ 15 ม.ค.นี้ แต่ดูแล้วคงให้ใช้ฟรีต่อไปอีกประมาณ 1 เดือนครึ่ง เพราะถึง ครม.จะอนุมัติสัมปทาน แต่ต้องเซตระบบเก็บค่าโดยสารใหม่อย่างน้อย 1 เดือน”


แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ยังไม่อนุมัติสัมปทาน กทม.มีแผนสำรอง เนื่องจาก กทม.จะต้องนำรายได้จากค่าโดยสารจ่ายค่าจ้างเดินรถส่วนต่อขยายให้บีทีเอส ขณะเดียวกัน กทม.ติดหนี้ค่าจ้างเดินรถบีทีเอสอยู่ร่วม 9,000 ล้านบาท ยังมีค่าอื่น ๆ เช่น อุดหนุนค่าโดยสารส่วนต่อขยาย 1,500 ล้านบาท/ปี ต้องขอเงินจากรัฐบาลปีละ 10,000 ล้านบาท ตอนนี้บีทีเอสแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเดินรถไม่ไหว เพราะสถานการณ์โควิด-19 ผู้โดยสารลดลงมาก จากเฉลี่ยวันละ 7-8 แสนเที่ยวคน/วัน เหลืออยู่ 50-60%

ผลหารือร่วมกันระหว่าง กทม. บีทีเอส และ บจ.กรุงเทพธนาคม (KT) มี 3 โมเดลเก็บค่าโดยสารสายสีเขียวช่วงคูคต-สมุทรปราการ ให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.พิจารณา ได้แก่ 1.ราคา 158 บาท แยกเป็น ส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต 15-60 บาท ส่วนสัมปทานบีทีเอส (หมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน) 16-44 บาท ส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง และตากสิน-บางหว้า 15 บาท และส่วนต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ 15-39 บาท


2.ราคา 161 บาท มีส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต ราคา 15-60 บาท สัมปทานบีทีเอส 16-44 บาท และส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง-สมุทรปราการ ราคา 15-57 บาท โดยโมเดลที่ 1 และ 2 จะเก็บค่าแรกเข้า 3 ช่วง และ 3.ราคา 131 บาท มีส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต 15-60 บาท สัมปทานบีทีเอส 16-44 บาท และส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง-สมุทรปราการ ราคา 15-57 บาท จะเก็บค่าแรกเข้าครั้งเดียว 15 บาท ช่วงเป็นสัมปทานบีทีเอส

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ส่วนสายสีทองระยะที่ 1 กรุงธนบุรี-คลองสาน มี 3 สถานี จะเก็บค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย วันที่ 16 ม.ค. 2564 เป็นต้นไป ปัจจุบันจากโควิดทำให้ผู้โดยสารลดลง 50% จากเฉลี่ย 9,000-10,000 เที่ยวคน/วัน เหลือ 5,000-6,000 เที่ยวคน/วัน โดยสถานีไอคอนสยามมีคนใช้บริการ 3,000 เที่ยวคน/วัน

[Wisarut]

เปิดภาระหนี้ 3 ก้อนใหญ่ กทม.จ่อล้มละลายปมรถไฟฟ้าสายสีเขียว
8 มกราคม 2564
เปิดตัวเลขหนี้กทม.ต้องแบกรับภาระรถไฟฟ้าสายสีเขียว ชี้หนี้ 3 ก้อนใหญ่ทั้งหนี้งานโยธา งานระบบ และค่าจ้างเดินรถ ทำ กทม.แบกหนี้ทะลุ 1 แสนล้านบาท เร่งหาทางออกต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว
รายงานข่าวแจ้งว่า การต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวระยะเวลา 30 ปี ระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) และบมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอส ที่ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งจะทำให้ กทม.ต้องแบกรับภาระหนี้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท หากไม่มีการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งกทม.ไม่มีเงินที่จะนำมาจ่ายหนี้ดังกล่าว ซึ่งเสี่ยงที่จะเป็นองค์กรล้มละลาย

ทั้งนี้ หนี้ที่กทม.จะต้องแบกรับภาระแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่

1.หนี้งานโยธาและดอกเบี้ยถึงปี 2572 ที่กทม.ต้องรับมาจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. เป็นเงินต้น 55,704 ล้านบาท ดอกเบี้ย 13,401 ล้านบาท รวม 69,105 ล้านบาท

2.หนี้ค่างานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล 20,248 ล้านบาท ที่กทม.ต้องจ่ายให้บีทีเอส และมีกำหนดจ่ายภายในเดือนมีนาคม 2564 นี้

3.หนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 9,377 ล้านบาท โดยเป็นค่าจ้างเดินรถเฉลี่ยประมาณเดือนละ 600 ล้านบาท





อย่างไรก็ตาม หากมีการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไป 30 ปี นอกจากจะทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดทั้งเส้นทางตั้งแต่สมุทรปราการถึงคูคต รวมระยะทาง 68 กิโลเมตร 59 สถานี ถูกลงจาก 158 บาท เหลือไม่เกิน 65 บาทแล้ว

โดยจะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ กทม.ไม่ต้องแบกรับภาระหนี้ก้อนใหญ่ที่จะถูกโอนหนี้ทั้งหมดไปให้บีทีเอสรับผิดชอบ และหลังจากที่มีการต่อสัญญาสัมปทานออกไป 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2572 บีทีเอสจะต้องแบ่งรายได้ให้กทม.ตามสัดส่วนที่ตกลงกันไว้มากกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งกทม.จะต้องเร่งหาทางออกเรื่องดังกล่าวกับรัฐบาลในการ่วมกันแก้ไขปัญหา
https://www.facebook.com/bangkokbiznews/photos/a.135275764814/10162382182589815/

[Wisarut]

บีทีเอสเพิ่มความถี่ชั่วโมงเร่งด่วน เพิ่มพื้นที่เว้นระยะห่างภายในขบวนรถ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: อังคารที่ 12 มกราคม 2564 เวลา 12:27 น.

บีทีเอส เพิ่มความถี่เดินรถไฟฟ้า ย้ำ 5 มาตรการคุมโควิด
เผยแพร่: อังคารที่ 12 มกราคม 2564 เวลา 11:28 น.

บีทีเอส ปรับความถี่เดินรถไฟฟ้า ลดแออัดช่วงเร่งด่วนสกัดโควิด
อสังหาริมทรัพย์

เผยแพร่: อังคารที่ 12 มกราคม 2564 เวลา 11:39 น.





ห่วงใยผู้โดยสารเดินทางช่วงโควิด เพิ่มความถี่การเดินรถ ส่งเสริม Social Distancing ลดแออัดชั่วโมงเร่งด่วนบนรถไฟฟ้า แนะเผื่อเวลาเดินทาง
บีทีเอส เพิ่มความถี่เดินรถ สูงสุดเป็น 2 นาที 25 วินาที ในช่วงเวลาเร่งด่วน ย้ำ 5 มาตรการคุมโควิด-19 เพิ่มมาตรการส่งเสริม Social Distancing

บีทีเอสเพิ่มความถี่การเดินรถชั่วโมงเร่งด่วนเป็น 2.25 นาที/ขบวน เพื่อลดความแออัดผู้โดยสารตามมาตรการเว้นระยะห่างป้องกัน “โควิด-19” และยังคงดำเนินมาตรการลดความเสี่ยงต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทวีความรุนแรงมาอีกระลอกนั้น เพื่อความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดให้แก่ผู้โดยสาร และสร้างความมั่นใจในการใช้บริการ แม้ว่าในขณะนี้จำนวนผู้โดยสารจะลดลง บริษัทฯ ยังคงนำขบวนรถไฟฟ้าออกวิ่งให้บริการมากที่สุดเพื่อเพิ่มการให้บริการด้วยความถี่สูงสุดเป็น 2 นาที 25 วินาที จากเดิม 2 นาที 40 วินาที ในช่วงเวลาเร่งด่วน เพื่อส่งเสริมมาตรการ Social Distancing นอกเหนือจากมาตรการลดความเสี่ยงต่างๆ ที่ได้ดำเนินการมาแล้วอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้

ได้แก่ 1. คัดกรองอุณหภูมิของผู้โดยสารก่อนเข้าใช้บริการในระบบ อุณหภูมิต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส พร้อมทั้งคัดกรองสุขภาพของเจ้าหน้าที่พนักงานทุกครั้งก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ ให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานต้องสวมหน้ากากอนามัย และถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด
2. ให้ผู้โดยสารทุกท่านต้องสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า และตลอดเวลาที่ใช้บริการไม่นำหน้ากากลงมาไว้ใต้คาง พร้อมทั้งงดการพูดคุยภายในขบวนรถไฟฟ้า หลีกเลี่ยงการหันหน้าเข้าหากัน เว้นระยะห่างในการยืน และนั่งภายในขบวนรถไฟฟ้า และชานชาลา

3. จัดจุดบริการแอลกอฮอล์ทุกทางเข้า-ออกสถานี พร้อมเพิ่มความถี่ในการฉีดพ่น และเช็ดทำความสะอาดภายในขบวนรถไฟฟ้า และจุดสัมผัสร่วมภายในสถานีทุกชั่วโมง และบริเวณรอบสถานีด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
4. จัดบริการแอลกอฮอล์เคลื่อนที่บนชั้นชานชาลาสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร
5. ขอความร่วมมือผู้โดยสารทุกท่านลงทะเบียน “ไทยชนะ” เมื่อเข้า และออกจากขบวนรถไฟฟ้าขบวนนั้นๆ ด้วยการพิมพ์หมายเลขรถไฟฟ้า 4 หลักลงใน Application ‘BTS SkyTrain’ หรือ Line official : @btsskytrain

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอความร่วมมือผู้โดยสารทุกท่านโปรดเผื่อเวลาในการเดินทาง เพื่อกระจายการเดินทาง ลดความหนาแน่น บริษัทฯ ต้องขออภัยในความไม่สะดวก และจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจแก่ผู้มาใช้บริการทุกท่าน
https://www.thebangkokinsight.com/526271/