Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311235
ทั่วไป:13181310
ทั้งหมด:13492545
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 88, 89, 90 ... 155, 156, 157  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 08/07/2019 10:26 am    Post subject: Reply with quote

หึ่ง!'กทม.'ประเคน สัมปทานBTS40ปี

08 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 00:01 น.



กทม.จ่อประเคนสัมปทานอีก 40 ปีให้ "บีทีเอส" ต่อสัญญาเหมาเข่ง 2 เส้นแลกหนี้ 1 แสนล้าน เอกชนยื้อปิดดีลค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาท "อนาคตใหม่" แฉ คสช.ทิ้งทวนอนุมัติ 6 เมกะโปรเจ็กต์เอื้อกลุ่มทุนยักษ์ ปลุกสังคมร่วมจับตา-กดดันรัฐบาล
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยถึงความคืบหน้าการบริหารรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า ล่าสุดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เลือกใช้แนวทางต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้อีก 40 ปี แบบเหมาเข่งทั้งสองสัญญาสัมปทานเดินรถ ได้แก่ สัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวของบีทีเอสสายหลักช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสินนั้น จะหมดสัญญาลงในปี 2572 ขณะที่สัญญาสัมปทานเดินรถส่วนต่อขยายช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และสะพานตากสิน-บางหว้า จะหมดในปี 2585 เพื่อให้การเดินทางของประชาชนมีความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อระบบไม่ต้องลงจากขบวนเพื่อเปลี่ยนคัน หากจ้างเอกชนสองรายเดินรถ จะต้องมีการเปลี่ยนขบวน เพราะเป็นรถไฟฟ้าคนละระบบกัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับผู้เดินรถรายเดิมคือบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ถึงช่วงเวลาการขยายสัญญาของทั้งสองสัมปทานออกไปอีก 40 ปี โดยแลกเปลี่ยนกับเงื่อนไข 3 ข้อ อาทิ เอกชนต้องลงทุนส่วนต่อขยายเองทั้งหมดและจ่ายส่วนแบ่งรายปีให้ กทม. ตามที่ตกลงกัน และรับภาระค่าโอนหนี้สินและทรัพย์สินของโครงการมูลค่า 1 แสนล้านบาท เป็นต้น แต่เงื่อนไขที่ทำให้การเจรจานั้น ล่าช้ามานานนับเดือน แม้ว่าฝ่ายนโยบายได้สั่งการให้เร่งรัด คือข้อเสนอเรื่องราคาค่าโดยสารตลอดสายที่ไม่เกิน 65 บาท ตั้งแต่ช่วง คูคต-สมุทรปราการ หรือช่วงคูคต-บางหว้า เป็นสิ่งที่ผู้เดินรถนั้นรับไม่ได้ เพราะมองว่าไม่คุ้มค่าต่อการทำธุรกิจเดินรถ ส่วนการเจรจาเรื่องค่าแรกเข้า บีทีเอสมีท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะยอมยกเลิกค่าแรกเข้าเมื่อเชื่อมต่อตั๋วร่วมระบบบัตร EMV แล้ว
แหล่งข่าวระบุว่า มีเสียงต่อต้านเรื่องค่ารถไฟฟ้าจากหลายภาคส่วนในสังคม โดยเฉพาะการเสนอให้รัฐบาลทบทวนต้นทุนค่าโดยสารรถไฟฟ้าใหม่ ให้สอดคล้องกับบริบทการขยายตัวของเมืองหลวงเหมือนในต่างประเทศที่เจริญแล้ว มีค่ารถไฟฟ้าถูกกว่าไทยหลายเท่าตัว เนื่องจากต้นทุนการเดินรถไฟฟ้าของไทยคิดแค่เฉพาะต้นทุนประกอบการธุรกิจเดินรถพร้อมกำหนดราคาที่ตายตัวไว้ในสัญญาสัมปทาน แตกต่างกับในต่างประเทศ มีการนำตัวเลขมูลค่าผลประโยชน์ด้านอื่นมาคิดคำนวณด้วย อาทิ รายได้จากค่าธุรกิจสื่อภายในสถานี รายได้เชิงพาณิชย์จากตัวสถานี และรายได้จากการพัฒนาพื้นที่ตามแนวเส้นทาง
“ดังนั้นจะเห็นได้ว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลเกิดขึ้นพร้อมกับเส้นทางรถไฟฟ้า จึงจำเป็นต้องนำมาคำนวณในการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าด้วย หากใช้แนวทางดังกล่าวมีโอกาสที่ค่ารถไฟฟ้าจะถูกลงกว่าเดิม ซึ่งบริษัทผู้เดินรถจะอ้างว่าเป็นเพียงรับจ้างเดินรถไม่ได้ เพราะว่าผู้เดินรถเองก็มีบริษัทลูกในการลงทุนในกิจกรรมอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง โดยพบว่าเมื่อรถไฟฟ้าเกิดขึ้น ส่งผลให้ราคาพื้นที่ตามแนวเส้นทางเพิ่มสูงขึ้น 8-10 เท่าตัวจากราคาเดิม ผู้เดินรถจะมองแค่ว่าเป็นเพียงบริษัทเดินรถไม่ได้ เส้นทางครอบคลุมกรุงเทพฯ มากกว่า 30%" แหล่งข่าวกล่าว และว่า ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกใช้แนวทางดังกล่าวเพื่อลดภาระค่าโดยสารให้กับประชาชน ซึ่งประเทศไทยมีค่ารถไฟฟ้าแพงติดอันดับโลก ขณะที่ค่าครองชีพของประชาชนสวนทางอย่างที่มีการเปรียบเทียบกันไปแล้วในข้อมูลศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ (ทีดีอาร์ไอ) ซึ่งพบว่าค่าโดยสารแพงกว่าอังกฤษและสิงคโปร์
เบรกสายสีเขียวส่วนต่อขยาย
นอกจากนี้ยังได้รับรายงานว่า กทม.ได้ตัดสินใจชะลอแผนลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ส่วนต่อขยาย ช่วงสมุทรปราการ-บางปู วงเงิน 1.37 หมื่นล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือส่วนต่อขยาย ช่วงคูคต-ลำลูกกา วงเงิน 1.19 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมองว่าอาจไม่มีบริษัทเอกชนสนใจลงทุน เพราะเป็นเส้นทางชานเมืองที่มีผู้โดยสารไม่มากนัก เช่นเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงชานเมือง ดังนั้นจึงต้องการรอให้รถไฟฟ้าสายใหม่ อาทิ สายสีชมพู สายสีเหลือง และสายสีส้ม เปิดบริการก่อน เพื่อประเมินทิศทางความต้องการของผู้โดยสารอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคมได้ชะลอโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ด้วยเหตุผลในทำนองเดียวกันนี้
ด้านนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 ก.ค.นี้ รฟม.พร้อมด้วยผู้แทน กทม. บีทีเอส และผู้บริหารบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด จะร่วมคณะนำสื่อมวลชนทดสอบระบบและการให้บริการของโครงการหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ช่วง 1 สถานี จากหมอชิตไปถึงสถานี 5 แยกลาดพร้าว ซึ่งความคืบหน้าในส่วนของงานโยธา ที่ รฟม.รับผิดชอบถือว่าเสร็จสมบูรณ์ 99.99% แล้ว ก่อนที่โครงการจะเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการในวันที่ 11 ส.ค.นี้ และทราบว่า กทม.จะเรียนเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการเดินรถในวันดังกล่าว
วันเดียวกัน นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกรณีการเสนอญัตติด่วนเพื่อให้ที่ประชุมตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญศึกษาการต่ออายุสัมปทานของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือค่าโง่ทางด่วน ว่าน่าจะได้อภิปรายและตั้ง กมธ.ได้ในวันที่ 10 หรือ 11 ก.ค.นี้ ทั้งนี้ทราบมาว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ได้ทำหนังสือไปถึงการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อให้ดำเนินการส่งหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อหารือเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและปฏิบัติได้ถูกต้องก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และระหว่างรอผลการพิจารณาของ สคร. ให้ กทพ.นำข้อสังเกตของอัยการสูงสุดไปพิจารณาดำเนินการให้เกิดความชัดเจน ซึ่งต้องขอขอบคุณนายอาคมและ ครม. ที่คำนึงถึงค่าเสียหายของประเทศชาติเป็นหลัก

ที่อาคารไทยซัมมิท น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ร่วมแถลงข่าวกรณีการทิ้งทวนอนุมัติโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการอย่างผิดปกติให้แก่กลุ่มทุนขนาดใหญ่ โดยรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กำลังจะหมดวาระ พร้อมขอให้สังคมช่วยกันจับตาโครงการเหล่านี้
คสช.ทิ้งทวน 6 โปรเจ็กต์ยักษ์

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ขอให้ประชาชนได้ร่วมกันจับตาโครงการต่างๆ ที่รัฐบาล คสช.กำลังทิ้งทวน ให้เกิดการประมูลหรือการให้สัมปทานอย่างรวดเร็วในช่วงรอยต่อระหว่างรัฐบาล เพื่อปกป้องงบประมาณแผ่นดินอันมาจากภาษีของประชาชน ไม่ให้ถูกใช้ไปเพื่อเอื้อประโยชน์กับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาล คสช. โดยโครงการต่างๆ ในส่วนที่มีการอนุมัติผ่านไปแล้ว ประกอบไปด้วย

1.โครงการนำสายเคเบิลลงดิน หรือโครงการท่อร้อยสาย มูลค่า 20,000 ล้านบาท ที่รัฐให้สัมปทานกับบริษัท ทรู คอร์เปอเรชั่น จำกัด โดยเดิมโครงการนี้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ กทม. โดย กทม.ได้ให้สัมปทานกับบริษัทกรุงเทพธนาคมฯ แต่ต่อมาบริษัท กรุงเทพธนาคมฯ ก็ได้เปิดประมูลให้สัมปทาน ซึ่งผู้ชนะคือบริษัท ทรู คอร์เปอเรชั่นฯ ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนได้เสียโดยตรง
โครงการนี้มีความน่ากังวลคือมีการผูกขาดถึงสองชั้น ชั้นแรกมีการผูกขาดให้กับบริษัท กรุงเทพธนาคมฯ ต่อมามีการเปิดประมูลอีก โดยมีบริษัทเดียวที่ยื่นซองประมูลอยู่ จากผู้แสดงความจำนงทั้งหมด 19 ราย ก็คือบริษัท ทรู คอร์เปอเรชั่นฯ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไม่เคยมีการเปิดเผยถึงรายละเอียดโครงการ จึงขอเรียกร้องว่าควรต้องนำเอาโครงการนี้เข้าพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (พีพีพี) ให้บอร์ดพีพีพีได้พิจารณาถึงความเหมาะสม รวมทั้งเปิดเผยขอบเขตของงาน (ทีโออาร์) ให้แก่สาธารณชนรับทราบด้วย


2.โครงการยืดหนี้ให้แก่กลุ่มทุนโทรคมนาคมและทีวีดิจิทัล เป็นเม็ดเงินกว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้กลุ่มทุนโทรคมนาคมได้ประโยชน์ 20,000 ล้านบาท ส่วนกลุ่มทุนทีวีดิจิทัลจะได้ประโยชน์อีกประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยจะนำค่าธรรมเนียมที่ได้จากการให้ใบอนุญาต 5 จีมาชดเชยในส่วนนี้ ซึ่งเป็นการแจกให้โดยไม่มีการเปิดประมูล จึงขอเรียกร้องว่าควรต้องมีการประมูล ไม่ใช่การแจกแบบที่ผ่านมา

3.การให้สัมปทานร้านค้าปลอดภาษีใน 4 สนามบิน ทั้งร้านค้าปลอดภาษีและพื้นที่ทางพาณิชย์ทั้งหมด ซึ่งได้ผู้ชนะการประมูลไปแล้วก็คือบริษัท คิงเพาเวอร์ฯ ซึ่งขอเรียกร้องว่าอีกไม่นานจะมีการประมูลพื้นที่รับสินค้า หรือ pick-up counter ในเมืองขึ้นอีก ที่ผ่านมามีปัญหาคือผู้ได้สัมปทานดังกล่าวเป็นเจ้าเดียวกันกับผู้ได้สัมปทานร้านค้าปลอดภาษี ดังนั้นเมื่อมีการเปิดประมูลเกิดขึ้น ผู้ที่ได้สัมปทานทำร้านค้าปลอดภาษีไม่ควรที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีก
"ขอเรียกร้องประชาชนว่าอย่าจับตาเพียงอย่างเดียว แต่ขอให้ร่วมกดดัน ส่งเสียงให้ดังไปจนถึงรัฐบาล ให้แรงกดดันจากสังคมภายนอกนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ” น.ส.ศิริกัญญาระบุ
นายสุรเชษฐ์แถลงว่า มีอีก 3 โครงการด้านคมนาคมที่กำลังจะเกิดขึ้น ประกอบด้วย
1.โครงการขยายสัมปทานทางด่วน มูลค่ากว่า 424,756 ล้านบาท ให้กับบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด ซึ่งสัมปทานทางด่วนดังกล่าวกำลังจะหมดอายุในต้นปีหน้า จึงมีความพยายามขยายสัมปทานนี้ออกไปอีก 30 ปีโดยมิชอบ เนื่องจากเป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากการนำกรณีพิพาทต่างๆ ที่รัฐต้องชดใช้ให้แก่บริษัททางด่วนกรุงเทพ ทั้งกรณีที่ศาลได้พิพากษาจนถึงที่สุดไปแล้ว และกรณีพิพาทที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา มามัดรวมในการอนุมัติขยายสัมปทานทางด่วนนี้เป็นก้อนเดียวกัน เป็นเงินจำนวนถึง 424,756 ล้านบาท และมีการเร่งรีบอย่างผิดปกติ อย่างไรก็ตาม โชคดีที่ประเด็นนี้มีการบรรจุลงเป็นญัตติในที่ประชุมสภาแล้ว โดยผู้เสนอเป็นพรรคฝ่ายรัฐบาลเอง ซึ่งหวังว่าจะไม่มีการกลับลำจากผู้เสนอในสัปดาห์หน้า

2.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ให้กับกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ ประเด็นนี้เป็นญัตติเข้าสภาไปแล้วเช่นกัน ซึ่งหลายฝ่ายเห็นตรงกันว่าโครงการนี้มีการประมูลแบบไม่ปกติ เนื่องจากมีความพยายามพ่วงสิ่งต่างๆ เข้าไป เช่น แผนการพัฒนาที่ดินรอบสถานี ซึ่งเป็นหลักมากกว่าแผนการพัฒนาเส้นทางรถไฟด้วยซ้ำ โดยรัฐต้องออกเงินช่วยเหลือเป็นเงินจำนวน 117,227 ล้านบาท จึงควรเรียกว่าเป็นโครงการเชื่อมต่อที่ดินซีพีด้วยภาษีประชาชนเสียมากกว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา ต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อระงับและดำเนินการตรวจสอบโดยเร็ว
3.โครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-โคราช มูลค่ากว่า 180,000 ล้านบาท ที่นำไปประเคนให้กับจีน รวมทั้งการอนุมัติทั้งรถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ และรถไฟความเร็วสูงอัดเข้าไปพร้อมๆ กันในพื้นที่เดียว แทนที่จะปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในเมืองหรือระบบขนส่งในด้านอื่นๆ ให้เพียงพอก่อน เช่น รถไฟรางคู่ หรือระบบรถเมล์ในเมืองโคราช ขณะที่รถไฟความเร็วสูงเส้นทางนี้จะถูกใช้น้อยกว่าระบบอื่น และรัฐต้องเอางบประมาณไปสนับสนุนทุกปี โดยคาดว่าโครงการนี้จะขาดทุนยิ่งกว่ารถไฟฟ้าสายสีม่วงด้วยซ้ำ.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 08/07/2019 4:41 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
หึ่ง!'กทม.'ประเคน สัมปทานBTS40ปี

08 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 00:01 น.


ยืดสัมปทาน‘BTS’40ปี กทม.ยื่นเงื่อนไข3ข้อแลกเปลี่ยน
วันจันทร์ ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าการบริหารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า ในล่าสุดทางกรุงเทพมหานคร(กทม.)ได้เลือกใช้แนวทางต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้อีก 40 ปี แบบเหมารวมทั้ง 2 สัญญาสัมปทานเดินรถ ได้แก่ สัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวของ BTS สายหลักที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน คือ1.ช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และ 2.สนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน ที่จะหมดสัญญาลงในปี 2572 ทั้งนี้เพื่อให้การเดินทางมีความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อระบบการเดินทาง และหากจ้างเอกชน 2 ราย เดินรถจะต้องมีปัญหาในการเปลี่ยนขบวนเพราะเป็นรถไฟฟ้าคนละระบบกัน



ส่วนสัญญาสัมปทานเดินรถส่วนต่อขยาย ช่วงอ่อนนุช-แบริ่งและสะพานตากสิน-บางหว้าจะหมดในปี 2585

ไม่พลาดข่าวสำคัญ ติดตาม LINE@แนวหน้า ที่นี่

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับผู้เดินรถรายเดิม คือ BTS เกี่ยวกับการขยายสัญญาของทั้ง 2 สัญญาสัมปทานออกไปอีก 40 ปี โดยแลกเปลี่ยนกับเงื่อนไข 3 ข้อ ได้แก่ 1.เอกชนต้องลงทุนส่วนต่อขยายเองทั้งหมด 2.จ่ายส่วนแบ่งรายปีให้กรุงเทพมหานคร ตามที่ตกลงกัน และ 3.รับภาระค่าโอนหนี้สินและทรัพย์สินของโครงการมูลค่า 100,000 ล้านบาท เป็นต้น

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข รองผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. เปิดเผยความคืบหน้าโครงการหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ช่วง 1 สถานี จากหมอชิตไปถึงสถานีห้าแยกลาดพร้าว ว่า ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 รฟม.พร้อมด้วยผู้แทนกรุงเทพมหานคร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) และผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด จะร่วมคณะนำสื่อมวลชนทดสอบระบบและการใช้บริการ ซึ่งความคืบหน้าในส่วนของงานโยธาที่ รฟม.รับผิดชอบถือว่าเสร็จสมบูรณ์ 99.99% แล้ว ก่อนที่โครงการจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการวันที่ 11 สิงหาคมนี้ และทราบว่าทางกรุงเทพมหานครจะเชิญพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการเดินรถในวันดังกล่าว

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บีทีเอส กล่าวถึงการเดินรถช่วงหมอชิต-ห้าแยกลาดพร้าว ว่า ช่วงแรกจะเปิดให้ประชาชนใช้บริการฟรี แต่จะฟรีถึงเมื่อไหร่ ยาวถึง 1 ปี หรือไม่นั้น จะเป็นไปตามนโยบายผู้ว่าราชการ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 09/07/2019 11:29 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
หึ่ง!'กทม.'ประเคน สัมปทานBTS40ปี

08 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 00:01 น.

BTSรับหนี้แสนล้าน แลกสัมปทานเดินรถสีเขียวถึงปี2602
...ผู้จัดการรายวัน360 องศา
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 04:01

บีทีเอสทดสอบความพร้อมระบบรถไฟฟ้า พร้อมเปิดให้บริการจากหมอชิตถึงห้าแยกลาดพร้าววันที่ 11 ส.ค.นี้ โดยไม่เก็บค่าโดยสาร จากนั้นเปิดถึงแยกเกษตร ธ.ค.62 และทั้งสายถึงคูคตปลายปี 63 ด้าน รฟม. เตรียมเซ็น MOU กับ กทม. โอนสิทธิ์และหนี้ค่าก่อสร้างสีเขียวเหนือกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท ส่วนการเจรจาสัมปทานเดินรถสายสีเขียวตามคำสั่ง ม.44 คาดจบใน 2 เดือน ให้บีทีเอสรับหนี้กว่าแสนล้าน คุมค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย กทม. พร้อมควักรายได้อุดหนุน แลกสัมปทานยาวถึงปี 2602

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามความพร้อมการเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จำนวน 1สถานี จากสถานีหมอชิต-ห้าแยกลาดพร้าว วานนี้ (8 ก.ค.) ว่า รฟม.ได้เร่งรัดการก่อสร้างงานโยธา วางราง และให้ทางกรุงเทพธนาคม และบีทีเอสเข้ามาติดตั้งระบบ เมื่อเดือนม.ค.2562ซึ่งตามแผนงานปกติ จะสามารถเปิดเดินรถได้ในเดือนก.ค.2564แต่จากที่ได้ปรับวิธีการทำงานใหม่ เพื่อความรวดเร็วและทยอยเปิดให้บริการ ซึ่งขณะนี้มั่นใจว่าจะสามารถเปิดให้บริการช่วงหมอชิต-ห้าแยกลาดพร้าวได้ในวันที่ 11ส.ค.นี้ โดยไม่เก็บค่าโดยสาร และเดือนธ.ค.2562 จะเปิดไปถึงแยกเกษตร และมีเป้าหมายจะเปิดตลอดสายถึงคูคต ปลายปี 2563

ทั้งนี้ ก่อนเปิดเดินรถวันที่ 11 ส.ค. รฟม.และกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะต้องมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) มอบหมายให้ กทม. เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถสายสีเขียวเหนือช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ตามมติ ครม. ซึ่ง รฟม.จะเสนอร่าง MOU ขออนุมัติที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ โดยสายสีเขียวเหนือมีมูลค่างานโยธาและระบบรางประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาท

นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กล่าวว่า การเจรจาสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวตามมาตรา 44 กับบีทีเอส คาดจะจบภายใน 2 เดือนนี้ โดยสัมปทานใหม่อายุ 30 ปี จะเริ่มต้นปี 2573 ครอบคลุม 3 ส่วน คือ เส้นทางสายหลักช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน ซึ่งเป็นสัมปทานเดิมที่จะหมดสัญญาในปี 2572 และช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และสะพานตากสิน-บางหว้า ซึ่ง กทม. ลงทุนก่อสร้างงานโยธาและระบบเอง และจ้างบีทีเอสเดินรถจะหมดสัญญาในปี 2585 และสายสีเขียวส่วนต่อขยาย สายเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) และสายใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ซึ่ง รฟม. เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างงานโยธาและวางราง และโอนหนี้ให้ กทม. บวกค่าดอกเบี้ยประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งบีทีเอสต้องชำระแทน กทม.

โดยนโยบายควบคุมค่าโดยสารของรถไฟฟ้าบีทีเอสตลอดสายไม่เกิน 65 บาท ภาครัฐต้องอุดหนุนเอกชน ซึ่งโมเดลช่วงปี 62-72 จะนำรายได้ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และสะพานตากสิน-บางหว้า ที่ กทม. เก็บค่าโดยสารเอง มีกระแสเงินสดปีละหลายพันล้านบาทมาอุดหนุน ส่วนปี 2573-2602 ค่าโดยสารจะปรับตามอัตราเงินเฟ้อและต้นทุนที่เพิ่ม ซึ่ง กทม. จะหาโมเดลในการอุดหนุนเพื่อไม่ให้ค่าโดยสารสูงเกินไป เช่น นำรายได้จากค่าธรรมเนียมหรือภาษีโรงเรือนที่เก็บได้มากขึ้น จากที่ดินที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้า

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บีทีเอส กล่าวว่า กทม.จะโอนภาระหนี้ค่าก่อสร้างมาที่บีทีเอส และกำหนดค่าโดยสารตลอดสายไม่เกิน 65 บาท ซึ่งทำยาก หากรัฐไม่อุดหนุน ซึ่งการอุดหนุนมีหลายวิธี โดยต้องเจรจาแนวทางที่เหมาะสมต่อไป

สำหรับการเปิดเดินรถหมอชิต-ห้าแยกลาดพร้าวนั้น ช่วงแรกจะจัดการเดินรถในเวลาเร่งด่วน 07.00-09.00 น. และเวลา 17.00-19.00 น. แบบขบวนเว้นขบวน หมายความว่าจะมีขบวนที่วิ่งปลายทางแค่หมอชิต ขบวนถัดไปจะวิ่งทะลุถึงห้าแยกลาดพร้าว สลับกันไป ส่วนนอกเวลาเร่งด่วนจะวิ่งถึงห้าแยกลาดพร้าวทุกขบวน

ปัจจุบันที่สถานีหมอชิต มีผู้โดยสารประมาณ 8 หมื่นคนต่อวัน ช่วงแรกจะเป็นผู้โดยสารเดิมประมาณ 50% ที่ใช้บริการต่อไปห้าแยกลาดพร้าว จะช่วยลดความแออัดที่สถานีหมอชิต และเพิ่มความสะดวกให้ผู้โดยสาร
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/07/2019 1:07 pm    Post subject: Reply with quote

หวาดเสียว แผ่นคอนกรีต BTS อารีย์ หล่นกลางถนน เคราะห์ดี ไร้ผู้บาดเจ็บ
ข่าวสังคม
ไทยรัฐออนไลน์
10 ก.ค. 2562 12:33 น.

Arrow https://www.facebook.com/golfmdcu/posts/3442415672450713

Click on the image for full size

ระทึกยามเช้า แผ่นปูนคอนกรีตขนาดใหญ่ หล่นจาก BTS อารีย์ ร่วงลงมากลางถนน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ คาดวัสดุชำรุดตามกาลเวลา

วันที่ 10 ก.ค.62 เฟซบุ๊ก Isara Ariyachaipanich โพสต์ภาพแผ่นคอนกรีตของสถานีรถไฟฟ้าได้ชำรุดและหล่นลงมากลางถนน โดยระบุว่า "ตกมาจากสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ครับ เมื่อกี้เลย ดีไม่โดนใคร พี่รถเมล์ยกมาวางข้างๆถนน เเจ้ง FB BTS ละครับ ถ้าตกลงมาโดนรถหรือมอเตอร์ไซค์ คงมีคนตาย"

ต่อมาพบว่า ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ดังกล่าวมากมาย โดยคาดว่าแผ่นปูนที่ตกลงมาน่าจะเกิดจากการชำรุด เสื่อมสภาพ พร้อมกับขอให้ทางบีทีเอสหมั่นตรวจสอบวัสดุที่ใช้ก่อสร้างเป็นประจำทุกปีเพื่อความปลอดภัย

จากการสอบถามเจ้าของโพสต์ เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 7.00 น. ตนได้ยินเสียงดังเลยหันกลับไปมอง ก็เห็นแผ่นปูนตกลงมากลางถนน แต่ไม่โดนใคร ต่อมาคนขับรถเมล์ได้ลงมายกเอาแผ่นปูนดังกล่าวออกมาวางไว้บริเวณข้างทาง และได้มีเจ้าหน้าที่ของบีทีเอสลงมาดูที่เกิดเหตุ.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 10/07/2019 1:24 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
หวาดเสียว แผ่นคอนกรีต BTS อารีย์ หล่นกลางถนน เคราะห์ดี ไร้ผู้บาดเจ็บ
ข่าวสังคม
ไทยรัฐออนไลน์
10 ก.ค. 2562 12:33 น.

Arrow https://www.facebook.com/golfmdcu/posts/3442415672450713

แผงปูนตกจากสถานี BTS อารีย์ - ไร้เจ็บ
พุธที่ 10 กรกฎาคม 2562 เวลา 10:42

เกิดเหตุแผงปูนตกมาจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อารีย์ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

วันนี้ (10 ก.ค.62) เกิดเหตุแผงปูนบริเวณสถานีบีทีเอส อารีย์หล่น โดย นพ.อิสระ อริยะชัยพาณิชย์ แพทย์ประจำโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เล่าเหตุการณ์ให้ทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.00 - 07.30 น.ขณะที่ตนเองเดินทางจากที่พักย่านอารีย์เพื่อไปทำงาน ได้ยินเสียงดังจึงหันกลับไปดูจึงเห็นแผงปูนหล่นลงมาจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อารีย์ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

หลังจากเกิดเหตุรถโดยสารประจำทางได้ขับมาและยกเศษปูนที่ตกลงมาออกจากพื้นผิวถนน ขณะนั้นมีประชาชนที่รอรถโดยสารประจำทางเพื่อเดินทางไปทำงาน ราว 20 คน

ทั้งนี้ นพ.อิสระ ได้เดินขึ้นไปดูบริเวณสถานีรถไฟฟ้าและตั้งข้อสังเกตว่าแผงปูนที่อยู่ติดกันอาจมีความเสี่ยงว่าจะหล่นลงมาได้ ทั้งนี้้ได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าบีทีเอสเพื่อดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขแล้ว


ระทึก! แผ่นปูนขนาดใหญ่ใต้สถานีรถไฟฟ้าอารีย์ ร่วงตกกลางถนน โชคดีไร้ผู้บาดเจ็บ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: พุธที่ 10 กรกฎาคม 2562 เวลา 10:51



เผยภาพแผ่นปูนขนาดใหญ่ ตกลงมาบริเวณสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ กรุงเทพมหานคร เคราะห์ดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้าน รถไฟฟ้าบีทีเอส ส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบเรื่องแล้ว

วันนี้ (10 ก.ค.) มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Isara Ariyachaipanich" ได้โพสต์รูปภาพบริเวณ สถานีรถไฟฟ้าอารีย์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ได้มีแผ่นปูนขนาดใหญ่ตกอยู่กลางถนน และมีพนักงานรถมินิบัสได้ยกมาไว้ข้างถนน เคราะห์ดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านผู้โพสต์ระบุว่า "ตกมาจากสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ครับ เมื่อกี้เลย ดีไม่โดนใคร พี่รถเมล์ยกมาวางข้างๆถนน เเจ้ง FB BTS ละครับ ถ้าตกลงมาโดนรถ หรือ มอเตอร์ไซค์ คงมีคนตาย "

นอกจากนี้ เจ้าของโพสต์ไปส่งข้อความไปทางเพจ "รถไฟฟ้าบีทีเอส" เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และชาวเน็ตกดไลก์กว่า 1,000 ครั้ง และเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมากพร้อมวิพากษ์วิจารณ์ถึงหน่อยงานที่ดูแลเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้อันตรายถึงชีวิตได้
https://hilight.kapook.com/view/190574
https://news.thaipbs.or.th/content/281582


Last edited by Wisarut on 11/07/2019 11:36 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 10/07/2019 4:58 pm    Post subject: Reply with quote

บีทีเอสไล่เช็ค แผ่นปูนขอบบัวทุกสถานี หลังเหตุระทึก หลุดตกลงถนน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: พุธที่ 10 กรกฎาคม 2562 เวลา 15:04

บีทีเอส ขออภัยเหตุแผ่นบัวขอบอาคารสถานีอารีย์ร่วง เร่งซ่อมแล้วแจงเหตุผุกร่อน จากที่มีน้ำรั่วซึม และได้ตรวจแผ่นบัวทุกสถานี หวั่นเหตุซ้ำ

ฝ่ายสื่อสารองค์กร
บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงถึงเหตุวัสดุตัวอาคารสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ร่วงหล่น บริษัทฯ ขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างสูง โดยบริษัทฯ มิได้นิ่งนอนใจ ได้รับทราบเหตุการณ์ทันทีที่เกิดเหตุ พร้อมแก้ไขอย่างเต็มที่ เพื่อมิให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีก

โดย จากการตรวจสอบพบว่า วัสดุที่ร่วงหล่น คือ แผ่นบัวขอบอาคาร ติดตั้งบริเวณด้านข้างอาคารสถานี มีลักษณะผุกร่อน เนื่องจากมีน้ำรั่วซึมจากบริเวณใกล้เคียง จึงแก้ไขทำความสะอาดพื้นที่ในทันที​ และตรวจสอบ​แผ่นบัวขอบอาคาร ในบริเวณดังกล่าวใหม่ทั้งหมด​ทุกสถานี และแก้ปัญหาการรั่วซึมของน้ำ เพื่อให้มั่นใจว่า ทุกจุดในสถานีมีความสมบูณ์ และใช้งานได้อย่างปลอดภัย

สำหรับการตรวจสอบและซ่อมบำรุง โครงสร้าง และอุปกรณ์ทุกชนิดในทุกสถานี มีกำหนดการตรวจสอบและซ่อมบำรุงตลอดเวลา ให้พร้อมใช้งานเสมอ

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นตัวอาคารสถานีหรืออุปกรณ์ในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่สถานีได้ทันที หรือแจ้งศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร 0 2617 6000 หรือไลน์ @btsskytrain

'BTS'แจงแผ่นปูนร่วง เหตุน้ำซึมทำพิษ-เร่งแก้ไขแล้ว
พุธที่ 10 กรกฎาคม 2562 เวลา 15.53 น.

"รถไฟฟ้าบีทีเอส" แจงแผ่นปูนร่วงกลางอารีย์ เผยเป็นแผ่นบัวปิดขอบผุกร่อน เหตุน้ำรั่วซึมจากบริเวณใกล้เคียง สั่งเร่งแก้ไขทันที พร้อมเข้าตรวจสอบทุกสถานี!



จากกรณีโลกออนไลน์เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก ภายหลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก@Isara Ariyachaipanich ระบุ "ตกมาจากสถานีรถไฟฟ้า อารีย์ครับ เมื่อกี้เลย ดีไม่โดนใคร พี่รถเมล์ยกมาวางข้างๆถนน เเจ้ง FB BTS ละครับ ถ้าตกลงมาโดนรถ หรือ มอเตอร์ไซค์ คงมีคนตาย" พร้อมเผยภาพของแผ่นปูนขนาดใหญ่ ร่วงตกลงมากลางถนนจากสถานีรถไฟฟ้า ท่ามกลางรถและประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรไปมา



โดยล่าสุด "รถไฟฟ้าบีทีเอส" ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวระบุว่า "จากเหตุวัสดุตัวอาคารสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ร่วงหล่น บริษัทฯ ขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างสูง โดยบริษัทฯ มิได้นิ่งนอนใจ ได้รับทราบเหตุการณ์ทันทีที่เกิดเหตุ พร้อมแก้ไขอย่างเต็มที่ เพื่อมิให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีก" ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า วัสดุที่ร่วงหล่น คือ "แผ่นบัวขอบอาคาร ติดตั้งบริเวณด้านข้างอาคารสถานี มีลักษณะผุกร่อน เนื่องจากมีน้ำรั่วซึมจากบริเวณใกล้เคียง" จึงแก้ไขทำความสะอาดพื้นที่ในทันที​ และตรวจสอบ​แผ่นบัวขอบอาคาร ในบริเวณดังกล่าวใหม่ทั้งหมด​ทุกสถานี และแก้ปัญหาการรั่วซึมของน้ำ เพื่อให้มั่นใจว่า ทุกจุดในสถานีมีความสมบูณ์ และใช้งานได้อย่างปลอดภัย

สำหรับการตรวจสอบและซ่อมบำรุง โครงสร้าง และอุปกรณ์ทุกชนิดในทุกสถานี มีกำหนดการตรวจสอบและซ่อมบำรุงตลอดเวลา ให้พร้อมใช้งานเสมอ อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นตัวอาคารสถานีหรืออุปกรณ์ในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่สถานีได้ทันที หรือแจ้งศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร 0 2617 6000 หรือไลน์ @btsskytrain.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 10/07/2019 7:18 pm    Post subject: Reply with quote

พท.เสนอญัตติด่วนตั้งกมธ.ศึกษาต่อสัมปทานรถไฟฟ้า ชี้ไม่โปรงใส่-แพงติดอันดับโลก
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: พุธที่ 10 กรกฎาคม 2562 เวลา 17:23



"ยุทธพงศ์" แถลงเสนอญัตติด่วนขอให้ตั้งกมธ.วิสามัญศึกษาต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าอีก 40 ปี ตั้งข้อสังเกต มติการทางพิเศษไม่โปร่งใส ชี้ค่ารถแพงติดอันดับโลก

วันนี้ ( 10 ก.ค.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงเสนอญัตติด่วนขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสัญญาสัมปทาน ได้แก่โครงการสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวของ BTS สายหลัก ช่วงหมอชิต - อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ - สะพานตากสิน และสัญญาสัมปทานเดินรถส่วนต่อขยายช่วงอ่อนนุช - แบริ่ง และสะพานตากสิน - บางหว้า ซึ่งยังเหลือสัญญาสัมปทานมากกว่า 10 ปี แต่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีมติต่อสัญญาสัมปทานให้กับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด (มหาชน) อีก 40 ปี แบบเร่งรีบ ไม่โปร่งใส โดยยังไม่ได้รับฟังความคิดเห็นประชาชน ซึ่งขณะนี้มีปัญหามาก โดยเฉพาะค่าโดยสารรถไฟฟ้ามีราคาแพงติดอันดับโลก จึงจำเป็นต้องศึกษารายละเอียดในการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากส่วนต่อขยาย และหาแนวทางการให้บริการรถไฟฟ้าให้กับประชาชนที่เกิดประโยชน์และเป็นธรรม จึงขอให้คณะกรรมาธิการพิจารณาสอบสวนข้อเท็จจริงการทำสัญญาสัมปทานส่วนต่อขยายของโครงการรถไฟฟ้า
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 12/07/2019 10:23 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
หึ่ง!'กทม.'ประเคน สัมปทานBTS40ปี

08 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 00:01 น.


เร่งปิดดีลBTSเหมาสายสีเขียว ขยายสัญญา40ปี-รวบสัมปทานเดียว
พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09:16 น.

รถไฟฟ้าบีทีเอสเตรียมเปิดให้บริการสายสีเขียวเหนือ 1 สถานี (สถานีห้าแยกลาดพร้าว) 11 ส.ค.นี้

เร่งปีดดีล BTS เหมาเดินรถสายสีเขียวทั้งโครงการ จ่อรวบเป็นสัมปทานเดียว ขยายสัญญาเดิม 30 ปีเริ่มปี 2573-2602 รวม 40 ปี แลกลงทุนงานระบบ 20,000 ล้าน ภาระขาดทุน 10 ปี 22,000 ล้าน เก็บค่าโดยสาร 15-65 บาท ด้าน กทม.นำรายได้ต่อขยายและในอนาคตโปะหนี้โยธา 60,000 ล้าน ดีเดย์ 11 ส.ค.เปิดหวูดหมอชิต-เซ็นทรัลลาดพร้าว นั่งฟรี 2 เดือนถึง ก.ย.นี้
นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) วิสาหกิจกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” หลังมีคำสั่งใช้มาตรา 44 ให้ กทม.เร่งดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-แบริ่ง, ช่วงบางหว้า-สนามกีฬาแห่งชาติ, ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตให้สามารถเดินรถแบบต่อเนื่องเป็นโครงข่ายเดียวกัน รวมทั้งกำหนดอัตราค่าโดยสารเป็นไปอย่างเหมาะสม

โดย กทม.จะเจรจากับ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ผู้รับสัมปทานรายเดิมให้ได้ข้อยุติโดยเร็วที่สุด เพื่อรองรับกับการเปิดใช้ส่วนต่อขยายใหม่ที่รับโอนจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) คาดว่าจะเจรจาแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้ เพื่อเริ่มเก็บค่าโดยสารตามโครงสร้างใหม่ หลังจากที่รถไฟฟ้าช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการได้เปิดใช้ฟรีมาตั้งแต่ปลายปี 2561 และช่วงหมอชิต-คูคตที่จะเปิดฟรี 1 สถานีจากหมอชิต-เซ็นทรัลลาดพร้าววันที่ 11 สิงหาคมถึงเดือนกันยายนนี้ “คณะกรรมการตามคำสั่ง ม.44 มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน กำลังเจรจากับ BTS ให้ร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP net cost ซึ่ง KT ให้ข้อมูลเรื่องโครงสร้างค่าโดยสารจะจัดเก็บใหม่เริ่มต้น 15 บาท สูงสูดไม่เกิน 65 บาท ซึ่ง BTS มีท่าทียอมรับเงื่อนไขนี้ กับค่าลงทุนงานระบบส่วนต่อที่จ้าง BTS ดำเนินการกว่า 20,000 ล้านบาท”

ด้านอายุสัมปทานมีแนวโน้มจะนำทั้งสัมปทานเก่าและส่วนต่อขยายใหม่มารวมเป็น “สัมปทานเดียว” โดยขยายออกไปอีก 30 ปี จากสัมปทานเก่าที่จะหมดในเดือนธันวาคม 2572 จะเริ่มนับหนึ่งในปี 2573-2602 รวมเป็นระยะเวลา 40 ปี เนื่องจากสัมปทานเก่า BTS ได้นำเข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานไปแล้ว จึงไม่สามารถจะนำมาดำเนินการใด ๆ ได้


ด้านนางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม. ในฐานะเลขาฯคณะกรรมการ กล่าวว่า เบื้องต้นมีบางข้อเสนอที่ BTS พอรับได้ และยังมีบางข้อเสนอที่ยังมีเงื่อนไขเจรจากันอยู่ เช่น จะแยกสัมปทานระหว่างเก่าและส่วนต่อขยายใหม่ อายุสัมปทานจะกี่ปีและเริ่มนับตั้งแต่ปีไหน “วงเงินลงทุนส่วนต่อขยายทั้ง 2 ช่วงกว่า 100,000 ล้านบาท ทาง กทม.ไม่มีงบประมาณเพียงพอจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ จึงต้องให้ BTS ร่วมลงทุนบางส่วน และบางส่วน กทม.ก็ขอคลังจัดหาเงินกู้ให้ เช่น ค่างานโยธา เป็นต้น”

แหล่งข่าวจาก กทม.กล่าวถึงมูลหนี้สายสีเขียวต่อขยาย 2 ช่วงที่ กทม.รับโอนจาก รฟม. แยกหนี้ค่างานโครงสร้างพื้นฐาน 44,429 ล้านบาท, ค่าดอกเบี้ย 13,046 ล้านบาท, ค่าเวนคืนที่ดินพร้อมดอกเบี้ย 9,356 ล้านบาท, ค่างานระบบ 22,373 ล้านบาท, ค่าดอกเบี้ยงานระบบ 1,511 ล้านบาท รวม 90,581 ล้านบาท แต่ถ้ารวมค่าผลขาดทุนจากการดำเนินการ 10 ปี 21,133 ล้านบาท ก็จะมียอดรวม 111,715 ล้านบาท

“หากให้เอกชนรับภาระทั้งหมดก็เป็นวงเงินที่สูง เพราะส่วนต่อขยายใหม่ จากการศึกษาจะขาดทุน 10 ปี ซึ่ง BTS จะต้องนำรายได้จากสายหลักมาช่วย ส่วนค่าโดยสารจะให้เก็บ 65 บาทตลอดอายุสัมปทานคงไม่ได้ คงจะต้องปรับขึ้น ยังอยู่ระหว่างการเจรจา”

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.BTSC เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมประชุมกับคณะกรรมการเพื่อรับโจทย์การเจรจาแล้ว โดยมีกรอบเงื่อนไขสำคัญคือ ค่าโดยสารสูงสุดต้องไม่เกิน 65 บาท แต่ด้วยระยะทางที่เพิ่มขึ้นทางรัฐจะต้องช่วยอุดหนุนด้วย ส่วนอายุสัมปทานยังไม่สรุป เพราะยังไม่มีข้อยุติว่าจะเป็นสัมปทานเดียวหรือแยกสัมปทาน ซึ่งจะนำกรอบเจรจาเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) BTS พิจารณาภายในเดือนกรกฎาคมนี้เพื่อนำไปเจรจากับ กทม.ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/07/2019 5:53 pm    Post subject: Reply with quote

รองผู้ว่าฯกทม.ตรวจจุดแผ่นปูน บีทีเอสอารีย์ตกเร่งซ่อม-สำรวจทุกสถานีเที่ยงคืนคืนนี้
JS100 12 ก.ค. 62 17:00น.

Click on the image for full size

การใช้ชีวิตบนท้องถนนเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรประมาท เมื่อ2วันก่อนเกิดเหตุการณ์แผ่นปูนจากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอารีย์ตกลงมาบนพื้นถนน โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุและระบบความปลอดภัยพร้อมขึ้นลิฟท์ทดลองระบบอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการไปยังชั้นจำหน่ายตั๋ว ตั้งแต่รถไฟฟ้าบีทีเอสจาก สถานีรถไฟฟ้าอารีย์ - สถานีสะพานควาย

Click on the image for full size

จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุเป็นตัวปูนที่เกาะยึดไว้เพื่อกันน้ำหรือของหล่นไปข้างล่าง เดิมปูนดังกล่าวยึดไว้กับเหล็ก และเมื่อน้ำซึมเข้าไป ทำให้เหล็กด้านในเป็นสนิมและชำรุดร่วงตกลงมา ซึ่งทุกปีบีทีเอสมีการตรวจสอบ และต้องใช้เวลาเป็นเดือนเพราะต้องปิดการจราจร1ช่องการจราจร แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เป็นเรื่องเร่งด่วนต้องรีบดำเนินการ โดยตั้งแต่คืนนี้ จนถึงคืนวันอาทิตย์ จะมีการตรวจแผ่นปูนทีละแผ่น ในเวลากลางคืนเพื่อไม่ให้กระทบจราจร โดยจะใช้รถกระเช้า16คัน รถกระบะ8คัน วิศวกรกว่า100คน ร่วมตรวจสอบทั้ง23สถานี เพื่อดูความแข็งแรง เมื่อตรวจสอบเสร็จความปลอดภัยให้เต็มร้อย

ส่วนมาตรการดูแลระยะยาวจะนำไปหารือในคณะกรรมการขนส่ง พิจารณาเปลี่ยนวัสดุให้มีน้ำหนักเบามากขึ้น เช่น พลาสติกหรือยึดกับอะลูมิเนียม เพราะจะคงทนและไม่เป็นอันตราย

Click on the image for full size

ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หลังเกิดเหตุบีทีเอสไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วยตาเปล่าว่ามีอะไรที่สุ่มเสียงหรือไม่ หากมีให้เอาออกไปหมดแล้ว จากนี้จะระดมเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแผ่นปูนทุกชิ้นทุกสถานีตั้งแต่คืนนี้ ซึ่งทั้ง23สถานีนี้ ถือว่าสร้างมานานกว่า20ปีแล้ว สำหรับสถานีส่วนต่อขยาย มีการพัฒนาวิธีการก่อสร้างจึงมีการหล่อปูนที่กั้นลักษณะใหม่ ไม่ได้แบบเดิม จึงไม่ต้องดำเนินการใหม่

ส่วนการให้บริการลิฟท์สำหรับผู้พิการ นายสกลธี กล่าวว่า ตอนนี้กำลังทยอยติดตั้ง ปีนี้จะติดในสถานีสุรศักดิ์และสถานีทองหล่อซึ่งเป็นไปตามสัมปทานเดิม แต่สัมปทานใหม่ได้ติดตั้งทั้งหมดแล้ว

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 12/07/2019 6:29 pm    Post subject: Reply with quote

ซ้ำซาก! หนุ่มเตือนภัยเหตุสิ่งของหล่นจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า จนหลังคารถบุบ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: ศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม 2562 เวลา 11:46
ปรับปรุง: ศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม 2562 เวลา 12:15




หนุ่มโพสต์เชิญชวนร่วมรณรงค์สร้างความปลอดภัยจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า หลังเกิดเหตุสิ่งของตกใส่รถยนต์จนหลังคาบุบ ชี้ห่วงหากเป็นคน หรือจักรยานยนต์โดน คงสาหัสกว่านี้

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. เฟซบุ๊ก "Por Pun" ได้ออกมาโพสต์เตือนหลังตนเองและครอบครัว ได้เดินทางด้วยรถยนต์ ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 มาผ่านโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนพหลโยธินขาออก ช่วงตรงข้ามตึกช้าง และรู้สึกได้ยินเสียงดัง ภรรยาและลูกก็รู้สึกว่ามีอะไรกระแทกช่วงประตูให้ตนเองจอดรถดู ปรากฎว่าขอบหลังคาบุบ สุดท้ายตนเองได้ไปลงบันทึกประจำวันเรียบร้อย และติดต่อคอลเซ็นเตอร์ของบีทีเอส ซึ่งให้ข้อมูลว่าอยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. และรฟม.ได้รับเรื่องไว้และให้ บริษัท ที่ดำเนินการก่อสร้าง (ที่ผู้บริหารเคยเป็นข่าวกับเสือดำ) ติดต่อกลับมา ซึ่งตอนนี้ติดต่อมาและอยู่ในระหว่างการตีราคาค่าซ่อม สุดท้ายเจ้าของโพสต์อยากฝากเตือนอีกว่าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับคนอื่นๆ วันนั้นถ้าไม่ใช่รถยนต์แต่เป็น คน หรือ รถจักรยานยนต์โดนคงจะสาหัส

โดยฝาก เชิญชวนทุกคน มาร่วมกันรณรงค์ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับความปลอดภัยของพวกเราด้วย โดยร่วมลงชื่อผ่านแคมเพจ์นด้านล่างนี้ (สามารถลงชื่อแบบไม่เปิดเผยตัวตนได้) คลิกร่วมรณรงค์

https://www.facebook.com/suthep.por/posts/2776556205691821

สุดซวย ขับผ่านจุดสร้างรถไฟฟ้า ของร่วงใส่หลังคาบุบ
วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม 2562 เวลา 14:10 น.

(case โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต)

...อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Por Pun" ออกมาโพสต์เตือน พร้อมเล่าเหตุการณ์ หลังมีสิ่งของตกใส่รถของตอนเองจนเกินความเสียหาย โดยเจ้าตัวระบุว่า

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 62 ที่ผ่านมา ตนและครอบครัวได้ขับรถยนต์ผ่านโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า บริเวณถนนพหลโยธินขาออก ช่วงตรงข้ามตึกช้าง จากนั้นได้ยินเสียงดัง คล้ายมีอะไรมากระแทกกับรถ ก่อนจะจอดรถดู จึงพบว่า ขอบหลังคาบุบ

วันรุ่งขึ้นจึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน พร้อมติดต่อคอลเซ็นเตอร์ของบีทีเอส แต่ปรากฏว่า อยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือรฟม. ซึ่งก็ได้รับเรื่องไว้และให้บริษัท ที่ดำเนินการก่อสร้างติดต่อกลับมา ซึ่งตอนนี้ติดต่อมาและอยู่ในระหว่างการตีราคาค่าซ่อม นอกจากนี้ ยังเชิญชวนคนให้มาร่วมรณรงค์เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับความปลอดภัย


Last edited by Wisarut on 12/07/2019 8:26 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 88, 89, 90 ... 155, 156, 157  Next
Page 89 of 157

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©