Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311280
ทั่วไป:13262836
ทั้งหมด:13574116
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 68, 69, 70 ... 155, 156, 157  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/09/2017 9:04 pm    Post subject: Reply with quote

บีทีเอสทุ่ม 2 หมื่นล.ยกเครื่องบริการเพิ่มโบกี้
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 4 กันยายน 2560 - 19:08 น.

บีทีเอสทุ่มเม็ดเงินเฉียด 2 หมื่นล้าน ซื้อโบกี้ใหม่ 46 ขบวน พร้อมยกเครื่องตั๋วโดยสารเป็นระบบสัมผัส รองรับตั๋วร่วมแมงมุม โอดต้นทุนพุ่ง 20% ขอปรับค่าโดยสาร 1-3 บาท เป็น 16-44 บาท เริ่ม 1 ต.ค.นี้ ดึงคนใช้บัตรแรบบิท ตรึงราคาเดิมถึง มี.ค. 2561

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีต้นทุนเพิ่มขึ้น 20% จากการบำรุงรักษา และบริษัทได้ลงทุน 10,000 ล้านบาท ซื้อรถใหม่ 46 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ รวมเป็น 184 ตู้ จะทยอยนำเข้ามาต้นปี 2561 ซึ่งเป็นรถซีเมนส์ 22 ขบวน จากนั้นอีก1 ปี รถสั่งซื้อจากจีนจะเริ่มเข้ามาอีก 24 ขบวน รวมถึงยังลงทุนอีก 400 ล้านบาท ปรับปรุงระบบตั๋วโดยสาร เปลี่ยนตู้จำหน่ายบัตรโดยสารเป็นระบบสัมผัส (touch screen) ทั้งหมด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากประเทศสิงคโปร์ และสั่งตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารที่รับธนบัตรด้วยจาก “วิกซ์” ประเทศฮ่องกง มาติดตั้งในระบบเพิ่มขึ้นอีก 50 ตู้ จากปัจจุบัน 50 ตู้ จะเริ่มทยอยติดตั้งในปี 2561 คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนเปิดให้บริการสายสีเขียวส่วนต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่กำหนดวันที่ 1 ธ.ค. 2561 แต่รัฐบาลมีนโยบายจะเร่งให้เปิดเร็วขึ้น ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด

“ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เราจึงขอปรับค่าโดยสาร ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 นับจากเปิดบริการตั้งแต่ปี 2542 โดยเพิ่มอีก 1-3 บาท หรือประมาณ 5% จาก 15-42 บาท เป็น 16-44 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2560 เป็นต้นไป ในเส้นทางที่ได้สัมปทานจาก กทม.(กรุงเทพมหานคร) ระยะทาง 23.5 กม. สายสุขุมวิท หมอชิต-อ่อนนุช และสายสีลมสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน หลังไม่ได้ปรับตั้งแต่ปี 2556 ตามสัญญาสามารถขอปรับได้ทุก 18 เดือน แต่ต้องไม่เกินเพดานอัตราค่าโดยสาร ตามสัญญาสัมปทานในอัตรา 20.11-60.31 บาท”

สำหรับอัตราค่าโดยสาร เรียกเก็บสถานีแรก 16 บาท สองสถานี ราคา 23 บาท สามสถานี ราคา 26 บาท สี่สถานี ราคา 30 บาท ห้าสถานี ราคา 33 บาท หกสถานี ราคา 37 บาท

เจ็ดสถานี ราคา 40 บาท แปดสถานีเป็นต้นไป ราคา 44 บาท ส่วนราคาจำหน่ายเที่ยวเดินทาง 30 วัน ทั้งประเภทบุคคลทั่วไปและนักเรียนนักศึกษา จะปรับขึ้นเที่ยวละ 1 บาท ได้แก่ บุคคลทั่วไป ประเภท 50 เที่ยว 1,300 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 26 บาท 40 เที่ยว 1,080 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 27 บาท 25 เที่ยว 725 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 29 บาท และ 15 เที่ยว 465 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 31 บาท

ส่วนนักเรียนนักศึกษา ประเภท 50 เที่ยว 950 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 19 บาท 40 เที่ยว 800 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 20 บาท 25 เที่ยว 550 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 22 บาท และ 15 เที่ยว 360 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 24 บาท

แต่ยังคงราคาเดิมเป็นเวลา 6 เดือน จนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2561 สำหรับผู้ใช้บัตรแรบบิทประเภทเติมเงิน จึงอยากให้ผู้โดยสารที่เคยซื้อบัตรเที่ยวเดียวเปลี่ยนมาใช้บัตรเติมเงินเพื่อความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ส่วนผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ยังจะได้รับส่วนลดครึ่งราคาจากอัตราราคาใหม่เมื่อใช้บัตรแรบบิทสำหรับผู้สูงอายุโดยสามารถเดินทางได้ไม่จำกัดเวลา

นอกจากนี้จะจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์อิเล็กทรอนิกส์บนชั้นชานชาลาแจ้งความถี่การให้บริการ รวมถึงแจ้งเหตุรถไฟฟ้าขัดข้องและข้อมูลอื่น ๆ พร้อมมีแผนจะลงทุนติดตั้งประตูกั้นชานชาลาอัตโนมัติในสถานีต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทจะลงทุนอีกหลาย 100 ล้านบาท ปรับปรุงและอัพเกรดระบบฮาร์ดแวร์ เพื่อรองรับระบบตั๋วร่วม (บัตรแมงมุม) กับบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้ของรัฐด้วย โดยจะเริ่มดำเนินการหลังมีการเซ็นข้อตกลง (MOU) กับกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะเป็นการเซ็นข้อตกลงเพิ่มเติมจากเดิมที่บริษัทเคยเซ็นร่วมกับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ไปก่อนหน้านี้

“บีทีเอสกับบีอีเอ็มต้องลงทุนปรับปรุงระบบลีดเดอร์เพื่อให้ใช้ร่วมกับระบบตั๋วร่วมได้ ซึ่งของบีทีเอสจะลงทุนในระดับหนึ่งเพราะเรามีบัตรแรบบิทที่เป็นบัตรประเภทเดียวกับตั๋วร่วมอยู่แล้ว คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 6 เดือน ภายในกลางปีหน้าจะใช้บริการได้”

เนื่องจากต้องรอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้จัดตั้งบริษัท บริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม (CTC) โดยจะเปิดให้เอกชนเข้าไปร่วมลงทุน ทั้งนี้จากการหารือกับกระทรวงคมนาคมจะใช้เงินลงทุนระบบของทั้งบีทีเอสและบีอีเอ็มมาเป็นเงินลงทุนพัฒนาโครงการภายใต้บริษัทที่จะจัดตั้ง แต่ในเบื้องต้นจะมอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการไปก่อน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/09/2017 4:47 pm    Post subject: Reply with quote

BTSชวนคนกรุงร่วมประดับต้นดาวเรืองบนสถานีรถไฟฟ้าน้อมรำลึกในหลวงร.๙
สยามรัฐออนไลน์ 21 กันยายน 2560 กทม.

เชิญชวนให้นำต้นดาวเรืองมาประดับที่ซุ้มที่จะจัดไว้ให้พิเศษที่สถานีสนามกีฬาฯ ตั้งแต่ 30 ก.ย.16 ต.ค.นี้ พร้อมยกเว้นค่าโดยสารฟรีเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์แก่ผู้ร่วมกิจกรรม

บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด ( มหาชน ) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส แจ้งว่า เนื่องในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างวันที่ 25-29 ต.ค. 2560 กลุ่มบริษัทบีทีเอส ร่วมด้วย กรุงเทพมหานคร บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัดและ กองทุนบัวหลวง จะติดตั้ง ซุ้มถวายอาลัย เพื่อแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ณ บริเวณทางเดินเชื่อม สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสนามกีฬาแห่งชาติ

ทั้งนี้ ได้เชิญชวนประชาชน ร่วมกันนำต้นดาวเรืองที่มีดอก ตูม หรือบานบรรจุในถุง หรือกระถางพลาสติก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว มาวางประดับที่บริเวณซุ้ม ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2560 เพื่อร่วมกันถวายความอาลัยครั้งสุดท้าย เพราะสีเหลืองของดอกดาวเรือง ถือเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของในหลวงรัชกาลที่ ๙

ในโอกาสนี้ จะยกเว้น ค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสให้ฟรี เฉพาะวัน เสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ แก่ประชาชนที่นำต้นดาวเรืองมาประดับที่ซุ้มฯ โดยจะต้องเดินทางมาลงที่ สถานีสนามกีฬาแห่งชาติเท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ฮอตไลน์ โทร. 0 2617 6000
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/09/2017 8:27 pm    Post subject: Reply with quote

บีทีเอส เผย ความคืบหน้ารถไฟฟ้าขบวนใหม่ เพื่อรองรับผู้โดยสาร คาดแล้วเสร็จปี 61
MGR Online เผยแพร่: 24 ก.ย. 2560 19:16:00

กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เผย ความคืบหน้ารถไฟฟ้าขบวนใหม่ 46 ขบวน 184 ตู้ มูลค่า 11,000 ล้านบาท จะแล้วเสร็จถึงประเทศไทยต้นปี 2561 นี้ เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นทั้งในเส้นทางปัจจุบัน และในเส้นทางส่วนต่อขยาย

วันนี้ (24 ก.ย.) นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อรถไฟฟ้า 46 ขบวน 184 ตู้ มูลค่ารวมประมาณ 11,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2559 กับบริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด 24 ขบวน และ บริษัท ซีเมนส์ จำกัด 22 ขบวน เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นทั้งในเส้นทางปัจจุบันสายสุขุมวิท หมอชิต - แบริ่ง และสายสีลม สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ - บางหว้า ระยะทางรวม 36.25 กิโลเมตร และในเส้นทางส่วนต่อขยายจากสถานีแบริ่งไปสมุทรปราการระยะทาง 13 กิโลเมตร และจากสถานีหมอชิตไปคูคต จ.ปทุมธานี ระยะทาง 19 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารตามปกติสูงสุดถึงเกือบ 900,000 เที่ยวคนต่อวัน บัดนี้การผลิตขบวนรถไฟฟ้าขบวนใหม่ได้มีความก้าวหน้าไปเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ ขบวนรถไฟฟ้าขบวนแรกที่ผลิตโดยบริษัท ซีเมนส์ จำกัด จะเดินทางถึงประเทศไทยประมาณต้นปี 2561 ซึ่งเมื่อขบวนรถไฟฟ้ามาถึงจะต้องทำการทดสอบระบบต่างๆ ภายใต้สภาพอากาศ สิ่งแวดล้อมจริง และทดลองวิ่งในสภาพพื้นที่จริง ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน สำหรับขบวนแรก และ 1 เดือน สำหรับขบวนถัดไป จากนั้นจึงจะเริ่มนำเข้าสู่ระบบการให้บริการ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในเดือน กันยายน 2561 สำหรับขบวนรถไฟฟ้าที่ผลิตจากบริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด ก็มีความก้าวหน้าไปมากแล้วเช่นกัน โดยขบวนรถจะเริ่มส่งมอบได้ในเดือน มกราคม 2562 และจะเริ่มทดสอบระบบต่างๆ อีกประมาณ 3 - 4 เดือนขบวนรถไฟฟ้าที่ผลิตใหม่นั้น ภายในจะปรับให้มีความสะดวกสบายในการใช้งานยิ่งขึ้น โดยมีการปรับภายในต่างๆ ดังนี้

1.เปลี่ยนระบบแสดงเส้นทางและบอกสถานี (Dynamic Route Map, DRM) ด้านบนประตูทางเข้าผู้โดยสาร จากแบบเดิม LED เป็นแบบ LCD ซึ่งสามารถให้ข้อมูลสำหรับผู้โดยสารได้มากยิ่งขึ้น
2.เปลี่ยนระบบแสงสว่างจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ เป็น LED ตลอดทั้งตู้โดยสาร
3.ปรับและเพิ่มราวจับด้านบนให้เป็นสามแถว เพื่อให้ความสะดวกแก่ผู้โดยสาร
4.เพิ่มพื้นที่โดยสารให้มากขึ้นในแต่ละตู้โดยสาร
5.เพิ่มจำนวนปุ่มติดต่อพนักงาน (Passenger Communication Unit, “PCU”) ทุกประตูโดยสาร
6.ป้ายสัญลักษณ์ที่จอดรถเข็น (wheel chair) ที่พื้นรถไฟฟ้า

เมื่อเริ่มเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2542 บริษัทฯ มีขบวนรถไฟฟ้าให้บริการทั้งหมด 35 ขบวน ความยาวขบวนละ 3 ตู้ รวมเป็น 105 ตู้ ผลิตโดยบริษัท ซีเมนส์ จำกัด ซึ่งในปัจจุบัน บริษัทฯ มีรถไฟฟ้าให้บริการทั้งสิ้น 52 ขบวน ความยาวขบวนละ 4 ตู้ รวม 208 ตู้ โดย 35 ขบวนเป็นขบวนรถที่ผลิตจาก บริษัท ซีเมนส์ จำกัด และจากบริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด จำนวน 17 ขบวน ให้บริการในระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 23.5 กิโลเมตร และส่วนต่อขยายระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครสายสีลม จากสถานีสะพานตากสิน-สถานีบางหว้า ระยะทาง 7.5 กิโลเมตร และส่วนต่อขยายโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครสายสุขุมวิท ช่วงสถานีอ่อนนุช-สถานีแบริ่ง ระยะทาง 5.25 กิโลเมตร และส่วนต่อขยายสถานีแบริ่ง-สำโรง ระยะทาง 2 กิโลเมตร รวมเป็น 38.25 กิโลเมตร 35 สถานี เมื่อขบวนรถไฟฟ้าใหม่ส่งมอบครบหมดแล้วในปี 2563 จะทำให้บริษัทฯ มีขบวนรถไฟฟ้าให้บริการทั้งสิ้น 98 ขบวน รวม 392 ตู้ และจะให้บริการในเส้นทางสายสีลมจากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติถึงสถานีบางหว้า ระยะทางรวม 14 กิโลเมตร และสายสุขุมวิทจากสถานีคูคตถึงสถานีสมุทรปราการ ระยะทางรวม 55 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารในเส้นทางที่ให้บริการดังกล่าวได้อีกไม่น้อยกว่า 10 ปี จากนี้ไป

นอกจาก การนำเข้าขบวนรถไฟฟ้าแล้วบริษัทฯ ได้ลงทุนงบประมาณเพื่อปรับปรุงระบบตั๋วโดยสาร ซึ่งจะเปลี่ยนตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารเป็นระบบสัมผัส Touch Screen ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเลือกสถานีที่จะเดินทางได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มสมรรถนะของตู้จำหน่ายตั๋วบัตรโดยสารเพื่อให้รองรับส่วนต่อขยาย และเส้นทางสายอื่นๆ อาทิสายสีชมพู และสายสีเหลืองในอนาคต รวมทั้งการจัดซื้อตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารที่สามารถรับธนบัตรด้วยมาเพิ่มในระบบอีก 50 ตู้

ปัจจุบัน ระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส มีตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติชนิดกดปุ่ม (TIM) 153 ตู้ซึ่งเป็น ตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารที่ติดตั้งตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ และมีตู้จำหน่ายตั๋วแบบรับเหรียญและ ธนบัตร (ITM) 34 ตู้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/09/2017 12:37 pm    Post subject: Reply with quote

บีทีเอสเผยความคืบหน้ารถไฟขบวนใหม่
เดลินิวส์ จันทร์ที่ 25 กันยายน 2560 เวลา 19.21 น.

ขบวนรถไฟรุ่นใหม่จากบริษัทจีนและเยอรมันรวม 46 ขบวน ทยอยถึงประเทศไทยต้นปี61 นับไปอีก 9 เดือนใช้บริการได้ เพิ่มราวจับ 3แถวมีพื้นที่สำหรับวีลแชร์ในตัวรถ

 นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อรถไฟฟ้า 46 ขบวน 184 ตู้ มูลค่ารวมประมาณ 11,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 พ.ค.259 กับบริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด 24 ขบวน และ บริษัท ซีเมนส์ จำกัด 22 ขบวน เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นทั้งในเส้นทางปัจจุบันสายสุขุมวิท หมอชิต - แบริ่ง และสายสีลม สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ - บางหว้า ระยะทางรวม 36.25 กิโลเมตร และในเส้นทางส่วนต่อขยายจากสถานีแบริ่งไปสมุทรปราการระยะทาง 13 กิโลเมตร และจากสถานีหมอชิตไปคูคต จ.ปทุมธานี ระยะทาง 19กม.ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารตามปกติสูงสุดถึงเกือบ 900,000 เที่ยวคนต่อวัน 

ทั้งนี้ขบวนรถไฟฟ้าขบวนแรกที่ผลิตโดยบริษัท ซีเมนส์ จำกัด จะเดินทางถึงประเทศไทยประมาณต้นปี  61 ซึ่งเมื่อขบวนรถไฟฟ้ามาถึงจะต้องทดลองวิ่งในสภาพพื้นที่จริง ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน สำหรับขบวนแรก และ 1 เดือน สำหรับขบวนถัดไป จากนั้นจึงจะเริ่มให้บริการ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในเดือน ก.ย. 61 สำหรับขบวนรถไฟฟ้าที่ผลิตจากบริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด จะเริ่มส่งมอบได้ในเดือน ม.ค. 62 และจะเริ่มทดสอบระบบต่างๆ อีกประมาณ 3 – 4 เดือน
 
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ขบวนรถไฟฟ้าที่ผลิตใหม่นั้น ภายในจะปรับให้มีความสะดวกสบายในการใช้งานยิ่งขึ้น โดยปรับภายในต่างๆ ดังนี้
เปลี่ยนระบบแสดงเส้นทางและบอกสถานี (Dynamic Route Map, DRM) ด้านบนประตูทางเข้าผู้โดยสาร จากแบบเดิม LED เป็นแบบ LCD ซึ่ง
เปลี่ยนระบบแสงสว่างจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ เป็น LED ตลอดทั้งตู้โดยสารปรับและเพิ่มราวจับด้านบนให้เป็นสามแถว เพื่อให้ความสะดวกแก่ผู้โดยสาร เพิ่มพื้นที่โดยสารให้มากขึ้นในแต่ละตู้โดยสาร เพิ่มจำนวนปุ่มติดต่อพนักงาน (Passenger Communication Unit, “PCU”) ทุกประตูโดยสาร ป้ายสัญลักษณ์ที่จอดรถเข็นที่พื้นรถไฟฟ้า

นอกจากการนำเข้าขบวนรถไฟฟ้าแล้วบริษัทฯ ได้ลงทุนงบประมาณเพื่อปรับปรุงระบบตั๋วโดยสาร จะเปลี่ยนตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารเป็นระบบสัมผัสทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเลือกสถานีที่จะเดินทางได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มสมรรถนะของตู้จำหน่ายตั๋วบัตรโดยสารเพื่อให้รองรับส่วนต่อขยาย และเส้นทางสายอื่นๆ อาทิสายสีชมพู และสายสีเหลืองในอนาคต รวมทั้งการจัดซื้อตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารที่สามารถรับธนบัตรด้วยมาเพิ่มในระบบอีก 50 ตู้ ปัจจุบัน ระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส มีตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติชนิดกดปุ่ม (TIM) 153 ตู้ซึ่งเป็น ตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารที่ติดตั้งตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ และมีตู้จำหน่ายตั๋วแบบรับเหรียญและ ธนบัตร (ITM) 34 ตู้ .
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 01/10/2017 6:28 pm    Post subject: Reply with quote

ปรับขึ้นค่าตั๋วรถไฟฟ้าบีทีเอสวันนี้ ราคาแพงสุด 44 บาท มั่น! ผู้โดยสารไม่ลดลง
1 ต.ค. 2560 เวลา 17:06 น.

ข่าว 7 สี - บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ดีเดย์ขึ้นค่าตั๋วรถไฟฟ้าบีทีเอสวันนี้ (1 ต.ค.) ราคาแพงสุด 44 บาท มั่นใจราคาเพิ่มแต่ผู้โดยสารไม่ลด

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอสซี เปิดเผยว่าวันนี้บีทีเอสซี ได้ปรับราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนของเส้นทางสัมปทานระยะทาง 23.5 กิโลเมตรสายสุขุมวิท จากสถานีหมอชิต-สถานีอ่อนนุช และสายสีลม สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ-สถานีสะพานตากสิน ไม่รวมส่วนต่อขยายของกรุงเทพมหานคร

อัตราค่าโดยสาร สถานีตากสิน-บางหว้า จากราคา 15-42 บาท เป็น 16-44 บาท โดยเรียกเก็บสถานีแรก 16 บาท สองสถานี 23 บาท สามสถานี 26 บาท สี่สถานี 30 บาท ห้าสถานี 33 บาท หกสถานี 37 บาท เจ็ดสถานี 40 บาท แปดสถานีเป็นต้นไป 44 บาท ซึ่งอัตราใหม่นี้เพิ่มขึ้น 1-3 บาทเมื่อเทียบกับค่าโดยสารเดิม

นอกจากนี้ ยังกล่าวว่า การปรับราคาครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบให้ผู้โดยสารลดลง เนื่องจากปรับเพิ่มเฉลี่ยเพียง 1 บาท ประกอบกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสมีความสะดวกกว่าเมื่อเทียบกับรถสาธารณะอื่น ๆ

การปรับค่าโดยสารใหม่ยังคงอยู่ต่ำกว่าเพดานค่าโดยสารตามสัญญาสัมปทาน ซึ่งอยู่ในอัตรา 20.11-60.31 บาท โดยปรับราคาเฉพาะบัตรโดยสารเที่ยวเดียวเฉลี่ย 1-3 บาท และบัตรเดินทาง 30 วัน ทั้งประเภทบุคคลทั่วไปและนักเรียน นักศึกษา ซึ่งเป็นบัตรโดยสารราคาพิเศษ ซึ่งปรับขึ้นเที่ยวละ 1 บาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/10/2017 7:26 am    Post subject: Reply with quote

ความคืบหน้ารถไฟฟ้าขบวนใหม่จะแล้วเสร็จถึงประเทศไทยต้นปี 2561
BrandAge Oct 02, 2017

สุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อรถไฟฟ้า 46 ขบวน 184 ตู้ มูลค่ารวมประมาณ 11,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2559 กับบริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด 24 ขบวน และ บริษัท ซีเมนส์ จำกัด 22 ขบวน เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นทั้งในเส้นทางปัจจุบันสายสุขุมวิท หมอชิต - แบริ่ง และสายสีลม สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ - บางหว้า ระยะทางรวม 36.25 กิโลเมตร และในเส้นทางส่วนต่อขยายจากสถานีแบริ่งไปสมุทรปราการระยะทาง 13 กิโลเมตร และจากสถานีหมอชิตไปคูคต จ.ปทุมธานี ระยะทาง 19 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารตามปกติสูงสุดถึงเกือบ 900,000 เที่ยวคนต่อวัน นั้น บัดนี้การผลิตขบวนรถไฟฟ้าขบวนใหม่ได้มีความก้าวหน้าไปเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ขบวนรถไฟฟ้าขบวนแรกที่ผลิตโดยบริษัท ซีเมนส์ จำกัด จะเดินทางถึงประเทศไทยประมาณต้นปี 2561 ซึ่งเมื่อขบวนรถไฟฟ้ามาถึงจะต้องทำการทดสอบระบบต่างๆ ภายใต้สภาพอากาศ สิ่งแวดล้อมจริง และทดลองวิ่งในสภาพพื้นที่จริง ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน สำหรับขบวนแรก และ 1 เดือน สำหรับขบวนถัดไป จากนั้นจึงจะเริ่มนำเข้าสู่ระบบการให้บริการ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในเดือน กันยายน 2561 สำหรับขบวนรถไฟฟ้าที่ผลิตจากบริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด ก็มีความก้าวหน้าไปมากแล้วเช่นกัน โดยขบวนรถจะเริ่มส่งมอบได้ในเดือน มกราคม 2562 และจะเริ่มทดสอบระบบต่างๆ อีกประมาณ 3 – 4 เดือน


ขบวนรถไฟฟ้าที่ผลิตใหม่นั้น ภายในจะปรับให้มีความสะดวกสบายในการใช้งานยิ่งขึ้น โดยมีการปรับภายในต่างๆ ดังนี้
• เปลี่ยนระบบแสดงเส้นทางและบอกสถานี (Dynamic Route Map, DRM) ด้านบนประตูทางเข้าผู้โดยสาร จากแบบเดิม LED เป็นแบบ LCD ซึ่งสามารถให้ข้อมูลสำหรับผู้โดยสารได้มากยิ่งขึ้น
• เปลี่ยนระบบแสงสว่างจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ เป็น LED ตลอดทั้งตู้โดยสาร
• ปรับและเพิ่มราวจับด้านบนให้เป็นสามแถว เพื่อให้ความสะดวกแก่ผู้โดยสาร
• เพิ่มพื้นที่โดยสารให้มากขึ้นในแต่ละตู้โดยสาร
• เพิ่มจำนวนปุ่มติดต่อพนักงาน (Passenger Communication Unit, “PCU”) ทุกประตูโดยสาร
• ป้ายสัญลักษณ์ที่จอดรถเข็น (wheel chair) ที่พื้นรถไฟฟ้า

เมื่อเริ่มเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2542 บริษัทฯ มีขบวนรถไฟฟ้าให้บริการทั้งหมด 35 ขบวน ความยาวขบวนละ 3 ตู้ รวมเป็น 105 ตู้ ผลิตโดยบริษัท ซีเมนส์ จำกัด ซึ่งในปัจจุบัน บริษัทฯ มีรถไฟฟ้าให้บริการทั้งสิ้น 52 ขบวน ความยาวขบวนละ 4 ตู้ รวม 208 ตู้ โดย 35 ขบวนเป็นขบวนรถที่ผลิตจาก บริษัท ซีเมนส์ จำกัด และจากบริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด จำนวน 17 ขบวน ให้บริการในระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 23.5 กิโลเมตร และส่วนต่อขยายระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครสายสีลม จากสถานีสะพานตากสิน-สถานีบางหว้า ระยะทาง 7.5 กิโลเมตร และส่วนต่อขยายโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครสายสุขุมวิท ช่วงสถานีอ่อนนุช-สถานีแบริ่ง ระยะทาง 5.25 กิโลเมตร และส่วนต่อขยายสถานีแบริ่ง-สำโรง ระยะทาง 2 กิโลเมตร รวมเป็น 38.25 กิโลเมตร 35 สถานี เมื่อขบวนรถไฟฟ้าใหม่ส่งมอบครบหมดแล้วในปี 2563 จะทำให้บริษัทฯ มีขบวนรถไฟฟ้าให้บริการทั้งสิ้น 98 ขบวน รวม 392 ตู้ และจะให้บริการในเส้นทางสายสีลมจากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติถึงสถานีบางหว้า ระยะทางรวม 14 กิโลเมตร และสายสุขุมวิทจากสถานีคูคตถึงสถานีสมุทรปราการ ระยะทางรวม 55 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารในเส้นทางที่ให้บริการดังกล่าวได้อีกไม่น้อยกว่า 10 ปี จากนี้ไป

นอกจากการนำเข้าขบวนรถไฟฟ้าแล้วบริษัทฯ ได้ลงทุนงบประมาณเพื่อปรับปรุงระบบตั๋วโดยสาร ซึ่งจะเปลี่ยนตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารเป็นระบบสัมผัส Touch Screen ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเลือกสถานีที่จะเดินทางได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มสมรรถนะของตู้จำหน่ายตั๋วบัตรโดยสารเพื่อให้รองรับส่วนต่อขยาย และเส้นทางสายอื่นๆ อาทิสายสีชมพู และสายสีเหลืองในอนาคต รวมทั้งการจัดซื้อตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารที่สามารถรับธนบัตรด้วยมาเพิ่มในระบบอีก 50 ตู้
ปัจจุบัน ระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส มีตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติชนิดกดปุ่ม (TIM) 153 ตู้ซึ่งเป็น ตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารที่ติดตั้งตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ และมีตู้จำหน่ายตั๋วแบบรับเหรียญและธนบัตร (ITM) 34 ตู้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/10/2017 6:58 pm    Post subject: Reply with quote

“บีทีเอส” ปรับขึ้นค่าโดยสาร บัตรคนจน 500 บาท ขึ้นได้กี่เที่ยว
PPTV HD 17:56น. 3 ต.ค. 2560

‘รถไฟฟ้าบีทีเอส’ ปรับขึ้นราคาค่าโดยสารใหม่ 16-59 บาท เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่าจะสามารถโดยสารรถไฟฟ้าได้จำนวนกี่เที่ยว ด้วยวงเงินเพียง 500 บาท

“บีทีเอส” ปรับขึ้นค่าโดยสาร บัตรคนจน 500 บาท ขึ้นได้กี่เที่ยว
วันนี้ (3 ต.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ปรับขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสใหม่ ทั้งแบบเที่ยวเดียวและแบบเที่ยวเดินทาง 30 วัน ส่งผลให้จากเดิมราคาเริ่มต้น 15-54 บาท ปรับเป็น 16-59 บาท โดยจะเรียกเก็บสถานีแรก 16 บาท , 2 สถานี ราคา 23 บาท , 3 สถานี ราคา 26 บาท , 4 สถานี ราคา 30 บาท , 5 สถานี ราคา 33 บาท , 6 สถานี ราคา 37 บาท , 7 สถานี ราคา 40 บาท , 8 สถานีเป็นต้นไป ราคา 44 บาท , สำหรับส่วนต่อขยาย สถานีบางจาก - สำโรง และ โพธ์นิมิตร - บางหว้า ราคา 59 บาท ขณะที่ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวนวงเงิน 500 บาทนี้ จะสามารถโดยสารรถไฟฟ้าได้ทั้งหมดกี่เที่ยว

โดย ผลจากการคำนวนของทีมข่าวออนไลน์ พบว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 500 บาท สามารถโดยสารรถไฟฟ้าราคา 16 บาท ได้จำนวน 31 เที่ยว , ราคา 23 บาท ได้จำนวน 21 เที่ยว , ราคา 26 บาท ได้จำนวน 19 เที่ยว , ราคา 30 บาท ได้จำนวน 16 เที่ยว , ราคา 33 บาท ได้จำนวน 15 เที่ยว , ราคา 37 บาท ได้จำนวน 13 เที่ยว , ราคา 40 บาท ได้จำนวน 12 เที่ยว , ราคา 44 บาท ได้จำนวน 11 เที่ยว และ ราคา 59 บาท ได้จำนวน 8 เที่ยว

ทั้งนี้เริ่มมีผู้นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐออกมาใช้งานกันบางส่วนแล้ว ซึ่งการใช้งานจะมีความคล้ายคลึงกับบัตรรถไฟฟ้าทั่วไป แต่จะจำกัดวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งสามารถใช้ได้เดือนละ 500 บาท และหากใช้เงินในบัตรไม่หมดก็จะถูกตัดเงินในวันสิ้นเดือนนั้น และเริ่มต้นนับวงเงินใหม่ในทุกต้นเดือน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐต้องวางแผนการเดินทาง เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับวงเงิน 500 บาท และเกิดความคุ้มค่าในการใช้งานบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ขณะที่ จากข้อมูลในเว็บไซต์บีทีเอส ( //www.bts.co.th/ ) ระบุว่า อัตราค่าโดยสารที่ตั้งแต่เปิดให้บริการครั้งแรกในวันที่ 5 ธันวาคม 2542 บริษัทฯ ได้จัดเก็บในอัตรา 10 – 40 บาท และได้มีการปรับครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2549 เป็น 15 -40 บาท ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2556 เป็น 15 - 42 บาท และครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่รถไฟฟ้าบีทีเอสเปิดให้บริการใน ปี 2542 หรือเมื่อเทียบกับที่รถไฟฟ้าให้บริการจะครบ 18 ปีในเดือนธันวาคม 2560 นี้จะเห็นได้ว่าบริษัทฯ มีการปรับราคาน้อยครั้งมาก
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/10/2017 10:49 am    Post subject: Reply with quote

กลุ่มบีทีเอสชวนประดับดาวเรือง
บ้านเมือง วันพุธ ที่ 04 ตุลาคม พ.ศ. 2560, 09.52 น.

Click on the image for full size

กลุ่มบริษัทบีทีเอส นำโดย ดร.อาณัติ อาภาภิรม ศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน คุณสุรพงษ์ เลาหะอัญญา คุณรังสิน กฤตลักษณ์ พร้อมคณะผู้บริหาร ได้ร่วมกันประดับต้นดอกดาวเรือง ที่ซุ้มถวายอาลัย ณ บริเวณทางเดินเชื่อม สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สนามกีฬาแห่งชาติ เพื่อแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/10/2017 12:08 pm    Post subject: Reply with quote

ค่ารถไฟฟ้าเมืองไทย แพงไปไหม? | ข่าวช่องวัน | ช่อง one31
one31 Published on Oct 3, 2017
ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นกันดุเดือด ภายหลังจากรถไฟฟ้า BTS ขึ้นราคาและมีผลวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่รถไฟฟ้า MRT ก็ยกเลิกโปรโมชั่นเติมเที่ยวแบบไม่ทันให้ตั้งตัว...


https://www.youtube.com/watch?v=i1qFT8idcRc
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/10/2017 4:45 pm    Post subject: Reply with quote

กทม.แจงปรับขึ้นค่า BTS หวังหนุนค่าใช้จ่ายบริหารจัดการเดินรถ
MGR Online เผยแพร่: 5 ต.ค. 2560 16:18:00

นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร มอบหมายให้นายธนูชัย หุ่นนิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร ชี้แจงกรณีที่มีประเด็นวิจารณ์ผ่านสื่อออนไลน์ หลังจากมีการปรับราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยระบุว่า ประชาชนและสื่อโซเชียลมีเดีย เริ่มมีการวิพากษ์วิจารณ์และมีการโพสต์ภาพตารางอัตราค่าโดยสารว่าสร้างความเข้าใจผิดต่อผู้ที่ไม่เข้าใจวิธีการคิดราคา โดยสะท้อนให้เห็นว่ามีการคิดราคาในสถานีใกล้เคียงกันสูงถึง 59 บาท และมีการวิจารณ์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลในเชิงลบ

กรณีนี้ สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. ขอเรียนข้อเท็จจริงว่า ตามที่มีการปรับราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสในส่วนของเส้นทางสัมปทานสายสุขุมวิท ตั้งแต่สถานีหมอชิตถึงสถานีอ่อนนุช และสายสีลมตั้งแต่สถานีสะพานตากสินถึงสถานีสนามกีฬา ระยะทางรวม 23.5 กิโลเมตร ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2560 นั้น เป็นไปตามสัญญาสัมปทานระหว่างกรุงเทพมหานคร กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยได้มีการติดป้ายแสดงราคาค่าโดยสารบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทุกสถานี พร้อมระบุอัตราค่าโดยสารในการเดินทางไปยังสถานีแต่ละแห่งอย่างชัดเจน เพื่อแจ้งให้ผู้โดยสารทราบและสามารถชำระค่าตั๋วโดยสารได้ถูกต้อง

โดยการคิดอัตราค่าโดยสารจะเริ่มต้นสถานีแรกที่ราคา 16 บาท และปรับเพิ่มตามระยะทางซึ่งจะไม่เกิน 44 บาท ซึ่งหากโดยสารตั้งแต่ 8 สถานีขึ้นไป จะคิดอัตราเท่าเดิมคือ 44 บาท

อย่างไรก็ตามสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางต่อเนื่องในเส้นทางส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท จากสถานีอ่อนนุช – สถานีสำโรง และส่วนต่อขยายสายสีลม จากสถานีวงเวียนใหญ่ – สถานีบางหว้า จะต้องชำระค่าโดยสารเพิ่มเติม ในส่วนของส่วนต่อขยาย ซึ่งคิดในอัตราเดียวคือ 15 บาท เมื่อรวมกันจึงเป็นราคา 59 บาท ตามที่แสดงในตารางราคาบริเวณสถานีบีทีเอส อาจทำให้เห็นว่าการคิดราคาในสถานีใกล้เคียงกันสูงถึง 59 บาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 68, 69, 70 ... 155, 156, 157  Next
Page 69 of 157

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©