รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS

[Wisarut]

[Wisarut]

'บีทีเอส' รับมอบรถไฟฟ้าล๊อตใหม่ จุคนเพิ่ม-ทันสมัย-ประหยัดพลังงาน
19 มิถุนายน 2561
‘บีทีเอส ‘รับมอบรถไฟฟ้า ล๊อตใหม่’จุคนเพิ่ม-ทันสมัย-ประหยัดพลังงาน
เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV

19 มิถุนายน 2561 17:37
'บีทีเอส' รับมอบรถไฟฟ้าชุดใหม่ "เพิ่มความจุ-ทันสมัย-ประหยัดพลังงาน"
19 มิถุนายน 2561


"บีทีเอส" รับรถไฟฟ้าขบวนแรกตามสัญญา ใหม่จาก "ซีเมนส์" โดยรถชุดแรกรองรับสายสุขุมวิท แบริ่ง-สมุทรปราการ ที่จะให้บริการ ธ.ค. โดยขบวนล๊อตใหม่ ทันสมัย สะดวก ประหยัดพลังงาน และรองผู้โดยสารมากกว่าเดิม

เมื่อวันอังคารที่ 19 มิ.ย.2561 ที่ผ่านมา ได้มีพิธีส่งมอบรถไฟฟ้าขบวนแรกตามสัญญาจัดหารถจำนวน 22 ขบวน (88 ตู้ ) ระหว่าง บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด ( มหาชน ) กับบริษัท ซีเมนส์ จำกัด ณ กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี โดยมี พล ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน )หรือบีทีเอส นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด ( มหาชน ) ผู้บริหารจาก Siemens Bozankaya ผู้แทนจาก บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด สื่อมวลชนที่ไปจากกรุงเทพ และสื่อมวลชนของตุรกี ท่ามกลางบุคคลในคณะรัฐบาลสาธารณรัฐตุรกีร่วมเป็นสักขีพยาน

สำหรับรถไฟฟ้าขบวนแรกนี้ เป็นขบวนรถในจำนวนทั้งหมด 22 ขบวน ที่ บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาจัดหารถไฟฟ้า จำนวน 46 ขบวน 148 ตู้ เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารในเส้นทางปัจจุบันและส่วนต่อขยายไปสมุทรปราการและคูคต โดยแบ่งออกเป็นการซื้อจาก บริษัทซีเมนส์ จำกัด 22 ขบวน และ บริษัท ซีอาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด 24 ขบวน มูลค่าประมาณ 11,000 ล้านบาท



โดยที่ขบวนรถดังกล่าวจะใช้เสปคเดียวกันหรือดีกว่าขบวนรถไฟฟ้าที่มีอยู่เดิม เพื่อให้เข้ากันได้กับระบบต่างๆที่มีอยู่อย่างสมบูรณ์ แต่จะเลือกใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดจากผู้ผลิตชั้นนำของโลก สำหรับขบวนรถ 22 ขบวนของซีเมนส์จะทำการออกแบบ และผลิตชิ้นส่วนต่างๆในเยอรมนี และออสเตรีย เป็นส่วนใหญ่ และนำมาประกอบที่โรงงานของบริษัท Bozankaya ประเทศตุรกี ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้ากับซีเมนส์ บริษัท Bozankaya เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญการผลิตชิ้นส่วนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นโรงงานผลิตยานพาหนะระบบราง และ ยานพาหนะระบบไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีชื่อในยุโรป อนึ่งขบวนรถของบริษัทซีเมนส์ นี้ จะมีการปรับรูปโฉมให้ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยมากขึ้น รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกภายในขบวนรถที่ช่วยประหยัดพลังงาน และ มีพื้นที่จุคนได้มากขึ้นในขบวนรถ และเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของซีเมนส์ทุกประการ ขบวนรถไฟฟ้าจำนวน 22 ขบวนนี้ เมื่อดำเนินการส่งมอบและทดสอบเรียบร้อย จะถูกนำมาให้บริการในเส้นทางปัจจุบันและเส้นทางส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กิโลเมตร ซึ่งมีกำหนดจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนในเดือนธันวาคม 2561


สำหรับเส้นทางส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท แบริ่ง – สมุทรปราการ นั้น ประกอบด้วยสถานีรวมทั้งสิ้น 9 สถานี โดยเมื่อปี 2560 ได้เปิดให้บริการ จำนวน 1 สถานีจาก สถานีแบริ่ง –สถานีสำโรง และอีก 8 สถานีที่จะเปิดให้บริการปลายปี 2561ประกอบด้วย สถานีปู่เจ้า สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกพฤกษา สถานีสายลวด และสถานีสุดท้ายคือ สถานีเคหะฯ

ส่วนความคืบหน้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วง หมอชิต -สะพานใหม่ – คูคตนั้น อยู่ในระหว่างขั้นตอนการออกแบบงานระบบเดินรถ ( Railway System ) การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และ ศูนย์ซ่อมบำรุงแห่งใหม่ ที่สถานีคูคต ระยะทางรวมทั้งสิ้น 19 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีรวมทั้งหมด 16 สถานี โดยคาดว่า โครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะดำเนินการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยภายในปี 2562 และหลังจากนั้น จะเป็นช่วงของการดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ซึ่งบริษัทฯจะเป็นผู้ให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงในส่วนต่อขยายนี้ ซึ่งมีแผนที่จะเข้าดำเนินงานก่อนในส่วนที่มีความพร้อม โดยสถานีแรกที่คาดว่าจะเปิดให้บริการแก่ประชาชน คือ สถานีห้าแยกลาดพร้าว และเมื่อส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ และ สายสีเขียว ช่วง หมอชิต - สะพานใหม่ –คูคต เสร็จเรียบร้อย รวมทั้งเส้นทางของรถไฟฟ้าในปัจจุบัน จะทำให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 68.25 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้สามารถเชื่อมโยงการเดินทางของประชาชนจากชานเมืองเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็วปลอดภัยและประหยัดเวลา


นายคีรี ระบุว่า การผลิตรถทั้ง 22ขบวนนี้ใช้เวลาในการผลิตที่สั้นกว่าการผลิต ตามปกติ เนื่องจากทกุฝ่ายเข้าใจถึงความต้องการในการใช้รถเพิ่มใน เส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอสโดยเฉพาะการที่จะต้องผลิตให้ทันเปิด ให้บริการส่วนต่อขยายไปสมุทรปราการใน เดือน ธ.ค.61

"ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไว้ณที่นี้โดยเฉพาะบริษัทซีเมนส์ และโบซันกายาที่ได้ร่วมกันทำงานอย่างหนักโดยแทบจะไม่มีวันหยุดเพื่อให้การผลิตแล้วเสร็จทันความต้องการใช้งานดังกล่าว ซึ่งมิเพียง ใช้เวลาสั้นเท่านั้น แต่ขณะเดียวกันยังคงไว้ซึ่งความเข้มงวดในเรื่องของ คุณภาพตามมาตรฐานของซีเมนส์ ทั้งนี้รถขบวนใหม่ ทันสมัย รองรับผู้โดยสารมากขึ้นเนื่องจากเอาเก้าอีบางสวนออก เหมือนรถไฟฟ้าในยุโรป" นายคีรี กล่าว



ทั้งนี้ รถขบวนแรกนี้หลังจากส่งมอบในแล้วจะขนส่งทางเรือไปยังประเทศไทยเพื่อทำการทดสอบบนเส้นทางจริงเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน เพื่อให้มั่นใจในคุณ ภาพก่อนนำไปให้บริการ และหลังจากนั้นจะ ทยอยส่งมอบขบวนรถที่เหลือไปยังประเทศไทยซึ่งจะเสร็จสิ้นช่วงต้นปีหน้า เพื่อให้สามารถเปิด ให้บริการส่วนต่อ ขยายไปสมุทรปราการได้ในเดือนธ.ค.2561

เขากล่าวว่า จากการที่ได้มาเห็นขบวนการผลิตและรถไฟฟ้าขบวนแรกที่แล้วเสร็จ ทำให้ผมมีความมั่นใจว่าทั้งบริษัทซีเมนส์และโบซันกายาจะสามารถทำการผลิตรถไฟฟ้าทั้ง 22ขบวนได้ตามกาหนดรวมถึงมีคุณภาพเป็นที่น่า ประทับใจเฉกเช่นเดียวกับรถของซีเมนส์ที่ใช้งานอยู่กว่า18ปีแล้วแต่ ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพที่ดี

ด้านนายอัศวิน กล่าวว่า กทม.หวังจะสร้างระบบไฟฟ้า ให้ครบทุกเส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกประชากรในกทม.ที่หันมาใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้น และช่วยแก้ปัญหาจราจร โดยเฉพาะหน้า กทม.จะสร้าง 3 เส้นทางใหม่ ซึ่งเป็นสายรอง เพื่อรองสายหลัก คือสายสีทอง เจริญนคร สายสีเทา วัชรพล โดยระยะแรก ถึง ทองหล่อง 19 กิโลเมตร และเส้นบางนา สุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะเปิด ประมูล ได้ในปีหน้า โดยกทม.พร้อมสนับเอกชนที่จะมาลงทุนด้านนี้ ส่วนคอขวดสถานีสะพานตากสินได้หารือ กับ บีทีเอส แล้วที่จะมาลงทุนตรงนี้ เพื่อแก้ปัญหา ประชาชนที่ตกค้าง แออัด วันละเป็นหมื่นๆคน

https://www.facebook.com/bangkokbiznews/videos/vb.135182934814/10158026630879815/?type=2&theater
https://www.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=voDSACh5KYY&app=desktop

[Mongwin]

ซีเมนส์เร่งส่งมอบรถไฟฟ้า22ขบวนดีเดย์ส.ค.นี้พร้อมดูแลบำรุงรักษา
ฐานเศรษฐกิจ 20 June 2018

“ซีเมนส์” เร่งรถไฟฟ้าขบวนแรกของสายสีเขียว พร้อมส่งมอบจากโรงงานรูปแบบรถไฟฟ้า 4 ตู้ จะเดินทางถึงประเทศไทยในเดือนสิงหาคมนี้จำนวนทั้งหมด 22 ขบวน ซึ่งซีเมนส์ได้รับมอบให้เป็นผู้ดูแลบำรุงรักษารถไฟฟ้าทั้ง 22 ขบวน

ใกล้ความจริงสำหรับรถไฟฟ้าขบวนแรกจากทั้งหมด 22 ขบวน ซึ่งเป็นขบวนรถไฟฟ้าแบบ 4 ตู้ สำหรับใช้งานในส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ได้รับการผลิตและพร้อมสำหรับการขนส่งมายังประเทศไทย ทั้งนี้ การผลิตรถไฟฟ้าที่โรงงานโบซานคายา (Bozankaya) ในกรุงอังการา ประเทศตุรกีเริ่มขึ้นในเดือนเมษายน พ.ศ.2560 และเพียง 14 เดือน รถไฟฟ้าขบวนแรกพร้อมแล้วสำหรับการส่งมอบ โดยมีบริษัท ซีเมนส์ จำกัด และบริษัทโบซานคายา ทำพิธีส่งมอบให้กับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)



รถไฟฟ้าดังกล่าวได้รับการผลิตภายใต้การออกแบบของซีเมนส์ มีน้ำหนัก 140 ตัน จะถูกขนส่งจากโรงงานผลิตไปยังท่าเรือ Borusan-Gemlik ในตุรกี ช่วงปลายเดือนมิถุนายน ระยะทางจากโรงงานถึงปลายทาง ณ ท่าเรือแหลมฉบัง ประเทศไทยประมาณ 15,000 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางขนส่งประมาณ 6 สัปดาห์ โดยคาดว่าจะเดินทางมาถึงท่าเรือแหลมฉบังในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561 หลังจากนั้นจะทดสอบระบบและทดลองวิ่งบนเส้นทางวิ่งของสายสีเขียว โดยจะให้บริการในเส้นทางบีทีเอสปัจจุบันที่มีอยู่และในส่วนต่อขยาย ซึ่งจะช่วยรองรับผู้โดยสารได้กว่า 1 ล้านคนต่อวัน

“นางซาบรีน่า ซูสซาน” ซีอีโอฝ่ายการเดินทางและระบบขนส่ง ซีเมนส์ เอจี กล่าวว่า ซีเมนส์ได้ออกแบบรถไฟฟ้าเพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีในการเดินทาง นวัตกรรมที่ใช้ในการผลิตตัวรถช่วยลดการใช้พลังงานพร้อมกับเพิ่มความจุผู้โดยสารด้วยการจัดวางรูปแบบภายให้ได้ประโยชน์สูงสุด แต่ละข้างของตัวรถประกอบด้วยประตู 4 บาน ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถขึ้นรถและออกจากรถไฟได้อย่างรวดเร็ว ลดเวลาที่จอดอยู่ที่สถานีและเพิ่มกำลังการผลิตของระบบ ผู้โดยสารจะได้รับความรู้สึกสบายในห้องโดยสารด้วยระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง

ซีเมนส์และโบซานคายาได้พัฒนารูปแบบการตกแต่งภายใน ให้สามารถจุผู้โดยสารได้มากในขณะที่ห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวาง สร้างบรรยายากาศเชิญชวนและเป็นกันเอง ราวจับถูกออกแบบให้ต่อเนื่องและได้มาตรฐานตามหลักการยะศาสตร์ ในขณะที่ยังสะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบภายนอกที่ไหลลื่นของรถไฟ ส่วนพื้นของรถไฟได้รับการออกแบบให้เห็นความแตกต่างกันระหว่างทางเข้าและบริเวณที่นั่ง / ยืน โดยใช้สีที่ต่างกัน กระจกกั้นระหว่างที่นั่งผู้โดยสารและประตูรูปโฉมใหม่ พื้นที่ส่วนที่นั่งประกอบด้วยที่นั่งติดกัน 7 ที่นั่ง พื้นที่สำหรับรถเข็นสามารถมองเห็นได้โดยรูปสัญลักษณ์บนพื้น บริเวณส่วนสำหรับยืนได้เพิ่มพื้นที่พนักพิงในการยืนเข้ามาเพิ่มเติม

การออกแบบด้านนอกตัวรถมีแถบสีดำแนวนอนไล่ไปตามแนวหน้าต่างด้านข้างยาวไปตามความยาวของตัวรถไฟ และส่วนสูงสุดของเส้นลวดลายกราฟฟิกนี้จะอยู่บริเวณประตู การวางตำแหน่งแถบสีน้ำเงินและสีแดงด้านล่างและด้านบนของบริเวณหน้าต่างช่วยให้มองเห็นอัตลักษณ์ของบีทีเอสได้จากทุกมุมมอง และยังสามารถมองเห็นสีเครื่องหมายบีทีเอสได้อย่างชัดเจนเมื่อมองขึ้นไปจากระดับพื้นดิน

บริเวณส่วนหัวรถไฟฟ้าถูกออกแบบให้มีมิติในการมองมากขึ้น และเสริมสร้างเส้นกราฟฟิกที่โดดเด่น ลายเส้นที่ชี้ขึ้นทำให้ด้านหน้าสุดของรถดูเฉียบคมและทันสมัย พื้นที่ส่องสว่างโดดเด่นเป็นพิเศษและเป็นส่วนสำคัญของการออกแบบส่วนหัวรถ โดยใช้เทคโนโลยี LED ที่แสงสามารถเปลี่ยนสีแสงจากสีขาวเป็นสีแดงขึ้นอยู่กับทิศทางการทำงานของรถไฟ

ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2559 บีทีเอสซี ได้ลงนามสั่งซื้อกับ บริษัท ซีเมนส์ จำกัด และบริษัทโบซานคายา ผู้ผลิตรถขนส่งสาธารณะของประเทศตุรกี เพื่อดำเนินการออกแบบและผลิตรถไฟฟ้าแบบ 4 ตู้ จำนวน 22 ขบวน นอกจากนี้ ซีเมนส์ยังได้รับความไว้วางใจในการให้เป็นผู้ดูแลด้านการบำรุงรักษาเป็นระยะเวลา 16 ปีด้วย ซีเมนส์ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบด้านการจัดหาแคร่ล้อ (Bogie) ระบบลากและเบรค (traction and braking systems) ระบบจ่ายไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์ในตัวรถ (auxiliary system) รวมถึงการจัดการโครงการ การออกแบบ / วิศวกรรมและงานทดสอบการใช้งานของระบบรถไฟฟ้า

การจัดซื้อครั้งนี้ เป็นไปตามแผนงานของบีทีเอสซีในการเพิ่มรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีอยู่เดิม และส่วนต่อขยายไปทางตะวันออก และส่วนต่อขยายไปทางเหนือ รถไฟฟ้าขบวนใหม่นี้ สามารถวิ่งได้ในความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตร/ ชั่วโมง รองรับที่นั่งได้ 112 ที่นั่ง และมีพื้นที่สำหรับยืนจุได้ 1,460 คน ต่อขบวน สำหรับส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวนี้ ซีเมนส์ยังเป็นผู้ดูแลด้านระบบไฟฟ้าให้อีกด้วย

ด้านมร.โทมัส มาซัวร์ หัวหน้าฝ่ายการเดินทางและระบบขนส่ง บริษัท ซีเมนส์ จำกัด กล่าวว่า ซีเมนส์รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในการติดตั้งระบบรถไฟฟ้า รวมถึงการบำรุงรักษามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มมีการใช้งานระบบขนส่งมวลชนของประเทศไทย การส่งมอบขบวนรถไฟฟ้าชุดใหม่แบบ 4 ตู้ จำนวน 22 ขบวน เป็นการแสดงให้เห็นถึงการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งระหว่างซีเมนส์กับ กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และซีเมนส์จะยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบรถไฟฟ้าและระบบรางผ่านระบบการศึกษา เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ไปพร้อมกับการสนับสนุนเทคโนโลยีที่ดีที่สุดให้กับประเทศไทย ฝ่ายการเดินทางและระบบขนส่งของซีเมนส์ มีความเข้าใจและบริหารโครงการแบบเบ็ดเสร็จให้กับระบบขนส่งมวลชน 3 ระบบแรกของกรุงเทพ และเป็นพื้นฐานในการต่อยอดโครงการอื่นๆ

ในปี 2542 รถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าโครงการแรกของประเทศไทย มีระยะทาง 23 ก.ม. โดยซีเมนส์เป็นผู้จัดหารถไฟ แบบ 4 ตู้ จำนวน 35 ขบวน และต่อมาได้ขยายเพิ่มอีกประมาณ 13 ก.ม. และส่วนต่อขยายอีก 2 ส่วนที่กำลังจะแล้วเสร็จมีระยะทางรวม 32 ก.ม. โดยแบ่งเป็นเส้นทางจากสายสุขุมวิทไปทางใต้ 13 ก.ม. มีสถานี 7 สถานี และอีก 19 ก.ม. เป็นเส้นทางไปทางเหนือของสายสุขุมวิท ซึ่งจะมีทั้งหมด 16 สถานี ทำให้มีเส้นทางที่เชื่อมต่อกันรวมแล้ว 68 ก.ม. ต่อมาในปี 2547 ซีเมนส์ได้ส่งมอบระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าลำดับที่ 2 ให้กับประเทศไทย คือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT) ซึ่งมีระยะทาง 20 ก.ม. รวม 18 สถานี และปัจจุบัน ได้ขยายเส้นทางเพิ่มอีก 28 ก.ม.กับอีก 19 สถานี ซึ่ง ซีเมนส์จะเป็นผู้จัดหาระบบจัดการแบบเบ็ดเสร็จ ประกอบด้วยรถไฟฟ้าแบบ 4 ตู้ 35 ขบวน ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ ระบบส่งไฟฟ้า และ อุปกรณ์การซ่อมบำรุงทั้งหมด รวมไปถึงการซ่อมบำรุงรักษาในระยะเวลา 10 ปี และอีก 1 โครงการซึ่งเป็นระบบจัดการแบบเบ็ดเสร็จ ที่ซีเมนส์ได้ส่งมอบ คือ โครงการรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ARL) ส่งมอบรถไฟจำนวน 9 ขบวน และได้เปิดให้บริการในปี 2553

สำหรับในปี 2560 ที่ผ่านมา ซีเมนส์ ได้รับการว่าจ้างให้เป็นผู้ส่งมอบรถไฟฟ้ารุ่น Airval ซึ่งเป็นระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติแบบ 2 ตู้ จำนวน 6 ขบวน สำหรับขนส่งผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

[Wisarut]

บีทีเอสสายสุขุมวิทขัดข้อง เร่งแก้ไข!ผู้โดยสารล้นชานชลา
จันทร์ที่ 25 มิถุนายน 2561 เวลา 08.08 น.

"บีทีเอส" แจ้งสายสุขุมวิทขาเข้าเกิดเหตุขัดข้องในระบบการเดินรถการและกำลังดำเนินการแก้ไข ทำให้ผู้โดยสารล้นชานชลาและปิดไม่ให้ผู้โดยสารขึ้นไปบนชานชลา


เมื่อเวลา 08.12 น. วันที่ 25 มิ.ย. บีทีเอสแจ้งสายสุขุมวิทขาเข้าเกิดเหตุขัดข้องในระบบการเดินรถการและกำลังดำเนินการแก้ไข ทำให้ผู้โดยสารล้นชานชลาและปิดไม่ให้ผู้โดยสารขึ้นไปบนชานชลา อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่ต้องการเดินทางโดยสารบีทีเอสควรวางแผนการเดินทาง.

ขอบคุณข้อมูล @BTS_SkyTrain

[Mongwin]

BTS แจงเดินรถล่าช้า เหตุ 'คลื่นรบกวน' อาณัติสัญญาณ
กรุงเทพธุรกิจ 25 มิถุนายน 2561

ผู้บริหารรถไฟฟ้าบีทีเอส แจงปัญหาการเดินรถขัดข้องบ่อยครั้ง เหตุระบบอาณัติสัญญาณสถานีสยามถูกคลื่นรบกวน คาดระบบใหม่แล้วเสร็จภายในปีนี้

ดร.อาณัติ อาภาภิรม ประธานกรรมการที่ปรึกษา บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ระบุ สาเหตุที่รถไฟฟ้าบีทีเอสเกิดปัญหาขัดข้องบ่อยครั้งในช่วงนี้ เป็นเพราะระบบอาณัติสัญญาณที่สถานีสยาม ถูกคลื่นรบกวน จึงไม่สามารถใช้ระบบอัตโนมัติในการเดินรถได้ ต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบแมน่วล ส่งผลให้การเดินรถล่าช้า และส่งผลต่อเนื่องไปยังสถานีอื่นๆ

แนวเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอสจะมีตึกสูงอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเกิดปัญหาคลื่นรบกวนบ่อยครั้งจนส่งผลต่อการให้บริการเดินรถ ที่ผ่านมาบริษัทได้วางระบบอาณัติสัญญาณใหม่ ซึ่งจะป้องกันคลื่นรบกวนได้ แต่ การวางระบบใหม่จำเป็นต้องใช้เวลา ซึ่งในส่วนของสถานีสยามยังระบบเก่า โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถวางระบบป้องกันคลื่นรบกวนได้ตลอดแนวเส้นทาง

[Wisarut]

บีทีเอสแจงเสียถี่ เหตุกำลังติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณสายสีเขียวใต้
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 25 มิถุนายน 2561 12:01
ปรับปรุง: 25 มิถุนายน 2561 13:38




“บีทีเอส” แจงขัดข้องถี่ เหตุกำลังติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ทำให้ถูกคลื่นวิทยุแทรกรบกวนระบบอาณัติสัญญาณหลักได้ง่าย ด้าน “อาคม” เรียกบีทีเอสหามาตรการดูแลผู้โดยสาร

รายงานข่าวแจ้งว่า กรณี รถไฟฟ้าบีทีเอส ระบบอาณัติสัญญาณในสายสีลมและสายสุขุมวิทขัดข้อง ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ (25 มิ.ย.) ทำให้ขบวนรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำ ขบวนรถจะล่าช้าเฉลี่ย 15 นาที และกระทบไปยังขบวนต่อๆ ไป ส่งผลให้ผู้โดยสารจำนวนมากตกค้างตามสถานีต่างๆ โดยล่าสุดได้แก้ไขเรียบร้อยแล้วและการเดินรถกลับสู่สภาวะปกติเมื่อเวลา 10.03 น.นั้น ขณะที่ในช่วง 1-2 เดือนนี้พบว่าระบบบีทีเอสขัดข้องบ่อย กระทบต่อการเดินทางของประชาชนในช่วงเวลาเร่งด่วน ช่วงเช้าและเย็นอย่างมาก

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าทุกระบบ ทั้งบีทีเอส แอร์พอร์ตเรลลิงก์ รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT จะต้องมีการรายงานการบริการทุกวัน ล่าสุดกรณีบีทีเอสเป็นเรื่องของระบบอาณัติสัญญาณ ซึ่งจะเรียกผู้บริหารบีทีเอสมาพุดคุยหาทางแก้ปัญหา ขณะนี้บีทีเอสอยู่ระหว่างจัดหารถขบวนใหม่เพิ่มเติม

ด้าน ดร.อาณัติ อาภาภิรม ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดการ บีทีเอส กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ระบบบีทีเอส ขัดข้องค่อนข้างบ่อยช่วงนี้เนื่องจากขณะนี้บีทีเอสอยู่ระหว่างติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณส่วนต่อขยาย รถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งระบบยังไม่เสร็จ และยังไม่มีการปรับจูน ประกอบกับ ตลอดเส้นทางของบีทีเอส สายสีลม และสายสุขุมวิท มีตึกสูงอยู่ขนาบข้างซึ่งจะมีการส่งคลื่นสัญญาณต่างๆ ทั่วไป ทั้งวิทยุสื่อสาร สัญญาไวไฟ อินเทอร์เน็ตจากตึกสูงทำให้อาจทำให้มีคลื่นสัญญาณแทรกรบกวนระบบหลักของบีทีเอสได้

ทั้งนี้ บีทีเอสไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อพบปัญหาได้พยายามหาทางแก้ปัญหาร่วมกับซัปพลายเออร์ และเร่งติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณของสายสีเขียวใต้ให้เสร็จโดยเร็ว ขณะที่ระบบรถไฟฟ้ามีมาตรฐานความปลอดภัยสูงเมื่อถูกคลื่นรบกวนระบบจะหยุดอัตโนมัติ ที่ผ่านมาเมื่อต้องวิ่งผ่านช่วงที่ถูกคลื่นแทรกเข้ามามากๆ ระบบอัตโนมัติจะตัดและปรับเป็นการขับด้วยระบบ manual จนกว่าจะพ้นจุดนั้นแล้วระบบจะกลับมาวิ่งอัตโนมัติซึ่งอาจทำให้ขบวนรถวิ่งช้าลง

อย่างไรก็ตาม หากบนชานชาลามีผู้โดยสารจำนวนมากจะกั้นไม่ให้ขึ้นไปเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยในช่วงบ่ายวันนี้ (25 มิ.ย.) จะหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคมเพื่อรายงานปัญหาและหามาตรการในการดูแลผู้โดยสารในกรณีที่เกิดเหตุขัดข้องขึ้นมาอีก และหลังจากนี้ปัญหาจะค่อยๆ ลดลงแน่นอน

[Mongwin]

15:44 BTS แจ้งว่าเนื่องจากระบบอาณัติสัญญาณขัดข้อง ในสายสุขุมวิท และ สายสีลม ส่งผลกระทบให้การเดินทางถึงจุดหมายปลายทางล่าช้าประมาณ 10 นาที ขออภัยในความไม่สะดวก
https://www.facebook.com/js100radio/photos/a.121434294546813.13344.116483835041859/1865347050155520

[Wisarut]

“อาคม” เรียกบีทีเอสแจง ขัดข้องบ่อย ด้านกรรมการบีทีเอสเผยมาตรฐานระบบเดินรถ มีคุณภาพเกือบ100%
พร็อพเพอร์ตี้
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 25 มิถุนายน 2561 - 17:59 น.

Facebook53TwitterGoogle+LINE

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีปัญหารถไฟฟ้าบีทีเอสขัดข้องในช่วงเช้าวันนี้ ว่า ส่งผลให้การเดินทางของประชาชนในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเกิดความล่าช้านานกว่า 10 นาที/รอบ และมีผู้โดยสารตกค้างตามสถานีเป็นจำนวนมาก ซึ่งบ่ายวันนี้จะเรียกผู้บริหาร บีทีเอส ดคุยถึงปัญหา สาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหา หากเป็นปัญหาที่ระบบอาณัติสัญญาณ ก็ต้องกำชับให้การซ่อมบำรุงหรือการปรับระบบไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน อย่างไรก็ตามจากการสำรวจสถิติปัญหารถไฟฟ้าบีทีเอสขัดข้อง พบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้เป็นการขัดข้องมากกว่า 8ครั้ง ในรอบเดือน

ด้าน นายอาณัติ อาภาภิรมย์ กรรมการ บริษัท รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวว่า ในการจัดทำสถิติการขัดข้องของรถไฟฟ้าบีทีเอส ในแต่ละเดือนนั้น บีทีเอส ไม่ได้ให้ความสำคัญกับจำนวนครั้ง แต่ให้ความสำคัญกับการดูแลให้ผู้โดยสารเดินทางได้ตรงเวลาในสถิติ ล่าช้าไม่เกิน 5 นาที ซึ่งขณะนี้ระบบเดินรถของบีทีเอส ยังดำเนินการได้มาตรฐาน 99.5%


ส่วนสาเหตุของการขัดข้องในวันนี้ เบื้องต้นมาจากปัญหาระบบอาณัติสัญญาณถูกคลื่นวิทยุสื่อสารรบกวน จึงจำเป็นต้องปรับระบบจากเดินรถอัตโนมัติมาเป็นเดินรถแบบแมนนวล แต่ปัญหาคลื่นวิทยุสื่อสารเป็นการก่อกวนหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องไปตรวจสอบ แต่เบื้องต้นยอมรับว่าเส้นทางของรถไฟฟ้าบีทีเอสที่วิ่งผ่านใจกลางเมือง มีตึกสูงจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาคลื่นวิทยุรบกวนอาณัติสัญญาณบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่อยากโทษใคร และพยายามแก้ไขปัญหาไปตามอุปสรรคที่เกิดขึ้น

โดยบีทีเอส ยืนยันว่า การดูแลมาตรฐานความปลอดภัย บีทีเอสให้ความสำคัญสูงสุด ซึ่งปัญหาขัดข้องในวันนี้เมื่อระบบเตือนว่า ระบบอาณัติสัญญาณถูกก่อกวนจนเกิดความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นจึงต้องปรับระบบเพื่อให้ผู้โดยสารปลอดภัยที่สุด ส่วนแผนเผชิญเหตุ บีทีเอสได้ทำตามมาตรฐาน โดยได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารทราบเพื่อประกอบการตัดสินใจในการเดินทางของประชาชน โดยมีการแจ้งผ่านทวิตเตอร์ ที่มีผู้ติดตามกว่า 2 ล้านราย เพื่อแจ้งข่าว

ขณะเดียวกันมี รายงานจากทางบริษัทรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ระบุว่า เบื้องต้นการขัดข้องของรถไฟฟ้าแต่ละครั้งมีสาเหตุที่แตกต่างกัน เช่น มีผู้ทำสิ่งของตกลงบนราง หรือมีการกดปุ่มหยุดรถฉุกเฉิน เป็นต้น ในขณะที่ครั้งน้ีเกิดขึ้นจากปัญหาด้านระบบอาณัติสัญญาณซึ่งทางบีทีเอส อยู่ระหว่างการปรับระบบอาณัติสัญญาณให้มีเสถียรภาพมากขึ้นเพื่อรองรับการให้บริการของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทปราการ) ที่กำลังจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้


BTS แจงวุ่น! ขอเวลาซ่อมใหญ่ระบบวิทยุสื่อสาร ยันศุกร์นี้จะไม่เกิดปัญหาอีก
พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 25 มิถุนายน 2561 - 19:51 น.

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ชี้แจงว่า ต้องขออภัยผู้โดยสารที่ประสบเหตุเมื่อช่วงเช้าวันนี้ก่อน เหตุขัดข้องในเช้าวันนี้เกิดจากการปรับเปลี่ยนระบบวิทยุสื่อสารในระบบอาณัติสัญญาณ ซึ่งปัจจุบันใช้ระบบอาณัติสัญญาณของ “บอมบาดิเอร์” จากประเทศแคนาดา เพื่อให้มีความเสถียรและรองรับระบบใหม่ในอนาคต การปรับเปลี่ยนดำเนินมากว่า 1 ปีแล้ว โดยจะเร่งให้แล้วเสร็จในวันศุกร์ (29 มิ.ย.) นี้ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จะแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกในวันพรุ่งนี้ แต่ยังไม่มั่นใจ 100% อย่างไรก็ตาม หลังจากเปลี่ยนระบบเสร็จในวันศุกร์นี้ เชื่อว่าปัญหาต่างๆรวมไปถึงปัญหารถไฟฟ้ากระชากในบางจุดจะไม่เกิดขึ้นอีก

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ขอเรียนว่า ความขัดข้องที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย และยอมรับว่าเดือนนี้เกิดปัญหาขัดข้องมากที่สุด แต่ความขัดข้องในวันนี่ไม่ได้ทำให้รถหยุดวิ่งแต่อย่างใด แต่อาจจะวิ่งช้าลงบ้าง เพราะเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย เชื่อว่าการปรับปรุงครั้งนี้จะไม่เกิดเหตุแบบเดียวกับวันนี้อีก


ส่วนมาตรการเยียวยาผู้โดยสาร เบื้องต้นหากผู้โดยสารประสงค์จะไม่ใช้บริการแล้ว ก็จะคืนเงินค่าโดยสารให้ ส่วนมาตรการชดเชยในรูปแบบอื่น ต้องขอกลับไปพิจารณาก่อน ส่วนตัวชี้วัด (KPI) ที่กทม.กำหนดไว้มีเพียงเรื่องความตรงต่อเวลา โดยกำหนดไว้ที่ 97.5% ขณะนี้ทำได้มากกว่าค่าเฉลี่ยที่ 99%

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า แม้ว่ากระทรวงคมนาคมจะไม่ได้เป็นเจ้าของสัมปทาน แต่เบื้องต้นได้ให้ BTS ทำการแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบถึงความขัดข้องที่จะเกิดขึ้นก่อน รวมถึงต้องแจ้งข้อมูลความล่าช้าของขบวนรถให้ประชาชนทราบด้วย และต้องดูแลประชาชนที่รอทั้งใน-นอกสถานีควบคู่ไปด้วย

นอกจากนี้ กระทรวงฯประสานงานไปยัง ขสมก. ให้เพิ่มขบวนรถเมล์ในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยเฉพาะรถเมล์ที่ผ่านสายสุขุมวิทที่มีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสถานีสยาม และจะส่งผู้ตรวจการจากกรมการขนส่งทางบกมากำกับดูแลรถแท็กซี่และมอเตอร์ไซด์รับจ้าง เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบผู้โดยสารที่เกิดขึ้น

ส่วนกระแสทวงคืนสัมปทาน BTS ในโลกออนไลน์นั้น ขอให้ไปถาม กทม. ในฐานะเจ้าของสัมปทาน เพราะมีคณะกรรมการกำกับดูแลตามสัญญาสัมปทานคอยดูแลอยู่ หากประชาชนจะมีข้อเสนอเพื่อเรียกร้องการเยียวยาอื่นๆเพิ่มเติม ก็สามารถส่งมาให้ BTS หรือ กทม. ได้

[Mongwin]

บีทีเอส เผยแผนแก้ปัญหารถไฟเสีย "หารถเมล์ให้ต่อ-ติดตั้งอุปกรณ์แก้ปัญหา"
โพสต์ทูเดย์ วันที่ 25 มิ.ย. 2561 เวลา 20:30 น.

บีทีเอส เผยแนวทางแก้ปัญหารถไฟฟ้าขัดข้อง ระยะสั้นประสานหารถเมล์-ดูแลผู้โดยสารไม่ให้ถูกโกง ระยะยาวกำลังติดตั้งอุปกรณ์แก้ปัญหาการเดินรถ

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.  นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานหารือการแก้ปัญหาการเดินรถระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยมีบริหารกระทรวงฯ  และผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ผู้บริหารบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมหารือ โดยที่ประชุมได้ผลการหารือ ดังนี้

1.ผู้บริการรถระบบไฟฟ้าบีทีเอส ได้รายงานแนวทางการแก้ปัญหาเหตุขัดข้องการเดินรถช่วงเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งเกิดจากระบบอาณัติสัญญาณ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่เพื่อแก้ปัญหา และมีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ และจะมีการแก้ปัญหาการเดินรถขัดข้องที่เกิดจากระบบอาณัติสัญญาณให้มีความเสถียรยิ่งขึ้นในอนาคต

2.ระหว่างการแก้ไขปัญหาการเดินรถขัดข้อง ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส จะมีการแจ้งข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้ทันการณ์ไปยังผู้ใช้บริการ พร้อมทั้งดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนที่ติดค้างอยู่ที่สถานี และให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดหารถโดยสารเพิ่มเติมในเส้นทางสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิท เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน ตามแผนเผชิญเหตุของระบบขนส่งสาธารณะทางรางในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

3.ให้กรมการขนส่งทางบก กำกับดูแลประชาชนผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบระหว่างดำเนินการแก้ปัญหาขัดข้องของระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส ด้วยการเลือกใช้บริการระบบขนส่งสาธารณอื่นๆ ไม่ให้มีการถูกเอารัดเอาเปรียบคิดค่าโดยสารเกินจริง

[Mongwin]

คมนาคมเรียกแจง‘รถไฟฟ้า’ขัดข้องบ่อย BTSจ่อหารือ กทม.จ่ายชดเชย
แนวหน้า วันจันทร์ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 19.41 น.

25 มิ.ย.61 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า จากกรณีปัญหารถไฟฟ้าขัดข้องดังกล่าว และมีประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการของรถไฟฟ้า BTS มีการขัดข้องอยู่บ่อยครั้งนั้น ทางกระทรวงคมนาคมได้ให้ทาง BTS เข้ามาชี้แจง โดยภายในเดือน มิ.ย.61 พบว่า รถไฟฟ้า BTS เกิดขัดข้องประมาณ 9 ครั้งแล้ว ซึ่งทาง BTS ชี้แจงว่าปัญหาการขัดข้องของรถไฟฟ้าครั้งนี้ เกิดจากการเปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณ และในเบื้องต้นได้สั่งการให้ BTS ดูแลการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะการให้ข้อมูลข่าวสารให้ชัดเจนกี่นาที ความถี่ของรถเท่าไร ดูแลผู้โดยสารภายในสถานี เพื่อลดปัญหาการสะสมของจำนวนประชาชน จากเดิมที่ไม่ควรรอเกิน 2 นาที

ทั้งนี้ ปัจจุบันระบบขนส่งสาธารณะแทบทุกโหมดได้มีการลงนานความร่วมมือในการดำเนินการแผนเผชิญเหตุ ทั้งการหาระบบขนส่งสำรองเพื่อมารองรับผู้เดินทางเช่น รถเมล์ และมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แต่ยอมรับว่ามีการประสานงานที่ไม่ต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้บริการไม่ได้รับความสะดวก ซึ่งในอนาคตจะมีการประสานการกันให้ใกล้ชิดมากขึ้น ขณะที่การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้มีการประสานขอให้ทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เสริมรถเมล์ให้โดยเฉพาะสายสุขุมวิท ด้านการกำกับดูแลขนส่งสาธารณะระบบอื่นเช่น เเท็กซี่ รถจักรยานยนต์ รวมถึงให้ทาง BTS ไปเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาในระยะยาวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก ส่วนประเด็นการเยียวยานั้นขอให้ BTS เป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม

ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชน จำกัด (มหาชน)(BTS) เปิดเผยว่า ในเดือน มิ.ย.นี้ ยอมรับว่ามีการขัดข้องของรถไฟฟ้ามากที่สุดในช่วงหลายปี โดยเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนสัญญาณวิทยุในระบบอาณัติสัญญาณ เพื่อรองรับการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต คาดว่าจะดำเนินการติดตั้งระบบขบวนรถไฟฟ้าทั้ง 52 ขบวนให้แล้วเสร็จภายในที่ 29 มิ.ย.นี้ ส่วนการดูแลเยียวยาผู้โดยสารนั้นทาง BTS ยินดีชดเชย แต่ขอทบทวนวิธีการชดเชยก่อน โดยต้องหารือกับทางกรุงเทพมหานคร(กทม.) อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังจากปรับเปลี่ยนระบบแล้ว ปัญหาความขัดข้องจะน้อยลงและมีความเสถียรมายิ่งขึ้น นอกจากนี้ในส่วนของกรณีการเข้าร่วมบัตรแมงมุมนั้นทาง BTS ยินดีร่วมกับบัตรแมงมุม แต่ระบบขณะนี้ยังไม่ลงตัวกับรถไฟฟ้า BTS อาจเข้าร่วมในรูปแบบบัตร EMV ซึ่งจะต้องมีการศึกษรายละเอียดอีกครั้ง

ส่วนนายอาณัติ อาภาภิรม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา บริษัท ระบบ ขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)(BTS) กล่าวว่า แม้ว่าระบบอาณัติสัญญาณจะขัดข้องแต่ตัวขบวนรถยังสามารถเดินได้ต่อเพียงแต่ความเร็วในการให้บริการลดลงมาอยู่ในระบบการรักษาความปลอดภัยของการเดินรถเท่านั้น ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาทางเจ้าหน้าที่ควบคุมรถจะต้องขับเคลื่อนรถเองไปจนกว่าจะพ้นจากช่วงที่คลื่นสัญญาณถูกรบกวน แล้วรถจึงจะเข้าสู่โหมดการทำงานแบบอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามระหว่างการปรับเปลี่ยนอาณัติสัญญาณหรือวิทยุภายในระบบนั้นไม่เสถียรทำให้คลื่นวิทยุในอากาศ โดยเฉพาะในแหล่งชุมชนที่มีคลื่นค่อนข้างเยอะสามารถเข้ามารบกวนได้โดยเฉพาะสถานีสยาม สถานีชิดลม สถานีสีลม ซึ่งเป็นย่านที่มีตึกสำนักงานค่อนข้างเยอะ