Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว Airport Link
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
Posted: 14/11/2006 7:55 pm Post subject:
เปิดแผนประมูลรถไฟฟ้าละเอียดยิบ "คมนาคม"ลั่น4เดือนลุยครบทั้ง5สาย
มติชน 13 พฤศจิกายน 2549
เปิดละเอียดยิบแผนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 1.65 แสนล้าน คมนาคมเดินหน้าเต็มสูบทยอยเปิดประมูลยกลอตปีหน้าทั้ง 5 สาย ประเดิมสายสีแดง "บางซื่อ-ตลิ่งชัน" เดือนมกราคม ตามด้วยสีม่วง "บางซื่อ-บางใหญ่" เดือนมีนาคม ส่วนน้ำเงิน เขียวอ่อน เขียวเข้ม คิวถัดไปเดือนเมษายน ดีเวลอปเปอร์ นักธุรกิจ นักลงทุน ตีปีก จับตาที่ดินแนวรถไฟฟ้าและพื้นที่ชานเมืองทั้งฝั่งธนฯ เมืองนนท์ ปากน้ำ ปทุมฯ กลายเป็นขุมทรัพย์แห่งใหม่
นายไมตรี ศรีนราวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในหลักการลงทุนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าจำนวน 5 สายทาง ระยะทาง 118 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 165,402 ล้านบาท และให้เวลา 2 เดือน เพื่อจัดประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นของประชาชนอีกครั้ง และให้พิจารณาเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย
การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) และ สนข. ได้หารือร่วมกัน และได้จัดทำรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับแนวทางและรูปแบบการลงทุน ตลอดจนกำหนดระยะเวลาประมูลก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าแต่ละเส้นทางเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ปี"50 เปิดประมูลทั้ง 5 สาย
ได้ข้อสรุปว่า ขั้นตอนการเปิดประมูลจะไม่ดำเนินการพร้อมกันทั้ง 5 สาย แต่จะดูความพร้อมเป็นหลัก สายใดมีแบบรายละเอียดแล้ว และเป็นโครงสร้างยกระดับที่ก่อสร้างได้ง่ายจะเปิดประมูลก่อสร้างเลย อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 5 สาย จะเปิดประมูลได้ทั้งหมดในสมัยรัฐบาลชุดนี้ แม้ระยะเวลาอาจจะห่างกัน เพราะขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละสายทาง
"เราจะใช้เวลาในการประกวดราคาหาตัวผู้รับเหมาก่อสร้างประมาณ 6 เดือน คือ จะเปิดขายแบบ 1 เดือน ให้ผู้รับเหมาคิดราคา 3 เดือน รับข้อเสนอด้านราคา และพิจารณาอนุมัติ 2 เดือน หลังจากนั้นเสนอให้ ครม.อนุมัติราคา ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็สามารถลงมือก่อสร้างได้ทันที"
ประเดิมสีแดงเดือนมกราคมปี"50
นายไมตรีกล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายแรกที่จะเปิดประมูลก่อน คือ
1) สายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ ระยะทาง 15 กิโลเมตร วงเงินค่าก่อสร้าง 11,868 ล้านบาท โดยจะเปิดประมูลได้ในเดือนมกราคม 2550 ก่อสร้างเดือนกรกฎาคม 2550 มีทั้งหมด 6 สถานี คือ
1) สถานีบางซื่อ
2) สถานีบางซ่อน (ที่หยุดกรถบางซ่อน)
3) สถานีบางกรวย (เชิงสะพานพระราม 7 ฝี่งวัดละมุด)
4) สถานีบางบำหรุ
5) สถานีสวนผัก และ
6) สถานีตลิ่งชัน
จะรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากชานเมือง และทางไกลจากภาคใต้ไปลงที่สถานีตลิ่งชัน แล้วเข้ามาใช้ระบบนี้เดินทางเข้ามาในเมืองได้เลย
"สายสีแดง หลังจากผ่านขั้นตอนประชาพิจารณ์ใน 2 เดือนนี้ จะเปิดประมูลได้ทันที เพราะมีแบบรายละเอียดอยู่แล้ว ไม่มีประเด็นอะไรมาก การก่อสร้างจะง่ายเพราะสร้างบนแนวเส้นทางรถไฟของการรถไฟฯ ไม่มีการเวนคืนที่ดิน เพียงแค่โยกย้ายผู้ที่อยู่อาศัยริมทางรถไฟ ซึ่งใช้เวลาไม่มาก ในส่วนของการก่อสร้างจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปีครึ่งถึง 3 ปี ทดสอบระบบ 6 เดือน จากนั้นจะเปิดใช้ได้ โดยโครงการนี้ไม่ต้องเข้า พ.ร.บ.การเข้าร่วมการงานของภาครัฐและเอกชน พ.ศ.2535 หรือ พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน เหมือนสายอื่นๆ เพราะระบบรถจะใช้ระบบเดียวกับโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ จะให้การรถไฟฯสั่งระบบรถจากต่างประเทศเข้ามาพร้อมกันเลย ทำให้ขั้นตอนต่างๆ เร็วขึ้น"
สีม่วงเข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ
2) นายไมตรีกล่าวว่า จากนั้นในเดือนมีนาคม 2550 จะเปิดประมูลสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 29,160 ล้านบาท ก่อสร้างเดือนกันยายน 2550 สาเหตุที่ล่าช้าเนื่องจากสายสีม่วงจะต้องรอให้ รฟม.ไปจัดทำเอกสารขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน ในส่วนของรถไฟฟ้าและระบบอาณัติ สัญญาณ เพื่อเสนอให้ ครม.ให้ความเห็นชอบก่อนจะลงในรายละเอียดตามขั้นตอนต่างๆ ที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.ร่วมทุน ซึ่งจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 ปี แต่ในหลักการเบื้องต้นที่จะเสนอ ครม.พิจารณา คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน หลังจากที่ผ่านขั้นตอนการประชาพิจารณ์ไปแล้ว
"สายสีม่วงนี้ จะเปิดประมูลส่วนงานโยธาไปก่อน ส่วนระบบรถไฟฟ้านั้น จะต้องรอให้ได้ข้อยุติตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน แต่จะทำควบคู่ไปกับงานก่อสร้าง ซึ่งเวลาจะพอดีกับที่งานก่อสร้างแล้วเสร็จ สายสีม่วงจะเป็นทางยกระดับทั้งสาย ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี จะไม่ช้า เพราะมีความจำเป็น เนื่องจากเป็นเส้นทางที่จะเปิดการพัฒนาใหม่ๆ ตามแนวเส้นทาง มีทั้งหมด 16 สถานี"
เดือนเมษาฯลุยช่วง "บางซื่อ-ท่าพระ-บางแค"
3) นายไมตรีกล่าวว่า โครงการต่อไปที่จะเปิดประมูลในเดือนเมษายน 2550 คือรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จะดำเนินการหลังจากบริษัทที่ปรึกษาออก แบบรายละเอียดเสร็จเรียบร้อย โดยจะก่อสร้างเส้นทางช่วงที่ยกระดับก่อน คือ ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงท่าพระ-บางแค ระยะทาง 22 กิโลเมตร จากนั้นเดือนตุลาคม 2550 จะเริ่มก่อสร้าง
ส่วนที่เหลือช่วงหัวลำโพง-ท่าพระ ระยะทาง 5 กิโลเมตร คงต้องรอสักระยะหนึ่ง เพราะโครงการในส่วนนี้จะเป็นงานก่อสร้างใต้ดิน และแนวเส้นทางตัดผ่านโบราณสถานสำคัญหลายแห่ง เช่น วัดมังกรกมลาวาส วังบูรพา เกาะรัตนโกสินทร์ เป็นต้น จึงต้องชี้แจงให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทราบข้อมูลที่ชัดเจน และมีความเข้าใจตรงกันว่าเทคนิคการก่อสร้างที่จะดำเนินการนั้น จะไม่มีผลกระทบต่อสถานที่หรือตัวอาคารสิ่งปลูกสร้างสำคัญๆ แต่อย่างใด
"สายสีน้ำเงินถือว่ามีความจำเป็นเช่นเดียวกัน เพราะเป็นโครงข่ายที่มีประโยชน์มาก เนื่องจากโครงข่ายเส้นทางจะเป็นวงกลมรอบกรุงเทพฯ ตลอดแนวเส้นทางมีผู้อยู่อาศัยและทำงาน จำนวนมาก กระจายอยู่ตามชุมชนต่างๆ ซึ่งจะทำให้มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ามากด้วย ที่ประมาณการไว้อยู่ที่ 5 แสนกว่าคน/วัน นอกจากนี้ยังต่อเชื่อมการเดินทางไปยังรถไฟฟ้าสายสีอื่นๆ รวมทั้งการเดินทางโดยระบบอื่นๆ ได้ด้วย"
เขียวอ่อนฉลุย-เขียวเข้มเจอปัญหา
4) นายไมตรีกล่าวต่อว่า จากนั้นจะเป็นสายสีเขียวอ่อน ช่วงแบริ่ง-สำโรง-สมุทรปราการ ระยะทาง 14 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 14,939 ล้านบาท ซึ่งเมื่อพิจารณาดูแล้ว สายนี้น่าจะก่อสร้างได้เร็ว หลังจากที่มีการออกแบบรายละเอียดเสร็จเรียบร้อย โดยใช้บริษัทที่ปรึกษารายเดียวกับที่ กทม.ว่าจ้างแล้ว เพราะมีข้อมูลเดิมและรู้จักพื้นที่ดีอยู่แล้ว ขั้นตอนการออกแบบรายละเอียดจะเร็วขึ้น จะเปิดประมูลเดือนเมษายน 2550 และก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2550 พร้อมสายสีน้ำเงิน
นอกจากนี้มีสายสีแดงส่วนที่เหลือ ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 32 กิโลเมตร คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในเดือนเมษายน 2550 หลังจากที่ได้มีการออกแบบรายละเอียด และปรับแบบ เพิ่มสถานีแล้ว โดยจะปรับรูปแบบสถานีบริเวณสถานีบางซื่อให้มีขนาดเล็กลง จากเดิมจะทำเป็นศูนย์คมนาคมขนาดใหญ่ เพื่อต่อเชื่อมการขนส่งทุกระบบ มีรางรถไฟ 22 ราง โดยจะย้ายศูนย์คมนาคมขนาดใหญ่ไปอยู่ที่อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแทน (หวยออกตามที่ป๋านัฐแทงไว้เลยเนอะ )
นอกจากนี้จะ เพิ่มสถานีใหม่ขึ้นมาอีก 2 สถานี คือ สถานีเศรษฐศิริ (ก็คือ สถานีสามเสนน่านประไร)และ สถานีชิดชล เป็น 11 สถานี ประกอบด้วย
1) สถานีเศรษฐศิริ (สถานีสามเสน)
2) สถานีประดิพัทธ์ (ที่หยุดรถประดิพัทธ์ ให้ทหารขี่รถไฟฟ้าสักหน่อย ไม่งั้นม้ารวมจากเกียกกายจะลากรถถังออกมา)
3) สถานีบางซื่อ
4) สถานีหมอชิต 2 (ก็กม. 11 เจ้าเก่าอ่านะ)
5) สถานีวัดเสมียนนารี (สถานีนี้ต้องมีให้คนประชานิเวศน์และนักท่องเที่ยวที่มาสักการพระบรมสารีริกธาตุทีร่วัดเสมียนนารี)
6) สถานีงามวงศ์วาน (สถานีบางวเขนเจ้าเก่า)
7) สถานีชิดชล (เยื้องที่หยุดรถทุ่งสองห้องไปหน่อย ต้องมีเพื่อให้คนใช้บริการสโมสรตำรวจ, อาคารในนอร์ธปาร์ก และ เด็กธุรกิจบัณฑิต)
8) สถานีหลักสี่ (แถวบ้านผมเอง และไอทีสแควร์จะได้มีลูกค้าเพิ่มมากพอแข่งกะฟอร์จูนทาวน์สักที)
9) สถานีทุ่งสองห้อง (ก็สถานีเคหะดอนเมือง ... ตรงข้ามเจ๊เล้ง .... งานนี้เจ๊เล้งยิ้มแน่ )
10) สถานีดอนเมือง (ไม่รู้ว่าจะฟื้นฟู สนามบินดอนเมืองได้อะเปล่า แต่ถ้าเชื่อมกันแล้วก็ทำได้แน่) และ
11) สถานีรังสิต คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนตุลาคม 2550
(แย่หน่อยที่ไม่มีสถานีหลักหก ... งานนี้เด็กม. รังสิตแลบะเมืองเอกเศร้าหงะ )
5) "สำหรับโครงการรถไฟฟ้าส่วนที่เหลือ อย่างสายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 13 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 14,737 ล้านบาท อาจจะเปิดประมูลล่าช้าไปบ้าง คาดว่าจะเปิดประกวดราคาได้ในช่วงเดือนมิถุนายน และก่อสร้างปลายปี 2550 เพราะการก่อสร้างค่อนข้างจะยุ่งยาก เนื่องจากแนวเส้นทางค่อนข้างแคบ จะมีปัญหาการจราจรติดขัดระหว่างก่อสร้าง นอกจากนี้ต้องรอดูความชัดเจนของโครงการแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณแยกเกษตรฯ ว่าจะสอดรับกับแนวรถไฟฟ้าหรือไม่ แต่เราจะพยายามเร่งรัดให้เร็วที่สุด"
// -----------------------------------------------------------
"ส้ม-เหลือง-ชมพู" รอรัฐบาลใหม่ชี้ขาด
นายไมตรีกล่าวอีกว่า โครงการรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ที่เหลือที่อาจจะต้องชะลอออกไปก่อน คือ
1) สายสีแดง ช่วงพญาไท-ยมราช-บางซื่อ ระยะทาง 8 กิโลเมตร ที่จะต่อเชื่อมกับสายแอร์พอร์ตเรลลิงก์ไปสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากต้องรอออกแบบใหม่ทั้งหมด เพราะแนวเส้นทางผ่านสถานที่สำคัญ และขณะนี้ยังไม่ได้ของบประมาณสำหรับการออกแบบ ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อการเชื่อมต่อการเดินทางแต่อย่างใด เพราะความชัดเจนในการใช้ประโยชน์สนามบินดอนเมืองยังไม่มี การเชื่อมต่อของทั้ง 2 สนามบินจึงยังไม่จำเป็นมากนัก
สำหรับสายที่เหลือ ซึ่งไม่ได้อยู่ใน 5 สายข้างต้น เช่น
2) สายสีส้ม ช่วงบางบำหรุ-บางกะปิ ระยะทาง 24 กิโลเมตร
3) สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 32 กิโลเมตร
4) สายสีชมพู จาก แคราย-ปากเกร็ด-สุวินทวงศ์ ระยะทาง 33 กิโลเมตร
5) ส่วนต่อขยายสีม่วงไปถึงราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 20 กิโลเมตร
6) สายสีแดงหัวลำโพง-มหาชัย เป็นต้น
คงต้องรอนโยบายรัฐบาลชุดหน้าว่าจะให้เดินหน้าต่อหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่จะต้องก่อสร้างเป็นทางใต้ดิน ใช้ค่าก่อสร้างสูง ในบางสายทางอาจจะให้ กทม.จัดทำโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษหรือบีอาร์ทีให้บริการแทน เช่น สายสีชมพู เป็นต้น
จับตาชานเมือง-รอบนอกบูมรับรถไฟฟ้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรัฐบาลประกาศเดินหน้าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 5 สาย ปรากฏว่าได้รับเสียงตอบรับจากนักธุรกิจ นักลงทุน
ผู้ประกอบการพัฒนาที่ดิน ผู้รับเหมาก่อสร้าง
ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างจำนวนมาก เพราะมองว่าโครงการเมกะโปรเจ็กต์ทั้ง 5 โครงการจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งระบบ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการ
อสังหาริมทรัพย์ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า
อย่างสายสีม่วงที่ตัดผ่านทำเลเมืองนนท์ รัตนาธิเบศร์ บางใหญ่ บางบัวทอง ปัจจุบัน
ผู้ประกอบการเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการจำนวนมาก ก็จะยิ่งคึกคักขึ้นอีก นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อพื้นที่รอบนอกที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นบางส่วนของจังหวัดปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีแดง สีเขียวอ่อน และเขียวเข้ม แม้แนวเส้นทางส่วนใหญ่จะอยู่ในเมือง แต่จะส่งผลดีต่อการเดินทางเข้าเมือง ทำให้ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ชานเมืองและรอบนอก ทั้งฝั่งธนบุรี ทำเลชานเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเขตติดต่อจังหวัดปริมณฑล เช่น นครปฐม สมุทรปราการ อยุธยา ปทุมธานี และบริเวณใกล้เคียงได้รับประโยชน์ และเกิดการพัฒนาตามมาในอนาคต
กทม.ขอลงทุนสายสีเขียว
ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยว่า กทม.จะหารือกับนายอารี วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขออนุมัติลงทุนรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยขอแก้ไขมติ ครม.เดิม และให้รัฐอุดหนุนงบประมาณบางส่วน ขณะเดียวกันจะลงทุนโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษ
(บีอาร์ที) สายสีลม-ช่องนนทรี-พระราม 3 ที่จะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลม และจะเปิดบริการได้ในปี 2550 สำหรับรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายตากสิน-เพชรเกษมช่วง 2.2 กิโลเมตรที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จะเปิดให้บริการได้ในเดือนธันวาคม 2550
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
Posted: 17/11/2006 5:45 pm Post subject:
สร้างรถไฟฟ้าสีแดงลูกผีลูกคน ธีระยอมรับมีปัญหาเชื่อมต่อ
โดย ผู้จัดการรายวัน 17 พฤศจิกายน 2549 11:18 น.
ผู้จัดการรายวัน-คมนาคมแขวนรถไฟฟ้าสีแดง ช่วง บางซื่อ-มักกะสัน หรือ Missing Link ธีระยอมรับ จำเป็นเพราะเชื่อมต่อ ช่วงรังสิตไปถึงสุวรรณภูมิ แต่มีปัญหาด้านเทคนิคมาก ชี้ ต้องทำโครงการที่มีความพร้อมก่อน ยัน 1 ปี ได้มากสุดแค่ 1 สาย ด้านด้านสป.เชียร์สีแดงพร้อมสุด เผย Missing Link ไม่เกิด ทำให้จำนวนผู้โดยสารสายสีแดงทั้งเส้นลดลงมาก
พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับคณะทำงานโครงสร้างพื้นฐาน คมนาคมและพลังงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) วานนี้ (16 พ.ย.) ว่า คณะทำงานฯ สป. ได้หารือถึงข้อมูลการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าและรถไฟ ซึ่งตนให้ความมั่นใจว่า ภายในรัฐบาลชุดนี้ น่าจะได้เริ่มต้นก่อสร้าง 1 สาย นอกจากนี้ สป.ได้เสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาโครงการ รถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-มักกะสัน) เพื่อให้เกิดการต่อเชื่อมระหว่างรถไฟฟ้าสายสีแดง (รังสิต-บางซื่อ) กับ โครงการแอร์พอร์ตลิงค์ ได้ ซึ่งเส้นทางนี้ ยอมรับว่ายังมีปัญหาอยู่มาก และการอนุมัติของคณะรัฐมนตรีในการดำเนินโครงการรถไฟฟ้า 5 สายก็ยังไม่ได้พูดถึงจุดนี้ แต่ได้รับข้อเสนอแนะของ สป.มาพิจารณาร่วมด้วย
ปัญหาของสายสีแดงช่วง บางซื่อ-มักกะสันมีอีกหลายเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เป็นปัญหาเทคนิค จึงตอบไม่ได้ขณะนี้ว่าจะทำหรือไม่ แต่ที่สภาที่ปรึกษาเสนอมานั้น ผมเข้าใจดี เพราะตามหลักระบบรถไฟฟ้าต้องมีการเชื่อมต่อ อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการรถไฟฟ้านั้นโครงการใดพร้อม สามารถเปิดประมูลก่อสร้างได้ก็ให้ทำได้ทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้สรุปปัญหาของจุดนี้ก่อน ถ้ารอก็คงจะไม่ได้ทำสักโครงการพล.ร.อ.ธีระกล่าว
Missing Link ไม่เกิดฉุดผู้โดยสารสีแดงวูบ
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-มักกะสัน) หรือ Missing Link นั้น รัฐบาลชุดนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจดำเนินการเนื่องจาก ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องรูปแบบโครงสร้าง จึงอนุมัติรถไฟฟ้าสายสีแดง เฉพาะช่วงบางซื่อ-รังสิตและช่วง บางซื่อ-ตลิ่งชันโดยให้สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ว่าจ้างที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียด (Detail Design) เพื่อเปิดประกวดราคาก่อสร้าง โดยปัญหาของ ช่วง Missing Link นั้นเกิดจากการออกแบบเบื้องต้นเป็นทางยกระดับที่สถานีจิตรลดา ซึ่งยังไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการด้านสิ่งแวดล้อม เมื่อรูปแบบไม่ชัดเจนทำให้ไม่สามารถกำหนดวงเงินลงทุนได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อส่วนของ Missing Link ยังไม่ชัดเจนและยังไม่มีแผนก่อสร้างจะกระทบต่อจำนวนผู้โดยสารของรถไฟฟ้าสายสีแดงทั้งสายที่จะลดลงแน่นอน
สป.เชียร์ประมูลสีแดงก่อน
นายโอกาส เตพละกุล ประธานคณะทำงานโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและพลังงาน สป. กล่าวว่า รัฐบาลควรที่จะเร่งรัดก่อสร้างรถไฟฟ้า 1 ใน 5 สายให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อให้เป็นตัวอย่างหรือมาตรฐานของการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายอื่น ตามนโยบาย การทำงานที่โปร่งใส จะทำให้สามารถประหยัดงบการลงทุนได้ทั้งนี้เส้นทางที่ทางสป.เห็นว่าควรที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างคือ สายสีแดง(รังสิต- บางซื่อ-ตลิ่งชัน ) เนื่องจากเป็นสายที่มีความพร้อม สามารถที่จะดำเนินการได้ก่อนเนื่องจากเป็นการลงทุนโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ไม่จำเป็นที่จะต้องมาแก้ไขระเบียบให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ร่วมทุน 2535 นอกจากนี้ควรที่จะทำเชื่อมต่อจากบางซื่อ-ยมราช-พญาไท-แอร์พอร์ตลิงค์ ซึ่งช่วงดังกล่าวควรเป็นระบบใต้ดินเพราะใกล้เขตพระราชวัง
นายโอกาสกล่าวว่า การปรับเพิ่มขนาดรางรถไฟเป็น1.435 เมตร เห็นว่าควรเน้นจุดที่จำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ เช่น ลพบุรี-นครสวรรค์ และกรุงเทพ แหลมฉบัง รวมถึงให้ปรับเปลี่ยนหัวรถจักรใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการขนส่งให้เพิ่มขึ้น เพราะเป็นช่วงที่หัวรถจักรกำลังหมดสภาพ นอกจากนี้ยังได้เสนอแนะว่าไม่ควรที่จะย้ายโลว์คอสต์แอร์ไลน์มาใช้ที่สนามบินดอนเมือง เพราะจะทำให้เกิดความสับสนประกอบกับสนามบินดอนเมืองควรที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์ซ่อมเครื่องบินมากกว่า
Back to top
nathapong
1st Class Pass (Air) Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
Posted: 17/11/2006 6:51 pm Post subject:
แค่ก ๆ
โฮ้ย อยากให้กระทรวงวิทย์ (ใกล้ชิดประชาชน)
รีบมาเก็บฝุ่น ที่ถนนราชดำเนิน กระทรวงคมนาคม กับยศเส หน้าที่ทำการการรถไฟอย่างด่วนเลย พร้อมกับ กำหนดเงื่อนไข ของ EIA ตามสายสีแดง และอีกสี่สายไปพร้อมกัน
เบื่อเรื่องกั๊ก จะแย่แหล่วววว
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
Posted: 18/11/2006 5:19 pm Post subject:
ถ้ารักจะสร้างสถานัพญาไท โดยไม่ชนกะสถานรถไฟฟ้าบีทีเอส นั้นเขาลือกันว่าจะไปสร้างตรงที่หยุดรถอุรุพงษ์ งานนี้ก็ยุ่งอีตอนเปลี่ยนระบบไปที่บีทีเอสหนะสิครับเพราะอุรุพงษ์ห่าจากจากพญาไทตั้ง 1200 เมตรแน
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
Posted: 18/11/2006 11:14 pm Post subject:
ดูแผนที่นี้แล้วทำให่ผมไม่แน่ใจว่าที่หยุดรถอุรุพงษ์อยู่ตรงไหนดันแน่ครับ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
Posted: 20/11/2006 12:53 pm Post subject:
ภาพโรงเก็บรถด่วนสนามบิน โดยคุณ NCR ถ่ายเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2549
โรงเก็บรถด่วนสนามบินถ่ายจากยอดตึกย่านคลองตัน
กำลังตอกเสาเข็มโรงเก็บ
โรงเก็บนี้ใช้ปูนตรานกอินทรีซะด้วย
เห็นตะพานข้ามทางรถไฟสถานีคลองตันซะด้วยสิ
ก่อสร้างโรงเก็บและทางวิ่ง
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
Posted: 30/11/2006 10:07 am Post subject:
รอสักหน่อยจะคงได้เห็นรถไฟชุมชนสนามบินขยายวงออกไปน่อ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
Posted: 05/12/2006 7:10 pm Post subject:
รถไฟฟ้าบางซื่อ-ตลิ่งชัน อาจเปิดประมูลได้ก่อน มี.ค.ปีหน้า
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 ธันวาคม 2549 12:46 น.
รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร เป็นเส้นทางแรกที่ออกแบบและศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ขณะนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วเหลือเพียงขั้นตอนรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมจากประชาชนเท่านั้น นายถวิล สามนคร รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หากไม่มีความเห็นเปลี่ยนแปลงมากนักจะสามารถเริ่มประมูลได้ก่อนเดือนมีนาคม ปีหน้า เพราะขณะนี้เริ่มย้ายประชาชนในพื้นที่ที่จะใช้ก่อสร้างรางรถไฟและสถานีแล้ว เพราะพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมดเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย ส่วนการจัดหาเงินมาใช้ในการดำเนินการ จำนวน 11,000 ล้านบาท เป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง
รถไฟฟ้าสายสีแดงจะมีลักษณะพิเศษต่างจากรถไฟฟ้าสายอื่น คือ รัฐบาลจะลงทุนให้ทั้ง งานโครงสร้างพื้นฐานและงานโยธารวมทั้งระบบควบคุมการเดินรถ ยกเว้นการซื้อขบวนรถเท่านั้น
รถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงรังสิต-บางซื่อ-พญาไท มีความพร้อมร้อยละ 95 เนื่องจากต้องใช้เวลาปรับแบบก่อสร้าง อีกประมาณ 4 เดือน เพราะรัฐบาลต้องการให้เพิ่มสถานี และปรับจุดเชื่อมต่อบริเวณสถานีบางซื่อ ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง อาจจะเปิดประมูลได้ช่วงปลายรัฐบาลนี้ เนื่องจากต้องใช้เวลาดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนของรัฐและเอกชน ไม่ต่ำกว่า 8 เดือน
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
Posted: 05/12/2006 7:11 pm Post subject:
'ธีระ' สั่งบอร์ด รฟท.สอบแอร์พอร์ต ลิงก์ ล่าช้ากว่าแผน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 ธันวาคม 2549 20:05 น.
รมว.คมนาคมสั่งสั่งบอร์ดการรถไฟฯ ตรวจสอบสาเหตุงานก่อสร้างโครงการแอร์พอร์ต ลิงก์ล่าช้ากว่าแผน 1 ปี ด้านประธานบอร์ดการรถไฟฯ เตรียมลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรคจากผู้รับเหมาภายในสัปดาห์นี้ พร้อมตั้ง พล.ต.ท.ประกาศ ศาตะมาน เป็นประธานคณะกรรมการในการตรวจสอบทุจริตแอร์พอร์ต ลิงก์ ทั้งหมด
พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดตรวจสอบสาเหตุความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ต ลิงก์) ที่ล่าสุดพบว่างานก่อสร้างล่าช้ากว่าแผนประมาณ 1 ปีเศษ โดยเบื้องต้นได้รับรายงานว่า เป็นเพราะปัญหาการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า ซึ่งได้กำชับให้การรถไฟฯ ไปเร่งรัดกับผู้รับเหมาให้ก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด ส่วนเรื่องความไม่โปร่งใสนั้น ได้มอบหมายนโยบายให้บอร์ดการรถไฟฯ เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว
นายศิวะ แสงมณี ประธานบอร์ดการรถไฟฯ กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้ บอร์ดการรถไฟฯ จะเดินทางไปตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการแอร์พอร์ต ลิงก์ และรับฟังปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ จากผู้รับเหมา ก่อนหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน เรื่องการตรวจสอบความไม่โปร่งใส บอร์ดฯ ได้ตั้ง พล.ต.ท.ประกาศ ศาตะมาน อดีตผู้บัญชาการสำนักงานวิทยาการตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินงานโครงการแอร์พอร์ต ลิงก์ ทั้งหมด เพื่อดูเรื่องความไม่โปร่งใสที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วย
ทั้งนี้ หากผลการสอบสวนเป็นอย่างไร จะนำมารายงานต่อที่ประชุมบอร์ดฯ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลสนับสนุนให้กับคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ด้วย โดยจะตรวจสอบตั้งแต่เรื่องการกำหนดคุณสมบัติ (ทีโออาร์), การตรวจสอบสัญญาที่การรถไฟฯ ทำไว้กับเอกชน, การจ่ายเงินค่าธรรมเนียม, ขั้นตอนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง โดยได้ให้เวลากับคณะกรรมการในการตรวจสอบเป็นเวลา 1 เดือน
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
Posted: 05/12/2006 7:12 pm Post subject:
จับตากรอบลงทุนรถไฟฟ้า5สายรอประชาพิจารณ์ก่อนสรุปแผน
โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์ 4 ธันวาคม 2549 13:17 น.
*สนข.เชียร์สายสีแดงพร้อมก่อสร้าง ขีดเส้นประกวดราคาเดือน ก.พ.2550 ตามด้วยสายสีม่วง
*ฟากรฟม.ยันไม่เกิน 5 เดือนครึ่ง ได้ฤกษ์เซ็นสัญญาก่อสร้างสายสีน้ำเงิน
*ภาคเอกชนลุ้นความชัดเจนพร้อมโดดเข้าร่วมประมูล
หลังจากรัฐบาลขิงแก่ นำโดยพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เข้ามาทบทวนโครงการเมกกะโปรเจกต์อย่างโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งรัฐบาลชุดก่อนกรุยทางไว้เรียบร้อนแล้วมาดำเนินการต่อ พร้อมกับการปรับเปลี่ยนรูปแบบ และแนวทางการลงทุนในโครงการใหม่ยกขบวน
จากเดิมที่รัฐบาลชุดก่อนจะเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย ระยะทาง 82 กม. ใช้งบลงทุนกว่า 165,400 ล้านบาท ขณะที่รัฐบาลชุดปัจจุบันมีนโยบายลงทุนเพิ่มเป็น 5 สาย ระยะทาง 118 กม. เพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายได้ครอบคลุมทุกพื้นที่รอบกรุงเทพฯและปริมณฑล แต่ใช้เงินลงทุนมากกว่าเดิมเพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น นั่นคือมีกรอบเงินลงทุน 165,402 ล้านบาท
รถไฟฟ้า 5 สายที่รัฐบาลอนุมัติ ได้แก่ สายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค, บางซื่อ-ท่าพระ) ระยะทาง 27 กม. วงเงิน 52,581 ล้านบาท สายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ)ระยะทาง 23 กม. วงเงิน 29,160 ล้านบาท สายสีแดง (บางชื่อ-รังสิต, บางซื่อ-ตลิ่งชัน, บางซื่อ-มักกะสัน-หัวหมาก) ระยะทาง 41 กม. วงเงิน 53,985 ล้านบาท สายสีเขียวอ่อน (อ่อนนุช-สมุทรปราการ)ระยะทาง 14 กม. วงเงิน 14,929 ล้านบาท และสายเขียวเข้ม (หมอชิต-สะพานใหม่) ระยะทาง13 กม. วงเงิน 14,737 ล้านบาท รวมระยะทาง 118 กม. คิดเป็นเงินค่าก่อสร้างรวม 165,402 ล้านบาท ใช้เวลาในการก่อสร้างระหว่างปี 2549-2555
ก.พ.หน้า พร้อมประกวดราคาสายสีแดง
ไมตรี ศรีนราวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า สนข. พร้อมที่จะเปิดประกวดราคารถไฟฟ้าสายแรกช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชั่น (สายสีแดง) ในเดือน ก.พ. 2550 หลังจากนั้นคาดว่าจะสามารถเปิดประมูลสายสีม่วงต่อไป ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงนั้นสายสีแดงจะได้รับอนุมัติจากครม.แล้ว และรอเพียงผลการสำรวจความคิดเห็นจากภาคประชาชนเท่านั้น และหากประชาชนเห็นด้วยก็สามารถก่อสร้างได้ทันที
นอกจากนี้ สายสีแดงยังมีความพร้อมในด้านกายภาพต่างๆ เพราะมีเสาโฮปเวลล์อยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยประหยัดเงินลงทุนไปได้มาก อีกทั้งยังไม่ต้องเวนคืนที่ดินจากประชาชน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากและใช้เวลานานพอสมควร
แนวคิดดังกล่าว สอดคล้องกับคณะทำงานโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและพลังงานหรือ สป. ที่เชียร์ให้มีการประมูลสายสีแดงก่อน โดยโอกาส เตพละกุล ประธานคณะทำงานโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและพลังงาน หรือ สป. กล่าวว่า รัฐบาลควรที่จะเร่งก่อสร้างรถไฟฟ้า 1 ใน 5 สายให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อให้เป็นตัวอย่างหรือมาตรฐานของการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายอื่น ตามนโยบายการทำงานที่โปร่งใส จะทำให้สามารถประหยัดงบการลงทุนได้
เส้นทางที่ สป.เห็นว่าควรจะผลักดันให้เกิดขึ้นคือสายสีแดง(รังสิต-บางซื่อ-ตลิ่งชัน) เนื่องจากเป็นสายที่มีความพร้อม สามารถที่จะดำเนินการได้ก่อน และเป็นการลงทุนโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งไม่จำเป็นต้องแก้ไขระเบียบให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน 2535
รฟม.เชื่อเจบิคยังปล่อยกู้
ขณะที่รฟม.ก็ยืนยันความพร้อมของสายสีน้ำเงิน และคาดว่าจะเปิดขายแบบการก่อสร้างและลงนามในสัญญาก่อสร้างภายในไม่เกิน 5 เดือนครึ่ง ส่วนสายที่จะดำเนินการต่อจากนี้คือ สายสีม่วง โดยเม็ดเงินก่อสร้างกระทรวงการคลังจะเป็นผู้จัดหา ซึ่งจากการติดต่อกับเจบิค เชื่อว่าจะยังให้กู้ต่อไป แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนวงเงินกู้บ้างตามความเหมาะสมของงบลงทุนในแต่ละสายทาง
รอความเห็นจากประชาชนก่อนเริ่มก่อสร้าง
ทั้งนี้ทาง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.),การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.), การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), กรุงเทพมหานคร (กทม.) และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้ร่วมกันสำรวจความต้องการของประชาชนในการสร้างรถไฟฟ้า 5 สายทาง โดยจะใช้แนวทางสำรวจเชิงวิจัย ด้วยการออกแบบสอบถาม 10,000 ชุด ควบคู่กับการก่อสร้างรถไฟฟ้า บีทีเอส โดยใช้เวลา 1 เดือน และเปิดให้ประชาชนแสดงความเห็นผ่านตู้ ปณ.7 ทำเนียบรัฐบาล หรือผ่าน www.otp.co.th หรือ www.Bankoknahtransit.com หรือแสดงความเห็นมาที่ สนข. จากนั้นจะนำเสนอ ครม.ต่อไป
จากเทิร์นคีย์สู่สัมปทานร่วม
อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปในช่วงรัฐบาลชุดเก่าที่ได้กรุยทางไว้สำหรับโครงการรถไฟฟ้า ถึงรูปแบบการดำเนินโครงการรถไฟฟ้า 3 สายเดิมนั้น รัฐบาลชุดเก่าได้กำหนดรูปแบบการดำเนินโครงการโดยรัฐบาลเป็นเจ้าของ 100% และเป็นการเปิดประมูลแบบจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ หรือ Turn key ในการก่อสร้าง และลดจาก 10 สาย ให้เหลือเพียง 3 สาย ใช้เงินลงทุน 165,400 ล้านบาทและเปิดกว้างให้นักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุนด้วย ซึ่งวิธีการประมูลรถไฟฟ้า 3 สายทางนี้ รัฐจะเปิดให้บริษัทเอกชนผู้รับเหมาเข้ามาเป็นผู้ลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในส่วนของระบบราง สถานี และระบบอาณัติสัญญาณไปก่อน หลังจากนั้นกระทรวงการคลัง และรัฐบาลจะหางบประมาณทยอยจ่ายคืนผู้รับเหมาไปจนครบจำนวนที่ผู้รับเหมาจ่ายไป
ขณะที่มติของคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันเห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการโครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน 5 สายทาง ระยะทางรวม 118 กม.วงเงินลงทุนรวม 165,402 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชนในหลักการให้สัมปทาน โดยรูปแบบการลงทุนนั้นรัฐจะเป็นผู้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (ระบบราง-สถานี) และจะเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุนในระบบอาณัติสัญญาณและระบบรถไฟฟ้า และเพื่อให้เกิดความโปร่งใส รัฐบาลจะใช้วิธีดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 หรือ พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2535
เนาวรัตน์ฯพร้อมประมูลทุกสาย
ด้านพลพัฒ กรรณสูต กรรมการผู้จัดการ บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ กล่าวว่า บริษัทได้จับมือกับบริษัทไทย-โอบายาชิ คอปอร์เรชั่น จำกัด รวมถึงพันธมิตรอื่นๆเพื่อเข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล ที่มีมูลค่ากว่า 1.6 แสนล้านบาท โดยมีเม็ดเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการ
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group