WOO! WEED! WIW! CARNAVAL @MADRID! ! ! !

[Aishwarya]

ไม่ใกล้ไม่ไกลจากชุดชมทิวทัศน์ดังกล่าว เราพบเจอกับอนุสาวรีย์ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถาน รำลึกถึง SOR JUANA INES DE LA CRUZ [โซ ระ ฆวา นา อิ เนส เด ลา กรู๊ธ] --->>> ท่านคือนักบวชหญิง คือกวีโบราณ และยังเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดศาสตร์ด้าน "วรรณกรรม Mexican" อีกด้วย ... ด้วยประการฉะนี้ อนุสาวรีย์แห่งนี้ซึ่งได้รับการสรรค์สร้างขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงของชุมชนชาว Mexican ทั้งมวลที่อาศัยอยู่ใน Madrid นะคะ.


น่าเสียดายที่ Cherie เองหาจุดที่แดดใสๆ ไม่ค่อยจะเจอเลยค่ะ อาจจะด้วยร่มเงาของต้นไม้นานาพันธุ์ให้ร่มเงาทั่วไปหมด (โทษธรรมชาติอีกเนอะ ) เลยได้ภาพแนวๆ art art มา ... เบื้องหลังเป็นตึกที่ทำการราชการแห่งหนึ่งของนคร Madrid ค่ะ ... จัดเป็นสถานราชการที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งทีเดียว.


บรรยากาศเหมันตฤดู ใจกลางนครหลวงของชาติอย่าง Madrid แม้อุณหภูมิจะต่ำ หนาวเย็นและแห้ง ... แต่เราก็ยังพบเห็นความสวยงามน่าจดจำอยู่เสมอ ณ นครหลวงแห่งนี้.

[Aishwarya]

เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เคยเดินตลาดสดกันมั้ยคะ? ไม่ใช่เป็นแค่ธรรมเนียมแบบ Asian แต่มาที่ Europe ที่ Spain ใจกลางนคร Madrid ก็มีตลาดสดเช่นกัน ... ที่นี่คือ MERCADO DE SAN MIGUEL [เม ระ กา โด้ เด ซาน มิ เกล] --->>> "ตลาดสด San Miguel"


ตลาดสดแห่งนี้มีรูปทรงสมัยใหม่นะคะ เพราะสร้างขึ้นในศตวรรษที่ ๒๐ นี่เอง ภายในมีสินค้าบริโภคจำหน่ายหลายอย่างทั้งเนื้อสัตว์ต่างๆ ผลไม้ ... นอกจากนี้ ในบางมุมของตลาดสดแบบปิดเรือนนี้ ยังมีมุม hang out ไว้เพื่อนักท่องเที่ยว หรือชาว Spanish ที่ต้องการยืดเส้นยืดสายยามบ่ายอีกด้วยค่ะ.


ดูเผินๆ แว๊บๆ ผ่านๆ ตา ก็เหมือน อตก. อยู่นะ ว่าไม่ได้! HAHAHAHAHA

[Aishwarya]

เราดำเนินละจาก "วัด Debod" "สวนสาธารณะ Rosales" และย่าน Old Madrid ซึ่งเป็นสถานที่อนุรักษ์เพื่อความเก่าแก่ เป็นสมบัติของนครหลวงแห่งนี้ ... ณ เวลานี้ เราอยู่ที่ PLAZA MAYOR @MADRID [ปะ ลา ธ่า มา โย ระ เด หมาด ดรี๊ด] --->>> "ลานกิจกรรมคนเมืองแห่งนคร Madrid" ซึ่งเป็น ๑ ใน plaza ที่สวยงาม ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะใครไปใครมา ก็มักจะไม่พลาดที่แห่งนี้ ... ในครั้นโบราณกาลลานคนเมืองแห่งนี้ เคยใช้เป็นสนามประลองการสู้วัวกระทิงด้วยนะคะ.


ยามบ่ายจัดๆ คล้อยเย็นโพล้เพล้ ณ จุดสำคัญที่มองเห็น Plaza Mayor ได้เกือบรายรอบ ... ขณะที่ Cherie สังเกตสังกา ก็พบว่าทางเจ้าหน้าที่เริ่มตักเกลือมาโรยๆ รอบๆ เมืองค่ะ ... ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พยากรณ์อากาศที่นี่แม่นสุดๆ การโรยเกลือเป็นการเตือนด้วยนัยสำคัญว่า ค่ำนี้ หรือวันพรุ่ง หิมะจะตกนั่นเอง ... เกลือจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้หิมะละลายได้เร็วขึ้น.


ใครชอบทาน ice-cream บ้างเอ่ย ... ใกล้ๆ กันนั้นเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการสำนักงานใหญ่ของบริษัทแม่ผู้ผลิต ice-cream รสเลิศสัญชาติ German ... TEATRO HAAGEN-DAZS ... แหม! ใช้ชื่อเรียกเป็น "teatro" ซึ่งแปลว่า "โรงละคร" เลยนะคะนั่น ... ค่ะ! ใช่! เป็นเจ้าไหนไปไม่ได้ นอกจาก Haagen-Dazs นั่นเองค่ะ ... ตัวตึกของสำนักงานใหญ่ของเจ้าแห่ง ice-cream แห่งนี้ ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามทีเดียว ใหญ่โตและโอ่อ่านะคะ แต่ Cherie และเพื่อนๆ ไม่ได้มุ่งตรงเข้าไปทานหรอกค่ะ ก็เป็นที่ทราบกันอ่ะนะคะ Haagen Dazs แพงเอาเรื่องอยู่ ... แหม ต้องวางตัวให้ (ดูเหมือนจะ) เป็นนักเรียนทุนหน่อย HAHAHAHA ก็ว่ากันไป!

[Aishwarya]

ตอนนี้เป็นเวลาจะเย็นก็ไม่เย็น จะค่ำเสียทีเดียว ก็ไม่ค่ำ ... เป็นเวลาหาของว่างรับประทานค่ะ เราก็เดินโต๋เต๋กันไปนะคะ ... เหลือบเห็นประติมากรรมชิ้นนี้เข้า Cherie ว่ามันดู realistic จังเลย เหมือนจริงสุดๆ ตอนแรกก็คิดว่าเป็นคนเป็นๆ มา perform พรสวรรค์ของตนเองสู่สายตาประชาชี แต่เป็นประติมากรรมจริงๆ ค่ะ ... ประทับใจมากๆ เห็นว่าสวยเตะตา ดึงดูดความสนใจเป็นอย่างดี เลยเก็บภาพมาฝากกันนะคะ.


ไม่มีใครไม่รู้จักดาวค้างฟ้า superstar ผู้เฉิดฉาย เจิดจรัสท่ามกลางแวดวงบันเทิงแดนกระทิงดุ --->>> ISABEL PANTOJA [อิ ซา เบล ปัน โต ฆ่า] --->>> ศิลปินนักร้องชื่อดังวัย ๕๓ ปีผู้นี้ มากด้วยความสามารถ และมีเสน่ห์จับตัวได้ยากมากๆ ประชาชนชาว Spanish ชอบนางมากนะคะ ด้วยผลงานเพลงและพลังเสียงอันทรงพลัง ... น่าเสียดายที่พักหลัง ความนิยมของป้า Isabel ร่วงผล็อยลงมาแยะอยู่ เนื่องจากข่าวคราวปัจจุบัน นางเข้าไปพัวพันกับคดี corruption ของสามีคนปัจจุบัน Julian Munoz จนเป็นเรื่องเป็นราว เข้าคุกเข้าตะรางกันพักหนึ่งใหญ่ๆ เลยทีเดียว แต่ในที่สุดก็มีการปล่อยตัวป้าออกมาค่ะ ... เบื้องลึกเบื้องหลังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นเช่นไร แต่งานนี้ ต้องใช้คำว่า "ผัวพาซวย" แล้วล่ะค่ะ.


ด้วยความนิยมที่เสื่อมถดถอยลงไปนิดหน่อย ... แต่กลยุทธ์เพื่อจะค้างฟ้าต่อไปยังไม่จบสิ้นง่ายๆ ... poster ชิ้นนี้ได้รับการผนึกไว้ทั่วเมือง เพื่อ promote ผลงาน album เพลงล่าสุดของป้า ซึ่งจะปล่อยออกมาในวันที่ ๑๖ มีนาคม เดือนหน้านี้ล่ะค่ะ ก็ต้องตั้งตารอกันต่อไปว่า ป้าจะเรียก rating กับมาได้หรือไม่ ... แต่ที่แน่ๆ ป้า Isabel หรือจะสู้ Aishwarya แห่ง RFT ได้ จริงมั้ยคะ HAHAHAHAHA ... งานนี้ขอประชัน -->> "เสือ ๒ ตัวอยู่ถ้ำเดียวกันได้ที่ไหนกันเล่า!" พอขำเป็นกษัย.

[Aishwarya]

เย็นวันนั้น ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ นอกจากกการทานมื้อเย็นกับเพื่อนๆ และแยกย้ายกันกลับบ้าน ... มาชมบรรยากาศสวยๆ งามๆ ในวันที่ Cherie ต้องกลับ Valladolid กันนะคะ.

จันทร์ที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ในวันหิมะตกปรอยเป็นสาย ณ Madrid ... นอกเหนือจากการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์รถไฟหลวงแห่งราชอาณาจักรแล้ว ซึ่งเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จะได้รับชมเป็นกระทู้แยกต่างหากนะคะ ... ก่อนหน้านั้น Cherie ก็ได้ไปเก็บภาพบรรยากาศ ณ สถานีรถไฟ Atocha มาฝากค่ะ ... Cherie ใช้บริการ metro เช่นเคยค่ะ แต่คราวนี้ลองขึ้นที่สถานี Sevilla บ้างเพราะว่าสามารถนั่งสาย ๓ และตรงดิ่งสู่สถานี Atocha RENFE ได้เลย ... ไปชมบรรยากาศของ "หัวลำโพงแห่ง Spain" ในช่วงเช้าวันจันทร์ วันเริ่มแรกแห่งการทำงานนะคะ.


ณ เบื้องหน้าสถานี Atocha ก็เหมือนทุกที่แหล่ะค่ะ ยิ่งโดยเฉพาะวันที่อากาศไม่ค่อยดีนัก มีทั้งฝน และหิมะ taxi ถือเป็นบริการขนส่งที่ดีมากที่สุดประเภทหนึ่งในการพาผู้โดยสารออกจากสถานี และเช่นกัน เหมาะมาก ในการพาผู้โดยสารมายังสถานี ... ยิ่งเช้าวันจันทร์เช่นนี้ด้วยแล้ว ครึกครื้นค่ะ.

[Aishwarya]

บรรยากาศที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวและชาว Spanish เอง เพื่อใช้บริการรถไฟในวันจันทร์ Cherie ดูแล้ว เห็นสภาพความชุลมุนวุ่นวายเลยล่ะค่ะ ก็เป็นธรรมดานะคะ หลังจากเสร็จสิ้นจากเทศกาล ก็เหมือนบ้านเรา การขนส่ง การคมนาคม การเดินทาง ก็อลหม่านเช่นนี้ ... ณ บริเวณโถงกลางมีร้านอาหารที่แขกเหรื่อ และผู้โดยสารสามารถนั่งทานอาหารเพื่อฆ่าเวลารอขบวนรถที่ตนจะโดยสารออกจากสถานี Atocha ค่ะ ... Cherie เคยนั่งทานที่ร้านกลางโถงของสถานีนี้ครั้งนึง ก็ไม่ถึงกับคุณภาพคับแก้วอะไรเท่าไรนักค่ะ เหมาะกับการฆ่าเวลาจริงๆ นั่นแหล่ะ.


เราไปสำรวจชั้นบนสุด เพื่อหามุมหากินที่ใครไปใครมามักจะต้องจับภาพถ่ายไว้เป็นที่ระลึกนะคะ ... นอกจากบันไดเลื่อน หรือ lift แล้ว Atocha ยังมีบริการทางเดินขึ้น/ลงอัตโนมัติอย่างที่เห็นนี้ล่ะค่ะ ให้อารมณ์สนามบินนานาชาติมากๆ เลย.

[Aishwarya]

highlight ที่สำคัญที่สุด และเป็นที่กล่าวขวัญมานานแสนนาน เมื่อต้องเอ่ยถึงสถานี Atocha ก็คงจะเป็นการปลูกแมกไม้ในที่ร่ม (indoor) นี่ล่ะค่ะ เค้าดูแลรักษากันเป็นอย่างดีอยู่ตลอดเวลา ณ บริเวณโถงกลางแห่งนี้ ผู้โดยสารที่อ่อนล้าจากการเดินทาง เมื่อมาถึง Atocha ใหม่ ก็อาจจะมานั่งพักชมความเขียวขจีของแมกไม้ ก็สดชื่นขึ้นนะคะ ไม่แน่ใจว่าเป็นกลยุทธ์พิเศษของทางกระทรวงการคมนาคมของ Spain หรือไม่ ที่กำหนด plan การสร้างสถานีให้ออกมาแนวเช่นนี้ แต่ Cherie ก็ว่าเป็น idea ที่ดีนะคะ.


และแล้ว ... เราก็เจอกับมุมหากินมุมนี้ ที่สะท้อนความสวยงามของสถานีรถไฟหลักของประเทศ Spain ... ถ้าเจอนิตยสาร หรือภาพสารคดีบนหน้าหนังสือพิมพ์ หรือบนโทรทัศน์ก็ตาม เชื่อว่าไม่มีตากล้องคนใดพลาดมุมนี้แน่นอน ... สวยจริง อะไรจริงนะคะ ที่จริงหัวลำโพงของไทย ถ้าทำออกมาแนวๆ นี้ อาจจะดูเย็นตา ร่มเย็นกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ ... เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คงจะชอบสถานีรถไฟ Atocha กัน ไม่มากก็น้อยนะคะ.

[Aishwarya]

เนื่องจากไม่ได้ใช้บริการรถไฟเพื่อการโดยสาร น่าเสียดายที่ Cherie ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปถึงชานชลาเพื่อบันทึกภาพรถไฟสวยๆ มาให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้รับชมนะคะ ... แต่ก็ ok ค่ะ ... หลักจากที่เสร็จจากการโต๋เต๋ที่สถานี Atocha และได้เที่ยวพิพิธภัณฑ์รถไฟหลวงแล้ว ก็ใกล้ถึงเวลากลับ Valladolid แล้ว ... มาที่สถานีหัวลำโพงแห่งที่ ๒ ของ Madrid --->>> "สถานี Chamartin" นั่นเอง ... นอกเหนือจากที่ Metro de Madrid เปรียบดั่งเส้นเลือดใหญ่ของชาวเมืองหลวง ที่ขาดไม่ได้ เพราะใช้เป็นพาหนะในการเดินทาง นำพาความสะดวก และรวดเร็ว กระจายทั่วทั้ง Madrid อีกทางเลือกหนึ่งที่คนนิยมมากๆ ก็คือ "CERCANIAS [เธ ระ กา นี อาส]" หรือ "รถไฟชานเมือง" ซึ่งแล่นจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ ทิศใต้สู่ทิศเหนือ ให้บริการประชาชนวันละหลายสิบรอบ จนกลายเป็นสิ่งที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันไปแล้วล่ะค่ะ ... หากยังจำกันได้ เหตุการณ์เมื่อ ๑๑ มีนาคม ๒๕๔๗ เหตุวินาศกรรมรถไฟ Spain ... Cercanias ก็โดนกับเค้าด้วย ได้หลายแผล สร้างความหมองใจให้กับประชาชน จนเป็นรอยแผลเป็นเลยทีเดียว ฉะนั้นแล้ว มาถึงวันนี้ การใช้บริการ Cercanias เป็นอะไรที่เข้มงวดจริงๆ ค่ะ ... นี่คือสาย C4 วิ่งจาก Atocha ผ่านยังย่านสำคัญต่างๆของเมืองเป็นต้นว่า ย่าน Sol (เศรษฐกิจขนาด big ศูนย์กลางแห่ง Madrid) ผ่านย่านราชการอย่าง Nuevos Ministerios [นู เอ โบส มิ นิส เต รี โอส] และแน่นอนค่ะ ผ่านยังสถานีรถไฟ Chamartin ด้วย ... ฉะนั้นแล้วหากจะทำการเปลี่ยนสถานีจาก Chamartin ไปใช้บริการที่ Atocha หรือจาก Atocha ใช้บริการยัง Chamartin ... รถไฟชานเมืองเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ เพราะสนนราคาแค่ ๑,๑๐ euros ต่อเที่ยวเท่านั้นเอง.


Madrid ในวันหิมะโปรยหล่นเป็นสายมาตั้งแต่เช้า จน ณ บัดนั้น เวลาราวๆ ใกล้ ๑๙,๐๐ น. ได้ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ... นี่ถ้าหากทางการไม่นำเกลือมาโรยดักทางไว้ก่อนล่ะก็ เมืองทั้งเมืองคงขาวโพลนทั่วแน่ๆ ... ที่เห้นอยู่นี้คือบริเวณบันไดทางขึ้น/ลง ระหว่างตัวอาคารสถานี และทางดำเนินสู่ชานชลานะคะ.

[Aishwarya]

Cherie เอง ก็ยังไม่ได้กำหนดเวลาเดินทางนะคะ ครั้นจะอยู่ตรงบริเวณชานชลารอ ก็หนาวเหน็บเหลือเกิน จำต้องขึ้นมาบริเวณห้องโถงของสถานี และเก็บภาพบรรยากาศลอดผ่านกระจกแก้ว เผยให้เห็นขบวนรถด่วนพิเศษความเร็วสูง AVE ขบวนนี้ั ต้นทางจาก Madrid (Chamartin) สู่ Valladolid (Campo Grande) ซึ่งจะเดินทางเป็นเที่ยวสุดท้ายของวัน ออกจาก Madrid ราวๆ ๒๑,๓๐ น. ราวๆ นั้นนะคะ.


บรรยากาศของ Chamartin ในวันหมองๆ เมื่อหิมะปกคลุมเมือง ... มองออกไปไกลเวิ้งว้าง และขาวโพลนทีเดียวค่ะ.

[Aishwarya]

นี่คือ AVE รุ่น LANZORATE [ลัน โธ รา เต้] ... โฉมหน้าน่ารักน่าชัง กลมมน ได้รูป ได้สัดได้ส่วน งามอยู่ ... เป็นรถด่วนอีกรุ่นหนึ่งที่นำมาใช้ในระดับท้องถิ่นนั่นเองค่ะ ความแตกต่างจาก AVE รุ่นปกติ คือว่า รุ่นปกติ จะไม่มีการหยุดที่ไหนเลย จากต้นทางสู่ปลายทางเท่านั้น แต่สำหรับรุ่น Lanzorate นี้ จะมีการหยุดรับส่งผู้โดยสารตามรายเมืองนั่นเอง ... Cherie จะโดยสาร AVE รุ่นนี้ล่ะค่ะ กลับ Valladolid


คันที่ ๘ ท้ายสุดของขบวนเลยล่ะค่ะ เดินไกลมากจริงๆ .