เผา! ... เผา! ... เอามันไปเผา ที่ VALENCIA!

[Aishwarya]

ประติมากรรมชิ้นงาม ณ AV. DEL SALER [อะ เบ นี ด้า เดล ซา เล่ ระ] ตามแบบฉบับกลิ่นไอของแคว้น Comunidad Valenciana ที่น่าจดจำ.


เรานั่งรถเมล์ออกมานอกเมืองนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ไกลจากความเจริญเลย ... ขณะนี้เราอยู่ใกล้ร้านอาหาร และริมทะเล Mediterranean กันแล้วนะคะ ... ที่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เห็นนี้ เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งของ Valencia ค่ะ ... ด้วยความเป็นหนึ่งในอนุรักษ์นิยมของประเทศ Valencia จะรณรงค์ให้ยังคงสภาพความเก่าแก่ตามแบบฉบับอย่างที่เคยเป็นมาในอดีตไว้ให้ได้ยาวนานที่สุด เช่นเดียวกันกับโรงเรียนแห่งนี้นะคะ.


หลังจากลงรถเมล์แล้ว เราเดินกันอีกราวๆ ๕๐๐ meters ได้ค่ะ เพื่อให้มาถึงยังร้านอาหารที่ "เก่าแก่ที่สุด" และ "มีชื่อเสียงที่สุด" ของ Valencia ... เหนื่อยบ้าง อะไรบ้าง แต่เมื่อเราเห็นทะเล Mediterrenean รำไรๆ เช่นนี้ ก็สุขใจแล้วล่ะค่ะ ... อย่างที่ Cherie ได้เรียนให้ทราบว่า โดยส่วนตัวเป็นคนรักอะไรๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมากๆ ทะเล แม่น้ำ ทะเลสาป ทุกอย่าง เป็นของโปรดปรานทั้งสิ้น ... แม้จะมีคนกล่าวว่า ทะเล Mediterrenean แถบ Valencia ยังไม่ใช่ที่สุดที่สวยงามเท่าไรนักของ Spain แต่ในเรื่องคุณค่าทางจิตใจ Cherie happy ทีเดียวค่ะ ... นี่เป็นท่าเรือ yacht แห่งหนึ่งของ Valencia ใกล้ๆ กันกับร้านอาหารที่เราจะไปทางกลางวันพร้อมๆ กันนั่นเองค่ะ.

[Aishwarya]

บรรยากาศความสบายๆผสมผสานกับความหรูหรา (แต่ไม่มากเท่าไร) ของโรงแรมและร้านอาหาร ภัตตาคารริมชายหาดทะเล Mediterranean ค่ะ ... ท่ามกลางแสงแดดอ่อนและอุณหภูมิอากาศที่กำลังพอดีๆ เลย ... Cherie หลงรัก Valencia เลยล่ะค่ะ.


เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คะ เราอยู่ Valencia แบบนี้ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดแห่งอาหารประจำชาติที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง "PAELLA [ปา เอ ย่า]" หรือ "ข้าวผัดแบบ Spanish Style" เช่นนี้ มีหรือจะพลาดความเป็นที่สุดอย่างนั้นไปได้ ... อย่างที่เราทราบๆ กัน Paella ถือกำเนิด ณ แคว้น Comunidad de Valenciana แห่งนี้นี่เอง อาหารกลางวันมื้อนี้ของเราก็ต้องเป็น "ที่สุด" ด้วย ... พวกเราตกลงปลงใจกันรับประทานร้าน "PEPICA [เป ปิ ก้า]" ซึ่งขึ้นชื่อได้ว่าเป็น "ร้าน Paella ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดของ Valencia" รวมทั้งขึ้นชื่อต้นตำรับ "PAELLA VALENCIANA [ปา เอ ย่า บา เลน ธี อา น่า] หรือ Paella ต้นตำรับแนวแคว้น Valencia นั่นเอง ... ตาม Cherie และเพื่อนๆ มาทานกลางวันพร้อมๆ กันนะคะ.


พวกเราได้โทรจองที่นั่งไว้ก่อนค่ะ เพราะร้านที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่เช่นนี้ นักท่องเที่ยว รวมทั้งผู้ที่ใฝ่ฝันจะทาน Paella ต้นตำรับจริงๆ มักจะมากันไม่ขาดสาย ถ้าไม่จองกันก่อน อาจจะไม่ได้ที่ๆ ลงตัว หรือโชคร้าย อาจจะไม่มีที่สำหรับทานอาหารเลยล่ะค่ะ ... มองออกไปข้างนอกร้าน เห็นชายหาดทะเล Mediterranean ลิบๆ พร้อมแดดอุ่นๆ ยามบ่ายเช่นนี้.

[Aishwarya]

ถ้วยโถโอชาม แก้ว ส้อม มีด ต่างๆ มาวางพร้อมเพื่อเตรียมรับประทานมื้อกลางวันนี้ค่ะ ... Cherie และเพื่อนๆ มองไปรอบๆ เห็นคนมาใช้บริการทานกลางวันกันเต็มทุกที่นั่งเลยค่ะ คุยกันเสียงอึงมี่ไปหมด ... แต่บรรยากาศดีจริงๆ ค่ะ.


แน่นอนที่สุด เครื่องดื่มประจำชาติ Spain มา serve แก่พวกเราให้หายกระหายน้ำกันก่อน หลังจากเดินมาไกลพอสมควร --->>> SANGRAIA [ซัง กะ รี อา] alcohol นุ่มๆ ผสมน้ำผลไม้และ soda สูตรพิเศษนั่นเอง.


Cherie ว่า Sangria ร้านนี้ปรุงไม่เข้มข้นเลยค่ะ รู้สึกว่าความหวานของน้ำผลไม้ไม่ค่อยจะเด่นชัดเท่าไรนัก แต่ก็พอดื่มกันได้ จิบกันได้ ... พร้อมสิคะ กระหายมาเช่นนี้ ว่าแล้วก็ 1 2 3 CHEER RR RRR RRRR

[Aishwarya]

บรรยากาศช่วงรออาหารที่เราสั่งๆ มารับประทานค่ะ ... เหนื่อยบ้าง อะไรบ้าง ก็เลย chill chill กันเช่นนี้ ... กว่ากะทะ Paella จะมาพร้อม serve ใช้เวลานานเลยทีเดียวค่ะ Cherie พยายามมองไปรอบๆ ร้าน เพื่อจะหาอะไรสำรวจ เพราะร้านดังและเก่าแก่ขนาดนี้ มีอะไรที่เป็นมากกว่าภัตาคารธรรมดาๆ แน่ๆ.


mosaic บริเวณผนังร้าน บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของ Paella อาหารประจำชาติจานนี้ของชาว Spanish ค่ะ ... ในสมัยโบราณ ชาวบ้านมักจะมาปรุง Paella ด้วยกันเป็นหมู่คณะ อย่างที่เราเห็นใน mosaic นี้นั่นเองค่ะ ... ยางคนมีผักต่างๆ มีเมล็ดข้าวแบบ Spanish มีเนื้อไก่ กระต่าย อะไรต่างๆ นานา ก็นำมาร่วม share กันได้ จนกลายมาเป็นตำนาน ว่าทำไม เวลาทำ Paella กะทะดั้งเดิมจริงๆ จึงต้องใหญ่มากๆ เป็นเพราะเหตุฉะนี้นั่นเอง.


ทิวทัศน์ของทะเล Mediterranean บนผนัง mosaic บอกเล่าเรื่องราวในครั้นโบราณกาล ซึ่ง Paella อยู่คู่กับชาว Spanish ทั่วหัวระแหงเลยทีเดียว ไม่เว้นแม้กระทั่งการเดินทางออกทะเลของชาวบ้าน พวกเค้าก็มักจะพกกะทะไปเพื่อทำ Paella ทานด้วยกันเสมอ ในมวลหมู่ชาวประมง.

[Aishwarya]

สิ่งที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าร้าน Pepica นี้มีชื่อเสียงจริง เก่าแก่จริง ก็คงเพราะมีหลักประกันด้วยภาพถ่ายจาก Celebs ระดับต่างๆ มากมาย ที่เป็นลูกค้าอย่างไม่ขาดสายมานับตั้งแต่โบราณกาลเลยทีเดียว ... มุมหนึ่งของร้านจึงมี hall of fame ของเหล่าลูกค้าคนดังที่เข้ามาทานอาหาร ณ Pepica กันค่ะ ... มากมายก่ายกองทีเดียว.


ที่สุดแห่งที่สุด ตอกย้ำความเป็นที่สุด และความมีชื่อเสียงเก่าแก่ โด่งดัง เมื่อทางร้านได้รับพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม เมื่อครั้น "สมเด็จพระราชาธิบดี Juan Carlos" และ "สมเด็จพระราชินี Sofia" ล้นเกล้าฯ ทั้ง ๒ พระองค์เสด็จมาเวยพระกระยาหารกลางวัน ณ ร้าน Pepica แห่งนี้ ... เจ้าหน้าที่ เจ้าของและผู้ให้บริการต่างๆ ต่างเข้าเฝ้าฯ กันอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ล่ะค่ะ ... เป็นเกียรติและเป็นความภาคภูมิใจของร้านจริงๆ.


คุณนายใหญ่แห่งร้าน Pepica ได้ถวายการต้อนรับ "สมเด็จพระราชินี Sofia" เมื่อพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินถึง ... เป็นภาพเก่าแก่ที่มีมนต์ขลังมากทีเดียว ... ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเพคะ.

[Aishwarya]

ภาพเมื่อครั้นทรงประทับ ณ โต๊ะเสวย ซึ่งเป็นโต๊ะที่อยู่มุมที่ดีที่สุดของร้าน อยู่ติดกับทะเล Mediterranean ชัดเจน ... ในภาพสมเด็จพระราชินี Sofia ทรงมีพระราชปฏิสันภารกับคณะติดตามและทางเจ้าหน้าที่ เจ้าของแห่งร้าน Pepica ค่ะ.

เมื่อล้นเกล้าทั้ง ๒ พระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินกลับ ทรงลง AUTOGRAFIA REAL [เอา โต กะ รา ฟี อา เร อัล] --->>> ลายพระหัตถ์เพื่อเป็นเกียรติแก่ทางร้าน และความเป็นศิริมงคลค่ะ ...

ทั้งสองพระองค์ทรงอักษรว่า ' ... A LA PEPICA CON UN SALUDO MUY AFECTUOSO Y VUESTRA ENHORABUENA ... JUAN CARLOS R. ... SOFIA R. ... 17.10.96' ----->>> 'มอบให้แด่ร้าน Pepica ด้วยความปรารถนาดี ด้วยรักเป็นล้นพ้นจากข้าพเจ้า ตลอดจนขอแสดงความยินดีแห่งความสำเร็จของพวกท่านทุกคน ... ๑๗ ตุลาคม ๒๕๓๙" ... Cherie เชื่อว่าแม้จะผ่านมานานนับ ๑๐ กว่าปีแล้ว แต่เจ้าของ และคณะผู้บริหารของทางร้านต้องปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่งแน่ๆ เลยค่ะ ... Cherie ยืนมอง ยืนอ่านอยู่นานมากๆ ลืมไปเลยว่า เราได้สั่งอาหารรอทิ้งไว้ที่โต๊ะ.


นอกจากล้นเกล้าทั้ง ๒ พระองค์แล้ว พระราชโอรสของพระองค์ท่าน "มกุฎราชกุมาร FELIPE [เฟ ลิ เป้]" ก็เคยเสด็จพระราชดำเนินมาเสวบพระกระยาหารที่ภัตาคารแห่งนี้เช่นกันค่ะ ... ในภาพ คงจะนานนมมากเลยทีเดียว เข้าใจว่าตั้งแต่พระองค์ท่านยังมิได้อภิเษกสมรสกับ "เจ้าหญิง LETICIA [เล ติ เธีย]" เลย ... พร้อมกันนี้ ก็ยังทรงพระราชทานลายพระหัตถ์เป็นที่ระลึกแด่ทางร้านด้วยอีกเช่นกันค่ะ.

[Aishwarya]

ยืนมอง hall of fame อยู่นาน เพลิดเพลินกับการที่เหล่า Celebs ทั้งหลายมารับประทานอาหารที่ร้าน ซักพักเจ้าของร้านก็มาสะกิดค่ะ บอก Cherie ว่าอาหารพร้อมที่โต๊ะแล้ว ทั้งยังใจดีมอบ postcard ประจำร้าน เป็นรูป Paella สีสันสวยงาม มอบให้เป็นที่ระลึกอีกด้วย คงเพราะเห็น Cherie ให้ความสนใจกับมุมดังกล่าวนี้แบบใจจดใจจ่อ มีสมาธิสุดๆ ลืมบรรยากาศรอบๆ ตัวไปเลยล่ะค่ะ ... เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คะ จานแรกแบบ Europe จะ serve อะไรทีนึง ต้องมาก่อนเสมอด้วยขนมปังข้างเคียง ว่าแล้วก็เลยจัดฉากถ่ายภาพ postcard ที่ระลึกจากร้าน Pepica และขนมปังด้วยกันเสียเลยค่ะ.


จากการที่เรารอกะทะ Paella ซึ่งใช้เวลานานทีเดียวในการปรุงและงวดข้าวให้นุ่มและให้ส่วนผสมเข้าซึมถึงเมล็ดข้าวอย่างดีที่สุด ทำให้ใช้เวลายาวนานในการรอ Paella ราวๆ ๒๐ นาที พวกเราก็เลยสั่งอาหารทะเลมาเคี้ยวเล่นกันไปก่อน ... เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คะ นี่คือ SEPIA A LA PLANCHA [เซ เปีย อะ ลา ปะ ลาน ช่า] --->>> ปลาหมึกย่างปรุงรสด้วยมะนาว น้ำยาสูตร Spanish และปรุงพิเศษด้วยสมุนไพรแบบ Spanish อีกเช่นกันค่ะ ... น่าทานทีเดียว.

ทานกันไปเรื่อยๆ คุยกันไป ในที่สุด กะทะ Paella ขนาดมหึมาแทบจะขับโต๊ะอาหารของเราในบ่ายนั้น ก็มาค่ะ ... ของจริงนั้น กะทะใหญ่มากๆ ทีเดียวค่ะ มากกว่าในภาพที่ถ่ายนี้เสียอีก ... นี่ล่ะค่ะ PAELLA VALENCIANA [ปา เอ ย่า บา เลน ธี อา น่า] --->>> Paella สูตรดั้งเดิมอันเลื่องชื่อไปทั่วโลก

ต้นตำรับจริงๆ นั้น เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จะสังเกตว่า Paella จะไม่มีสีเหลืองจัดมากเท่าไรนัก เพราะแบบดั้งเดิมนั้นจะไม่เน้นหนักในการเติมหญ้าฝรันค่ะ และที่สำคัญ Paella แบบดั้งเดิมจะเน้หนักในเรื่องเนื้อไก่ และเนื้อกระต่าย มากกว่าการใส่เครื่องทะเลแบบประยุกต์แล้ว และที่สำคัญอีกประการ จะมีการใส่ผักจำพวกถั่วต่างๆ มากมาย ทั้งถั่วลันเตา และถัวพูค่ะ ... Cherie ว่า Paella ที่นี่อร่อยสมชื่อความเป็นร้านเก่าแก่และโด่งดังที่สุดของแคว้นเอาการอยู่ค่ะ ... Paella ไม่แฉะเลย ที่สำคัญ อร่อยทุกคำ ... ประทับใจจริงๆ ค่ะ.

[Aishwarya]

นำภาพ Paella แบบประยุกต์ แบบเครื่องทะเลรวม ซึ่งเพื่อนๆ รวมทั้ง Cherie มักจะทำทานกันบ่อยๆ ที่บ้าน มาให้ชมกันค่ะ ... จะเห็นว่ารูปร่างหน้าตาแตกต่างกันพอสมควรค่ะ ... ในบรรดากลุ่มเพื่อน พวกรามักจะชอบทานหอย หมึก และกุ้งมากๆ ค่ะ ... สวยมั้ยคะ


เอาล่ะค่ะ พร้อมจะรับประทานกันแล้ว คงต้องไหว้วานให้บริกรช่วยบันทึกภาพความประทับใจของมื้อกลางวันที่พิเศษมื้อนี้สำหรับเราเหล่านักเรียนไทยกันหน่อยล่ะค่ะ ... ทานด้วยกันมั้ยเอ่ย

[pattharachai]

ปลาหมึกมะนาวน่ากินมาก แต่เสียดายที่รสคงไม่จัดแบบยำแบบไทย

[Aishwarya]

ทานอิ่มกันแล้ว นั่งพัก นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ดีแล้ว ก็ได้เวลาที่พวกเราจะออกไปยืดเส้นยืดสายกันริมทะเลแล้วล่ะค่ะ ... ซึ่งเนื่องจากร้าน Pepica อยู่ติดทะเลอยู่แล้ว ทำเลดีมากๆ อยู่แล้ว ทำให้เรามีเวลาเหลือเฟือทีเดียวค่ะ ... เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คะ ขอต้อนรับสู่ชายหาดแห่ง Valencia ริมทะเล Mediterranean อันสวยงามค่ะ ถึงจะไม่สวยงามที่สุดเท่าไหร่นัก แต่ก็มีกลิ่นไอของทะเลตะวันออกของประเทศ มีความอุ่นจากกระแสน้ำในเขตอบอุ่น ไม่ร้อนชื้น และไม่หนาวเย็นมากจนเกินไปเท่าไรนัก แต่ลมแรงทีเดียวค่ะ.


มา Valencia ครั้งนี้ ครบรสมากๆ ค่ะ ทั้งจุดเด่นของเมือง รวมทั้งชายหาดทะเล Mediterranean ในวันอากาศดี สบายๆ แบบนี้ ... เท่ากับว่า trip นี้ Cherie และเพื่อนๆ พวกเราเก็บของดีของแคว้น Comunidad Valenciana ได้ครบทีเดียว ... สวยจริง อะไรจริง นะคะ ชายหาดยามบ่ายแก่ๆ จัดๆ เช่นนี้.


ถนนริมชายหาดกับพืชไม้นานาพันธุ์แบบเขตอบอุ่นริมชายทะเล และการจัดวางทัศนียภาพได้อย่างลงตัวและสวยงามของนคร Valencia ค่ะ.