RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311286
ทั่วไป:13268294
ทั้งหมด:13579580
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - การพ่วงพหุ
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

การพ่วงพหุ
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถจักร, รถดีเซลราง และรถพ่วงต่างๆ ของไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
conrail
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 28/03/2006
Posts: 1271
Location: Bangplad , Bangkok

PostPosted: 02/09/2006 11:15 am    Post subject: Reply with quote

ถ้าเช่นนั้ก็อย่างที่คุณบอมบ์กล่าวไว้ก่อนหน้าแล้วล่ะครับ เพราะทีแรกผมไม่ได้นึกถึงการทดลองพ่วงพหุในการทำขบวนรถคอนเทนเนอร์ในครั้งที่ 2 Embarassed Embarassed

ปัญหาในเรื่องนี้เท่าที่ทราบคือเรื่องของระบบห้ามล้อที่ทำงานช้า และเมื่อทำงานแล้วเวลาจะคลายก็ทำได้ช้าอีกเพราะจำนวนของรถพ่วงที่มาก นอกเหนือจากปัญหาที่ไม่สามารถเข้าทางหลีกได้
Back to top
View user's profile Send private message
puggi
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 04/07/2006
Posts: 119

PostPosted: 06/09/2006 9:34 am    Post subject: Reply with quote

conrail wrote:
puggi wrote:
หัวรถจักร์ อยู่ที่หัวขบวน และท้ายขบวน ต่อสายจั้มเปอร์ เข้าด้วยกัน นี่ถือเป็นการพ่วงพหุหรือเปล่าครับ Question


ระบบนี้เป็นหนึ่งในรูปแบบของการจัดรูปขบวนรถ คือ
1.แบบใช้รถจักรลาก ( Locomotive Hauled Train ) ใช้มากสำหรับการรถไฟของไทย

2.แบบใช้รถจักรลากและดัน ( Push and Pull Train Set ) ใช้รถจักร 2 หัววางไว้ในส่วนหัวและส่วนท้ายของขบวนรถ ซึ่งในส่วนหัวจะลากและส่วนท้ายของขบวนจะดัน ควบคุมการทำงานให้พร้อมกันโดยผ่านสายจัมเปอร์ แต่ระบบนี้จะต้องถูกวางเป็นเซ็ตนี้ตลอดและจะต้องมีระบบของสายจัมเปอร์ผ่านรถพ่วงในริ้วขบวนทุกคันเพื่อเชื่อมต่อระบบควบคุมของรถจักรคันหัวและท้ายเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังต้องใช้รถจักรอย่างต่ำถึงสองคันในการทำขบวน จึงทำให้มีต้นทุนสูงกว่าแบบแรกมาก การบำรุงรักษาก็มาตามไปด้วย ถึงอย่างไรก็ตามระบบนี้ก็มีใช้การในต่างประเทศอยู่ในปัจจุบัน

3.แบบเป็นชุด ( Unit train Set ) ใช้กับรถดีเซลราง หรือ รถไฟฟ้า ซึ่งจะมีการกำหนดเอาไว้ว่า 1 ชุดมีกี่คัน เช่น รถดีเซลราง THN , NKF 1 ชุดจะมี 2 คัน หรือ รถดีเซลราง Sprinter 1 ชุดมี 3 คัน เป็นต้น
และในกรณีของรถไฟฟ้าชินกันเซน 1 ชุดก็จะมี 16 คัน


ในส่วนที่ถามว่าแบบที่ 2 เป็นการพหุไหมนั้น ผมมองว่าเป็นรูปแบบของการพ่วงพหุนะครับ แต่การจัดวางรถอยู่คนละที่กันเท่านั้นเอง ซึ่งจะอย่างไรก็ตามก็ยังสามารถควบคุมระบบการทำงานของรถจักรทั้งสองหัวให้ทำงานพร้อมกันอยู่ดี


ขอบคุณครับ

ขอถามอีกข้อครับ อยากทราบเหมือนกันว่า ประสิทธิภาพจะต่างกันหรือเปล่าครับ กรณีขบวนรถสินค้ายาวเท่ากัน แต่ว่า

1. พ่วงพหุโดยรถจักร สองหัวอยู่ติดกัน

2. พ่วงพหุโดยหัวรถจักร อยู่ด้านหัวและท้าย ของขบวนรถ
Back to top
View user's profile Send private message
conrail
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 28/03/2006
Posts: 1271
Location: Bangplad , Bangkok

PostPosted: 06/09/2006 11:08 am    Post subject: Reply with quote

เอ๋....อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะครับ ลองถามคุณ Derail ดูสิครับ คิดว่าน่าจะให้ความเห็นเรื่องนี้ได้ เพราะการใช้งานในลักษณะนี้จะนิยมใช้กับทางตะวันตกมากกว่า ในการขนสินค้าทีละมาก

เท่าที่ทราบ ลักษณะของ Push and Pull นั้นจะใช้กับขบวนรถโดยสารมากกว่าเพราะจะต้องมีการวางระบบสายควบคุมผ่านรถทุกคันในขบวน ในรูปแบบที่คล้ายคลึงกับรถดีเซลรางนั่นเอง เพียงแต่ระบบนี้ใช้รถจักรในการขับเคลื่อนด้านหัว และท้ายเท่านั้น

เมื่อสมัยที่ผมเรียนอยู่ เคยได้ยินอาจารย์บอกว่า มีการใช้ระบบดาวเทียม ( ? ) ในการควบคุมหัวรถจักรที่มีมากกว่าหนึ่งหัวในขบวนรถสินค้าที่ยาวมากๆ โดยวางแบบเฉลี่ยกันในขบวน คือ มีการใช้รถจักรลากจูงที่หัวขบวนตามปกติ จากนั้นจึงวางรถจักรไว้ที่ช่วงกลางขบวนด้วย ซึ่งในรูปแบบนี้จะไม่มีสายควบคุมดังเช่นที่กล่าวมา แต่จะใช้สัญญาณในการควบคุมจากรถจักรคันแรกไปยังรถจักรคันอื่นๆในขบวน เหตุที่ต้องใช้การจัดวางรถจักรรูปแบบนี้เพราะขบวนรถสินค้ามีความยาวมากๆ ซึ่งถ้านำเอารถจักรมาพหุกันไม่ว่าจะกี่คันก็ตาม แรงลากจูงจะเกิดขึ้นที่หัวขบวนเท่านั้น ทำให้ขอพ่วงมีการรับแรงดึงสูงมากเกินไป และอาจจะขาดได้ ทำให้ต้องเฉลี่ยแรงลากจูงไปไว้ที่กลางขบวนอีกส่วนหนึ่งเพื่อลดแรงกระทำที่ขอพ่วงลง และใช้ระบบควบคุมดังกล่าว

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่มั่นใจว่าจริงแท้เพียงใดนะครับเพราะคนอื่นเล่าให้ฟัง อยากจะลองให้คุณ Derail ตรวจสอบกับข้อมูลของรถไฟตะวันตกดูอีกทีครับ
Back to top
View user's profile Send private message
box_car
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 28/03/2006
Posts: 2169
Location: บ่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิต ชนิดกินไก่ ผิวเกล็ด

PostPosted: 06/09/2006 11:58 am    Post subject: Reply with quote

conrail wrote:
เอ๋....อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะครับ ลองถามคุณ Derail ดูสิครับ คิดว่าน่าจะให้ความเห็นเรื่องนี้ได้ เพราะการใช้งานในลักษณะนี้จะนิยมใช้กับทางตะวันตกมากกว่า ในการขนสินค้าทีละมาก

เท่าที่ทราบ ลักษณะของ Push and Pull นั้นจะใช้กับขบวนรถโดยสารมากกว่าเพราะจะต้องมีการวางระบบสายควบคุมผ่านรถทุกคันในขบวน ในรูปแบบที่คล้ายคลึงกับรถดีเซลรางนั่นเอง เพียงแต่ระบบนี้ใช้รถจักรในการขับเคลื่อนด้านหัว และท้ายเท่านั้น

เมื่อสมัยที่ผมเรียนอยู่ เคยได้ยินอาจารย์บอกว่า มีการใช้ระบบดาวเทียม ( ? ) ในการควบคุมหัวรถจักรที่มีมากกว่าหนึ่งหัวในขบวนรถสินค้าที่ยาวมากๆ โดยวางแบบเฉลี่ยกันในขบวน คือ มีการใช้รถจักรลากจูงที่หัวขบวนตามปกติ จากนั้นจึงวางรถจักรไว้ที่ช่วงกลางขบวนด้วย ซึ่งในรูปแบบนี้จะไม่มีสายควบคุมดังเช่นที่กล่าวมา แต่จะใช้สัญญาณในการควบคุมจากรถจักรคันแรกไปยังรถจักรคันอื่นๆในขบวน เหตุที่ต้องใช้การจัดวางรถจักรรูปแบบนี้เพราะขบวนรถสินค้ามีความยาวมากๆ ซึ่งถ้านำเอารถจักรมาพหุกันไม่ว่าจะกี่คันก็ตาม แรงลากจูงจะเกิดขึ้นที่หัวขบวนเท่านั้น ทำให้ขอพ่วงมีการรับแรงดึงสูงมากเกินไป และอาจจะขาดได้ ทำให้ต้องเฉลี่ยแรงลากจูงไปไว้ที่กลางขบวนอีกส่วนหนึ่งเพื่อลดแรงกระทำที่ขอพ่วงลง และใช้ระบบควบคุมดังกล่าว

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่มั่นใจว่าจริงแท้เพียงใดนะครับเพราะคนอื่นเล่าให้ฟัง อยากจะลองให้คุณ Derail ตรวจสอบกับข้อมูลของรถไฟตะวันตกดูอีกทีครับ


อย่างที่เฮียก้องว่ามานั้น... สู้แบ่งเป็น 2 ขบวนเลยไม่สะดวกกว่ารึครับ
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 06/09/2006 12:29 pm    Post subject: Reply with quote

พิจารณาลักษณะการพ่วงรถจักรแบบนี้ ถูกต้องตามหลักการครับ แต่การควบคุมรถจักรทำการผ่านระบบดาวเทียมนั้น น่าจะใช้คลื่นวิทยุมากกว่า....
Back to top
View user's profile Send private message
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 30/09/2006 4:56 pm    Post subject: รถด่วนเชียงใหม่ในอดีตก็พ่วงพหุ Reply with quote

วันนี้ผมเพิ่งค้นพบภาพรถด่วนขบวน ๗/๘ (ขบวน ๑๓/๑๔ ในปัจจุบัน) ขณะทำขบวนผ่านสะพานทาชมภู เมื่อประมาณปี ๒๕๒๘-๒๕๒๙ ซึ่งตอนนั้นรถด่วนเชียงใหม่มีเพียงขบวนเดียว (รถด่วนนครพิงค์ ขบวน ๕/๖ ซึ่งก็คือขบวน ๑/๒ ในปัจจุบันเพิ่งเปิดเดินรถเมื่อปี ๒๕๓๐) ปกติรถด่วนขบวน ๗/๘ พ่วงโบกี้ทั้งชั้น ๑-๒-๓ ยาวประมาณ ๑๗-๑๘ โบกี้ (ตัดรถ บนท.ที่นครลำปาง ๑ คัน) จำได้ว่ามีการใช้รถจักรอัลสตรอมพ่วงพหุทำขบวนทางตอนภูเขาตั้งแต่สถานีศิลาอาสน์จนถึงปลายทางเชียงใหม่เลยครับ ที่จำได้เพราะผมตื่นขึ้นมาแอบเปิดหน้าต่างรถ บนท. ซึ่งห้ามเปิดทิ้งไว้ตอนกลางคืน เพื่อดูขบวนรถทำขบวนโค้งไปโค้งมาขึ้นภูเขา แล้วประทับใจเสียงรถจักรอัลสตรอมสองหัวเร่งเครื่องดังสนั่นสะท้อนไปทั้งหุบเขานี่แหละครับ Embarassed พวกผู้ใหญ่ชอบบ่นว่าหัวเดียวก็ดังพอตัวแล้ว ยิ่งสองหัวนี่ยิ่งหนวกหู แต่ผมกลับยิ่งชอบครับ Very Happy

Click on the image for full size

ภาพอาจไม่ชัดเท่าไร เพราะภาพเดิมถ่ายด้วยกล้อง “ปัญญาอ่อน” แล้วผมถ่ายมาจากภาพเดิมอีกทอดหนึ่ง ขออภัยด้วยนะครับ ถ้าสังเกตดีๆท่านจะเห็นรถ บชส. สีแดงซึ่งเป็นสีดั้งเดิมก่อนมีการทำสีใหม่ในยุคต่อมาเป็นสีน้ำเงิน แต่เดิมรถด่วน ๗/๘ ไม่มีรถชั้นสามหรอกครับ มีการนำรถชั้นสามมาพ่วงตั้งแต่ปี ๒๕๒๘ แล้วต่อมาก็ตัดออกแต่จะเป็นเมื่อใดจำไม่ได้แน่นอนแล้วครับ Rolling Eyes

แถมให้ชมอีกสองภาพนะครับ เป็นภาพขบวน ๘ เทียบชานชาลาสถานีเชียงใหม่ ในมุมมองจากรถบนอ.ป. รุ่นดั้งเดิม สีสัน กระจกหน้าต่างแบบเดิมเป็นสภาพก่อนมีการปรับปรุงยกใหญ่ประมาณปี ๒๕๓๖-๒๕๓๗ มองย้อนไปทางหัวรถจักรด้านจะไปสถานีสารภี

Click on the image for full size

Click on the image for full size

หมายเหตุ เด็กอ้วนที่ปีนรถจักรในภาพน่ะ เป็นน้องของผมเอง ไม่ใช่ผมนะครับ 8)
Back to top
View user's profile Send private message
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 30/09/2006 5:13 pm    Post subject: เล่าแถมอีกนิดนะครับ Reply with quote

เกี่ยวกับเรื่องการพ่วงพหุทำขบวน ๗/๘ นั้น ขอเล่าเพิ่มเติมอีกสักนิดว่า

ยิ่งในช่วงเทศกาลเช่น ปีใหม่ ประมาณปี ๒๕๒๙ ต่อด้วยปี ๒๕๓๐ ผมยังเคยขึ้นขบวน ๗/๘ พ่วงโบกี้ยาวถึง ๒๕ โบกี้ ใช้รถจักรอัลสตรอมพ่วงพหุทำขบวนตั้งแต่กรุงเทพ-เชียงใหม่ ขึ้นภูเขาได้สบายๆไม่มีท่าว่าจะ “ติดเขา” อย่างที่เป็นบ่อยๆในปัจจุบันเลยครับ Laughing
Back to top
View user's profile Send private message
rimura
2nd Class Pass (Air)
2nd Class Pass (Air)


Joined: 16/08/2006
Posts: 778
Location: Suan luang Rama IX, Pravet, Bangkok

PostPosted: 30/09/2006 7:54 pm    Post subject: Reply with quote

สุดยอดครับคุณตุ้ย (ขออนุญาตเรียกคุณตุ้ยนะครับ เพราะทราบมาจากที่เพื่อนๆสมาชิกเรียกกัน) ได้เห็นวิวัฒนาการของรถด่วนนครพิงค์กับยุคทองของอัลสธอม รถจักรที่มีกำลังมากที่สุดในยุคนั้น นึกย้อนไปช่วงก่อนหน้าที่เป็นเฮนเชลพหุ จนได้อัลสธอมเข้ามา แล้วก็มาพหุอัลสธอมอีก จนเรื่อยมาเป็น HID, GEA ทุกวันนี้ ซึ่งก็ทำพหุไปอีก ต่อไปจะมีรถจักรอะไรที่มีกำลังมากขึ้นเข้ามารับใช้กิจการรถไฟไทยอีกนะ Rolling Eyes

เคยนั่งขบวน 51 จากลำปาง ไปลงเชียงใหม่ ใช้อัลสธอมทำขบวนแล้วมาได้คุณปู่ GE ช่วยทำการที่ลำปาง เสียงเครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นลั่นป่าเขาได้ใจเลยครับ ประทับใจไม่ลืมเลย....
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
tuie
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006
Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย

PostPosted: 30/09/2006 10:15 pm    Post subject: ขอชี้แจงครับ Reply with quote

ขอบคุณ คุณ rimura ที่ให้ความสนใจครับ Very Happy

ที่คุณบอกว่า
Quote:
ได้เห็นวิวัฒนาการของรถด่วนนครพิงค์กับยุคทองของอัลสธอม รถจักรที่มีกำลังมากที่สุดในยุคนั้น


ขอชี้แจงสักนิดนะครับ ขบวนรถด่วนที่ ๗/๘ ซึ่งปัจจุบันคือขบวน ๑๓/๑๔ ที่ผมนำภาพมาให้ชมนั้น เป็นคนละขบวนกับรถด่วนนครพิงค์ขบวนที่ ๕/๖ ซึ่งก็คือขบวน ๑/๒ ในปัจจุบันครับ 8)

สมัยก่อนปี ๒๕๓๐ รถด่วนกรุงเทพ-เชียงใหม่ มีเพียงขบวนเดียว คือ ขบวน ๗/๘ มีทั้งชั้น ๑-๒-๓ เลยจำเป็นต้องพ่วงโบกี้ยาวๆ ตามปกติรวมแล้วประมาณ ๑๗-๑๘ โบกี้ (ตัดที่นครลำปาง ๑ โบกี้) ถ้าช่วงเทศกาลเคยพ่วงยาวสูงสุดถึง ๒๕ โบกี้ เวลาเทียบชานชาลาต้องแบ่งออกเป็นสองชานชาลา พอใกล้รถออกถึงนำมาต่อเป็นขบวนเดียวกัน เลยต้องใช้รถจักรอัลสตรอมพ่วงพหุทำขบวนตั้งแต่ศิลาอาสน์ถึงเชียงใหม่(ถ้าเป็นช่วงเทศกาลที่พ่วงเกิน ๑๘ โบกี้ขึ้นไปก็จะพ่วงพหุตั้งแต่กรุงเทพเลยครับ) ซึ่งจะต่างจากการให้คุณปู่ยีอี ช่วยทำการเฉพาะช่วงแม่ตานน้อย-ขุนตาน ในยุคปัจจุบันซึ่งขบวน ๑/๒,๑๓/๑๔ ฯลฯ พ่วงประมาณ ๑๑-๑๒ โบกี้หรืออาจสั้นกว่านี้

ความจริงสมัยปี ๒๕๒๗ ขบวน ๗/๘ มีเฉพาะชั้น ๑-๒ พ่วงประมาณ ๑๓-๑๔ โบกี้ ตัดที่นครลำปาง ๑ โบกี้ เหลือทำขบวนขึ้นขุนตานประมาณ ๑๒-๑๓ โบกี้ ยังใช้รถจักรอัลสตรอมหัวเดียวทำขบวนขึ้นได้สบายๆเลยครับ ผมคาดว่า Rolling Eyes อาจเป็นเพราะรถจักรยังอยู่ในสภาพดี โบกี้ที่พ่วงส่วนมากเป็นรถ บนท. ๓๒ ที่ ซึ่งมีน้ำหนักเบาและสั้นกว่ารถ บนท.ป. ๔๐ ที่ยุคปัจจุบันอยู่หลายกิโลกรัม เลยไม่เป็นภาระแก่รถจักรมากนัก พอปี ๒๕๒๘ มีการพ่วงรถ บชส. เข้าไปอีก ๓ โบกี้เป็นอย่างน้อย ก็เลยต้องพ่วงพหุรถจักรอัลสตรอมอย่างที่นำภาพมาให้ชมน่ะครับ

ต่อมามีการเปิดเดินรถด่วนนครพิงค์ ขบวน ๕/๖ ในยุคแรกใช้รถ บนท. ๓๖ ที่ที่เพิ่งนำเข้าใหม่เอี่ยมต้อนรับปีท่องเที่ยวไทยล้วนๆ ไม่มีโบกี้โดยสารแบบอื่นเลย พ่วงรวมทั้งขบวนนับรถเสบียงและ บพห.ด้วยประมาณ ๑๑-๑๒ โบกี้ ก็ใช้อัลสตรอมหัวเดียวทำขบวนตลอดถึงเชียงใหม่ได้โดยไม่ต้องพ่วงพหุเลยครับ พอมีขบวน ๕/๖ แล้วขบวน ๗/๘ ก็ลดความยาวลงเหลือประมาณ ๑๑-๑๒ โบกี้เช่นกันเลยไม่ต้องพ่วงพหุอีก จนกระทั่งถึงยุคหลังๆที่โบกี้ บนท.ป. ๔๐ ที่ บนอ.ป. ๒๔ ที่ เข้ามาประกอบกับรถจักรเริ่มจะสุขภาพไม่ดีนี่แหละครับ ถึงเห็นมีการนำคุณปู่ยีอีมาช่วยทำการในช่วงแม่ตานน้อย-ขุนตาน ทั้งๆที่ขบวน ๑/๒,๑๓/๑๔ ตามปกติมีแค่ประมาณ ๑๑-๑๒ โบกี้เท่านั้นเอง Laughing
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42724
Location: NECTEC

PostPosted: 30/09/2006 11:12 pm    Post subject: Reply with quote

งั้น ถ้าเราตองการให้มีรถจักรกำลังสูงทำขบวยพ่วงพหุขึ้นเขา และ ทำขบวนรถคอนเทนเนอร์ไปท่าเรือแหลมฉบัง กันอีกยก แล้ว เราต้องหารถจักรกำลังสูงแบบยีอีเอสักกีหัวกันหนอถึงจะพอ ... Rolling Eyes
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถจักร, รถดีเซลราง และรถพ่วงต่างๆ ของไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  Next
Page 3 of 7

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©