กล้อง ใครคิดว่าไม่สำคัญ......!

[Air_Reservoir]

สวัสดีครับพี่ๆ น้องๆ ชาวรถไฟไทยทุกคน

ผมว่าพวกเราทุกๆ คนในที่นี้เวลาเดินทางด้วยรถไฟแล้ว มักจะหนีไม่พ้นที่จะต้องนำเอากล้องติดตัวไปด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาใดก็ตาม และหลังๆ มานี้เองสมาชิกในเว็บเริ่มที่จะมีกล้อง DSLR เป็นของตัวเองกันมากขึ้น ด้วยเพราะราคาที่ถูกลงจากในอดีต เทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นและดีขึ้นในแต่ละรุ่น และก็มีอีกหลายๆ คนที่กำลังเก็บเงินเพื่อซื้อกล้องเป็นเจ้าของ ในวันนี้ผมก็จะมาแนะนำเกร็ดน่ารู้ของกล้อง DSLR สำหรับผู้ที่กำลัง "เริ่มต้น" ที่ควรทราบ กล้องแต่ละตัวแบบคร่าวๆ และก็จะพยายามอัพเดทกล้องตัวใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ ครับ(จะเน้นที่ DSLR เป็นหลักนะครับ)



กล้อง DSLR - Digital Single Lens Reflex หรือ กล้องสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยวระบบดิจิตอล มีหลักการในการถ่ายภาพคือ ใช้แสงวิ่งผ่านเลนส์เข้ามาในตัวกล้อง สะท้อนผ่านกระจกไปยังช่องมองภาพ หรือ View Finder หลังจากที่เรากดชัตเตอร์แล้ว กระจกสะท้อนภาพก็จะถูกยกขึ้นด้วยกลไกภายใน ปล่อยแสงผ่านเข้าสู่เซ็นเซอร์รับภาพ(ในกรณี SLR แสงจะสะท้องเข้าหาฟิลม์) เพื่อทำการบันทึกภาพ และเราก็สามารถดูรูปได้ทันที ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่จะดูรูปแต่ละทีต้องเสียค่าล้างฟิลม์กันไปไม่ใช่น้อย กว่าจะเก่งกันได้ก็หมดไปหลายบาทแล้วล่ะครับ

เมื่อพูดถึงกล้อง DSLR เราก็จะต้องนึกถึงเซ็นเซอร์เป็นลำดับถัดมา ซึ่งเซ็นเซอร์จะมีขนาดแตกต่างกันสำหรับกล้องในแต่ละรุ่น และยี่ห้อของกล้องนั้นๆ และความต่างกันนี้ ก็ทำให้มีตัวคูณแตกต่างกันด้วย ในอดีตที่ผ่านมา กล้อง SLR จะอ้างอิงจากขนาดของฟิลม์ถ่ายภาพคือ 36 x 24 มม. (ตัวเลขบางครั้งจะต่างกันในแต่ละรุ่นแต่มักไม่เกิน 0.1 หรือ 0.2 และเป็นแบบนี้กับเซ็นเซอร์ทุกขนาด) หรือที่ในปัจจุบันเรียกกันว่า Full Frame นั่นเอง ไม่มีตัวคูณครับ ใส่เลนส์เท่าไหร่มาก็ได้ค่าเท่านั้น ซึ่งเซ็นเซอร์ระดับนี้ มักอยู่ในกล้องที่เรียกว่าเป็นระดับท๊อปของแต่ละค่าย เช่น Canon 1DS Mark III, Nikon D3X, Sony Alpha A900 เป็นต้น
APS-H : 28.7 x 19 มม. ตัวคูณ 1.3 ตัวนี้จะมีใน Canon 1D Mark IV
APS-C : 23.6 x 15.7 มม. ตัวคูณ 1.5 มีในกล้อง Nikon, Sony เกือบทุกรุ่นและ Pentax
APS-C : 22.2 x 14.8 มม. ตัวคูณ 1.6 มีในกล้อง Canon เกือบทั้งหมด
Foveon : 20.7 x 13.8 มม. มีในกล้อง Sigma เท่านั้นครับ หลายคนอาจจะงงว่าเคยเห็นแต่เลนส์ของ Sigma แต่ไม่เคยเห็นกล้อง มีครับ แต่มีขายเฉพาะเมืองนอกเท่านั้น
Four Thirds : 17.3 x 13 มม. ตัวคูณ 2.0 มีในกล้อง Olympus และ Panasonic ครับ (ค่ายใครเนี่ย คุ้นๆ)

ตัวคูณ หรือ Crop Factor คือการที่ระยะของเลนส์ฉายแสงไปในเซ็นเซอร์ที่ต่างกัน ก็จะทำให้ขนาดของภาพเปลี่ยนแปลงไป ถ้าขนาดของเซ็นเซอร์เล็กลง ก็จะทำให้ภาพมีขนาดใหญ่กว่าเซ็นเซอร์ และจะไม่ปรากฏบนภาพ ซึ่งทำให้ต้องมีการนำค่าระยะของเลนส์ที่ใช้ถ่ายภาพมาคูณในอัตราส่วนของเซ็นเซอร์แต่ละขนาดกัน เพื่อเปรียบเทียบกับการถ่ายภาพในระดับ Full Frame ว่าจะอยู่ในระดับใด เช่น เลนส์ 35 มม. ของ Nikon ถ้าเอามาใช้กับกล้องที่มีเซ็นเซอร์แบบ APS-C จะเป็น 35 x 1.5 = 52.5 มม. นั่นเองครับ
_________________
ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 กรุงเทพ - เชียงใหม่, สถานีห้างฉัตร, จังหวัดลำปาง

[Air_Reservoir]

ว่าด้วยเรื่องกล้องกันไปพอสังเขป ต่อมาก็จะขอเป็นเรื่องเลนส์บ้างนะครับ โดยพื้นฐานแล้วเราจะแบ่งได้เป็น 3 ลักษณะคือ

1. เลนส์มุมกว้าง หรือเลนส์ Wide นั่นเอง เลนส์แบบนี้สามารถให้ภาพได้มุมกว้าง ปกติมักใช้ถ่ายภาพหมู่หรือภาพทิวทัศน์(Landscape) ครับ
2. เลนส์มาตรฐาน หรือเลนส์ Normal เลนส์แบบนี้มักมีองศาการรับภาพใกล้เคียงกับที่ตามองเห็นมากที่สุด มาตรฐานมักจะอยู่ที่ 50 มม. ครับ
3. เลนส์เทเลโฟโต้ Telephoto บางคนเรียกสั้นๆ ว่า เลนส์ Tele นั่นล่ะครับ เลนส์ชนิดนี้มักจะมีระยะที่ค่อนข้างยาวกว่าเพื่อดึงภาพในระยะไกลให้ดูใกล้ เช่น 100 มม. เป็นต้น

และนอกเหนือจากนั้น จะมีเลนส์แบบอื่นๆ อีกเช่น เลนส์ตาปลา หรือ Fish-eye ที่มีองศาการรับภาพแบบรอบทิศทาง เลนส์มาโคร Macro เป็นเลนส์ที่สามารถถ่ายวัตถุได้ใกล้เป็นพิเศษ และแสดงรายละเอียดของวัตถุได้ดีกว่าเลนส์ทั่วไป เลนส์มุมกว้างพิเศษ Ultra-wide เลนส์ชนิดนี้สามารถรับภาพได้ในมุมที่กว้างมากๆ แต่ข้อเสียคือภาพจะบิดเบี้ยวได้ง่าย และสุดท้ายคือเลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ Super Telephoto เลนส์ชนิดนี้มีทางยาวโฟกัสสูงมาก ตั้งแต่ 300 มม. ขึ้นไป และแน่นอนว่าสนนราคาค่าตัวเลนส์ก็แพงตามไปด้วย แต่ถ้าจะมีใครซื้อให้ผมฟรีๆ ผมก็เอานะ

อ้อ มีเลนส์จำพวกหนึ่ง คือมีระยะเดียว ซูมไม่ได้ พวกนี้จะเรียกว่าเลนส์ฟิกซ์ FIX ครับ

เลนส์เดี๋ยวนี้ในบางตัวจะมีระบบป้องกันการสั่นไหว หรือ Stabilization ซึ่งจะเรียกต่างกันในแต่ละยี่ห้อ เช่น Canon จะเรียกระบบนี้ว่า IS หรือ Image Stabilization ส่วน Nikon จะเรียกว่า VR หรือ Vibration Reduction เป็นต้น (ค่ายอื่นอย่าน้อยใจ ผมขี้เกียจพิมพ์) ซึ่งระบบป้องกันการสั่นไหวมักจะมีในเลนส์จำพวกซูมหรือเลนส์เทเลเป็นส่วนใหญ่ แต่ในบางค่ายอาจจะคิดต่างไป คือแทนที่จะเอาระบบป้องกันการสั่นไหวมาใส่ในเลนส์ ก็เอามาใส่ในกล้องแทนซะเลย เช่น Sony Olympus เป็นต้น
_________________
ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 กรุงเทพ - เชียงใหม่, สถานีห้างฉัตร, จังหวัดลำปาง

[Air_Reservoir]

Memory Card หรือหน่วยความจำ โดยทั่วไปที่ได้รับการยอมรับและใช้กันแพร่หลายที่สุดคือ CF : Compact Flash กับ SD : Secured Digital (ปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็น SDHC : Secured Digital High Capacity ซึ่งมีหน่วยความจำสูงกว่า) ในปัจจุบันเรามักจะเห็นว่ากล้องในระดับล่างถึงกลางมักจะใช้ SD, SDHC กันเป็นส่วนใหญ่ แต่พอเริ่มไประดับบน มักจะเป็น CF กันแล้ว และในบางรุ่นก็สามารถใช้คู่กันได้ด้วย ซึ่งทั้งสองตัวยิ่งมีความจุสูงมาก ราคาก็จะยิ่งแพงตาม แต่นั่นไม่เท่ากับความเร็วในการเก็บข้อมูลและส่งข้อมูลของตัวการ์ด ที่มักจะเป็นตัวแปรราคาที่สูงมากกว่าความจุซะอีก เช่น CF ของค่าย.......ที่มีความเร็วในการส่งข้อมูล x133 กับ x266 ความเร็วยิ่งสูง การเก็บ ส่งข้อมูลก็จะทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แลกกับราคาที่อาจจะทำให้ขนหน้าแข้งร่วงได้ ตอนนี้ความจุของ Memory ไปถึงระดับ 16GB, 32GB กันแล้ว แต่สำหรับบางคนอาจจะใช้วิธีซื้อแค่ Memory 8GB สัก 2 ใบ เผื่อในกรณีที่ใบหนึ่ง Error99 เอ๊ย Error จะได้มีอีกใบหนึ่งสำรองใช้ได้ อันนี้แล้วแต่ทริ๊กแต่ละคน อ้อ สำคัญอย่าลืมดูยี่ห้อด้วยนะครับ แนะว่าซื้อที่ดูน่าเชื่อถือ เพราะพวกนี้นอกจากจะเสถียรแล้ว ยังไม่เสียง่ายๆ ด้วยครับ



Filter ฟิลเตอร์ แน่นอนครับว่าทุกคนที่ซื้อกล้องจะต้องมีกันทุกคน และโดยปกติแล้วมักจะมีกันคนละหลายตัวเสียด้วยสิ และแน่นอนว่าภาพจะดีไม่ดี เจ้านี่แหละที่เป็นด่านหน้าก่อนที่แสงจะถึงเลนส์ บางครั้งของแพงถ้ามันมีคุณภาพก็ต้องยอมจ่าย ดีกว่าซื้อถูกๆ มาแต่ไม่มีคุณภาพมันก็เท่านั้นครับ นอกจากจะไว้กรองแสงแล้ว ยังมีไว้ป้องกันฝุ่น เลนส์ ไม่ให้เข้ามาจับที่หน้าเลนส์ได้ด้วย เอาล่ะ ฟิลเตอร์ส่วนใหญ่ที่เราเห็นโดยทั่วไปก็จะมีดังนี้ครับ(เอาคร่าวๆ ที่ใช้งานบ่อยๆ)

1. ฟิลเตอร์ยูวี UV เป็นฟิลเตอร์ที่สามารถลดแสงสีฟ้า ซึ่งมีรังสีอุลตร้าไวโอเล็ตอยู่ ทำให้ภาพมีสีสันใกล้เคียงกับตาเห็นมากขึ้น

2. ฟิลเตอร์สกายไลท์ Skylight คุณสมบัติจะใกล้เคียงกับฟิลเตอร์ UV สามารถตัดหมอกหรือแดดได้ คุณภาพขึ้นอยู่กับตัวฟิลเตอร์ว่าดีแค่ไหน

3. ฟิลเตอร์ C-PL : Circular Polarized เป็นฟิลเตอร์ที่ช่วยลดแสงสะท้อน และทำให้สีอิ่มตัวยิ่งขึ้น ถ้าถ่ายท้องฟ้าจะทำให้มีสีเข้มขึ้น หรือถ่ายน้ำทะเลจะช่วยตัดแสงสะท้อนออกไปได้ แต่แน่นอนครับว่าการใส่ฟิลเตอร์ชนิดนี้จะทำให้ค่า F กับ Speed Shutter ลดลงไปพอสมควร อาจจะทำให้ภาพดู Under ได้ ในกรณีนี้อาจจะใช้วิธีชดเชยแสงแก้ได้ครับ

4. ฟิลเตอร์ ND : Neutral Density หน้าที่ของมันมีอย่างเดียวคือลดแสงครับ เหมาะกับการถ่ายภาพที่ต้องการ Speed Shutter ต่ำๆ เช่นภาพน้ำตก ส่วนจะลดแสงได้มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับเบอร์ครับ(ฟิลเตอร์ก็มีเบอร์นะ อิอิ) เช่น เบอร์ 2 แสงลดลง 1 สตอป เบอร์ 4 แสงลดลง 2 สตอปครับ

ฟิลเตอร์แต่ละตัวก็จะมีขนาด และระดับราคาที่แตกต่างกันไป ก่อนซื้ออย่าลืมดูว่าเราจะซื้อมาเพื่อใช้งานอะไร ใส่กับเลนส์ที่เรามีได้ไหม และเราสามารถจ่ายได้นะครับ เดี๋ยวหมดตัวมาจะหาว่าไม่เตือน

พักไว้เท่านี้ก่อน เดี๋ยวค่อยมาต่อครับ
_________________
ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 กรุงเทพ - เชียงใหม่, สถานีห้างฉัตร, จังหวัดลำปาง

[beer45]

บอล พี่ขอเสปคตาก้อง คอลเรลแบบละเอียดด้วยซิครับ


เคยชอบกล้องอยู่พักนึง ชอบแอบภรรยาซื้อมาแต่มันเอาเข้าบ้านไม่ค่อยได้ เลยต้องขายต่อให้เพื่อนไป แย่จริงๆ แย่จริงๆ ตอนนี้ก็เล็งไว้หลายรุ่นแต่จะหาวิธีซื้อแบบที่เมียไม่สงสัย ยังหาวิธีไม่เจอเลยครับ ที่สนใจตอนนี้ก้ ดี 90 หลังจากที่ตัดใจขาย ดี 80 ไปแบบน้ำตาร่วงเลย

[pattharachai]

^
^
ของคนข้างบนนี่ น่าจะบอกไปว่าราคาสองพันห้า

[CivilSpice]

โอ้ ..... เป็นกระทู้ที่ได้สาระความรู้เกี่ยวกับกล้องถ่ายรูปดีจริงๆ ขอบคุณที่สละเวลาเรียบเรียงมาให้อ่านกันครับ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยติดตามเรื่องเทคโนโลยีการถ่ายภาพ (และฝีมือไม่เอาไหน) อย่างผมเป็นอย่างยิ่ง

[Adithepc20]

สมาชิกที่ชอบถ่ายรถไฟ ใช้กล้องอยู่หลายค่ายจริงๆ เอาเท่าที่ทราบตอนนี้นะครับ

Nikon - น้องแซม / สารวัตรเอ็ม / น้าแมว / น้องบอล / เจ้าฝุ่น / เจ้าหนึ่ง ( ฉวาง)

Canon - พี่บอมบ์ / ท่านนายกบอย / เจ้าอ๋อง / เจ้าท็อปจีอีเอ / คุณหนึ่งภาสกร / พี่ยู / หมีโดนัท ( 2 คนล่าสุดนี่พึ่งถอยมาได้ไม่นาน )

Panasonic - น้องฟาง / พี่้เต้ย / เจ้าแบงค์

ขอบคุณน้องบอลที่เอาสาระมาฝาก พี่เองไม่ค่อยทราบรายละเอียดอะไรมาก อยู่ในประเภท " ถ่ายอย่างเดียว "
_________________
ฮิตาชิ 4506 ขณะทำขบวนรถสินค้าที่ 879 ออกจากสถานีชุมทางศรีราชา วันที่ 20 เม.ย. 2553 เวลา 16.50 น.

[CENTENNIAL]

ตอนนี้คิดว่าจะปลดระวาง D80 แล้วครับ อาจจะขายให้กับเพื่อนสนิทมิตรสหายในราคาย่อมเยาว์ ไม่หวังผลตอบแทนมากมาย
เพราะตั้งใจว่า จะไปเล่นกล้องวีดีโอแบบ Professional แล้ว เพราะความหลงใหลทั้งภาพและเสียงของรถไฟ

มี SONY HVR-HD1000P เป็นตัวเลือกที่ 1



กับ
Canon EOS 550D + Lens ดีๆ เป็นตัวเลือกที่ 2
เพราะตัวนี้ เป็น DSLR ที่ถ่ายคลิปวีดีโอ ได้แบบเทพๆ เลยทีเดียว



ยังตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกัน เพราะมีข้อดีข้อเสีย แตกต่างกันออกไป แต่ทั้งคู่ Full HD

ส่วนตัวนี้ SONY XDCAM-PMW EX3



ถ้าได้มาครอบครอง ก็คงต้องหาทางไปสร้างวีดีโอภาพรถไฟเพื่อขายกันเลยทีเดียว
ค่าตัวมันใกล้เคียงกับรถยนต์ ECO Car คันนึงแล้วล่ะ

[Compressor]

[tuie]

ถึงช่างภาพพรนรกจะพึงจิตเพียงแค่พลังซูมอันแผ่วเบาจากกล้องปัญญาอ่อนคู่ใจไม่แปรผัน แต่ก็ชอบอ่านเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับกล้องอยู่เหมือนกัน ขอบคุณน้องขุนโกลับคับอุราที่เรียบเรียงเรื่องราวมาฝากกัน

หวังว่าจะมีการแนะนำกล้องปัญญาอ่อน-(สำหรับคนปัญญาดี)รุ่นใหม่ๆบ้าง เผื่อคนเบี้ยน้อย-หอยไม่มี จะได้เตรียมหยอดกระปุกวันละ ๙๙ บาทคร้าบบบ
_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/