RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13265026
ทั้งหมด:13576309
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - กล้อง ใครคิดว่าไม่สำคัญ......!
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

กล้อง ใครคิดว่าไม่สำคัญ......!
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 6, 7, 8 ... 23, 24, 25  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> พักผ่อนหย่อนใจ
View previous topic :: View next topic  
Author Message
pattharachai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย

PostPosted: 03/06/2010 11:19 am    Post subject: Reply with quote

donatt76 wrote:
^
^
เรื่องนี้พิสูจน์แล้ว ในวันที่ไปเยี่ยมบ้านน้าแมว...ยืนถ่ายมุมใกล้ๆกัน ตั้ง ISO กับ Speed เกือบจะเท่าๆกัน....ตอนมีแดด หนอนน้อยแพ้กระจุย แต่พอแดดหลบเท่านั้นแหละ นิกรสีจะออกมืดกว่าขึ้นมาทันที....จริงมั้ยน้าแมว????


ปัญหาฟ้าหลัว แดดไม่มี เมฆมาก สามารถป้องกันและแก้ไขด้วยการถ่ายไฟล์ raw ครับ ซึ่งเราสามารถนำมาปรับแสง ปรับนู่นปรับนี่ได้อีกนิดหน่อยคล้ายกับการปรับจากในกล้อง เช่นการชดเชยแสง การปรับโทนสี เป็นต้น และก็นำมาปรับในโฟโต้ชอปอีกที ใส่คอนทราสต์ ปรับความคม เพิ่มความอิ่มของสี ปรับความบาลานส์ของสี ภาพที่ออกมาจะดูดีขึ้นถนัดตาเลยครับ แม้ว่าแดดจะไม่ออกก็ตาม

ขออนุญาตนำภาพที่ออกอากาศแล้วนำมาออกอากาศซ้ำครับ

ภาพนี้ถ่ายตอนฟ้าหลัว แถมมุมที่จริงย้อนแสงอีกต่างหาก(แต่โชคดีที่แดดไม่ออก) ผมนำมาปรับตามกระบวนการข้างต้น โดยไฟล์ต้นฉบับ เป็นไฟล์ raw ภาพที่ออกมาจึงไม่มืดตามสภาพแดด

(แต่รูปนี้ถ้าเพิ่มคอนทราสต์อีกนิดจะดีกว่านี้ครับ)

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail Visit poster's website
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 31/03/2006
Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก

PostPosted: 04/06/2010 12:31 am    Post subject: Reply with quote

น้าแมว เทพเจ้านิกร wrote:
ก็เลยจัดไป Vivid จนถึง Vivid +1 ครับ สีมันเลยดูสด


นึกว่า Vivid + Filter C-PL ซะอีกนะเนี่ย

พี่บอย เทพเจ้าหนอน wrote:
ภาพนี้ถ่ายตอนฟ้าหลัว


เหมือนพี่จะไม่ถูกโรคกับแสงแดดนะเนี่ย อิอิ

------------------------------

เรื่องต่อไปคือ White Balance สมดุลย์แสงขาว ผมว่าเวลาไปถ่ายรูปเรามักได้ยินคำนี้บ่อยมาก ตอนนี้เรามาทำความคุ้นเคยกันดีกว่าครับ เพราะมันเป็นเรื่องของการพยายามทำสีให้เป็นสี (งงไหม) คือง่ายๆ ก็คือการทำไงก็ได้ให้ถ่ายภาพสีขาวแล้วออกมาเป็นสีขาวจริงๆ ไม่ใช่เพี้ยนสีเหลือง เพี้ยนสีแดง (อย่าคิดเป็นการเมือง เราพูดเรื่องสีของกล้องอยู่ครับ) ที่เป็นอย่างนั้น เพราะในสภาพแสงจริงที่ต่างกัน ก็จะมีสีที่ต่างกันด้วย ถ้าแสงต้นทางมีสีที่ต่างกัน ก็จะทำให้สีที่สะท้อนออกจากวัตถุมีความต่างกันด้วย

เปรียบเทียบกันด้วยรูปน่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่า รูปแรกถ่ายตอน 5 โมงเย็น

Click on the image for full size

รูปที่สองถ่ายตอนบ่าย 2 โมงเศษๆ

Click on the image for full size

จะเห็นได้ว่าในเวลาที่ต่างกัน สภาพแสงก็ออกมาต่างกัน ช่วงเช้าจะออกเหลืองๆ อบอุ่นหน่อย พอสายแดดเริ่มแรง สีเหลืองจะเริ่มหายละ พอตกเย็นก็จะกลับมาส้มๆ เหลืองๆ แดงๆ อีกครั้ง ยังไม่นับแสงไฟในบ้านจำพวกหลอดฟลูออเรสเซนส์ อันรวมไปถึงแสงแฟลช ที่เราต้องใช้ในการถ่ายภาพด้วย ซึ่งสิ่งที่ทำให้แสงมีความต่างกัน เพราะอุณหภูมิของแสงนี่เอง

เพราะอย่างนี้ จึงต้องมีการอ้างอิงอุณหภูมิสีต้นทาง แล้วปรับระบบสีให้เข้ากับอุณหภูมินั้นๆ เพื่อให้สีของภาพออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุดนั่นเอง และวิธีง่ายๆ คือการปรับชดเชยภายใต้อุณหภูมิสีแต่ละแบบนั่นเอง แต่ถ้ายังไม่มั่นใจในฝีมือตัวเองนัก ก็ให้ปรับ WB เป็นแบบอัตโนมัติ หรือ Auto White Balance เพราะถ้าหากว่าปรับพลาด สีที่ออกมาก็จะเพี้ยนไปจนหมด แต่ถ้าอยากถ่ายภาพแบบครีเอทีฟหน่อย เล่นแสงแบบพิสดารนิดๆ ก็ปรับ WB อีกแบบหนึ่ง แล้วไปถ่ายในสภาวะแสงอีกแบบหนึ่ง สีสันก็จะออกมาแปลกตาไปจากธรรมชาติครับ

อุณหภูมิสี Color Temperature มีค่าองศาเป็นเคลวิน Kelvin ครับ ส่วนแต่ละช่วงเวลามีค่าอุณหภูมิสีเท่าไหร่นั้น ดูได้ตามภาพเลยครับ

Click on the image for full size
_________________
ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 กรุงเทพ - เชียงใหม่, สถานีห้างฉัตร, จังหวัดลำปาง
Click on the image for full size


Last edited by Air_Reservoir on 16/06/2010 1:53 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
ExtendeD
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/07/2006
Posts: 9054
Location: สังกัดหน่วยสำรวจสะพาน ตะลอนทั่วราชอาณาจักร

PostPosted: 04/06/2010 9:39 am    Post subject: Reply with quote

ถ้ามีเวลาเสร็จจากเรื่องกล้องแล้ว น้องบอลต่อเรื่อง Photoshop เลยก็ดีครับ เหอะ เหอะ . . . emot144
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
Adithepc20
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 05/07/2006
Posts: 3403
Location: ลาดพร้าว 71 หรือ ชานเมือง 9

PostPosted: 04/06/2010 12:42 pm    Post subject: Reply with quote

สงสัยเด็กช่างกลไม่ยอมสอนพี่เต้ยเรื่องโฟโต็ช้อปละสิครับ Embarassed
_________________
ฮิตาชิ 4506 ขณะทำขบวนรถสินค้าที่ 879 ออกจากสถานีชุมทางศรีราชา วันที่ 20 เม.ย. 2553 เวลา 16.50 น.

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 31/03/2006
Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก

PostPosted: 05/06/2010 1:55 am    Post subject: Reply with quote

พี่เต้ย wrote:
ถ้ามีเวลาเสร็จจากเรื่องกล้องแล้ว น้องบอลต่อเรื่อง Photoshop เลยก็ดีครับ เหอะ เหอะ . . . emot144


เอ่อ ผมไม่ชำนาญด้าน Photoshop ขนาดนั้นหรอกครับ ต้องให้มือฉมังอย่างฟางหรือแซมมี่มาสอนดีกว่า Embarassed

--------------------------------------

Maintenance มาพูดเรื่องการดูแลรักษากล้องกันบ้างดีกว่าครับ มันมีหลากหลายวิธีเลยในการดูแลให้กล้องสุดรักคงสภาพที่สมบูรณ์แบบไว้ได้ (จบจากเรื่องนี้ ก็จะไปถึงการถ่ายภาพในแบบต่างๆ บ้างล่ะครับ) แน่นอนครับว่าการดูแลรักษาอย่างนึงคือการเก็บไว้ในที่ๆ สมควร เช่น เก็บให้พ้นมือเด็ก หลายคนอาจจะงงว่าทำไมต้องเก็บให้พ้นมือเด็ก ประหนึ่งเหมือนเป็นยากำจัดยุงอย่างไงอย่างงั้น เพราะของแบบนี้มีราคาค่อนข้างสูง หากต้องมาพังเพียงเพราะเรื่องแบบนี้ผมว่ามันคงไม่คุ้มกันใช่ไหมครับ เอาล่ะ มันก็ไม่ได้มีประเด็นนี้ประเด็นเดียว มันมีประเด็นอื่นอีกนิดๆ หน่อยๆ แต่ผมคิดว่าคงไม่ยากเกินไปถ้าคิดจะทำ เรามาดูวิธีการกระชับพื้นที่กล้องให้ปลอดภัยกันดีกว่าครับ ว่ามีอะไรบ้าง

- น้ำและความชื้น นี่คือสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ แหงล่ะครับ ลองมีน้ำเข้าไปอยู่ในกล้องเมื่อไหร่ล่ะก็ คงได้เห็นกล้องสุดรักพังไปต่อหน้าต่อตาแน่นอน อ่ะวิธีการป้องกันทำไงดี อัันแรก คือ ซื้อตู้ดูดความชื้น แต่แน่นอนล่ะ ไอ้ตู้นี่ราคามันก็ไม่ได้ถูก แต่ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ ซื้อมาได้เลยครับ ถ้ากลัวว่าจะไม่มีปัญหากับ ผบ.ทบ. (ผู้บัญชาการที่บ้าน) วิธีรองลงไปคือการซื้อกล่องกันชื้นมาสักใบ ขนาดก็แล้วแต่ความต้องการของคนซื้ออ่ะนะ แล้วก็หาซิลิก้าเจล หรือตัวดูดความชื้นใส่เอาไว้สักตัวก็ใช้ได้ครับ ไม่งั้นหากไม่มีตู้หรือกล่องจริงๆ ก็อย่าเอากล้องไปหมกไว้แต่ในกระเป๋ากล้องนะครับ ควรเอามาผึ่งแดดบ้าง หรือใช้งานบ้าง ไม่อย่างนั้นความชื้นต่างๆ จะเข้ามาสะสมทำให้เกิดราหรือฝ้าได้ (ไม่ใช่ฝ้าบนหน้านะครับ)

- ไอเกลือ จากทะเล ปัญหานี้ถือว่าหนักไม่ใช่เล่น และทำให้หลายๆ คนไม่อยากพกกล้องไปทะเลเพราะแบบนี้ล่ะครับ ทำไมน่ะเหรอ เพราะอากาศแถวๆ นั้นจะเต็มไปด้วยไอเกลือทะเล มีอานุภาพในการกัดกร่อนไม่ใช่เล่นนะครับ แต่นั่นหมายถึงในกรณีที่ไปอยู่แถวๆ ชายทะเลหลายๆ วันนะ ถ้าวันสองวันคงไม่ใช่ปัญหานัก วิธีการดูแลหากว่าต้องไปทะเลจริงๆ อย่าถอดเลนส์และการ์ดริมชายหาด ให้ถอดในที่ๆ มิดชิดเช่นในบ้านหรือในรถแทน และในแต่ละวันใช้ผ้าชุบน้ำ บิดให้หมาดสุดๆ แล้วค่อยๆ เช็ดไปตามกล้องก็ช่วยได้ครับ อ้อ ถอดฟิลเตอร์มาเช็ดตามเกลียวด้วยนะครับ

- การดูแลโดยทั่วไป เป็นเรื่องที่ต้องทำเป็นประจำครับ เช่นการใช้ผ้าสะอาดเช็ด แต่ต้องหาผ้าดีๆ หน่อยที่ไม่ใช่ผ้ามีขุยนะครับ อย่างที่ผมเคยแนะนำไปว่าหาซื้อได้ตามร้านกล้อง หรือจะของค่ายก็ได้ และก็พยายามถูเบาๆในลักษณะวนเป็นวงกลมสำหรับเลนส์หรือฟิลเตอร์ สิ่งสำคัญอีกข้อนึงคือฝุ่นครับ (ไม่ใช่น้อง Typhoon นะ) พยายามอย่าให้เกิดฝุ่นบนเซ็นเซอร์นะครับ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีระบบกำจัดฝุ่น แต่มันก็ช่วยได้ในระดับนึงเท่านั้นเอง ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ส่งช่างดีกว่าครับ ผมไม่แนะนำให้ทำเองหากฝีมือไม่โปรนะครับ แทนที่ฝุ่นจะหายดันจะมีหนักกว่าเดิม วิธีดูทำยังไงน่ะเหรอครับว่ามีฝุ่น (ขอบคุณหนังสือ เริ่มต้นกับ DSLR สำหรับทริกดีๆ ครับ) ให้เอากล้องมาถ่ายภาพกระดาษขาวที่เป็นพื้นสว่างใส โดยปรับรูรับแสงให้แคบที่สุด เช่น f/22 แล้วดูภาพที่ได้บนจอคอมพิวเตอร์นะครับ ถ้ามี จะเห็นเป็นเงาวงกลมๆ ปรากฏอยู่ครับ
_________________
ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 กรุงเทพ - เชียงใหม่, สถานีห้างฉัตร, จังหวัดลำปาง
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
ukito
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 07/03/2008
Posts: 1103
Location: ลาดกระบัง,บางน้ำเปรี้ยว

PostPosted: 05/06/2010 11:08 am    Post subject: Reply with quote

เมื่อวานไปเดินถามราคา ฟิวเตอร์ มาครับ

ตอนนี้อยากได้ ฟิวเตอร์ CPL เป็นอย่างมาก แต่ยังงงเรื่องราคา Rolling Eyes

ถูกสุดตอนนี้เห็นจะเป็นยี่ห้อ มารูมิ ราคาก่อนต่อรอง 900 บาท

แต่ยี่ห้ออื่นแพงกว่ามาก เกือบเท่าตัว Shocked
ไม่รู้ว่าถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ คุณภาพต่างกันมากหรือไม่ ครับ
_________________
ทรายเม็ดเล็ก ๆ ถ้ามากพอก็สามารถจมเรือใหญ่ได้ Ukito Yoji
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail Yahoo Messenger
alderwood
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/04/2006
Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา

PostPosted: 05/06/2010 11:28 am    Post subject: Reply with quote

^ CPL คุณภาพตามราคาครับพี่ยู ถ้าของค่ายราคาค่อนข้างสูงครับ อย่างของผมซื้อของ Nikon มาอยู่ที่ 5800 ครับ ถ้าให้แนะนำลองดูของ B&W ก็จะมีหลายเกรดเลย ถ้าถูกสุดก็ราวๆ 2 พันกว่าๆจนถึง 6 พันกว่าๆเลยครับ
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website MSN Messenger
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 31/03/2006
Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก

PostPosted: 06/06/2010 2:30 am    Post subject: Reply with quote

มาว่ากันถึงเรื่องการถ่ายภาพในแบบต่างๆ บ้างดีกว่าครับ เริ่มแรกต้องว่ากันด้วยเรื่องที่หลายๆ คนสนใจ โดยเฉพาะเวลาไปเดินตามงานต่างๆ ที่มีพริตตี้สวยๆ มาเป็นแบบ ใช่แล้วครับ ผมกำลังจะพูดถึงการถ่ายภาพ Portrait หรืองานถ่ายภาพบุคคลนั่นเอง และการถ่ายแบบนี้ สามารถทำให้คนหน้าตาไม่ดีก็สามารถมีหน้าตาที่ดีได้ (ขนาดนั้นเลย ?) แต่ถ้าหากเอาไปถ่าย ส.แขวงแล้วออกมาไม่ดี อันนี้ก็อาจมีรายการเคลียร์นอกรอบกันได้นะครับ Embarassed

มาดูอุปกรณ์ที่ส่วนใหญ่มักจะมีกันสำหรับเวลาถ่ายรูปบุคคล อย่างแรกคือเลนส์ฟิกซ์ 50 มม. หรือ 85 มม. เพราะเลนส์พวกนี้ให้คุณภาพของภาพที่ถือว่าดีเลย และมันมีรูรับแสงที่กว้างมาก ทำให้หลังละลายได้ใจกันไปข้าง (แต่บางคนก็ชอบใช้พวก 16 - 85 มม. ของนิกร หรือ 17 - 85 มม. ของหนอนนะ ก็ถือว่าครอบคลุมดีกว่าเลนส์คิท 18 - 55 มม. แน่นอน จริงๆ มันก็ใช้ได้ล่ะครับ แต่ที่แนะนำคือที่คนส่วนใหญ่ชอบใช้กัน) ในบางสถานการณ์แฟลชก็จำเป็น แต่ที่ผมพูดถึงคือแฟลชนอกนะครับ (ผมยังไม่ได้แนะนำเรื่องแฟลชไปในตอนแรก เพราะผมเองไม่ค่อยชำนาญการใช้งานนัก แต่อย่างไรจะหาข้อมูลมาเขียนโดยไวครับ) บางคนอาจจะหาแฟลชมาช่วยเสริมในเรื่องแสงเรื่องเงา อาจจะมีอุปกรณ์เสริมเช่น Softbox สวมครอบหน้าแฟลช เพื่อให้แสงดูนุ่มลง หรือใช้วิธีที่เรียกว่า "Bounce" เพื่อให้กระทบอย่างอื่นก่อนเช่น ผนัง เพดาน แล้วค่อยกระจายแสงลงมาก็มี

บางคนอาจจะมีอุปกรณ์อย่างอื่นอีกเช่น Reflector หรือ แผ่นสะท้อนแสง เอาไว้สำหรับสะท้อนแสงเข้าสู่ตัวแบบเพื่อให้เปิดเงาสว่างขึ้น (แต่ผมว่าถ้าไปถ่ายคนเดียว คงไม่มีใครมานั่งแบกไป ถ่ายไปแน่ๆ สมควรมีผู้ช่วยอย่างที่สุด) อีกอย่างที่ผมไม่เคยพูดถึงก็คือ Filter Soft เพราะเป็นฟิลเตอร์เฉพาะที่ทำให้ภาพดูเป็นฟุ้งๆ ข้อดีอย่างนึงคือทำให้ภาพดูขาวเนียนกระจ่างใส เพียงแต่อะไรๆ มันจะดูนุ่มไปหมดเท่านั้นเองครับ

ช่วงตัวของแบบก็สำคัญ เพราะหลายๆ คนก็มักจะพลาดตรงนี้ ช่วงข้อต่อทั้งหลาย เช่น ข้อศอก หัวไหล่ หัวเข่า ศีรษะขาดไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ถ้าจะมีก็มีไปเลย หรือถ้าไม่มีก็ต้องไม่มีไปเลย ส่วนช่วงที่ชอบถ่ายกันบ่อยๆ มีใบหน้าเต็มเฟรม ครึ่งตัวต่ำกว่าหัวไหล่ ครึ่งตัวถึงเอว และเต็มตัว ส่วนการจะสร้างสรรค์ท่าทาง ผมว่าก็คงแล้วแต่บุคคลล่ะครับ ว่าจะครีเอทให้ท่าออกมาในลักษณะไหน เพราะคงไม่มีใครอยากได้รูปแบบถ่ายบัตรประชาชนแน่ แต่ทั้งหลายทั้งปวงขอแค่อย่าเกร็งกับแบบที่เราจะถ่ายก็พอ แค่นั้นเราก็น่าจะได้รูป Portrait สวยๆ ตามที่เราต้องการแล้วล่ะครับ
_________________
ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 กรุงเทพ - เชียงใหม่, สถานีห้างฉัตร, จังหวัดลำปาง
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
Gunnersaurus
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/03/2006
Posts: 1574
Location: เมืองช้าง

PostPosted: 06/06/2010 9:07 am    Post subject: Reply with quote

ukito wrote:
เมื่อวานไปเดินถามราคา ฟิวเตอร์ มาครับ

ตอนนี้อยากได้ ฟิวเตอร์ CPL เป็นอย่างมาก แต่ยังงงเรื่องราคา Rolling Eyes

ถูกสุดตอนนี้เห็นจะเป็นยี่ห้อ มารูมิ ราคาก่อนต่อรอง 900 บาท

แต่ยี่ห้ออื่นแพงกว่ามาก เกือบเท่าตัว Shocked
ไม่รู้ว่าถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ คุณภาพต่างกันมากหรือไม่ ครับ


ถ้าอยากเปรียบเทียบศึกษาตามนี้เลยครับ

ขออนุญาตฝากภาพทดลอง เปรียบเทียบฟิลเตอร์ขวานหน้าฟ้าดำ C-PL 5 ยี่ห้อ

ขอบคุณคุณ Joel** จากเว็บ pantip.com
Back to top
View user's profile Send private message
Air_Reservoir
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 31/03/2006
Posts: 2338
Location: บึงกุ่ม, สุไหงโก-ลก

PostPosted: 07/06/2010 12:45 am    Post subject: Reply with quote

Click on the image for full size

มาที่เรื่องต่อไปครับ ผมว่าหลายคนในที่นี้คงชอบแน่นอน เพราะนั่นหมายถึงเราได้ถ่ายสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา นั่นคือภาพทิวทัศน์ หรือที่เรียกว่า Landscape นั่นเอง มือรางวัลหลายๆ คนชอบที่จะถ่ายทอดภาพแบบนี้สู่สายตาเป็นประจำ เพราะสามารถบอกเล่าเรื่องราว หรือสิ่งต่างๆ เพื่อให้เกิดความสนใจจนอยากเข้าไปอยู่ยังที่แห่งนั้นได้ ซึ่งนี่แหละคือเสน่ห์ของภาพทิวทัศน์ล่ะครับ

การถ่ายภาพแบบนี้ หลายๆ คนชอบมีเลนส์มุมกว้าง หรือกว้างมากติดตัวไว้สำหรับภาพแบบนี้ เช่นจำพวก 10 - 22 มม. อะไรแบบนี้ แต่เลนส์คิดที่ติดกล้องมาก็ใช้ได้ครับ เว้นแต่จะอยากได้กว้างมากกว่านี้ก็อีกเรื่องนึง ข้อดีของเลนส์แบบนี้คือเก็บภาพและบรรยากาศได้แบบครบถ้วนซึ่งเหมาะกับการถ่ายภาพทิวทัศน์เป็นอย่างยิ่ง ต่อมาคือ Filter C-PL หรือ Filter ND เอาไว้ลดปริมาณแสง และช่วยให้ภาพมีสีสันสดใสขึ้น โดยเฉพาะ C-PL จะช่วยในการตัดแสงสะท้อนจากผิวน้ำได้ด้วยครับ อีกอย่างที่ควรจะต้องมีสำหรับภาพแนวนี้คือขาตั้งกล้องกับสายลั่นชัตเตอร์ เพราะบางคนอาจจะอยากถ่ายน้ำตก ถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดิน แต่ถ้าไม่คิดจะถ่ายภาพแนวนี้ ก็ลืมของพวกนี้ได้เหมือนกันครับ

การปรับตั้งกล้อง ไม่ควรใช้ค่า ISO สูงมากนัก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการเกิด Noise บนภาพ อาจจะใช้การปรับตั้งค่า White Balance ในการเล่นกับภาพก็ได้ เช่นใช้แสงในอุณหภูมิสูงๆ เวลาถ่ายภาพพระอาทิตย์ตก แต่ของแบบนี้ก็อยู่ที่ความชอบของใครของมันนะครับ ส่วนข้อควรระวังก็คือเรื่อง "เส้นขอบฟ้า" อย่าให้เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ยิ่งเส้นขอบฟ้าขนานกับกรอบภาพได้ก็ยิ่งดีครับ
_________________
ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 กรุงเทพ - เชียงใหม่, สถานีห้างฉัตร, จังหวัดลำปาง
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> พักผ่อนหย่อนใจ All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 6, 7, 8 ... 23, 24, 25  Next
Page 7 of 25

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©