View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
digimontamer
3rd Class Pass (Air)
Joined: 12/05/2009 Posts: 487
|
Posted: 05/07/2010 11:30 am Post subject: |
|
|
ถ้าเทียบค่าโดยสารทางเลือกในแบบที่ประหยัดที่สุด ระหว่างรถไฟกับรถทัวร์นั้น รถไฟก็ยังชนะเหมือนเดิมครับ
สมมติผมทำงานอยู่เชียงใหม่ แต่บ้านอยู่ชะอวด พอดีที่บ้านเกิดมีเรื่องต้องเดินทางกลับไปจัดการ
หากผมเหลือเงินอยู่ 500 บาท ก็เพียงพอจะเดินทางจากเชียงใหม่ไปชะอวดได้ แต่หากไปนั่งรถทัวร์นี่ 500 บาท นั่งมาลงได้แค่แยกอินทร์บุรีเองกระมัง หุหุ |
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 05/07/2010 4:16 pm Post subject: |
|
|
^
^
อย่าเอารถไฟชั้น 3 ไปเียบกับรถ บขส.ป.2 สิครับ....แค่เรื่องเครื่องปรับอากาศ ก็ต่างกันแล้ว ยิ่งเดี๋ยวนี้มี ม.4ค.เข้าไปอีก....แทบจะไม่ต่างจาก รถปรับอากาศชั้น 1 เท่าไหร่นักเลย (แถมของบางเจ้า ยังนั่งสบายกว่า VIP 32 ซะอีก)
เรื่องความเร็วที่เยอรมนีก็จำกัดความเร็วบน Autobahn นะครับไม่ใช่ให้วิ่งได้อย่างเสรี แต่เค้าจำกัดความเร็วที่ 150 km/h ซึ่งผมบอกเลยว่าไม่สามารถใช้กับบ้านเราได้เลย บ้านเรา 120 ก็มากไปด้วยซ้ำ เหตุผมทีสำคัญคือ "ทางตัด" ทีขยันสร้างกันออกจากซอยตรงเข้าส่Highway สายหลัก...ยกตัวอย่างง่ายๆ ถนนสายเอเซียอยุธยา - นครสวรรค์ มีทางตัดที่ป็นซอยอยู่ด้านละกี่แห่งครับ? นับไม่ถ้วน แถมบางตอนมีไฟแดงมาโผล่อยู่บนสายเอเซียซะอีก...ทั้งที่ถนน Highway เส้นหลักมันควรจะเป็นระบบปิดแบบ Moterway ที่ไม่มีรถเล็กเป็นแมลงวี่แมลงวันสำหรับรถใหญ่ๆ
ที่สำคัญ Highway ประเทศไทยยานพาหนะที่มีล้อทุกชนิดสามารถใช้ทางได้....ตั้งแต่แทรนเลอร์ 18 ล้อ ไปจนถึงรถเข็นกับข้าว (ถ้ารถม้ายังมีอยู่คงขึ้นมาใช้ด้วยล่ะครับ)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
เข้าเรื่องว่า รถบัสกับ รถไฟ ผมก็มองว่าถ้าจะวัดกันจริงๆ รถไฟไม่จำเป็นต้องทำความเร็วเหนือกว่ารถทัวร์แต่อย่างใด....แต่สิ่งที่ต้องทำให้ได้คือ
1. ความตรงต่อเวลา....อันนี้ต้องยอมรับว่ารถไฟไทยเราขาดมากๆ ก่อนอื่นเลิกมองว่า Delay 10 นาทีแปลว่าตรงเวลาก่อนนะครับ....แต่ต้องมองว่าดีเลย์ 1 วินาที ก็ถือว่าคุณผิดเวลาแล้ว....ถ้าทำให้ตรงเวลาได้ รถไฟจะดึงผู้คนได้อีกเยอะครับ เพราะคนส่วนหนึ่งต้องการเดินทางตามกำหนดเวลาที่แน่นอน (ถึง 9 โมง ต้อง 9 โมง ไม่ใช่ 9.10 น.)
ข้อนี้ยิ่งขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงชั่วโมงเร่งด่วน รถไฟยิ่งเป็นต่อ เพราะจากรังสิต รถบัสจะไปติดที่ไหนไม่รู้ แต่รถไฟต้องวิ่งฉิวเข้าเมือง
2. ความถี่....ถ้าทำตรงเวลาได้ อย่างต่อมาคือ ระยะความถี่ของขบวนรถ....ต้องเริ่มหาศูนย์กลางอื่นที่ไม่ใช่กรุงเทพฯแล้วล่ะครับ เพราะลำพังจะหวังให้ทุกขบวนรวมศูนย์จากกรุงเทพฯ คงไม่ไหว แต่ละภูมิภาคต้องมีศูนย์กลางใหญ่แบบที่ บขส.มี สายเหนือ นครสวรรค์ เชียงใหม่ สายตะวันออกเฉียงเหนือ มีนคราราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี สายใต้มี ชุมพร ทุ่งสง หาดใหญ่....จากนั้นก็มีรถท้องถิ่นกระจายออกจากแต่ละศูรย์ รัศมีประมาณ 2-3 ชั่วโมงทำการ (ผมเชื่ว่าดีเซลราง Sprinter หรือ Daewoo แค่ จากจุดละ 2-3 ชุด สามารถทำให้มีขบวนรถออกได้ทุก 1-2 ชั่วโมงนะครับ)
3. ความสะดวกสบาย....ถ้าคิดจะแข่งกับรถโดยสาร ซึ่งปัจจุบันเป็นปรับอากาศแทบทุกสาย ก็ต้องเอารถปรับอากาศไปวิ่งแข่งกับเค้า ไม่ใช่ส่งชั้น 3 ไปแข่งนะครับ (จะเอา NKF มาติดแอร์ หุ้มเบาะใหม่ก็ได้นะครับ)...ถ้าเน้นว่ารถวิ่งอย่างมาก 2 ชั่วโมง เบาะแบบชั้น 3 นุ่มๆของ รถ JR West ก็พอแล้วครับ
4. ราคา....อัตราพิเศษนี่แหละครับ คือ คำตอบที่ดีที่สุด แต่ควรเป็นอัตราพิเศษแบบระบุที่นั่ง ถ้าว่างถึงจะได้ไป ถ้าเต็มก็อดไป ระยะทางใกล้ๆ ให้จองล่วงหน้าแค่ 5-7 วันก่อนเดินทางก็พอครับ จะได้ไม่ไปตัดที่ของผู้ที่ต้องการเดินทางยาวๆ (เพราะถ้าเค้าไม่ด่วนจริงๆ เค้ามีเวลาวางแผนตั้ง 60 วัน)...แต่ปัจจุบันทีสู้ไม่ได้ เพราะค่าธรรมเนียมสารพัดอย่างนี่แหละครับ กำหนดอัตราตายตัวแบบนี้แหละดีที่สุด....ส่วนเรื่องอาหารน่ะ 3 มื้อ 50 บาทเนี่ย มันจะห่วยขนาดไหนหนอ สู้ทำเมนูให้มันดูดีแล้วขายน่าจะเวิร์คกว่า (อย่างบอกนะว่าทำไม่ได้ บนเครื่องบินเค้ายังโหลดไปขายได้เลย....เอาแบบอุ่นไมโครเวฟนี่แหละ)
ส่วนเรื่องปลีกย่อยอื่นๆ เช่น ความสะอาด รอยยิ้มของพนักงาน...อันนี้ยังไงก็ต้องมีอยู่แล้วล่ะครับ
ส่วนรถชั้น 3 ควรมีต่อไปมั้ย...คำตอบคือ ควรครับ อย่างน้อยก็เป็นบริการสังคม (แต่ไม่ใช่ฟรีนะครับ ต้องเก็บเงินบ้าง จะมากน้อยก็ต้องเก็บ)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ต่ออีกหน่อย....ถ้าคิดจะหารายได้สายเหนือเพิ่ม ก็น่าจะพิจารณารถนอนของขบวน 51 ด้วยนะครับ เพราะออกจากเด่นชัยไปก็หายไปครึ่งตู้แล้วล่ะครับ...ถ้าเก็บอัตราพิเศษได้ ก็น่าจะดีครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
digimontamer
3rd Class Pass (Air)
Joined: 12/05/2009 Posts: 487
|
Posted: 05/07/2010 5:10 pm Post subject: |
|
|
เห็นด้วยเลยครับ ถ้า ข.51 มีอัตราพิเศษช่วง เด่นชัย-เชียงใหม่ ด้วยก็จะดีมากๆ เพราะจะรอ ข.407 ตามมานี่ก็เอาเวลาแน่นอนไม่ได้ บางวันก็มาไม่ช้าเท่าไหร่ บางวันรอจนเที่ยง ข.407 พี่จะวิ่งมา |
|
Back to top |
|
|
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/06/2007 Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต
|
Posted: 05/07/2010 6:50 pm Post subject: |
|
|
เท่าที่ดูระบบติดตามเกือบทุกวัน ข.407 ถึงเชียงใหม่จะไม่คอยเสียเวลานะครับ แต่ ข.408 ช่วงเดือนที่ผ่านมากว่าจะถึงนครสวรรค์
เรียกว่าวิ่งตามเวลา 1 วันเสียเวลา 3 วันนะปัจจัยที่ทำให้ ข.408 กว่าก็ เพราะ ข.109 เสียเวลามาทำให้ ข.102 ตั้งขบวนออกเชียงใหม่+ช้าเพิ่มไปอีกเมือออกไปแล้ว
บางที่รถจักรมีปัญหาอีก ข. 408 ก็วิ่งจ่อตูดไปเรื่อยกว่าถึงนครสวรรค์บางวันสามทุ่มกว่าเกือบสี่ทุ่มก็มี..... _________________ +++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ................... |
|
Back to top |
|
|
therock
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/09/2007 Posts: 1575
Location: อดีตเด็กมหาชัย
|
Posted: 05/07/2010 7:05 pm Post subject: |
|
|
อีกอย่างที่ทำให้ 408 ช้าตามคือสถานีเชียงใหม่กัก 102 เอาไว้ไม่ยอมปล่อยออกมาก่อนทั้งที่จัดชุดรถพร้อมออกแล้ว โดยให้รถที่จะเข้าเชียงใหม่รอ สารภี ก็ได้ นี่กักไว้ที่เชียงใหม่แล้วทำให้กว่าจะออกจากเชียงใหม่ได้ 7โมงกว่า แล้วกว่าจะถึงลำปางจากที่เคยเจอมาเกือบ11 โมงเข้าไปแล้วนะครับ |
|
Back to top |
|
|
|