View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 20/01/2015 11:21 pm Post subject: |
|
|
สนข.เผยรถไฟทางคู่เส้น กทม.-โคราช ทำง่ายสุด คาดศึกษาเสร็จสิ้นปี58
โดย ทีมข่าวภูมิภาค
ไทยรัฐ
20 มกราคม พ.ศ. 2558 18:46
รองผู้ว่าฯนครราชสีมา เป็นประธานประชุมรับฟังความคิดเห็นรถไฟทางคู่ครั้งที่ 1 รอง ผอ.สนข. ระบุการดำเนินการช่วงที่ง่ายที่สุดเร็วที่สุด คือ จากกรุงเทพฯ-นครราชสีมา และต่อเนื่องเส้นไปหนองคาย โดยคาดว่าการศึกษาเสร็จสิ้นปี 2558...
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2558 ที่ห้องสีมาธานี 1 โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายบุญยืน คำหงส์ รอง ผวจ.นครราชสีมา ตัวแทนนายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 โครงการรถไฟทางคู่ขนาดทางมาตรฐาน (StandardGauge) เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูงในอนาคต (ภายใต้โครงการศึกษาและออกแบบรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-หนองคาย) ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย โดยมีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) นำเสนอรายละเอียดของโครงการ การกำหนดขอบเขตการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการและกิจกรรมการมีส่วนร่วมของประชาชน พร้อมกับการรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะและตอบข้อซักถาม โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องผู้บริหารสถาบันศึกษา ผู้นำ/ประธานชุมชน ผู้นำหมู่บ้าน ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ พ่อค้านักธุรกิจ ประธานหอการค้า ประธานสภาอุตสาหกรรม ผู้บริหารโรงงานอุตสาหกรรม ผู้นำ อปท.และพี่น้องประชาชนทั่วไปรวมกว่า 500 คน เข้ารับฟังด้วยความสนใจ
โครงการรถไฟทางคู่ขนาดทางมาตรฐาน (Standard Gauge) เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูงในอนาคตช่วง นครราชสีมา-หนองคาย ภายใต้โครงการศึกษาและออกแบบรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย มีระยะทางรวม 355 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางมาบตาพุด-นครราชสีมา-หนองคาย แนวเส้นทางรถไฟวิ่งผ่านพื้นที่ 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคายจุดเริ่มต้นโครงการบริเวณสถานีรถไฟนครราชสีมา และสิ้นสุดโครงการที่บริเวณสถานีรถไฟหนองคาย โดยกำหนดเกณฑ์ออกแบบเบื้องต้นให้เป็นแนวเสนทาง ขนานไปกับเส้นทางรถไฟในปัจจุบันก่อสร้างเป็นอิสระอยู่ภายในเขตทางรถไฟเดิม เพื่อลดผลกระทบด้านการเวนคืนที่ดิน และสามารถรองรับรถไฟความเร็วสูงต่อไปในอนาคต โดยในอนาคตเส้นทางรถไฟสายนี้จะเชื่อมต่อกับรถไฟความเร็วสูงสายคุนหมิง-ลาว ที่เมืองเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เชื่อมต่อไปยังเมืองคุนหมิงสาธารณรัฐประชาชนจีน ช่วยพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าและการเดินทางของพี่น้องประชาชนทั้งในระดับประเทศ และระดับภูมิภาคอาเซียนได้เป็นอย่างดี
รอง ผอ.สนข.กล่าวว่า โครงการนี้ต่อเนื่องโดยปีที่แล้ว สนข.ศึกษาจากกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ทำเสร็จแล้ว และตอนนี้กำลังเตรียมส่งเรื่องให้กับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เนื่องจากกฎหมายบังคับว่า โครงการขนส่งขนาดใหญ่จะต้องผ่านสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อให้เขาเห็นว่า เราจะทำโครงการนี้มีการป้องกันในเรื่องของผลกระทบต่อประชาชน ผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการก่อสร้างมากน้อยเพียงใด และจนมาต่อเนื่องที่ศึกษาจาก นครราชสีมา-หนองคาย โดยผ่าน จ.ขอนแก่น-อุดรธานี การศึกษาโครงการนี้เพิ่งเริ่มต้น ซึ่งวันนี้เรามานำเสนอโครงการว่าเนื้อหา สาระของการศึกษาจะทำอะไรบ้างโดยหลักจะเป็นเรื่องความเหมาะสมของโครงการ
1.เรื่องเศรษฐกิจการลงทุนที่จะใช้เงินเท่าไร และมีความคุ้มค่าหรือไม่
2.เรื่องทางวิศวกรรมว่าแนวเส้นทางที่เราศึกษามีความเหมาะสมทางวิศวกรรม อย่างไรบ้าง ซึ่งจะต้องสร้างสะพานข้ามทางแยกทางตัด และเข้ามาในเมืองต้องทำสะพานอย่างไรบ้าง,
3.เรื่องสิ่งแวดล้อมว่าได้รับผลกระทบหรือมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร บ้าง และ
4.รวมทั้งเรื่องการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่อยู่ตามแนวสายทางรถไฟโดย เส้นทางรถไฟจากนครราชสีมา-หนองคายยึดแนวทางรถไฟเดิม
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในหลักการจะใช้แนวทางรถไฟเดิม และปัญหาเรื่องการเวนคืนเป็นปัญหาใหญ่ ดังนั้นจะใช้แนวเขตทางของการรถไฟ โดยแนวเขตทางทั่วประเทศเรื่องความกว้าง ถ้าเราดูตามสภาพพื้นที่มีความเพียงพออยู่แล้ว และจะใช้สถานีเดิมที่มีพื้นที่อยู่แล้วในการพัฒนาปรับปรุงเป็นสถานีใหม่ แต่การเวนคืนก็คงจะมีบ้างเพราะว่าเวลาเราเพิ่มความเร็วของรถไฟสูงขึ้นก็จำเป็นจะต้องรัศมีความโค้งกว้างขึ้นซึ่งจะหักศอกไม่ได้ ฉะนั้นอาจจะมีพื้นที่บางส่วนต้องเวนคืนแต่จะให้เวนคืนให้น้อยที่สุด ส่วนจะใช้งบประมาณวงเงินเท่าไหร่นั้นตอนนี้ยังไม่ได้คิดออกมาเป็นเงิน เพราะต้องออกแบบรายละเอียดให้เสร็จก่อน แต่คิดว่าในวงเงินเป็นแสนล้านบาท การว่าจ้างศึกษาประมาณ 190 ล้านบาท อาจจะดูแพงเพราะเราออกแบบไว้เพื่อเอามาใช้งาน
รอง ผอ.สนข.กล่าวอีกว่า กรอบระยะเวลานี้เป็นเวทีแรกและจากนี้จะไป จ.ขอนแก่น และวันต่อไป จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย สุดท้ายฉะนั้นรอบแรกจะเป็นเรื่องของการประชาสัมพันธ์โครงการให้ ประชาชนเห็นว่ากระทรวงคมนาคมกำลังจะทำอะไร และประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นคืออะไร รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อห่วงใยของประชาชนที่มีต่อโครงการอย่างไรบ้าง และหลังจากรับฟังครั้งนี้แล้วเราก็ต้องมาอีกรอบ เพื่อที่ทางที่ปรึกษาโครงการจะรู้ว่าประชาชนกลุ่มใดบ้างที่รับผลกระทบมาก น้อยเพียงใดโดยจะมีการลงกลุ่มย่อยไปพบปะกลุ่มย่อยรับฟังมาแล้วนำเสนอรายละเอียดเป็นกลุ่มๆ และจะมีการประชุมใหญ่ครั้งที่ 2 เพื่อมานำเสนออีกครั้งว่าสิ่งที่ที่ปรึกษาได้ไปรวบรวมมานั้นครบถ้วนถูกต้องหรือยัง และนำมาเสนอรูปแบบของการออกแบบว่าสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและเป็น ไปตามหลักวิชาการหรือไม่
นายชัยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ การศึกษานี้จะเสร็จประมาณปลายปี 2558 นี้ เป็นเส้นทางที่รัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนได้คุยกันในการพัฒนาด้วยกันโดยแนว ที่รัฐบาลได้คุยคือจากกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย และจากชุมทางแก่งคอย-มาบตาพุด ส่วนตัวเลขวงเงินกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ก็เป็นหมื่นล้านบาทโดยการลงทุนมี 2 ส่วน ส่วนแรกตัวโครงสร้างพื้นฐานตั้งแต่การทำพื้นฐานและวางระบบราง รวมทั้งอาณัติสัญญาณ ระบบไฟฟ้า อีกส่วนตัวรถกับการบริหารจัดการเดินรถเป็นเรื่องที่เรายังไม่เคยมีมาก่อน ฉะนั้นเราไม่รู้ว่าตัวนี้มูลค่าจริงๆ เท่าไหร่ โดยต้องคุยกับทางจีนเขาส่วนรางรถไฟระบบใหม่เป็น 1.435 แต่รถไฟใหม่ของเดิมก็ยังใช้อยู่คือ 1 เมตร ฉะนั้นการดำเนินการช่วงที่ง่ายที่สุดเร็วที่สุด คือ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ส่วนจาก นครราชสีมา-หนองคาย อยู่ระหว่างการศึกษา. |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 21/01/2015 4:42 pm Post subject: |
|
|
เริ่มแล้ว! ถกรถไฟทางคู่ไทย-จีน เห็นชอบกรอบเริ่มงาน มี.ค.นี้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 มกราคม 2558 14:37 น.
ไทย-จีนเริ่มหารือความร่วมมือครั้งที่ 1 พัฒนารถไฟทางคู่ กรุงเทพฯ-แก่งคอย-โคราช-หนองคาย ประจิน เผยจีนรับข้อเสนอแบ่งงานก่อสร้าง 4 ช่วง พร้อมส่งทีมงานผู้เชี่ยวชาญจาก CRC ลงพื้นที่สำรวจ ออกแบบประมาณการลงทุนใน มี.ค.นี้ เร่งก่อสร้างเสร็จใน 2.5 ปี
วันนี้ (21 ม.ค.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายหู จู่ฉาย รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ร่วมเป็นประธานการประชุมร่วมไทย-จีน ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-22 มกราคมนี้ ที่กระทรวงคมนาคม เพื่อร่วมมือด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทยในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 หลังได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2557
โดย พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า การหารือในครั้งนี้เพื่อกำหนดกรอบตารางการทำงาน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถดำเนินงานร่วมกันทั้งในการวางแผน อำนวยการและลงพื้นที่ปฏิบัติการ สำรวจและออกแบบการประมาณการด้านราคาของโครงการ รวมถึงการกำหนดรูปแบบการลงทุนร่วมกันจะนำไปสู่การก่อสร้างทางในกรอบเวลาที่กำหนด สำหรับโครงการดังกล่าวมีความสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย เกิดการจ้างงาน มีรายได้ในการจัดเก็บภาษี ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงด้านการคมนาคมจีนกับอาเซียน อำนวยความสะดวกด้านการค้า การท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้แจ้งถึงแผนงานเพื่อให้ทางจีนพิจารณาและให้ความเห็นชอบร่วมกัน โดยไทยได้ตั้งสำนักงานบริหารโครงการภายใต้เอ็มโอยูไทย-จีน (สบร.) โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นหัวหน้าสำนักงาน ทำหน้าที่ประสานงาน ส่วนการปฏิบัติงานนั้นมีคณะทำงาน 2 ชุด โดยเป็นคณะอนุกรรมการที่มีกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ทำงานร่วมกับ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ คอร์ปอเรชั่น (CRC) ของฝ่ายจีน และอีกคณะจะเป็นอนุกรรมการด้านการเงินและรูปแบบการลงทุน มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ทั้งนี้ ไทยและจีน เคยมีการศึกษาร่วมกันมาแล้วตั้งแต่ปี 2553 และมีการปรับข้อมูลครั้งล่าสุดเมื่อปี 2557 จึงมั่นใจว่าทั้งสองฝ่ายมีข้อมูลในความร่วมมือนี้มากกว่า 50% แล้ว
ส่วนการก่อสร้างจะแบ่งเป็น 4 ช่วง โดย
ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-แก่งคอย ระยะทาง 133 กม. ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบ จึงมีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและประชาชนน้อยที่สุด
ช่วงที่ 2 แก่งคอย-มาบตาพุด ระยะทาง 246.5 กม. แนวเส้นทางจะยากขึ้น เนื่องจากผ่านพื้นที่อุทยานและต้องเวนคืนที่ดิน แต่เชื่อว่าการสำรวจออกแบบและประมาณราคารวมถึงการกำหนดรูปแบบ ช่วงที่1, 2 จะเสร็จตามเผน คือ เริ่มออกแบบเดือนมีนาคม 2558 สรุปในกันยายน 2558 เริ่มก่อสร้างและแล้วเสร็จเปิดเดินรถได้ในเดือนมีนาคม 2561
ช่วงที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 138.5 กม. และ
ช่วงที่ 4 นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กม. แม้เส้นทางจะยากมากขึ้นแต่เชื่อว่าทาง CRC ของจีนจะดำเนินการได้ตามแผน โดยฝ่ายไทยจะจัดเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมือเพื่อสนับสนุนการทำงานของจีนอย่างเต็มขีดความสามารถ
โดยคาดว่าจะจัดทีมสำรวจออกแบบ 2 ชุด เพื่อเร่งรัดงานได้ตามกรอบเวลา โดยในวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์นี้จะมีการประชุมร่วมครั้งที่ 2 เพื่อตกลงรูปแบบการลงทุนต่อไป
โดยผลการหารือครั้งแรกได้ข้อสรุป
1. ทางจีนเข้าใจแผนและกรอบเวลาของไทย เบื้องต้นเข้าใจตรงกัน ตั้งแต่ความเป็นมาของความร่วมมือสองฝ่าย การทำเอ็มโอยู และการตั้งคณะทำงาน \
2. มีการแลกเปลี่ยนแนวคิดการบริหารโครงการในระดับนโยบาย ระดับปฏิบัติ และด้านการเงิน ซึ่งจะทำกรอบตารางการทำงานร่วมกัน
3. เห็นชอบร่วมกันในการแบ่งงานเป็น 4 ช่วง เพื่อก่อสร้างโครงการได้รวดเร็วเป็นไปตามแผนงาน
4. ทางจีนยินดีในการจัดคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญจาก CRC เข้ามาลงมือสำรวจและออกแบบทันที โดยไทยจัดเจ้าหน้าที่ให้การสนับสนุนการสำรวจ
อย่างไรก็ตาม ทางนายหู จู่ฉาย รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระบุว่า แผนงานก่อสร้างโดยแบ่งเป็น 4 ช่วงเพื่อเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายใน 2.5 ปีนั้นมีความเป็นไปได้ ซึ่งต้องอยู่ที่การศึกษาสำรวจออกแบบที่จะต้องแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2558 ด้วย และถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของความร่วมมือ โดยหน่วยงานและบริษัทของจีนจะให้ความร่วมมือกับไทยอย่างทุ่มเท เพราะทราบดีว่ามีเวลาจำกัด ซึ่งจีนจะส่งผู้เชี่ยวชาญและทีมสำรวจทำงานทันทีตามข้อตกลง |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 26/01/2015 4:43 pm Post subject: |
|
|
เปิดชื่อบริษัทคาดรับเหมา"รถไฟไทย-จีน"เฟสแรก "แก่งคอย-มาบตาพุด"-รอเคาะรูปแบบลงทุน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 26 ม.ค. 2558 เวลา 15:51:20 น.
ประชุมนัดแรกรถไฟไทย-จีน 4 แสนล้านฉลุย แบ่งสำรวจพื้นที่ 4 ช่วง งานก่อสร้าง 2 สัญญา จีนเสนอ 3 โมเดลลงทุน เตรียมลงพื้นที่โครงการ มี.ค.นี้ ดีเดย์ ก.ย.ลงเข็ม "กรุงเทพฯ-แก่งคอย-มาบตาพุด" ระยะทาง 379.5 กม. เผย ก.พ.นี้เคาะรูปแบบลงทุน + ผู้รับเหมา
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ผลการหารือร่วมกับจีนครั้งแรกเพื่อพัฒนารถไฟทางคู่ รางมาตรฐาน 1.435 เมตรเส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทาง 873 กม. เป็นไปด้วยดี มีความเห็นตรงกันว่าจะแบ่งดำเนินการเป็น 4 ช่วง ได้แก่
1.กรุงเทพฯ-แก่งคอย 133 กม.
2.แก่งคอย-มาบตาพุด 246.5 กม.
3.แก่งคอย-นครราชสีมา 138.5 กม.
4.นครราชสีมา-หนองคาย 355 กม.
จีนเร่งตอกเข็ม 1 ก.ย. 58
ทั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการออกแบบและสำรวจพื้นที่ก่อสร้าง เริ่มสำรวจเดือน มี.ค.นี้ รวมถึงการออกแบบรายละเอียดและประเมินค่าก่อสร้างให้เสร็จใน 6-7 เดือน เนื่องจากเงินลงทุน 392,570 ล้านบาท เป็นกรอบเบื้องต้นเท่านั้น โดยบริษัท ไชน่าเรลเวย์ คอร์ปอเรชั่น (CRC) ของฝ่ายจีนจะลงพื้นที่ร่วมกับคณะทำงานฝ่ายไทย รวมทั้งจีนยังเห็นชอบกรอบเวลาที่ฝ่ายไทยเสนอ ในการเริ่มก่อสร้างช่วงระยะที่ 1-2 ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ กำหนดแล้วเสร็จใน 2 ปีครึ่งหรือเดือน ธ.ค. 2560 ส่วนช่วงที่ 3-4 ทางจีนมีความเห็นว่ามีความซับซ้อนของพื้นที่เพราะต้องเจาะอุโมงค์ยาว 8-10 กม.ช่วงมาบกะเบา และผ่านพื้นที่อุทยาน อาจทำให้การก่อสร้างล่าช้าจากเดิมไปบ้าง เดิมคาดว่าเริ่มก่อสร้าง ธ.ค. 2558 เลื่อนเป็นไม่เกินไตรมาส 1/59
ประชุมนัด 2 ที่ปักกิ่ง ก.พ.นี้
พล.อ.อ. ประจินกล่าวว่า รูปแบบลงทุนจะหารือร่วมกันครั้งต่อไป 11-13 ก.พ.นี้ ที่เมืองปักกิ่ง เบื้องต้นจีนนำเสนอโมเดลที่เคยไปลงทุนในประเทศต่าง ๆ ให้ฝ่ายไทยทราบ มี 3 รูปแบบคือ
1.EPC (Engineering Procurement Construction) รัฐบาลไทยเป็นเจ้าของโครงการ จีนจะออกแบบ จัดหาระบบและก่อสร้าง รูปแบบนี้มี 2 ทางเลือกคือ
EPC + F (Engineering Procurement Construction and Finance) จะออกแบบ จัดหาระบบ ก่อสร้าง จัดหาเงินกู้ และ
EPC + F + O (Engineering Procurement Construction and Finance and Operation) ออกแบบ จัดหาระบบ ก่อสร้าง จัดหาเงินกู้ และบริหารโครงการในช่วงแรก 3-5 ปี ส่วนเงินกู้จีนจะให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าหรือไชน่าเอ็กซิมแบงก์ เป็นผู้ให้กู้กับรัฐบาลไทยในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
2.รัฐและเอกชนร่วมทุน รูปแบบ PPP เป็นรูปแบบ BOT (Build-Operate-Transfer Contract) โดยจ้างเอกชนคือ CRC ของจีนและบริษัทไทยลงทุนก่อสร้างและบริหารโครงการ เมื่อครบอายุสัมปทานก็โอนกรรมสิทธิ์ให้รัฐบาลไทย และ
3.ร่วมกันลงทุนแบบรัฐต่อรัฐตามสัดส่วนที่ตกลงกัน โดยตั้งบริษัทร่วมไทย-จีนขึ้นมา
"ทั้ง 3 รูปแบบอยู่ในระหว่างการพิจารณา แต่ถ้าหากมีเงื่อนไขเวลาที่ต้องเริ่มสร้างในปีนี้ วิธีกู้เงินจากจีนน่าจะเป็นวิธีการที่เร็วที่สุด แต่ต้องดูเงื่อนไขของฝ่ายจีนด้วย ส่วนระบบรถต้องใช้ของจีน ซึ่งจะมีการพิจารณาให้จบในเดือน พ.ค.นี้"
รอเคาะ "รูปแบบลงทุน"
พล.อ.อ. ประจินกล่าวอีกว่า สำหรับการก่อสร้างจาก 4 ช่วงแผนงาน แบ่งเป็น 2 สัญญา โดยสัญญาแรก ช่วงที่ 1-2 กรุงเทพฯ-แก่งคอย-มาบตาพุด และสัญญาที่ 2 เป็นช่วงที่ 3-4 แก่งคอย-นครราชสีมา-หนองคาย โดยฝ่ายไทยให้จีนคัดเลือกบริษัทรับเหมามาให้อย่างน้อย 5 บริษัท และซับคอนแทร็กต์ (รับเหมาช่วง) อีก 15 บริษัท ส่วนฝ่ายไทยจะคัดเลือกบริษัทรับเหมาไว้เช่นกัน เป้าหมายให้ได้ข้อสรุปในการประชุมครั้งที่ 2 นี้ โดยจะไม่เปิดประมูลแบบนานาชาติเพราะเป็นความร่วมมือแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) โดยฝ่ายจีนให้ CRC เป็นผู้คัดเลือกบริษัทจีน รวมทั้งจีนจะเป็นผู้รับเหมาหลัก โดยมีรับเหมาไทยจะเป็นผู้รับเหมาช่วง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเลือกรูปแบบการลงทุนด้วย เพราะหากไม่ใช่เงินกู้ การคัดเลือกผู้รับเหมาจะเป็นอีกแบบหนึ่ง
"การ ประชุมครั้งที่ 2 สิ่งที่ฝ่ายไทยอยากเห็นคือรายชื่อผู้รับเหมาไทยและจีนที่จะก่อสร้าง ซึ่ง CRC ของจีนมี 5 รัฐวิสาหกิจหลักที่มีประสบการณ์สร้างรถไฟอยู่แล้ว เขาจะแนะนำพร้อมลำดับความสำคัญแต่ละบริษัทไม่ให้เกิดความสับสน เนื่องจาก คสช.เข้ามาบริหารประเทศและผลักดันรถไฟ ปรากฏว่ามีบริษัทจีนจำนวนมากเข้ามานำเสนอตัว จึงไม่ค่อยมั่นใจ"
แหล่ง ข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวเพิ่มเติมว่า จีนเสนอให้เงินกู้ฝ่ายไทยดอกเบี้ยต่ำ แต่ไม่ระบุอัตราชัดเจน ที่ผ่านมาเคยแจ้ง 3% โดยมีสัดส่วนให้กู้ 85% ของวงเงินลงทุนโครงการ เวลา 15 และ 20 ปี ส่วนอีก 15% เป็นการลงทุนโดยรัฐบาลไทย อย่างไรก็ตาม ยังไม่สรุป ซึ่งยังมีหลายหน่วยงานไม่เห็นด้วยที่จะใช้เงินกู้จากจีน เช่น สำนักงบประมาณ มองว่าน่าจะใช้เงินกู้ในประเทศ
เปิดชื่อรับเหมาจีน-ไทย
แหล่งข่าวจากวงการรับเหมาก่อสร้างกล่าวว่า สำหรับ 5 บริษัทของฝ่ายจีนที่จะมาลงทุนด้วย เช่น บริษัท ซีอาร์ซีซี, บริษัท ไชน่า เรลเวย์ กรุ๊ป (ซีอาร์อีซี), บริษัท ไชน่า พาวเวอร์, บริษัท ไชน่าอาร์เบอร์ และบริษัท ซีอาร์อีซี
ส่วนบริษัทรับเหมาไทย แหล่งข่าวกล่าวว่า แนวโน้มเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ก่อสร้างรถไฟและขึ้นบัญชีกับการรถไฟแห่ง ประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เช่น
บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์,
บมจ.ช.การช่าง,
บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น,
บจ.เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอ็นจิเนียริ่ง (1964),
บริษัท ทิพากร บริษัท กรุงธนเอ็นยิเนียริ่ง เป็นต้น |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 27/01/2015 5:51 pm Post subject: |
|
|
นายกฯ เยือนญี่ปุ่นลงนามเอ็มโอยูรถไฟความเร็วสูง 8-10 ก.พ.นี้
ThaiPBS Tue, 27/01/2015 - 17:09
นายกรัฐมนตรีเตรียมเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น 8-10 ก.พ.นี้ ลงนามเอ็มโอยูรถไฟความเร็วสูง ขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร จะเดินทางไปเมียนมาร์ 30 ม.ค.นี้ หารือโครงการทวาย
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น วันที่ 8-10 ก.พ.2558 เพื่อลงนามความร่วมมือรถไฟความเร็วสูง ขนาดรางมาตรฐานยุโรป 1.435 เมตร
ส่วนในวันที่ 30 ม.ค.ที่จะถึงนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล จะเดินทางไปประเทศเมียนมาร์ เพื่อหารือโครงการทวาย โดยมีญี่ปุ่นร่วมหารือด้วย ซึ่งจะทำให้โครงการนี้มีโอกาสสำเร็จมากขึ้นเพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 28/01/2015 10:18 pm Post subject: |
|
|
เปิดแนวเวนคืนที่ดินรถไฟไทย-จีน โคราชแจ็กพอตพันไร่เจาะอุโมงค์ "ผาเสด็จ-หินลับ"ทะลุหนองคาย
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 28 ม.ค. 2558 เวลา 21:05:34 น.
เลาะเส้นทางมินิไฮสปีดเทรน "กรุงเทพฯ-หนองคาย" ดูผลศึกษาโมเดลจีน แบบต้นทุนก่อสร้าง 330 ล้าน/กม. ระยะทาง 615 กม. ลงทุนเฉียด 2 แสนล้าน เจาะ 4 อุโมงค์ช่วงแก่งคอย สนข.เปิดเส้นทางนำร่องถึงโคราช เวนคืน 926 ไร่ ช่วงแก่งคอย-มาบตาพุด สร้างคู่ขนานทางคู่ "แก่งคอย-คลอง 19-ฉะเชิงเทรา" เจาะอุโมงค์กว่า 700 เมตร ทะลวงเขาพระพุทธฉาย
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รถไฟทางคู่รางมาตรฐาน 1.435 เมตร เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ รวม 873 กม. ที่ร่วมพัฒนากับรัฐบาลจีน จะยึดผลศึกษาเดิมของจีนเมื่อหลายปีที่แล้ว โดยเร่งสรุปโครงการทั้งผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ออกแบบรายละเอียด ประเมินค่าก่อสร้าง เวนคืนที่ดินใน 6 เดือน ตั้งเป้าเริ่มงานมีนาคม-กันยายนนี้
6 เดือนรายละเอียดเสร็จ
โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะลงพื้นที่สำรวจเส้นทางมีนาคมนี้ เพื่อให้เฟสแรก "กรุงเทพฯ-แก่งคอย-มาบตาพุด" เริ่มก่อสร้าง 1 กันยายน กำหนดเสร็จ 2 ปีครึ่ง หรือธันวาคม 2560 เฟสที่ 2 "แก่งคอย-นครราชสีมา-หนองคาย" เริ่มสร้างอย่างช้าไตรมาส 1/59 ล่าสุดจัด 2 ทีมลงสำรวจพื้นที่ มีบริษัท ไชน่า เรลเวย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (CRC) เป็นผู้นำทีมร่วมกับฝ่ายไทย
"จีนและไทยศึกษาร่วมกันไว้เมื่อปีཱ ปรับข้อมูลล่าสุดปีཱུ หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เข้ามา 7 เดือน ทั้ง 2 ฝ่ายมีข้อมูลเบื้องต้นแล้วมากกว่า 50%"
ช่วงโคราชสร้างยาก
สิ่งที่จะต้องพิจารณาต่อคือความยากง่ายเส้นทางที่จะก่อสร้างทางจีนเสนอว่าช่วงแก่งคอย-นครราชสีมา-หนองคายใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปีขึ้นไป ทำให้ล่าช้าจากแผนงานที่ไทยเสนอ เนื่องจากพื้นที่ผ่านภูเขาต้องเจาะอุโมงค์และใช้เทคโนโลยีสูง
"เส้นทางสร้างได้เร็วคือกรุงเทพฯ-แก่งคอย เพราะเป็นที่ราบและเวนคืนน้อย ส่วนช่วงแก่งคอย-มาบตาพุดทำยากเช่นกัน เพราะผ่านพื้นที่อุทยานต้องมีการเวนคืน"
สร้างคู่ขนานแนวเดิม
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่าผลศึกษารถไฟความเร็วสูงเดิมที่จีนศึกษาให้เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคายมีระยะทาง 615 กม. ก่อสร้างตามแนวรถไฟเดิม รูปแบบก่อสร้างระดับดินตลอดเส้นทาง ค่าก่อสร้าง 198,000 ล้านบาท เฉลี่ย 330 ล้านบาท/กม. มีช่วงแก่งคอยเป็นพื้นที่ภูเขาต้องเวนคืนกว้าง 20 เมตรของแนวเส้นทางเพื่อเจาะอุโมงค์ ซึ่งบริเวณนี้ปัจจุบันเป็นพื้นที่ประทานบัตรผู้ประกอบการปูน 4 บริษัท อาทิ ปูนซิเมนต์ไทย ปูนทีพีไอ ปูนนครหลวง
ขณะที่ผลศึกษารถไฟความเร็วสูงของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษาเสร็จและส่งรายงานอีไอเอแล้วคือ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา 256 กม. ส่วนช่วงนครราชสีมา-หนองคาย 355 กม. อยู่ระหว่างศึกษาโครงการ โดยรวมเส้นทางจะสร้างคู่ขนานแนวรถไฟเดิม ยกเว้นบางช่วงที่ปรับรัศมีโค้งให้มีเหมาะสมกับความเร็วรถไฟซึ่งต้องเวนคืนที่ดินมาก แนวช่วงกรุงเทพฯ-ภาชี 84 กม. ใช้โครงสร้างร่วมกับรถไฟความเร็วสูงสายเหนือกรุงเทพฯ-พิษณุโลก-เชียงใหม่
สำหรับแนวเส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมาที่สนข.ศึกษาเสร็จจุดเริ่มต้นอยู่ที่สถานีบางซื่อ ผ่านสถานีดอนเมือง พระนครศรีอยุธยา มาถึงชุมทางบ้านภาชี จากนั้นแยกเข้าสู่เส้นทางรถไฟสายอีสาน จากบ้านภาชีมุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดสระบุรี ผ่านสถานีปากช่อง จากนั้นเส้นทางจะเลียบอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคองไปยังสถานีปลายทางที่นครราชสีมา
เปิดจุดที่ตั้งสถานี
ที่ตั้งสถานีมีทั้งอยู่ที่เดิมและสร้างใหม่ ถัดจากสถานีกลางบางซื่อ ดอนเมือง อยุธยา ภาชี จะสร้างอยู่ที่เดิม มาถึงสระบุรีจะสร้างอยู่ที่ใหม่ ห่างสถานีรถไฟเดิม 3 กม. เยื้องศูนย์การค้าเซ็นทรัล สถานีปากช่องจะอยู่ที่ราชพัสดุหนองสาหร่าย ห่างสถานีเดิม 5 กม. และสถานีนครราชสีมาจะอยู่ที่เดิม ส่วนช่วงนครราชสีมา-หนองคายมี 3 สถานี คือ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี สถานีหนองคาย เบื้องต้นตำแหน่งอยู่ที่สถานีรถไฟเดิม
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า รูปแบบโครงสร้างมีทั้งทางยกระดับกว่า 100 กม. เพราะผ่านเขตเมือง ทางระดับพื้น 58 กม. สะพานบก 4 กม. และอุโมงค์ 4 แห่งช่วงภาชี-โคราช มีอุโมงค์รถไฟบริเวณผาเสด็จถึงหินลับ ในพื้นที่ประทานบัตรเหมืองหินโรงปูนซีเมนต์ 3 บริษัท มี 2 อุโมงค์ความยาว 202 เมตร กับ 3,326 เมตร อุโมงค์รถไฟบริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง โดยเป็นอุโมงค์ 2 ช่วง อยู่บริเวณสถานีคลองขนานจิตร ความยาว 557 เมตร และ 1,243 เมตร
กทม.-โคราชเวนคืน 926 ไร่
สำหรับเงินลงทุนเฟสแรก (กรุงเทพฯ-โคราช) อยู่ที่ 170,450 ล้านบาท แยกเป็น ค่าเวนคืนกว่า 8,000 ล้านบาท สำหรับเวนคืนที่ดิน 926 ไร่ ยังไม่รวมที่ราชพัสดุ ตั้งแต่ภาชี-โคราช ค่าก่อสร้าง 140,855 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษา 3,000 ล้านบาท และระบบรถไฟฟ้า 31,700 ล้านบาท ส่วนเฟส 2 (โคราช-หนองคาย) คาดว่าค่าก่อสร้างอยู่ที่ 108,245 ล้านบาท
ทั้งนี้ แนวช่วงแรกปรับ 2 ช่วง คือ 1.ช่วงแก่งคอยที่ผ่านพื้นที่ประทานบัตรปูนซีเมนต์ 2.ช่วงอ่าง
เก็บน้ำลำตะคอง จะสร้างทางวิ่งยกระดับเลียบอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคอง และยกระดับข้ามทางรถไฟเดิม จากนั้นแนวเส้นทางเลียบอ่างเก็บน้ำ ก่อนข้ามทางรถไฟเดิมอีกครั้ง แล้วจึงกลับมาขนานกับแนวทางรถไฟเดิม ระยะทางบริเวณนี้ 17 กม.
รื้อชุมชนนับพันราย
สำหรับช่วงแก่งคอย-มาบตาพุด จะสร้างคู่ขนานกับทางคู่สายแก่งคอย-คลอง 19-ฉะเชิงเทรา 106 กม. ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กำลังประมูลก่อสร้าง มีเวนคืน 119 ไร่ ย่านสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา ชุมทางบ้านภาชี ชุมทางแก่งคอย และสร้างอุโมงค์ 1 แห่ง ช่วงเขาพระพุทธฉาย 736 เมตร
โดยการก่อสร้างจะแยกรางออกจากกัน แนวเส้นทางเริ่มจากแก่งคอย ผ่านคลองสิบเก้ามาออกฉะเชิงเทรา และไปเชื่อมกับท่าเรือแหลมฉบัง มีเป้าหมายใช้เป็นเส้นทางขนสินค้า และเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างจีนกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้สะดวกขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่ากรณีผู้บุกรุกในแนวเส้นทางจากข้อมูลร.ฟ.ท. เมื่อปี 2555 ในเส้นทางสายอีสานมีผู้บุกรุกประมาณ 3,700 ราย ช่วงฉะเชิงเทรามี 406 ราย และศรีราชา 422 ราย |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 03/02/2015 9:45 am Post subject: |
|
|
"บิ๊กจิน"บินข้ามโขงถกรถไฟเร็วสูง"จีน-ลาว-ไทย"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 02 ก.พ. 2558 เวลา 21:40:16 น.
"ประจิน" บุกลาว ดูความคืบหน้ารถไฟความเร็วสูง หลังลงนามกับจีนมา 4 ปี หวังเก็บข้อมูลมาบูรณาการรถไฟไทย-จีน ก่อนถกครั้งที่ 2 กรุงปักกิ่ง 11-13 ก.พ.นี้ หวังเป็นเส้นทางเชื่อมโยงการค้าและเดินทาง 3 ประเทศ "จีน-ลาว-ไทย" สมบูรณ์แบบทั้งรางและระบบเดินรถ
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์นี้ กระทรวงคมนาคมประเทศไทยกับกระทรวงคมนาคมของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) จะหารือร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นการพัฒนารถไฟทางมาตรฐานที่รัฐบาลจีนจะลงทุนสร้างจากคุนหมิง-เวียงจันทน์ที่จะมาเชื่อมกับรถไฟราง1.435 เมตรของประเทศไทย จังหวัดหนองคายที่จะสร้างในเส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุดและแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทาง 873 กิโลเมตร
"การไปครั้งนี้เพื่อให้ประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศสอดคล้องกัน ตามที่ไทยคาดหวังไว้คือเชื่อมต่อจากคุนหมิง-เวียงจันทน์-หนองคาย-กรุงเทพฯ จะทำให้ประโยชน์ของประเทศไทยและลาวมีความสมดุลมากขึ้นและเชื่อมต่อกับจีนได้ชัดเจนทั้งรูปแบบรางและเทคโนโลยีในการเดินรถที่วิ่งด้วยความเร็ว160-180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง"
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า หากโครงการนี้สำเร็จจะเป็นโมเดลนำร่องให้กับกลุ่มประเทศต่าง ๆ ในเพื่อนบ้านที่ยังเป็นรถไฟราง 1 เมตรอยู่ เช่น เวียดนาม เขมร มาเลเซีย สำหรับความคืบหน้าของรถไฟจีน-ลาวได้ลงนามร่วมกันพัฒนารถไฟรางมาตรฐานตั้งแต่ปี 2554 หรือผ่านมาประมาณ 4 ปีแล้ว ปัจจุบันเพิ่งร่างสัญญาแล้วเสร็จ รอลงนามทั้ง 2 ฝ่าย เนื่องจากยังติดเรื่องข้อกฎหมาย คาดว่าจะมีการลงนามในปี 2558 และเริ่มก่อสร้างพร้อมกับโครงการของไทยในปี 2559 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวยังเป็นข้อมูลที่ได้รับรายงานก่อนปีใหม่ แต่คาดว่าหลังกลับจากลาวจะมีข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า เส้นทางรถไฟที่เชื่อมจากกรุงเทพฯ-หนองคาย-เวียงจันทน์-คุนหมิงเป็นเส้นทางมีปริมาณการค้าขายและการเดินทางระหว่าง3 ประเทศ คือไทย-ลาว-จีนที่มีเพิ่มขึ้น ถึงได้รับความสำคัญในขณะนี้ค่อนข้างสูง และเป็นเส้นทางที่ไทยจะพยายามทำให้เชื่อมโยงกับเพื่อนบ้าน
อนึ่ง รถไฟเส้นทางคุนหมิง-เวียงจันทน์ มีระยะทางกว่า 420 กิโลเมตร ใช้เงินลงทุนประมาณ 7,000 ล้านดอลลาร์ โดยใช้วิธีการลงทุนในรูปแบบลงทุนร่วมกัน โดยรัฐบาลจีน 70% และ สปป.ลาว 30% โดยโครงการจะเป็นเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างจีนกับอาเซียน เริ่มต้นจากมณฑลยูนนานของจีน ผ่านลาว ไทย มาเลเซีย เข้าไปยังสิงคโปร์ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 04/02/2015 5:15 am Post subject: |
|
|
ลาวจี้ไทยชัดเจนลงทุนทางคู่ วุฒิชาติผู้ว่ารฟท.คนใหม่ ลั่น6เดือนนั่งรถปลอดภัย
ไทยโพสต์ Wednesday, 4 February, 2015
ลาวขอข้อมูลชัดเจนฝ่ายไทยที่จะเดินหน้าโครงการรถไฟไทย-จีน เพราะจะเชื่อมต่อ 3 ประเทศ หลังเจรจาไม่เป็นทางการระดับรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1-2 ก.พ.ที่ผ่านมา ด้าน วุฒิชาติ ขอเวลา 1 เดือนทำความเข้าใจคนรถไฟ มั่นใจทำงานได้ไม่มีปัญหาแม้เป็นคนนอก ชูนโยบายเดินตามรอยรัฐบาลผลักดันรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ ลั่น! ตั้งเป้า 3-6 เดือน เรียกความเชื่อมั่นประชาชนคืน นั่งรถไฟปลอดภัย
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1-2 ก.พ.57 ได้มีการหารือนอกรอบอย่างไม่เป็นทางการระดับรัฐมนตรีกับทาง สปป.ลาว ณ นครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความคืบหน้าในการดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟระหว่างจีน-สปป.ลาว และระหว่างไทย-จีน เป็นรถไฟทางคู่ รางขนาด 1.435 เมตร ซึ่งทาง สปป.ลาว ต้องการความชัดเจนจากฝ่ายไทยที่จะเดินหน้าในโครงการรถไฟไทย-จีน เพราะจะมีผลเชื่อมต่อโครงการระหว่างกัน 3 ประเทศ และมีกำหนดที่จะเริ่มก่อสร้างพร้อมกับโครงการของไทยในช่วงปลายปี 2558 หรือต้นปี 2559 ด้วย เพื่อการเชื่อมต่อด้านการก่อสร้างที่ใช้เทคโนโลยีในระบบเดียวกัน การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างการก่อสร้าง การบริหารจัดการโครงการ ตลอดจนการซ่อมบำรุง รวมทั้งแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างกันด้วย
ทาง สปป.ลาว ต้องการความชัดเจนจากไทย โดยให้ยืนยันวันเวลาที่ชัดเจน ว่าจะมีการสำรวจออกแบบการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน เพื่อที่จะได้ดำเนินโครงการควบคู่กันไป ในเรื่องการก่อสร้าง การแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยีรวมระหว่างกันด้วย อย่างไรก็ตาม รูปแบบการลงทุนระหว่างรถไฟไทยจีนนั้นก็ยังไม่มีข้อสรุป จะต้องรอหารือรอบสุดท้ายในช่วงเดือน ก.พ.2558 นี้ก่อน แต่เรื่องการบริหารโครงการนั้นไทยกับลาวมีความแตกต่างกัน เพราะไทยมีประสบการณ์ แต่ สปป.ลาวไม่มีประสบการณ์ จึงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญจากจีนเข้ามาช่วย พล.อ.อ.ประจินกล่าว
ข้อแตกต่างระหว่างไทยกับ สปป.ลาว คือไทยมีประสบการณ์บริหารรถไฟมากว่า 100 ปี มีบทเรียน แต่ สปป.ลาวไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ จึงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญจากจีน จึงไม่เหมือนกัน ดังนั้นรูปแบบการลงทุนของไทยจะมีการหารือร่วมกันก่อนที่จะตัดสินใจ พล.อ.อ.ประจินกล่าว
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า การดำเนินงานหลังเข้ารับตำแหน่งนั้นจะเดินตามนโยบายหลักๆ ของรัฐบาล ทั้งเรื่องของการก่อสร้างในโครงการรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ รถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร เนื่องจากเป็นระบบขนส่งสาธารณะที่สำคัญ นอกจากนั้นจะเร่งสร้างความเชื่อมั่นทางด้านมาตรฐานความปลอดภัย และความสะอาดของห้องน้ำสถานี และห้องน้ำบนขบวนรถไฟ กับประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟไทยกลับคืนมา ซึ่งในส่วนนี้ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3-6 เดือนนี้จะเห็นภาพชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลง
ส่วนของการกำหนดทิศทางการทำงานร่วมกับบุคลากรฝ่ายต่างๆ ของ ร.ฟ.ท.นั้น ในสัปดาห์หน้าจะเริ่มพูดทำความเข้าใจกับพนักงานในทุกๆ ฝ่าย และใน 1 เดือนจะกำหนดทิศทางการทำงานกับฝ่ายต่างๆ ใน ร.ฟ.ท.เพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน มั่นใจว่าจะทำงานร่วมกันได้ไม่มีปัญหา เพราะบุคลากรของรถไฟเป็นคนมีคุณภาพและพร้อมที่จะก้าวไปสู่เทคโนโลยีใหม่ๆ นโยบายหลักๆ จะไม่ปรับเปลี่ยนคนที่ทำงานอยู่เดิม จะเปิดโอกาสให้ทุกคนทำงานเต็มที่ แต่หากส่วนไหนมีปัญหาก็ค่อยมาหารือร่วมกันเพื่อแก้ไขให้มีทางออก. |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 05/02/2015 7:14 pm Post subject: |
|
|
คมนาคมโว! ก่อสร้างรถไฟทางคู่ไทย-จีน คืบหน้าเร็วกว่าแผน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 กุมภาพันธ์ 2558 18:24 น.
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน ภายใต้ความร่วมมือไทย-จีน ว่า ขณะนี้โครงการก่อสร้างเส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด การทำงานรวดเร็วกว่าแผนที่วางไว้ โดยจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งระหว่างวันที่ 11-13 กุมภาพันธ์นี้ ก่อนที่จีนจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจเส้นทางในประเทศไทยปลายเดือนกุมภาพันธ์ จากเดิมที่วางแผนไว้ว่าจะเริ่มสำรวจได้ในเดือนมีนาคม 2558
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังกล่าวถึงการดำเนินความร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่นถึงการลงนามบันทึกแสดงเจตจำนง หรือ MOI ว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาระบบรางระหว่างกระทรวงคมนาคมไทยกับประเทศญี่ปุ่น ว่า ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะแถลงความชัดเจนอีกครั้งระหว่างการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอ 3 เส้นทางให้ญี่ปุ่นเลือก คือ เส้นทางแม่สอด จังหวัดตาก-พิษณุโลก-ขอนแก่น-มุกดาหาร ระยะทาง 770 กิโลเมตร เส้นทางพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-มาบตาพุด จังหวัดระยอง ระยะทาง 339 กิโลเมตร และเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ ระยะทาง 653 กิโลเมตร |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 05/02/2015 7:25 pm Post subject: |
|
|
คมนาคมเตรียมงบปี 59 เพิ่ม 65%
ข่าวค่ำ ตรงประเด็น
NowTV26
วันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2558
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้เตรียมแผนจัดทำงบประมาณประจำปี 2559 ที่ 177,095 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2558 ถึง 65% ส่วนใหญ่เป็นงบประมาณเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย ระยะเวลา 8 ปี (2558-2565) มุ่งเน้นที่การพัฒนาระบบขนส่งทางราง และการพัฒนาทางหลวงเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี และเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษ 5 แห่งตามแนวชายแดน
สำหรับโครงการที่กระทรวงคมนาคมกำลังเร่งขับเคลื่อน คือโครงการรถไฟทางคู่ รางมาตรฐาน เส้นทาง หนองคาย-กรุงเทพ / แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-จีน โดยขณะนี้เหลือการเจรจาครั้งสุดท้ายในวันที่ 11-13 ก.พ.และปลายเดือน ก.พ.ทางจีนจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจเส้นทาง ซึ่งเร็วกว่ากำหนด จากเดิมจะเริ่มสำรวจได้ในเดือน มี.ค.58
ส่วนการดำเนินความร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่นจะเป็นความร่วมมือในการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐานโดยจะต้องพิจารณาเส้นทางร่วมกัน เช่น แม่สอด จ.ตาก -มุกดาหาร /พุน้ำร้อน (จ.กาญจนบุรี)-กรุงเทพฯ-มาบตาพุด / กรุงเทพ-เชียงใหม่ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 06/02/2015 8:11 am Post subject: |
|
|
ไทยเหวอต้องถอย! สร้างรถไฟทางคู่ชะงัก จีนให้กู้รีดดอกเบี้ยสูง แถมขอสร้าง-เดินรถเองอีก
มติชนออนไลน์ วันที่ 06 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 07:22:18 น.
การประชุมเพื่อพิจารณาด้านการเงินในการก่อสร้างรถไฟทางคู่ร่วมไทย-จีน ถึงกับชะงัก เมื่อทางการจีนเสนอดอกเบี้ยในการกู้เงินสูงถึงกว่า 2-4 % ต่างจากที่ไทยเคยกู้จากญี่ปุ่นที่มีดอกเบี้ยเพียง 1.5 %
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการเงินและรูปแบบการลงทุนภายใต้บันทึกความเข้าใจ ไทย-จีน เรื่องโครงการดำเนินงานก่อสร้างรถไฟทางคู่รางมาตรฐาน 1.435 เมตร เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอยมาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทางรวม 873 กิโลเมตร ว่า รัฐบาลจีนเสนอรูปแบบการลงทุนแบบการกู้ร่วมกันผ่านธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน โดยฝ่ายจีนเสนออัตราดอกเบี้ย 2-4% ระยะเวลาคืนทุนภายใน 20 ปี นอกจากนี้จีนยังเสนอตัวขอเป็นผู้ออกแบบก่อสร้าง ก่อสร้างงานโยธาและเดินรถเองด้วย ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันว่าจะเป็นผู้บริหารการเดินรถเอง
ทั้งนี้จากการพิจารณา ฝ่ายไทยเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยที่จีนเสนอมายังสูงเกินไป เมื่อเทียบกับดอกเบี้ยเงินกู้ 1.5% ขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น(ไจก้า) ที่ไทยกู้มาสร้างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ซึ่งฝ่ายไทยขอให้จีนกลับไปปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก รวมทั้งขอเพิ่มระยะเวลาปลอดหนี้ให้มากขึ้นด้วย ซึ่งฝ่ายจีนจะต้องนำข้อเสนอของไทยไปเสนอให้รัฐบาลพิจารณาก่อนหากจีนลดอัตราดอกเบี้ยแล้วยังไม่พอใจ ไทยก็อาจจะพิจารณาแหล่งเงินกู้แห่งอื่นที่คิดดอกเบี้ยถูกกว่านี้รูปแบบการลงทุนรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ คาดว่าจะสามารถดำเนินการเจรจาในรายละเอียดและได้ข้อสรุปในการประชุมร่วมกับจีนครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 11-12 ก.พ. 2558 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน แต่ยืนยันว่าการดำเนินงานในครั้งนี้จะเป็นรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือ จีทูจี |
|
Back to top |
|
|
|