RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13263733
ทั้งหมด:13575016
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 308, 309, 310 ... 545, 546, 547  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/02/2019 5:21 pm    Post subject: Reply with quote

"บีทีเอส"พร้อมเจรจาลดราคาชิงรถไฟไฮสปีดเชื่อม3สนามบิน
โพสต์ทูเดย์ วันที่ 18 ก.พ. 2562 เวลา 07:09 น.

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอส เปิดเผยว่า กลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR) พร้อมเข้าเจรจาต่อรองในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน หลังจากคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขีดเส้นให้การเจรจากับกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จบภายในวันที่ 18 ก.พ.นี้ และหากไม่ได้ข้อสรุปจะเรียกกลุ่มบีเอสอาร์มาเจรจาต่อไป

"มั่นใจว่าทางกลุ่มมีข้อเสนอดีพอที่จะเอาชนะคู่แข่งในการช่วงชิงเมกะโปรเจกต์ดังกล่าวได้ โดยอาศัยความร่วมมือกับบริษัทพาร์ตเนอร์ชั้นนำระดับโลกที่มีศักยภาพไม่น้อยไปกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นเอกชนรายใหญ่ที่สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ให้วงการได้หากเปิดเผยชื่อ" นายสุรพงษ์ กล่าว

สำหรับการเจรจาต่อรองของบีทีเอสนั้น ยืนยันว่าจะไม่มีการยื่นข้อเสนอนอกเอกสารขอบเขตเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) แม้ว่ากลุ่ม BSR จะเสนอขอให้รัฐสนับสนุนโครงการสูงกว่าคู่แข่งอยู่ 5.27 หมื่นล้านบาท ทว่าวงเงินดังกล่าวยังสามารถลดราคาลงได้อีกในขั้นตอนการเจรจาต่อรอง ดังนั้นหากได้โอกาสเข้าเจรจากับรัฐบาลจริง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเวลา 30 วัน หรือจบลงได้ภายในเดือนมี.ค. ตามเป้าหมายของรัฐบาลจะไม่ยืดเยื้อมากเพราะยื่นข้อเสนอตาม TOR

นอกจากนี้ เรื่องการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ของโครงการนั้น บีทีเอสจะใช้ประสบการณ์ด้านงานเดินรถไฟฟ้าเข้ามาพัฒนาสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงให้สะดวก ทันสมัย และตอบโจทย์การเดินทางของประชาชนโดยเฉพาะสถานีขนาดใหญ่อย่างอู่ตะเภา นอกจากนี้จะเน้นจุดแข็งการเนรมิตพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานี (TOD) ให้มีความหลากหลาย สร้างรายได้และเชื่อมต่อการเดินทาง โดยเน้นไปในส่วนของที่ดินมักกะสันและที่ดินศรีราชา

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าว ระบุว่าการเจรจาโครงการรถไฟความเร็วสูงกับกลุ่มซีพีอยู่นอกเหนือเงื่อนไขทีโออาร์ที่กำหนด ทำให้การเจรจาไม่สามารถสรุปได้ แต่หากยืดเยื้อออกไปหลังเลือกตั้งปลายเดือน มี.ค.นี้ อาจเป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาดูความเหมาะสมต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 18/02/2019 7:18 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ถกรถไฟ3สนามบินอีกรอบ ยันหากตกลงCPไม่ได้ เรียกBSRมาเสียบแทน
วันศุกร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562, 06.00 น.


จ่อเรียก 'บีทีเอส' เจรจา "ไฮสปีดเทรน" หาก "กลุ่มซีพี" ไม่ได้ข้อสรุป ก.พ. นี้

วันศุกร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562,



เจรจาไฮสปีดเทรนเชื่อม3สนามบิน เมื่อไม่มีทางออกก็ให้ออกทางเข้า!!
สยามรัฐออนไลน์ 14 กุมภาพันธ์ 2562 14:23 เศรษฐกิจ

ณ วันนี้ การเจรจาเงื่อนไขพิเศษโครงการรถไฟความเร็วสูง ดูเหมือนว่าจะเข้าสู่ทางตัน ซึ่งมีศัพท์ภาษาฝรั่งเศสว่า Cul de Sac (คัล เดอ แซค)คือ สุดทางตันเป็นลานวงกลมเพื่อให้รถเลี้ยววกกลับมาได้ เพื่อไปหาทิศทางใหม่ หรือไปเริ่มต้นกันใหม่ เพื่อบรรลุหนทางหรือเป้าหมาย ซึ่งนั่นอาจหมายถึง การต้องตัดสินใจประมูลใหม่ ถ้าเกิดทั้งซีพี และบีทีเอส รับความเสี่ยงจากทีโออาร์ทีมีหลายส่วนแตกต่างจากมาตรฐานสากล การย้อนออกมาทางเก่า เพื่อทบทวนทีโออาร์ ก็อาจเป็นทางเลือกเพื่อทำโครงการนี้ให้สำเร็จ

หากมาวิเคราะห์ข้อมูลจากสื่อหลายสำนัก ทีโออาร์ดูเหมือนว่า เป็นการรวบรวมการศึกษาจากทีโออาร์ในหลายๆประเทศที่รวมข้อดีที่ทำให้รัฐได้เปรียบ แต่พอนำมารวมๆกันแล้ว ทำให้ความเสี่ยงส่วนใหญ่จะตกไปอยู่กับผู้เข้าร่วมประมูล ทำให้นักลงทุนจากต่างประเทศไม่ว่าจีน,ญี่ปุ่น หรือยุโรปต่างถอยไปตั้งหลัก ดันซีพีมายืนข้างหน้า เจรจาต่อรองลดความเสี่ยงกับรัฐ แต่หากซีพีเจรจาไม่สำเร็จแล้วรับไปทำ ก็อาจได้ชื่อว่าช่วยชาติและแบกความเสี่ยงไปเอง แต่มีโอกาสกระอักเลือดในภายหลัง

งานนี้น่าเห็นใจทุกฝ่าย เพราะต่างล้วนปราถนาดีมาช่วยประเทศ แต่หากทีโออาร์ฉบับนี้หาทางออกไม่ได้จริงๆ ก็คงไม่เสียเวลามากหากจะลองพิจารณา การย้อนไปออกทางเข้า และได้มาซึ่งทีโออาร์ใหม่ ที่เป็นสากล!!

“ถึงเวลาต้องเลือก!!!รัฐออกตังค์น้อย เอกชนกู้เงินเยอะ!!หรือรัฐออกตังค์เยอะ เอกชนกู้เงินน้อย!!”

คำอธิบายง่ายๆของผู้เข้าแข่งขันสองราย โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีการประมาณการการลงทุนอยู่ที่ 224,544 ล้านบาทโดยซีพีเลือกให้รัฐออกตังค์น้อยที่ 117,227 ล้านบาท ทำให้ซีพีต้องกู้เงินมาทำโครงการถึง 107,317 ล้านบาท

ในขณะที่บีทีเอส เลือกทางเลือกที่สองคือ ให้รัฐออกตังค์เยอะ ทำให้ภาระเอกชนที่ต้องกู้เงินน้อย โดยบีทีเอส เสนอให้รัฐออกเงินอุดหนุนที่ 169,934 ล้านบาท เกินกว่ากรอบวงเงินสูงสุดที่รัฐอนุมัติ ทำให้บีทีเอสต้องกู้จากธนาคารอยู่ที่ 54,610 ล้านบาท

แล้วสองทางเลือกต่างกันอย่างไร คือหากรัฐอยากออกเงินสนับสนุนต่ำสุดก็ต้องช่วยสนับสนุนเงื่อนไข เพื่อลดความเสี่ยงโครงการ เพื่อได้ดอกเบี้ยที่ดี และร่วมการันตีความสำเร็จโครงการ เอกชนก็จะสามารถกู้เงินธนาคารเป็นแสนล้านบาทได้ !!!

แต่ถ้ารัฐเลือกออกเงินมาก โดยรัฐออกเองถึงกว่า 1.7 แสนล้าน เอกชนกู้เองเพียงแค่ 5.4 หมื่นล้าน ปัญหาจากการกู้เงินก็จะน้อยกว่ามาก โดยเมื่อกู้ไม่มาก ธนาคารไม่ต้องการหลักประกันมากนัก เงื่อนไขก็อาจน้อยกว่า แต่รัฐก็แค่ต้องออกเงินมากกว่า

แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้การเจรจายึดเยื้อคือ รัฐจะเอาราคาต่ำด้วย แต่ก็ไม่ร่วมรับความเสี่ยง ทำให้ในมุมมองธนาคาร เอกชนรับความเสี่ยงสูงมาก จึงยากในการหาแหล่งทุน เพราะเมื่อประเมินความสำเร็จโครงการกับความเสี่ยงแล้ว แหล่งเงินทุนและพันธมิตรที่มาร่วมลงทุนต่างหนักใจ เพราะหากคิดว่าจะไปตายเอาดาบหน้า คงจะซ้ำรอยโฮปเวลล์ สู้เอาความเป็นไปได้โครงการเป็นที่ตั้งจะดีที่สุด

ต้องมาลุ้นกันว่า การเจรจาจะจบลงอย่างไร แต่ที่แน่ๆคือ การเจรจาคือการหาทางออกที่ดีกับทุกฝ่าย ไม่ใช่หาผู้แพ้ หรือผู้ชนะ แต่ถ้าจบไม่ลงจริงๆ การมาเจอกันที่ตรงกลางก็อาจเรียกว่าเป็นทางออกสำหรับทุกฝ่าย...
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/02/2019 6:44 am    Post subject: Reply with quote

โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ยังต้องลุ้นกันต่อไป...
หมุนตามทุน
แนวหน้า วันพุธ ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562, 06.00 น.

ยังต้องตามลุ้นกันต่อไป...กับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่า 2.2 แสนล้านบาท....หนึ่งในเมกะโปรเจกท์ไฮไลท์สำคัญ ของการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี.... ซึ่งแม้ว่าจะมีการประกวดราคา ให้เอกชนมายื่นซองประกวดราคาไปแล้ว จนได้เอกชนที่เสนอเงื่อนไขดีที่สุด แต่จนถึงขณะนี้ การเจรจาต่อรองที่จะนำไปสู่การลงนามก่อสร้างยังไม่จบ....

โครงการนี้มีการยื่นซองเสนอเงื่อนไขของเอกชน…ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา...ซึ่งมีเอกชน 2 กลุ่ม เข้ายื่นซอง...และกลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด หรือ ซีพี และพันธมิตร...เป็นผู้ชนะการประมูล.... ด้วยเงื่อนไขเป็นผู้เสนอให้รัฐสนับสนุนเงินก่อสร้างน้อยที่สุด คือ 117,227 ล้านบาท...!! คณะกรรมการคัดเลือกโครงการ...ก็เริ่มต้นเชิญกลุ่ม ซีพี และพันธมิตรมาเจรจาต่อรอง แต่การเจรจาผ่านมา 6-7 ครั้ง...ก็ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้...โดยติดขัดในเงื่อนไขข้อเสนอ...ในซองที่ 4 ...ที่ทางเอกชนเสนอให้ คณะกรรมการคัดเลือกโครงการ…พิจารณา...

แม้ว่าจะมีการเขียนไว้ในทีโออาร์ชัดเจนว่า “ห้ามมีการนำรายละเอียดหรือข้อมูลใดๆ ในการทีโออาร์และการเจรจาออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชน”...แต่ในที่สุดก็มีหลุดออกมาจนได้...ว่ามีการเสนอเงื่อนไขที่อยู่นอกเหนืออำนาจคณะกรรมการคัดเลือก.... เช่น 1.ขอขยายเวลาอายุสัมปทานจากที่กฎหมายอีอีซีกำหนด 50 ปี ออกไปอีก 49 ปี รวมเป็น 99 ปี 2.ขอให้รัฐจ่ายเงินอุดหนุนตั้งแต่ปีแรกจากสัญญากำหนดปีที่ 6-15 เพื่อให้รัฐรับประกันการจ่ายเงินให้ก่อนที่จะมีการรับรู้รายได้ เพื่อจะได้นำโครงการไปกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยถูกลงได้ เนื่องจากโครงการมีความเสี่ยงสูง และขอให้รัฐหาดอกเบี้ยในอัตราที่เหมาะสมให้ 3.ขอปรับแบบก่อสร้างจากยกระดับเป็นทางระดับดินให้เหมาะสมในบางพื้นที่ เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้าง 4.ขอเลื่อนจ่ายค่าเช่าที่ดินสถานีมักกะสัน 150 ไร่ และสถานีศรีราชา 25 ไร่ ออกไปก่อน แต่จะบวกค่าดอกเบี้ยให้ด้วย จากที่ทีโออาร์กำหนดต้องจ่ายค่าแรกเข้าทันทีหลังเซ็นสัญญา และแบ่งจ่ายปีที่ 1-50 5.ขอเลื่อนจ่ายค่าสิทธิการเดินรถแอร์พอร์ตลิ้งค์ จำนวน 10,671 ล้านบาท ออกไปก่อน....

ล่าสุด นายวรวุฒิ มาลา รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกโครงการระบุว่า.... “จะพยายามให้การเจรจา ได้ข้อสรุปภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้....ซึ่งก็ออกได้หลายทาง....เช่นมีความเป็นไปได้ที่การเจรจากับกลุ่มซีพีจะได้ข้อสรุป และการนำไปสู่การลงนามในสัญญาก่อสร้าง....หรือยุติการเจรจาล้มการเจรจาไปเลย.... แต่หากการเจรจา ล้มไป ต้องมาจากความเห็นร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย ว่า การเจรจาไปต่อไม่ได้....แล้ว ร.ฟ.ท. ก็พร้อมที่จะเชิญ กลุ่มร่วมค้า BSR ซึ่งนำโดย BTS....เอกชนที่เสนอเงื่อนไขได้ในลำดับถัดไปมาเจรจา ”....

หลายฝ่ายมองว่าการเจรจาครั้งนี้ จะได้ข้อสรุปหรือไม่ มีรายงานระบุว่า จะขึ้นอยู่กับ กลุ่มซีพี จะยอมถอนเงื่อนไขเหล่านี้หรือไม่ ซึ่งล่าสุดวันนี้ คณะกรรมการ ก็ยังเปิดเจรจา กับกลุ่มซีพีอยู่...และก็มีอีกหลายส่วนเหมือนกันที่กังวลว่า...โครงการนี้ที่จะเป็นแรงดันสำคัญที่ทำให้อีอีซีประสบความสำเร็จ และเป็นตัวหลักในการสร้างความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสายตานักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ...จะต้องสะดุดหรือล่าช้าออกไปจนในที่สุดก็ไม่ได้เกิด....ก็หวังว่าอย่าเป็นเช่นนั้นเลย…

กระบองเพชร
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 20/02/2019 11:07 am    Post subject: Reply with quote

บีบ “ซีพี” ถอนข้อเสนอนอกกรอบรถไฟ 3 สนามบิน ชง กก.ชุดใหญ่ชีขาด 22 ก.พ.
หน้าคมนาคม-ขนส่ง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 18 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 20:17
ปรับปรุง: 19 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 11:49

อนุกรรมการเจรจารถไฟ 3 สนามบิน สรุปประเด็นเจรจา “ซีพี” ชง กก.คัดเลือกชี้ชะตา 22 ก.พ.ยันรับพิจารณาเฉพาะข้อเสนอในกรอบ RFP พร้อมให้เวลา “ซีพี” เจรจาพันธมิตร ยอมยกเลิกข้อเสนอนอกกรอบเพื่อปิดดีลร่วมกัน

วันนี้ (18 ก.พ.) คณะอนุกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ -อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. มูลค่า 224,544.36 ล้านบาท ที่มีนางพฤฒิพร เนติโพธิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นประธานได้ประชุม ครั้งที่ 3 โดยใช้เวลากว่า 6 ชม. ในการเจรจาต่อรองกับกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด (ซี.พี.)

โดยนางพฤฒิพรกล่าวภายหลังการประชุมว่า คณะอนุกรรมการ ได้เจรจาในข้อเสนอกลุ่มที่ 2 ซึ่งเป็นกลุ่มเจรจายาก โดยได้สรุปแล้ว และคณะอนุกรรมการฯจะนำรายงานต่อคณะกรรมการคัดเลือก ที่มีนายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการแทนผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นประธานซึ่งจะประชุมในวันที่ 22 ก.พ. เวลา 13.00 น. หลังจากนั้นจะแจ้งผลให้กลุ่มซีพี ทราบต่อไป

ทั้งนี้ แนวโน้มมีข้อยุติ แต่ข้อสรุปจะเป็นอย่างไร ต้องขึ้นกับการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกชุดใหญ่

โดยข้อสรุปผลจากการเจรจาทั้ง 3 ครั้งนั้น มีข้อเสนอที่คณะอนุกรรมการฯไม่รับพิจารณา เนื่องจากอยู่นอกเหนือจากข้อเสนอการร่วมลงทุน Request for Proposal (RFP) และบางข้อเสนอเห็นว่าสามารถรับไว้พิจารณาได้แต่จะต้องมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง เนื้อหาสาระบางอย่างเพิ่มเติม เช่น ถ้อยคำ เป็นต้น โดยยืนยันทุกข้อเสนอที่รับไว้พิจารณา จะต้องไม่เป็นการขัดกับ RFP และสุดท้ายจะต้องบรรลุข้อตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่ายด้วย

“ข้อเสนอที่อนุกรรมการเจรจาฯ ไม่รับพิจารณาเพราะอยู่นอก RFP ซึ่งเป็นข่าวไปหมดแล้ว ซึ่งทางซีพีจะยอมสละได้หรือไม่ด้วย เนื่องจากทางซีพียังขอเวลาไปปรึกษากับกลุ่มพันธมิตรที่ร่วมทุนซึ่งมีหลายกลุ่ม ก่อน และเนื่องจากทุนค่อนข้างสูง ดังนั้นการประเมินของทางซีพีต้องใช้เวลา ไปสอบถามผู้ร่วมทุนก่อน”

รายงานข่าวแจ้งว่า ข้อเสนอที่ไม่รับพิจารณา ได้แก่ ขยายเวลาก่อสร้างอีก 6 เดือนจากเดิม 5 ปี, ให้รัฐรับประกันผลตอบแทนโครงการหากไม่ถึง 6.75%, ขยายอายุสัมปทานจาก 50 ปี เป็น 99 ปี และขอให้รัฐจ่ายเงินอุดหนุนตั้งแต่ปีแรก เป็นต้น
https://www.thebangkokinsight.com/106277/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 20/02/2019 12:08 pm    Post subject: Reply with quote

ยังสรุปไม่จบ! โครงการรถไฟฟ้าเชื่อม3สนามบิน เลื่อนพิจารณา 22 ก.พ.นี้

วันจันทร์ ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562, 19.54 น.

18 ก.พ. 62 นางพฤฒิพร เนติโพธิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ว่าในการประชุมครั้งเป็นการประชุมคณะอนุกรรมการคัดเลือกครั้งที่ 3 มีการเจรจาเกี่ยวกับประเด็นเรื่องที่ยากแต่พอที่จะเจรจากันได้เจรจาได้ข้อสรุปในส่วนที่เป็นชุดที่ 2 ที่เป็นเรื่องเจรจายากได้มีการเจรจาจบหมดแล้วและทางคณะอนุกรรมการคัดเลือกฯจะนำข้อสรุปทั้งหมดที่ผ่านการเจรจามา 3 ครั้งมาสรุปผลให้คณะกรรมการคัดเลือกฯในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ซึ่งต้องผลการพิจารณาจากคณะกรรมการคัดเลือกฯอีกครั้ง เพราะในส่วนของคณะกรรมการเจรจาเพียงแต่เจรจาในส่วนของเสนอที่ไม่สามารถรับไว้พิจารณาได้บางข้อเสนอสามารถรับไว้พิจารณาได้แต่จะต้องมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมมีการปรับเนื่อหาสาระบางอย่าง รวมถึงทุกอย่างทุกข้อเสนอที่รับไว้พิจารณาจะต้องไม่กระทบขัดกับกรอบข้อเสนอโครงการ (RFP) และต้องบรรลุข้อตกลงร่วมกันทั้ง 2 ผ่าน



ทั้งในส่วนของข้อเสนอไว้พิจารณาได้มีพอสมควรแต่ไม่มากนัก โดยการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมต่อยอดการเจรจาของการประชุมเมื่อ 2 ครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในวันที่ 22 ก.พ.นี้จะสามารถสรุปทิศทางการดำเนินการต่อไปได้ส่วนแนวโน้มนั้นขึ้นอยู่ข้อเสนอที่ขัดต่อ RFP ทางเอกชนจะยอมปรับเปลี่ยนหรือไม่ ซึ่งทางเอกชนได้ข้อกลับไปปรึกษากลุ่มพันธมิตรก่อนเนื่องจากมีพันธมิตรหลายบริษัทและทุนในการดำเนินการสูงจึงต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณา
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 20/02/2019 9:50 pm    Post subject: Reply with quote

โยนเผือกร้อน”ไฮสปีดอีอีซี” ลุ้นCPตัดเงื่อนไข-เดิมพันถูกริบ2พันล้าน
พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 17:31 น.

เปิดผลเจรจา 28 ข้อเสนอกลุ่ม ซี.พี.แลกลงทุนไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน บอร์ดเล็กเร่งสรุป เสนอเคาะ 22 ก.พ. เผยรับพิจารณาบางเงื่อนไข ยังไม่ตอกเข็มก่อนอีไอเอผ่าน ส่งมอบพื้นที่แล้ว จ่ายค่าปรับคงที่ ลดสัดส่วนถือหุ้น ขยายเพดานกู้ ปล่อยเช่าช่วง MQDC รัฐเปิดช่องให้สละเงื่อนไขที่ขัดทีโออาร์ ย้ำหากเลิกกลางคัน ถูกริบแบงก์การันตี 2 พันล้าน ปิดดีล ก.พ.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2562 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะอนุกรรมการครั้งที่ 3 มีผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นประธานยกร่างรายละเอียดในสัญญาและพิจารณาข้อเสนอของกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร หรือกลุ่ม ซี.พี. ที่เสนอให้รัฐอุดหนุนต่ำสุด 117,227 ล้านบาท ประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน “ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา” 220 กม. มูลค่า 224,544 ล้านบาท หลังใช้เวลา 6 ชั่วโมง ได้ข้อยุติ 34 ข้อ ที่เสนอให้คณะกรรมการคัดเลือก โดยนางพฤฒิพร เนติโพธิ์ อธิบดีอัยการ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการ เปิดเผยว่า ในส่วนกรอบเจรจาที่ 2 ความยากที่ส่งผลกับภาพลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และร่างสัญญาได้เสร็จสิ้นแล้ว จะเสนอคณะกรรมการคัดเลือก 22 ก.พ.นี้ ซึ่งแนวโน้มมีข้อยุติ

“ผลเจรจา 3 ครั้งยืนยันว่าอนุกรรมการไม่รับข้อเสนอที่ขัดกับทีโออาร์ ที่รับได้ต้องแก้เนื้อหาบางอย่าง เช่น ถ้อยคำ ต้องดูท่าทีของกลุ่ม ซี.พี.ยอมสละได้หรือไม่”

รายงานข่าวแจ้งว่า สุดท้ายสกรีนเหลือ 28 ข้อ ในจำนวนนี้มีข้อเสนอซองที่ 4 ที่จบไปแล้ว แต่กลุ่ม ซี.พี.นำมารวมเจรจาด้วย บรรยากาศตลอด 6 ชั่วโมง เดิมคิดว่าอาจไม่ได้ข้อสรุป ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการคัดเลือกจะหาทางออกโครงการนี้อย่างไร กับข้อเสนอที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งแนบท้ายเสนอคณะกรรมการอีอีซีพิจารณา เพราะกลุ่ม ซี.พี.กลัวว่าหากเป็นฝ่ายยกเลิกเจรจาจะถูกริบแบงก์การันตี 2,000 ล้านบาทใน 28 ข้อ มีบางประเด็นที่พอเป็นไปได้ เช่น ให้ผู้ถือหุ้นรับผิดชอบโครงการตามสัดส่วนการถือหุ้น หากมีปัญหาสร้างไม่เสร็จ, ยังไม่ขอเริ่มงานก่อสร้างหากโครงการยังไม่ได้รับอนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และรถไฟส่งมอบพื้นที่ให้ไม่ได้, ขอเช่าช่วงที่ดินมักกะสัน-ศรีราชา ให้ บจ.แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) ซึ่งเป็นบริษัทลูกพัฒนา, ขอยกเว้นเพดานเงินกู้, จ่ายค่าปรับกรณีสร้างล่าช้า จากปรับรายวันเป็นแบบคงที่, ขอลดสัดส่วนการถือหุ้น


ส่วนข้อเสนอที่ไม่รับพิจารณา เช่น ขยายเวลาก่อสร้างอีก 180 วัน จากเดิมต้องเสร็จ 5 ปี, ให้รัฐรับประกันผลตอบแทนโครงการหากไม่ถึง 6.75%, ให้เจรจาบริษัทเป็นรายแรกขยายอายุสัมปทานหลังครบ 50 ปี อีก 49 ปี รวมเป็น 99 ปี,ให้รัฐจ่ายเงินอุดหนุนตั้งแต่ปีแรก, เลื่อนจ่ายค่าเช่าที่ดินมักกะสันและศรีราชาจนกว่ามีผลตอบแทนหรือได้รับมอบพื้นที่ครบ, ขอจ่ายค่าสิทธิเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์ปีที่ 6 เป็นต้นไป, ห้ามรัฐอนุมัติโครงการที่เป็นปฏิปักษ์ต่อโครงการ, ปรับรูปแบบเป็นทางระดับดิน, สร้างส่วนต่อขยายไประยอง, ย้ายจุดที่ตั้งสถานี, สร้างสเปอร์ไลน์เชื่อมเดินทาง

“ที่ ซี.พี.เสนอเงื่อนไขมาก เพราะต้องการปิดจุดเสี่ยง หลังบริษัทที่ปรึกษาระบุว่า ปริมาณผู้โดยสารต่ำกว่าที่การรถไฟฯศึกษาไว้ถึง 50%”

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการผู้ว่าการร.ฟ.ท. เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ระดับความยากในการเจรจาผ่านไปแล้ว จะสรุปแจ้งให้กลุ่ม ซี.พี.ทราบต่อไป เดดไลน์จะให้ยุติสิ้นเดือน ก.พ.นี้ เพื่อเซ็นสัญญา มี.ค.ตามที่บอร์ดอีอีซีกำหนด ซึ่งอยู่ที่เอกชนจะถอนหรือไม่ถอนข้อเสนอที่เป็นไปได้ยาก
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 21/02/2019 3:54 pm    Post subject: Reply with quote

ทุกขลาภ “ซี.พี.” ปักธง “ไฮสปีด” รับเสี่ยง 50 ปี แลกเงื่อนไขพิเศษ
พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 07:37 น.


กำลังเป็นที่จับตาไม่แพ้สนามเลือกตั้งที่กำลังร้อนฉ่าสำหรับเมกะโปรเจ็กต์รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา มูลค่า 224,544 ล้านบาท

ที่รัฐบาลทหารพยายามแจ้งเกิดหวังจุดพลุการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หลัง “กลุ่ม ซี.พี.” ที่เสนอวงเงินให้รัฐสนับสนุนต่ำสุด 117,227 ล้านบาท ผ่านซอง 3 ลิ่วเข้าสู่การเจราจาในซองที่ 4 มีข้อเสนอที่เป็นไปได้ยากให้คณะกรรมการคัดเลือกโครงการพิจารณา

การเจรจาเริ่มต้นเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงนาทีนี้ยังไร้วี่แววจะได้ข้อยุติและมีแนวโน้มจะเป็นหนังม้วนยาวไม่ทันเดดไลน์ที่กำหนดสิ้น ก.พ. เพื่อไปสู่การเซ็นสัญญาเดือน มี.ค.นี้ อย่างที่บิ๊กรัฐบาลตั้งเป้า

จากท่าที “กลุ่ม ซี.พี.” ที่ดูเหมือนยังไม่ยอมลดเงื่อนไขตลอดการเจรจาที่ผ่านมา มีการตั้งคำถาม ทำไม “กลุ่ม ซี.พี.” ที่รู้เต็มอกสารพัดเงื่อนไขที่อยู่นอกทีโออาร์ มติคณะรัฐมนตรีและอำนาจคณะกรรมการจะไม่ได้รับเซย์เยส จึงยังยื้อนำมาเป็นข้อเสนอในวงเจรจาตลอด จนส่งผลให้โครงการจากเร็วกลายเป็นช้า

ขณะเดียวกันเริ่มมีเสียงลือสะพัด หมากกระดานประมูลกำลังกลายเป็นเกมแห่งศึกศักดิ์ศรีระหว่าง “เจ้าสัวซี.พี.” กับ “เจ้าพ่อรถไฟฟ้าบีทีเอส”

บ้างก็ว่า “กลุ่ม ซี.พี.” กำลังจะทิ้งทุ่นโปรเจ็กต์ 2 แสนล้าน หลังดัมพ์ราคาต่ำเพดาน จนยากที่จะเดินหน้าโครงการให้ไปต่อได้ ในเมื่อสิ่งที่ขอเพิ่มหวังปิดจุดเสี่ยงของโครงการไม่ได้รับการตอบรับ เนื่องจากกลุ่ม ซี.พี.ต้องหาเงินทุนก้อนใหญ่ร่วม ๆ 2 แสนล้านมาก่อสร้างและจ่ายให้รัฐบาลทันทีหลังเซ็นสัญญา ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลก

จึงอาจทำให้สถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้ให้โดยง่าย แต่ที่พยายามเจรจาก็เพื่อหาทางลงที่สวยงามให้สมกับศักดิ์ศรีบริษัทยักษ์ใหญ่แถวหน้าของประเทศไทย ที่สำคัญไม่อยากจะถูกยึดเงินมัดจำ 2,000 ล้านบาท หากเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อน

ขณะที่อีกกระแสระบุว่า “กลุ่ม ซี.พี.” ไม่น่าจะถอดใจง่าย ๆ แต่กำลังใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดเกลี้ยกล่อมคณะกรรมการให้เห็นพ้องกับเงื่อนไขพิเศษที่เสนอให้สุดทาง แม้จะเจอทางตัน แต่กำลังหาช่องดันไปให้ถึงเส้นชัย

ในเมื่อโปรเจ็กต์นี้ “เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์” หมายมั่นปั้นมือไว้ตั้งแต่ปี 2558 นับแต่ก้าวแรกที่รัฐบาล คสช.เข้ามาบริหารประเทศ หากจำได้ช่วงเวลานั้น “บิ๊กตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีดึงเจ้าสัวเมืองไทยลงทุนรถไฟความเร็วสูง เพราะมีเงินทุนจะสร้างโครงการที่ใช้เงินลงทุนมหาศาล

ฝั่ง “เจ้าสัว ซี.พี.” ก็ออกข่าวเด้งรับนายกฯบิ๊กตู่ว่ามาขอให้ช่วยสร้างรถไฟความเร็วสูง และมีการตั้งทีมงานศึกษาโครงการโดยเฉพาะ จนสุกงอม ผนึกพันธมิตรไทยและต่างชาติเสนอตัวเข้าประมูล

แหล่งข่าวจากกลุ่ม ซี.พี.กล่าวว่า ยังอยู่ในขั้นตอนเจรจา ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ ต้องรอให้ได้ข้อสรุปก่อน เนื่องจากเป็นโครงการที่รัฐและเอกชนร่วมลงทุนกัน สิ่งที่ปรากฏเป็นข่าวอาจจะไม่มีอยู่เลยในสัญญาก็ได้ ขอยืนยันว่ากลุ่ม ซี.พี.ทำดีที่สุดแล้วเพื่อเป็นประโยชน์ของประเทศ

ขณะที่ผลการเจรจาล่าสุดหลังคณะกรรมการคัดเลือกโครงการมี นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟฯเป็นประธาน ยุติข้อเสนอซองที่ 4 ที่กลุ่ม ซี.พี.ยื่น 11 ข้อ ที่เป็นกลุ่มยาก โดยรับได้ 3 ข้อ ได้แก่ พัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศด้านระบบราง ตั้งโรงงานประกอบรถไฟฟ้า พัฒนาโครงการร่วมกับชุมชน ปัดตก 8 ข้อเสนอที่อยู่นอกอำนาจและทีโออาร์

ล่าสุดอนุคณะกรรมการมีผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นประธาน กำลังเจรจาข้อเสนอเพิ่มเติมกลุ่มยากปานกลางและกระทบต่อภาพลักษณ์ของรถไฟที่ “กลุ่ม ซี.พี.” เสนอมากว่า 200 หน้า เพื่อยกร่างเป็นเงื่อนไขในสัญญา

รายงานข่าวแจ้งว่า การเจรจามี 34 ข้อ เจรจาแล้ว 7 ข้อ มีบางประเด็นที่อนุกรรมการพิจารณาแล้วพอจะเป็นไปได้ เช่น ให้ผู้ถือหุ้นรับผิดชอบโครงการตามสัดส่วนการถือหุ้น หากโครงการมีปัญหาสร้างไม่เสร็จ, ยังไม่ขอเริ่มงานก่อสร้างหากยังไม่ได้รับการอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และส่งมอบพื้นที่, เพิ่มกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย, ขอปล่อยเช่าช่วงที่ดินมักกะสัน-ศรีราชาให้ บจ.แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทลูกพัฒนา, ขอรัฐขยายเพดานเงินกู้ให้กับรายใหญ่ เป็นต้น

ส่วนข้อเสนออื่น ๆ ที่ไม่รับพิจารณาได้ เช่น ขยายเวลาก่อสร้างอีก 6 เดือนจากเดิมแล้วเสร็จ 5 ปี, จ่ายค่าปรับแบบตายตัวจากเดิมเป็นรายวัน, ให้รัฐรับประกันผลตอบแทนโครงการหากไม่ถึง 6.75%, ให้เจรจาบริษัทเป็นรายแรกเมื่อครบสัมปทาน 50 ปี โดยขอขยายอีก 49 ปี รวมเป็น 99 ปี ให้รัฐจ่ายเงินอุดหนุนตั้งแต่ปีแรก, เลื่อนจ่ายค่าเช่าที่ดินมักกะสันและศรีราชาจนกว่าจะมีผลตอบแทนหรือได้รับส่งมอบพื้นที่ครบ, ขอจ่ายค่าสิทธิเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์ในปีที่ 6 เป็นต้นไปพร้อมดอกเบี้ย 3%, ห้ามรัฐอนุมัติโครงการที่เป็นปฏิปักษ์ต่อโครงการทำให้เกิดการแข่งขัน, ปรับรูปแบบบางช่วงจากยกระดับเป็นทางระดับดิน

ส่วนการสร้างส่วนต่อขยายไประยอง ย้ายจุดที่ตั้งสถานีและสร้างสเปอร์ไลน์ ยังไม่ถึงเวลาที่จะนำมาพิจารณาในขณะนี้เพราะเป็นเงื่อนไขที่สามารถขออนุญาตจากการรถไฟฯได้ ส่วนใหญ่เป็นข้อเสนอที่เกี่ยวพันมาจากซองที่ 4 ที่แตกเป็นรายละเอียดปลีกย่อยออกมาเพื่อกำหนดไว้ในสัญญา ซึ่งคณะอนุกรรมการจะพิจารณาว่าข้อไหนรับได้ไม่ได้

“หากกลุ่ม ซี.พี.ยังไม่ถอนเงื่อนไขที่ผิดหลักการโครงการทีโออาร์ มติ ครม.มีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่ได้รับการคัดเลือก แม้จะเสนอให้รัฐอุดหนุนน้อยที่สุดก็ตาม แต่การเจรจาจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อ ซี.พี.ขอยุติเอง”

ทางออกของโครงการคณะกรรมการคัดเลือกกำหนดไว้แต่แรกแล้ว เพื่อไม่ให้โครงการต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ หากเจรจากับกลุ่ม ซี.พี.ไม่สำเร็จจะเชิญรายที่ 2 คือ กลุ่ม BSR ประกอบด้วย บมจ.บีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง มาเจรจาต่อไป

หากสุดท้ายคณะกรรมการคัดเลือกเชิญกลุ่ม BSR มาเจรจา ก็มีคำถามตามมาว่าจะลดวงเงินให้รัฐอุดหนุนจาก 169,934 ล้านบาทที่สูงกว่ากรอบวงเงินที่ ครม.อนุมัติไว้ 119,425 ล้านบาท จำนวน 50,509 ล้านบาทหรือไม่เพราะถึงแม้จะไม่มีข้อเสนอเป็นเงื่อนไขพิสดารหมือนกลุ่ม ซี.พี. แต่รัฐก็ต้องควักเพิ่มกว่า 5 หมื่นล้านบาท

ส่วนข้อเสนอซองที่ 4 เป็นข้อเสนอเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการ ที่ “กลุ่มบีทีเอส” เสนอจะเหมือนการลงทุนส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง จะสร้างต่อขยายจากอู่ตะเภา-ระยอง 40 กม. โดยจะเจรจากับรัฐถึงการลงทุนและผลตอบแทน รวมถึงเพิ่มจุดจอดรถไฟความเร็วสูงที่สถานีพญาไทด้วย

อยู่ที่นายใหญ่ “คีรี กาญจนพาสน์” เจ้าพ่อรถไฟฟ้าเมืองไทย จะใจใหญ่กัดฟันลดวงเงินหรือใจดีไม่รับเงินอุดหนุนใด ๆ จากรัฐเลย แค่ให้รัฐการันตีผลตอบแทนโครงการให้อย่างเดียว

ขณะเดียวกันก็เดาใจ “เจ้าสัว ซี.พี.” ลำบาก จะลงเอยอย่างไรในวินาทีสุดท้าย เมื่อโปรเจ็กต์ที่วาดฝันไว้สวยหรูกลายเป็นทุกขลาภไปโดยปริยาย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 21/02/2019 8:18 pm    Post subject: Reply with quote

ไฮสปีด 3 สนามบิน เจรจาอย่างไรให้ Win-Win ทั้ง 2 ฝ่าย

โดย ไทยรัฐออนไลน์
21 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 11:34 น.

การเจรจาโครงการรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อม 3 สนามบิน คือ การหาทางออกที่ดีกับทุกฝ่าย ทั้งรัฐบาลและเอกชน แต่ถ้าจบไม่ลง การมาเจอกันตรงกลางน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสม...

“ธุรกิจใดๆ ในโลกนี้ ถ้าทำแล้วผลตอบแทนไม่ชนะดอกเบี้ยเงินกู้..ธุรกิจนั้นย่อม "ทำไม่ได้"!!

การเจรจาเรื่องสัญญาโครงการ ไฮสปีดเทรน หรือ รถไฟความเร็วสูงที่เชื่อม 3 สนามบิน ที่ดูเหมือนกับทำท่าจะเจอทางตัน ซึ่งอาจจะต้องรื้อทิ้งแล้ว นำกลับมาประมูลกันใหม่ ถ้าทั้ง ซีพี และ บีทีเอส รับความเสี่ยงจาก ทีโออาร์ ที่เขียนออกมาแตกต่างไปจากมาตรฐานสากล ที่ดูแล้วฝั่งเอกชนจำต้องรับความเสี่ยงสูงนั้น

ข้อมูลจากแหล่งข่าวในกลุ่มซีพี ระบุว่า หากดูจากข้อเสนอผู้เข้าประมูลทั้งสองรายนั้น มีเหตุผลที่น่าฟังทั้งคู่ ในด้านซีพีเองก็หวังให้รัฐออกเงินน้อยที่สุดและอยู่ในกรอบที่รัฐบาลอนุมัติวงเงิน แต่จะทำได้ ซีพีก็ไปศึกษามาว่า ดอกเบี้ยต้องถูกและต้องลดความเสี่ยงโครงการหลายด้าน หากทำได้ก็จะทำให้รัฐออกเงินน้อย

ส่วนบีทีเอส ก็มองอีกแบบ โดยมองว่า เสนอเกินกรอบวงเงินที่รัฐบาลอนุมัติไปแต่แรก โดยเอาความเสี่ยงบวกเป็นเงินที่รัฐต้องสนับสนุนไปเลยแต่แรก ทำให้เอกชนกู้น้อยภาระน้อยกว่า แต่ไม่ว่าใครมาทำ ต้องเป็นการเจรจาที่ Win Win คือทั้งคู่เจรจาพึงพอใจ และมั่นใจว่า โครงการจะสำเร็จ เพราะหากซีพีได้ ก็ต้องเจรจาในรายละเอียดเงื่อนไขให้จบ แต่ถ้าบีทีเอสได้ ก็ต้องคุยกันว่าจะลดเงินสนับสนุนภาครัฐมาอยู่ในกรอบทีโออาร์ได้อย่างไร?

จากโจทย์ที่รัฐบาลให้คือ ใครให้รัฐสนับสนุนน้อยสุด คนนั้นชนะ!!

โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีการประมาณการการลงทุนอยู่ที่ 224,544 ล้านบาท โดยซีพีเลือกให้รัฐออกตังค์น้อยที่ 117,227 ล้านบาท ทำให้ซีพีต้องกู้เงินมาทำโครงการถึง 107,317 ล้านบาท ภาระจึงไปอยู่ที่ซีพีที่ต้องกู้เงินจำนวนมาก

ในขณะที่บีทีเอส เลือกทางเลือกที่สองคือ ให้รัฐออกตังค์เยอะ ทำให้ภาระเอกชนที่ต้องกู้เงินน้อย โดยบีทีเอส เสนอให้รัฐออกเงินอุดหนุนที่ 169,934 ล้านบาท เกินกว่ากรอบวงเงินสูงสุดที่รัฐอนุมัติ ทำให้บีทีเอสต้องกู้จากธนาคารอยู่ที่ 54,610 ล้านบาท แล้วสองทางเลือกต่างกันอย่างไร คือ หากรัฐอยากออกเงินสนับสนุนต่ำสุด ก็ต้องช่วยสนับสนุนเงื่อนไข เพื่อลดความเสี่ยงโครงการ เพื่อได้ดอกเบี้ยที่ดี และร่วมการันตีความสำเร็จโครงการ เอกชนก็จะสามารถกู้เงินธนาคารเป็นแสนล้านบาทได้!!!

แต่ถ้ารัฐเลือกออกเงินมาก โดยรัฐออกเองถึงกว่า 1.7 แสนล้าน เอกชนกู้เองเพียงแค่ 5.4 หมื่นล้าน ปัญหาจากการกู้เงินก็จะน้อยกว่ามาก โดยเมื่อกู้ไม่มาก ธนาคารก็ไม่ต้องการหลักประกันมากนัก เงื่อนไขก็อาจน้อยกว่า แต่รัฐก็แค่ต้องออกเงินมากกว่า

แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้การเจรจายืดเยื้อ คือ รัฐจะเอาราคาต่ำด้วย แต่ก็ไม่ร่วมรับความเสี่ยง ทำให้ในมุมมองธนาคาร เอกชนรับความเสี่ยงสูงมาก จึงยากในการหาแหล่งทุน เพราะเมื่อประเมินความสำเร็จโครงการกับความเสี่ยงแล้ว แหล่งเงินทุนและพันธมิตรที่มาร่วมลงทุนต่างหนักใจ เพราะหากคิดว่าจะไปตายเอาดาบหน้า คงจะซ้ำรอยโฮปเวล สู้เอาความเป็นไปได้โครงการเป็นที่ตั้งจะดีที่สุด

ต้องมาลุ้นกันว่า การเจรจาจะจบลงอย่างไร แต่ที่แน่ๆ คือ การเจรจา คือการหาทางออกที่ดีกับทุกฝ่าย ไม่ใช่หาผู้แพ้ หรือผู้ชนะ แต่ถ้าจบไม่ลงจริงๆ การมาเจอกันที่ตรงกลาง ก็อาจเรียกว่าเป็นทางออกสำหรับทุกฝ่าย.

บนผลประโยชน์ของชาติ

โดย หมัดเหล็ก mudlek@thairath.co.th
18 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 05:01 น.

การเจรจาไฮสปีดเทรน รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ทำท่าจะเจอทางตัน ซึ่งอาจจะนำไปสู่การเปิดประมูลกันใหม่ ถ้าทั้ง ซีพี และ บีทีเอส รับความเสี่ยงจาก ทีโออาร์ ที่มีหลายส่วนแตกต่างจากมาตรฐานสากล ทุกอย่างก็จะกลับมาสู่จุดเริ่มต้นทันที

ภายใต้ความรับผิดชอบของ การรถไฟแห่งประเทศไทย การผ่าทางตันมีอยู่ทางเดียวคือ การแก้ไขทีโออาร์ เปิดช่องทางให้หายใจและมีทางแก้ไขที่จะเดินหน้าโครงการต่อไปได้

จากการรวบรวมการศึกษาจาก ทีโออาร์ในหลายประเทศ ที่รวมข้อดีทำให้รัฐได้เปรียบ แต่ในทางกลับกันก็ทำให้เกิดความเสี่ยงสูง ที่จะตกไปอยู่กับผู้เข้าร่วมประมูล ทำให้นักลงทุนจากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น จีน หรือ ญี่ปุ่น รวมทั้งยุโรป พากันถอยไปตั้งหลักใหม่

งานนี้ต้องยอมรับความจริงว่า ภาระความเสี่ยงตกอยู่กับภาคเอกชนสูงมาก และน่าเห็นใจทุกฝ่าย เพราะต่างก็มีความปรารถนาดีที่จะช่วยประเทศ

อย่างไรก็ตาม หากทีโออาร์ฉบับนี้ไม่มีทางออกให้กับผู้เข้าประมูล ก็จะต้องย้อนกลับไปเริ่มต้นการประมูลกันใหม่อีกครั้ง ทำให้โครงการต้องล่าช้าออกไป

บนเงื่อนไขที่ว่า ภาระทางการเงินจะขึ้นอยู่กับฝ่ายไหนมากกว่ากัน ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เนื่องจากโครงการนี้ใช้งบประมาณในการก่อสร้างที่ 224,544 ล้านบาท โดย เป็นภาระของรัฐ ที่ 117,227 ล้านบาท ที่เหลืออีก 107,317 ล้านบาท ซีพี จะต้องกู้มาดำเนินการเอง

ในขณะที่ บีทีเอส เลือกข้อเสนอให้ รัฐออกเงินอุดหนุนที่ 169,934 ล้านบาท เกินกว่ากรอบวงเงินสูงสุดที่รัฐอนุมัติ เป็นส่วนที่ บีทีเอส ต้องกู้จากธนาคาร ที่ 54,610 ล้านบาท

ความแตกต่างก็คือ ถ้ารัฐอยากออกเงินสนับสนุนต่ำ ก็ต้องช่วยสนับสนุนเงื่อนไขลดความเสี่ยงของโครงการ เพื่อการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารลดลงและการันตีความสำเร็จของโครงการ

แต่ถ้า รัฐเลือกที่จะออกเงินมาก การกู้เงินที่มีจำนวนน้อยลงก็จะไม่มีปัญหา เมื่อเอกชนกู้ไม่มาก ธนาคารก็ไม่ต้องใช้หลักประกันมาก เงื่อนไขต่างๆก็น้อยลงด้วย

หรือถ้ารัฐต้องการจ่ายเงินอุดหนุนที่ต่ำและไม่ร่วมรับความเสี่ยง ทำให้ ภาคเอกชนและธนาคาร รับความเสี่ยงสูงมาก ทำให้การหาแหล่งทุนได้ยาก ท้ายที่สุดก็คงจะซ้ำรอย โฮปเวลล์ อีกรอบ

เรื่องนี้จะจบลงอย่างไร ยังไม่มีคำตอบ อย่างไรก็ตามทุกอย่างจะต้องคำนึงถึงผลได้ผลเสียระยะยาวของประเทศ ทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย ไม่ใช่หาคนแพ้คนชนะ พบกันคนละครึ่งทางจะเป็นการผ่าทางตันได้ดีที่สุด.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 21/02/2019 8:39 pm    Post subject: Reply with quote

ทางสองแพร่งซีพี “เลิก-จำใจเดินต่อ”รถไฟความเร็วสูง
โดย... ฅนไท
21 กุมภาพันธ์ 2562

ต้องชื่นชมกรรมการพิจราณาข้อเสนอรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)ทั้ง 7 คน อันประกอบด้วย

วรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่า รฟท. (ประธาน),ภูษิต ชัยฤทธิ์พงศ์ ผู้แทนคมนาคม,ธาริศร์ อิสระยั่งยืน ผู้แทนอีอีซี,วิเชียร สุดรุ่ง ผู้แทนอัยการสูงสุด,กนกรัตน์ ขุนทอง ผู้แทนสำนักงบประมาณ,พิมเพ็ญ ลัดพลี ผู้แทน สบน.และสุจิตต์ เชาวน์ศิริกุล ผู้แทน รฟท. กรรมการและเลขานุการ ที่ยึดมั่นในหลักเกณฑ์ (TOR) ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท) ประกาศเป็นเงื่อนไขในการให้เอกชนยื่นข้อเสนอ

กลุ่ม CP ซึ่งได้รับการคัดเลือกด้วยข้อเสนอที่ดีที่สุด สำหรับรัฐ เมื่อ 12 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ด้วยการเสนอให้รัฐสนับสนุนต่ำที่สุดที่ 117,227 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ 119,425 ล้านบาท (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561) แต่ตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือนที่ผ่านมา กลุ่ม CP ได้เสนอเงื่อนไขเพิ่มเติมถึง 11 ข้อ และเป็นเงื่อนไขที่เกิน TOR จนถูกสังคมและสื่อมวลชนตั้งข้อสังเกต มาตลอด และการตั้งข้อสังเกตนั้นมีน้ำหนักกว่า “พลังพิเศษ” ที่จะช่วยผลักดันให้คณะกรรมการพิจารณาข้อเสนอโอนอ่อนผ่อนตาม

ขณะนี้จึงเหลือเพียง 2 ทางเลือกที่กลุ่ม CP พึงต้องเดิน นั่นคือ ทางเลือกแรกจำใจต้อง “กลืนเลือด” ดำเนินการตามข้อเสนอ ที่คนในวงการรับเหมาเชื่อว่า ข้อเสนอของ CP มีโอกาส ”ไม่คุ้มทุน” สูง ยกเว้น กลุ่ม CP จะไปได้กำไรจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งมักกะสันและฉะเชิงเทรา หรือตลอดแนวรถไฟความเร็วสูงผ่าน

ทางที่ 2 คือ “ถอย” ไม่ยอมเข้าทำสัญญากับการ รฟท.ในโครงการนี้ ซึ่งหากเลือกทางนี้ในฐานะผู้ได้รับการคัดเลือกและถอย จะถูกริบหลักประกันมูลค่า 2 พันล้านบาท ที่ใช้วางขณะยื่นข้อเสนอ เพราะถือว่าทำรัฐเสียหายและเสียเวลากับการพิจารณาและเจรจาข้อเสนอ

ดังนั้นเวลาที่รัฐบาลขีดเส้นให้ภายในเดือนกุมภาพัน ธ์หรืออย่างมากไม่เกินกลางเดือนมีนาคม กลุ่ม CP ต้องตัดสินใจว่าจะเดินอย่างไร บางทีการยอมขาดทุนจากข้อเสนอของตัวเองอาจดีกว่า “ถอย” แล้วถูกขึ้นบัญชีดำ ห้ามเข้าประมูลงานของรัฐอีกตลอดไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 22/02/2019 3:26 am    Post subject: Reply with quote

ข่าวห้ามเขียน : ไอ‘คุก คุ้ก’
คอลัมน์ : ข่าวห้ามเขียน
โดย : พรานบุญ
ออนไลน์เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2562
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3445 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 17-20 กุมภาพันธ์ 2562

เรื่องราวของการประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่าลงทุน 2.2 แสนล้านบาท ที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ทุ่มทุนสร้าง กำลังพลิ้วไหวอึกทึกครึกโครม...การเจรจาเงื่อนไขพิเศษกับผู้ชนะการประมูลมา 4-5 รอบ ต้องบอกว่า ระทึกในฤทัย ยิ่งนัก

อย่าว่าแต่ คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกที่ถูกแต่งตั้งมาเจรจาต่อรองกับกลุ่มกิจการร่วมค้าเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี)ที่ชนะการประมูลในราคาตํ่าสุด 117,227 ล้านบาท และกำลังต่อรองใน “ซองพิเศษ” ไล่ตั้งแต่ วรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชยธรรม์ พรหมศร ผู้แทนกระทรวงคมนาคม ธาริศร์ อิสสระยั่งยืน ผู้แทน อีอีซี พฤฒิพร เนติโพธิ์ ผู้แทนอัยการสูงสุด กนกรัตน์ ขุนทอง ผู้แทนสำนักงบประมาณ พิมพ์เพ็ญ ลัดพลี ผู้แทนสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สุจิตต์ เชาวน์ศิริกุล ผู้แทน รฟท. กรรมการและเลขานุการ รวม 7 คน จะนอนสะดุ้ง เหมือนทุ่งสะเทือน...

เพราะผลีผลามตกลงในข้อเสนอที่ “เป็นเงื่อนไขกับรัฐ” ไปเมื่อใด...เสียงไอคุกๆ....จะมาถามหาถึงเรือนชาน เมื่อใดไม่มีใครรู้...

แม้แต่ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม

พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว. พลังงาน อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข

เดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สุพันธ์ุ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย


พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ และคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ อีอีซี ซึ่งเป็นกรรมการ ต่างก็เกิดอาการหนาววววว...

หนาวขนาดว่า มีรัฐมนตรีนํ้าดีที่เป็นบอร์ด กพอ.โดยตำแหน่ง สั่งการไปยังลูกน้องที่เป็นคณะกรรมการคัดเลือกว่า “เอร้ย...มรึง เจรจาตกลงกับทางกลุ่มซีพีกันให้ดีๆนะเฟ้ย...อย่าเอาปัญหามาโยนให้บอร์ด กพอ.ตัดสินชี้ชะตานะเฟ้ย...ไม่งั้นตรูเอาตาย”

หนาวขนาดว่า รัฐมนตรีบางคนในบอร์ด กพอ.บอกกะนายพรานว่า “ถ้าเขาเจรจาแล้วตกลงกันไม่ได้ เสนอเรื่องเข้ามาให้บอร์ด กพอ.พิจารณา ผมกำลังตัดสินว่า จะไม่เข้าร่วมประชุม”

นายพรานซักต่อไปว่า เพราะอะไรขรั่บนายท่าน...“ข้ากลัวคุกว่ะ ไอ้พรานเอร้ย...มาตรา 157 นั่นมันหนักหนาเสียด้วยสิ ขืนไปรับเงื่อนไขที่เอกชนเสนอมา...ตายห่ะแน่...”

“ข้อเสนอพิเศษของเอกชน ล้วนแล้วแต่ชวนขนลุก ขยายสัมปทานจาก 50 ปี เป็น 99 ปีงี้ ให้ภาครัฐจ่ายเงินอุดหนุนโครงการ ตั้งแต่ปีแรกที่เปิดวิ่งงี้ การันตีกำไร 6% งี้”...ขนลุก แต่เจรจาตกลงกันได้ก็ต้องบอกว่าสุดยอด...

อาจด้วยบรรยากาศมาคุเป็นเยี่ยงนี้ ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จึงสั่งการให้ “วรวุฒิ มาลา”เร่งดำเนินการให้เร็วขึ้น ที่ผ่านมายืดเยื้อเกินไปแล้ว รฟท.ต้องรีบหาข้อสรุปโดยเร็ว....

ข่าวล่ามาเร็วบอกว่า วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ จึงมีการนัดประชุมคณะกรรมการคัดเลือกโครงการอีกรอบ และเรียกกลุ่มซีพีเข้าเจรจาต่อรองเป็นครั้งสุดท้าย

หากเจรจาผลประโยชน์ในการลงทุนและผลตอบแทนที่รัฐต้องจ่ายคืนเอกชนไม่ลงตัวในรอบนี้ นายพรานอย่างข้าฯแว่วมาว่าจะเปิดฉากเจรจากับรายที่ 2 คือ กลุ่มบีทีเอส ที่เสนอราคาไว้ 169,934 ล้านบาท แบบคู่ขนานกันทันที...

กะว่าเดือนกุมภาพันธ์นี้งานลุล่วง...รอลุ้น...ระทึก!
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 308, 309, 310 ... 545, 546, 547  Next
Page 309 of 547

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©