ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)

Wisarut · Posted: 05/03/2019 11:54 am Post subject:

"ซีพี"ขอเลื่อนเจรจาไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน
จันทร์ที่ 4 มีนาคม 2562 เวลา 18.25 น.

ซีพี ส่งหนังสือ แจ้งขอเลื่อนการประชุมจากวันที่5มี.ค.เป็นสัปดาห์หน้า เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการหารือกับพันธมิตรผู้ร่วมทุน โดยส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) กล่าวว่า หลังจากที่การรถไฟฯได้ส่งหนังสือแจ้งผลการประชุมของคณะกรรการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3 สนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ) หรืออีอีซี งบประมาณ 2.24 ล้านบาท ที่ได้พิจารณาข้อเสนอของกลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่ม CP) หรือ ซีพี หลังจากวันที่22ก.พ.คณะกรรมการฯได้ปฎิเสธข้อเสนอไปทั้งหมด 12ข้อซึ่ง เป็นประเด็นหลักและเป็นหัวใจสำคัญ จากข้อเสนอทั้งหมด จำนวน 100 ข้อ เพื่อมาให้รับทราบผลในวันที่ 5มี.ค.นี้

นายวรวุฒิกล่าวต่อว่า ซึ่งล่าสุดทางซีพี ส่งหนังสือ แจ้งขอเลื่อนการประชุมจากวันที่5มี.ค.เป็นสัปดาห์หน้า เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการหารือกับพันธมิตรผู้ร่วมทุน โดยส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ แต่ทางซีพีตอบรับว่าภายในสัปดาห์หน้า หากได้คำตอบจากพันธมิตร จะเจรจาต่อ ซึ่งต้องสรุปอีกครั้งว่าผลการเจรจาจะเป็นอย่างไร ซึ่งหากทางซีพีไม่สามารถยอมรับการปฎิเสธขอเสนอที่ทางคณะกรรมการแจ้งไป ก็ต้องยุติการเจรจา หลังจากนั้นคณะกรรมการคัดเลือกจะเชิญเอกชนรายต่อไปมาเจรจา โดยเริ่มขั้นตอนในการเปิดซองที่4 เจรจากันต่อตามขั้นตอน

รถไฟ‘ไทย-จีน’คุยกันไม่ลงตัว เลื่อนเซ็น‘สัญญา2.3’ไปเดือนเมษาฯ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
วันอังคาร ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงโครงการรถไฟไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร เงินลงทุน 179,412 ล้านบาท ว่า จะมีการลงนามสัญญาที่ 2 ตอนสีคิ้ว-กุดจิก วงเงิน 3,300 ล้านบาท กับเอกชน (บริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด) ในวันที่ 6 มีนาคม 2562 นี้

ขณะที่สัญญาก่อสร้างที่เหลืออีก 12 สัญญา มูลค่ามากกว่า 100,000 ล้านบาทนั้น จะทยอยแบ่งการลงนามสัญญาเป็น 2 ช่วง กลุ่มแรก 5 สัญญา รวม 111 กิโลเมตร ลงนามภายในเดือนมิถุนายนนี้ ขณะที่อีก 7 สัญญา จะลงนามภายในเดือนกรกฎาคม มีกำหนดเริ่มก่อสร้างภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

รมว.คมนาคม กล่าวอีกว่า ในส่วนของสัญญา 2.3 ซึ่งงานระบบราง ระบบไฟฟ้า และเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากรนั้น ในการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการรถไฟไทย-จีน ทางฝ่ายจีนได้ประเมินค่าก่อสร้างใหม่ก่อนปรับเพิ่มค่าก่อสร้างจากเดิมวงเงินสัญญานี้อีกประมาณ 7,000 ล้านบาท หรือจากเดิมประมาณ 38,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 45,000 ล้านบาท

โดยประเด็นดังกล่าวทำให้ไทยกับจีน ยังไม่สามารถลงนามร่วมกันได้เนื่องจากมีรายละเอียดที่ต้องเจรจาอีก คาดว่าจะเลื่อนกรอบลงนามไปเป็นช่วงเดือนเมษายน 2562 โดยฝ่ายจีนยังคงยืนยันเสนอราคามากกว่ากรอบวงเงิน 45,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีประเด็นการประกันการันตีงานระบบราง ระบบไฟฟ้า และเครื่องกล ฯลฯ ที่ยังคงตกลงกันไม่ได้เช่นกัน โดยไทยต้องการให้จีนการันตีตามหลักสากลคือ อายุ 2 ปี แต่ทางฝ่ายจีนกลับมีข้อแม้ว่าหากขยานการันตีเป็น 2 ปี วงเงินสัญญาก็ต้องเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งทางฝ่ายไทยตอบกลับไปว่าหากสินค้าดีจริงทำไมอายุประกันแค่ 1 ปี และยังต้องคำนึงถึงเรื่องความคุ้มค่าในการลงทุนและราคาค่าโดยสารที่ประชาชนรับได้ด้วย ส่วนเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีเชื่อว่าฝ่ายจีนจะดำเนินการช่วยเหลืออย่างจริงใจเพราะเป็นสัญญาความร่วมมือระหว่างรัฐบาล

ส่วนวงเงินลงทุนในสัญญา 2.3 นั้นคงใช้การลงทุนโดยเงินกู้จากจีน โดยทางกระทรวงการคลังจะพิจารณากู้เงินประมาณ 85% ของวงเงินลงทุน โดยที่ทางไทยยืนยันรับดอกเบี้ยได้ที่ไม่เกิน 3% ต่อปี

รมว.คมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้ารถไฟเส้นทาง ไทย-สปป.ลาว-จีน ว่า ที่ประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย ระหว่างไทย-สปป.ลาว-จีน ได้ข้อสรุปเรื่องการก่อสร้างตอนที่ 3 ช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ นั้น จะมีการก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงโดยแต่ละฝ่ายแยกกันลงทุนและก่อสร้างในดินแดนของตัวเอง ส่วนตัวโครงสร้างพื้นฐานด้านสะพานนั้นแบ่งกันลงทุนฝ่ายละ 50% ประกอบด้วย 3 ราง ได้แก่ รางรถไฟความเร็วสูง 2 ราง และรางรถไฟทางคู่ 1 ราง

Wisarut · Posted: 05/03/2019 1:50 pm Post subject:

'ไฮสปีดเชื่อมสนามบิน'ระทึก ชิงเหลี่ยม-หยั่งเชิง-ยื้อเวลา
คอลัมน์ : มุมคนเมือง
โดย “เทียนหยด”

ขอบคุณภาพจาก : www.eeco.or.th , www.airportthai.co.th
อังคารที่ 5 มีนาคม 2562 เวลา 08.00 น.

สัปดาห์นี้ไปดูกลเกมชิงกันดุเดือด สมราคาประมูลตามชื่อโครงการ “ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง” เงื่อนไขถูกยื้อออกไปไม่ครบ 4 ซอง แต่ถ้าได้ข้อยุติ การเจรจาร่างสัญญาจึงจะเริ่มต้น

วันที่ 5 มี.ค.62 จะได้ “ระทึกหัวใจ” สมกับชื่อโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (High-Speed Train) เชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 220 กม. มูลค่าโครงการที่สูงถึง 224,544.36 ล้านบาทอีกครั้ง เมื่อคณะกรรมการคัดเลือกโครงการฯ นัดเจรจากับ กิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่ม CP) หรือซีพี อีกครั้ง ให้ตามลุ้นกันว่าซีพีจะได้ไปต่อ...หรือว่าพอกับที่ยื้อเจรจาโครงการไว้ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา

ในฐานะผู้ยื่นข้อเสนอที่ชิงกันแค่ 2 รายกับ กิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ ที่มีกลุ่ม BTS (บีทีเอส) เป็นแกนนำ จากกลุ่มทุนทั้งไทยและเทศที่มาซื้อซองประมูลทั้งหมด 31 ราย แต่ก็ถือว่าชิงกันดุเดือดสมราคาประมูลโครงการที่สูงลิ่ว

เงื่อนไขการประมูลครั้งนี้จัดทำรายละเอียดแบ่งซองประกวดราคาออกเป็น 4 ซอง ซองที่ 1 คุณสมบัติทั่วไป ที่มีเอกสารข้อเสนอด้านคุณสมบัติทั่วไป, เอกสารข้อเสนอด้านคุณสมบัติด้านการเงิน และเอกสารข้อเสนอด้านประสบการณ์

ซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิค จะมีโครงสร้างองค์กรและความสามารถของบุคลากรในการบริหารงานรวมถึงแผนงานรวม, แนวทางและวิธีการดำเนินงาน และความสอดคล้องของซองเอกสารด้านเทคนิคงานโยธา, แนวทางและวิธีการดำเนินงาน และความสอดคล้องซองเอกสารด้านเทคนิคงานระบบเครื่องกลและไฟฟ้าและขบวนรถไฟ, แนวทางและวิธีการดำเนินงานและความสอดคล้องซองเอกสารด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีและกิจกรรมการฝึกอบรม และการพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟของโครงการและการดำเนินกิจการทางพาณิชย์

ซองที่ 3 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน ได้แก่ บัญชีปริมาณงาน (รวมภาษีอากร ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายทั้งปวงแล้ว), แผนธุรกิจในการดำเนินโครงการ, แผนการเงิน, การจัดหาแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการดำเนินโครงการ, ทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินโครงการและกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สินดังกล่าว, การคำนวณผลตอบแทนทางการเงินของโครงการตลอดอายุของสัญญาร่วมทุน และการคำนวณผลประโยชน์ที่ภาครัฐจะได้รับและการขอรับเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการฯ

และ ซองที่ 4 ข้อเสนออื่นๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการ

จุดชนะของซีพี คือ ขอรับเงินอุดหนุนต่ำสุด ได้รับเลือกให้เข้ามาเจรจาก่อน โดยเสนอขอรับวงเงินอุดหนุน (Net Present Value) ที่ 117,227 ล้านบาท ภายในเพดานการอุดหนุนของภาครัฐและยังต่ำกว่าข้อเสนอของกลุ่มบีทีเอส คู่แข่งถึง 52,707 ล้านบาท บัดนี้ซีพีได้รับการพิจารณาประเมิน 3 ซองแรกไปแล้ว และซองที่ 4 ที่ว่ากันด้วยข้อเสนออื่นๆ ในการเพิ่ม ทั้งนี้ขั้นตอนการเจรจาข้อเสนอซองที่ 4 หากได้ข้อยุติ การเจรจาร่างสัญญาจึงจะเริ่มต้น

...ข่าวลอดออกมาจากห้องประชุมการเจรจาด้วยข้อเสนอของซีพีจากทั้งหมด 108 ข้อ และ 12 ข้อเสนอที่เด็ดดวง จนต้องใช้ภาษาสุดฮิตว่า “อย่างนี้ก็ได้หรือ” เพราะข้อเสนอที่ซีพีเสนอมานั้นทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์มหาศาล...

ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และคณะกรรมการคัดเลือกโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินอีอีซี กล่าวว่า กรณีเอกชนได้ยื่นเงื่อนไขเสนอรายละเอียดนอกร่างขอบเขตเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) เช่น ขอขยายสัมปทาน จาก 50 ปี เป็น 99 ปี การขอให้ภาครัฐจ่ายเงินอุดหนุนโครงการตั้งแต่ปีแรกที่เปิดและการรับประกันกำไร 6% เป็นต้นนั้น ไม่สามารถรับพิจารณาได้ เนื่องจากเป็นการยื่นเงื่อนไขที่นอกเหนือจากทีโออาร์
“ขัดกับกติกาการประมูลโครงการที่ระบุไว้ว่า เงื่อนไขในทีโออาร์ ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เพราะคู่แข่งทุกรายใช้เงื่อนไขเดียวกัน ไม่สามารถปรับเงื่อนไขให้รายใดหรือให้ผู้เสนอคะแนนมากที่สุดได้ หากการเจรจาไม่ได้ข้อสรุปรัฐบาลจะเรียกเอกชนรายที่สอง คือ กลุ่มบีทีเอส เข้ามาเจรจาเงื่อนไขต่อไป”

เบื้องหลังการประชุมแต่ละครั้งใช้เวลา 5-6 ชม. บางครั้งกินเวลามาราธอนกว่า 10 ชม. แต่การเจรจาก็ยังยืดเยื้อ โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้นัดประชุมกับกลุ่มซีพี ทั้งหมด 3 ครั้ง ก่อนสรุปผลการเจรจาเสนอให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ ชุดใหญ่ตัดสินใจจุดยืนของภาครัฐ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเห็นชอบให้ปฏิเสธข้อเสนอหลัก 12 ข้อของซีพี

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ระบุว่า กลุ่มข้อเสนอกลุ่มยากที่เกี่ยวกับการเงิน เช่น ขอขยายสัมปทาน จาก 50 ปี เป็น 99 ปี การขอให้ภาครัฐจ่ายเงินอุดหนุนโครงการตั้งแต่ปีแรกที่เปิดและการรับประกันกำไร 6% เป็นต้นนั้น ได้ปฏิเสธทั้งหมด 12 ข้อ เป็นประเด็นหลักและเป็นหัวใจสำคัญ จากข้อเสนอทั้งหมด 108 ข้อ ได้ส่งหนังสือแจ้งซีพีแล้วว่าไม่สามารถรับข้อเสนอได้

รวมทั้งเชิญซีพีมารับทราบการปฏิเสธข้อเสนอที่การรถไฟฯ อีกครั้งในวันที่ 5 มี.ค.62 เวลา 14.00 น. หากซีพียอมรับการปฏิเสธได้ และประสงค์จะเจรจาต่อในประเด็นต่อไปก็ได้ แต่จะเป็นประเด็นง่ายๆ ทั้งนี้หากมีประเด็นเพิ่มเติมต้องเป็นประเด็นที่ไม่ขัดต่อมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่หากซีพีไม่ยอมรับการปฏิเสธข้อเสนอที่ทางคณะกรรมการฯ แจ้งไป ก็อาจจะถึงเวลาที่ต้องคุยถึงการยุติการเจรจา เพราะทั้ง 2 ฝ่ายไปด้วยกันไม่ได้แล้วต้องยุติทุกอย่าง หลังจากนั้นคณะกรรมการคัดเลือกจะเชิญเอกชนรายต่อไป คือ บีทีเอสมา เจรจา โดยเริ่มขั้นตอนในการเปิดซองที่ 4 เจรจากันต่อตามขั้นตอน

“โครงการนี้จะสามารถลงนามได้ในเดือนมี.ค. และเริ่มก่อสร้างได้ 6 เดือนต่อจากนี้” รักษาการผู้ว่าการรถไฟฯ ยืนยันในเวลาที่จะได้เห็นอภิมหาโปรเจกต์นี้ น่าจะผ่านการอนุมัติก่อสร้างได้ภายในรัฐบาลนี้

สัมปทานโครงการนี้มีผลตอบแทนมหาศาล ทั้งรูปแบบโครงการที่เชื่อม 3 สนามบิน เป็นตัวรับประกันว่ามีผู้ใช้บริการอยู่แล้ว อีกทั้งยังได้สัมปทานบริหารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ที่มีฐานผู้ใช้บริการกว่า 8 หมื่นคน/วัน นอกจากนี้ยังได้ครอบครองที่ดินมักกะสันผืนงาม 100 ไร่ และพื้นที่รอบสถานีศรีราชา 25 ไร่ เพื่อพัฒนาเชิงพาณิชย์ทันที จากนั้นจะทยอยมอบพื้นที่มักกะสันอีก 50 ไร่ที่อยู่ติดกับโรงซ่อมบำรุงรถไฟและพื้นที่เวนคืนอื่นๆ ให้กับเอกชนภายใน 5 ปี

ว่ากันว่า...สาเหตุของการยื้อโครงการมาจากที่รัฐบาลได้เสนอให้กลุ่มซีพีศึกษาความเป็นไปได้ และแนวทางพัฒนารถไฟความเร็วสูงไปพื้นที่อีอีซี โดยอาศัยประสบการณ์ความเก่งเรื่องธุรกิจถือครองที่ดินในภาคตะวันออก จึงไม่แปลกที่กลุ่มซีพี ซึ่งเป็นผู้รู้เกมเป็นอย่างดีจะยื่นข้อเสนอนอกเงื่อนไขทีโออาร์อย่างที่เห็นกัน จนทำให้เกิดความล่าช้าในการเจรจา และยังเป็นการแฟร์ที่การรถไฟฯ จะเปิดช่องในผลการศึกษามอบให้ผู้ที่ชนะประมูลได้เดินรถเฟส 2 ช่วงอู่ตะเภา-ตราด อีกด้วย

ข้อเสนอบางข้อนั้นไม่ใช่เพียงทำให้ได้เปรียบแค่การประมูล แต่ยังเอื้อประโยชน์ในการแข่งขันทางธุรกิจในตลาดทุนไทย โดยเฉพาะเรื่องการขอรับเงินกู้ในเรตที่เหมาะสม หรือในอีกทางหมายความว่า การขอขยายเพดานเงินกู้บริษัทให้สูงกว่ากติกามาตรฐานที่ตลาดทุนกำหนด

อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นโครงการสัมปทานขนาดใหญ่หลายแสนล้านบาทที่ใช้รูปแบบให้เอกชนร่วมทุนในกิจการของรัฐบาล (PPP) จึงร่างเงื่อนไขการประมูลอย่างรอบคอบ เพราะมีบทเรียนกรณีต้องเสียค่าโง่ให้เอกชนแบบโครงการก่อสร้างทางด่วนที่มีคดีฟ้องร้องกันถึง 1.3 แสนล้านบาท จากเงื่อนไขสุดโหดนั้น ทำให้การยื่นข้อเสนอของเอกชน 2 รายไม่สามารถคุมเกณฑ์การขอรับเงินสนับสนุนได้ ทางออกที่ดีสุด รฟท. ในฐานะผู้รับผิดชอบการประมูล ต้องตัดสินใจเก็บทั้ง 2 รายให้ไปต่อโดยไม่ปัดตก เพราะต้องการให้ได้ตัวเอกชนตามเป้าก่อนเลือกตั้ง

เมื่อย้อนดูข้อเสนออื่นของซีพี อาจตั้งใจให้ยุติการเจรจายื้อเวลา เพราะอีกไม่นานจะถึงวันเลือกตั้ง การเจรจาต่อรองกับรายที่ 2 อาจช้าก็เป็นได้...แม้บีทีเอสจะพร้อมเสียบโครงการนี้ก็ตาม...รวมทั้งอาจแย้งด้วยว่า กลุ่มบีทีเอสมีข้อได้เปรียบเพราะรู้ข้อเสนอของ ซีพีแล้ว

กลเกมธุรกิจที่ซ้อนอยู่ในโครงการกว่าแสนล้าน...

Wisarut · Posted: 05/03/2019 6:16 pm Post subject:

Wisarut · Posted: 06/03/2019 10:17 am Post subject:

Wisarut · Posted: 06/03/2019 12:22 pm Post subject:

จะสร้าง "รถไฟความเร็วสูง" และลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างไร? ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ฟังคำตอบชัดๆ จากกรณ์, สนธิรัตน์, ธนาธร และชัชชาติ
https://www.facebook.com/khaosod/videos/403360603564335/

// -------------------------------------------

วิดัโอโครงการรถไฟไทยจีน
https://www.facebook.com/pr.railway/posts/2577460518935470
https://www.youtube.com/watch?v=PZ0H8QMhsaE

ร.ฟ.ท.เซ็น “ซีวิล” ตอกเข็มไฮสปีดไทย-จีน 11 กม. เร่งอีก 12 ตอนเปิดประมูลก่อนสงกรานต์
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 6 มีนาคม 2562 15:52
ปรับปรุง: 6 มีนาคม 2562 21:10

ร.ฟ.ท.เซ็นสัญญา “ซีวิลเอ็นจิเนียริง” สร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก 11 กม. กว่า 3.1 พันล้าน เร่งส่งมอบพื้นที่ เม.ย. “อาคม” กำชับงานต้องมีคุณภาพเพราะมาตรฐานไฮสปีดสูงกว่าทั่วไป ส่วนอีก 12 ตอนเร่งเปิดประมูลครบก่อนสงกรานต์

วันนี้ (6 มี.ค.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ลงนามกับบริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด สัญญาการก่อสร้างงานโยธาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร ตามโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) ระหว่างมูลค่าสัญญา 3,114.98 ล้านบาท โดยคาดเริ่มก่อสร้างได้เดือนเมษายน 2562 สัญญาก่อสร้าง 540 วัน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ปัจจุบันการออกแบบการก่อสร้างช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา แล้วเสร็จทั้ง 252 กม. โดยแบ่งสัญญาก่อสร้างเป็น 14 สัญญา โดยสัญญาแรก ระยะทาง 3.5 กม. กรมทางหลวงเป็นผู้ก่อสร้าง ส่วนสัญญาที่ 2-1 นี้เป็นงานแรกที่เปิดประมูลหาผู้รับเหมามาก่อสร้าง ส่วนที่เหลือ 12 สัญญาขณะนี้กำลังทยอยออกทีโออาร์ และจะเปิดประมูลก่อนสงกรานต์ใน 5 สัญญา และอีก 7 สัญญาจะประมูลให้เสร็จในเดือน เม.ย. 2562 หรือก่อนสงกรานต์ ซึ่งการแบ่งสัญญาก่อสร้างเป็นระยะทางสั้นๆ เพื่อให้การก่อสร้างได้เร็ว

โดยช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทางรวม 11 กิโลเมตร แบ่งเป็นคันทางรถไฟระดับดินประมาณ 7 กิโลเมตร โครงสร้างทางรถไฟยกระดับประมาณ 4 กิโลเมตร ศูนย์ซ่อมบำรุงทาง 1 แห่ง งานระบบระบายน้ำ งานรื้อย้ายราง ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ และงานอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับโครงการ โดยได้กำชับเรื่องการส่งมอบพื้นที่ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเขตทางรถไฟ จึงไม่มีปัญหาและใช้เวลาไม่นาน

ขณะที่ได้แจ้งผู้รับเหมาทราบถึงความสำคัญของโครงการที่มีโครงข่ายเชื่อมโยงกับประเทศในอาเซียนและในภูมิภาค คือ ไทย-ลาว และเชื่อมจีน และอำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวและผู้โดยสาร รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และลดระยะเวลาในการเดินทาง สัญญาที่ 2-1 นี้ถือเป็นความก้าวหน้าของการดำเนินโครงการในส่วนของการก่อสร้างที่ได้มีการเจรจาทำความเข้าใจแบบและมาตรฐานวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ

“บริษัทซีวิลฯ ถือว่าร่วมมือในการก่อสร้างหลายโครงการ เช่น มอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-โคราช มาแล้ว ซึ่งโครงการรถไฟไทย-จีนมีมาตรฐานสูงและไม่เคยดำเนินการในประเทศไทย ดังนั้นเรื่องคุณภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญและมีที่ปรึกษาของจีนคุมงาน เนื่องจากใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการก่อสร้างไม่เหมือนกับเทคโนโลยีทั่วๆ ไป”

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาแล้ว ในสัญญาที่ 1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร งานก่อสร้างคืบหน้าไปกว่า 45% ซึ่งคาดว่าจะเสร็จในกลางปีนี้ ที่ผ่านมาในระยะทาง 3.5 กม. เนื่องจากเป็นการทำครั้งแรก จะต้องมีการปรับตัวในการทำงานร่วมกันระหว่างกรมทางหลวง กับ ร.ฟ.ท.

ส่วนการลงนามสัญญาในครั้งนี้เป็นการลงนามสัญญาก่อสร้างงานโยธาสัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร หลังจากนี้จะเร่งส่งมอบพื้นที่ และการเลือกที่ตั้งไซต์งานเพื่อให้เหมาะสม ส่วนวัสดุ Geo Textile ที่ต้องนำเข้าจากจีนเพียงอย่างเดียวเนื่องจากในประเทศไทยไม่มีผลิตจำหน่าย ไม่น่ามีปัญหา โดยจะนำไปใช้สำหรับบริเวณที่ต้องใช้ประกอบงานดินตัด หรือชั้นดินที่มีเศษเลน โคลน ที่อยู่ชั้นล่างสุด

หลังลงนามสัญญา เอกชนจะต้องจัดทำแผนการดำเนินงาน และวางแบงก์การันตี 10% ของค่างานตามเงื่อนไข ขณะที่ ร.ฟ.ท.จะเร่งเตรียมพื้นที่เพื่อส่งมอบ และส่งหนังสือแจ้งบอกกล่าวให้เริ่มงาน (Notice to Proceed : NTP) ให้ผู้รับจ้างเข้าพื้นที่ เป็นการเริ่มต้นงานก่อสร้างตามสัญญา และตามเงื่อนไขจะมีการจ่ายค่างานล่วงหน้า (advance payment ) จำนวน 15% ของมูลค่างานหรือกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งจะ ดำเนินการในขั้นตอนของเงินกู้

สำหรับงานก่อสร้าง 12 สัญญานั้น กลุ่มแรก 5 สัญญาจะให้ยื่นข้อเสนอราคาด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ในวันที่ 11 เม.ย. ส่วนอีก 7 สัญญาจะประกาศทีโออาร์ในเดือน เม.ย.นี้แน่นอน

ด้านนายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อม ทั้งด้านบุคลากร เครื่องจักร และทุกๆ ด้านที่ต้องมีให้พร้อมสำหรับการก่อสร้างประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ บริษัทฯ พร้อมเข้าซื้อเอกสารประมูลสัญญาที่เหลือของรถไฟไทย-จีน เพราะถือเป็นโอกาสทางธุรกิจของผู้รับเหมา ส่วนจะยื่นเคาะราคาในสัญญาไหนบ้างจะต้องดูความพร้อมในขณะนั้นด้วย ซึ่งเชื่อว่าผู้รับเหมาทุกรายที่สนใจจะมีจุดแข็งของตัวเองที่จะเข้าแข่งขันประมูล

อย่างไรก็ตาม ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เข้าร่วมประมูลกี่สัญญา แต่อยู่ที่เมื่อได้งานมาแล้วทำงานได้คุณภาพหรือไม่ เพราะโครงการรถไฟความเร็วสูงเป็นงานใหม่ที่ไม่เคยมีในประเทศ และจีนคุมงาน ซึ่งเป็นงานที่ช่วยยกระดับประเทศ ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าด้วยประสบการณ์การทำงานมามากกว่า 50 ปี ตั้งแต่โครงการระดับท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคจนถึงระดับประเทศกว่า 1,000 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท จะทำให้โครงการก่อสร้างงานโยธาระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภูมิภาค ระยะที่ 1 กรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย

https://www.youtube.com/watch?v=SU4m63h2n7o

คมนาคมลงนามสัญญารถไฟไทย-จีน ช่วงสีคิ้ว – กุดจิก
เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV

6 มีนาคม 2562 15:10

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาการก่อสร้างงานโยธาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้วกุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร ตามโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพ หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร นครราชสีมา) ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับบริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด คาดเริ่มก่อสร้างได้เดือนเมษายน 2562

วันที่ 6 มีนาคม 2562 เวลา 10.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุมอาคารสโมสร กระทรวงคมนาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาการก่อสร้างงานโยธาสัญญาที่ 2-1 สีคิ้ว กุดจิก ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับบริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 กรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) โดยมีนายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาระบบขนส่งทางรางอย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นระบบที่มีต้นทุนต่ำและมีโครงข่ายเชื่อมโยงได้ทั่วถึงทุกภูมิภาค โดยมีการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการในหลายโครงการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟสายใหม่ โครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศให้มีความแข็งแกร่ง ตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางบกและโลจิสติกส์ของภูมิภาค สำหรับพิธีการลงนามสัญญาการก่อสร้างโครงการรถไฟไทย-จีน สัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญในการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมของประเทศ ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ภายใต้ยุทธศาสตร์ One Belt One Road หรือเส้นทางสายไหมยุคใหม่ ซึ่งทำให้ไทยสามารถเชื่อมโยงระบบรางเข้ากับประเทศจีนได้โดยตรง และเชื่อมต่อไปถึงระบบรางของทวีปเอเชียได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นการช่วยยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนทำให้ประเทศไทยได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการขนส่งในระบบราง สร้างความยั่งยืนในการพัฒนาระบบรางได้ด้วยตนเองในอนาคต

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การรถไฟฯ ได้เดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งทางรางอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเชื่อมต่อการขนส่งทางรางของไทยเข้ากับภูมิภาค ตามกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 โดยเฉพาะการดำเนินโครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร -นครราชสีมา ได้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการนำระบบขนส่งทางรางของไทยเชื่อมต่อเข้ากับอาเซียนและประเทศจีนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา ได้มีการแบ่งสัญญาก่อสร้างงานโยธาเป็น 14 สัญญา โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาแล้ว ในสัญญาที่ 1 ช่วงกลางดง - ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร งานก่อสร้างคืบหน้าไปกว่า 45%

ส่วนการลงนามสัญญาในครั้งนี้เป็นการลงนามสัญญาก่อสร้างงานโยธาสัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร โดยมีขอบเขตของงาน ได้แก่การก่อสร้างโครงสร้างทางรถไฟ ระยะทางรวม 11 กิโลเมตร แบ่งเป็นคันทางรถไฟระดับดิน ประมาณ 7 กิโลเมตร โครงสร้างทางรถไฟยกระดับ ประมาณ 4 กิโลเมตร ศูนย์ซ่อมบำรุงทาง 1 แห่ง งานระบบระบายน้ำ งานรื้อย้ายราง ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ และงานอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับโครงการ ซึ่งภายหลังการลงนามแล้วจะเริ่มก่อสร้างได้ทันทีภายในเดือนเมษายน 2562 ขณะเดียวกันการรถไฟฯ ยังมีแผนเตรียมเปิดประกวดราคาและลงนามสัญญาก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 อีก 12 สัญญาให้ได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2562

ด้านนายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสในการร่วมดำเนินโครงการก่อสร้างงานโยธาระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภูมิภาค ระยะที่ 1 กรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา ช่วงสีคิ้ว กุดจิก และมั่นใจว่า ด้วยประสบการณ์การทำงานมามากกว่า 50 ปี ตั้งแต่โครงการระดับท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคจนถึงระดับประเทศกว่า 1,000 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท จะทำให้โครงการก่อสร้างงานโยธาระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภูมิภาค ระยะที่ 1 กรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา ช่วงสีคิ้ว - กุดจิก ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทุกประการ

การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด ร่วมลงนามสัญญาการก่อสร้างงานโยธาสัญญาที่ 2-1 สีคิ้ว – กุดจิก
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
********************************

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญา
การก่อสร้างงานโยธาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว–กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร ตามโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพ – หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา) ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับบริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด คาดเริ่มก่อสร้างได้เดือนเมษายน 2562

วันที่ 6 มีนาคม 2562 เวลา 10.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุมอาคารสโมสร กระทรวงคมนาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาการก่อสร้างงานโยธาสัญญาที่ 2-1 สีคิ้ว – กุดจิก ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับบริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 กรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) โดยมีนายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาระบบขนส่งทางรางอย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นระบบที่มีต้นทุนต่ำและมีโครงข่ายเชื่อมโยงได้ทั่วถึงทุกภูมิภาค โดยมีการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการในหลายโครงการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟสายใหม่ โครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศให้มีความแข็งแกร่ง ตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางบกและโลจิสติกส์ของภูมิภาค
สำหรับพิธีการลงนามสัญญาการก่อสร้างโครงการรถไฟไทย-จีน สัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ถือเป็น
อีกก้าวที่สำคัญในการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมของประเทศ ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ภายใต้ยุทธศาสตร์ One Belt One Road หรือเส้นทางสายไหมยุคใหม่ ซึ่งทำให้ไทยสามารถเชื่อมโยงระบบรางเข้ากับประเทศจีนได้โดยตรง และเชื่อมต่อไปถึงระบบรางของทวีปเอเชียได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นการช่วยยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนทำให้ประเทศไทยได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการขนส่งในระบบราง สร้างความยั่งยืนในการพัฒนาระบบรางได้ด้วยตนเองในอนาคต

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟ
แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การรถไฟฯ ได้เดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งทางรางอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเชื่อมต่อการขนส่งทางรางของไทยเข้ากับภูมิภาค ตามกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 โดยเฉพาะการดำเนินโครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร -นครราชสีมา ได้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการนำระบบขนส่งทางรางของไทยเชื่อมต่อเข้ากับอาเซียนและประเทศจีนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา ได้มีการแบ่งสัญญาก่อสร้างงานโยธาเป็น 14 สัญญา โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาแล้ว ในสัญญาที่ 1 ช่วงกลางดง -ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร งานก่อสร้างคืบหน้าไปกว่า 45% ส่วนการลงนามสัญญาในครั้งนี้เป็นการลงนามสัญญาก่อสร้างงานโยธาสัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร โดยมีขอบเขตของงาน ได้แก่ การก่อสร้างโครงสร้างทางรถไฟ ระยะทางรวม 11 กิโลเมตร แบ่งเป็นคันทางรถไฟระดับดิน ประมาณ 7 กิโลเมตร โครงสร้างทางรถไฟยกระดับ ประมาณ 4 กิโลเมตร ศูนย์ซ่อมบำรุงทาง 1 แห่ง งานระบบระบายน้ำ งานรื้อย้ายราง ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ และงานอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับโครงการ ซึ่งภายหลังการลงนามแล้วจะเริ่มก่อสร้าง
ได้ทันทีภายในเดือนเมษายน 2562 ขณะเดียวกันการรถไฟฯ ยังมีแผนเตรียมเปิดประกวดราคาและลงนามสัญญาก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 อีก 12 สัญญาให้ได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2562

ด้านนายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสในการร่วมดำเนินโครงการก่อสร้างงานโยธาระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภูมิภาค ระยะที่ 1 กรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา ช่วงสีคิ้ว – กุดจิก และมั่นใจว่า ด้วยประสบการณ์การทำงานมามากกว่า 50 ปี ตั้งแต่โครงการระดับท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคจนถึงระดับประเทศกว่า 1,000 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท จะทำให้โครงการก่อสร้างงานโยธาระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภูมิภาค ระยะที่ 1 กรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา ช่วงสีคิ้ว - กุดจิก ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทุกประการ

// --------------

สื่อประชาสัมพันธ์ ประกอบพิธีลงนามสัญญา2-1 สีคิ้ว-กุดจิก โครงการรถไฟความเร็วสูงไืทย-จีน

วันที่ 6 มีนาคม 2562 เวลา 10.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุมอาคารสโมสร กระทรวงคมนาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาการก่อสร้างงานโยธาสัญญาที่ 2-1 สีคิ้ว – กุดจิก ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับบริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 กรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) โดยมีนายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/2191230304257236

Wisarut · Posted: 06/03/2019 5:51 pm Post subject:

Wisarut · Posted: 06/03/2019 6:42 pm Post subject:

ถกไฮสปีดเทรนไทย-จีนเหลว งบงอก 7 พันล้าน เลื่อนเซ็นสัญญางานระบบ-ซื้อรถไฟฟ้า

วันที่ 4 มีนาคม 2562 - 17:43 น.

ถกไฮสปีดเทรนไทย-จีน เหลว เลื่อนเซ็นสัญญางานระบบ-ซื้อรถไฟฟ้า หลังงบจ่ายงานระบบ-ซื้อรถจีนงอกเพิ่ม 7 พันล้าน แตะ 4.5 หมื่นล้าน

ถกไฮสปีดเทรนไทย-จีนเหลว – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 27 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วม 2 ฝ่ายไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ ในสัญญา 2.3 งานระบบราง ระบบไฟฟ้า และเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถ โดยประเด็นที่ยังตกลงกันไม่ได้ คือ ประเด็นเกี่ยวกับการรับประกันงานของฝ่ายจีน และกรอบวงเงินในสัญญา 2.3 งานจัดซื้อระบบอาณัติสัญญาณและขบวนรถจากฝ่ายจีน ซึ่งพบว่า จีนประมาณการวงเงินสูงเกินกรอบที่ไทยประมาณการไว้ ภายหลังจากมีการย้ายงานบางส่วนจากสัญญา 2.1 และ 2.2 มาไว้ใน 2.3 ด้วย ทำให้วงเงินก่อสร้างเพิ่มประมาณ 7 พันล้านบาท คือเพิ่มจาก 3.8 หมื่นล้านบาท เป็น 4.5 หมื่นล้านบาท คาดว่าน่าจะหารือเพื่อให้ได้ข้อยุติในเดือนมี.ค.นี้ จากนั้นจะเสนอ ครม. และลงนามสัญญาได้ในเดือนเม.ย.

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อมระหว่างไทย-ลาว เส้นทาง หนองคาย-จีน จะศึกษา และออกแบบ โดยค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างในพื้นที่บนสะพาน ประมาณ 400-500 เมตร ไทยจะออกคนละครึ่งกับจีน แต่หลังจากเชิงสะพานลงมาแต่ะละฝ่ายจะเป็นผู้รับผิดชอบ เบื้องต้นบนสะพานมี 2 ส่วนคือ รถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง โดยฝั่งไทยมี 2 สถานีคือ สถานีหนองคาย ขนส่งผู้โดยสาร และสถานีนาธา ใช้เป็นสถานีเปลี่ยนถ่ายตู้สินค้า อย่างไรก็ตามเวลานี้ได้ให้จีนทบทวนเรื่องสถานีอีกครั้งว่าควรตั้งจุดใดจึงจะเหมาะสมที่สุด

Wisarut · Posted: 06/03/2019 8:25 pm Post subject:

รถไฟขู่ล้มดีลซีพี ไฮสปีดเทรน 3 สนามบิน หากอ้างเหตุตกลงพันธมิตรไม่ได้
เศรษฐกิจ
วันที่ 6 มีนาคม 2562 - 18:42 น.

รถไฟขู่ล้มดีลซีพี ไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน หากซีพีขอเลื่อนประชุมจากเหตุตกลงพันธมิตรไม่ได้ อ้างไม่สมเหตุสมผล

รถไฟขู่ล้มดีลซีพีไฮสปีด – นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันที่ 19 มี.ค. เวลาประมาณ 9.00 น. คณะกรรมการคัดเลือกฯโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง วงเงิน 2.2 แสนล้านบาท จะประชุมเป็นการภายในก่อนที่จะเชิญกลุ่มซีพี เข้ามาร่วมหารือในเวลาประมาณ 10.00 น.

ทั้งนี้ หากซีพียังมีการแจ้งขอเลื่อนการประชุมออกไปอีกโดยอ้างเหตุผลเรื่องยังไม่สามารถตกลงกับพันธมิตรได้ คณะกรรมการคัดเลือกฯ อาจจะพิจารณายุติการหารือกับซีพีและเชิญกลุ่มบีทีเอส มาหารือแทน เพราะถือว่าไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่าน กลุ่มซีพี ได้เคยแจ้งคณะกรรมการคัดเลือกฯ มาแล้วว่ามีความพร้อมที่จะเจรจาแล้ว โดยคณะกรรมการคัดเลือกฯ เป็นฝ่ายที่ขอเลื่อนเวลาออกไปเป็น 19 มี.ค. เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ

“ถ้าซีพี ขอเลื่อนโดยบอกว่ายังไม่พร้อมเพราะยังหารือกับพันธมิตรไม่จบ เราคงต้องคุยกับซีพีและตกลงร่วมกัน 2 ฝ่ายว่าจะยุติการเจรจา เพราะมันอธิบายยากถ้าจะขอขยายเวลาออกไปอีก แต่หากซีพี มีเหตุผลที่สุดวิสัย เลี่ยงไม่ได้จริง แล้วขอเลื่อนการเจรจาก็อาจจะผ่อนผันให้ได้ แต่เชื่อว่าซีพี จะเข้ามาเจรจากับคณะกรรมการฯ เพราะคาดว่าจะตกลงกับพันธมิตรได้ เราจะได้เดินหน้าต่อ เพื่อคุยรายละเอียดย่อยๆ ต่อไปคาดว่าวันที่ 19 มี.ค. นี้ น่าจะรู้ว่าซีพีไปต่อหรือไม่”นายวรวุฒิกล่าว

การรถไฟฯ ปิดทาง 'CP' ขอเลื่อนถก 'ไฮสปีด'
https://www.thebangkokinsight.com/113398/

Mongwin · Posted: 06/03/2019 8:40 pm Post subject:

คืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง
สํานักข่าวไทย TNAMCOT
Published on Mar 6, 2019

คืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ตอนนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพลักดันเพิ่มเติมเส้นทางใหม่ๆ หลักๆตอนนี้คือเส้นทางรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย อยู่ระหว่างเร่งการก่อสร้างระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร กับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

https://www.youtube.com/watch?v=MycO2L7lTCY