RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311279
ทั่วไป:13260553
ทั้งหมด:13571832
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 452, 453, 454 ... 545, 546, 547  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42694
Location: NECTEC

PostPosted: 04/07/2022 9:54 am    Post subject: Reply with quote

ลุ้น EIA ไฮสปีดไทย-จีน เฟส 2 “นครราชสีมา-หนองคาย” คาดปลายปีชง ครม.เล็งแบ่ง 10 สัญญาประมูลปี 66
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 07:07 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 07:07 น.


สรุปแบบรถไฟไทย-จีน เฟส 2 “นครราชสีมา-หนองคาย” เสนอ EIA คาดชงบอร์ด รฟท. ต.ค.นี้ เสนอ ครม.ปลายปี เล็งแบ่ง 10 สัญญา งานโยธา 2.1 แสนล้านบาท ประมูลปี 66 ส่วนเฟส 1 เร่งงานระบบ 2.3 เริ่มติดตั้งปี 67

นายกำพล บุญชม รองวิศวกรใหญ่ด้านโครงการพิเศษ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟไทย-จีน ระยะที่ 2 นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356.10 กม. มูลค่าเกือบ 3 แสนล้านบาท ว่า ขณะนี้ได้สรุปการศึกษาออกแบบแล้ว และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เสนอไปยังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) แล้ว ซึ่งทาง สผ.มีความเห็นให้กลับมาทำจัดทำข้อมูลเพิ่มเติม ล่าสุด รฟท.ได้จัดทำและเสนอกลับไปที่ สผ.แล้วเมื่อเดือน มิ.ย. 2565 อยู่ในขั้นตอนเตรียมชี้แจงต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.)


ทั้งนี้ ตามแผนงานของโครงการในเฟส 2 คาดว่าจะสรุปรายละเอียดเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ในช่วง ต.ค. 2565 และเสนอไปที่กระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ขออนุมัติโครงการในช่วงปลายปี 2565 คาดว่าจะเปิดประกวดราคาก่อสร้างงานโยธาในปี 2566 โดยการลงนามสัญญาจะต้องรอ EIA อนุมัติก่อน

คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างประมาณเดือน ส.ค. 2566 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี แล้วเสร็จปี 2570-2571 คาดเปิดให้บริการได้ประมาณปี 2572

ซึ่งเส้นทางช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กม. มีกรอบวงเงินค่างานโยธาประมาณ 2.1 แสนล้านบาท แนวเส้นทางมีภูเขาน้อย และเวนคืนน้อยกว่าช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา หลักๆ จะก่อสร้างไปตามแนวเขตทางรถไฟที่มี ทำให้ใช้เวลาในการก่อสร้างน้อยกว่า แม้ว่าระยะทางจะยาวกว่าก็ตาม

คาดว่าแบ่งงานโยธาออกไม่เกิน 10 สัญญา ซึ่งจะต่างจากโครงการในเฟส 1 ที่มี 14 สัญญา เพื่อให้แต่ละสัญญามีมูลค่าไม่สูงเกินไป เพราะต้องการให้ผู้รับเหมาขนาดกลางมีคุณสมบัติเข้าร่วมแข่งขันได้ แต่ในเฟส 2 ผู้รับเหมาขนาดกลางหลายรายมีคุณสมบัติจากประสบการณ์การก่อสร้างช่วงเฟส 1 แล้ว ขณะที่ภาพรวมการก่อสร้างจะง่ายและเร็วกว่าโครงการในระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา) โดยจะเปิดให้บริการหลังจากเปิดเฟสแรกประมาณ 1 ปี หรือในปี 2572

โครงการรถไฟไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356.1 กม. มีจุดเริ่มต้นที่หลังสถานีนครราชสีมา จุดสิ้นสุดที่ริมแม่น้ำโขงฝั่งไทยมี 5 สถานี ได้แก่ สถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย ศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) จำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย นาทาและเชียงรากน้อย ศูนย์ซ่อมบำรุงทาง (Maintenance Base) จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย บ้านมะค่า หนองเม็ก โนนสะอาด และนาทา มีย่านเก็บกองตู้สินค้าและย่านเปลี่ยนถ่ายสินค้า จำนวน 1 แห่งที่นาทา

@เร่งสัญญา 2.3 สรุปแบบ "งานวางราง-ระบบ-ขบวนรถ” ในปี 65

สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟไทย-จีน ระยะะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. ในส่วนของงานสัญญา 2.3 (สัญญาการวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ) วงเงิน 50,633.50 ล้านบาท ซึ่งรฟท.ได้มีการลงนามกับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์แนชันนัล (CHINA RAILWAY INTERNATIONAL CO., LTD.) และ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ ดีไซน์ คอร์เปอเรชัน (CHINA RAILWAY DESIGN CORPORATION) ไปเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2563 นั้น ขณะนี้เป็นการทำงานในขั้นตอนการออกแบบ และขั้นตอนการตรวจรับแบบ ซึ่งยังมีการแก้ไขบางประเด็นที่ส่งกลับไปให้จีนดำเนินการ โดยแบบจะสรุปได้ภายในปี 2565 ในขณะเดียวกัน จีนเองจะต้องเตรียมจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเริ่มงาน

สำหรับการส่งมอบพื้นที่ให้งานสัญญา 2.3 เข้าทำงานนั้น กำหนดเป็น 4 ช่วง (Key Date) โดยจะต้องสอดคล้องกับการก่อสร้างงานโยธา โดย Key Date แรกจะเป็นการส่งมอบพื้นที่ส่วนของกลุ่มงานอาคารไฟฟ้า สถานีจ่ายไฟฟ้า และศูนย์ควบคุมการสื่อสารตามแนวเส้นทาง ซึ่งจะก่อสร้างเสร็จก่อน คาดว่าจะเริ่มส่งมอบให้ในปี 2567 จากนั้นจะทยอยส่งมอบพื้นที่ในกลุ่มงานทาง โดยแบ่งเป็น 3 ช่วง (Key Date) โดยจุดสุดท้ายที่จะส่งมอบคือ สัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ประมาณปี 2569

สำหรับขบวนรถไฟความเร็วสูงนั้น ทางจีนอยู่ระหว่างออกแบบ คาดว่าจะได้ข้อสรุปแบบภายในปี 2565 เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการออกแบบรายละเอียดและการผลิตต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44480
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/07/2022 11:22 am    Post subject: Reply with quote

คืบหน้าก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กทม.-โคราช : UpSwing เศรษฐกิจดี-ดี
Jul 4, 2022
3PlusNews

ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง กทม.-นครราชสีมา พร้อมคุยกับ ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง..มั่นใจได้ใช้รถไฟความเร็วสูงแน่ในปี 2570


https://www.youtube.com/watch?v=YUm54kzcTAA
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44480
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/07/2022 7:22 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ลุ้น EIA ไฮสปีดไทย-จีน เฟส 2 “นครราชสีมา-หนองคาย” คาดปลายปีชง ครม.เล็งแบ่ง 10 สัญญาประมูลปี 66
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 07:07 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 07:07 น.

สร้างปีหน้า! รถไฟไฮสปีดเฟส 2 “นครราชสีมา-หนองคาย” เปิดบริการปี 71
เดลินิวส์ 4 กรกฎาคม 2565 12:29 น.
เศรษฐกิจ-ยานยนต์

รถไฟไฮสปีดเฟส 2 “นครราชสีมา-หนองคาย” 3 แสนล้าน กำลังจะมา! รฟท. จับตาอีไอเอ ชี้หากแนวโน้มดีเตรียมชงบอร์ด ต.ค. ก่อนเสนอ ครม. ปลายปีนี้ กางไทม์ไลน์หากไฟเขียว ลุยเปิดประมูล คาดเริ่มก่อสร้าง ส.ค.66 เปิดบริการปี 71

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะ (เฟส) ที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กิโลเมตร (กม.) วงเงินประมาณ 3 แสนล้านบาทว่า ได้รับข้อมูลจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เบื้องต้นว่า ขณะนี้ออกแบบรายละเอียดแล้วเสร็จ อยู่ในขั้นตอนการยื่นขอพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ (สผ.) ซึ่งขณะนี้ทางคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) ได้ให้จัดทำข้อมูลเพิ่มเติม และ รฟท.ได้ส่งข้อมูลกลับไปอีกครั้งแล้ว

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า ทาง รฟท. จะรอดูแนวโน้มการพิจารณาอีไอเอก่อนว่าจะเป็นอย่างไร หากมีแนวโน้มราบรื่นดี คาดว่าจะเสนอโครงการฯ ให้คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. พิจารณาอนุมัติได้ประมาณเดือน ต.ค.65 ก่อนเสนอให้กระทรวงคมนาคม และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ในปลายปี 65 ต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการรถไฟไทย-จีน เฟสที่ 2 มีเส้นทางครอบคลุม 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา, จ.ขอนแก่น, จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางที่มีความรวดเร็ว และความปลอดภัยให้ประชาชน รวมทั้งยังเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เชื่อมต่อการค้าการลงทุนของไทยกับ สปป.ลาว และประเทศจีนด้วย

ด้านนายกำพล บุญชม รองวิศวกรใหญ่ด้านโครงการพิเศษ รฟท. กล่าวว่า หากในช่วงปลายปี 65 ครม. เห็นชอบโครงการฯ ทาง รฟท. จะใช้เวลาหลังจากนั้นในการดำเนินการขั้นตอนการประกวดราคา (ประมูล) ประมาณ 7 เดือน และคาดว่าน่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือน ส.ค.-ก.ย.66 โดยจะใช้เวลาก่อสร้าง และติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ ประมาณ 4 ปี และสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณปี 71 อย่างไรก็ตามเบื้องต้นโครงการดังกล่าวจะแบ่งเป็นไม่เกิน 10 สัญญา ซึ่งโครงการนี้หากผ่านความเห็นชอบจาก ครม. จะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วเพราะพื้นที่ที่ใช้ในการก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของการ รฟท. โดยใช้เขตรถไฟเดิมเกือบทั้งหมด เป็นพื้นที่เวนคืนน้อยมาก

นายกำพล กล่าวต่อว่า สำหรับแนวเส้นทางตลอดระยะทาง 356 กม.นั้น แบ่งเป็น ทางรถไฟระดับพื้นดิน185 กม. และทางรถไฟยกระดับ 171 กม. มีทั้งสิ้น 5 สถานี ได้แก่ สถานีบัวใหญ่, สถานีบ้านไผ่, สถานีขอนแก่น, สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย โดยจะมีสถานีขนถ่ายสินค้า 1 แห่ง บริเวณสถานีรถไฟนาทา จ.หนองคาย รวมทั้งจะมีการก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงที่เชียงรากน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และสถานีนาทา จ.หนองคาย ส่วนการออกแบบรางมีขนาด 1.435 เมตร โดยรถไฟสามารถใช้ความเร็วได้สูงสุด 250 กม.ต่อชั่วโมง (ชม.) ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังหนองคาย ระยะทางรวม 609 กม. ประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44480
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/07/2022 8:16 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟความเร็วสูงสายแรกสร้าง5ปี12% พ้นวิกฤติ..อัพสปีดเปิดให้บริการปี70
เดลินิวส์ 5 กรกฎาคม 2565 8:00 น.
มุมคนเมือง, เศรษฐกิจ-ยานยนต์

โครงการรถไฟไฮสปีดสายแรกของประเทศไทย ช่วยผลักดันให้ระบบรางเป็นระบบหลักในการเดินทางและการขนส่งของประเทศ เป้าหมายของรัฐบาลในการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางราง (ขร.) นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนารถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะ (เฟส) ที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร (กม.) 14 สัญญา วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท

ถือเป็นโครงการรถไฟไฮสปีดสายแรกของประเทศไทย มีความสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ระบบรางเป็นระบบหลักในการเดินทางและการขนส่งของประเทศ เป้าหมายของรัฐบาลในการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี

อธิบดีขร. นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ ฉายภาพรวมการก่อสร้างโครงการได้ผลงาน 12% ก่อสร้างเสร็จ 1 สัญญา อยู่ระหว่างก่อสร้าง 10 สัญญา และรอลงนาม 3 สัญญา ล่าช้ากว่าแผนจากปัญหาและอุปสรรคต่างๆ รวมทั้งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ คลี่คลายการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างชาติไม่เป็นปัญหาอุปสรรคเหมือนที่ผ่านมา งานในส่วนที่ค่อนข้างยากได้ผ่านไปแล้ว เชื่อว่าหลังจากนี้จะทำให้การก่อสร้างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สิ้นปี 65 คาดว่างานก่อสร้างจะคืบหน้าถึง 20% และจะก่อสร้างแล้วเสร็จรวมทั้งทดสอบเดินรถเสมือนจริงได้ในปี 69 เป็นเวลา 6 เดือน ก่อนเปิดบริการประชาชนต้นปี 70 ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม

การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้ติดตามงาน 3 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว – กุดจิก สัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว, ช่วงกุดจิก-โคกกรวด และสัญญาที่ 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย ทั้ง 3 สัญญา ผู้รับจ้างรอเข้าพื้นที่ก่อสร้างในส่วนของพื้นที่เวนคืนเอกชน และชาวบ้าน

ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนนำพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินจะเวนคืนในพื้นที่บางส่วนของกรุงเทพมหานคร จ.ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี และนครราชสีมา เพื่อดำเนินโครงการฯ ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศบังคับใช้ต่อไป ช่วงรอประกาศบังคับใช้กฎหมาย ผู้รับจ้างได้เร่งงานก่อสร้างในส่วนของพื้นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง

สัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. ได้ผลงาน 92.5% เตรียมติดตั้งช่วงสะพานสุดท้าย (Last Span) ของทางยกระดับ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.65 ถือเป็นสัญญาที่ 2 ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จต่อจากสัญญาแรก1-1 สถานีกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. ส่วนสัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และช่วงกุดจิก-โคกกรวด 37.4 กม. คืบหน้า 27.78% รอเข้าพื้นที่เวนคืน 10 กม. จะแล้วเสร็จ ม.ค.67 ส่วนสัญญาที่ 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย 12.9 กม. คืบหน้า 23% รอเข้าพื้นที่เวนคืนบริเวณสถานีสระบุรี ประมาณ 86 ไร่ จะแล้วเสร็จปลายปี 67

สำหรับอีก 11 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 1-1 สถานีกลางดง-ปางอโศก 3.5 กม. ก่อสร้างแล้วเสร็จ สัญญาที่ 3-2 งานอุโมงค์มวกเหล็ก และลำตะคอง 12.2 กม. คืบหน้า 1.21% สัญญาที่ 3-3 ช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง 21.6 กม. คืบหน้า 7.08% สัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา 12.3 กม. คืบหน้า 2.26% สัญญาที่ 4-2 ช่วงดอนเมือง-นวนคร 21.8 กม. คืบหน้า 0.04% สัญญาที่ 4-3 ช่วงนวนคร-บ้านโพ 23 กม. คืบหน้า 1.88% สัญญาที่ 4-4 ศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย เตรียมพื้นที่ก่อสร้าง สัญญาที่ 4-6 ช่วงพระแก้ว-สระบุรี 31.6 กม. คืบหน้า 0.06%

ขณะที่อีก 3 สัญญา ยังรอลงนามสัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า 30.2 กม. สัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง 15.2 กม. สัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว 13.3 กม.

อธิบดี ขร. ยังอัพเดทโครงการฯเฟส 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กม. วงเงิน 3 แสนล้านบาทด้วยว่า รฟท. ออกแบบรายละเอียดแล้วเสร็จ อยู่ในขั้นตอนการยื่นขอพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) หากมีแนวโน้มราบรื่นดี คาดว่าจะเสนอโครงการฯ ให้คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. พิจารณาอนุมัติประมาณเดือน ต.ค.65 ก่อนเสนอกระทรวงคมนาคม และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ในปลายปี 65 ถือเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เชื่อมต่อการค้าการลงทุนของไทยกับ สปป.ลาว และประเทศจีน

ด้านนายกำพล บุญชม รองวิศวกรใหญ่ด้านโครงการพิเศษ รฟท. บอกว่า หาก ครม. เห็นชอบโครงการฯ รฟท. จะใช้เวลาประกวดราคา (ประมูล) 7 เดือน น่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือน ส.ค.-ก.ย.66 ใช้เวลาก่อสร้างและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณราว 4 ปี แบ่งก่อสร้างไม่เกิน 10 สัญญา เพื่อความรวดเร็ว พื้นที่ก่อสร้างส่วนใหญ่ใช้เขตรถไฟเดิมเกือบทั้งหมด เวนคืนน้อยมาก

สามารถเปิดให้บริการได้ประมาณปี 71 ใช้ความเร็วได้สูงสุด 250 กม.ต่อ ชม. เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปหนองคาย 609 กม. ประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที.

นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานเริ่มงานก่อสร้างโครงการสัญญาที่ 1-1 สถานีกลางดง-ปางอโศก โดยให้กรมทางหลวง (ทล.) ก่อสร้างคันทางเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ปี 60 เมื่อต้นปีโครงการก้าวสู่ปีที่ 5 ได้ผลงานก่อสร้าง 3.53% ขณะนี้ผลงานเกิน 10% …ถ้าทำได้ตามนี้ รอกันอีก 5 ปี รวม 10 ปีพอดิบพอดี ที่จะได้ใช้บริการรถไฟไฮสปีดสายแรกของประเทศไทย

…ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่ง…
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42694
Location: NECTEC

PostPosted: 05/07/2022 10:14 am    Post subject: Reply with quote




รื้อแล้ว รุกที่รถไฟ พร้อมย้ายหนี #train #railway
https://www.youtube.com/watch?v=XiWSHG1-Qd8
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44480
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/07/2022 9:12 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟความเร็วสูง ไทย- จีน ตั้งเป้าเปิดให้บริการ กรุงเทพ-นครราชสีมา ปี 2570 ที่มา : สำนักข่าวไทย อสมท.
Jul 5, 2022
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม

กรมการขนส่งทางราง ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ความร่วมมือ "ไทย- จีน" ตั้งเป้าหมายจะเปิดให้บริการในเฟสที่ 1 กรุงเทพ-นครราชสีมา ในปี 2570 ที่มา : สำนักข่าวไทย อสมท.


https://www.youtube.com/watch?v=NQv29IThFxU
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42694
Location: NECTEC

PostPosted: 06/07/2022 6:28 pm    Post subject: Reply with quote

วันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ทางโครงการฯได้เริ่มเข้าเคลียริ่งพื้นที่ที่จะก่อสร้างอาคารชั่วคราว 6 หน่วยงาน บริเวณย่านสถานีรถไฟนครราชสีมา (ปั๊มเอสโซ่เก่าข้างมาร์โค)
https://www.facebook.com/groups/164027930945387/posts/980500465964792/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42694
Location: NECTEC

PostPosted: 06/07/2022 6:40 pm    Post subject: Reply with quote

UPDATE: รฟท. รื้อถอนชุมชนพื้นที่เชื่อม 3 สนามบิน ก่อนส่งมอบพื้นที่ ก.ค.นี้ พร้อมจับมือการเคหะฯ สร้างที่พักบึงมักกะสัน รองรับชุมชนที่ได้รับผลกระทบ
The Reporters
วันพุธ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 10:00 น.

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟท.ได้เร่งแก้ปัญหาการบุกรุก พร้อมติดตามดูแลผู้ได้รับผลกระทบ จากชุมชนในพื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) โดยล่าสุด ได้ลงพื้นที่ช่วงยมราช-พญาไท บริเวณชุมชนบุญร่มไทร เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหา ตามนโยบายของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาด้านที่ดินที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม โดยได้พบปะพูดคุยกับชุมชน เพื่อแก้ปัญหาการบุกรุก และหาทางออกร่วมกัน
สำหรับชุมชนบุญร่มไทร รฟท.ได้ร่วมกับการเคหะแห่งชาติ จัดสร้างอาคารที่พักอาศัยขนาด 315 ยูนิต บริเวณพื้นที่ริมบึงมักกะสัน เขตราชเทวี รองรับการย้ายของชุมชน โดยให้ไปเช่าอยู่อาศัยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างขออนุมัติของหน่วยงานรัฐ และออกแบบเพื่อก่อสร้าง ประกอบด้วยห้องพักขนาด 28.5 ตารางเมตร ขนาด 1 ห้องนอน และขนาด 34.6 ตารางเมตร ขนาด 2 ห้องนอน ร่วมกับการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นที่โดยรอบ เช่น พื้นที่รองรับศูนย์ดูแลเด็ก ศูนย์สุขภาพสำหรับกลุ่มเปราะบาง ห้องประชุม พื้นที่ส่วนกลางสำหรับประกอบอาหาร พื้นที่เก็บรถเข็นสำหรับประกอบอาชีพ และตลาดสดภายในชุมชน คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2567 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี
ส่วนความคืบหน้าการส่งมอบที่ดินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ขณะนี้ รฟท.สามารถแก้ปัญหาในภาพรวม และทำความเข้าใจกับผู้บุกรุก จนได้รับความยินยอมออกจากพื้นที่ครบ 100% แล้ว กำหนดแผนส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนผู้ได้รับสัมปทานโครงการ คือ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ภายในเดือนกรกฎาคมนี้
ผู้ว่าการ รฟท. ยังกล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นโครงการที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยตลอดโครงการมีระยะทาง 220 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 224,500 ล้านบาท จะก่อให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน และสนับสนุนการท่องเที่ยว ก่อให้เกิดเติบโตทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวของชุมชนได้ในอนาคตอันใกล้
และเมื่อโครงการเปิดให้บริการครบตลอดเส้นทาง จะใช้เวลาเดินทางจากดอนเมือง-อู่ตะเภา ประมาณ 1.25 ชั่วโมง ใช้ความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนการเดินรถในเมืองช่วงดอนเมือง-สุวรรณภูมิ อาจใช้ความเร็วที่ประมาณ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่พื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อพัฒนาโดยรอบสถานี หรือ TOD ที่สถานีมักกะสัน จำนวน 140 ไร่ เมื่อมีการพัฒนาโครงการแล้วเสร็จ จะเป็นการพัฒนาเมือง เป็นศูนย์กลางการเดินทางในประเทศและภูมิภาค
โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะใช้โครงสร้างและแนวเส้นทางการเดินรถเดิมแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ ที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน พร้อมทั้งจะก่อสร้างทางรถไฟขนาด 1.435 เมตร (Standard Gauge) ในส่วนต่อขยาย 2 ช่วงจากสถานีพญาไท ไปยังสนามบินดอนเมือง และจากสถานีลาดกระบัง ไปยังสนามบินอู่ตะเภา ประกอบด้วยสถานีรถไฟความเร็วสูง 9 สถานี ได้แก่ สถานีดอนเมือง สถานีบางซื่อ สถานีมักกะสัน สถานีสุวรรณภูมิ สถานีฉะเชิงเทรา สถานีชลบุรี สถานีศรีราชา สถานีพัทยา และสถานีอู่ตะเภา ลงนามสัญญาร่วมลงทุนตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. 62 ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และ บริษัท เอเชียเอรา วัน จำกัด ที่มีเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
https://www.facebook.com/TheReportersTH/posts/3348818145368562
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44480
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/07/2022 6:57 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.เข็นไฮสปีดไทย-จีน เฟส2 ราว 3 แสนล้าน บูมขนส่งไทย-ลาว
หน้าแรก เศรษฐกิจ Mega Project
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล | 06 ก.ค. 2565 เวลา 16:58 น.

รฟท.ลุ้นคชก.ไฟเขียวอีไอเอสร้างไฮสปีดไทย-จีน เฟส2 วงเงิน 3 แสนล้านบาท หลังถูกตีกลับแก้ไขข้อมูลเพิ่ม เล็งชงคมนาคม-ครม.เคาะปลายปีนี้ เตรียมขยายสัญญาประมูลใหม่ หวังเกิดการแข่งขันอุ้มผู้รับเหมารายเล็ก อัพเกรดผลงาน เริ่มตอกเสาเข็ม ส.ค.-ก.ย.66 เปิดให้บริการปี 71

หลังจากภาครัฐพยายามเร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน หรือไฮสปีดไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ซึ่งปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปค่อนข้างมากทั้ง 14 สัญญา โดยตั้งเป้าที่จะพร้อมเปิดให้บริการในปี 2570 ที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะที่ 2 โดยให้ รฟท.เร่งรัดโครงการฯดังกล่าว ล่าสุดทางกระทรวงคมนาคมได้ฤกษ์ที่จะสานโครงการไฮสปีดไทย-จีน เฟส2 ต่อเนื่อง

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีด) ไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะ(เฟส) ที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กิโลเมตร(กม.) วงเงินประมาณ 3 แสนล้านบาท เบื้องต้นได้รับข้อมูลจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า ปัจจุบันได้ออกแบบรายละเอียดแล้วเสร็จ โดยอยู่ในขั้นตอนการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ (สผ.) ซึ่งขณะนี้ทางคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(คชก.) ตีกลับรายงานฉบับดังกล่าว เนื่องจากมีข้อมูลบางประเด็นที่ต้องปรับแก้ไขเล็กน้อย โดยให้จัดทำข้อมูลเพิ่มเติม เบื้องต้นการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ได้ส่งข้อมูลกลับไปอีกครั้งเพื่อให้คชก.พิจารณาเห็นชอบแล้ว

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท. )จะรอดูแนวโน้มการพิจารณาอีไอเอก่อนว่าจะเป็นอย่างไร หากมีแนวโน้มราบรื่นดี คาดว่าจะเสนอโครงการฯ ให้คณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท. พิจารณาอนุมัติได้ประมาณเดือนตุลาคม 2565 ก่อนเสนอให้กระทรวงคมนาคม และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาได้ในปลายปี 2565 ต่อไป

สำหรับโครงการรถไฟไทย-จีน เฟสที่ 2 มีเส้นทางครอบคลุม 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา, จ.ขอนแก่น, จ.อุดรธานี และจ.หนองคาย เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางที่มีความรวดเร็ว และความปลอดภัยให้ประชาชน รวมทั้งยังเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เชื่อมต่อการค้าการลงทุนของไทยกับ สปป.ลาว และประเทศจีนด้วย

นายกำพล บุญชม รองวิศวกรใหญ่ด้านโครงการพิเศษ รฟท. กล่าวว่า หากในช่วงปลายปี 2565 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการฯ ทาง รฟท. จะใช้เวลาหลังจากนั้นในการดำเนินการขั้นตอนการประกวดราคา(ประมูล) ประมาณ 7 เดือน และคาดว่าน่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือนสิงหาคม -กันยายน 2566 โดยจะใช้เวลาก่อสร้างและติดตั้งงานระบบอาณัติ สัญญาณ รวมประมาณ 4 ปี สามารถเปิดให้บริการได้ประมาณปี 2571

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะแบ่งการประมูลเพื่อดำเนินการก่อสร้างเป็นไม่เกิน 10 สัญญา หากโครงการนี้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เพราะพื้นที่ที่ใช้ในการก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่ไม่มีภูเขา รวมทั้งเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยใช้เขตรถไฟเดิมเกือบทั้งหมด เป็นพื้นที่เวนคืนน้อยมาก
    "ส่วนสาเหตุที่มีการแบ่งสัญญาไม่เกิน 10 สัญญานั้น เนื่องจาก หากมีการแบ่งสัญญาย่อยหลายสัญญาเหมือนกับโครงการไฮสปีดไทย-จีนเฟส1 คงไม่ไหว เพราะสัญญาค่อนข้างเยอะ ทำให้ผู้รับเหมาที่จะคุมงานก่อสร้างไม่เพียงพอ แต่ที่ผ่านมามีการประมูลแต่ละโครงการ ฯ มีการแบ่งออกหลายสัญญา ทำให้ผู้รับจ้างรายเล็กไม่สามารถเข้าร่วมประมูลงานได้ เพราะเป็นสัญญางานก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ ทำให้ในโครงการฯ เฟส2 ทางรฟท.มีความเห็นว่าควรขยายสัญญาให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้เกิดการแข่งขันในการประมูลมากขึ้นสำหรับงานก่อสร้างให้แก่ผู้รับจ้างรายเล็ก ซึ่งจะทำให้ผู้รับจ้างมีรายเล็กมีผลงานเพิ่มขึ้น ทั้งนี้มีบางสัญญาที่อยู่ภายในเมืองสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ยาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ต้องมีการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค,ท่อระบายน้ำและระบบไฟฟ้า รวมทั้งผู้บุกรุกที่อาศัยภายในชุมชนใหญ่บริเวณจังหวัดขอนแก่น ส่งผลให้การรื้อย้ายต้องใช้ระยะเวลา"
นายกำพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้แนวเส้นทางตลอดระยะทาง 356 กิโลเมตร (กม.) นั้น แบ่งการก่อสร้างเป็น ทางรถไฟระดับพื้นดิน 185 กิโลเมตร (กม.) และทางรถไฟยกระดับ 171 กิโลเมตร (กม.) มีทั้งสิ้น 5 สถานี ได้แก่ สถานีบัวใหญ่, สถานีบ้านไผ่, สถานีขอนแก่น, สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย โดยจะมีสถานีขนถ่ายสินค้า 1 แห่ง บริเวณสถานีรถไฟนาทา จังหวัดหนองคาย รวมทั้งจะมีการก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงที่เชียงรากน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสถานีนาทา จังหวัดหนองคาย ส่วนการออกแบบรางมีขนาด 1.435 เมตร โดยรถไฟสามารถใช้ความเร็วได้สูงสุด 250 กิโลเมตร (กม.) ต่อชั่วโมง(ชม.) ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังหนองคาย ระยะทางรวม 609 กิโลเมตร (กม.) ประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที

Click on the image for full size

หากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะสามารถอำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง ทำให้มีความรวดเร็วในการเดินทาง และความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเกิดการพัฒนาเมืองตามแนวเส้นทางให้เป็นศูนย์กลางความเจริญทางด้านเศรษฐกิจของภูมิภาค นอกจากนั้นเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เชื่อมต่อการค้าการลงทุนของไทย กับ สปป.ลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ในขณะดำเนินการก่อสร้างโครงการยังสนับสนุนการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42694
Location: NECTEC

PostPosted: 07/07/2022 8:31 pm    Post subject: Reply with quote

สี จิ้นผิง เล็งร่วมประชุมเอเปค เดินหน้ารถไฟไทย-จีน ชวนลงทุนอีอีซี
การเมือง
วันอังคาร ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17:14 น.


ประยุทธ์ หารือ หวัง อี้ ชื่นมื่น ย้ำเดินหน้ารถไฟฟ้าไทย-จีน ชวนลงทุนในอีอีซี สี จิ้นผิง เล็งร่วมประชุมเอเปคช่วงปลายปี ถ้าไม่มีข้อติดขัด

วันนี้ 5 กรกฎาคม 2565 เวลา 15.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายหวัง อี้ (H.E. Mr.Wang Yi) มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้สรุปสาระสำคัญภายหลังการหารือว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับมนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย ขอขอบคุณความร่วมมือที่ได้รับจากหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งจีน

ทั้งนี้ ห่วงใยสถานการณ์อุทกภัยทางตอนใต้ของจีน เชื่อมั่นว่าจีนจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้โดยเร็วเช่นที่ผ่านมา ฝากความระลึกถึงและความปรารถนาดีไปยังประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรี ยินดีกับความสัมพันธ์ไทย-จีนที่แน่นแฟ้นในทุกระดับ มีพลวัตอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งยินดีกับการครบรอบหนึ่งทศวรรษของความเป็น “หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน” ในปีนี้ รัฐบาลไทยพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลจีนเพื่อพัฒนาหุ้นส่วนสู่ทศวรรษหน้า และทราบว่า ในการหารือระหว่างท่านกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จีนและไทยเห็นพ้องกับหลักการต่อแนวคิดที่จะตั้งเป้าหมายพัฒนาความสัมพันธ์เพื่อปูทางสู่ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2568 (ค.ศ. 2025)

มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีนกล่าวว่าเป็นเกียรติที่ได้เดินทางเยือนไทย มิตรประเทศที่สำคัญในภูมิภาค ชื่นชมนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศ ที่รักษาเสถียรภาพทางสังคม พร้อมส่งเสริมพัฒนาทางเศรษฐกิจ ดูแลจัดการความท้าทายเรื่องโควิด-19 ได้อย่างดี ซึ่งเชื่อมั่นว่า นายกรัฐมนตรีจะพัฒนาประเทศไทยได้ดีขึ้นต่อไป




ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ไทย-จีนที่พัฒนาไปด้วยดีไม่เคยเปลี่ยนแปลง เป็นเพราะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีมีความเข้าใจต่อกัน ในปีนี้ครบ 10 ปี “หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน” จะต้องวางแผนร่วมกันถึงความร่วมมือในอนาคต ร่วมกันสร้างประชาคมเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ร่วมกัน

ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมร่วมกันภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ดังนี้

การค้า นายกรัฐมนตรียินดีกับมูลค่าการค้าระหว่างกัน ปีนี้ช่วงเวลา มกราคม-เมษายน การค้าขยายตัวกว่าร้อยละ 20 เป็นสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจทั้งสองประเทศ ขอบคุณจีนที่ตอบสนองต่อข้อเสนอของไทยในการอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าเกษตร ซึ่งสินค้าเกษตรเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 จากไทยไปจีน และได้เสนอให้จีนพิจารณาเร่งรัดการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการนำเข้าผลไม้ในด่านอื่น ๆ ของฝั่งจีน

การลงทุน ได้เชิญชวนให้จีนพิจารณาเพิ่มการลงทุนในไทย ด้วยศักยภาพจากจุดยุทธศาสตร์ของไทย การเป็นจุดเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ของภูมิภาค โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งพร้อมรองรับการลงทุนในสาขาอุตสาหกรรมที่บริษัทของจีนมีศักยภาพ และความเชี่ยวชาญ อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมการเกษตร

การส่งเสริมความเชื่อมโยง ฝ่ายจีนให้ความสำคัญกับความเชื่อมโยงโครงการรถไฟจีน-ลาว กับระบบรางของไทย เชื่อมั่นว่าจะสนับสนุนความเป็นพลวัตด้านความสัมพันธ์ ขนสินค้า และนักท่องเที่ยว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า ไทยมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการรถไฟไทย-จีน อย่างเต็มที่เพื่อให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด


ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะไปติดตามปัญหาที่ติดขัดเพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนในภูมิภาค โดยจีนเสนอให้จัดการประชุมสามฝ่ายเพื่อให้เกิดความคืบหน้าโดยเร็ว

การเดินทางระหว่างกัน นายกรัฐมนตรีขอขอบคุณจีน ที่อนุญาตให้สายการบินพาณิชย์ของไทยกลับไปทำการบิน และให้นักศึกษาไทยทยอยเดินทางกลับไปศึกษาต่อที่จีน ซึ่งฝ่ายจีนได้กล่าวว่าสถานการณ์ที่ดีขึ้นจะส่งผลให้มีเที่ยวบินมากขึ้น และสนับสนุนการเดินทางระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศมากขึ้น

การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย จีนยืนยันสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าขอรับความร่วมมือจากจีนต่อเพื่อส่งเสริมความร่วมมือรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจในภูมิภาคที่มีความไม่แน่นอนสูงร่วมกัน ทั้งนี้ ฝ่ายจีนกล่าวว่าหากไม่มีข้อติดขัดอื่นใด ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมเอเปค 2022 ที่ประเทศไทย

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับมนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ฉีซินเฉียลี่ ชื่อชื่อชุ่นลี่ (Qixin xieli shishi shunli) ร่วมแรงใจเป็นหนึ่งเดียว เรื่องต่าง ๆ ก็จะราบรื่น หากร่วมมือกันแม้แต่ขุนเขาก็สามารถเคลื่อนได้

รถไฟไทย-จีน : หวัง อี้ เข้าพบประยุทธ์ ผลักดันโครงการรถไฟให้เสร็จตามกำหนด ประกาศฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมร่วมกัน
วันอังคาร ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23:11 น.


นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อ 5 ก.ค.

พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความยินดีกับวาระครบรอบหนึ่งทศวรรษของความเป็น “หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน” ในปีนี้ โดยระบุว่ารัฐบาลไทยพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลจีนเพื่อพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนไปสู่ทศวรรษหน้า โดยระหว่างที่นายหวัง อี้ พบหารือกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จีนและไทยได้เห็นพ้องกับหลักการต่อแนวคิดที่จะตั้งเป้าหมายพัฒนาความสัมพันธ์เพื่อปูทางสู่ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2568 (ค.ศ. 2025)

ด้านนายหวัง อี้ กล่าวว่าเป็นเกียรติที่ได้เดินทางเยือนไทย มิตรประเทศที่สำคัญในภูมิภาค พร้อมชื่นชมการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการรักษาเสถียรภาพทางสังคม อีกทั้งส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และจัดการความท้าทายเรื่องโควิด-19 ได้อย่างดี ซึ่งจีนเชื่อมั่นว่า นายกรัฐมนตรีจะพัฒนาประเทศไทยได้ดีขึ้นต่อไป

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า ความสัมพันธ์ไทยจีนที่พัฒนาไปด้วยดีไม่เคยเปลี่ยนแปลง เป็นเพราะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และพล.อ.ประยุทธ์มีความเข้าใจต่อกัน ในปีนี้ครบ 10 ปี “หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน” ไทยและจีนจะต้องวางแผนร่วมกันถึงความร่วมมือในอนาคต ร่วมกันสร้างประชาคมเพื่อ ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ร่วมกัน

ความร่วมมือทวิภาคี
ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมร่วมกันภายหลังสถานการณ์โควิด – 19 ดังนี้ ด้านการค้า นายกรัฐมนตรียินดีกับมูลค่าการค้าระหว่างกัน ปีนี้ช่วงเดือนมกราคม – เมษายน การค้าขยายตัวกว่าร้อยละ 20 เป็นสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจทั้งสองประเทศ

ไทยแสดงความขอบคุณจีนที่ตอบสนองต่อข้อเสนอของไทยในการอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าเกษตร ซึ่งสินค้าเกษตรเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 จากไทยไปจีน และได้เสนอให้จีนพิจารณาเร่งรัดการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการนำเข้าผลไม้ในด้านอื่น ๆ ของฝั่งจีน


ด้านการลงทุน ไทยได้เชิญชวนให้จีนพิจารณาเพิ่มการลงทุนในไทย ด้วยศักยภาพจากจุดยุทธศาสตร์ของไทย การเป็นจุดเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ของภูมิภาค โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่พร้อมรองรับการลงทุนในสาขาอุตสาหกรรมที่บริษัทของจีนมีศักยภาพและความเชี่ยวชาญ อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมการเกษตร

การส่งเสริมความเชื่อมโยง จีนได้ให้ความสำคัญกับความเชื่อมโยงโครงการรถไฟจีน-ลาวกับระบบรางของไทย โดยเชื่อมั่นว่าจะสนับสนุนความเป็นพลวัตด้านความสัมพันธ์ การขนสินค้า และการท่องเที่ยว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า ไทยมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการรถไฟไทย-จีนอย่างเต็มที่เพื่อให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะไปติดตามปัญหาที่ติดขัดเพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนในภูมิภาค โดยจีนเสนอให้จัดการประชุมสามฝ่ายเพื่อให้เกิดความคืบหน้าโดยเร็ว

ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวกับมนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนว่า “ฉีซินเฉียลี่ ชื่อชื่อชุ่นลี่” (Qixin xieli shishi shunli) ซึ่งแปลว่า ร่วมแรงใจเป็นหนึ่งเดียว เรื่องต่าง ๆ ก็จะราบรื่น หากร่วมมือกันแม้แต่ขุนเขาก็สามารถเคลื่อนได้

ความเป็นมาโครงการรถไฟ ไทย-จีน
เว็บไซต์ของกระทรวงคมนาคมระบุว่า รัฐบาลไทยและจีนได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ ภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 เมื่อ19 ธ.ค. 2557 ในโอกาสเฉลิมฉลองการครบรอบ 40 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ


รัฐบาลไทยตกลงให้รัฐบาลจีนเข้ามีส่วนร่วมในการดำเนินการตาม “กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565” โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ขนาดมาตรฐาน (Standard Gauge) เส้นทางหนองคาย-โคราช- แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด (ประมาณ 734 กิโลเมตร) และเส้นทางแก่งคอย-กรุงเทพฯ (ประมาณ 133 กิโลเมตร) ซึ่งเป็นโครงการรถไฟทางคู่ขนาดมาตรฐานโครงการแรกของไทย โดยทั้งสองฝ่ายจะใช้ความร่วมมือในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาลในการดำเนินโครงการความร่วมมือดังกล่าว

ในเบื้องต้น ฝ่ายจีนจะรับผิดชอบการก่อสร้างและพัฒนาระบบรถไฟและจะมีการหารือการสนับสนุนเงินลงทุนและการชำระเงินลงทุนกันต่อไป ในเวลาต่อมา ในการประชุมหารือทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับนายกรัฐมนตรีจีนเมื่อ 23 มี.ค. 2559 ได้ข้อยุติในหลักการว่า ไทยจะเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างเอง โดยจ้างจีนเป็นผู้ก่อสร้างโดยไม่มีการให้สัมปทานหรือร่วมทุนใดกับประเทศจีน รวมทั้งเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินงานจากรถไฟความเร็วปานกลางเป็นรถไฟความเร็วสูงที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยฝ่ายจีนได้ดำเนินการปรับปรุงการออกแบบใหม่

ซึ่งต่อมาทั้งสองฝ่ายได้ลงนาม “กรอบความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาล แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่งของประเทศไทย พ.ศ. 2558-2565” เมื่อ 24 ส.ค. 2559 เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินความร่วมมือโครงการรถไฟระหว่างสองฝ่ายต่อไป

15 ม.ค. ปีนี้ ฐานเศรษฐกิจ รายงานข่าว โครงการรถไฟไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา 253 กิโลเมตร (กม.) 14 สัญญา มูลค่า 179,000 ล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ในปี 2565 มีผลงานคืบหน้าเพียง3.53%หรือการก่อสร้างแล้วเสร็จ 3.5 กม. ในส่วนของสัญญาที่1-1สถานีกลางดง-ปางอโศก ซึ่งเป็นส่วนที่กรมทางหลวงดำเนินการนับตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเริ่มงานก่อสร้างโครงการสัญญาที่ 1-1 สถานีกลางดง-ปางอโศก 3.5 กม. โดยมอบกรมทางหลวง (ทล.) ก่อสร้างคันทางเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม2560

ผ่านไปไม่กี่เดือน 9 พ.ค. ปีนี้ ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า โครงการรถไฟ ไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ก้าวเข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว นับจากวันที่มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ เมื่อ 19 ธ.ค. 2557 โดยการก่อสร้างทางรถไฟ ระบบควบคุมการเดินรถ และขบวนรถไฟ ใช้เทคโนโลยีรถไฟของจีนทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการ ได้พยายามแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้ รถไฟความเร็วสูงสายแรกของประเทศ เปิดให้บริการได้ตามเป้าหมายในปี 2569

การก่อสร้างงานโยธาระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา จำนวน 14 สัญญา เริ่มต้นคิกออฟสัญญา 1-1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2560 โดยมีกรมทางหลวง (ทล.) เป็นผู้ก่อสร้าง ใช้เวลากว่า 2 ปี 6 เดือนการก่อสร้างจึงแล้วเสร็จ

ส่วนอีก 13 สัญญานั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง 9 สัญญา เซ็นสัญญาแล้วเตรียมก่อสร้าง 1 สัญญา และมี 2 สัญญาที่ยังไม่ได้ลงนาม ขณะที่เหลือสัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กม. เพียงสัญญาเดียวที่ยังไม่ได้ประกวดราคา เนื่องจากมีแนวเส้นทางทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่มีกลุ่ม ซี.พี.ผู้รับสัมปทาน จะเป็นผู้ก่อสร้างโครงสร้างร่วม แต่ยังต้องรอให้การเจรจาแก้ไขสัญญา รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินได้ข้อสรุปก่อน

โดยภาพรวมการก่อสร้างเดือน มี.ค. 2565 มีความคืบหน้า 4.62% ส่วนแผนงานกำหนดที่ 8.64% เท่ากับมีความล่าช้า 4.02%

รายงานของผู้จัดการออนไลน์ระบุว่า ปัญหาอุปสรรคที่ทำให้การก่อสร้างรถไฟไทย-จีนล่าช้า และงานโยธายังไม่เริ่มต้นถึง 4 สัญญานั้น มีผลกระทบทำให้การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐบาลต้องหลุดเป้า งานระบบดีเลย์กว่า 1 ปีจากพิษโควิด-19 มีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะทำให้ต้องขยับไทม์ไลน์การเปิดให้บริการเฟสแรก กรุงเทพ-นครราชสีมา จากปี 2569 ออกไปอีกแน่นอน
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 452, 453, 454 ... 545, 546, 547  Next
Page 453 of 547

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©