RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311276
ทั่วไป:13257999
ทั้งหมด:13569275
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 233, 234, 235 ... 545, 546, 547  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42686
Location: NECTEC

PostPosted: 22/09/2017 12:48 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ไทย อ้อน จีน ศึกษาสร้างไฮสปีดเทรน หนองคาย ต่อเชื่อมท่านาแล้งฝั่งลาว
ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 21 กันยายน 2560 - 20:11 น.


ไทยขอจีน! ศึกษาสร้างไฮสปีดเทรนหนองคาย เชื่อมต่อท่านาแล้งประเทศลาว


วันที่ 21 กันยายน 2560 - 22:06 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42686
Location: NECTEC

PostPosted: 25/09/2017 3:06 pm    Post subject: Reply with quote

เริ่มอบรมวิศวกรจีน77 คน ชุดแรกลุยรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ-โคราช
เผยแพร่: 25 กันยายน 2560 - 14:30:00


วิศวกรจีนชุดแรก 77 คน เข้ารับการทดสอบ “รถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพ-โคราช”แล้วเพื่อเร่งออกใบรับรอง ขณะที่การประชุมครั้งที่ 21 หารือถึงแผนหารือรายละเอียดสัญญา 2.3 (ระบบราง ไฟฟ้าเครื่องกล จัดหาขบวนรถ และอบรมบุคลากร) และวางแผน เส้นทางโคราช - หนองคาย

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ การทดสอบวิศวกรจีนในโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา รุ่นทีิ่ 1 จัดโดยสภาวิศวกร ในวันที่ 25 กันยายน 2560 ณ เมืองเทียนจิน สาธารณรัฐประชาชนจีน มีวิศวกรจีนเข้าร่วมการทดสอบ จำนวน 77 คน หัวข้อการทดสอบประกอบด้วย 1. ด้านกฎหมายและจรรยาบรรณของวิศวกรในประเทศไทย 2. ด้านเทคนิคเกี่ยวกับสภาพทั่วไปของประเทศไทย เช่น สภาพชั้นดินและธรณีวิทยา น้ำและการระบายน้ำ ตลอดจนความปลอดภัยในทางวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อม เมื่อวิศวกรจีนผ่านการทดสอบทางสภาวิศวกรไทยจะออกใบรับรองเพื่อนำไปใช้ในโครงการรถไฟไทย-จีนต่อไป

นอกจากนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายหวัง เสี่ยวเทา รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน ได้เยี่ยมชมการฝึกอบรมและทดสอบวิศวกรจีน ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน อีกด้วย

ทั้งนี้ นายอาคมและนายหวัง เสี่ยวเทา ได้ร่วมลงนามบันทึกผลการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 21 เมื่อ วันที่ 22 กันยายน 2560ณ นครเทียนจิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งที่ประชุมได้หารือรายละเอียดสัญญา 2.3 (ระบบราง ไฟฟ้าเครื่องกล จัดหาขบวนรถ และอบรมบุคลากร) รวมถึงการวางแผนเพื่อเริ่มต้นโครงการรถไฟระยะต่อไป จากเส้นทางนครราชสีมา - หนองคาย

และก่อนหน้านี้ ฝ่ายไทยและจีนได้ลงนามสัญญา Engineering Procurement Construction (EPC)ทั้งงานออกแบบ และงานควบคุมงาน ในโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ- นครราชสีมา ระยะทาง 252.35 กิโลเมตร วงเงิน 179,412.21 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44455
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/09/2017 12:20 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมลั่นตอกเสาเข็ม รถไฟไทย-จีนดีเดย์พ.ย.นี้
เดลินิวส์ จันทร์ที่ 25 กันยายน 2560 เวลา 15.25 น.

คมนาคมได้ฤกษ์ตอกเสาเข็มก่อสร้างไฮสปีดเทรนระยะแรก กรุงเทพฯ-โคราช พ.ย.นี้ ด้าน รฟท.เล็งประมูลติดตั้งอาณัติสัญญานรถ ไฟทางคู่ 5เส้น 3 สัญญามูลค่ากว่า 17,000 ล้านบาท

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการติดตามแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมระยะเร่งด่วน หรือแอ๊คชั่นแพลน ปี 59 รวม20 โครงการ วงเงิน 1.38 ล้านล้านบาทว่า  โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน  เส้นทางกรุงเทพฯ - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา) ทั้ง2ฝ่ายได้ลงนามร่วมกันในสัญญา 2.1 การออกแบบรายละเอียดไปแล้ว คาดว่า จะมีการออกสัญญาเพื่อนับ1โครงการได้ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. นี้ เป็นต้นไป  

ทั้งนี้ในระหว่างวันที่ 22 ก.ย.-25 ก.ย. ที่ผ่านมา สภาวิศวกรไทยได้จัดอบรมและทดสอบวิศวกรจีนในโครงการรถไฟไทยจีน รุ่นที่ 1 ไปแล้วจำนวน 76 คน ที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน  จากนั้นจะเริ่มลงนามในแบบก่อสร้าง 3.5 กม. และภายในกลางเดือนต.ค. จะจัดส่งแบบการก่อสร้างให้การรถไฟแห่งประเทศไทยหรือรฟท.นำแบบไปให้ กรมทางหลวง หรือทล.ดำเนินการก่อสร้างต่อไปคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนพ.ย.นี้  จากเดิมที่คาดว่าจะเป็นเดือนต.ค.

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรีและสีเหลืองช่วง ลาดพร้าว-สำโรง ที่ได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างไปแล้วนั้น ขณะนี้ได้เริ่มทยอยส่ง มอบพื้รที่ให้ผู้รับเหมาบางส่วนแล้ว บางส่วนยังอยู่ระหว่างการทำแผนจราจรร่วมกับตำรวจ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน จะแล้วเสร็จทั้งหมด 
 
ส่วนโครงการรถไฟทางคู่โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 จำนวน 5 เส้นทาง ระยะทาง 668 กิโลเมตร มูลค่ารวม 9.58 หมื่นล้านบาท   ซึ่งแบ่งออกเป็น งานโยธา10สัญญา และงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ3สัญญา นั้น  สำหรับงานโยธาได้เปิด ประมูลไปได้แล้ว 9 สัญญา เหลือค้างอีก 1สัญญาคือ สัญญาที่ 2 เส้นทาง มาบกะเบา-จิระ ที่ผ่าเมืองนครราชสีมานั้นอยู่ระหว่างปรับแบบ ส่วนงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ 3สัญญา  วงเงิน 17,000  ล้านบาท คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในช่วงปลายปีนี้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44455
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/09/2017 12:22 pm    Post subject: Reply with quote

'รฟท.'เล็งเปลี่ยนไฮสปีดเทรนเป็นรถไฟเชื่อม3สนามบิน
กรุงเทพธุรกิจ 25 กันยายน 2560

รฟท.เตรียมประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองปลายเดือนนี้ เล็งเปลี่ยนโครงการไฮสปีดเทรนเป็นรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ก่อนเสนอเข้าบอร์ดอีอีซี

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง กทม.-ระยอง ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองในช่วงปลายเดือนก.ย. เพื่อพิจารณาแนวทางการปรับเปลี่ยนเป็นรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน คาดว่าจะเสนอให้คณะกรรมการอีอีซีพิจารณาอนุมัติได้ในเดือนต.ค. นี้ ส่วนระยะเวลาการเปิดประมูลขึ้นอยู่กับบอร์ด อีอีซีจะตัดสินใจ

ส่วนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง เส้นทาง กรุงเทพฯ-หัวหิน กระทรวงคมนาคมได้จัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมส่งให้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แล้ว รวมทั้งจัดส่งรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)ให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แล้ว ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับแนวเส้นทางที่ปรับเปลี่ยนได้ส่งให้คณะกรรมการชำนาญการพิจารณาแล้ว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44455
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/09/2017 4:20 pm    Post subject: Reply with quote

คค.เสนอบอร์ด EEC เปลี่ยนไฮสปีดเทรนเป็นรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน
MGR Online VDO Published on Sep 26, 2017

26/09/2017 คค.เสนอบอร์ด EEC เปลี่ยนไฮสปีดเทรนเป็นรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน


https://www.youtube.com/watch?v=CXA-r5qTjWg
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44455
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/09/2017 6:23 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟไทย-จีนเลื่อนลงเสา พ.ย.นี้ ทดสอบความรู้วิศวกรจีนแล้ว 76 คน
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 26 ก.ย. 2560 07:41

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้ลงนามร่วมกันในสัญญา 2.1 การออกแบบรายละเอียดไปแล้ว คาดว่า จะมีการออกสัญญาเพื่อเริ่มต้นโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.60 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 22-25 ก.ย. ที่ผ่านมา สภาวิศวกรไทยได้จัดอบรมและทดสอบวิศวกรจีนในโครงการรถไฟไทยจีน รุ่นที่ 1 แล้ว 76 คน จากนั้นจะเริ่มลงนามในแบบก่อสร้าง 3.5 กิโลเมตร (กม.) และกลางเดือน ต.ค.นี้ จะจัดส่งแบบการก่อสร้างให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อนำไปให้กรมทางหลวง (ทล.) ก่อสร้างต่อไป คาดจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือน พ.ย.60 จากเดิมที่จะตอกเสาเข็มเดือน ต.ค.60

ขณะที่ความคืบหน้าในการติดตามแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมระยะเร่งด่วน (แอคชั่น แพลน) ปี 59 รวม 20 โครงการ วงเงิน 1,383,938.89 ล้านบาทนั้น ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และสีเหลืองช่วง ลาดพร้าว-สำโรง ที่ลงนามในสัญญาก่อสร้างไปแล้ว ขณะนี้ ทยอยส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาบางส่วน แต่อีกบางส่วนอยู่ระหว่างการทำแผนจราจรร่วมกับตำรวจ คาด 2 เดือนจะแล้วเสร็จทั้งหมด ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 รวม 5 เส้นทาง ระยะทาง 668 กม. มูลค่า 95,800 ล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธา 10 สัญญา และงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ 3 สัญญานั้น ได้เปิดประมูลงานโยธาแล้ว 9 สัญญา เหลืออีก 1 สัญญาคือ สัญญาที่ 2 เส้นทางมาบกะเบา-จิระ ที่ผ่านเมืองนครราชสีมา เพราะอยู่ระหว่างการปรับแบบก่อสร้าง ขณะที่งานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ 3 สัญญา วงเงิน 17,000 ล้านบาท คาดจะเปิดประมูลได้ช่วงปลายปีนี้

นายพีระพล กล่าวต่อถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 211 กม. วงเงิน 95,000 ล้านบาทว่า กระทรวงคมนาคมได้จัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมส่งให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แล้วตามข้อสังเกตควบคู่ไปกับการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ที่จัดทำเสร็จ และส่งให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) แล้ว สำหรับรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง ในช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้ คณะกรรมการกลั่นกรองของ รฟท.จะพิจารณาแนวทางการปรับเปลี่ยนเป็นรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน และจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) พิจารณาเดือน ต.ค.นี้.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42686
Location: NECTEC

PostPosted: 28/09/2017 10:10 am    Post subject: Reply with quote

ไพศาล เย้ย รถไฟไทย-จีน 3.5 กม. เสียหาย-ไม่มีใครเขาทำกัน ระวังชะตากรรมเหมือนรบ.’ปู’

วันที่ 27 กันยายน 2560 - 18:03 น.

วันนี้ (27 ก.ย.) นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกวุฒิสภา
และกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กแสดงความเห็นปมรถไฟไทย-จีน
ระบุว่า เรื่องตลกระดับโลก!!!
อุตส่าห์ชงเรื่องออกคำสั่งมาตรา44เพื่อยกเว้นกฎสัปรังเคในโครงการรถไฟไทย-จีน
แต่ตอนนี้วิศวกรไทยกำลังไปอบรมวิศวกรจีนในเรื่องการทำรถไฟความเร็วสูงที่เทียนสินเพื่อจะออกประกาศนียบัตรให้ทำงานออกแบบควบคุมก่อสร้างรถไฟได้ต
มีวิศวกรจีนมารับการอบรมกว่า70คน
และกำลังเป็นเรืี่องท้อคออฟเดอะทาว์นในเมืองจีนและแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
เป็นเรื่องตลกขบขันทั่วประเทศจีน

1.ฝ่ายจีนพาอาจารย์สอนทำรถไฟไปดูรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งเร็ว300กม/ชม.
แล้วว่าพวกเราสร้างมันและสร้างไปแล้วในจีนและอีกหลายประเทศกว่าแสนกิโลเมตรแล้ว

2 อาจารย์จากไทยที่ไปสอนตะลึงตาค้างเพราะเราไม่เคยทำรถไฟความเร็วสูงเลย

3 เพราะไม่เคยทำจึงปล่อยโง่ จ้างจีนออกแบบเฟสแรก3.5กม
ที่กลางดงกลางป่าซึ่งไม่มีที่ไหนเขาทำ เพราะเกิดความเสียหายมหาศาล
ต้องใช้รถยนต์ขนของเป็นหมื่นๆเที่ยว
เสียเวลาและค่าใช้จ่ายมหาศาลและถนนจะพังพินาศไม่รู้เท่าไหร่

4 เพราะไม่เคยทำจึงหลงผิดว่ากรมทางหลวงซึ่งทำถนน สามารถทำทางรถไฟได้
ใครมีอำนาจหน้าที่แล้วไม่สั่งระงับ
ยกเลิกหรือแก้ไขก็ให้ไปอ่านคำพิพากษาคดีคุณยิ่งลักษณ์ดูให้ดีๆ
ว่านั่นแหละคือชะตากรรมของการ”ไม่นำพาต่อประเทศชาติ”
ผมเตือนมาตรฐานเดียวกันกับที่เคยเตือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์นั่นแหละ
วันหน้าไม่มีแผ่นดินอยู่จะได้ไม่มาว่ากันว่ากระบี่เดียวดายนี้สองมาตรฐาน
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44455
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/09/2017 6:51 pm    Post subject: Reply with quote

จี้รมว.คมนาคมใช้เหล็กไทย ผลิตรถไฟความเร็วสูง
เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 28 กันยายน 2560 เวลา 16.32 น.

สมาคมเหล็กไทยนัดถกอาคม รมว.คมนาคม หนุนรัฐใช้เหล็กไทยก่อสร้างเมกะโปรเจ็ก รถไฟความเร็วสูง ห่วงนำเข้าเหล็กราคาถูกไร้คุณภาพจากจีน

นายนาวา จันทนสุรคน นายกสมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย กล่าวว่า ในวันที่ 2 ต.ค.นี้ จะเข้าพบนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รมว.คมนาคม เพื่อเสนอให้รัฐบาลส่งเสริมการใช้เหล็กของไทยในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ของรัฐ เพื่อสนับสนุนให้เกิดเงินหมุนเวียนในธุรกิจของคนไทยและการจ้างงานอีกหลายแสนอัตรา รวมถึงจะหารือถึงข้อกังวลในการใช้วัสดุนำเข้าจากต่างประเทศที่ไม่มีคุณภาพมาก่อสร้างด้วย  

“ปัญหาการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมเป็นปัญหาหลักที่เกิดขึ้นกับธุรกิจเหล็กทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทย ทราบว่ากรมการค้าต่างประเทศอยู่ระหว่างเร่งออกกฎหมายมาตรการตอบโต้การอุดหนุน และมาตรการตอบโต้การหลีกเลี่ยงอากรทุ่มตลาด  ซึ่งจะช่วยให้การบังคับใช้มาตรการทางการค้าของประเทศไทยมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น จากที่ผ่านมาได้ขับเคลื่อนมาตรการทางการค้า ทั้งมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด และมาตรการตอบโต้การนำเข้าที่เพิ่มขึ้น (เซฟการ์ด)”

นายเภา บุญเยี่ยม เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน กล่าวว่า ต้องการเสนอให้รัฐบาลส่งเสริมการใช้เหล็กไทยก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-จีน มูลค่า 1.79 แสนล้านบาท และโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิระยะสอง มูลค่า 4.4 หมื่นล้านบาท เป็นต้น หลังจากพบว่าในช่วงเดือนม.ค.–ส.ค.60 ที่ผ่านมา ไทยการนำเข้าโครงสร้างกึ่งสำเร็จรูปจากจีนกว่า 64,000 ตัน ซึ่งผู้ส่งออกจีนอาศัยช่องโหว่ของพิกัดศุลกากร นำเข้ามาภายใต้พิกัด 7308 และยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมเข้ามาบังคับใช้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44455
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/09/2017 9:36 pm    Post subject: Reply with quote

ตอบ 6 คำถาม ดัน “อีอีซี” ข้อสงสัยกรณีสิทธิเช่าที่ดิน99ปี-เอื้อเอกชน-ใช้งบฯสูง?
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 28 กันยายน 2560 - 15:16 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ได้รวบรวมคำถาม คำตอบที่เป็นประเด็นข้อสงสัยของสังคมในการที่ ร่าง พ.ร.บ.อีอีซี กำลัง จะเข้าสู่ การพิจารณาของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยได้ตอบคำถามที่ เคยถูกหยิบยกขึ้นมาจาก สื่อมวลชน และภาคประชาสังคม ดังนี้

ประเด็นคำถามเกี่ยวกับ สิทธิประโยชน์ต่อนักลงทุนในพื้นที่ EEC การดำเนินโครงการในมิติต่างๆ

ถาม : สิทธิในการใช้ที่ดินของนักลงทุนต่างชาติ ที่ยาวถึง 99 ปี ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ระยะเวลายาวเกินไป
ตอบ : คำถามนี้อยู่บนความเข้าใจที่ผิด เพราะพรบ. EEC กำหนดระยะเวลาที่ให้สิทธิการเช่าใช้ที่ดินนั้น คือ สูงสุด 50 ปี และต่อได้อีกไม่เกิน 49 ปี

ซึ่งปัจจุบันนี้มีกฎหมายที่กำหนดการใช้ที่ดินระยะยาวอยู่แล้ว เช่น

พรบ.การเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชยกรรม พ.ศ. 2542 กำหนดระยะเวลาการเช่าไว้ 30-50 ปี และให้ต่ออายุการเช่าอีกได้อีกไม่เกิน 50 ปี
คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 17/2558 กำหนดให้การเข่าที่ดินในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน มีระยะเวลาการเช่าไม่น้อยกว่า 50 ปี และ อาจต่ออายุการเช่าได้อีกตามระยะเวลาที่คณะกรรมการกำหนด
นอกจากนี้ ในประเทศอื่นๆ เช่น มาเลเซียกำหนดให้เช่าได้ไม่เกิน 99 ปี กัมพูชา ลาวกำหนดระยะเวลาการเช่าที่ดินในเขตส่งเสริมได้สูงสุด 99 ปี เวียดนาม 70 ปีและต่อได้หลายครั้ง
นอกจากนี้ ในด้านการถือครองที่ดิน ปัจจุบัน พรบ.การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 กำหนดให้ผู้ประกอบการต่างชาติ สามารถถือกรรมสิทธิในที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมได้ ตามเงื่อนไขที่กำหนด รวมทั้ง พรบ.ส่งเสริมการลงทุนฯ กำหนดให้ผู้ประกอบการมีสิทธิถือกรรมสิทธิที่ดินได้ ตามเงื่อนไขที่กำหนด ตามอายุบัตรส่งเสริม


ถาม : ปริมาณการใช้งบประมาณแผ่นดินในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของโครงการ EEC นั้น ถือว่า มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย มากกว่ากรอบงบประมาณของรัฐบาลใดๆ ก่อนหน้านี้
ตอบ : รัฐบาลที่ผ่านๆมา เห็นความจำเป็นของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยกำหนดไว้ 1.5 ล้านล้านบาท บ้าง 2.0 ล้านล้านบาทบ้าง แต่ไม่ได้ดำเนินการ

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จะขยายให้ EEC เป็นประตูเชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยสู่เศรษฐกิจโลก ก็อยู่บนความจำเป็นเดียวกับรัฐบาลที่ผ่านมา

โครงการหลักๆ เกือบทั้งหมดใน EEC ที่จริงเป็นการ “ริเริ่ม” และ “อนุมัติ” จากรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด และมอร์เตอร์เวย์ และโครงการเหล่านี้ผ่านการพิจารณาแลบางโครงการก็ได้การดำเนินการทำ EIA แล้วเสร็จไป แล้วหลายโครงการก็อยู่ในกระบวนการทำ EIA กันมาโดยต่อเนื่อง


EEC ทำหน้าที่ประสานโครงการเหล่านี้ให้เชื่อมโยงกันเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ โดยเฉพาะ

1) สนามบินอู่นตะเภาต้องเป็นเมืองการบินภาคตะวันออก คือเป็น ฮับของธุรกิจการบินของไทย

2) รถไฟความเร็วสูงต้องเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์เต็มที่ และสนับสนุนการท่องเที่ยว ลดความแออัดของสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ

3) 3 ท่าเรือน้ำลึกต้องมีรถไฟรางคู่เข้าเชื่อมเพื่อเพิ่มการขนส่งทางราง ลดการขนส่งทางถนนโดยเร็วที่สุด ให้ได้มากที่สุด เพื่อความสะดวกในการเดินทาง และ ลดอุบัติเหตุ

โครงการใหม่ที่เกิดขึ้นใน EEC คือ การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นเมืองการบินภาคตะวันออก อย่างไรก็ตาม เป็นความตั้งใจที่ยาวนานหลายทศวรรษ ตั้งแต่มีโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกครั้งนี้คือการทำให้วิสัยทัศน์และความตั้งใจที่จะให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน ก็เห็นความจำเป็นในการนำสนามบินอู่ตะเภามาใช้ประโยชน์ทางเชิงพาณิชย์ตลอดมา จึงเป็นความภูมิใจของ EEC ที่รัฐบาลชุดนี้สามารถผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมชัดเจน

ถาม : การให้เอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่ ที่เกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ เป็นการให้ประโยชน์แก่เอกชนบางราย
ตอบ : ต้องเข้าใจว่าทุกทางเลือกมีข้อจำกัด มีข้อดีข้อเสีย ดังนั้นเพื่อป็นการลดภาระงบประมาณแผ่นดิน ในการลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐาน และเพื่อเป็นการไม่ทำให้รัฐบาลต้องกู้เงินเพื่อลงทุนกับโครงการต่างๆ รัฐบาลได้เลือกที่จะใช้วิธีการร่วมทุนกับเอกชน หรือ PPP (Public Private Partnership) ที่รัฐบาลเองจะมีเอกชนเป็นคู่สัญญา

การหาเงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทำได้ 3 ทาง ซึ่งมีความเหมาะสมต่างกัน

1) ใช้งบประมาณ … ไม่เหมาะสมเพราะงบประมาณมาจากภาษีอากร ซึ่งควรนำไปช่วยเหลือ ประชาชน ทางด้าน การศึกษา การชาวยเหลือผู้มีรายได้น้อย การป้องกันประเทศ และการสาธารณสุข

หากใช้วิธีนี้ไม่มีงบประมาณไปช่วยด้านสังคม และช่วยคนจน

2) เงินกู้ …เหมาะสมกับบางโครงการ เช่นรถไฟรางคู่ อ่างเก็บน้ำ เพราะเป็นโครงการที่ความจำเป็นสูง แต่มีผลตอบแทนทางการลงทุนน้อย และรัฐต้องลงทุนเองเพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาด และเอกชนไม่สามารถร่วมลงทุนได้

หากใช้วิธีนี้มากๆ เกินกำลังจะเป็นหนี้สาธารณะ ไปถึงคนรุ่นต่อไป

3) การร่วมลงทุนรัฐ-เอกชน เหมาะสำหรับโครงการที่มีผลตอบแทนทางการเงิน และเอกชนสนใจลงทุนโดยหากรัฐจะให้เงินชดเชยบ้างก็ได้ กรณีเหมาะสมสำหรับ รถไฟความเร็วสูง สนามบินอู่ตะเภา และ ท่าเรือน้ำลึก ซึ่งจะเป็นการประหยัดเงินงบประมาณให้ประเทศสามารถไปทำงานที่สำคัญให้กับประเทศ และ ประชาชนผู้มีรายได้น้อย

หากใช้วิธีนี้ ได้การลงทุนจากเอกชนมีเงินเงินเหลือจำนวนมาก และได้ใช้ประโยชน์จากโครงการทันที โดยต้องดูแลกำกับโครงการตามสัญญา

ด้วยวิธีนี้เอกชนผู้ร่วมลงทุนเองจะเข้ามาบริหารพัฒนาพื้นที่ต่างๆ รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่ได้จากสัญญา ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล ย้ำว่าวิธีนี้เป็นการลดภาระทางงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลได้

ถาม : การใช้จ่ายเงินงบประมาณจำนวนมากมายมหาศาล ควรกระจายไปในทุกๆ พื้นที่ มากกว่าการลงกับจังหวัดเพียงแค่สามจังหวัดในภาคตะวันออกเท่านั้น
ตอบ : พื้นที่นี้ได้ถูกวางตำแหน่งและได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ยุค Eastern Seaboard เมื่อสามทศวรรษที่แล้ว ให้เป็น “ประตูของประเทศ” ท่าเรือขนาดใหญ่ก็ตั้งอยู่ที่นี่ เป็นปากประตูของเศรษฐกิจทั้งประเทศ มิใช่เป็นพื้นที่ที่มีผลประโยชน์เป็นของตนเอง การลงทุนพัฒนากับประตูของประเทศ เป็นการลงทุนเพื่อคนทั้งประเทศ ที่ผู้ได้รับประโยชน์คือประเทศไทยทั้งหมด มิใช่พื้นที่เดียว

คนในพื้นที่ 3 จังหวัด เขาคิดตรงกันข้ามว่าทำไมต้องมาแบกรับภาระ การเป็นประตู และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจให้กับคนทั้งประเทศ

นอกจากนี้ การวางแผนโครงสร้างพื้นฐานมิได้ พิจารณาอย่างเป็นอิสระจากโครงข่ายอื่นๆ ในภูมิภาคอื่นๆ หากแต่ได้มีการวางแผนให้เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์แบบ เช่น การขนส่งระบบรางพื้นที่นี้ ที่จะต้องเชื่อมต่อกับรถไฟทางคู่ จาก หนองคาย เชียงใหม่ เป็นต้น

สำหรับสนามบินอู่ตะเภาที่ได้รับการพัฒนาเป็นสนามบินพาณิชย์ จะเป็นการลดภาระจากสนามบิน ดอนเมือง และสุวรรณภูมิที่แออัดอยู่แล้ว และเป็นการกระจายตัวออกมา



ถาม : สิทธิพิเศษ การลดภาษีนิติบุคคล ให้แก่นักลงทุนที่ให้มากกว่าที่เคยเป็น
ตอบ : เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะว่าสิทธิพิเศษที่มีการอ้างถึงว่า เป็นการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่มีอยู่ตามกรอบกฎหมาย BOI ที่มีอยู่เดิม เมื่อมีระเบียบของ BOI ระบุเอาไว้ และเป็นไปตามกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ทั้งหมดมิได้มีอะไรที่มากเกินไปกว่าเพดานที่ BOI ได้มีการระบุเอาไว้

กรณีกระทรวงการคลังซึ่งได้เพิ่มสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุดถึง 17% “เป็นการสร้างฐานภาษีใหม่” เพราะเมื่อเราเก็บภาษีแพง ผู้บริหาร นักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญ เหล่านี้ไม่เปิดบัญชีหรือยื่นภาษีในประเทศไทย แต่เปิดบัญชีเงินเดือนอยู่ต่างประเทศ เข้ามาทำงานโดยไม่เสียภาษี ดังนั้นการกำหนดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 17% ทำให้ประเทศไทยได้บัญชีเงินเดือนเหล่านี้มาอยู่ในประเทศไทย และ เรากลับได้รับภาษีส่วนนี้ 17% เพิ่มเติมแทน



ถาม : อุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่ดึงเข้ามาไม่ได้ช่วยสร้างงานเพิ่มเติมให้กับคนไทย และยังเป็นอุตสาหกรรมเบาที่ อาจจะนำไปสู่การเคลื่อนย้ายการลงทุนได้ง่าย
ตอบ : ไม่มีอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานราคาถูกในการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายใน EEC

ภูมิทัศน์ อุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงไปมาก อุตสาหกรรมมีการพัฒนาไปมาก EEC จึงวางพื้นฐานสำหรับ “อุตสาหกรรมใหม่” ที่ กำลังเติบโต และหากว่าเราไม่พัฒนาตาม ที่สุดก็จะโดนแซงไป ยกตัวอย่างเช่น

อุตสาหกรรมการบิน หากไม่มีการนำอุตสาหกรรมการบินเข้ามาในประเทศไทย ท่ามกลางการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินโลก และอุตสาหกรรมในภูมิภาคเราก็จะโดนทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง
อุตสาหกรรมรถไฟฟ้า คืออุตสาหกรรมที่จะมีบทบาทมากกว่าอุตสาหกรรมรถเครื่องยนต์สันดาป หากไม่วางพื้นฐานประเทศไทยก็จะโดนทิ้งไว้เบื้องหลัง
อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และ Automation ก็คือทิศทางอุตสาหกรรมโลก เป็นการยกระดับอุตสาหกรรมที่จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและทั้งหมดนี้ คนไทยจะอยู่เบื้องหลังในการขับเคลื่อนไปด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44455
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/09/2017 10:02 am    Post subject: Reply with quote

ขอแจงข้อสงสัยให้ไทยอบรมวิศวกรจีนสร้างรถไฟ
บ้านเมือง วันศุกร์ ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2560, 13.54 น.

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวภายหลังมีกระแสการวิพากย์ วิจารณ์บทบาทของกระทรวงคมนาคมที่ให้วิศวกรของไทยเป็นผู้อบรม และตรวจสอบวิศวกรจากจีนที่จะเข้ามาวางระบบรถไฟความเร็วสูงในไทย ว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากวิศวกรของไทยไม่มีประสบการณ์ด้านการสร้างรถไฟความเร็วสูง นอกจากนี้ ยังมีการให้ดำเนินการสร้างเฟสแรกระยะทาง 3.5 กม. ตัดผ่านพื้นที่ป่าเขา ทำให้ต้องใช้รถบรรทุกอุปกรณ์การก่อสร้างหลายรอบ จึงเป็นการวางแผนที่เสียเวลาและมีค่าใช้จ่ายมหาศาล

กระทรวงคมนาคม โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ขอชี้แจงกระแสการวิพากย์ วิจารณ์ในเรื่องดังกล่าว ดังนี้

1.การจัดฝึกอบรมให้แก่วิศวกรจีนไม่ได้เป็นการอบรมความรู้ด้านระบบรถไฟความเร็วสูง แต่เป็นการอบรมความรู้ทั่วไป ที่จำเป็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในประเทศไทย เพื่อให้วิศวกรจีนเข้าใจสภาพพื้นที่ ข้อกำหนดทางกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมและข้อกำหนดในการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง (Local Conditions) ประกอบด้วย

1.1ความรู้ด้านกฎหมายและจรรยาบรรณที่เกี่ยวกับพระราชบัญญัติวิศวกร จรรยาบรรณ ในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม และพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร

1.2ความรู้เกี่ยวกับสภาพทางธรรมชาติของประเทศไทยที่เกี่ยวกับการออกแบบและก่อสร้าง เช่น สภาพความแข็งแรงของชั้นดิน ธรณีวิทยา รอยเลื่อนที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหว แรงลม อุณหภูมิของอากาศ ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น เช่น อุทกภัย วาตภัย รวมทั้งสภาพสิ่งแวดล้อมที่อาจได้รับผลกระทบจากการออกแบบ และก่อสร้างรถไฟ เป็นต้น

1.3ความรู้ด้านเทคนิคที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานและการจัดการความปลอดภัย วิศวกรรมความปลอดภัยด้านอัคคีภัย วิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและมลภาวะ และการฝึกอบรมในครั้งนี้ยังเป็น การถ่ายทอดแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกันระหว่างวิศวกรจีนกับวิศวกรไทยภายใต้โครงการความร่วมมือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน

2. การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ช่วงที่ 1 ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร เป็น 1 ใน 4 ช่วงของแผนการออกแบบและก่อสร้าง ซึ่งช่วงที่ 1 ระยะทาง 3.5 กิโลเมตรนั้น สามารถออกแบบและก่อสร้างได้ทันที โดยไม่มีผลกระทบต่อประชาชน จากนั้นจะออกแบบและก่อสร้าง 3 ช่วงต่อไปตามลำดับ ประกอบด้วย

2.1ช่วงที่ 2 กิโลเมตรที่ 214+000 ถึง 225+000 ระยะทาง 11 กิโลเมตร ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก

2.2ช่วงที่ 3 กิโลเมตรที่ 119+000 ถึง 150+500, 154+000 ถึง 214+000, 225+000 ถึง 253+000 ระยะทาง 119.5 กิโลเมตร ช่วงแก่งคอย- นครราชสีมา

2.3ช่วงที่ 4 กิโลเมตรที่ 0+000 ถึง 119+000 ระยะทาง119 กิโลเมตร ช่วงบางซื่อ-แก่งคอย จนครบระยะทางตลอดโครงการตั้งแต่สถานีกลางบางซื่อถึงจังหวัดนครราชสีมารวม 253 กิโลเมตร
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 233, 234, 235 ... 545, 546, 547  Next
Page 234 of 547

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©