RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311234
ทั่วไป:13180166
ทั้งหมด:13491400
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 307, 308, 309 ... 542, 543, 544  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 15/02/2019 10:48 am    Post subject: Reply with quote

"อาคม"จี้ ร.ฟ.ท.เร่งเบิกจ่ายเงินรถไฟไทย-จีน
พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 18.57 น.

​​​​​​​ “อาคม”จี้ ร.ฟ.ท.เร่งเบิกจ่ายเงินเดินหน้าก่อสร้างรถไฟไทย-จีน ช่วง 3.5 กม.แรก ลั่นลงนามครบทุกสัญญาเฟส 1 พ.ค.นี้ ส่วนเฟส 2 เตรียมชงครม.อนุมัติโครงการทันในรัฐบาลชุดนี้


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการถไฟไทย-จีนว่า ที่ประชุมหารือการก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เฟส 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา แบ่งเป็น ตอนที่ 1 ช่วงสถานีกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. วงเงิน 425 ล้านบาท อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ยืนยันว่ายังไม่ล่าช้า แต่อาจมีข้อผิดพลาดเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งเป็นเรื่องภายใน และขณะนี้ได้มอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)เร่งปรับปรุงกระบวนการเบิกจ่ายและเคลียร์ให้จบโดยเร็วที่สุด

นายอาคม กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการตอนที่ 2 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. วงเงิน 3,350 ล้านบาท ขณะนี้ได้ผู้รับจ้างแล้วจะลงนามในสัญญาจ้างในวันที่ 6 มี.ค.นี้ และเริ่มการก่อสร้างในเดือนเม.ย.62 นี้ ส่วนตอนที่ 3 ช่วงแก่งคอย-นคราชสีมา ระยะทาง 144 กม. จำนวน 5 สัญญา ระยะทางรวม 144.06 กม. วงเงิน 58,425 ล้านบาท ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ได้เอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์)แล้วเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา คาดว่าช่วงเดือนมี.ค.จะเปิดให้ยื่นซองประกวดราคาได้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์(E-bidding) และตอนที่ 4 จำนวน 7 สัญญาที่เหลือ ประกอบด้วยงานก่อสร้างทางวิ่ง สถานี อุโมงค์ และโรงซ่อมบำรุง ระยะทาง 91.25 กม. วงเงิน 60,393.92 ล้านบาท คาดว่าจะออกทีโออาร์และประกวดราคาได้ในช่วงเดือนมี.ค. ซึ่งทุกสัญญาน่าจะพิจารณาแล้วเสร็จในช่วงเดือนเม.ย. และจะลงนามในสัญญาได้ครบทั้งหมดในเดือน พ.ค. จากนั้นจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนมิ.ย.ต่อไป

นายอาคม กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังหารือเรื่องสัญญา 2.3 งานระบบเหนือตัวราง วงเงิน 28,558 ล้านบาท มีกำหนดที่จะไปเจราจรกับทางจีนในการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีนครั้งที่ 27 ที่ประเทศจีนระหว่างวันที่ 27ก.พ.- 2 มี.ค. ซึ่งมีรายละเอียดและเงื่อนไขในสัญญาเกี่ยวกับความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายที่ต้องเจราจรให้จบ ก่อนจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่ออนุมัติก่อนจะลงนามในสัญญาได้ในช่วงเดือนมี.ค. โดยไทยมีจุดยืนบนหลักพื้นฐานทางกฎหมาย เช่น การประกันผลงานที่จีนยืนยันที่ 1 ปีแต่ไทยขอ 2 ปี ค่าหลักประกันสัญญาที่จีนขอ 5 % ซึ่งถือว่าต่ำมาก ไทยยังยืนยันที่ 10% ค่าปรับกรณีจีนก่อสร้างล่าช้า จีนยืนยันที่จะปรับไทย ในอัตรา 0.001%ของวงเงินก่อสร้าง ขณะที่ไทยขอที่ 0.1% และค่าปรับกรณีงานล่าช้าจากฝ่ายไทย ซึ่งจีนขอปรับเป็นตัวเงินแต่ไทยยืนยันยอมให้ขยายเวลาออกไปแทนโดยไม่ชดใช้เป็นเงิน นอกจากนี้ในส่วนของเงินกู้นั้น ล่าสุดกระทรวงการคลังแจ้งว่าฝ่ายจีนได้เสนอตัวเลขอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มาให้ฝ่ายไทยพิจารณาแล้วในอัตราไม่เกิน 3% ปลอดดอกเบี้ยเป็นเวลา 5 ปี ระยะเวลากู้ 25 ปี ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ยอมรับได้ ทั้งนี้จะกู้ในวงเงินเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับเนื้องานในสัญญา 2.3

ส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เฟส 2 นั้นคาดว่าจะสามารถเสนอผลการศึกษาความเหมาะสมให้ครม.อนุมัติได้ทันภายในรัฐบาลชุดนี้ ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมได้เสนอของบประมาณจากสำนักงบฯเพื่อนำมาออกแบบเอง โดยฝ่ายจีนเป็นที่ปรึกษา จำนวน 797 ล้านบาทด้วย

ด้านนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) กล่าวว่า ขณะนี้กำลังรอกระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งเข้าใจดีกว่าต้องผ่านหลายขั้นตอน และในระหว่างรอจะให้ทีมงานปรับแผนการก่อสร้างใหม่ให้ทำในส่วนที่พอจะทำได้ไปก่อน โดยเชื่อว่าหลังเคลียร์เรื่องเบิกจ่ายเรียบร้อยแล้วการก่อสร้างจะราบรื่นแน่นอน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 15/02/2019 11:04 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคม คาดรถไฟไทย-จีน ช่วงกรุงเทพ-โคราช ทำสัญญาสร้างครบในพ.ค.,เตรียมชงโคราช-หนองคายทันรัฐบาลนี้
ข่าวเศรษฐกิจ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) --
วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 17:57:19 น.

คมนาคม คาดรถไฟไทย-จีน ช่วงกรุงเทพ-โคราช ทำสัญญาสร้างครบในพ.ค.,เตรียมชงโคราช-หนองคายทันรัฐบาลนี้
ดูรูปทั้งหมด

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะกรรมการบริหารโครงการรถไฟไทย-จีน ว่า ขณะนี้การก่อสร้างงานโยธา ช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) ระยะทาง 252.35 กิโลเมตร ในตอนที่ 1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. เป็นไปตามแผน ส่วนตอนที่ 2 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. จะลงนามสัญญาก่อสร้างกับผู้รับเหมาในวันที่ 6 มี.ค.

ขณะที่โครงการระยะ 1 ในเส้นทางที่เหลือการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ประกาศ TOR ประกวดราคา จำนวน 5 สัญญา ระยะทาง 144.06 กม. วงเงินรวม 58,427,582 ล้านบาท ด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) กำหนดยื่นซองในเดือน มี.ค.

ส่วนอีก 7 สัญญาที่เหลือนั้น จะทำราคากลางจะเสร็จใน ก.พ.และออกTOR ได้ในเดือน มี.ค. และสรุปผลประมูลเดือน เม.ย. ลงนามสัญญาก่อสร้างงานโยธา ได้ครบในเดือน พ.ค.62

นายอาคม กล่าวว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 27 ที่กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค.62 โดยคณะกรรมการฝ่ายไทยได้หารือถึงรายละเอียดของสัญญา 2.3 (สัญญาการวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ) เรื่อง เงื่อนไข เรื่องความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย ซึ่งจะพยายามเจรจาเพื่อหาข้อยุติ จากนั้น จะสรุปเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งเป้าลงนามสัญญา2.3 ได้ประมาณเดือนมี.ค.

โดยสัญญา 2.3 นั้นจะเป็นงานเหนือรางขึ้นไป เช่น การวางราง ไม้หมอน เสาสัญญาณ ระบบอาณัติสัญญา ตัวรถ และการดูแลรักษา โดยมีประเด็นที่ยังไม่ได้ข้อสรุป เช่น จีนเสนอรับประกันรถไฟความเร็วสูงหรือการันตีให้ 1 ปี แต่ฝ่ายไทยต้องการให้รับประกัน 2 ปีตามมาตรฐานสากล ส่วนค่าปรับกรณีล่าช้า จีนเสนอ 0.0001% แต่ตามระเบียบของไทยกำหนดไม่เกิน 0.1% ซึ่งจีนยอมปรับลงตามลำดับ

และค่าปรับกรณีงานก่อสร้างงานโยธาหากฝ่ายไทยทำล่าช้า จีนจะขอเรียกเป็นเงินค่าปรับ แต่ตามกฎหมายไทยไม่มี โดยจะให้มีการขยายเวลาดำเนินงานแทน เพราะความล่าช้าอาจจะเกิดจากปัญหาการเข้าพื้นที่ไม่ได้ เป็นต้น ทั้งนี้ จุดยืนของไทยจะใช้กฎหมายไทยเป็นหลัก ขณะที่จีนเสนอมาหลายประเด็นและข้อเสนอส่วนใหญ่จีนจะไม่ได้ร่วมรับผิดชอบใดๆ

สำหรับกรอบวงเงินสัญญา 2.3 นั้น อยู่ระหว่างการโยกย้ายรายการก่อสร้างจากงานโยธา เนื่องจากจีนใส่รายการผิดพลาด ซึ่งการโยกงบไม่ได้ทำให้วงเงินโครงการเพิ่มแต่อย่างใด เช่น รถอัดหิน อุปกรณ์ต่างๆ

ด้านเงินกู้ที่นำมาใช้ในโครงการนั้น เบื้องต้นกระทรวงการคลังแจ้งว่า อัตราดอกเบี้ยที่จีนเสนอไม่เกิน 3% ระยะปลอดดอกเบี้ย 5 ปี ระยะเวลากู้ทั้งหมด 25 ปี เป็นเงื่อนไขที่รับได้ในขณะนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังจะเป็นผู้เจรจาซึ่งรอการสรุปเนื้องานและกรอบวงเงินของสัญญา 2.3 ประกอบการพิจารณา

นายอาคม กล่าวว่า จะสรุปรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ (feasibility study) โครงการระยะ ที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ต่อ ครม.ได้ในรัฐบาลชุดนี้ และอยู่ระหว่างเสนอของบประมาณเพื่อทบทวนผลการศึกษาและออกแบบรายละเอียด จำนวน 797 ล้านบาท โดยไทยดำเนินการศึกษาออกแบบเอง โดยมีจีนเป็นที่ปรึกษา
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 15/02/2019 11:09 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคมเดินหน้ารถไฟไทย-จีน
เศรษฐกิจ
สำนักข่าวไทย
วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 16:04:57

กรุงเทพฯ 14 ก.พ. – คมนาคม - รฟท.ยืนยันยังเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และการเลือกตั้งจะไม่กระทบให้ต้องยกเลิก หรือชะลอโครงการ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน ครั้งที่ 1/2562 โดยระบุว่าความคืบหน้าโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) ในช่วงที่ 1 กลางดง - ปางอโศก การก่อสร้างดำเนินการไปแล้วร้อยละ 50 ช่วงที่ 2 สีคิ้ว - กุดจิก ขณะนี้ได้ผู้รับจ้างคาดว่าจะลงนามสัญญาจ้างเดือนมีนาคม 2562

ส่วนสัญญาที่ 3 -1 ช่วงแก่งคอย - กลางดง และปางอโศก - บันไดม้า สัญญา 3 – 4 ช่วงลำตะคลอง - สีคิ้ว และกุดจิก - โคกกรวด สัญญาที่ 4 – 2 ช่วงดอนเมือง - นวนคร สัญญาที่ 4 – 3 ช่วงนวนคร - บ้านโพ และสัญญาที่ 4 – 6 ช่วงพระแก้ว - สระบุรี (รวม 5 สัญญา) ระยะทางรวม 144.06 กิโลเมตร จะประกวดราคาในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่เหลืออีก 7 สัญญา ระยะทางรวม 91.25 กิโลเมตร จะประกวดราคาในเดือนมีนาคม 2562

สำหรับโครงการระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย ได้ดำเนินการของบประมาณเพื่อออกแบบแล้ว และจะมีการกระชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย - จีน ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2562 กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยจะเจรจาในส่วนของสัญญา 2.3 ให้เสร็จ

นอกจากนี้ ที่ประชุมพิจารณาผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะต่าง ๆ เพื่อทำหน้าที่เป็นระบบสนับสนุนผู้โดยสารให้กับระบบรถไฟความเร็วสูง โดยเห็นชอบข้อเสนอของคณะอนุกรรมการฯ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ ขยายถนนงามเขตต์ ทางหลวง 3053 ทางหลวง 309 ทางหลวง 3477 ทางหลวง 356 ให้เป็นถนน 4 ช่องจราจร ก่อสร้างถนนจากถนนโรจนะเชื่อมเข้าไปด้านหลังสถานีรถไฟ ก่อสร้างสะพานคนเดินข้ามแม่น้ำป่าสักเชื่อมสถานีรถไฟกับตลาดเจ้าพรหม ก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งใหม่

การพัฒนาท่าเทียบเรือให้มีความมั่นคงแข็งแรง และปรับปรุงรถโดยสารในเขตเมืองพร้อมปรับเส้นทางรถโดยสารให้มีความเหมาะสม และเห็นชอบข้อเสนอในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในจังหวัดสระบุรี ได้แก่ ก่อสร้างสะพานข้ามแยกแก่งคอย แยกตาลเดี่ยว และแยกเสาไห้ ก่อสร้างอุโมงค์ข้ามทางรถไฟ ขยายทางหลวง 362 ทางหลวง 3222 ทางหลวง 3034 ทางหลวง 3048 ทางหลวง 3188 ให้เป็นถนน 4 ช่องจราจร ก่อสร้างทางขนานทางหลวง 362 และก่อสร้างถนนเชื่อมศูนย์ราชการกับสถานีรถไฟสระบุรี

ขณะที่นายวรวุฒิ มาลา รักษาการ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยืนยันว่าแม้โครงการจะมีความคืบหน้าต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องพิจารณา โดยเฉพาะสัญญา 2.3 นั้น ยังติดปัญหาสำคัญ คือ การเจรจาการประกันสินค้าตัวขบวนรถไฟความเร็วสูง หรือการการันตีที่ฝ่ายจีนเสนอให้เพียง 1 ปีเท่านั้น ขณะที่บริษัทผลิตรถไฟฟ้าทั่วโลกมีค่าการันตีตามมาตรฐานสากล 2 ปี พร้อมยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่าย ยังเจรจาหาข้อสรุปร่วมกัน และยังไม่มีการล้มข้อตกลงแต่อย่างใด ล่าสุดนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเร่งรัดให้ รฟท.ไปเจรจากับจีนให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ส่วนสถานการณ์การเมืองไทยที่กำลังเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้ง ยืนยันว่าไม่กระทบโครงการ เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายมีความตั้งใจจะเดินหน้าโครงการร่วมกันอยู่แล้ว.-


คมนาคม ประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน

เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV

14 กุมภาพันธ์ 2562 18:22



วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 09.00 น. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย จีน ครั้งที่ 1/2562 โดยมี นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงคมนาคม และหัวหน้าสำนักงานบริหารโครงการภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ด้านการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทย นายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้แทนกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ณ กระทรวงคมนาคม

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กล่าวว่า โครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) ในช่วงที่ 1 กลางดง - ปางอโศก การก่อสร้างมีความคืบหน้าร้อยละ 50 ช่วงที่ 2 สีคิ้ว - กุดจิก ขณะนี้ได้ผู้รับจ้างแล้ว คาดว่าจะลงนามในสัญญาจ้างได้ในเดือนมีนาคม 2562 ในส่วนของสัญญาที่ 3 -1 ช่วงแก่งคอย - กลางดง และปางอโศก - บันไดม้า สัญญา 3 4 ช่วงลำตะคลอง - สีคิ้ว และกุดจิก - โคกกรวด สัญญาที่ 4 2 ช่วงดอนเมือง - นวนคร สัญญาที่ 4 3 ช่วงนวนคร - บ้านโพ และสัญญาที่ 4 6 ช่วงพระแก้ว - สระบุรี รวม 5 สัญญา ระยะทางรวม 144.06 กิโลเมตร จะประกวดราคาในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ส่วนที่เหลืออีก 7 สัญญา ระยะทางรวม 91.25 กิโลเมตร จะประกวดราคาในเดือนมีนาคม 2562 สำหรับโครงการฯ ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย ได้ดำเนินการของบประมาณเพื่อออกแบบแล้ว และจะมีการกระชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย - จีน ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 1 มีนาคม 2562 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยจะเจรจาในส่วนของสัญญา 2.3 ให้แล้วเสร็จ

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะต่าง ๆ เพื่อทำหน้าที่เป็นระบบสนับสนุนผู้โดยสารให้กับระบบรถไฟความเร็วสูง โดยเห็นชอบข้อเสนอของคณะอนุกรรมการฯ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ ขยายถนนงามเขตต์ ทางหลวง 3053 ทางหลวง 309 ทางหลวง 3477 ทางหลวง 356 ให้เป็นถนน 4 ช่องจราจร ก่อสร้างถนนจากถนนโรจนะเชื่อมเข้าไปด้านหลังสถานีรถไฟ ก่อสร้างสะพานคนเดินข้ามแม่น้ำป่าสักเชื่อมสถานีรถไฟกับตลาดเจ้าพรหม ก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งใหม่ พัฒนาท่าเทียบเรือให้มีความมั่นคงแข็งแรง และปรับปรุงรถโดยสารในเขตเมืองพร้อมปรับเส้นทางรถโดยสารให้มีความเหมาะสม และเห็นชอบข้อเสนอในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในจังหวัดสระบุรี ได้แก่ ก่อสร้างสะพานข้ามแยกแก่งคอย แยกตาลเดี่ยว และแยกเสาไห้ ก่อสร้างอุโมงค์ข้ามทางรถไฟ ขยายทางหลวง 362 ทางหลวง 3222 ทางหลวง 3034 ทางหลวง 3048 ทางหลวง 3188 ให้เป็นถนน 4 ช่องจราจร ก่อสร้างทางขนานทางหลวง 362 และก่อสร้างถนนเชื่อมศูนย์ราชการกับสถานีรถไฟสระบุรี


Last edited by Wisarut on 15/02/2019 11:23 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 15/02/2019 11:21 am    Post subject: Reply with quote

อาคม ลั่น มิ.ย. นี้ ตอกเสาเข็ม ไฮสปีดเทรน กทม.-โคราช ครบทุกตอน เล็งกู้จีน 25 ปี ดอก 3%
เศรษฐกิจ
วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 14:56 น.

อาคม ลั่นมิ.ย. นี้ ตอกเสาเข็ม ไฮสปีดเทรน กทม.-โคราช ครบทุกตอน ของบ 797 ล้านบาท ลุยออกแบบก่อสร้างเฟส 2 อีก 355 ก.ม. ต่อยาวถึงหนองคาย – เล็งกู้จีน 25 ปี ดอก 3%

ตอกเสาเข็มไฮสปีดกทม.-โคราช – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการหารือเตรียมการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 27 ที่จะจัดขึ้นที่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค. 2562 ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงความคืบหน้าโครงการประมูลก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ไทย-จีน เฟสที่ 1 เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา งานสัญญาที่ 2-1 งานโยธาสำหรับช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้ได้ตัวผู้รับเหมาแล้วคือ บริษัท ซีวิลเอ็นจิเนียริง จำกัด คาดว่าจะลงนามในสัญญาร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) วันที่ 6 มี.ค.นี้

ส่วนการประมูลครั้งถัดไปอีก 5 สัญญา ระยะทาง 144 กิโลเมตร วงเงินรวม 58,425 ล้านบาท นั้น รฟท. จะเปิดประกวดราคาในมี.ค. นี้ ส่วนอีก 7 สัญญาสุดท้ายคาดว่าจะจัดทำราคากลางในการประมูลเสร็จภายในเดือนก.พ. ประกาศทีโออาร์ในเดือนมี.ค. และจะทราบผลการประมูลทั้งหมดภายใน เม.ย.-พ.ค. ตั้งเป้าที่จะเริ่มให้มีการก่อสร้างให้ได้ครบทุกตอนในเดือนมิ.ย. นี้

นายอาคมกล่าวถึงความคืบหน้าในการหารือเพื่อจัดทำร่างสัญญา 2.3 คือ งานวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ ซึ่งจีนรับไปดำเนินการ มูลค่า 38,558 ล้านบาท ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยังมีความเห็นที่ขัดแย้งเกี่ยวกับเงื่อนไขในสัญญาหลายประเด็น ประเด็นหลักๆ เช่น เรื่องความรับผิดชอบในการประกันผลงาน โดยฝ่ายไทยยังยืนตามกฎหมายไทยคือต้องการให้จีนรับประกันผลงาน 2 ปี ขณะที่จีนจะรับผิดชอบเพียง 1 ปี, ค่าปรับกรณีงานสัญญา 2.3 ล่าช้า ฝ่ายจีนเสนอจ่ายค่าปรับต่ำมาก 0.0001% ของมูลค่าโครงการ ขณะที่กฎหมายไทยต้องการคิดค่าปรับ อย่างน้อย 0.1% ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายไทย

นอกจากนี้ จีนยังได้ยื่นข้อเสนอที่จะขอคิดค่าปรับกับฝ่ายไทย หากงานก่อสร้างรางของฝ่ายไทยล่าช้าจนส่งผลกระทบต่องานวางระบบของจีน ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันที่จะไม่จ่าย เนื่องจากตามกฎหมายไทยไม่ได้มีข้อกำหนดดังกล่าว โดยไทยต่อรองที่จะใช้มาตรการขยายระยะเวลางานสัญญา 2.3 ให้จีนเป็นการชดเชยแทน อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้อง เจรจาร่างสัญญา 2.3 ให้ได้ข้อยุติภายในประชุมความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อนำร่างสัญญา 2.3 เสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติและลงนามในสัญญาร่วมกับจีนให้ได้ภายในเดือนมี.ค.

นายอาคมกล่าวต่อถึงความคืบหน้าการเจรจากู้เงินจากจีน เพื่อชำระค่างานในสัญญา 2.3 ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังรับได้กับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 3% ตามที่ฝ่ายจีนเสนอแล้ว โดยเป็นรูปแบบปลอดดอกเบี้ย 5 ปี รวมระยะเงินกู้ทั้งสิ้น 25 ปี ขณะนี้กระทรวงการคลังได้เจรจาเงื่อนไขการกู้ครบถ้วนแล้ว ส่วนจะกู้ในสัดส่วนเท่าไหร่ ต้องรอดูเนื้องานในสัญญา 2.3 ก่อน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกระทรวงการคลัง

“ครั้งนี้กระทรวงคลังยอมรับได้ที่อัตราที่ 3% แล้ว เพราะได้มีการเปรียบเทียบดอกเบี้ยจากหลายๆ แหล่งเพื่อดูว่าแหล่งไหนดีที่สุด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหลายปัจจัยและภาวะดอกเบี้ยในตลาดโลกเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งจีนยังมีการเสนอเงื่อนไขอื่นๆ มาด้วย เมื่อเปรียบเทียบดอกเบี้ยเงินกู้ของจีนกับแหล่งเงินกู้อื่นๆ ถือว่ารับได้”

นายอาคมเปิดเผยถึงการดำเนินการเฟส 2 ช่วงโคราช-หนองคาย ระยะทาง 355 กิโลเมตร อยู่ระหว่างเสนอของบจากสำนักงบประมาณวงเงิน 797 ล้านบาท ทำการออกแบบ โดยฝ่ายจีนให้คำแนะนำ คาดว่าจะสามารถเสนอผลการศึกษาความหเมาะสมโครงการให้ครม. พิจรณาอนุมัติโครงการได้ทันภายในรัฐบาลชุดนี้แน่นอน

คมนาคมเตรียมถกไทย-จีนสัญญา 2.3ปลายก.พ.นี้
วันพฤหัสบดี ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562, 15.50 น.


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการรถไฟ ไทย-จีน ว่าในการประชุมได้มีการหารือถึงการดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟ ไทย-จีน ในตอนที่ 2 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง11กิโลเมตร ขณะนี้ได้ผู้รับจ้างเรียบร้อยแล้วโดยจะมีการลงนามในสัญญางานก่อสร้าง ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ในวันที่ 6 มีนาคม 2562 ตอนที่3 ระยะทาง 144 กิโลเมตร โดยมีทั้งหมด 5 สัญญา ซึ่งทีโออาร์ได้จัดทำเรียบร้อยแล้ว ภายในเดือนมีนาคม 2562 คาดว่าจะสามารถยื่นซองประกวดราคาได้ นอกจากนี้ สำหรับ 7 สัญญาที่เหลือนั้น คาดว่าจะดำเนินการเรื่องของราคากลางได้เสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์2562 และในเดือน มีนาคมก็สามารถออกทีโออาร์ในกลุ่ม7 สัญญาได้เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ตั้งเป้าหมายว่าในเดือนมีนาคมนี้ จะเปิดประกวดราคาได้ครบทั้งหมด ส่วนการพิจารณาคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2562 ในเดือนพฤษภาคม จะสามารถลงนามในสัญญาดังกล่าวได้ครบสำหรับระยะที่ 1 ในเรื่องของการก่อสร้างโครงการ คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างโครงการได้ประมาณเดือนมิถุนายน 2562





นอกจากนี้ สำหรับเรื่องสัญญา 2.3 (ระบบวางราง ระบบอาณัติสัญญาณ และระบบรถ) นั้น ทางฝ่ายไทยมีกำหนดต้องเดินทางเพื่อไปเจราจรกับทางฝ่ายจีน ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 27กุมภาพันธ์ -1 มีนาคม 2562 โดยจะเป็นการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 27 ทั้งนี้ ยังมีเรื่องเงื่อนไขหลายเรื่องที่ต้องสรุปร่วมกัน โดยจะเป็นเรื่องการรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย อย่างไรก็ตาม จะเร่งสรุปรายละเอียดดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในการประชุมครั้งที่ 27 นี้ หากเจรจาได้ข้อสรุปแล้วฝ่ายไทยจะต้องนำเสนอเพื่อขออนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยถือขั้นตอนภายในประเทศ คาดว่าภายในเดือนมีนาคม 2562



“สำหรับเงื่อนไขหลักๆที่ต้องหารือก็จะมีเรื่องของเงินประกัน โดยจุดยืนของเราคือการยืนยันตามกฎหมาย เช่น เรื่องประกันผลงานเราระบุขอไว้ที่ 2ปี เรื่องขอประกันสัญญาก็ยังคุยเรื่องเปอร์เซ็น เนื่องจากทางฝ่ายจีนนั้นขออัตราที่ต่ำมาก โดยขอที่ ร้อยละ0.0001 ซึ่งตามกฎหมายไทยไม่ได้ เราก็ต้องยืนยันตามกฎหมายไทยอยู่ที่ ร้อยละ 0.1 และอีกเรื่องที่ขอคือหากงานล่าช้าก็จะขอปรับ แต่หลักการขอเราคือการขยายเวลาแต่เราไม่ยอมจ่ายค่าปรับ นอกจากนี้ สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นั้น ฝ่ายไทยจะขอเสนออัตราดอกเบี้ยที่ไม่เกินร้อยละ3 ปลอดดอก 5 ปี ด้วย ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดก็ต้องหารือร่วมกันอีกครั้ง” นายอาคม กล่าว



“อาคม”บินจีนถกรถไฟความเร็วสูง27กพ.
14 กุมภาพันธ์ 2019 - 15:18

รัฐมนตรีฯคมนาคม เตรียมเดินทางประชุมรถไฟไทย-จีนที่กรุงปักกิ่ง 27-28 ก.พ. นี้ ขณะ 6 มี.ค.ลงนามก่อสร้างระยะ 2 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการรถไฟไทย-จีน ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงการก่อสร้างโครงการรถไฟไทยจีนระยะที่1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 3.5 กม. วงเงินลงทุน 1.79 แสนล้านบาท อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างระยะที่ 2ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. จะลงนามสัญญาการก่อสร้างในวันที่ 6 มีนาคมนี้ หลังจากได้ตัวผู้รับจ้าง ส่วนการก่อสร้างกลุ่มที่ 3 ระยะทาง 144 กม. จำนวน 5 สัญญา ขณะนี้เอกสารประกวดราคา หรือ ทีโออาร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าเดือนมีนาคมจะยื่นซองพร้อมกับประกวดราคาได้ ส่วนที่ 4 การก่อสร้าง7 สัญญาที่เหลือคาดว่าจะทำราคากลางแล้วเสร็จภายในเดือนนี้ และในเดือนมีนาคมออกทีโออาร์ประกวดราคา โดยจะพิจารณาแล้วเสร็จเดือนเมษายน และในช่วงเดือนพฤษภาคมจะลงนามได้ครบ ทั้งเส้น 253 กม. ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา

ขณะที่สัญญา 2.3 งานวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ มูลค่า 38,558 ล้านบาทยังมีรายละเอียด เงื่อนไข ที่จะต้องหารือ ซึ่งจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จในการเดินทางไปประชุมคณะกรรมการร่วม เพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ นี้ ณ กรุงปักกิ่ง หลังจากได้ข้อสรุปและมีการลงนามคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี ครม. ได้ในเดือนมีนาคม

ทั้งนี้ ยังมีประเด็นที่จะต้องหาข้อสรุปร่วมกันคือ เงื่อนไขการรับผิดชอบการประกันผลงานก่อสร้าง ที่ทางฝ่ายจีนขอ 1 ปีไทยขอขยายเป็นระยะเวลา 2ปี รวมถึงประเด็นเงื่อนไขการประกันสัญญา และค่าปรับกรณีงานล่าช้า ที่ต้องหาข้อสรุปเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งจะต้องยึดตามกฎหมายของไทย เบื้องต้น จะมีการขยายระยะเวลาก่อสร้าง แต่จะไม่มีการชำระเงินค่าปรับส่วนประเด็นการกู้เงิน ทางกระทรวงการคลังถือว่ารับได้ที่ฝ่ายจีนเสนอตัวเลขอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มาให้ฝ่ายไทยพิจารณาไม่ในอัตราไม่เกิน3%

อย่างไรก็ตามคาดว่า ช่วงเดือนมิถุนายน 2562 จะเริ่มเห็นการก่อสร้างที่จัดเจนของโครงการรถไฟไทย-จีน ช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา ทั้งเส้น
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 15/02/2019 2:55 pm    Post subject: Reply with quote

ถกรถไฟ3สนามบินอีกรอบ ยันหากตกลงCPไม่ได้ เรียกBSRมาเสียบแทน
วันศุกร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562, 06.00 น.


นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่าความคืบหน้าของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) วงเงินลงทุน 215,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปข้อมูลและแนวทางการเจรจากับทางกลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด (CP) และพันธมิตร โดยในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกโครงการและเรียกเอกชนเข้าเจรจาต่อรอง ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปได้แล้วว่าการเจรจากับทางกลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ ว่าจะเดินหน้าไปต่อได้หรือไม่โดยเฉพาะเงื่อนไขพิเศษที่ได้เสนอมาให้กับรัฐบาล

“หากพบว่าการเจรจาไม่สามารถหาข้อสรุปได้ก็จะดำเนินการเรียกกลุ่มกิจการร่วมค้า BSR มาเจรจาต่อไปโดยจะแจ้งไปยังคณะกรรมการ EEC ก่อน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะพยายามหาข้อสรุปให้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายไว้” นายวรวุฒิ กล่าว


จ่อเรียก 'บีทีเอส' เจรจา "ไฮสปีดเทรน" หาก "กลุ่มซีพี" ไม่ได้ข้อสรุป ก.พ. นี้

วันศุกร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562,


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ บอร์ดอีอีซี เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการเปิดประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) หรือ ไฮสปีดเทรน ยังอยู่ระหว่างเจรจากับกลุ่มซีพี ยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องเจรจาร่วมกัน โดยยังไม่ได้ขีดเส้นว่าจะต้องเจรจาจบภายในวันที่ 18 ก.พ. นี้ อย่างไรก็ตาม บอร์ดอีอีซีคงตอบแทนคณะกรรมการคัดเลือกไม่ได้ เพราะเชื่อว่า คณะกรรมการคัดเลือกจะต้องพิจารณาข้อเสนอที่เป็นผลประโยชน์ตอบแทนรัฐสูงสุด

แต่หากการเจรจากับกลุ่มซีพีไม่สำเร็จ ทางคณะกรรมการฯ จะเรียกรายที่ 2 มาเจรจาต่อไป ซึ่งกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ในกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ซึ่งเป็นผู้ยื่นประมูลเช่นกัน อย่างไรก็ตาม บอร์ดอีอีซีขีดเส้นโครงการไฮสปีดเทรนจะต้องได้รายชื่อผู้ชนะการประมูลภายในเดือน ก.พ. นี้


Last edited by Wisarut on 15/02/2019 10:22 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 15/02/2019 10:20 pm    Post subject: Reply with quote

“อาคม”ฟุ้งตอกเสาเข็มรถไฟไทย-จีน มิ.ย.นี้

15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 09:44 น.




15 ก.พ. 2562 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการหารือเตรียมการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ที่ประชุมได้หารือถึงความคืบหน้าโครงการประมูลก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ไทย-จีน เฟสที่ 1 เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา งานสัญญาที่ 2-1 งานโยธาสำหรับช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้ได้ตัวผู้รับเหมาแล้ว คาดว่าจะลงนามในสัญญาร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) วันที่ 6 มี.ค.นี้ ส่วนช่วงกลางดง - ปางอโศก อยู่ระหว่างการก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 50%

อย่างไรก็ตามส่วนการประมูลครั้งถัดไปอีก 5 สัญญา ระยะทาง 144.06 กิโลเมตร วงเงินรวม 58,425 ล้านบาท นั้น รฟท. จะเปิดประกวดราคาในมี.ค. นี้ ส่วนอีก 7 สัญญา ระยะทางรวม 91.25 กม.สุดท้า จะจัดทำราคากลางในการประมูลเสร็จภายในเดือนก.พ.และประกาศทีโออาร์ในเดือนมี.ค. และจะทราบผลการประมูลทั้งหมดภายใน เม.ย.-พ.ค. ตั้งเป้าที่จะเริ่มให้มีการก่อสร้างให้ได้ครบทุกตอนในเดือนมิ.ย. นี้ และจะมีการกระชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย - จีน ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 27 ก.พ. – 1 มี.ค. 62 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยจะเจรจาในส่วนของสัญญา 2.3 ให้แล้วเสร็จ

สำหรับความคืบหน้าเพื่อจัดทำร่างสัญญา 2.3 คือ งานวางราง และระบบการเดินรถ การวางราง ระบบอาณัติสัญญาณ และขบวนรถ ซึ่งยังมีความเห็นที่ขัดแย้งเกี่ยวกับเงื่อนไขในสัญญาหลายประเด็น ประเด็นหลักๆ เช่น เรื่องความรับผิดชอบในการประกันผลงาน โดยฝ่ายไทยยังยืนตามกฎหมายไทยคือต้องการให้จีนรับประกันผลงาน 2 ปี ขณะที่จีนจะรับผิดชอบเพียง 1 ปี ค่าปรับกรณีงานสัญญา 2.3 ล่าช้า ฝ่ายจีนเสนอจ่ายค่าปรับต่ำมาก 0.0001% ของมูลค่าโครงการ ขณะที่กฎหมายไทยต้องการคิดค่าปรับ อย่างน้อย 0.1% ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายไทย

นายอาคม กล่าวว่า จีนได้ยื่นข้อเสนอที่จะขอคิดค่าปรับกับฝ่ายไทย หากงานก่อสร้างรางของฝ่ายไทยล่าช้าจนส่งผลกระทบต่องานวางระบบของจีน ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันที่จะไม่จ่าย เนื่องจากตามกฎหมายไทยไม่ได้มีข้อกำหนดดังกล่าว โดยไทยต่อรองที่จะใช้มาตรการขยายระยะเวลางานสัญญา 2.3 ให้จีนเป็นการชดเชยแทน อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้อง เจรจาร่างสัญญา 2.3 ให้ได้ข้อยุติภายในประชุมความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อนำร่างสัญญา 2.3 เสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติและลงนามในสัญญาร่วมกับจีนให้ได้ภายในเดือนมี.ค.

สำหรับความคืบหน้าการเจรจากู้เงินจากจีน ขณะนี้กระทรวงการคลังรับได้กับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เกิน 3% ตามที่ฝ่ายจีนเสนอแล้ว โดยเป็นรูปแบบปลอดดอกเบี้ย 5 ปี รวมระยะเงินกู้ทั้งสิ้น 25 ปี ขณะนี้กระทรวงการคลังได้เจรจาเงื่อนไขการกู้ครบถ้วนแล้ว ส่วนการดำเนินการเฟส 2 ช่วงโคราช-หนองคาย ระยะทาง 355 กม.อยู่ระหว่างเสนอของบจากสำนักงบประมาณวงเงิน 797 ล้านบาท ทำการออกแบบ โดยฝ่ายจีนให้คำแนะนำ คาดว่าจะสามารถเสนอผลการศึกษาความหเมาะสมโครงการให้ครม. พิจรณาอนุมัติโครงการได้ทันภายในรัฐบาลชุดนี้แน่นอน

ด้านนายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)กล่าวว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รฟท.และกระทรวงคมนาคมเร่งรัดขั้นตอนการประมูลและลงนามสัญญาโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงสองสายวงเงินรวม 3.9 แสนล้านบาท พร้อมกำชับว่าขอให้เร่งการเจรจาเอกชนเพื่อลงนามสัญญาโครงการดังกล่าว ซึ่งนายกรัฐมนตรีมองว่าการเจรจาที่ผ่านมาได้ยืดเยื้อเกินไปกว่าที่ควรจะเป็นและรฟท.ต้องรีบหาข้อสรุปโดยเร็ว สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามนามบินอีอีซี วงเงิน 2.15 แสนล้านบาทนั้นภายหลังจากที่ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการคัดเลือกไปเมื่อวันที่ 12 ก.พ.นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปข้อมูลและแนวทางการเจราจากับเอกชนผู้เสนอราคาต่ำสุดคือกลุ่มซีพี โดยในวันที่ 18 ก.พ. นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกโครงการพร้อมเรียกกลุ่มซีพีเข้าเจรจาต่อรองเป็นครั้งสุดท้าย

อย่างไรก็ตามคาดว่าในวันดังกล่าวจะสามารถสรุปได้แล้วว่าการเจรจากับซีพีจะเดินหน้าไปต่อได้หรือไม่โดยเฉพาะเงื่อนไขพิเศษที่ได้เสนอมาให้กับรัฐบาล หากพบว่าการเจรจาไม่สามารถหาข้อสรุปก็จะยกเลิกการเจรจาพร้อมจบลงกันด้วยดี จากนั้น รฟท.จะเรียกผู้ที่เสนอคะแนนรองลงมาคือกลุ่มบีทีเอสเข้าเจรจาภายเนดือนมี.ค.นี้ อย่างไรก็ตามสำหรับมุมมองของคณะกรรมการอีอีซีที่ระบุว่ารัฐบาลไม่สามารถยอมรับข้อเสนอพิเศษของกลุ่มซีพีเพราะเป็นการเสนอนอกเงื่อนไขร่างเอกสารขอบเขตการประกวดราคา (TOR) นั้นในกิติการการยื่นข้อเสนอได้มีกำหนดไว้จริงแต่ทั้งนี้การเจราจรได้เดินมาไกลแล้ว จะไปยกเลิกข้อเสนอทั้งหมดก็ไม่ได้เพราะมันจะเกี่ยวพันกับการเจราจาข้อเสนออื่นๆด้วยดังนั้นคงต้องพิจารณารับข้อเสนอเป็นรายข้อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 18/02/2019 10:31 am    Post subject: Reply with quote

บีทีเอส’พร้อมเสียบ หลัง‘รฟท.-CP’ถกรถไฟ3สนามบินส่อไม่ลงตัว
วันจันทร์ ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562, 06.00 น.


นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)หรือ BTS กล่าวเกี่ยวกับจากกรณีที่ คณะกรรมการคัดเลือกโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) จะเรียกทางกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร เพื่อเจรจาต่อรองครั้งสุดท้าย ว่า ทางกลุ่มกิจการร่วมค้า BSR Joint Venture (ที่มี BTS เป็นแกนนำ) มีความพร้อมอย่างมากที่จะเข้าเจรจาต่อรองโครงการดังกล่าว หากไม่สามารถตกลงกันได้ พร้อมมั่นใจหากทางกลุ่ม BSR Joint Venture มีข้อเสนอดีพอที่จะเอาชนะคู่แข่งได้ ซึ่งศักยภาพของกลุ่มมีพันธมิตรชั้นนำระดับโลกที่มีศักยภาพไม่น้อยไปกว่าคู่แข่งเช่นกัน โดยเฉพาะแผนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานีรถไฟฟ้า (TOD)

สำหรับการเจรจาต่อรองนั้นหากทางกลุ่ม BSR ได้เข้าเจรจาก็ได้ยืนยันว่าจะไม่มีการยื่นข้อเสนอนอกเหนือไปจากที่เอกสารขอบเขตเงื่อนไขการประกวดราคา(TOR) ที่กำหนดไว้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางกลุ่มฯจะมีการเสนอขอให้รัฐสนับสนุนโครงการสูงกว่าคู่แข่งอยู่ 52,700 ล้านบาท ก็ตาม ซึ่งในวงเงินดังกล่าวยังสามารถลดราคาลงได้และหากได้โอกาสเข้าเจรจากับรัฐบาลจริง คาดว่าหากมีการเจรจาก็จะได้ข้อสรุปภายในได้ภายในเดือนมีนาคม 2562ตามเป้าหมายของรัฐบาลกำหนดไว้

ส่วนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์นั้น กลุ่มกิจการร่วมค้า BSR Joint Venture จะมีการใช้ประสบการณ์ด้านงานเดินรถไฟฟ้าเข้ามาพัฒนาสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงโดยเฉพาะสถานีขนาดใหญ่อย่างอู่ตะเภาและจะเน้นจุดแข็งในการพัฒนา TOD ให้มีความหลากหลาย รวมถึงสร้างรายได้และเชื่อมต่อการเดินทางโดยเน้นไปในส่วนของที่ดินมักกะสันและที่ดินศรีราชา

มีรายงานแจ้งว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม ระยะทาง 220 กิโลเมตร วงเงินลงทุนรวม 224,544 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด (ซีพี) และพันธมิตร เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด117,227 ล้านบาท ส่วน BSR เสนอ 169,934 ล้านบาท

ขณะที่ คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) นัดเจรจากับทางกลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด (CP) และพันธมิตร อีกครั้ง ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ อีกครั้งหลังเจรจายังไม่ลงตัว ท่ามกลางกระแสข่าว ซีพีเสนอเงื่อนไขนอกเหนือจากที่ TOR กำหนด
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 18/02/2019 11:08 am    Post subject: Reply with quote

ซีพีสู้หวั่น “ไฮสปีด” หลุดมือ เดินเกมต่อรอง “BTS” รอเสียบ
พร็อพเพอร์ตี้
วันจันทร์ ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562, - 08:30 น.

ไฮสปีดติดเดดล็อก รัฐบาลสั่งปิดดีลสิ้น ก.พ. หวั่นลากยาว ล้มประมูล จับตาถอน-ไม่ถอนเงื่อนไขพิเศษ วงในเผยเจ้าสัวสู้เพื่อศักดิ์ศรี กลุ่ม ซี.พี.วุ่นเจรจาพันธมิตร “บีทีเอส” รอเสียบ “คณิศ” ย้ำต้องรอคุยให้สุดทาง ไม่ห่วงสุญญากาศเลือกตั้ง บอร์ด EEC ไฟเขียวแผน สวล. 1.3 หมื่นล้าน พัฒนาคนรับอนาคต 12 ปี กัลฟ์-พีทีที แทงค์ยื่นรายเดียวงานมาบตาพุด

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า คณะกรรมการคัดเลือกโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ยังไม่กำหนดวันประชุม เนื่องจากคณะอนุกรรมการ ซึ่งมีผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นประธานยกร่างรายละเอียดในสัญญายังพิจารณาข้อเสนอของกลุ่ม ซี.พี.ไม่แล้วเสร็จ เพิ่งพิจารณาได้ 7 ข้อ จะประชุมต่อวันที่ 18 ก.พ.นี้

เดดไลน์สิ้น ก.พ.

หากผลเจรจามีแนวโน้มไปต่อไม่ได้ก็ต้องยุติการเจรจา หรือดูแล้วสามารถไปต่อได้ก็เดินหน้ากันต่อไป โดยตั้งเป้าให้เสร็จในเดือน ก.พ. และเซ็นสัญญาเดือน มี.ค.นี้ ตามที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ดอีอีซี) กำหนดไว้

“11 ข้อเสนอในซอง 4 ที่ ซี.พี.ยื่นจบแล้ว รับ 3 ข้อ อีก 8 ข้อไม่รับ แต่ขั้นตอนเจรจายังไม่จบ เพราะ ซี.พี.มีข้อเสนอ 200 หน้า อาจเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว 11 ข้อก็ได้ คณะอนุกรรมการจะใส่ในสัญญา เช่น ระยะเวลาสัมปทาน ส่งมอบพื้นที่ ระยะเวลาก่อสร้าง ข้อเสนอไหนที่ไม่ตรงทีโออาร์คงไม่พิจารณา จะให้จบโดยเร็ว เพราะรองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เร่งให้เสร็จเดือนนี้” นายวรวุฒิกล่าวและว่า

โครงการยังไม่ล้มประมูล หากเจรจา กลุ่มซี.พี.ไม่สำเร็จ จะเชิญกลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์-บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น-บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง) มาเจรจาซองที่ 4 ต่อไป ในเรื่องวงเงินที่ให้รัฐอุดหนุน เพราะบีเอสอาร์เสนอสูงถึง 169,934 ล้านบาท หากรัฐต้องอุดหนุนจะเป็นภาระด้านงบประมาณในอนาคต

คุยบีทีเอสลดเงินอุดหนุน

“การเจรจาคงขอปรับลดวงเงินที่เอกชนเสนอมาให้อยู่ในกรอบที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ 119,425 ล้านบาท ได้หรือไม่ หรือบีเอสอาร์มีข้อเสนอเพิ่มอะไรบ้าง ที่จะลดวงเงินนี้ได้ ก็ต้องคุยกัน แต่ต้องรอผลเจรจากับกลุ่ม ซี.พี.ให้สุดทางก่อน” นายวรวุฒิกล่าวย้ำ

รายงานข่าวแจ้งว่า ข้อเสนอที่คณะอนุกรรมการเจรจากับกลุ่ม ซี.พี.มี 34 ข้อ เจรจาแล้ว 7 ข้อ มีบางประเด็นพอจะเป็นไปได้ เช่น ให้ผู้ถือหุ้นรับผิดชอบโครงการตามสัดส่วนการถือหุ้น หากโครงการมีปัญหาสร้างไม่เสร็จ, ยังไม่ขอเริ่มงานก่อสร้างหากยังไม่ได้รับอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) การส่งมอบพื้นที่, เพิ่มกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย, ขอเช่าช่วงที่ดินมักกะสัน-ศรีราชา ให้ บจ.แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทลูกพัฒนา,ขอรัฐขยายเพดานเงินกู้ให้กับรายใหญ่ เป็นต้น

ข้อเสนออื่น ๆ ที่ไม่รับพิจารณา เช่น ขยายเวลาก่อสร้างอีก 6 เดือนจากเดิม 5 ปี, จ่ายค่าปรับแบบตายตัว, ให้รัฐรับประกันผลตอบแทนโครงการหากไม่ถึง 6.75%, ให้เจรจาบริษัทเป็นรายแรกขยายอายุสัมปทานหลังครบ 50 ปี อีก 49 ปี รวมเป็น 99 ปีขอให้รัฐจ่ายเงินอุดหนุนตั้งแต่ปีแรก,เลื่อนจ่ายค่าเช่าที่ดินมักกะสันและศรีราชาจนกว่าจะมีผลตอบแทนหรือได้รับส่งมอบพื้นที่ครบ, ขอจ่ายค่าสิทธิเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์ปีที่ 6 เป็นต้นไป, ห้ามรัฐอนุมัติโครงการที่เป็นปฏิปักษ์ต่อโครงการที่ทำให้เกิดการแข่งขัน, ปรับรูปแบบเป็นทางระดับดิน

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่ข้อเสนอสร้างส่วนต่อขยายไประยอง ย้ายจุดที่ตั้งสถานีและสร้างสเปอร์ไลน์เชื่อม ยังไม่ถึงเวลาที่จะนำมาพิจารณาในขณะนี้ เนื่องจากเป็นเงื่อนไขที่สามารถขออนุญาตจากการรถไฟฯได้ตามปกติ

สะพัดกลุ่ม ซี.พี.ทิ้งทุ่น

“การที่ ซี.พี.มีเงื่อนไขมาก เป็นเพราะราคาที่เสนอประมูลนั้นต่ำเกินจริง ทำให้เดินหน้ายาก เพราะโครงการมีความเสี่ยงสูง ใช้เงินลงทุน 2 แสนล้าน ซึ่งแบงก์คงไม่ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำได้ง่ายๆ ตอนนี้เริ่มมีหลายกระแส เช่น ซี.พี.จะล้มประมูลเพื่อให้เปิดประมูลใหม่ อีกกระแสก็บอกว่า ทางเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ตั้งใจในโครงการนี้มาก จะขอสู้เพื่อศักดิ์ศรี” รายงานข่าวกล่าวและว่า

อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้โครงการต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ หากเจรจา ซี.พี.ไม่สำเร็จ จะเชิญกลุ่มบีเอสอาร์มาเจรจาต่อไป แต่ต้องลดวงเงินที่ให้รัฐอุดหนุนจากที่เสนอไว้ 169,934 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากรอบ ครม.อนุมัติ

เปิดข้อเสนอบีทีเอส

“แม้กลุ่มบีเอสอาร์เสนอราคาแบบไม่มีเงื่อนไข แต่รัฐต้องควักเพิ่มกว่า 5 หมื่นล้าน ก็ต้องดูว่าเอกชนจะมีเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อแลกกับการลดเงินอุดหนุนจากรัฐ” แหล่งข่าวกล่าวและว่า

ส่วนซองที่ 4 ของกลุ่มบีเอสอาร์ เสนอลงทุนส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง สร้างส่วนต่อขยายจากอู่ตะเภา-ระยอง ออกไป 40 กม. นอกจากนี้ ยื่นขอใช้สถานีพญาไทเป็นสถานีจอดรถไฟความเร็วสูงด้วย เพื่อให้ผู้โดยสารต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสได้สะดวก

ด้านนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการบอร์ดอีอีซี กล่าวว่า คณะกรรมการคงไม่สามารถพิจารณาข้อเสนอของกลุ่ม ซี.พี. ที่อยู่นอกเหนือทีโออาร์และมติคณะรัฐมนตรีได้ เช่น ขยายอายุสัมปทานขอรัฐจ่ายเงินอุดหนุนตั้งแต่ปีแรก เป็นต้น

“แต่ก็ต้องหารือกับ ซี.พี.อีกครั้ง ยังไม่ใช่ครั้งสุดท้าย รัฐยังเปิดให้เจรจากันจนกว่าจะได้ตามข้อตกลง เช่น เรื่องผลตอบแทนให้กับภาครัฐจนน่าพอใจ ตามระเบียบแล้ว หากรายแรกไม่สามารถตกลงกันได้ตามเงื่อนไข รัฐสามารถเจรจากับรายที่ 2 ได้ แต่ต้องเจรจากับรายที่ 1 จนจบก่อน ปลายเดือนนี้จะได้ข้อสรุปเรื่องผู้ชนะการประมูลครั้งนี้”

ไม่ห่วงสุญญากาศเลือกตั้ง

นายคณิศกล่าวว่า ทุกโครงการใน EEC Project List ทั้งไฮสปีด, ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3, สนามบินอู่ตะเภา, ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3, ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน จะเสร็จสิ้นหาผู้ชนะประมูลได้ตามไทม์ไลน์ก่อนเลือกตั้งแน่นอน

“ช่วงระหว่างที่เลือกตั้งเดือน มี.ค. กับระยะเวลาจัดตั้งรัฐบาล คาดว่าหลังเดือน พ.ค.จะแล้วเสร็จ ทุกโครงการจะถูกเสนอเข้า ครม.พิจารณา ดังนั้น 5 โครงการลงทุนเลื่อนเพียงเล็กน้อย ไม่ได้ชะลอหรือหยุดโครงการใด ๆ”

EEC ไฟเขียว 13,572 ล้าน บ.

นายคณิศเปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด EEC โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า เห็นชอบแผนสิ่งแวดล้อม ปี 2561-2564 จำนวน 86 โครงการ วงเงิน 13,572 ล้านบาท โดยให้เริ่มโครงการเร่งด่วน 14 โครงการ ปี 2562 จะใช้งบฯ 5,800 ล้านบาท แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน คือ เร่งจัดการมลพิษทั้งขยะและน้ำเสียเป็นอันดับแรก จากนั้นปี 2563 จะใช้งบฯ 1,879 ล้านบาท ปี 2564 ใช้งบฯอีก 660 ล้านบาท รองรับคุณภาพสิ่งแวดล้อมและฟื้นคืนทรัพยากรธรรมชาติ จัดกิจกรรมส่งเสริมการฟื้นฟูการท่องเที่ยว

ต้องการแรงงาน 1 ล้านคน

บอร์ดยังเห็นชอบแผนพัฒนาบุคลากรโดยกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯจากผลสำรวจพบว่า ใน EEC ขาดทั้งแรงงานและบุคลากรถึง 50,000 คน แผน 12 ปี (2562-2573) อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve) 300,000 ล้านบาท/ปี ต้องการแรงงานและบุคลากร 1 ล้านคน อาทิ อุตสาหกรรมดิจิทัล, หุ่นยนต์, การแพทย์และบริการสุขภาพ, การบินและชิ้นส่วน, โลจิสติกส์, ยานยนต์สมัยใหม่, อิเล็กทรอนิกส์, เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ, ท่องเที่ยว และการแปรรูปอาหาร

ซี.พี.ยืนยันสู้ประมูล

แหล่งข่าวจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กลุ่ม ซี.พี.มีความตั้งใจจริงที่จะดำเนินโครงการไฮสปีดเทรน เพราะเป็นโครงการสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อประเทศอย่างมาก จึงพร้อมจะสู้เต็มที่ เพื่อให้ได้โครงการนี้ แต่เนื่องจากเป็นโครงการใหญ่ จึงต้องหารือกับพันธมิตรต่างประเทศหลายราย ทำให้การเจรจาเกี่ยวกับเงื่อนไขต่าง ๆ กับภาครัฐต้องใช้เวลาเจรจาต่อรองพอสมควร แต่เชื่อว่าจะได้ข้อสรุปตามกรอบเวลาที่รัฐกำหนดไว้ในเดือน ก.พ.นี้

“เราเชื่อว่าโครงการนี้ถ้าเกิดได้จะดีกับประเทศ อย่างที่ทราบกันว่าเป็นโครงการใหญ่มากที่ต้องใช้ทั้งเงินลงทุน, ความชำนาญและประสบการณ์เราจึงต้องอาศัยพันธมิตรที่เชี่ยวชาญ ซึ่งพันธมิตรก็ต้องพิจารณาเรื่องผลตอบแทนในการลงทุนด้วย ทำให้การตัดสินใจอาจช้า เพราะต้องคุยกับพาร์ตเนอร์”

2 ยักษ์ยื่นประมูลมาบตาพุด

นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ และบริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด จับมือยื่นซองประมูลโครงการเพียงรายเดียวจาก 18 ราย ประกาศผลในเดือน พ.ค. 62

//----------------------------
"บีทีเอส"พร้อมเจรจาลดราคาชิงรถไฟไฮสปีดเชื่อม3สนามบิน
วันจันทร์ ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 07:09 น.

บีทีเอส ประกาศพร้อมเจรจาลดราคาชิงรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คาดจบใน 1 เดือน


รฟท.ขีดเส้น18ก.พ.เจรจาซีพีนัดสุดท้าย

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 07:00 น.


ลั่นคุยไม่จบ เล็งเรียกบีทีเอส คุยต่อ "อาคม" ย้ำประมูลไฮสปีดจบภายในเดือน มี.ค.นี้


Last edited by Wisarut on 18/02/2019 11:56 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 18/02/2019 11:10 am    Post subject: Reply with quote

ไฮสปีดวางตัวยาก... “เร็วก็ว่า...ช้าก็บ่น”!!
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562, 18:49

ทำธุรกิจกับรัฐต้องทำใจ เพราะหากเร็ว...ก็จะถูกว่าเรื่องเร่งรัดไปไหน มีอะไรเบื้องหลังหรือไม่ แต่ถ้าช้า ก็จะบอกว่า ยื้อเจรจา ทำไมไม่รีบจบ แถมการเจรจาก็ไม่เหมือนเอกชนคุยกับเอกชน เพราะมีกรรมการข้างเวทีเยอะ คอยออกความเห็นทุกวัน ทำเอากรรมการใจสั่น เอียงเอนทุกวันตามเสียงผู้ชม!!

การเจรจาโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน หากมาวิเคราะห์จากสื่อที่พูดถึงทีโออาร์ จะเห็นได้ว่าเป็นการรวบรวมทีโออาร์ที่ศึกษาในหลาย ๆ ประเทศ ซึ่งรวมมาเฉพาะข้อดีที่ทำให้รัฐได้ประโยชน์ แต่พอนำมารวม ๆ กันแล้ว ปรากฏว่าความเสี่ยงส่วนใหญ่ไปตกกับผู้เข้าประมูล ทำให้นักลงทุนจากต่างประเทศไม่ว่าจีน ญี่ปุ่น หรือยุโรป ต่างถอยไปตั้งหลักกันเป็นแถว แล้วดันให้ซีพีออกมายืนข้างหน้า ทำการเจรจาต่อรองเพื่อลดความเสี่ยงกับรัฐ หากซีพีเจรจาไม่สำเร็จแล้วรับไปทำ ก็อาจจะได้ชื่อว่าช่วยชาติและแบกความเสี่ยงไปเอง แต่ก็จะมีโอกาสกระอักเลือดในภายหลัง ดังนั้น ทุกฝ่ายคงต้องละเอียดรอบคอบ เพราะเมื่อเกิดปัญหาภายหลัง ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าใครจะรับผิดชอบ หากทุกประเด็นไม่คุยให้รู้เรื่องก่อนเริ่ม ก็คงต้องยืมสำนวนไทยที่ว่า ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม น่าจะเข้ากับสถานการณ์มากกว่า!!

เศรษฐศาสตร์วันหยุด : เจรจาไฮสปีดเทรนเชื่อม3สนามบิน!!! เมื่อไม่มีทางออก ก็ให้ออกทางเข้า!!
วันอาทิตย์ ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562, 06.00 น.
โดย พงษ์พันธุ์
เศรษฐศาสตร์วันหยุด
แนวหน้าโลกธุรกิจ

nn ณ วันนี้ การเจรจาเงื่อนไขพิเศษโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน....ดูเหมือนว่าจะเข้าสู่ทางตัน ซึ่งมีศัพท์ภาษาฝรั่งเศสว่า Cul de Sac (คัล เดอ แซค) คือ สุดทางตันเป็นลานวงกลมเพื่อให้รถเลี้ยววกกลับมาได้ เพื่อไปหาทิศทางใหม่ หรือไปเริ่มต้นกันใหม่ เพื่อบรรลุหนทางหรือเป้าหมาย ซึ่งนั่นอาจหมายถึง การต้องตัดสินใจประมูลใหม่ ถ้าเกิดทั้งซีพี และ บีทีเอส รับความเสี่ยงจากทีโออาร์ที่มีหลายส่วนแตกต่างจากมาตรฐานสากล การย้อนออกมาทางเก่า เพื่อทบทวนทีโออาร์ ก็อาจเป็นทางเลือกเพื่อทำโครงการนี้ให้สำเร็จ

วิเคราะห์ข้อมูลจากสื่อหลายสำนัก ทีโออาร์ ดูเหมือนว่า เป็นการรวบรวมการศึกษาจากทีโออาร์ในหลายๆ ประเทศ ที่รวมข้อดี ที่ทำให้รัฐได้เปรียบ แต่พอนำมารวมๆ กันแล้ว ก็ทำให้ความเสี่ยงส่วนใหญ่จะตกไปอยู่กับผู้เข้าร่วมประมูล ทำให้นักลงทุนจากต่างประเทศไม่ว่าจีน ญี่ปุ่น หรือยุโรปต่างถอยไปตั้งหลัก ดัน“ซีพี”มายืนข้างหน้า เจรจาต่อรองลดความเสี่ยงกับรัฐ แต่หากซีพีเจรจาไม่สำเร็จแล้วรับไปทำ ก็อาจได้ชื่อว่าช่วยชาติและแบกความเสี่ยงไปเอง แต่ก็มีโอกาสกระอักเลือดในภายหลัง

งานนี้ก็น่าเห็นใจทุกฝ่าย เพราะต่างล้วนปรารถนาดีมาช่วยประเทศ แต่หากทีโออาร์ฉบับนี้หาทางออกไม่ได้จริงๆ ก็คงไม่เสียเวลามากหากจะลองพิจารณา การย้อนไปออกทางเข้า และได้มาซึ่งทีโออาร์ใหม่ ที่เป็นสากล!!

“ถึงเวลาต้องเลือก!!!รัฐออกเงินน้อย เอกชนกู้เงินเยอะ!!หรือ รัฐออกเงินเยอะ เอกชนกู้เงินน้อย!!.....คำอธิบายง่ายๆของผู้เข้าแข่งขันสองราย โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีการประมาณการการลงทุนอยู่ที่ 224,544 ล้านบาทโดยซีพีเลือกให้รัฐออกเงินน้อย....คือที่ 117,227 ล้านบาท ทำให้ซีพีต้องกู้เงินมาทำโครงการถึง 107,317 ล้านบาท.....ในขณะที่บีทีเอส เลือกทางเลือกที่สองคือ ให้รัฐออกเงินเยอะ ทำให้ภาระเอกชนที่ต้องกู้เงินน้อย โดยบีทีเอส เสนอให้รัฐออกเงินอุดหนุนที่ 169,934 ล้านบาท เกินกว่ากรอบวงเงินสูงสุดที่รัฐอนุมัติ ทำให้บีทีเอสต้องกู้จากธนาคารอยู่ที่ 54,610 ล้านบาท

แล้วสองทางเลือกต่างกันอย่างไร คือหากรัฐอยากออกเงินสนับสนุนต่ำสุด ก็ต้องช่วยสนับสนุนเงื่อนไข เพื่อลดความเสี่ยงโครงการ เพื่อได้ดอกเบี้ยที่ดี และ ร่วมการันตีความสำเร็จโครงการ เอกชนก็จะสามารถกู้เงินธนาคารเป็นแสนล้านบาทได้ !!!.... แต่ถ้ารัฐเลือกออกเงินมาก โดยรัฐออกเองถึงกว่า 1.7 แสนล้าน เอกชนกู้เองเพียงแค่ 5.4 หมื่นล้าน ปัญหาจากการกู้เงินก็จะน้อยกว่ามาก โดยเมื่อกู้ไม่มาก ธนาคารก็ไม่ต้องการหลักประกันมากนัก เงื่อนไขก็อาจน้อยกว่า แต่รัฐก็แค่ต้องออกเงินมากกว่า

!! สิ่งสำคัญที่ทำให้การเจรจายึดเยื้อคือ รัฐจะเอาราคาต่ำด้วย แต่ก็ไม่ร่วมรับความเสี่ยง ทำให้ในมุมมองธนาคาร เอกชนรับความเสี่ยงสูงมาก จึงยากในการหาแหล่งทุน เพราะเมื่อประเมินความสำเร็จโครงการกับความเสี่ยงแล้ว แหล่งเงินทุนและพันธมิตรที่มาร่วมลงทุนต่างหนักใจ เพราะหากคิดว่าจะไปตายเอาดาบหน้า คงจะซ้ำรอย “โฮปเวลล์”...สู้เอาความเป็นไปได้โครงการเป็นที่ตั้งจะดีที่สุดจะดีกว่าไหม...???

ต้องมาลุ้นกันว่า การเจรจาจะจบลงอย่างไร แต่ที่แน่ๆคือ การเจรจา คือการหาทางออกที่ดีกับทุกฝ่าย ไม่ใช่หาผู้แพ้ หรือผู้ชนะ แต่ถ้าจบไม่ลงจริงๆ การมาเจอกันที่ตรงกลาง
ก็อาจเรียกว่าเป็นทางออกสำหรับทุกฝ่าย!!....
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 18/02/2019 11:32 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟไทย-จีนระยะที่ 1 เปิดประมูลอีก5สัญญา
ออนไลน์เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2562
ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ | หน้า 12
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,445
ระหว่างวันที่ 17 - 20 กุมภาพันธ์ 2562




การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เปิดรับฟังความเห็นร่างเอกสารประกวดราคาอีก 5 สัญญา ระยะทาง 144 กม.วงเงินรวม 5.8 หมื่น ล้านบาท ซึ่งกำหนดรับฟังความเห็นระหว่างวันที่ 12-18 กุมภาพันธ์นี้ และเปิดขายเอกสารประกวดราคาเดือนมีนาคม 2562 คาดว่าจะยื่นข้อเสนอได้ในเดือน เมษายน 2562 โดยทั้ง 5 สัญญาประกอบด้วย

สัญญาที่ 3-1 งานโยธาสำหรับช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า รวมงานอาคารและสิ่งปลูกสร้างรองรับงาน ระบบรถไฟฟ้า 9 แห่ง ระยะทาง 30.21 กม.

สัญญา 3-4 ช่วง ลำตะคอง-สีคิ้ว, กุดจิก-โคกกรวด รวมงานอาคารและสิ่ง ปลูกสร้างรองรับงานระบบรถไฟฟ้า 8 แห่ง ระยะทาง 37.45 กม.

สัญญา 4-2 ช่วงดอนเมือง-นวนคร รวมโครงสร้างทาง รถไฟยกระดับทั้งหมด และงานอาคารและสิ่งปลูกสร้างรอง รับงานระบบรถไฟฟ้า ระยะทาง 21.80 กม.

สัญญา 4-3 ช่วง นวนคร-บ้านโพ รวมโครงสร้างทางรถไฟยกระดับทั้งหมด และ โครงสร้างทางวิ่งเข้าศูนย์ซ่อมบำรุง งานอาคารและสิ่งปลูก สร้างรองรับงานระบบรถไฟฟ้า ระยะทาง 23 กม. และ

สัญญา 4-6 ช่วงพระแก้ว-สระบุรี รวมงานอาคารและสิ่งปลูกสร้างรองรับงานระบบรถไฟฟ้า 7 แห่ง ระยะทาง 31.6 กม.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 307, 308, 309 ... 542, 543, 544  Next
Page 308 of 544

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©