ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)

[Wisarut]

ซี.พี.ทุ่ม 1.7 พันล้าน พลิกโฉม”แอร์พอร์ตลิงก์” รีแบรนด์ใหม่”AERA 1”เปิดหวูด 25 ต.ค.นี้
วันที่ 29 สิงหาคม 2564 เวลา 15:51 น.



เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2562 กลุ่มซี.พี.ประกอบด้วย บจ.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง ,บจ.ไชน่า เรลเวย์ คอนสตรัคชั่น(CRCC) ,บมจ.ช.การช่างและบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ(BEM) และบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ได้เซ็นสัญญากับการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) รับสัมปทาน 50 ปี ก่อสร้างและเดินรถโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)ระยะทาง 220 กิโลเมตร มูลค่า 224,544 ล้านบาท และรถไฟฟ้าแแอร์พอร์ตเรลลิงก์(พญาไท-สุวรรณภูมิ)

24 ต.ค.ครบกำหนดรับโอนแอร์พอร์ตลิงก์-พื้นที่ไฮสปีด

โดยจัดตั้งบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด นิติบุคคลเฉพาะกิจ ด้วยทุนจดทะเบียน 4,000 ล้านบาท เพื่อเซ็นสัญญาร่วมทุนโครงการ

ในวันที่ 24 ตุลาคม 2564 จะครบกำหนด 2 ปี ตามสัญญาต้องรับโอนแแอร์พอร์ตเรลลิงก์ พร้อมจ่ายค่าใช้สิทธิ 10,671 ล้านบาท และรับมอบพื้นที่การก่อสร้างรถไฟคามเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเฟสแรกช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 170 กิโลเมตร

ซี.พี.เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น”เอเชีย เอราวัน”

ความคืบหน้าล่าสุด แหล่งข่าวจากกลุ่มซี.พี. เปิดเผย”มติชน”ว่า ขณะนี้ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็นบริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด (ASIA ERA ONE) เพื่อบริหารโครงการรถไฟความเร็วสูงและแอร์พอร์ตลิงก์ โดยได้แจ้งให้กับรฟท.รับทราบแล้ว

ขอแบ่งจ่ายค่าเดินรถหมื่นล้าน

นอกจากนี้ยังหารือกับรฟท.ขอจ่ายค่าใช้สิทธิแอร์พอร์ตลิงก์ แบบแบ่งชำระเป็นรายปี จากเดิมต้องจ่ายทั้งก้อน 10,671 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังระบาดหนัก ทำให้ปริมาณผู้โดยสารมาใช้บริการลดลงอย่างมากจากเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 8-9 หมื่นเที่ยวคนต่อวัน ตอนนี้เหลือไม่ถึง 2 หมื่นเที่ยวคนต่อวัน

โดยบริษัทพร้อมเข้าบริหารแอร์พอร์ตลิงก์ในเดือนตุลาคมนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงระบบต่างๆ เช่น ระบบเดินรถ ป้ายบอกทาง พื้นทางเดินบริเวณสถานีและฝ้าเพดานสถานี ประตูเข้า-ออกสถานี ดัดแปลงขบวนรถexpress line จำนวน 4 ขบวน ปัจจุบันรับผู้โดยสารได้ 3 ตู้ อีก 1 ตู้ใช้สำหรับขนสัมภาระกระเป๋า จะนำมาปรับปรุงให้รองรับผู้โดยสารมากขบวนละ 200 คน จะเสร็จในเดือนตุลาคมนี้ 1 ขบวน


รีแบรนด์ใหม่”AERA 1”เปิดหวูดวันแรก 25 ต.ค.นี้

“เราได้รีแบรนด์ดิ้งโครงการใหม่ เพื่อรองรับการเปิดเดินรถวันแรกในวันที่ 25 ตุลาคม 2564 โดยเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า”AERA 1”(เอราวัน) แปลว่ายุคสมัย ”

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ในวันแรกที่เปิดบริการจะมีรถ 9 ขบวนให้บริการครบ และมีพนักงานให้บริการตามสถานี โดยบริษัทมีพนักงานกว่า 300-400 คน ที่ผ่านการอบรมและเทรนนิ่งมาแล้ว มีทั้งที่รับสมัครใหม่และพนักงานแอร์พอร์ตลิงก์เดิม

สำหรับค่าโดยสารจะยังเก็บในอัตราเดิม เริ่มต้น 15-45 บาท แต่อาจจะมีการเปลี่ยนโฉมหน้าบัตรโดยสารใหม่ให้สอดรับกับชื่อใหม่ ในเบื้องต้นระบบบัตรโดยสารยังคงเดิม แต่ต่อไปจะปรับปรุงให้ใช้ร่วมกับระบบTrueMoney Wallet ได้ด้วย

“การปรับปรุงแอร์พอร์ตลิงก์จะทยอยดำเนินการหลังจากที่บริษัทได้เข้าบริหารการเดินรถอย่างเต็มตัวแล้ว “

สำหรับแอร์พอร์ตลิงก์ มี 8 สถานี ได้แก่ พญาไท ราชปรารภ มักกะสัน รามคำแหง หัวหมาก บ้านทับช้าง ลาดพระบังและสุวรรณภูมิ ปัจจุบันเปิดบริการเวลา 05.30-20.00 น.ตามมาคการปัองกันโควิด-19

บิ๊กซี.พี.ทุ่ม1.7พันล้านพลิกโฉมใหม่

ก่อนหน้านี้นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวว่า ในเดือนตุลาคมนี้มีความพร้อมที่จะดำเนินการรับช่วงแอร์พอร์ตลิงก์จากรฟท.ได้แบบไร้รอยต่อตามสัญญา เป็นไปตามแผนงานและกำหนดเวลาที่วางไว้ โดยให้ผู้เชี่ยวชาญการเดินรถและให้บริการระบบราง จากต่างประเทศและในประเทศลงพื้นที่ตรวจสอบระบบอย่างละเอียดและสำรวจความคิดเห็นจากผู้โดยสาร เพื่อเป็นแนวทางพัฒนาและปรับปรุงแอร์พอร์ตลิงก์ให้พร้อมบริการได้อย่างต่อเนื่องทันทีที่เข้ารับช่วง โดยเฉพาะความปลอดภัยและความสะดวก

“บริษัททุ่มสรรพกำลังในการดำเนินงาน ให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับประสบการณ์การเดินทางที่ดียิ่งขึ้นทันทีที่เราเข้าไปดำเนินงาน ต้องทำให้ดีตั้แต่ก้าวแรก พร้อมทั้งในแง่ของระบบการเดินรถ ความสะดวกสบายและความปลอดภัย เพราะแอร์พอร์ตลิงก์จะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อสู่เส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกในอนาคตด้วย”

ด้านนายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชือมสามสนามบิน จำกัดหรือบจ.เอเชีย เอราวันในปัจจุบัน กล่าวว่า ตามสัญญาบริษัทจะบริหารจัดารแอร์พอร์ตลิงก์ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป โดยได้ลงทุนเพิ่มในเพื่อปรับปรุงระบบ และสถานีด้วยงบประมาณ 1,700 ล้านบาท สำหรับดำเนินการล่วงหน้าก่อนรับโอนสิทธิ

ได้แก่ การเตรียมการด้านบุคลากร และถ่ายทอดเทคโนโลยี การเตรียมความพร้อมด้านระบบและเทคนิค การเตรียมความพร้อมด้านการปรับปรุงสถานีและการให้บริการ เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ความสำคัญกลุ่มผู้พิการ กลุ่มเปราะบาง ด้วยการออแบบอารยสถาปัตย์ การเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัย

สะพัดเลื่อนส่งมอบพื้นที่สร้างไฮสปีด

สำหรับการรับมอบพื้นที่ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เฟสแรกช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา แหล่งข่าวจากกลุ่มซี.พี.กล่าวว่า อาจจะเลื่อนไปจากเดิมในเดือนตุลาคมนี้ออกไปเล็กน้อย เนื่องจากต้องรอทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศาภาคตะวันออก(อีอีซี)เคลียร์การเวนคืนที่ดินที่นอกเหนือจากที่ดินรฟท. ซึ่งบริษัทแสดงเจตจำนงแต่แรกแล้วว่า จะรับมอบพื้นที่ก่อสร้างตลอดเส้นทางเท่านั้น จะไม่รับมอบเป็นฟันหลอ

[Wisarut]

อัปเดตไฮสปีด​ล่าสุด​ รฟท.ลุยยกแรกศึกษาHIAปมสถานีอยุธยา​ รื้อสัญญาซีพีแก้ไขทับซ้อนช่วงบางซื่อฯ
https://www.youtube.com/watch?v=i85kSXVX01U


"ลงพื้นที่ก่อสร้างแล้ว"EEC เร่ง CP เร่งเคลียร์ปม..พื้นที่ทับซ้อนไฮสปีด ไทย-จีน
https://www.youtube.com/watch?v=qjHPR3JDt-o

[Mongwin]

“ศักดิ์สยาม” จี้สรุปปมก่อสร้าง “สถานีอยุธยา” ลุยรถไฟไฮสปีดไทย-จีน
เดลินิวส์ 8 กันยายน 2564 16:49 น.
เศรษฐกิจ-ยานยนต์

“ศักดิ์สยาม” จี้กรมฯราง-การรถไฟฯ เร่งสรุปสร้างสถานีอยุธยา รถไฟไฮสปีด กรุงเทพฯ-โคราช บี้สิ้นเดือน ก.ย.นี้ ต้องเห็นภาพรวมสร้างรถไฟไฮสปีดกรุงเทพฯ-หนองคาย พร้อมแนวทางเชื่อมรถไฟลาว-จีน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเรื่อง การติดตามการดำเนินการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงสถานีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ในโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ระยะ (เฟส) ที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ผ่านแอพพลิเคชั่น Zoom ว่า กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญในการดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ทั้งในด้านภูมิทัศน์และคุณค่าความโดดเด่นของมรดกโลก (OUV) โดยการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ด้วยรถไฟความเร็วสูงควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณค่าอันโดดเด่นให้เหมาะสมกับบริบทของจังหวัด

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หารือแนวทางเลือกการดำเนินโครงการ โดยตรวจสอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานโครงการรถไฟความเร็วสูงสถานีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ให้ได้ข้อยุติ และในการประชุมครั้งถัดไปให้นำเสนอเป็นภาพรวมโครงการรถไฟความเร็วสูง เฟสที่ 1 เช่น การดำเนินการก่อสร้างสถานีอยุธยา และการก่อสร้างงานโยธาร่วมช่วงบางซื่อ–ดอนเมือง เป็นต้น รวมถึงการดำเนินโครงการระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา–หนองคาย ตลอดจนการเชื่อมโยงทางรถไฟกับโครงการรถไฟ ลาว-จีน ช่วงหนองคาย–เวียงจันทน์ด้วย

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า สถานีรถไฟความเร็วสูงสถานีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จะเป็นสถานีที่มีคุณค่าและความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์ รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ก็เป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาและกระจายความเจริญ รวมถึงสร้างโอกาสอันดีแก่ประชาชนทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ สามารถมาเยี่ยมชมแหล่งมรดกโลก นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้อย่างสะดวกมากขึ้น

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมครั้งนี้นายศักดิ์สยามได้เร่งรัดให้ รฟท. และ ขร. เร่งสรุปแบบก่อสร้างสถานีอยุธยาให้แล้วเสร็จ และนำกลับมาเสนอที่ประชุมภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ โดยสัปดาห์หน้าปลัดกระทรวงคมนาคมจะนัด รฟท และ ขร. หารือ เพื่อสรุปรายละเอียดต่อไป.

[Wisarut]

[Wisarut]

'คณิศ' ดันเอกชนลุยสร้าง 'ไฮสปีด-อู่ตะเภา' ปลายปีนี้
06 กันยายน 2564 เวลา 16:44 น.526b

“คณิศ” ลั่นไตรมาส 4 ปีนี้ เตรียมเปิดหน้าดิน เร่งตอกเสาเข็มเมกะโปรเจคอีอีซี สนามบินอู่ตะเภา-ไฮสปีดเทรน พร้อมกางแผนพัฒนาเมือง หนุนเม็ดเงินหมุนเวียนเพิ่ม 2 แสนล้านบาท

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่าในช่วงเสวนา EEC Future : เอกชนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ฟื้นเศรษฐกิจไทย จัดโดย “กรุงเทพธุรกิจ” โดยระบุว่า แม้จะมีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 แต่การลงทุนในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ครึ่งปีแรก 1.2 แสนล้านบาท และเฉลี่ยจะมีปีละ 3 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีเอกชนหลายที่กำลังขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ความคืบหน้าของการพัฒนาอีอีซี ปัจจุบันเราผลักดันในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานไปแล้ว แผนขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินงาน 2 เรื่องหลัก คือ การชักจูงนักลงทุน จะให้น้ำหนักมากขึ้น และการสร้างวิถีชีวิตแบบใหม่ให้ประชาชน ยกระดับเมือง สร้างเมืองและสิ่งแวดล้อมของเมือง

163092163971



อย่างไรก็ดี เป้าหมายการลงทุนเมื่อตอนทำแผนพัฒนาอีอีซี ประเมินว่าจะมีมูลค่าการลงทุน 1.7 ล้านล้านบาท โดยขณะนี้อนุมัติการลงทุนไปแล้ว 1.6 ล้านล้านบาท ดังนั้นมูลค่าการลงทุนคงถึงเป้าก่อนกำหนด แต่ขณะเดียวกัน อีอีซีเดิมมีเป้าหมายว่าจะกระตุ้นผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี) โต 5% จาก 3% แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้จีดีพีไทยจะเติบโตเพียง 2% ดังนั้นอีอีซีต้องออกแรงอีกเยอะขึ้น เพื่อกระตุ้นจีดีพีตามเป้าหมาย

“เดิมเราประมาณการณ์ว่าในช่วงแต่ละปีหลังจากนี้ อีอีซีจะดึงเม็ดเงินลงทุนได้ 3-4 แสนล้านบาทต่อปี แต่เพื่อผลักดันจีดีพีให้โต 5% อีอีซีต้องทำให้ได้มากกว่าเป้าหมาย ดังนั้นอีอีซีในระยะข้างหน้าต้องเพิ่มการลงทุนมากกว่า 1.7 ล้านล้านบาท โดยแผนที่เราจะทำส่วนหนึ่งจะมาจากการสร้างเมือง เพื่อทำให้เม็ดเงินลงทุนที่ตอนนี้เรามีโครงสร้างพื้นฐานแล้ว ได้มีการลงทุนจากบีโอไอ 8 แสนล้าน จะเพิ่มเข้ามาอีกปีละ 2 แสนล้าน”



นายคณิศ ยังกล่าวด้วยว่า แม้ว่าท่องเที่ยวยังไม่กลับมาจากผลกระทบของโควิด-19 แต่อีอีซีกำลังจะเติบโต ปีหน้าคาดว่าอีอีซีจะขยายตัวนำจีดีพีประเทศ โดยจะมาจากการกระตุ้นเม็ดเงินลงทุนในส่วนของอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เกิดขึ้น เช่น ศูนย์การแพทย์ เทคโนโลยี 5G ที่ตอนนี้ใช้ได้ 100% ดังนั้นแกนนำอุตสาหกรรมป้าหมาย จะเพิ่มมูลค่าการลงทุนได้อีก รวมไปถึงการทำคลัสเตอร์เกษตร และการพัฒนาเมืองร่วมกับจังหวัด

ส่วนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หลังจากสถานการณ์โควิด -19 คลี่คลาย ในปลายปีนี้ อีอีซีจะเริ่มทำโรดโชว์ท่าอากาศยานอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก รวมทั้งจะเปิดหน้าดินให้โครงการโครงสร้างพื้นฐานเริ่มงานก่อสร้าง โดยสัญญาว่าภายในปีนี้จะเริ่มเห็นการเปิดหน้าดินเป็นเรื่องราวทั้งรถไฟความเร็วสูง และสนามบินอู่ตะเภา

[Wisarut]

เราคือ“เอเชีย เอรา วัน” (Asia Era One Co., Ltd) ยืนหนึ่งศูนย์กลางเดินทางแห่งเอเชีย
*ชื่อใหม่ทรงพลังบริษัทรถไฟไฮสปีด 3 สนามบิน
*พร้อมเปิดขอบฟ้าสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่า
*เชื่อมไทยเชื่อมโลกมาตรฐานบริการระดับสากล


📍📍📍บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น 📍📍📍 🎉🎊“บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด” (Asia Era One Co., Ltd)🎉🎊
The Electric Railway System - เรียนรู้ระบบรถไฟฟ้า
13 กันยายน 2564 เวลา 16:21 น.

เตรียมความพร้อมเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตชาวไทยด้วยทางเลือกใหม่ของการเดินทางด้วยระบบขนส่งทางรางที่ทันสมัย ภายใต้แนวคิด “รีอิเมจินิ่ง ฮอไรซอน (Reimagining Horizons)” เปิดขอบฟ้าใหม่แห่งโอกาส สร้างประสบการณ์การเดินทางที่เหนือกว่าให้แก่ผู้โดยสาร ตลอดจนมุ่งเน้นสร้างคุณค่า และประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
นายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอเชียเอรา วัน จำกัด เปิดเผยว่า การเปลี่ยนชื่อองค์กรในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความพร้อมเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินอย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ ซึ่งจะเป็นการพัฒนายกระดับการคมนาคมในประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการเดินทางในภูมิภาคเอเชียและของโลกด้วยมาตรฐานการเดินรถและให้บริการในระดับสากล
“ชื่อบริษัท เอเชีย เอรา วัน มาจากคอนเซ็ปต์ในภาษาอังกฤษ Asia Era One ซึ่งมีความหมายสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทในการเป็นศูนย์กลางของเอเชีย ที่เชื่อมผู้คน สังคม และประเทศเป็นหนึ่งเดียวเพื่อประเทศไทยสู่ยุคใหม่แห่งอนาคตของความเจริญรุ่งเรือง ในขณะเดียวกัน ชื่อในภาษาไทย เอเชีย เอรา วัน ยังสื่อความหมายพ้องเสียงกับช้างเอราวัณ พาหนะเทพบุตรของพระอินทร์ ที่มีพละกำลัง และเป็นสัญลักษณ์ของการกระทำดี และสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์อีกด้วย” นายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ กล่าวเสริม
นายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ ยังกล่าวถึงวิสัยทัศน์ และพันธกิจ ของบริษัทฯ ต่อไปอีกว่า บริษัท เอเชีย เอรา วัน มีเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางการเดินทางแห่งเอเชีย ที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่ยุคใหม่แห่งโอกาสและความเจริญรุ่งเรือง ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีการเดินทางรถไฟความเร็วสูงระดับโลกที่มุ่งมั่นเชื่อมประเทศไทยกับเอเชียให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่เพื่อความภูมิใจของคนไทยทุกคน
🇹🇭🚅เกี่ยวกับบริษัท อเชีย เอรา วัน จำกัด🚅🇹🇭
บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท รถฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด) เป็นบริษัทเอกชนผู้ร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) รายแรก ที่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลไทย ให้พัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง ในรูปแบบสัญญาการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership : PPP) โดยมีระยะเวลาสัญญา 50 ปี มีมูลค่ากว่า 224,544 ล้านบาท
โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นโครงการเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลักในการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ คาดว่าจะสร้างรายได้ ให้กับประชาชนในท้องถิ่น โดยมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจประมาณ 650,000 ล้านบาท รวมถึงการจ้างงานตลอดช่วงระยะเวลาการก่อสร้างสูงถึง 16,000 อัตรา และการจ้างงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากกว่า 100,000 อัตรา ใน 5 ปี
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2998850273669804

[Wisarut]

ผู้ว่าฯ อยุธยา ร่วมประชุมหารืออธิบดีกรมการขนส่งทางราง และการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อหาแนวทางการดำเนินการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ผ่านทางระบบออนไลน์

วันที่ 10 กันยายน 2564




วันนี้ (10 ก.ย.64) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมมหาธาตุ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางการดำเนินการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา และการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องกับโครงการ โดยมี นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย ประชุมผ่านทางระบบออนไลน์ (ZOOM) โดยที่ประชุมได้หารือในประเด็นแนวทางการดำเนินงานก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงอยุธยา ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แสดงความคิดเห็นว่า การก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงตามแนวทางที่เป็นรางเดิม สถานีเดิม จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และการเชื่อมโยงด้านการคมนาคม ส่วนรูปแบบการก่อสร้างควรให้กรมการขนส่งทางราง ดำเนินการประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนในเรื่องพื้นที่ก่อสร้างดังกล่าวอยู่นอกพื้นที่มรดกโลกตามที่ UNESCO ประกาศ (1,800 ไร่เศษ) แต่ยังอยู่ในพื้นที่ 3,000 ไร่ ตามแผนแม่บทของกรมศิลปากร ซึ่งต้องไปสำรวจพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้ง

นอกจากนี้ การก่อสร้างควรถือปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ.2560 และพระราชบัญญัติ โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 (แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2535) ในส่วนของการจัดทำการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก หรือ Heritage Impact Assessment (HIA) นั้น การรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบดำเนินการ ควรศึกษาและดำเนินการไปพร้อมๆ กัน เพื่อมิให้เสียโอกาสและเวลาในการดำเนินงาน ทั้งนี้ หากมีความเห็นอื่นๆ ที่มีการเสนอเพื่อพิจารณา ก็ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินงาน ตามอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ พ.ศ.2559 ข้อ 12 ต่อไป

Note: กรมศิลปากรทำทุเรศจริงๆ ดูทางที่อ้อมโลกแล้ว นี่เป็นการเบียดเบียนประชาชนแน่นอน อาชญากรรมชัดๆ
https://www.facebook.com/AY.HI.PARK/posts/1497931133889053
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210910172225696

[Wisarut]

ถ่วงความเจริญ! โซเชียลฯ โวยแนวรถไฟความเร็วสูงเลี่ยงอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 13 กันยายน 2564 เวลา 15:55 น.
ปรับปรุง: วันที่ 13 กันยายน 2564 เวลา 15:55 น.



โลกโซเชียลฯ ด่ายับนับร้อยความเห็น เผยแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูงไม่เข้าอยุธยา เลี่ยงมรดกโลก โวยถ่วงความเจริญ ต่างประเทศยังวิ่งผ่ากลางเมืองได้ แบบนี้ออกจากมรดกโลกเถอะ ไม่มีประโยชน์

วันนี้ (13 ก.ย.) ในโลกโซเชียลฯ วิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางสาวสุกัญญา เบาเนิด ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา นายภัทรพงษ์ เก่าเงิน ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางการดำเนินการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา และการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องกับโครงการ เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีนายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธานการประชุมผ่านทางระบบออนไลน์ (ZOOM) ซึ่งพบว่าที่ประชุมได้เสนอแนวเส้นทางรถไฟเดิม และเส้นทางที่ปรับปรุงเลี่ยงพื้นที่มรดกโลก โดยพบว่าจากสถานีบางปะอินเลี่ยงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านถนนสายเอเชีย ถนนโรจนะ อ้อมไปทาง อ.อุทัย ถึงสถานีชุมทางบ้านภาชี อ.ภาชี ทำให้มีเสียงวิจารณ์ต่างๆ นานานับร้อยความเห็น เช่น


- สถานีรถไฟหลักของเมืองไหนบ้างที่ทำออกนอกเมืองขนาดนี้ ไปเที่ยวประเทศที่รถไฟพัฒนาสูงๆ มากี่ประเทศ สถานีหลักของเมืองก็อยู่ใจกลางเมืองหมด เพราะหลักการของรถไฟมันต้องเข้าถึงได้สะดวก คนถึงจะใช้ ไม่ใช่เวลาจะใช้ทีต้องแหกนั่งวิน นั่งรถ ขับรถไป 10 กิโลฯ 20 กิโลฯ กว่าจะถึงสถานี แบบนี้คนก็ขับรถเองแต่แรกดีกว่า

- สร้างนอกเมือง เจริญนอกเมือง เมืองเก่าไม่ต้องเข้าไป เออดีค่ะ มีสถานที่ดีงามแต่ไล่รถไฟความเร็วสูงไปนอกเมือง รถไฟปกติอยู่ได้ โรงแรมอยู่ได้ อย่ามัวแต่อนุรักษ์กันจนไม่สนใจโลกอนาคต เสียดายยูเนสโกไม่น่าพลาดที่จะถอดอยุธยาออกจากมรดกโลก รอบแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ไม่ภูมิใจในบ้านตัวเองเลยค่ะถ้าจะถอยหลังขนาดนี้ สภาพ

- คนออกแบบเส้นทางรถไฟขายของไม่ถูกจุดเลย การตัดที่ใหม่ขายสิทธิ์ทำกำไรให้รัฐในระยะสั้น มันไม่ยั่งยืนเท่ากับการตัดรถไฟเข้าไปในเมืองนะครับ สถานที่ท่องเที่ยวเขาจะได้เข้าถึงได้ง่าย การค้าในชุมชนเกิด เหมือนเขาขี้เกียจจัดการเอกสารเยอะหรืออย่างไร เลยเลือกที่ข้างนอกเอา

- มีแต่เขาจะทำเข้าเมือง เข้าจุด CBD เพื่อมาเอาคน แต่คุณหลบเลี่ยงเมืองไปซะลิบโลก เพื่อ แนวเดิมก็ไม่ได้เข้าเกาะเมืองโดยตรงอยู่แล้ว จะเอาอะไรอีก

- คำถามคือกรมศิลป์ หรืออุทยานประวัติศาสตร์อยุธยาจะช่วยออกตังค์ค่าเวนคืนไหม ถ้าไม่คิดจะช่วยออกตังค์ก็ช่วยอยู่เฉยๆ เถอะ ขนาดอุโมงค์ทางลอดสนามหลวงยังใช้เทคนิคแบบขุดเปิดหน้าดินประชิดกำแพงพระบรมมหาราชวังได้เลย กับแค่อีสถานีรถไฟความเร็วสูงวิ่งผ่านแบบไม่ได้เฉียดมรดกโลกเลย ทำเป็นจะตายให้ได้ อ่อหรือไปบอก วค.ให้ย้ายออกจากเกาะเมืองด้วยนะ มันบดบังทัศนียภาพมรดกโลก

- ผลเสียกับผลดี ต่างกันจนสร้างสถานีไม่ได้เหรอ คนสมัยนี้ชอบความสะดวกสบายแถมฉลาดใช้เงิน ถ้าลงใกล้ เขาคงแวะง่ายๆ แต่ถ้าลงไกล อาจจะเป็นแค่ทางผ่าน ใครจะจ่ายและเสียเวลามากขึ้น? เผลอๆ เงินที่ได้จากการท่องเที่ยวที่มากกว่าย้ายสถานี เอามาบูรณะสถานได้เยอะกว่าอีกมั้ง

- ถ้าทำจริงนี่หงุดหงิดมาก แช่งแ...งดีไหมนิ มีความสุขมากเหรอคนเขาจะสาปส่ง สงสัยต้องช่วยกันสืบว่าใครซื้อที่ดินรอบๆ แล้วมั้ง ถ้าทำจริง จะเสนอความลำบากให้ชาวบ้านเพื่ออะไร มันไม่ได้มีแต่คนอยุธยา แต่คนทั่วประเทศเขาก็อยากไป หงุดหงิด เสนอมาได้ โอ้ย ฟังความคิดเห็น เข้าใจไหมครับ

- อ้อมขนาดนี้ไม่ต้องมีก็ได้มั้งสถานีอยุธยาไกลจนไร้ประโยชน์ ลากสายสีแดงมาเลยเปลี่ยนขบวนสำหรับแยกความถี่รถตรงรังสิตเอา ญี่ปุ่นเขาก็ทำแบบนี้

- เลอะเทอะครับ เขามีแต่ให้ HPT เข้าส่วนสำคัญ ห้างร้าน สถานที่ท่องเที่ยว เพื่อความสะดวก ไอนี่ต้องหนี ตลกอะ เอาไดโนเสาร์ โนสน โนแคร์มาคิด

- คนที่ไม่เข้าใจว่าทำไมตั้งไกล ก็เพราะกรมศิลป์ไม่ยอมให้ตั้งในพื้นที่มรดกโลก แถมแก้แบบไปมาจนงบสร้างบานปลาย ต้องไปด่ากรมศิลป์นู้นนนน

- อันนี้เลี่ยงพื้นที่มรดกโลก หรือเลี่ยงคนไม่ให้ไปเที่ยวพื้นที่มรดกโลกอะ แล้วเดี๋ยวก็มีการทำรถรับส่งไปพื้นที่มรดกโลก จะได้ทำอีกโครงการงั้นสินะ

- เคยถามประชาชนในเมืองรึยังว่าจะให้ย้ายสถานีออก เคยเปิดรับความคิดเห็นรึเปล่า เงียบกริบ

- คนไม่กี่คน ถ่วงความเจริญ หัวมีแต่คัดค้าน หัดไปดูที่อื่นบ้าง เขาทำอย่างไร เซ็งกับพวกเต่าล้านปี

- สร้างมาแล้วเดินทางยากกว่าเดิม จะสร้างทำไม จะมีคนใช้บริการไหม

- ถามคนอยุธยาที่ใช้บริการรถไฟแล้วยังครับ…เอาสถานีไปไว้ไกลขนาดนั้นน่ะ

- ไม่ต้องมีหรอกสถานีอยุธยา มีภาชีไปเลย แล้วลากสายสีแดงมาภาชีเอา

- อ้อมเพื่ออะไรครับ มันจะบดบังอะไรครับ เอาสติมาคิดสิครับ

- สงสารคนอยุธยาเลยอะ เสียรายได้การท่องเที่ยวมหาศาลแน่เลยอะ อุตส่าห์คนจะได้ไปเที่ยวมรดกโลกง่ายๆ น่าเสียดาย

- จะส่งเสริมการท่องเที่ยวหรือส่งเสริมอะไรครับ

- ล่าสุดปล่อยให้หญ้าขึ้นรกทึบแล้วจ้า โควิดไม่เปิด ไม่มีคนเข้าชม สบาย ชิลๆ ผักชีโรยหน้า

- ข้าราชการไทยขาดวิสัยทัศน์ แค่รอวันจากไปอย่างเดียว

- ถ้าใช้แนวทางนี้มีสิทธิ์ที่เอกชนผู้รับเหมาก่อสร้างฟ้องแน่

- สถานีอยุธยาที่แทบไม่ติดเมืองอยุธยา

- ยกเลิกไปเลยดีกว่า ถ้าจะเบี่ยงขนาดนี้

- จะเลี่ยงทำไม ถ่วงความเจริญ แทนที่จะลงแล้วไปเที่ยวได้ใกล้ๆ แบบนี้ใครจะอยากมา ไกลซะขนาดนี้ ดักดาน

- คนอยุธยาและคนที่ด่า ผมอยากจะแนะนำให้ไปกรมศิลป์ครับ รถไฟความเร็วสูงติดชะงักที่อยุธยานานเกินไปเพราะกรมศิลป์คัดค้าน สถานีรถไฟอยู่ใกล้ไปเมืองเก่า นักท่องเที่ยวก็จะเยอะขึ้น แต่กรมศิลป์เขาไม่คิดแบบนั้น

- อ้อมไปหาพระแสงอะไรครับ ใครจะไปเที่ยว ปัญญาอ่อน

- งงเนอะ ทำไมของใหม่กับของเก่าอยู่ร่วมกันไม่ได้ แทนที่สถานีต่อไป วัดไชยวัฒนาราม อะไรแบบนี้ มันลบหลู่มากเลยเหรอ งง

- ถ้าต้องย้ายเส้นทาง ใช้เขตทางตามแนวทางหลวง 32 ไม่ได้เหรอครับ เหมือนกรณีสถานีความเร็วสูงเพชรบุรี

- ทำระบบคมนาคม แต่ทำเลี่ยงเมืองอ้อมไปแบบนี้ ทำให้ใครใช้เหรอครับ?

- เลิกเลี่ยงครับ การสัญจรควรจะสะดวก จะเก็บไว้ขึ้นหิ้งทำไม

- บ้าไปแล้ว มาจากโลกไหน ไม่เคยเห็นของต่างประเทศใช่ไหม ออกจากความคิดเดิมๆ เถอะครับ

- เกียวโตอายุ 2 พันปี เก่ากว่าอยุธยา 5 เท่า ยังวิ่งผ่ากลางเมือง เอาอะไรมาเลี่ยง บ้าบอมาก

- เพื่อ? ต่างอะไรกับนั่งรถทัวร์เข้าอยุธยา

- ความคิดย่องแย่งสิ้นดี ทีตึกโรงงานอยู่ใกล้ไม่เห็นเป็นไร พอจะเป็นรถไฟแหมดิ้นบอกใกล้โบราณสถาน

- มรดกโลกมันอุปสรรคต่อคนไทยก็อย่ามีมันเลย

- ถ้าอยู่ไกลขนาดนั้น แล้วประชาชนต้องเสียเงินนั่งรถเข้าเมือง ก็ออกจากมรดกโลกไปเถอะ มรดกโลกกินไม่ได้ แต่เงินที่จ่ายค่ารถเข้าเมืองใช้กินข้าวได้

- กะโหลกกะลา ดักดานถ่วงความเจริญจริงๆ


X


- น่ามีรถไฟฟ้า​ผ่าน​ มีวิวให้ชม​โบราณสถานจัง​ ผมว่าอยุธยาก้าวหน้ามาก

- กลัวเอาโดรนขึ้นถ่ายแล้วไม่สวยหรอ

- เอาจริงนะ แนวเดิมมันผ่ากลางเมืองเหรอ มันวิ่งในเกาะเมืองเหรอ ก็เปล่า บอกตรงสิบล้อบรรทุกเกินวิ่ง หรือแนวรถไฟของเดิมไม่มีผลกระทบเหรอ ควรจะทำให้ประวัติศาสตร์ร่วมสมัยกับปัจจุบัน ไม่ใช่ถีบความเจริญออกโบราณสถาน มันต้องอยู่ด้วยกันให้ได้ ยุคสมัยกาลเวลามันเปลี่ยนไป วิศวกรรมต่างๆ ก็พัฒนาตาม ผมยกตัวอย่างเช่น สถานีรถไฟ กับหอเอนเมืองปิซาที่อิตาลีซึ่งห่างกันแค่ 1.5 กิโลเมตร ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้

- เขามีรถไฟฟ้าเร็วสูงหมดแล้ว ยังจะมานั่งเศษเหล็กที่มีคนบ้า คนติดยา คนไร้บ้าน นั่งร่วมอยู่ได้

- สนับสนุนให้เปลี่ยนเส้นทาง แล้วส่งเสริมการเดินทางด้วยช้าง เกวียน และเรือไปเลยจ้า เริ่มจากรถเจ้าหน้าที่ให้ขี่ม้ามาทำงานครับ

- ไม่ทราบว่าพื้นที่ตรงนั้นขุดค้นทางโบราณคดีเสร็จรึยัง แล้วถ้าไปสร้างอะไรต่อมิอะไรตรงนั้นมันต้องขุดโบราณสถานบางส่วนยันใต้ชั้นดินออกรึเปล่า กระทบโบราณสถานศิลาแลงที่ประเมินค่ามิได้ขนาดไหน ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกเลยนะ ตัดทางเข้าไปจะโดนถอนชื่อรึเปล่า มีใครตอบได้บ้าง

- ไม่น่าทำเลี่ยงเลยครับ​ น่าจะทำข้ามไปเลยดีกว่า​ เรื่องมากกันนักพวกถ่วงความเจริญ​

- ทำทางเลี่ยงแหล่งท่องเที่ยว เจริญพวง

- เลยคานหามไปอีกจ้า ต่อรถอีกกี่กิโลฯ ไปดูโบราณสถานจ๊ะ

- ไม่ต้องจอดอยุธยา จบไป

- เลี่ยงไปเลยครับ ทำสถานีให้นิคมโรจนะแค่นั้นพอ เลี่ยงตัวเมืองอยุธยาไปเลยครับ กลัวนั่นกลัวนี่ก็ให้นั่งรถหวานเย็นกันต่อไป เรื่องมากกันนัก

- ได้ราคาที่เส้นรถไฟสายใหม่วิ่งละโว้ย

- มาดูแลการปล่อยเช่าพื้นที่รอบโบราณสถานให้เอกชนประกอบกิจการเพื่อเอากำไรก่อน ที่ของราชพัสดุ แต่กรมศิลป์เก็บเงิน ส่วนเงินที่ได้จากยูเนสโกจะโดนเขาถอนอยู่แล้ว ถ้าไม่ดูแลให้ดีกว่านี้

- อย่าใช้คำว่าอนุรักษ์มาขวางความเจริญได้ปะ

- งั้นออกจากมรดกโลกซะเถอะ ไม่มีประโยชน์เลย ไม่ได้ช่วยพัฒนา ไม่ได้ช่วยเศรษฐกิจอะไรเลย โบราณสถานอนุรักษ์เองก็ได้ กรมศิลปากรก็มี

- ไม่ต้องมีสถานีอยุธยาดีไหมครับ จะได้อยู่กับของเก่าๆ โดยที่ไม่มีการท่องเที่ยวใดๆ

- อนุรักษ์ไว้ค่ะดีแล้ว ให้มันตายไปกับกาลเวลา บาย

[Mongwin]

CPHตั้งชื่อใหม่'เอเชีย เอรา วัน'ลุยรถไฟความเร็วสูงสามสนามบิน
แนวหน้า ฉบับวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2564

เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2564 บริษัท รถไฟความเร็วสูง สายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด ประกาศ เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น "บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด" (Asia Era One Co., Ltd) แล้ว เตรียมความพร้อมเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา

นายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด เปิดเผยว่า การเปลี่ยนชื่อองค์กรในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความพร้อมเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินอย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ ซึ่งจะเป็นการพัฒนายกระดับการคมนาคมในประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการเดินทางในภูมิภาคเอเชียและของโลกด้วยมาตรฐานการเดินรถและให้บริการในระดับสากล

"ชื่อบริษัท เอเชีย เอรา วัน มาจาก คอนเซ็ปต์ในภาษาอังกฤษ Asia Era One ซึ่งมีความหมายสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทในการเป็นศูนย์กลางของเอเชีย ที่เชื่อมผู้คน สังคม และประเทศเป็นหนึ่งเดียวเพื่อประเทศไทย สู่ยุคใหม่แห่งอนาคตของความเจริญรุ่งเรือง ในขณะเดียวกัน ชื่อในภาษาไทย เอเชีย เอรา วัน ยังสื่อ ความหมายพ้องเสียงกับช้างเอราวัณ พาหนะเทพบุตรของพระอินทร์ ที่มีพละกำลัง และเป็นสัญลักษณ์ของการกระทำดี และสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์อีกด้วย" นายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ กล่าวเสริม

สำหรับบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด เป็นบริษัทเอกชนผู้ร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) รายแรก ที่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลไทย ให้พัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง ในรูปแบบสัญญาการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership : PPP) โดยมีระยะเวลาสัญญา 50 ปี มีมูลค่ากว่า 224,544 ล้านบาท

มีรายงานแจ้งว่า สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดำเนินการโดยกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่ม CPH) ในชื่อบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ตามแผนจะเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงช่วงพญาไท สุวรรณภูมิ ถึงอู่ตะเภา ในปี 2568

ในวันเดียวกัน นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เป็นประธาน การประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ครั้งที่ 5/2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อได้รับทราบ และพิจารณาความก้าวหน้าการดำเนินงานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อีอีซี เดินหน้า ลงทุนเป็นรูปธรรม นับตั้งแต่เกิด พ.ร.บ. อีอีซี ปี 2561-มิ.ย. 2564 เกิดการลงทุนรวมที่ได้รับ อนุมัติแล้ว 1.6 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 94 จากเป้าหมายแผน 5 ปี (2561-65) ของอีอีซี 1.7 ล้านล้านบาท เร็วกว่าเป้าที่กำหนดไว้ โดยใน ส่วนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเอกชนร่วมลงทุน (PPP) 4 โครงการหลัก (รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน/ สนามบินฯ/ 2 ท่าเรืออุตสาหกรรม) มูลค่ารวม 633,401 ล้านบาท แบ่งเป็น ทุนจากภาคเอกชน 387,018 ล้านบาท (ร้อยละ 61) จากภาครัฐ 196,940 ล้านบาท (ร้อยละ 39)

[Wisarut]