View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
Posted: 19/12/2019 11:56 pm Post subject:
เมืองพัทยาดันงบ 74 ล้านบาท ศึกษา-รับฟังความคิดเห็นโครงการรถไฟฟ้า
ข่าวบริหารท้องถิ่น
อธิปบูรพา
16 ธันวาคม 2019
ที่ห้องประชุมแกรนด์คาริเบียน ชั้น 8 โรงแรมไบรท์ตัน แกรนด์ พัทยา (16 ธ.ค.62) นายสุธรรม เพ็ชรเกตุ รองปลัดเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 ของโครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้า อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน องค์กรอิสระ และผู้สนใจเข้าร่วมประชุมกว่า 200 คน
ในการประชุมครั้งนี้ เป็นการนำเสนอข้อมูลโครงการ แผนการดำเนินงาน แนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับทราบและร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ตลอดจนร่วมหารือถึงความเหมาะสมและเพียงพอของมาตรการต่างๆ เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแนวทางการพัฒนาโครงการต่อไป
การศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้า อำเภอบางละมุง นั้น เป็นการดำเนินการเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจนำเสนอโครงการ เพื่อจัดหางบประมาณการก่อสร้างหรือในการร่วมลงทุนกับเอกชน ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และกระบวนการในการร่วมลงทุนกับภาคเอกชนหรือเอกชนผู้ลงทุน พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ และโครงข่ายในเขตพื้นที่เมืองพัทยา และเชื่อมต่อกับพื้นที่โดยรอบ เพื่อพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ให้เกิดการเชื่อมต่อในพื้นที่ที่มีศักยภาพทางด้านการคมนาคม เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
ในการดำเนินการครั้งนี้ จะเป็นการศึกษาความเหมาะสมและการออกแบบรายละเอียดของโครงการนำร่องของระบบขนส่งสาธารณะ ในรูปภาพรถไฟฟ้ารางเบา หรือระบบขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่นที่มีประสิทธิภาพในเส้นทางที่มีลำดับความสำคัญูสูงสุด โดยในการศึกษานั้นจะมีการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงการดำเนินการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งขอบเขตพื้นที่ศึกษาโครงการจะครอบคลุมพื้นที่เขตเมืองพัทยา และพื้นที่ต่อเนื่อง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของอำเภอบางละมุง และพื้นที่บางส่วนของอำเภอสัตหีบ ซึ่งรัฐบาลอนุมัติงบประมาณ 74 ล้านบาท สำหรับโครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้า.
เพจโครงการรถไฟฟ้าเมืองพัทยา ดูได้ที่นี่ครับ
http://pattayalrt.com/index.html
https://www.youtube.com/watch?v=GaAqWUsEhSs
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
Posted: 21/05/2020 11:58 pm Post subject:
งานประชาสัมพันธ์โครงการขนส่งมวลชนเมืองพัทยา ครั้งที่ 2 วันที่ 22-24 พฤษภาคม 2563 จำนวน 6 รอบ
วันนี้เอาข่าวระบบขนส่งมวลชนเมืองพัทยามาฝากครับ ซึ่งหลังจากปลดล็อก สถานการณ์ #COVID19 ต่างๆแล้ว
ทางเมืองพัทยา และที่ปรึกษาได้ กลับมาจัดงานประชาสัมพันธ์โครงการอีกครั้ง วันพรุ่งนี้ 22-24 พฤษภาคม 2563 ซึ่งปรกติจะจัดวันเดียว แต่ได้กระจายเป็น 3 วัน 6 รอบ เพื่อทำตามมาตรการ Social Distancing ของรัฐบาล
ซึ่งพรุ่งนี้น่าจะสรุปเส้นทาง และรูปแบบ ของระบบขนส่งมวลชน ในเมืองพัทยาเรียบร้อย
ลิ้งค์เว็บไซด์โครงการ
http://pattayalrt.com/index.html
ปล.ใครจะเข้าประชุม รบกวนลงทะเบียนก่อนเข้านะครับ ที่ 038-253188
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/934608236977656
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
Posted: 22/05/2020 8:47 pm Post subject:
การประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ ๒ โครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้า อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
PRPATTAYA
22 พฤษภาคม 2563
วันนี้ (๒๒ พ.ค. ๖๓) เวลา ๐๙.๐๐ น. นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานในการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ ๒ โครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้า อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีนายบรรลือ กุลละวณิชย์ รองนายกเมืองพัทยา หน่วยงานราชการ ผู้นำชุมชนและสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็น ซึ่งมีนายพงศ์ทวี เลิศปัญญาวิทย์ ผู้จัดการโครงการฯกล่าวรายงานวัตถุประสงค์ สำหรับการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ ๒ โครงการดังกล่าวฯจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๒ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๘.๓๐ ๑๗.๐๐ น. บริเวณลานพื้นที่เปิดโล่ง อาคาร ๑ ชั้น ๔ ศาลาว่าการเมืองพัทยา โดยจัดประชุมรับฟังความเห็นวันละ ๒ รอบ รอบเช้า รอบบ่าย รอบละ ๔๐ คน รวมทั้งสิ้น ๒๔๐ คน เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม และป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙
เนื่องจากเมืองพัทยาเป็นเมืองที่มีศักยภาพในการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ซึ่งในปัจจุบันกำลังประสบกับปัญหาการจราจรและขนส่งเป็นอันมาก โดยเฉพาะบริเวณกลางเมืองซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจที่สำคัญ อันเนื่องมาจากการเจริญเติบโตของเมือง พบว่าสาเหตุหลักของปัญหาการจราจรและขนส่งในเมืองพัทยา คือ ระบบขนส่งสาธารณะยังไม่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลพอเพียง ส่งผลให้มีปริมาณการเดินทางด้วยยานพาหนะส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาจราจรและการขนส่ง ส่งผลให้เกิดปัญหามลพิษทั้งทางอากาศและทางเสียง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อรองรับการเดินทางในเมืองพัทยาให้ครอบคลุมทั้งที่พักอาศัยและแหล่งกิจกรรมต่างๆในพื้นที่ ก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์โควิด-๑๙ พบว่าเมืองพัทยามีจำนวนประชากรและนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มว่าจะเติบโตมากยิ่งขึ้นหากสถานการณ์คลี่คลายลง ดังนั้นจะต้องดำเนินการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพสูง เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเมืองและเป็นการป้องกันปัญหาการจราจร การขนส่งในตัวเมืองพัทยาได้ในอนาคต ภายใต้กรอบนโยบายของการพัฒนาการขนส่งระบบราง เพื่อกระจายความเจริญไปสู่ส่วนภูมิภาค ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพัฒนาอุตสาหกรรมและการลดความต้องการการใช้ยานพาหนะส่วนบุคคล โดยในการดำเนินการดังกล่าวต้องสอดคล้องกับโครงการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ให้เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต ดังนั้นเมืองพัทยาจึงได้ดำเนินการว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งประกอบด้วย บริษัท อินทิเกรเทด เอนจิเนียริ่ง คอนซัลแทนท์ จำกัด บริษัท ซี คอนซัลท์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท แพลนโปร จำกัด ให้เป็นผู้ดำเนินงานโครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้า อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี นั้น เพื่อจัดทำแผนการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะและโครงข่ายในเขตพื้นที่เมืองพัทยา และเชื่อมต่อกับพื้นที่โดยรอบ เพื่อพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการเชื่อมต่อในพื้นที่ที่มีศักยภาพทางด้านการคมนาคมขนส่ง เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รวมทั้งศึกษาความเหมาะสมและการออกแบบรายละเอียดของโครงการนำร่องของระบบขนส่งสาธารณะในรูปแบบรถไฟฟ้ารางเบา หรือระบบขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่นที่มีประสิทธิภาพในเส้นทางที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด นอกจากนี้จะมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ เพื่อให้การพัฒนาโครงการมีผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด รวมทั้งจะต้องดำเนินการมีส่วนร่วมของประชาชนตลอดระยะเวลาการศึกษาโครงการ
สำหรับขอบเขตของการดำเนินงาน โครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้า อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ได้จัดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็น ตลอดระยะเวลาดำเนินการโครงการ รวมทั้งสิ้น ๔ ครั้ง โดยครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๒ สำหรับในครั้งนี้เป็นการประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ ๒ เพื่อนำเสนอผลการคัดเลือกรูปแบบและโครงสร้างของระบบขนส่งสาธารณะที่เหมาะสมกับเมืองพัทยา แนวเส้นทางโครงการนำร่องผลการคัดเลือกตำแหน่งที่ตั้งศูนย์ซ่อมบำรุง ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และผลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ ๑ ให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ ทั้งที่เป็นหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน และประชาชนที่ได้รับผลกระทบและได้รับประโยชน์ พร้อมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อให้ได้รูปแบบที่เหมาะสม ตรงกับความต้องการของท้องถิ่นให้มากที่สุด พร้อมกันนี้จะได้นำเสนอถึงผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมที่จะเกิดจากการดำเนินโครงการ เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ให้ข้อคิดเห็นถึงประเด็นที่ยังเป็นห่วงหรือวิตกกังวล เพื่อที่จะได้นำไปประกอบการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมในรายละเอียดต่อไป
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ ๒ ตามโครงการดังกล่าว สามารถแจ้งความประสงค์ล่วงหน้าได้ที่สำนักการช่าง ส่วนจราจรและขนส่ง หมายเลขโทรศัพท์ ๐๓๘ ๒๕๓๑๐๐ ต่อ ๓๑๘๘ในวันและเวลาราชการ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
Posted: 22/05/2020 11:17 pm Post subject:
'พัทยา' เร่งแผนโมโนเรล เปิดรับฟังความคิดเห็น เส้นทาง 22 พ.ค.นี้
21 พฤษภาคม 2563
เมืองพัทยา เดินหน้ารับฟังความเห็น โมโนเรล ครั้งที่ 2 วันที่ 22-24 พ.ค.นี้ เปิดฟังความเห็นแนวเส้นทางโครงการฯ
รายงานข่าวจากเมืองพัทยา ระบุว่า เมืองพัทยา เตรียมจัดเวทีรับฟังความเห็นประชาชน ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวตล้อม
การพัฒนาระบบนส่งสาธารณะมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้รางเบา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในวันที่ 22-24 พ.ค.นี้ หลังจากที่เมืองพัทยาประกาศเลื่อนมาจากเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากมีการระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทย
ทั้งนี้ เมืองพัทยาต้องการการมีส่วนร่วมของประชาชน จึงกำหนดให้มีการประชุม ครั้งที่ 2 เพื่อนำเสนอผลการคัดเลือกเส้นทางขอโครงการนำร่องรูปแบบแนวคิดเบื้องต้นของเส้นทางโครงการ โดยจะมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนเข้าร่วม
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2562 เมืองพัทยาได้จัดรับฟังความเห็นครั้งที่ 1 ไปแล้ว ซึ่งเป็นการชี้แจงรายละเอียดโครงการ ขั้นตอนและแนวทางให้ประชาชนรับทราบ รวมทั้งขอความร่วมมือหน่วยงาน องค์กรและชุมชนที่เกี่ยวข้องในการศึกษาความเป็นไปได้โครงการ เพื่อพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพให้เกิดการเชื่อมต่อด้านคมนาคม เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
Posted: 24/05/2020 5:08 pm Post subject:
ใกล้เป็นจริง! โครงการรถไฟฟ้าเมืองพัทยา เคาะรูปแบบโมโนเรลชี้เหมาะสม-ประหยัดงบแผ่นดิน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 23 พฤษภาคม 2563 เวลา 13:25
ปรับปรุง: 23 พฤษภาคม 2563 เวลา 13:53
ศูนย์ข่าวศรีราชา - ใกล้เป็นจริง! เมืองพัทยา เคาะรูปแบบรถไฟฟ้าสำหรับพัฒนาระบบขนส่งและการเดินทางในพื้นที่เชื่อมโยงโครงการ EEC พบระบบรถรางเบา หรือโมโนเรล รวมระยะทาง 9 กม. เหมาะสมที่สุดทั้งประหยัดงบ ใช้ได้กับพื้นผิวถนนเดิม
วันนี้ (23 พ.ค.) นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 2 เรื่องโครงการศึกษาความเหมาะสมออกแบบและศึกษาผลกระ ทบสิ่งแวดล้อม การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้า ซึ่งจัดขึ้นที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยมี นายพงศ์ทวี เลิศปัญญาวิทย์ ผู้จัดโครงการฯ ร่วมชี้แจง และมีหน่วยงานราชการ รวมทั้งประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม
ทั้งนี้ เนื่องจากเมืองพัทยา ถือเป็นเมืองหนึ่งที่มีศักยภาพในการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันกลับประสบปัญหาด้านการจราจรและการขนส่ง โดยเฉพาะบริเวณกลางเมืองซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งมีปัจจัยมาจากการเจริญเติบโตของเมือง และยังพบว่าสาเหตุหลักของปัญหาการจราจรและขนส่งในเมืองพัทยาคือ ระบบขนส่งสาธารณะที่ยังไม่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพียงพอ
ส่งผลให้มีปริมาณการเดินทางด้วยยานพาหนะส่วนตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้น สร้างทั้งปัญหาด้านการจราจรและการขนส่ง รวมทั้งมลพิษทางอากาศและทางเสียง
นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา เผยว่า วันนี้เมืองพัทยา มีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเพื่อรองรับการเดินทางในเมืองให้ครอบคลุมทั้งที่พักอาศัยและแหล่งกิจกรรมต่างๆ ซึ่งก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 เมืองพัทยา มีประชากรและจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง ความต้องการด้านการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพสูงจะมีมากขึ้น
การพัฒนาเมืองพัทยาในอนาคต ภายใต้กรอบการพัฒนาการขนส่งระบบรางเพื่อกระจายความเจริญสู่ส่วนภูมิภาคซึ่งจะส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวและการพัฒนาอุตสาหกรรม จะต้องมีการลดความต้องการใช้ยาพาหนะส่วนบุคคล สู่การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในรูปแบบรถไฟฟ้า ซึ่งเมืองพัทยา ได้ใช้งบประมาณในการศึกษาเพื่อจัดทำแผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะและโครงข่ายในเขตเมืองพัทยาและเชื่อมต่อพื้นที่โดยรอบให้มีศักยภาพมากถึง 70 ล้านบาท
เพื่อให้สอดคล้องต่อโครงการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันนออก (EEC) ที่จะต้องส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย และการท่องเที่ยวให้เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
โดย เมืองพัทยา ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านการคมนาคมขนส่งเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในรูปแบบรถไฟฟ้า เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนนำเสนอโครงการเพื่อจัดหางบประมาณก่อสร้าง หรืออาจออกมาในรูปแบบของการร่วมลงทุนกับเอกชน ตามประกาศของคณะกรรมการ EEC
นายพงศ์ทวี เลิศปัญญาวิทย์ ผู้จัดโครงการศึกษาฯ กล่าวว่า จากนโยบายการผลักดันให้เมืองพัทยา เป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก จึงต้องมีการวางแผนขับเคลื่อนการพัฒนาให้สอดคล้องต่อแผนของนโยบายหลักของ EEC โดยเฉพาะระบบโครงข่ายด้านขนส่งสาธารณะในเมืองที่เชื่อมต่อกับระบบหลัก จึงได้ศึกษาเกี่ยวกับการจัดทำระบบขนส่งสาธารณะแบบรถไฟฟ้าในเมืองพัทยาขึ้น
และได้กำหนดรูปแบบรถไฟฟ้าไว้ 3 ประเภท คือ การจัดทำโครงการในรูปแบบบนพื้นถนนหรือ Tram แบบยกระดับหรือ BTS หรือ Monorail และแบบใต้ดินหรืออุโมงค์ ซึ่งจะต้องมีวิเคราะห์ปัจจัยหลักทางด้านกายภาพ สภาพถนนเดิม เส้นทาง และการเวนคืนที่ดิน รวมทั้งผลกระทบสิ่งแวดล้อมและงบประมาณการลงทุน
โดยจากผลการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นในครั้งที่ 1 พบว่า โครงสร้างทางวิ่งระดับดินหรือ Tram เป็นรูปแบบทางวิ่งที่ก่อสร้างระดับเดียวกับถนนเดิมมีผลกระทบต่อการใช้พื้นที่ผิวการจราจร เนื่องจากถนนมีความกว้างน้อยและจุดตัดมากจะส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจร
ขณะที่โครงสร้างทางวิ่งใต้ดิน เป็นรูปแบบทางวิ่งใต้ระดับถนนเดิมจะมีค่าก่อสร้างสูงมากและรูปแบบนี้เหมาะสำหรับถนนที่มีความกว้างเขตทางเดิมมากเช่นกัน
ส่วนระบบยกระดับซึ่งได้เลือกระบบ Monorial เป็นโครงสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่สูงกว่าระดับถนนเดิมแล้วแต่การกำหนด การก่อสร้างที่มีผลกระทบน้อย เพราะจะมีเพียงพื้นที่ก่อสร้างตอม่อ หรือ Pier ที่กว้างเพียง 1.8 เมตร และมีการนำมาประกอบเพื่อลดผลกระทบระหว่างการก่อสร้าง ขณะที่งบการลงทุนก็น้อยกว่าระบบอื่น ที่สำคัญเหมาะกับพื้นที่ผิวถนนเดิมของเมืองพัทยาที่มีความกว้างเขตทางไม่มากนัก
ขณะที่เส้นทางการเดินรถกำหนดไว้ 3 เส้นทางหลักคือ
1.สายสีแดง ระยะ 8.20 กม.วิ่งจากสถานีรถไฟพัทยา-มอเตอร์เวย์-ถนนพัทยาเหนือ-ถนนสายชายหาด-ท่าเรือบาลีฮาย
2.สายสีเขียว ระยะ 9 กม.วิ่งจากสถานีรถไฟพัทยา-มอร์เตอร์เวย์-ถนนพัทยาเหนือ-ถนนพัทยาสายสอง-แยกทัพพระยา-แหลมบาลีฮาย
และ
3.สายสีม่วง วิ่งจากสถานีรถไฟพัทยา-มอร์เตอร์เวย์-ถนนพัทยาเหนือ-ถนนพัทยาสาย 3-ถนนทัพพระยา-แหลมบาลีฮาย
และจากผลการศึกษาทางกายภาพและการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พบว่า สายสีเขียว เป็นเส้นทางที่มีความเหมาะสมมากที่สุด เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักที่ประชาชนใช้ในการสัญจร และไม่จำเป็นต้องมีการเวนคืนที่ดินมากนัก
ส่วนบริเวณถนนพัทยาสายสอง ไม่มีอาคารที่มีความสูงเกิน 4 ชั้นมาก ทำให้การยกระดับไม่จำเป็นต้องใช้ระดับความสูงซึ่งอาจส่งผลต่องบประมาณในการลงทุนทั้งสถานีจอดและทัศนียภาพ อย่างไรก็ตาม สำหรับเส้นทางนี้อาจต้องมีการเวนคืนที่ดินบ้าง เช่น ริมถนนมอร์เตอร์เวย์ด้านทิศใต้เลียบรั้วตลอดแนวเพื่อไม่ให้ไปรบกวนเส้นทางหลัก
จุดที่ 2 คือบริเวณหน้าห้าง Terminal 21 และ
3.บริเวณแยกทัพพระยา โดยตลอดเส้นทางจะมีจุดจอดรวม 13 จุด
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการศึกษายังคงดำเนินการต่อไป รวมทั้งการรับฟังความเห็นจากประชาชน ก่อนจะสรุปเสนอต่อเมืองพัทยาต่อไป
ด้านรูปแบบการลงทุนอาจะเป็นแบบ PPP หรือร่วมกับเอกชน ซึ่งจะมีการประเมินตามผลการศึกษาว่าจะดำเนินการในรูปแบบใดต่อไป
แนวเส้นทางรถไฟฟ้ารางเบาเมืองพัทยา เชื่อมสถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยาที่อยู่ที่เดียวกันกับสถานีพัทยา 🚊🚅 กับท่าเรือแหลมบาลีไฮ สำหรับสายเขียว ที่ตอนนี้ส่อว่าจะเป็นโมโนเรลเสียแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้
สายเขียว สถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยาที่อยู่ที่เดียวกันกับสถานีพัทยา - ถนนพัทยาเหนือ - วงเวียนปลาโลมา - ถนนพัทยาสายสอง - แยกทัพพระยา - ท่าเรือแหลมบาลีไฮ ยาว 8.15 กิโลเมตร
มีสายแดง จาก สนามกีฬาแห่งชาติพัทยาแถวอ่างเก็บน้ำห้วยซากนอก - ถนนสาย ง. 4 - ถนนจอมเทียนสาย 2 หาดนาจอมเทียน ถนนทัพพระยา แยกทัพพระยา ถนนพัทยาสายสอง วงเวียนปลาโลมา ยาว 14.5 กิโลเมตร
โดยใช้ทางร่วมกันกับสายเขียวช่วง แยกทัพพระยา ไป วงเวียนปลาโลมา และ
สายม่วงจากหนองปรือ ตรงถนนสาย ง. 1 ถนนสาย ก. 1 ผ่านแยกพัทยาใต้ ถนนพัทยาสายสาม ไป แยกทัพพระยา ยาว 7.6 กิโลเมตร
นองกจากนี้ยังมีความคิดจะเอารถไฟไฟรางเบาเดินบนทางรถไฟที่มีอยู่เพื่อเดินรถชานเมืองอีกด้วย
**ภาพประกอบข่าว
https://www.facebook.com/Thfutu/posts/270918034274543
เอารายละเอียดเบื้องต้นของ รถไฟฟ้าเมืองพัทยามาให้ชมครับ
ตอนนี้กำลังฟังที่ปรึกษาชี้แจงอยู่ ใครมีข้อสงสัยตรงไหน ถามมาได้ครับ เดี๋ยวจะสอบถามที่ปรึกษาให้ครับ
ส่วนระบบยกระดับซึ่งได้เลือกระบบ Monorial เป็นโครงสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่สูงกว่าระดับถนนเดิมแล้วแต่การกำหนด การก่อสร้างที่มีผลกระทบน้อย เพราะจะมีเพียงพื้นที่ก่อสร้างตอม่อ หรือ Pier ที่กว้างเพียง 1.8 เมตร และมีการนำมาประกอบเพื่อลดผลกระทบระหว่างการก่อสร้าง ขณะที่งบการลงทุนก็น้อยกว่าระบบอื่น ที่สำคัญเหมาะกับพื้นที่ผิวถนนเดิมของเมืองพัทยาที่มีความกว้างเขตทางไม่มากนัก
ขณะที่เส้นทางการเดินรถกำหนดไว้ 3 เส้นทางหลักคือ
1.สายสีแดง ระยะ 8.20 กม.วิ่งจากสถานีรถไฟพัทยา-มอเตอร์เวย์-ถนนพัทยาเหนือ-ถนนสายชายหาด (ถนนพัทยาสายหนึ่ง) -ท่าเรือบาลีฮาย
2.สายสีเขียว ระยะ 9 กม.วิ่งจากสถานีรถไฟพัทยา-มอร์เตอร์เวย์-ถนนพัทยาเหนือ-ถนนพัทยาสายสอง-แยกทัพพระยา-แหลมบาลีฮาย
และ
3.สายสีม่วง วิ่งจากสถานีรถไฟพัทยา-มอร์เตอร์เวย์-ถนนพัทยาเหนือ-ถนนพัทยาสาย 3-ถนนทัพพระยา-แหลมบาลีฮาย
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/936750813430065
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44615
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 05/06/2020 8:39 am Post subject:
'คมนาคม'เร่งดันโปรเจคอีอีซี หนุน'รถไฟรางเบา'เมืองพัทยา
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563
กรุงเทพธุรกิจ "คมนาคม" ดันการพัฒนา ระบบรถไฟรางเบาเมืองพัทยา เชื่อม 3 สนามบิน สั่งทบทวนโครงสร้างพื้นฐาน เฟส 2 ต้องสอดรับอีอีซีอย่างแท้จริง
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะทำงานจัดทำแผนโครงการพื้นฐานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ระยะที่ 2 ได้สั่งให้แต่ละหน่วยงานกลับไป ทบทวนความจำเป็น ของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในระยะที่ 2 ให้ตอบโจทย์ การใช้งานในอีอีซีอย่างแท้จริง และ ไม่ให้สิ้นเปลืองงบประมาณ พร้อมสำรวจ ความเห็นของภาคเอกชน และนำกลับมาเสนอใหม่ในเดือน ก.ค.นี้ ก่อนเสนอให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ต่อไป
ทั้งนี่โครงการที่เหมาะสมในการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอีอีซีระยะที่ 2 เช่น การพัฒนาระบบรถไฟรางเบา (แทรม) เมืองพัทยา ที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ศึกษาเพื่อ เชื่อมต่อระบบการขนส่งทางรางจาก ไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน(ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) มายังแหล่งท่องเที่ยวเมืองพัทยา ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)จะศึกษาความเหมาะสม ในการก่อสร้างรถไฟทางคู่เข้าสู่ นิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในอีอีซี เพื่อส่งสินค้าจากนิคมอุตสาหกรรมเชื่อมท่าเรือแหลมฉบัง ด้วย
ส่วนโครงการที่มีแนวโน้มถูกตัดออกเช่น โครงการสร้างทางยกระดับ ของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เนื่องจากปัจจุบัน มีการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองอยู่แล้ว รวมไปถึง โครงการขุดลอกแม่น้ำบางปะกง-เกาะสีชัง ของกรมเจ้าท่า (จท.) ที่มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการขนส่งสินค้า แต่ไม่สนับสนุนพื้นที่อีอีซี และท่าเรือแหลมฉบังอย่างชัดเจน จึงยกออกไปพัฒนาภายใต้แผนบูรณาการ โลจิสติกส์ของประเทศ
สำหรับแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ (ระบบราง น้ำ เรือ อากาศ)ใน อีอีซี รวม 106 โครงการ วงเงินกว่า 2.52 แสนล้านบาท กำหนดจะพัฒนาในระยะที่ 2 ช่วงปี 2565-2570 และยังมีโครงการที่ถูกยกยอดมาจากอีอีซีระยะ 1 ที่จะหมดกรอบระยะเวลาพัฒนา ในปี 2564 มาจัดสรรงบประมาณในระยะที่ 2 มาพัฒนาต่อเนื่องด้วย
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
Posted: 10/06/2020 2:04 pm Post subject:
ปรับแผนอีอีซีเฟส 2 ลาก "แทรม" พัทยา เชื่อม "ไฮสปีด-อู่ตะเภา"
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project /
10 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 06:35 น.อ่าน 916 ครั้ง
ตีพิมพ์ใน หน้า 7
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,581 วันที่ 7-10 มิถุนายน พ.ศ. 2563
รัฐบาลเดินหน้าแผนลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซีระยะแรก มาแล้วถึง 5 ปี (ปี 2560-2564) จนถึงขณะนี้ โครงการขนาดใหญ่หัวใจหลักในเฟสแรก ยังไม่ลงมือก่อสร้างไม่ว่าจะเป็น รถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา )สนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบิน ศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภา ท่าเรือแหลมฉบังเฟส3 ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เฟส3 ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับแผนใหม่ โดยโยกโครงการดังกล่าวไปยังแผนพัฒนา อีอีซีระยะ2 ระหว่าง ปี2565-2570 เฟสเดียวกับ ฟีดเดอร์ รถไฟรางเบา(แทรม) พัทยา โครงการขนส่งมวลชนสาธารณะที่วิ่งเข้าสู่เมือง พื้นที่ท่องเที่ยว และแหล่งอุตสาหกรรม ให้เชื่อม โยกกับไฮสปีดที่มีแผนเปิดให้บริการในปี 2567 อีกทั้งยังมุ่งเน้นโครงการที่เกี่ยวกับระบบบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน ที่เป็นซอฟต์แวร์ หรือเทคโนโลยี เพราะไม่ต้องการให้มีแค่โครงสร้างพื้นฐานหลักๆเพียงอย่างเดียว เช่น โครงการรถไฟทางคู่ที่เข้านิคมอุตสาหกรรมเชื่อมต่อท่าเรือแหลมฉบังจำเป็นต้องมีระบบเทคโนโลยีแบบ E-Logistic เพื่อให้ทราบข้อมูลและรายละเอียดกรณีขนส่งสินค้า โดยส่งเสริมการใช้โครงสร้างพื้นฐานทางรางและทางน้ำเป็นหลัก ขณะแผนการลงทุนฯ เฟส 1 (ปี 2560-2564) จำนวน 168 โครงการ วงเงินรวม 9.88 แสนล้านบาท มีโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ 34 โครงการ, โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 79 โครงการ, โครงการได้รับงบประมาณปี 63 เพื่อใช้ในการดำเนินการแล้ว 25 โครงการ, โครงการอยู่ระหว่างขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 64 จำนวน 10 โครงการ, โครงการที่เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ 6 โครงการ, โครงการที่ให้ชะลอออกไปก่อน 2 โครงการ และโครงการที่ถูกยกเลิก 5 โครงการทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานการประชุมคณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในพื้นที่เขตพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ระยะที่ 2 ยืนยันว่า แผนระยะ2 ต้องเห็นผลเป็นรูปธรรม จับต้องได้ โดยมอบสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ปรับแผนพัฒนาอีอีซีเฟส2จัดลำดับความสำคัญ หลัง สนข.เสนอโครงการพัฒนาระบบขนส่งทางราง น้ำ อากาศ จำนวน 106 โครงการ วงเงิน 2.52 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ถูกโอนมาจากแผนปฏิบัติการฯ ใน เฟส 1 เนื่องจากบางโครงการใกล้หมดระยะเวลาในการพัฒนาในเฟส 1 จะถูกจัดสรรงบประมาณ เพื่อนำมาพัฒนาโครงการต่อในเฟส 2
ชายไทยอายุ 120 ปีพูดว่า: กำจัดความดันโลหิตภายใน 1 นาที เพียงใช้วิธีนี้
Advertiser
www. เยียวยาเกษตรกร.com ตรวจสอบสิทธิ์ ตรวจสอบสถานะ ผลการโอนเงิน แบบไหนได้เงินชัวร์
www. เยียวยาเกษตรกร.com ตรวจสอบสถานะ ตรวจสอบสิทธิ์ เช็กอัพเดทล่าสุดที่นี่
เกาะติด "เยียวยากลุ่มเปราะบาง" เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ รับเงิน 3,000บาท
โดนนายชัยวัฒน์ ย้ำว่า จะต้องเป็นโครงการสำคัญและมีความจำเป็นต่อเขตพื้นที่อีอีซี เท่านั้น อีกทั้งยังให้สนข.ศึกษา 13 อุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซีที่สามารถเกิดขึ้นได้ในเฟส 2 ช่วง 5 ปีข้างหน้า (ปี 2565-2570) หากเป็นนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่พัฒนาขึ้นใหม่ในพื้นที่อีอีซีจะต้องใช้วัสดุจากภายในประเทศและต่างประเทศในการผลิตสินค้า เช่น โครงการรถไฟทางคู่ที่เข้านิคมอุตสาหกรรมเพื่อเชื่อมต่อท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งจะช่วยลดการจราจรติดขัดบนท้องถนน ทำให้มีโครงการ ในเฟส 2 ถูกตัดสิทธ์ เช่น โครงการสร้างทางยกระดับ การขยายถนนของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) และกรมทางหลวง (ทล.) เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการสร้างทางเลี่ยงเมืองแล้ว รวมถึงโครงการขุดลอกแม่น้ำบางปะกง-เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ของกรมเจ้าท่า (จท.) เนื่องจากเป็นโครงการที่สนับสนุนขนส่งสินค้าเท่านั้น ซึ่งไม่ได้สนับสนุนพื้นที่อีอีซีโดยตรง จะถูกจัดอยู่ในแผนบูรณาการโลจิสติกส์ในประเทศแทนได้สั่ง สนข.กลับไปทบทวนจัดทำแผนการลงทุนดังกล่าว เพื่อดำเนินการต่อเนื่องในระยะที่ 2 รวมถึงเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน เพื่อนำมาเสนอกระทรวงคมนาคม ภายในเดือนกรกฎาคม นี้ หลังจากนั้นจะนำเสนอต่อคณะกรรมนโยบายเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ดอีอีซี) ต่อไปหลังจากกระทรวงคมนาคมมอบการบ้านเล่มใหญ่ขนาดนี้ ก็คงเป็นหน้าที่ของ สนข.ในการเดินหน้าวางแผนการลงทุนพื้นที่อีอีซีเฟส 2 ว่าจะเป็นอย่างไร ถือเป็นโจทย์หินที่ไม่ง่าย หากเดินหน้าได้ตามแผนที่วางไว้จะทำให้ระบบคมนาคมขนส่งสะดวก รวดเร็ว มากขึ้น รวมถึงส่งผลให้ในอนาคตเกิดการลงทุนในประเทศอย่างต่อเนื่อง
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
Posted: 11/06/2020 8:56 pm Post subject:
ผลสรุปการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้า อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
PRPATTAYA
11 มิถุนายน 2563
ตามที่เมืองพัทยาได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งประกอบด้วย บริษัท อินทิเกรเทด เอนจิเนียริ่ง คอนซัลแทนท์ จำกัด บริษัท ซี คอนซัลท์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท แพลนโปร จำกัด ให้เป็นผู้ดำเนินงานโครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้า อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี นั้น
เพื่อให้การพัฒนาโครงการมีผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด รวมทั้งจะต้องดำเนินการมีส่วนร่วมของประชาชนตลอดระยะเวลาการศึกษาโครงการ และได้จัดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โครงการดังกล่าวฯ เมื่อวันที่ 22 - 24 พฤษภาคม 2563 ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ ชั้น 4 อาคาร 1 ศาลาว่าการเมืองพัทยา โดยมีการคัดกรองผู้เข้าร่วมประชุม ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ รักษาระยะห่าง และจำกัดผู้เข้าร่วมประชุมไม่ให้เกินเวทีละ 50 คน โดยจัดให้มีการประชุมทั้งหมด 6 วิธี แบ่งเป็นสองช่วงเวลา คือ ช่วงเช้า เวลา 08.30 น. - 12.00 น. และ ช่วงบ่ายเวลา 14.00 น. - 17.00 น. ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันต่างๆ ผู้นำชุมชน สื่อมวลชน และประชาชนที่สนใจ ในพื้นที่จำนวนทั้งสิ้น 266 คน
สำหรับผลสรุปประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้า อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี มีดังนี้
* การร่วมแสดงความคิดเห็นต่อแนวทางโครงการนำร่อง (ถนนพัทยาสาย 2)
เกณฑ์การคัดเลือก
เห็นด้วยอย่างยิ่ง 62 %
เห็นด้วย แต่เห็นควรมีการเพิ่มเติมรายละเอียด 23 %
ไม่เห็นด้วย 7 %
ไม่แสดงความคิดเห็น 8 %
ผลการคัดเลือก
เห็นด้วยอย่างยิ่ง 39 %
เห็นด้วย 31 %
ไม่เห็นด้วย 19 %
ไม่แสดงความคิดเห็น 11 %
* การความคิดเห็นต่อระบบขนส่งสาธารณะที่จะนำมาใช้ในเมืองพัทยารถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail)
เกณฑ์การคัดเลือก
เห็นด้วยอย่างยิ่ง 61 %
เห็นด้วย แต่เห็นควรมีการเพิ่มเติมรายละเอียด 19 %
ไม่เห็นด้วย 6 %
ไม่แสดงความคิดเห็น 14 %
ผลการคัดเลือก
เห็นด้วยอย่างยิ่ง 36 %
เห็นด้วย 43 %
ไม่เห็นด้วย 10 %
ไม่แสดงความคิดเห็น 9 %
* การแสดงความคิดเห็นต่อรูปแบบโครงสร้างทางวิ่ง
เกณฑ์การคัดเลือก
เห็นด้วยอย่างยิ่ง 64 %
เห็นด้วย แต่เห็นควรมีการเพิ่มเติมรายละเอียด 15 %
ไม่เห็นด้วย 4 %
ไม่แสดงความคิดเห็น 17 %
ผลการคัดเลือก
เห็นด้วยอย่างยิ่ง 40 %
เห็นด้วย 43 %
ไม่เห็นด้วย 5 %
ไม่แสดงความคิดเห็น 12 %
* การแสดงความคิดเห็นต่อตำแหน่งที่ตั้งศูนย์ซ่อมบำรุง บริเวณที่ดินเอกชนถนนทัพพระยา 29 ไร่
เกณฑ์การคัดเลือก
เห็นด้วยอย่างยิ่ง 58 %
เห็นด้วย แต่เห็นควรมีการเพิ่มเติมรายละเอียด 17 %
ไม่เห็นด้วย 3 %
ไม่แสดงความคิดเห็น 22 %
ผลการคัดเลือก
เห็นด้วยอย่างยิ่ง 34 %
เห็นด้วย 39 %
ไม่เห็นด้วย 7 %
ไม่แสดงความคิดเห็น 20 %
โครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้า อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ได้จัดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็น ตลอดระยะเวลาดำเนินการโครงการ รวมทั้งสิ้น 4 ครั้ง เพื่อนำเสนอผลการคัดเลือกรูปแบบและโครงสร้างของระบบขนส่งสาธารณะที่เหมาะสมกับเมืองพัทยา แนวเส้นทางโครงการนำร่องผลการคัดเลือกตำแหน่งที่ตั้งศูนย์ซ่อมบำรุง
ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และผลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 ให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ ทั้งที่เป็นหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน และประชาชนที่ได้รับผลกระทบและได้รับประโยชน์ พร้อมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อให้ได้รูปแบบที่เหมาะสม ตรงกับความต้องการของท้องถิ่นให้มากที่สุด พร้อมกันนี้จะได้นำเสนอถึงผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมที่จะเกิดจากการดำเนินโครงการ เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ให้ข้อคิดเห็นถึงประเด็นที่ยังเป็นห่วงหรือวิตกกังวล เพื่อที่จะได้นำไปประกอบการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมในรายละเอียดต่อไป
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
Posted: 21/06/2020 1:10 am Post subject:
คาด ก.ย.นี้โครงการศึกษาออกแบบรถไฟฟ้าเมืองพัทยา ได้ข้อสรุป
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 20 มิ.ย. 2563 19:19
ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกเมืองพัทยา เผยโครงการศึกษาออกแบบรถไฟฟ้ายังเหลือเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนโดยรอบอีก 3 ครั้ง คาดได้ข้อสรุปชัดเจน ก.ย.นี้
วันนี้ ( 20 มิ.ย.) นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้าหลังจัดให้มีเวทีรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มข้าราชการ สื่อมวลชนและกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปแล้ว 2 ครั้ง ว่าการดำเนินงานหลังนี้คือการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ที่จะได้รับทั้งผลกระทบและได้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าวให้ครบทั้ง 5 ครั้ง
เพื่อให้สามารถสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เกี่ยวกับความต้องการที่แท้จริง โดยเฉพาะแนวเส้นทางการเดินรถ รวมทั้งการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ ควบคู่กันไป อาทิ รถบริการและระบบสาธารณูปโภคต่างๆ
โครงการรถไฟฟ้าและระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ หรือระบบขนส่งมวลชนรวมของเมืองพัทยา จะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นเป็นวงกว้างและเฉพาะกลุ่ม ซึ่งต่อจากนี้จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นอีก 3 กลุ่มย่อย โดยจะเน้นในเรื่องของแนวเส้นทางรถไฟฟ้า และกลุ่มระบบขนส่งมวลชนที่เกี่ยวข้องรวมถึงรถบริการ หรือที่เรียกว่า ฟีดเดอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะให้บริการรับคนเข้า-ออกจากสถานี
โดยการรับฟังความคิดเห็นด้านระบบสาธารณูปโภคที่จะมีขึ้นอีก 3 ครั้ง จะมีกลุ่มประชาชนทุกภาคส่วนเข้าร่วมและที่ประชุมจะนำผลการรับฟังความคิดมาประมวลเป็นข้อเสนอแนะก่อนจัดทำเป็นข้อสรุปในเรื่องของรูปแบบและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อ เป็นทางเลือกว่าหากดำเนินการแล้วจะเกิดประ โยชน์คุ้มค่ากับการเป็นเมืองหลักหรือศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวตามแผนของ พัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC ได้มากน้อยเพียงใด
นายกสนธยา ยังเผยอีกว่าการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียในโครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้า จะดำเนินการไปจนถึงเดือน ก.ย.นี้ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และตรงกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ดีต้องขอขอบคุณประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งจะทำให้การศึกษาโครงการฯได้ผลออกมาดีที่สุดและตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้มากที่สุด นายกเมืองพัทยา กล่าว
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
Posted: 09/07/2020 6:29 pm Post subject:
ทำความรู้จักกับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน และโครงการรถไฟฟ้าสายแรกของเมืองพัทยากัน
โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure
9 กรกฎาคม 2563
วันนี้ขอมาพูดถึงแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนของเมืองพัทยาในพื้นที่ EEC กันหน่อยครับ ซึ่งทางเมืองพัทยาได้ทำการศึเองแยกจากโครงการศึกษาแผนแม่บทขนส่งมวลชนของ EEC ที่ศึกษา ในฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง
ในโครงการการศึกษาแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนเมืองพัทยา เป็นการศึกษาแผนแม่บทเพื่อจะพัฒนาระบบขนส่งมวลชนระบบหลักและระบบย่อยในเมืองพัทยา
แต่โครงการไม่ได้พูดแค่เมืองพัทยา แต่จะรวมไปถึง บางละมุง, หนองปรือ จอมเทียน และพื้นที่ต่อเนื่องทั้งหมด เพื่อความต่อเนื่องของผู้โดยสาร และประชาชนในพื้นที่
รวมถึงการวางแผนเชื่อมต่อจาก โครงการขนส่งมวลชนหลักในพื้นที่ EEC คือ โครงการรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน และโครงการพัฒนาพื้นที่กลุ่มเมืองใหม่ (cluster) เช่น EECdและ EECi ในอนาคตด้วย
จากยุทธศาสตร์ของ เมืองพัทยา ในแผน EEC คือ
- เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก
- พัฒนาเมืองพัทยาเป็น Pattaya MICE City เพื่อรองรับการจัดประชุม และนิทรรศการระดับโลก
- โครงการพัฒนาแหลมบาลีฮาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่
จากแผนทั้งหมดจะมีทั้งประชากร และนักท่องเที่ยวเข้ามาอยู่ในพื้นที่พัทยาอีกหลายเท่าตัว
ดังนั้นจึงมีความจำที่พัทยาจะต้องมีระบบขนส่งมวลชนที่ดี สะดวกและได้มาตรฐาน ซักที
ตามแผนแม่บทของเมืองพัทยา จะมีเส้นทางดังนี้
- เส้นทางหลัก (Main line) ทั้งหมด 4 เส้นคือ
1. สายสีเขียว สถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยา - แหลมบาลีฮาย => ทำก่อนเพื่อน
2. สายสีเหลือง บนทางรถไฟทางไกลของ รฟท เป็น โครงการรถไฟชานเมืองพัทยา เชื่อม ศรีราชา-พัทยา-อู่ตะเภา => รอว่าจะให้สัมปทานใครดี
3. สายสีม่วง แยกทัพพระยา - หนองปรือ (เชื่อมต่อถนนผังเมือง ง1)
4. สายสีแดง วงเวียนปลาโลมา(พัทยาเหนือ) - แยกทัพพระยา(ท้บกับสายสีเขียว)- จอมเทียน - สนามกีฬาแห่งชาติ ภาคตะวันออก
- เส้นทางสายรอง (Feeder line) มีทั้งหมด 22 เส้น ยกตัวอย่างมาให้ดู 8 สายใครอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้จากในภาพครับ
1. วงกลม วงเวียนปลาโลมา - พัทยาสาย 1 -พัทยาสาย 3
2. วงเวียนปลาโลมา-บ้านสุขาวดี
3. แยกมัจฉานุ-หาดจอมเทียน
4. บ้านสุขาวดี-แหลมฉบัง
5. จอมเทียนสาย 2-อบต.บางเสร่
6. ตลาดนาเกลือ-ฟาร์มจระเข้พัทยา
7. ถนนพัทยาสาย 1-วัดสุธาวาส
8. สำนักงานเจ้าท่าพัทยา-สถานีรถไฟพัทยาใต้
บ้านใครอยู่ติดแนวสายไหนยกมือหน่อยครับ อยากให้สายไหนเร่งทำก่อน ลองคอมเม้นกันมานะครับ
ในแผนการพัฒนาในเบื้องต้นคือดึงเอาเส้นทางสายหลัก สายสีเขียว มาศึกษาในรายละเอียด และก่อสร้างโครงการนำร่อง
เส้นทาง สถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยา-เมืองพัทยา-แยกทัพพระยา-แหลมบาลีฮาย
ระยะทาง 8.15 กิโลเมตร
ซึ่งพอเลือกเส้นทางนำร่องได้ก็มีการศึกษาต่อในรายละเอียดคือ
- รูปแบบรถไฟฟ้าที่จะใช้ในโครงการ เป็นรูปแบบ Monorail (แบบคร่อมหรือแขวน) เพื่อความสอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสาร
- รูปแบบทางวิ่ง เป็นรูปแบบยกระดับนตลอดเส้นทาง
- ศึกษาเส้นทางในรายละเอียด โครงการเลือกถนนพัทยาสาย 2 เป็นจุดก่อสร้างโครงการ เพราะไม่บดบังทัศนียภาพของหาดพัทยา และมีถนนซอยเชื่อมระหว่างสาย 1 และ 2 เป็นจำนวนมาก เพื่อความสะดวกของประชาชนและนักท่องเที่ยว
- มีสถานีทั้งหมด 13 สถานี ได้แก่
1. สถานีรถไฟพัทยา
2. สถานีสุขุมวิท
3. สถานีขนส่งพัทยา
4. สถานีพัทยาสาย 3
5. สถานีศาลากลางพัทยา
6. สถานีวงเวียนปลาโลมา
7. สถานีอัลคาซ่า
8. สถานีพัทยากลาง
9. สถานีไนท์บาซาร์
10. สถานี ตม. พัทยา
11. สถานีพัทยาใต้
12. สถานีทัพพระยา
13. สถานีบาลีฮาย
- ความพิเศษ ของโครงการนี่ซึ่งทางที่ปรึกษาต้องการจะเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเมืองพัทยาให้เป็นโครงสร้างเดียวกับรถไฟฟ้า โดยการทำเป็นสวนลอยฟ้าคร่อมเหนือทางวิ่งรถไฟฟ้าตลอดโครงการ เพื่อจะทำเป็น Green Belt กลางเมือง พร้อมกับเป็น Landmark ใหม่ของเมืองพัทยาร่วมด้วย
- ศูนย์ซ่อมบำรุงของรถไฟฟ้าอยู่บริเวณ ถนนทัพพระยา ซอย 3 ใช้พื้นที่ 29 ไร่
- ในโครงการจะมีพื้นที่อาคารจอดแล้วจร อยู่ที่ จุดตัดมอเตอร์เวย์-ถนนสุขุมวิท เพื่อรับรถที่มาจากทางด้านเหนือ และมอเตอร์เวย์ มาเปลี่ยนใช้รถไฟฟ้าเดินทางภายในเมืองพัทยา
จากแผนแม่บท และรายละเอียดโครงการรถไฟฟ้าที่กำลังศึกษาอยู่ ผมมองว่าลงตัว และน่าสร้างมากครับ
ยกเว้นตัวสวนลอยฟ้า ที่ต้องดูในรายละเอียดว่าจะทำให้โครงสร้างเป็นอย่างไร ทึบรึเปล่า แล้วจะสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนได้มากน้อยขนาดไหน
หลายๆคนแย้งเรื่องการใช้ Monorail มามองว่าไม่เหมาะสม เพราะบดบังทัศนียภาพของเมืองอยากให้เป็นรถราง และอยากให้อยูที่สาย 1
ผมเองก็ถามกับที่ปรึกษาโครงการด้วยคำถามนี้เหมือนกัน แต่ก็ได้คำตอบที่ผมเองก็เห็นด้วยคือ
1. ถ้าทำรถรางเลนสวนที่สาย 1 มีเขตทางอยู่เพียงพอแค่วาง 1 ทางวิ่ง ถ้าจะทำทางสวนจะต้องเอาถนนมา 1 เลน ซึ่งจะกระทบกับจราจร คนพัทยาโอเคมั้ย??
2. การทำรถราง มีความเสี่ยงกับการชนคน หรือชนรถ โดยเฉพาะคนเมาตอนกลางคืน (ปรกติรถวิ่งถึงเที่ยงคืน) ถ้าชนคนตายขึ้นมาดังไปทั่วโลก เรายอมรับความเสี่ยงนี้มั้ย
3. มีการจัดกิจกรรมริมชายหายพัทยาตลอด ซึ่งมีผลกับการเดินรถรางริมหาดแน่นอน จะจัดการอย่างไร
ผมเลยค่อนข้างเห็นด้วยกับที่ปรึกษาในการทำ Monorail ยกระดับบนสาย 2 ครับ
ใครอยากอ่านรายละเอียดเต็มๆ ของโครงการดูได้จากเว็บไซต์นี้ครับ
http://pattayalrt.com
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/970703560034790
Back to top