อีกหนึ่งบันทึก : เที่ยวฉ่ำฝน สู่มาบตาพุด

[Mongwin]

บุ่ง น่าจะเป็นแหล่งน้ำใหญ่ ๆ ไว้ใช้เก็บน้ำทำเกษตรกรรม มีการดูแลไม่ให้วัชพืชขึ้นหรือเปล่าครับ คงต้องถามพี่ตึ๋งครับ

[suraphat]

ต่อมาก็คงมีคำว่า พรุ อีกกระมังครับ ซึ่งที่ดูๆไปก็คงจะไม่พ้นกับความหมายที่เกี่ยวกับแหล่งน้ำนะครับ หรือแม้แต่คำว่า บาง ก็คงมีความหมายเดียวกันกระมังครับ

ในรายชื่อสถานีรถไฟที่ขึ้นต้นคำว่า พรุ นี้ก็เช่น พรุพี เป็นต้น สำหรับสถานีที่ขึ้นคำว่าบางนี้ก็เช่น บางซื่อ บางเขน บางบำหรุ นะครับ

ซึ่งดูๆไปแล้วก็คงจะเป็นการหาความหมายเช่นเดียวกับชื่อสถานีทางจังหวัดชายแดนภาคใต้นะครับ ตามที่ไดเคยมีกระทู้ที่นำเสนอในเรื่องนี้ไปแล้วนะครับ

[black_express]

บุ่ง ตามความหมาย เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ หรือ แม่น้ำด้วน ซึ่งกระแสน้ำเปลี่ยนทางเดิน ทำให้ลำน้ำเดิม กลายเป็นบึงเก็บน้ำครับ

เห็นในวิกิพีเดียไทย ดันมีคนเขียนลงไปว่า เป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ใช้ทดน้ำการเกษตร ไม่รู้เก็บข้อมูลมาจากไหน ?

[Mongwin]

ขอบคุณครับพี่น้อยและพี่ตึ๋ง
บุ่ง กับ กุด คล้ายกันไหมครับ
เพราะ กุด ก็คือ แม่น้ำด้วนจากการเปลี่ยนทิศเช่นเดียวกัน

[suraphat]

[black_express]

ผมคิดว่า คุณน้อยลองพิจารณาจาก link นี้ไปพลางๆ ก่อนนะครับ แม้แต่ตัวผมเองยังไม่ค่อยแม่นในเรื่องนี้เท่าใดนัก

http://www.onep.go.th/wetlands/frontend/theme/ramsars_main.php?Lang=0

[Compressor]

"กุด" นี่ ผมยังเข้าใจครับว่า เกิดจากเดิมเป็นทางน้ำไหลผ่าน แต่ต่อมา ตะกอนน้ำได้ทับถมทำให้ทางน้ำเปลี่ยนทิศทาง จึงให้ทางน้ำเดิมมีลักษณะคล้ายๆบึงหรือทะเลสาบ รูปร่างเกือกม้า...

ที่เห็นได้ชัด และเกี่ยวข้องกับรถไฟด้วย คือ กุดกว้าง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นทางน้ำเดิมของแม่น้ำชี

หรือแม้กระทั่ง กุดปลาขาว กุดศรีมังคละ หลังโรงรถจักรอุบล ก็เป็นทางน้ำเดิมของแม่น้ำมูลเช่นกัน และเป็นสา้เหตุหนึ่ง ที่ทำให้รถไฟ ไปไม่ถึงฝั่งเมือง ทั้งที่ที่ดิน รฟท. มีอยู่ที่ฝั่งเมืองด้วย จนต้องโอนพื้นที่ให้เป็นพื้นที่ราชพัสดุ เพราะจะต้องสร้างสะพานยาวประมาณ 3 กม.

แต่ "บุ่ง" จนป่านนี้ผมยังไม่เข้าใจครับ ว่าหมายความว่ายังไง เพราะที่ บุ่งหวาย ก็ไม่ได้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ออกจะเป็นพื้นที่ดินทรายด้วยซ้ำ หรือถ้าบอกว่าเหมือนกุด ก็ไม่น่าใช่ เพราะที่บุ่งหวาย ไม่มีบึงหรือทะเลสาบใกล้ทางน้ำเก่าปรากฎอยู่เลย

[Mongwin]

คำว่า บุ่ง นี้ ผมเคยได้ยินนิสิต ป.โท ซึ่งทำวิัจัยเกี่ยวกับพฤกษศาสตร์ของป่าบุ่ง ป่าทาม เอามานำเสนอให้ฟังตอนสัมมนา
นึกขึ้นได้เลยลองค้นคำว่า ป่าบุ่ง ป่าทาม เจอที่นี่ครับ
http://www.tropicalforest.or.th/p72.htm
ดูแล้วความหมายของ บุ่ง ก็คล้าย ๆ กับบึงน้ำจืด ที่มีน้ำขังตลอดปีเลยครับ
ส่วนที่บุ่งหวาย ดูแล้วก็ไม่เห็นมีบุ่งเหลือให้เห็นเลยนะครับ ส่วนต้นหวายมีหรือเปล่าไม่ทราบ (ต้นหวายชอบขึ้นในป่าพรุ ลักษณะคล้ายบุ่งนั่นแหละครับ)

ว่าแต่จนบัดนี้ ยังไม่มีสมาชิกท่านใดบุกเข้าไปในย่านสถานีบุ่งหวาย ถ่ายภาพมาให้ชมเลยครับ ว่าสภาพปัจจุบันมีร่องรอยอะไรให้เห็นบ้าง
-----------------
ภาพถ่ายดาวเทียม มองเห็น"เกือกม้า" ใกล้กับสถานีบาลอครับ



-----------------

สิ่งที่น่าสังเกตอีกประการของทางรถไฟสายชุมทางเขาชีจรรย์-มาบตาพุด
คือไม่มีเสาโทรเลขครับ
น่าเสียดาย ผมไม่ทันสังเกตว่ามีหลักเฮกโตเมตร หรือหลักกิโลเมตรแบบสายแก่งคอย-คลองสิบเก้าด้วยหรือไม่

[saraburi]

เหมือนกันครับอาจารย์เอก




พอดีถ่ายภาพติดมาพอดีครับ จริงมีข้อยืนยันว่าเหมือนเช่นกับสายคลองสิบเก้าครับ
_________________
ช่างภาพระดับพื้นโลก

[black_express]

เรื่องประเด็นของระบบสื่อสารโทรคมนาคมของการรถไฟฯ บนเส้นทางช่วงชุมทางเขาชีจรรย์ - มาบตาพุด นั้น ถ้าจะให้ผมคาดเดา น่าจะเป็นระบบเคเบิ้ลใต้ดินฝังอยู่ริมทางรถไฟมากกว่าครับ

เพราะเส้นทางสายมาบตาพุด ก่อสร้างภายหลังโครงการสายสัตหีบ พร้อมๆ กับเส้นทางแยกเข้าสู่สถานีแหลมฉบัง ในช่วงปี 2537 ซึ่งอาจมีแนวคิดฝังเป็นเคเบิ้ลใต้ดินในช่วงนั้น และขยายผลมายังโครงการแก่งคอย - คลองสิบเก้าในเวลาต่อมา แต่ยังไม่ฟันธงว่าถูกต้องนะครับ

อ่า... พร้อมที่จะเดินทางกันต่อหรือยังครับ ? ถ้าพร้อม... เราชักหวีดเดินทางกันเลยนะครับ



หลังจากขบวนรถโดยสารไปกบินทร์บุรีออกจากชุมทางฉะเชิงเทราไปแล้ว ก็ได้เวลาขบวนรถไฟพิเศษเคลื่อนตัวออกจากสถานีบ้างล่ะ



เส้นทางรถไฟตั้งแต่ชุมทางฉะเชิงเทราเป็นต้นไป จนถึงสถานีแหลมฉบัง อยู่ระหว่างการก่อสร้างเป็นเส้นทางคู่ครับ เพื่อรองรับปริมาณขบวนรถสินค้าไปยังท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังที่กำลังทวีขึ้นอย่างรวดเร็ว

ซึ่งในปัจจุบันนี้ จะมีขบวนรถสินค้าเดินทางบนเส้นทางช่วงดังกล่าวไม่ต่ำกว่าวันละ 20 ขบวนทีเดียว



หากสมาชิกใดที่ได้ติดตามความก้าวหน้าของโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา - แหลมฉบังซึ่งนำลงเผยแพร่ในเว็บไซต์นี้มาตลอดแล้ว จะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทุกระยะ และตอนนี้ แนวเส้นทางได้ทับพื้นที่ชานชาลาอดีตสถานีแปดริ้วจนแทบสังเกตไม่เห็นแล้วครับ

ไม่ทราบว่า หากโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ เราจะมีโอกาสได้เห็นป้ายชื่อที่หยุดรถแปดริ้วกันอีกไหมหนอ ?