โครงการรถไฟฟ้าภูเก็ต

[Wisarut]

รองนายกรัฐมนตรีพอใจผลงานผู้ว่าฯ 5 จังหวัด พร้อมหนุนแนวคิดผุดรถไฟฟ้ารางเบา


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
17 เมษายน 2558 20:55 น. (แก้ไขล่าสุด 18 เมษายน 2558 11:37 น.)


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองนายกรัฐมนตรีติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่ภูมิภาค เขตตรวจราชการที่ 7 ที่จังหวัดภูเก็ต พอใจผลการทำงานของผู้ว่าฯ ทั้ง 5 จังหวัด ทั้งในส่วนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัญหาด้านแรงงาน และอื่นๆ พร้อมเผยแนวคิดหนุนรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต จากขาเดียวเป็นสองขา เชื่อมโยงท่องเที่ยวตัวเมือง และชายทะเล
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (17 เม.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ร่วมติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่ภูมิภาค เขตตรวจราชการที่ 7 (ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และระนอง) โดยรับฟังบรรยายสรุปจากผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ถึงผลการดำเนินงานและปัญหาหาอุปสรรคเกี่ยวกับนโยบายสำคัญ ทั้งในเรื่องของการดำเนินการตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในส่วนงบสร้างสถานที่ราชการ ฯลฯ (งบ 23,000 ล้านบาท) งบลงทุนปี 2557 ในส่วนที่ค้างการเบิกจ่ายจากปี 2557 และความคืบหน้าของการดำเนินการงบลงทุนปี 2558 เรื่องปัญหาด้านแรงงานต่างด้าว การขาดแคลนแรงงาน การใช้แรงงานเด็ก และการใช้แรงงานในลักษณะการค้ามนุษย์ เรื่องผลการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรม ในเรื่องสำคัญที่มีปัญหาร้องเรียน และที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการดำเนินงาน และเรื่องอื่นๆ ที่เป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนของแต่ละจังหวัด

หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ว่า จากบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 5 จังหวัด ผลการดำเนินงานเป็นที่พอใจ โดยเฉพาะในเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้เกินเป้าหมาย ขณะที่เรื่องของรายจ่ายงบลงทุนมีการเบิกจ่ายไปพอสมควรแล้ว แต่ที่น่าพอใจคือ การทำสัญญาผูกพันเสร็จไปส่วนใหญ่ ก็แปลว่าหลังจากนี้เงินจะไหลออกเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น แต่มีปัญหาหนักใจบางอย่างที่รออยู่คือ เรื่องของผู้รับเหมาก่อสร้างซึ่งมีจำกัด ก็จะเร่งดำเนินการตรงส่วนนี้ต่อไป

ขณะที่ในเรื่องของแรงงาน พบว่า แรงงานเด็กมีการสำรวจครบถ้วน คงไม่เป็นปัญหาที่ถูกจับตามองจากต่างชาติอีกแล้ว ส่วนเรื่องการจดทะเบียนแรงงานส่วนใหญ่คงได้ครบไม่ขาดแคลนแน่นอน เพราะแรงงานด้านนี้ปัญหาไม่หนักเท่าแรงงานฝั่งตะวันออก เพราะเป็นโรงงานขนาดใหญ่ อีกด้านเรื่องของศูนย์ดำรงธรรม ก็เป็นที่น่าพอใจ ศูนย์ดำรงธรรมสามารถสนองตอบความต้องการของประชาชนที่มาร้องเรียนได้แก้ปัญหาแล้วเสร็จไปส่วนใหญ่ จากสถิติการร้องเรียนเสร็จไปกว่าครึ่งแล้ว ส่วนที่เหลือก็จะทำต่อไป

หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร ยังได้กล่าวถึงปัญหาสำคัญเร่งด่วนของแต่ละจังหวัด ว่า ในเรื่องของยาง ก็รู้ว่าราคาตกเป็นเพราะราคาน้ำมันของโลกตกไป กลางปีที่แล้วเฉลี่ยประมาณ 100 เหรียญ ปีนี้เฉลี่ยเหลือ 50 เหรียญ เมื่อราคาน้ำมันตกสิ่งที่ตามมาคือ ราคายางเทียมตกลงมาด้วย ตอนนี้เหลือกิโลกรัมละ 40 กว่าบาท ยางพาราเลยตกลงมา ซึ่งขณะนี้กำลังหาวิธีช่วยอยู่ และเท่าที่ทราบพบว่า บางจังหวัด เช่น กระบี่ ได้แนะนำให้มีการปลูกพืชแซมสวนยางโดยร่วมกัน ระหว่างผู้ซื้อพืชและผักที่โรงแรมจะซื้อร่วมกัน ชาวบ้านก็ทำตามในการปลูกพืชผักแซมสวนยางแล้ว ชาวบ้านก็เริ่มมีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของการแก้ปัญหาถนนบางช่วงอยากให้เป็น 4 เลน อย่างช่วงจากสะพานสารสินฝั่งภูเก็ต ไปยังพังงา ก็จะรับไปดูให้ รวมถึงถนนที่มาจากสุราษฎร์ฯ ระนอง บางช่วงที่อยากให้เป็น 4 เลนด้วย ก็จะรับไปพิจารณาเช่นกัน ก็คิดว่านี้เป็นสิ่งที่น่าจะทำได้ทั้งหมด

หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร ยังได้กล่าวถึงแนวคิดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบา จากท่านุ่น จ.พังงา เข้าสู่ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ว่า ที่ทำการสำรวจไว้เดิมซึ่งเป็นเส้นสายตรงดิ่งไปยังย่านเมืองเก่านั้น ในความคิดของตนคิดว่าน่าจะมีสองขา เพราะว่าการที่มีสายตรงสายเดียวจากทางเหนือวิ่งเข้าเมืองอย่างเดียว คนที่จะไป หรือจะมาจากฝั่งทะเลก็ลำบาก เพราะฉะนั้นถ้าจะป้อนเมืองเก่าให้เจริญ ก็น่าจะเชื่อมสองขาเพื่อให้คนฝั่งทะเลขึ้นรถไฟมาเที่ยวในเมืองได้ ถ้าจะส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองจริงๆ ก็น่าจะทำสองขา ขาเดียวประโยชน์น้อย แต่ถ้าสองขาจะได้ประโยชน์มากกว่าคือ ทำในลักษณะเป็นตัวเอส วิ่งมาตรง และก็เลี้ยว ถ้าเป็นสองขาคนก็มาเที่ยวได้ทั้งสองทาง คนทำงานก็สะดวกด้วย อยู่ที่ไหนก็ไปทำงานได้ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของความเป็นไปได้นั้นรถไฟฟ้ารางเบาอยู่ในแผนอยู่แล้ว เป็นเส้นตรงรางเดียว แต่จะไปดูในแผนว่าจะเติมอีกขาได้อย่างไร อาจจะเติมเป็นจังหวะสองก็ได้ ตรงส่วนนี้จะกลับไปดูงบประมาณว่ามีเพียงพอหรือไม่

ส่วนเรื่องของขยายท่าเรือน้ำลึก อ่าวมะขาม ซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญของภูเก็ต ก็อยู่ในแผนแน่นอน ก็อยากให้ดีกว่านี้เทียบระดับต่างชาติได้ ท่าจอดเรือยอชต์เรามีแล้ว แต่ท่าจอดเรือครุยส์อยากให้ดีกว่านี้ ก็จะมีการเปิดประมูลใหม่ นอกจากนี้ ยังมีท่าเรือที่พังงา กับกระบี่ ก็มีความเป็นไปได้ มีกรมเจ้าท่าเข้ามามาดูแล้ว และตนก็จะเข้าไปดูให้ด้วย ถ้าเรามีท่าเรือที่น่าดูน่าเที่ยวอีกหน่อยไม่แค่ท่องเที่ยวทางบกไปทะเล ทางทะเลไปทะเลก็จะวิ่งไปถึงกันได้หมด รองนายกรัฐมนตรีกล่าวในที่สุด

[Wisarut]

รองนายกฯ เสนอภูเก็ตทำรถไฟฟ้ารางเบา เส้นทางบายพาส-ป่าตอง สร้างทางเลือกให้นักท่องเที่ยว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
6 พฤษภาคม 2558 16:31 น. (แก้ไขล่าสุด 6 พฤษภาคม 2558 16:39 น.)


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เสนอให้จังหวัดภูเก็ต ทำรถเส้นทางรถไฟฟ้ารางเบาเพิ่ม บายพาส-ป่าตอง สร้างทางเลือกให้นักท่องเที่ยวเดินทางถึงแหล่งท่องเที่ยว จังหวัดรับลูกเรียกหน่วยงานเกี่ยวข้องหารือวางกรอบเส้นทาง ก่อนนำข้อมูลเสนอรองนายกฯ อีกรอบ

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (6 พ.ค.) นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อพิจารณากำหนดเส้นทาง และระยะทางระบบขนส่งมวลชน (รถไฟฟ้ารางเบา) เพิ่มเติม โดยมี นายสุธี ทองแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายศิริเกษ อภิรักษ์ จากสำนักงานโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัด (POC) ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

ทั้งนี้ เพื่อรับทราบความก้าวหน้าระบบขนส่งมวลชนสายท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง รวมทั้งเพื่อร่วมกันกำหนดเส้นทาง และระยะทางระบบขนส่งมวลชนภูเก็ตด้วยรถไฟฟ้ารางเบาเพิ่มเติมในเส้นทางบายพาส-ป่าตอง

นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามการปฏิบัติงานราชการเขต 7 ระหว่างวันที่ 17-18 เม.ย.ที่ผ่านมา และได้มอบหมายให้ทางจังหวัดภูเก็ต พิจารณาจัดทำเส้นทางรถไฟฟ้ารางเบาในเส้นทางบายพาส-ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาหารือถึงความเป็นไปได้ในเบื้องต้นของรถไฟฟ้ารางเบาเส้นทางไปยังป่าตอง เพื่อรองรับคนภูเก็ต และนักท่องเที่ยว เพื่อที่จะนำข้อมูลเสนอต่อไปยังรองนายกรัฐมนตรีต่อไป

นายศิริเกษ อภิรักษ์ จากสำนักงานโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า เส้นทางรถไฟฟ้าไปป่าตองนั้น ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2549 ได้มีการศึกษารายละเอียดไว้แล้วเช่นกัน โดยเส้นทางป่าตอง จะเป็นเส้นทางที่มีความสำคัญรองจากเส้นทางท่านุ่น-ห้าแยกฉลอง ซึ่งผลการศึกษาก่อนหน้านี้นั้น จะมีทั้งหมด 18 สถานี จากป่าตอง ผ่านห้างจังซีลอน-สามกอง-ตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งในส่วนนี้ทาง สนข.ก็ขอเวลาในการไปศึกษารายละเอียดของผลการศึกษาฉบับเดิมอีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการศึกษารถไฟฟ้ารางเบาเส้นทางท่านุ่น-ห้าแยกฉลองนั้น ขณะนี้ดูในขั้นตอนการปรับปรุงรายละเอียดอีก 5-6 จุด ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เช่น จุดผ่านสะพานเชื่อมระหว่างพังงากับภูเก็ต จุดแยกเข้าสนามบินภูเก็ต จุดผ่านตัวเมืองภูเก็ต รวมถึงรูปแบบสถานที่จอดที่ต้องการให้มีความเป็นอัตลักษณ์ของภูเก็ตเพิ่มขึ้น โดยทั้งหมดนี้จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือนนี้ หลังจากนั้น ทางสนข.จะนำมาเสนอต่อทางจังหวัดภูเก็ต และรับฟังความคิดเห็นจากชาวภูเก็ตอีกครั้งหนึ่ง ส่วนงบประมาณการลงทุนประมาณ 23,000 ล้านบาทนั้น ในขณะนี้ยังไม่สรุปรูปแบบการลงทุนที่ชัดเจน จะต้องรอให้ผลการศึกษาออกแบบรายละเอียดแล้วเสร็จก่อนถึงจะกำหนดรูปแบบการลงทุนได้

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนเห็นด้วยที่จะให้มีเส้นทางรถไฟฟ้ารางเบาไปยังหาดป่าตอง ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ตัวเมืองภูเก็ต หรือบริเวณบายพาส เพื่ออำนวยความสะดวก และสร้างทางเลือกในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยว และชาวภูเก็ต แต่ในเบื้องต้น อยากให้เส้นทางหลักจากท่านุ่น-ห้าแยกฉลอง ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเกิดขึ้นก่อนเป็นอันดับแรก

[Mongwin]

ผู้ว่าฯ ภูเก็ตควงแขน สนข.สำรวจเส้นทางรถไฟฟ้ารางเบาเขตเทศบาลนครภูเก็ต
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2558 17:00 น.

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ร่วม สนข.และเทศบาลนครภูเก็ต ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้ารางเบาในเขตพื้นที่เมืองชั้นใน พร้อมรับฟังความต้องการของประชาชนสองข้างทาง เพื่อนำไปปรับปรุงรูปแบบการก่อสร้างต่อไป พบประชาชนส่วนใหญ่ห่วงปัญหาที่จอดรถสาธารณะ

วันนี้ (18 มิ.ย.) นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต พ.ต.อ.ธีระพล ทิพย์เจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายนิรันดร์ เกตุแก้ว ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมระบบการขนส่งและจราจรในภูมิภาค พร้อมคณะที่ปรึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจเส้นทางการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาในเขตพื้นที่เทศบาลนครภูเก็ต ด้วยการเดินเท้า พร้อมแจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาเพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนที่สัญจรไปมาอีกด้วย

ทั้งนี้ ด้วยการจัดการจราจรในเมืองภูเก็ตนั้น ซึ่งเริ่มจากบริเวณสถานีราชภัฏภูเก็ต ถึงสถานีฉลอง มีระยะทางรวมประมาณ 14 กิโลเมตร เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจรในเมืองภูเก็ตเมื่อมีโครงการ โดยกำหนดเส้นทางเดินรถบริเวณถนนเทพกระษัตรี ช่วงถนนโกมารภัจจ์-ถนนรัษฎา และถนนภูเก็ต ช่วงถนนตลิ่งชัน-ถนนกระ ให้มีการเดินรถทางเดียว เนื่องจากถนนเทพกระษัตรี ช่วงสี่แยกโรงเรียนสตรีภูเก็ต-ถนนโกมารภัจจ์ มีความกว้างของเขตทางค่อนข้างน้อย จึงกำหนดให้มีการเดินรถร่วมกับรถราง ในทิศมุ่งเหนือจำนวน 1 ช่องจราจร และได้ทำการปิดการจราจรบริเวณย่านเมืองเก่า เพื่อพัฒนาเป็นถนนคนเดินร่วมกับรถราง (Tram) จึงต้องมีการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจต่อประชาชนถึงความจำเป็นในการจัดการจราจรดังกล่าว

นายนิรันดร์ เกตุแก้ว ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมระบบการขนส่งและจราจรในภูมิภาค กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าของโครงการตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อนำไปออกแบบรายละเอียดที่สามารถแก้ไขปัญหาการจราจรได้ ตลอดจนในเรื่องของการจัดการเดินรถ และเส้นทางต่างๆ โดยวันนี้ทาง สนข.ได้ร่วมกับทางจังหวัด โดยท่านผู้ว่าฯ พร้อมทั้งผู้นำท้องถิ่นได้ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์โครงการ และทำความเข้าใจต่อประชาชน ในเส้นทางที่มีผลกระทบทางด้านการจราจรค่อนข้างมาก เพื่อทำความเข้าใจ และชี้แจงต่อประชาชน ซึ่งในส่วนนี้เราก็จะรับฟังความเห็นไปเพื่อให้ทางที่ปรึกษานำไปปรับปรุงการออกแบบต่างๆ ให้สอดคล้องต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่

จากการลงพื้นที่ฟังความเห็นจากประชาชนสองข้างทาง ส่วนใหญ่มีความเป็นห่วงเรื่องของการจอดรถสาธารณะ ซึ่งทางเทศบาลจะจัดที่จอดรถที่สาธารณะให้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามองภาพรวมในการเดินทางของประชาชน และปริมาณรถที่จะเข้าเมืองในอนาคตระบบ Tram จะเป็นระบบที่เข้ามาช่วยเสริมศักยภาพให้แก่เมืองภูเก็ต ให้มีปริมาณการเดินทางภายในเมืองภูเก็ต และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางจากสนามบินเข้ามาในตัวเมืองภูเก็ตก็จะสามารถรองรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น

“การรับฟังความเห็นต้องมีการรับฟังอย่างต่อเนื่อง ในส่วนหนึ่งจะมีการทำโฟกัสในกลุ่มเล็กๆ เพื่อทำความเข้าใจต่อผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ก่อนที่จะไปจัดสัมมนาใหญ่เพื่อชี้แจงภาพรวมของโครงการอีกครั้ง ก่อนที่โครงการนี้จะถูกนำเสนอผ่านคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกจังหวัด (อจร.) แล้วนำเสนอไปยังคณะกรรมการจัดการจราจรทางบก ที่มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานต่อไป” นายนิรันดร์ กล่าวและว่า

จากการลงมารับฟังความเห็น คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถประมวลผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม การแก้ปัญหาจราจร ผลกระทบต่อประชาชนต่างๆ แล้วนำเสนอไปตามขั้นตอน เพื่อขออนุมัติโครงการในรูปแบบการลงทุนต่างๆ ผ่านทาง อจร.จังหวัด เพื่อนำเสนอไปยังคณะกรรมการจัดการจราจรทางบก คิดว่าภายในต้นปีหน้าจะสามารถดำเนินการเชิญชวนภาคเอกชน หรือทางท้องถิ่นเข้ามาร่วมดำเนินการในส่วนนี้ หรือว่าจะเป็นรูปแบบที่ทางองค์การรถไฟฟ้ามหานคร อาจจะให้ความสนใจเข้ามาร่วมในการพัฒนา แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้ผลการศึกษาโครงการฯ ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และหลังจากที่รับฟังความเห็นจากประชาชนมีความเห็นร่วมกันแล้ว มีรูปแบบการลงทุนอย่างชัดเจนแล้ว คิดว่าจะถูกนำเสนอผ่าน อจร.จังหวัด จนนำสู่การก่อสร้าง ซึ่งอาจจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2560 และเปิดให้บริการได้ในปี 2564 ก็เป็นการประมาณการในเบื้องต้น นายนิรันดร์ กล่าวในที่สุด

สำหรับความเป็นมาโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชน จังหวัดภูเก็ต (รถไฟรางเบา) ในเส้นทางท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง สืบเนื่องจากยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลในปัจจุบันได้วางแนวทางในการพัฒนาไว้ 5 แนวทาง ประกอบด้วย การพัฒนาระบบขนส่งทางราง ระบบขนส่งทางบก ระบบขนส่งทางน้ำ ระบบขนส่งทางอากาศ และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบขนส่งทางรางจะช่วยสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว และเสริมสร้างศักยภาพของโครงข่ายทางรถไฟในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อให้สอดคล้องต่อมติ ครม.นโยบายของรัฐบาล และยุทธศาสตร์ของกระทรวงคมนาคม สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จึงดำเนินการศึกษาเพื่อขยายและเชื่อมโยงโครงข่ายทางรถไฟเพื่อการท่องเที่ยวระหว่างฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย บริเวณพื้นที่โครงการพัฒนาศูนย์กลางการคมนาคมและขนส่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก กับฝั่งทะเลอันดามัน โดยเชื่อมต่อเข้าระบบขนส่งมวลชนของจังหวัดภูเก็ต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวเสริมสร้างศักยภาพของโครงข่ายทางรถไฟสายใต้ในปัจจุบัน รวมทั้งแก้ไขปัญหาจราจรซึ่งเป็นผลกระทบจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

[Mongwin]

คมนาคมเร่งผุดโมโนเรลภูเก็ต
Monday, November 2, 2015 - 00:01

สนข.เร่งศึกษาระบบขนส่งมวลชนหัวเมืองท่องเที่ยวหวังเสริมศักยภาพนำร่องส่งแผนพัฒนาโมโนเรล “ภูเก็ต” วงเงินกว่า 2 หมื่นล้าน จ่อเสนอคมนาคมเห็นชอบภายใน ม.ค.59 ก่อนดันเข้า ครม.ไฟเขียว พร้อมปัดฝุ่น BRT จ.ขอนแก่น

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สนข.อยู่ระหว่างเร่งศึกษาโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่หัวเมืองท่องเที่ยวเพื่อเสริมศักยภาพ รองรับการเติบโตในจังหวัด และพื้นที่ใกล้เคียง

ปัจจุบันโครงการที่มีความคืบหน้าผลการศึกษาเดิมมีความชัดเจนแล้วกว่า 80% คือโครงการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าโมโนเรล (รางเดี่ยว) ใน จ.ภูเก็ต ซึ่งจะเกิดขึ้นในเส้นทางจากท่าอากาศยานภูเก็ต อ.ถลาง–ห้าแยกฉลอง อ.เมืองภูเก็ต คาดว่าภายในเดือน ธ.ค.2558 นี้ จะสรุปและเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมพิจารณาภายในเดือน ม.ค.59 ก่อนส่งต่อให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ และสรุปแนวทางการลงทุน

นอกจากนี้ สนข.ยังเตรียมปัดฝุ่นศึกษาโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษ (BRT) ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และ จ.เชียงใหม่ โดยปัจจุบันได้รับงบประมาณในการศึกษา และออกแบบโครงการมาแล้วราว 30–40 ล้านบาท คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการศึกษาประมาณ 1 ปีหลังจากนี้

แหล่งข่าวจากระทรวงคมนาคม กล่าวว่าการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนใน จ.ภูเก็ต จะใช้รูปแบบของรถไฟโมโนเรล มีมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท รวมระยะทาง 60 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีให้บริการ 20 สถานี ซึ่งนอกจากนี้จะช่วยแก้ปัญหารถติดแล้ว ยังช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตด้วย.

[Wisarut]

ไฟเขียวสร้างรถรางภูเก็ตแก้รถติด
เดลินิวส์
วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2558 เวลา 6:00 น.

คมนาคม ไฟเขียวสร้างรถราง จ.ภูเก็ต หนุนท่องเที่ยว-แก้จราจรติดหนึบ สนข.เผย จีน-ยุโรป-เกาหลี สนใจขอลงทุนระบบ

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)เปิดเผยว่า ที่ประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าภูเก็ต ได้เห็นชอบให้มีการจัดสร้างรถรางไฟฟ้า เนื่องจากไม่ต้องเวนคืนที่ดิน สามารถสร้างรางร่วมกับถนนที่รถปกติวิ่งได้ อีกทั้งยังมีความกลมกลืนกับเมือง และใช้วงเงินลงทุนและบำรุงรักษาต่ำ โดยหลังจากนี้ สนข. ไปหารือเพื่อจัดทำรายละเอียดโครงการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) และองค์กรปกครองท้องถิ่น เพื่อนำรายละเอียดกลับมาเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาภายในปีนี้ ก่อนเสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติโครงการต่อไป ทั้งนี้โครงการจะใช้เงินลงทุน 23,499 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะเป็นผู้จัดหาพื้นที่และจะเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน(พีพีพี) เบื้องต้นมีภาคเอกชนจากจีน เกาหลี และยุโรป แสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนระบบการเดินรถบ้างแล้ว ส่วนแนวเส้นทางรถรางไฟฟ้า จะเริ่มจากบริเวณสถานีรถไฟฟ้าท่านุ่นไปสิ้นสุดทางเหนือของห้าแยกฉลอง ระยะทาง 60 กม. มีสถานี 23 แห่ง ตั้งเป้าเปิดให้บริการในปี 64 “โครงการนี้ช่วยแก้ไขปัญหารถติดในภูเก็ตได้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ต้องใช้เวลาเดินทางไปสนามบินนานถึง 3 ชั่วโมง คาดว่าปีแรกมีผู้ใช้บริการวันละ 68,000คน สามารถสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจภาพรวมได้ 5,288 ล้านบาท และในปีที่30 จะสร้างผลตอบแทนเศรษฐกิจได้สูงถึง 15,719 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านยานพาหนะ ลดเวลาการเดินทาง ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน และมลพิษจากการขนส่ง ““

[Wisarut]

เร่งผุดโมโนเรล 2.4 หมื่นล. เชื่อมท่องเที่ยว "สุราษฎร์-พังงา-ภูเก็ต"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
5 ธันวาคม 2558 เวลา 09:00:50 น.


ผลการศึกษาเบื้องต้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว "โครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชน" แก้รถติด จ.ภูเก็ต หลัง "สนข.-สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร" จ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมใหม่ ให้รองรับการท่องเที่ยวพื้นที่ทะเลด้านอ่าวไทยกับฝั่งทะเลอันดามัน

ความคืบหน้าล่าสุด "ชัยวัฒน์ ทองคำคูณ" รองผู้อำนวยการ สนข. เปิดเผยว่า จากผลศึกษาจะสร้างเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail หรือ Tram) จากสถานีรถไฟท่านุ่น จ.พังงา-สนามบินภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง จ.ภูเก็ต ระยะทาง 60 กม. มูลค่า 23,499 ล้านบาท อยู่ระหว่างปรับปรุงแบบรายละเอียดและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและปรับรายงานอีไอเอเสนอให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.)พิจารณา



"ยังติดแบบก่อสร้างบริเวณเป็นจุดตัดเพราะรถไฟฟ้าจะสร้างบนเกาะกลางถนน มีจุดตัดรถไฟกับถนน 189 จุด ที่ต้องใช้ผิวถนนร่วมกับรถยนต์ทั่วไป ต้องหารือร่วมกับกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท รวมถึงบมจ.ท่าอากาศยานไทย เรื่องแบบสร้างสถานีในสนามบินภูเก็ต ส่วนการเวนคืนที่ดินจะไม่มี โครงการจึงดำเนินการได้เร็ว จะเร่งสรุปรายละเอียดให้จบ ธ.ค.นี้ จากนั้นปีหน้าเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการเพื่อก่อสร้าง ในแผนจะแล้วเสร็จปี 2564"

ด้านการลงทุน "ชัยวัฒน์" ระบุว่า จะเป็นรูปแบบ PPP โดยรัฐและเอกชนร่วมกันลงทุน งานด้านโครงสร้างโยธาทางรัฐจะเป็นผู้ลงทุน ส่วนการเดินรถจะเป็นการลงทุนโดยเอกชน ที่ผ่านมามีเอกชนด้านระบบรางจากต่างประเทศให้ความสนใจ เช่น ประเทศจีน, เกาหลีใต้ และยุโรป ซึ่งผลการศึกษาทางด้านเศรษฐกิจและการเงินของโครงการฯพบว่ามีความเหมาะสมในการลงทุน มีอัตราผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจ 23.78%

สำหรับแนวเส้นทาง เริ่มต้นที่สถานีรถไฟท่านุ่น จ.พังงา มุ่งสู่บ้านท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จะใช้สะพานเทพกระษัตรีมุ่งหน้าไปตามถนนเทพกระษัตรีโดยก่อสร้างบนเกาะกลางถนนถึงแยกถนนสาย3033 เป็นเส้นทางไปยังหาดไม้ขาว อ.ถลาง เลี้ยวขวาเข้าท่าอากาศยานภูเก็ตตามถนน4031 ขนานไปกับแนวทางวิ่งรันเวย์ เมื่อออกจากสนามบินไปตามถนน4026 บรรจบกับถนน402 เลี้ยวขวาแล้วตรงไปจนถึงแยกถนนดอนจอมเฒ่า

จากนั้นไปตามถนน402 จนไปบรรจบกับสามแยกบางคู และตรงไปทางทิศใต้ตามแนวถนนเทพกระษัตรีเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ต จนถึงแยกถนนรัษฎาตรงไปเลี้ยวขวาที่สี่แยกสะพานหินผ่านหน้าวิทยาลัยอาชีวศึกษา ผ่านสะพานคลองเกาะผีเข้าสู่ถนนศักดิเดชไปบรรจบกับถนนเจ้าฟ้าตะวันออก เลี้ยวซ้ายสี่แยกดาวรุ่งตรงไปสิ้นสุดที่ห้าแยกฉลอง

ขณะที่รูปแบบก่อสร้างตลอดเส้นทางจะก่อสร้างบนระดับดิน ยกเว้นหน้าสนามบินจะสร้างเป็นทางยกระดับ มี 23 สถานี ได้แก่
ท่านุ่น,
ท่าฉัตรไชย,
ประตูเมือง,
ท่าอากาศยาน,
เมืองใหม่,
ถลาง,
อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร,
เกาะแก้ว,
สถานีขนส่ง,
มหาวิทยาลัยราชภัฎ,
ทุ่งคา,
เมืองเก่า,
หอนาฬิกา,
บางเหนียว,
ห้องสมุดประชาชน,
สะพานหิน,
ศักดิเดช,
ดาวรุ่ง,
วิชิต,
เจ้าฟ้าตะวันออก,
ป่าหล่าย,
บ้านโคกโตนดและ
ห้าแยกฉลอง

โดยระบบรถนำมาวิ่งมี 2 ระบบให้เลือก คือไลท์เรลและแทมป์ จะออกแบบรองรับความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม. เก็บค่าโดยสารเริ่มต้น 18 บาท เพิ่มอีกกม.ละ 2.5 บาท หากสร้างเสร็จจะเป็นเส้นทางรถไฟสายใหม่เชื่อมการท่องเที่ยว 3 จังหวัดภาคใต้ "สุราษฎร์ธานี-พังงา-ภูเก็ต"

[Mongwin]

พ่อเมืองภูเก็ตเสนอแนวคิด 13 เส้นทางรถไฟฟ้ารางเบา หาดใหญ่-ภูเก็ต เพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวอันดามันรองรับ AEC
แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
วันที่ข่าว : 24 ธันวาคม 2558

วันนี้ (24 ธ.ค.58) ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมวาระยามเช้า โดยมี ดร. ประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต. ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายวัชรินทร์ เจตนาวานิชย์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

นายจำเริญ กล่าวพูดคุยกับหัวหน้าส่วนราชการตอนหนึ่งว่า ทางจังหวัดจะเร่งศึกษาโครงการรถไฟฟ้ารางเบาเส้นทางหาดใหญ่- ภูเก็ต เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน ตั้งแต่สตูล ตรัง กระบี่ พังงา และภูเก็ต เพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เพราะปัจจุบัน ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีการเปิดเส้นทางระหว่างหาดใหญ่- ปาดังเบซาร์ เพื่อเชื่อมไปยังประเทศมาเลเซียแล้ว ซึ่งหากมีการเชื่อมโยงเส้นทางมาฝั่งอันดามัน จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาค

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมถึงการแก้ปัญหาการจราจรในจังหวัดว่า จังหวัดได้มอบหมายให้ อบจ. ภูเก็ต แขวงการทางหลวงภูเก็ต นำโครงการสร้างถนนใต้เสาไฟฟ้าแรงสูงเส้นบางคู-สนามบิน มาศึกษาอีกครั้ง เนื่องจากหากสร้างได้ จะช่วยแก้ปัญหาการจราจรถนนเส้นเทพกระษัตรีได้ ขณะที่ความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีการรณรงค์การตั้งด่านตรวจและสำรวจจุดเสี่ยงเพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุจราจร นอกจากนี้จะมีการรณรงค์นำร่องแต่ละอำเภอ 1 เส้น 1 สายสวมหมวกกันน็อค 100% รวมถึงการรณรงค์การลดใช้พลังงานด้วย

[Mongwin]

คมนาคมสั่งรฟม.ศึกษาสร้างรถรางไฟฟ้าภูเก็ต ระยะทาง60ก.ม.-ใช้งบ2หมื่นล.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 17 ม.ค. 2559 เวลา 19:45:58 น.

ปลัดคมนาคมให้รฟม.ศึกษาโครงการรถรางไฟฟ้าบนเกาะภูเก็ต ระยะทาง 60 ก.ม. รวม 23 สถานี วิ่งเชื่อมสนามบิน-ขนส่ง และจุดสำคัญๆ คาดใช้วงเงินรวม 2 หมื่นล้านบาท แต่ต้องศึกษาปัญหาจุดตัดและสัญญาณจราจรให้ดี

นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวหลังประชุมติดตามความคืบหน้าในการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) นำเสนอผลการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น เห็นควรให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นผู้ดำเนินโครงการ จัดสร้างเป็นรถรางไฟฟ้าหรือ‘แทรม’

นำร่องเส้นทางท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ต-ห้าแยกฉลองก่อน ระยะทาง 60 กิโลเมตร รวมจำนวน 23 สถานี โดยมีความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

รูปแบบการเดินรถนั้นอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะก่อสร้างเป็นช่องทางพิเศษเฉพาะ หรือจะใช้ช่องทางร่วมกับรถยนต์ปกติ แต่จะใช้รูปแบบไหนก็ยังมีปัญหาเรื่องของจุดตัดซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก คือจุดตัดทางแยกรวม 39 จุด และจุดตัดทางกลับรถ 37 จุด เบื้องต้นจึงมอบหมายให้ สนข. กรมทางหลวง(ทล.) และกรมทางหลวงชนบท(ทช.)ไปหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาจุดตัดให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

โดยต้องกำหนดรายละเอียดให้ชัดเจนว่าจะก่อสร้างเป็นสะพานยกระดับหรือทางลอดบริเวณจุดตัดไหน หรือให้ใช้ทางร่วมกับรถยนต์ มีระบบสัญญาณจราจรควบคุมสับหลีกการเดินรถทั้ง 2 ระบบ ฯลฯ

ส่วนปัญหาจุดตัดบริเวณทางเข้าท่าอากาศยานภูเก็ตนั้น จะแก้ปัญหาด้วยการก่อสร้างเป็นทางยกระดับเชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ภายในสนามบิน มีระยะทางเดินเชื่อมจากสถานีและอาคารผู้โดยสารยาวประมาณ 150 เมตร

“รฟม.จะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการโครงการ เบื้องต้นต้องแก้ปัญหาจุดตัดทั้งหมดให้แล้วเสร็จก่อน ภายใน 1 เดือนหรือเดือนก.พ. จากนั้นจึงจะนำไปสู่การออกแบบก่อสร้าง ส่วนรูปแบบการลงทุน รฟม.ต้องกลับไปศึกษาความเหมาะสม เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียว่าจะเปิดให้เอกชนลงทุนทั้งหมด หรือให้เอกชนเข้าร่วมทุนในรูปแบบไหน”

รายงานข่าวกล่าวว่าผลการศึกษาเบื้องต้นของสนข. ประมาณการเงินลงทุนไว้ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท ระยะทาง 60 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีให้บริการ 23 สถานี เช่น สถานีท่านุ่น สถานีท่าอากาศยานภูเก็ต สถานีถลาง สถานีอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร สถานีเกาะแก้ว สถานีขนส่งผู้โดยสารภูเก็ตแห่งที่ 2 เป็นต้น

ที่มา ข่าวสด

[black_express]

ผมว่าน่าจะเป็นทางยกระดับทั้งหมดนั่นแหละครับ เผื่ออนาคต

[Wisarut]

ทำรถรางไฟฟ้าเมืองภูเก็ต
เดลินิวส์
วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 6:12 น.

เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากปีละหลายล้านคน ความเจริญเติบโตของเมืองสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อปัญหาการจราจร โดยศึกษาร่วมกับโครงการถไฟชานเมือง

15ก.พ.หารือราชการในพื้นที่ ชงครม.2.3หมื่นล.สร้างปี60 รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า วันที่ 15 ก.พ. นี้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะหารือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจ.ภูเก็ต เพื่อรายงานผลการศึกษาความเหมาะสมและจัดทำรายละเอียดแผนงาน โครงการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพระบบโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อสนับสนุนและรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคใต้ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่ง สนข.ได้ศึกษาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail Transit หรือ Tramway) หรือระบบขนส่งมวลชนความจุต่ำ ใน จ.ภูเก็ต เป็นทางเลือกในการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวให้มีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น และช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากปีละหลายล้านคน ความเจริญเติบโตของเมืองสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อปัญหาการจราจร โดยศึกษาร่วมกับโครงการถไฟชานเมือง (ทางคู่) สุราษฎร์-พังงา-ภูเก็ต ระยะทางกว่า 200 กม. งบศึกษา 118 ล้านบาท สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเบาได้ศึกษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นรถรางไฟฟ้าสายท่านุ่น-สนามบิน-ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 60 กม. มี 23 สถานี ใช้งบลงทุน 23,499 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างรางและจัดหารถไฟฟ้ามาวิ่ง สำหรับเส้นทางเดินรถ ใช้เกาะกลางถนนทางหลวง 402 (ถนนเทพกระษัตรี) สร้างรางรถไฟฟ้าในระดับดินเริ่มจากสถานีรถไฟท่านุ่น เชื่อมระบบรถไฟ ผ่านสถานที่ราชการสำคัญ จากนั้นเบี่ยงเข้าถนน 4026 (ถนนท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ต)รับผู้โดยสารแล้วเข้าถนน 4031(ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก) ผ่านสถานีศักดิเดช สิ้นสุดที่สถานีห้าแยกฉลอง ด้วยความเร็วประมาณ 60 กม. ต่อชม. ใช้เวลาเดินทางตลอดสาย 1 ชม.10 นาที ความถี่รถ 3 ขบวนต่อชม. ก่อนหน้านี้ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการ ควบคู่กับการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ (EIA) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ จากนั้นจะนำเสนอครม.พิจารณาอนุมัติโครงการและงบประมาณ เพื่อเริ่มก่อสร้างในปี 60 ใช้เวลาสร้าง 3 ปี เปิดบริการปี 63 รองรับปริมาณผู้โดยสารได้ 68,000 คนต่อวัน แต่ในปี 93 หรืออีก30 ปีจากนั้น จะรองรับผู้โดยสาร ถึง 140,000 คนต่อวัน ด้วยการเพิ่มความถี่ในการเดินรถและต่อโบกี้เพิ่ม.“