ท่านมีความรู้สึก/คำเเนะนำติชม/ข้อเสนอแนะต่อขบวน 177/178 อย่างไร

[lovelovecat]

รู้สึกว่า ขบวน177/178 คนค่อนข้างน้อยนะครับ เเล้วก็178ช่วงนครปฐม-ธนบุรี จอดเเทบทุกสถานี
ไม่เว้นเเม้เเต่ป้ายหยุดรถ มันทำให้ขบวนรถล่าช้าไปอีก พอกลางคืนตั้งเเต่3ทุ่ม ไปจนถึงตี2ครึ่ง บางทีตี3ก็มี มีหลีกเเทบทุกขบวน

เเละเสียความรู้สึกไปมากกว่านั้นก็คือ

ขบวน178ตามเวลา ขบวน86ช้า 86ก็จะเเซง178ตั้งเเต่ชุมพรขึ้นไปจนถึงบางสะพานใหญ่ก็เป็นได้
บางที42ก็เเซง178เเถวๆสามร้อยยอดอีก เเล้วถ้ากรณี ที่42เดินเเยกกับ44 จะทำให้เสียเวลาไปมากๆ เช่น
44จะเเซงเเถวๆประจวบคีรีขันธ์ ส่วน42จะเเซงเเถวๆชะอำครับ
เเต่ปัจจุบัน42/44 ยังคงพ่วงด้วยกันเหมือนเดิม เเซงเเถวๆหัวหินครับ
---------------------------------------------------------------------------------
ส่วน177ก็หลีกเยอะพอสมควร คนน้อย เเต่บางครั้งโดน85เเซงระหว่างทางทำให้ต้องเสียเวลาอีกเช่นเคย
----------------------------------------------------------------------------------
พอ178ถึงธนบุรีช้า ทำให้ขบวน255 ต้องช้าไปด้วย เพราะเวลาที่พักเมื่อถึงธนบุรีเเค่ชั่วโมงกว่า เช่นเดียวกับที่หลังสวนครับ
เเต่ก็อย่างว่า รถเร็ว177/178 เป็นรถธรรมดามาก่อน ทำให้ต้องหลีกเยอะ เป็นเรื่องปกติ

จอดก็พอสมควร คนน้อยก็จริง เเต่ใช้เวลามาก เมื่อเทียบกับรถเร็ว171/172 ซึ่งวิ่งยาวๆได้มากพอสมควร

เมื่อไหร่ปัญหาเหล่านี้จะเเก้ได้สักที คนที่เอาเเต่นอนบน ข.177/178ก็ไม่รู้เรื่องไม่รู้สึก เเต่คนที่นอนไม่หลับก็ดันรู้ดีอีก

ใครก็ได้ช่วยบอกเกี่ยวเรื่องนี้ทีครับว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง ว่างๆค่อยมาเพิ่มเติมอีก

คือมันน่าสงสัยมากๆเลยนะครับ เมื่อเทียบกับขบวนรถไฟสายอื่นๆ มันเเปลกจริงๆเลยครับ

มันก็เสียความรู้สึกนะครับ ซึ่งเมื่อเทียบกับขบวน171/172 วิ่งเร็ว คนเยอะ จอดน้อย หลีกน้อยด้วย
_________________
ชอบนั่งรถดีเซลราง THN/NKF ชอบกอดดีเซลราง ชอบฟังเสียงเครื่องยนต์ดีเซลรางดังสะใจมาก
กซข.1104 1115 1118 1121 1129 1130 1132 1138 1215 1217 1219 1225 1232 1248 1249 1259 1263

[SpyBT]

สำหรับผม ยิ่งหลีกมาก ยิ่งจอดนาน ยิ่งแถมเวลาให้เยอะ ยิ่งชอบครับ ภาวนาอยู่เสมอ วันไหนนั่ง 167 ขอให้รถจักร น้ำร้อน จอดนิ่ง ณ.สถานีใดสถานีหนึ่ง ที่มีของกิน จะได้นั่งเสพรถไฟนานๆ

แต่คนน้อยจริงๆครับ ขบวนนี้ น่ายุบเอาไปรวมกับ 167 ซะเลย รถเร็วเหมือนกัน..

[digimontamer]

ในความเห็นของผม ที่รักรถเร็ว 177/178 มากที่สุดในบรรดารถสายใต้ ขอบอกความในใจดังนี้ครับ

1. ข.177/178 นั้น เป็นรถเร็วทางเลือกของผู้ที่ต้องการเดินทางระยะสั้นๆหน่ะครับ เนื่องจากมันจอดสถานีขนาดย่อมๆที่รถเร็วสายใต้ขบวนอื่นๆไม่จอดกัน ทำให้ช่วยเหลือผู้โดยสารที่บ้านอยู่ในย่านสถานีขนาดเล็กหรือกลางได้มากทีเดียว

อย่างที่สวีและปากตะโก ผมก็เห็นมีคนขึ้นมาเหมือนกันครับ

2. เนื่องจาก ข.177/178 มีต้นทางและปลายทางที่สถานีรถไฟธนบุรี ทำให้มันเป็นรถที่มักจะมีที่ว่างสำหรับผู้โดยสารเสมอๆ อย่างตอนสงกรานต์ที่ทุกสถานีในสายใต้จะแปะป้ายว่า รถไฟเต็มทุกเที่ยวทุกขบวน แต่ผมกลับสามารถซื้อตั๋วชั้น3 แบบระบุที่นั่งขาเข้ากรุงเทพกับ ข.178 ได้ก่อนเวลารถออกแค่ 30 นาที (และยังมีที่ว่างเหลืออีกเกือบ 1 โบกี้เต็มๆ) เ้ป็นทางเลือกของผู้โดยสารเลยหล่ะครับ

3. ช่วง นครปฐม-ธนบุรี สำหรับ ข.178 นั้น จะทำหน้าที่รับคนจากชานเมืองเข้ามาทำงานในกรุงเทพด้่วยหน่ะครับ วันธรรมดาก็มีผู้โดยสารเยอะพอสมควรเลยเหมือนกันนา
เช่นเดียวกับ ข.177 ที่พาคนออกไปในตอนเย็นๆด้วย เพราะ ข.351 ออกเช้าไปนิด บางคนเลิกงาน 17.00 น. อาจจะมาไม่ทัน ก็ได้ ข.177 นี้แลครับใช้โดยสารกลับบ้านได้

4. เรื่องหลีกเยอะนั้น ต้องทำใจนิดครับ เพราะเขาก็เผื่อเวลาหลีกให้กับ ข.177/178 ไว้เยอะพอสมควรเหมือนกัน หากทุกอย่างเป็นไปตาม ปดร. ก็ไม่น่าจะมีปัญหา
ปัญหาจริงๆ มาจากขบวนรถที่มาหลีกด้วยมากกว่า เพราะหากรถที่วิ่งสวนมาช้า ข.177/178 ก็รอหลีกกันเหงือกแห้งไปตามระเบียบ........

5. ปัญหาของ ข.255/254 นั้น น่าจะต้องเร่งแก้ไขจริงๆครับ
ข.255 ยังพอทำเนา เพราะเผื่อเวลาเอาไว้ราวๆ 90 นาที และ ข.177 ก็มักจะไม่ช้าน่าเกลียดนัก (เฉลี่ยจะราวๆ 15-30 นาที) เมื่อเข้าบางกอกน้อยก็ให้แก๊งค์เสื้อฟ้าขึ้นไปทำความสะอาด และก็ต่อหัวเป็นอันออกได้เลย ส่วนใหญ่ผมจะเจอว่า ข.255 มักจะออกไม่ช้าเกินไปนักครับ หรือหากเสียเวลาก็ไม่เกิน 20-25 นาที

ปัญหาจริงๆคือ ข.254 ที่เผื่อเวลาเอาไว้น้อย และ ข.177 ก็ไปถึงหลังสวนช้าแทบทุกวันในระดับ 30 นาทีบวกเสมอๆ ทำให้ ข.254 ช้า 40-60 นาทีตลอดกาล ยิ่งประกอบกับมันจอดค่อนข้างถี่กว่า ข.255 ด้่วยแล้ว ทำให้ ข.254 เข้าธนบุรีช้า 60 นาทีตลอดศกเลย

[suraphat]

[pattharachai]

ก่อนนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ข.177/178 นั้นเป็นรถเร็วปรับศักดิ์และศักย์ ดังนั้นการหยุดเพื่อการโดยสารคงจะคาดหวังให้หยุดเหมือนกับรถเร็วตั้งแต่กำเนิดเหมือนกับรถเร็วขบวนอื่นๆไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามหากดูกำหนดเวลาเดินรถจะเห็นว่า ขบวน 177/178 มีการหยุดที่ดีกว่ารถเร็วปรับศักดิ์ขบวนอื่นๆ สถานีระดับอำเภอบางแห่งก็ไม่หยุด ถ้าคุณไปดูรถเร็ว 115/116 ในสายเหนือ คุณจะเห็นข้อเปรียบเทียบได้ชัดเจน

ขบวน 178 นั้นกำหนดให้หยุดทุกสถานีและที่หยุดรถตั้งแต่สถานีนครปฐมจนถึงธนบุรี เนื่องจากเป็นการเดินรถทดแทนขบวนรถชานเมืองที่ 354 นครปฐม- ธนบุรี ที่ยกเลิกการเดินรถไป ขบวน 354 นี้มีผู้โดยสารขาประจำจำนวนหนึ่งโดยเฉพาะช่วงวัดงิ้วรายเป็นต้นไปถึงธนบุรี สมัยก่อนชาวสวนแถวคลองมหาสวัสดิ์ ก็ขนสินค้าจากสวนไปขายที่ตลาดรถไฟบางกอกน้อยด้วยขบวนรถนี้ ผู้โดยสารหลายคนไม่เดินทางกับรถชานเมืองที่ 352 ราชบุรี-ธนบุรี เพราะว่ากำหนดเวลาถึงธนบุรีของข.352 คือ 17.05 ในอดีต และ 17.10 ในปัจจุบัน หลายคนอาจสาย โดยเฉพาะนักเรียน ถ้า 352 ช้ามาสักครึ่ง ชม.ก็ใจเต้นเร็วแล้ว

เวลาเดิมของ 178 ผมจำเวลาที่แน่นอนไม่ได้ แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ รฟท.กำหนดให้ 178 มาพ่วง 354 ที่นครปฐมเข้าธนบุรีไปด้วย (ตอนเย็นให้ 351+353 พ่วงรวมกัน) ดังนั้นในช่วงนั้น 178 ก็จะต้องมาจอดที่นครปฐมสักพักหนึ่ง น่าจะราวๆ 20 นาที จนได้เวลาที่ 354 ต้องออกจากนครปฐม จำไม่ได้ว่า 04.50 หรือ 05.00 น. จึงจะออกจากนครปฐมไปพร้อมกัน และจะถึงธนบุรีเวลา 06.06 น. ต่อมาเมื่อ 354 ยุบไป 178 จึงกำหนดให้เดินตามเวลาของ 354 ถึงธนบุรี 06.06 น. เหมือนเดิม

ก่อนที่ 178 จะหยุดรับส่งทุกสถานีตั้งแต่นครปฐมตลอดธนบุรีนั้น ตามกำหนดเวลาเดิม เมื่ออกจากนครปฐมแล้วจะหยุด นครชัยศรี วัดงิ้วราย ศาลายา ศาลาธรรมสพน์ ชุมทางตลิ่งชัน จรัญสนิทวงศ์ และธนบุรี ในปัจจุบันเมื่อหยุดทุกสถานี เท่ากับรถหยุดเพิ่มมา อีก 6 สถานี/ที่หยุดรถเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับเวลา ก็ไม่คิดว่าจะทำให้เสียเวลาเพิ่มขึ้นเท่าไหร่นัก (เนื่องจากก่อนที่ 178 จะเดินเหมือนปัจจุบัน ผมจำเวลาไม่ได้ แต่เดาว่าน่าจะถึงธนบุรีก่อน 06.00 น. ประมาณ 20-30 นาทีเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเทียบปัจจุบัน ก็เพิ่มมาแค่ประมาณ 30 นาที )

ปัญหาที่ 178 ล่าช้าจนส่งผลกระทบต่อ 255 ในตอนเช้านั้น ไม่ได้เกิดจากการที่ 178 หยุดทุกสถานีแต่อย่างใด แต่เกิดจาก

1. ความล่าช้าของ 255 ในตอนกลางวัน ที่เมื่อออกจากหัวหินไปแล้ว ขบวนรถนี้หยุดทุกสถานี หากวันไหนมีปริมาณการโดยสารหนาแน่นก็จะทำให้รถช้าเพิ่มขึ้นได้

2. การหลีกให้ขบวนรถอื่นของ 178 ในตอนกลางคืน ซึ่งประเด็นนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป็นรถเร็วที่ปรับศักดิ์ขึ้นมา ดังนั้น priority ของขบวนรถจึงควรต้องตามหลังขบวนอื่น เว้นแต่ในบางกรณีที่อาจให้ขบวนอื่นรอหลีกด้วยเหตุจำเป็นในการเดินรถ

3. รถจักรชำรุด ซึ่งเป็นปัญหาที่สืบเนื่องมานาน ประกอบกับรถจักรของธนบุรีเองก็ไม่ได้สมบูรณ์ 100% ทุกคัน

อย่างไรก็ตาม หลายครั้งก็พบว่า ข.178 นั้นถึงธนบุรีตามเวลาหรือช้ากว่าเวลาเล็กน้อย ทำให้เตรียมรถทำ 255 ได้ทัน อันที่จริงการเตรียมรถนั้น สามารถกระทำได้ในเวลาไม่เกิน 30-40 นาทีเท่านั้น แม้ 178 จะช้าไปสัก 30-40 นาที ก็สามารถทำให้ 255 ออกตามเวลาได้เช่นกัน

[lovelovecat]

นั่งรถขบวน177/178เมื่อนั่งได้301กิโลเมตรขึ้นไป เมื่อเทียบกับรถเร็วขบวนอื่นจะคุ้มค่ากว่าครับ โดยเฉพาะ171/172 ชั้น3ฟรี
คนเเน่นก็จริง เเต่ใช้เวลาน้อยกว่าครับ เลือกเวลากับเงินไว้ก่อน ความสะดวกสบายกับไปเรื่อยๆไว้ทีหลังครับ
_________________
ชอบนั่งรถดีเซลราง THN/NKF ชอบกอดดีเซลราง ชอบฟังเสียงเครื่องยนต์ดีเซลรางดังสะใจมาก
กซข.1104 1115 1118 1121 1129 1130 1132 1138 1215 1217 1219 1225 1232 1248 1249 1259 1263

[lovelovecat]

น่าจะให้ขบวน177/178 เปลี่ยนเป็นรถดีเซลรางเลยก็ได้ จะได้ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสถึงความเจริญรุ่งเรืองของเส้นทางสายใต้ในอดีตบ้าง

เรื่องมีอยู่ว่า

บ้านผมที่ชุมพร คนเขาเรียกติดปากขบวน177-255/178-254กันว่ารถดีเซลราง ตอนเด็กๆผมก็คิดว่า หัวรถจักรคือดีเซลราง
เเต่พอมาดูจริงๆมันไม่ใช่ ผมจึงรู้จักคำว่า"รถดีเซลราง"ครับ สมัยก่อนเป็นรถดีเซลราง สงสัยรถดีเซลรางปัจจุบันไม่พอที่จะวิ่งเเล้วเเน่ๆเลย
------------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าพูดถึงรถเร็วนี้ ถ้าเป็นรถดีเซลราง ก็น่าจะมีสัก8โบกี้
THN/NKF 8โบกี้ 2ชุด(คล้ายๆกับเอา2ขบวนมาพ่วงกันไงครับ ชุดเเรก 4กซข. ชุดสองเหมือนกับชุดเเรก พ่วงเข้าด้วยกัน)
หรือ RHN 4ชุด 8โบกี้ จะได้มีกลิ่นไอของความเป็นอดีตบ้าง เเถมคุ้มค้าอีกต่างหาก ขนาด105/106 ราคาพอๆกับ 111/112 ยังวิ่งเร็วกว่าเลย

ผมไม่ชอบเรียกติดปากครับ มันดูไม่ตรงกับความจริงในปัจจุบัน ก็รู้สึกรำคาญเหมือนกันครับ
เรียกทำไมก็ไม่รู้ เรียก"รถดีเซลราง" อยู่ได้ ถ้าเป็นรถเร็ว105/106 ผมจะไม่เถียงเลยครับ คนเขาก็เข้าใจผิดมั่วๆกันไปใหญ่เลย
เปลี่ยนได้ก็ดี จะได้เรียกติดปากให้สมใจไปเลยครับ เพราะสายอื่นวิ่งทั่วเเล้ว ยกเว้นสายใต้วิ่งถึงเเค่สวนสนฯ(THN/NKF)ครับ

เมื่อก่อน ขบวน175/176 ก็เคยมีรถดีเซลรางวิ่งเหมือนกัน ตอนนี้สงสัยถูกส่งไปกรุงเทพหมดเเล้ว เสียดายจัง
_________________
ชอบนั่งรถดีเซลราง THN/NKF ชอบกอดดีเซลราง ชอบฟังเสียงเครื่องยนต์ดีเซลรางดังสะใจมาก
กซข.1104 1115 1118 1121 1129 1130 1132 1138 1215 1217 1219 1225 1232 1248 1249 1259 1263

[lovelovecat]

ข้อดีของ177/178 ถ้าเปลี่ยนเป็นรถดีเซลรางก็คือ
1.เพิ่มจำนวนคนมาใช้บริการมากขึ้น เพราะรถดีเซลรางมีที่ให้จับเวลายืน รถโดยสารธรรมดาก็มีเเต่เเบบโถงเท่านั้น
2.ราคาค่าโดยสารคุ้มกว่า เมื่อเทียบกับรถขบวนอื่นๆ(เหมือนขบวน105/106ครับ)
3.เวลาเป็นรถเร็วกลางคืน ถ้า177ช้า ก็สามารถวิ่งหนีขบวน85 ไม่ให้ไล่ทันกันได้ ถ้า178ตามเวลา 86ช้าก็สามารถวิ่งหนีได้เช่นกัน
4.เป็นทางเลือกหนึ่งของผู้โดยสารที่ต้องการไปทำงาน
5.สามารถทดเเทนเวลาที่เสียไปได้หากใช้ปดร.177/178เดิมในปัจจุบัน(ก็เเค่ให้ดีเซลรางวิ่งเท่าๆกับรถจักรก็ได้ จะได้ตามเวลา ถ้าหากว่าช้าก็ให้วิ่งเหมือนดีเซลรางทั่วๆไปครับ)
6.เสียเวลาน้อยลง หากไม่เกิดเหตุการณ์ดีเซลรางชำรุดขึ้นมาครับ
7.คนจะได้เรียกติดปากกันให้สมใจไปเลยว่า "รถดีเซลราง" ไม่ต้องรำคาญอยู่
8.(ปกติเเล้วเป็นคนชอบรถดีเซลราง) เสียงเครื่องยนต์ดังได้ใจดี นึกถึงรถเมล์ทุกครั้ง
9.สามารถตีกลับได้ทันเวลาเเทบทุกครั้ง เช่น ปัจจุบันบางครั้ง 255ถึงชุมพรประมาณเกือบ3ทุ่ม ส่งผลให้ต้องวิ่งถึงเเค่ชุมพรเเล้วทำกลับธนบุรีเลย ทำให้ต้องใช้ชุดรถขบวน445/446 ไปส่งคนที่หลังสวน เเล้วคนที่รอขึ้นหลังสวนไปธนบุรีก็เกิดอาการโวยวายกันยกใหญ่ ทำให้เดือนร้อนเเละเสียความรู้สึกเอามากๆ เมื่อพอเป็นรถดีเซลราง ก็จะวิ่งเร็วขึ้น ทำเวลาได้ดีขึ้นถ้าใช้ ปดร.เดิมในปัจจุบัน
10.สามารถหนีขบวนที่เเซงทันได้ ได้เเก่85/86 42+44 เป็นต้น ถ้าในกรณีที่ขบวนพวกนั้นช้า

ข้อเสีย
1.ถ้าหากว่าดีเซลรางชำรุดขึ้นมา ก็ต้องเอาหัวรถจักรมาลากอยู่ดี เท่ากับว่าเสียเวลาพอๆกับ177/178ในปัจจุบัน
2.ถ้าเป็นปดร.รถดีเซลรางทั่วไป จะต้องเปลี่ยนหลีก เเละเปลี่ยนเวลาที่เเซงขบวนรถอีกด้วย ในปัจจุบัน42+44เเซง178เเถวๆกุยบุรีครับ เมื่อเปลี่ยนเป็นรถดีเซลราง ถ้าวิ่งเเบบปกติ ก็อาจจะเปลี่ยนไปเเซงเเถวๆนครปฐมเลยก็เป็นไปได้ครับ ซึ่งจะเสียเวลาในการคำนวณ เกี่ยวกับเรื่องนี้
3.หากรถดีเซลรางมีใช้ไม่พอก็จะต้องใช้หัวรถจักรตามเดิม
4.ถ้า86จะออกจากหลังสวนก่อน178 ดังนั้นถ้าหากว่า เป็นรถดีเซลราง 178ก็ไม่สามารถเเซงขบวน86ได้เลย คล้ายกับกรณีขบวน105
5.เเล้วถ้าวันไหนดีเซลรางเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา อาจไม่พอใช้ ก็ต้องใช้รถจักร+บชส.อยู่ดี
_________________
ชอบนั่งรถดีเซลราง THN/NKF ชอบกอดดีเซลราง ชอบฟังเสียงเครื่องยนต์ดีเซลรางดังสะใจมาก
กซข.1104 1115 1118 1121 1129 1130 1132 1138 1215 1217 1219 1225 1232 1248 1249 1259 1263

[SpyBT]

อย่าว่าแต่เรียกรถจักรว่าดีเซลรางเลยครับ คนในปัจจุบัน ที่ไม่รู้จริงๆ มักเรียกดีเซลรางด่วนพิเศษ ว่า สปริ้นเตอร์ อยู่เลยครับ ผมต้องคอยอธิบาย คอยเถียง ว่ามันไม่ใช่ ตอนนี้สายใต้ ไม่เจอ สปริ้นเตอร์นานมากแล้วครับ เจอแต่แดวูตลอด

ส่วนรถดีเซลราง ที่นำมาวิ่งสั้นๆ ผมอยากให้เกิดขึ้นมากๆ จะต่อขึ้นเองก็ได้ เครื่องรถทัวร์เชียงกงเยอะแยะไป อะไหล่ก็หาไม่ยาก เดี๋ยวคืนนี้จะนอนฝันดูครับ

[RORONOA]

ผมว่า 177/178/255/254 ไม่เหมาะที่จะเปลี่ยนดีเซลรางตอนนี้ เพราะอย่าลืมว่าขบวนรถทั้งสี่ขบวนนี้ จะพ่วงบพห.บสพ.ไปด้วย(แต่เดี๋ยวนี้ขาดแคลนจึงเอาบชส.ปกติมาแทน) ซึ่งจะใช้ในการรับ-ส่งหีบห่อวัตถุ ไปยังสถานีย่อยๆซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกได้มาก เฉพาะสถานีบ้านโป่ง จะต้องมีบะหมี่ส่งไปที่หัวหินทุกเช้า ถ้าขบวน255 รวมถึงอะไหล่ อุปกรณ์รถยนต์ ที่บางวันมีมากกว่า 30 ชิ้น ถ้าขาดรถช่วยรับส่งสินค้าชุดนี้ไปลำบากน่าดูเลยนะครับ เว้นแต่จะแก้ไขระเบียบให้รถดีเซลรางสามารถรับ-ส่งหีบห่อวัตถุด่วนได้
ถ้าจะให้ปรับปรุง 177/178 แนะนำว่าขบวน 177 สมควรปรับเวลาให้เดินก่อน 167 และ 173 เพื่อแบ่งผู้โดยสารระยะใกล้กลาง มาขึ้นขบวนนี้แทน เพราะเท่าที่สังเกตผู้โดยสารที่ขึ้นขบวนนี้ส่วนใหญ่จะมีแต่ลูกค้าประจำที่รู้ว่ารถว่างนั่ง(นอน)สบาย และการปรับเวลาเร็วขึ้นจะช่วยให้ 254 ล่าช้าน้อยลง ส่วน 178 ผมว่าเวลาค่อนข้างดีแล้ว แต่ถ้าปรับเวลาต้นทางให้เร็วกว่านี้เล็กน้อย ให้มาก่อน 168/86 น่าจะดี อีกอย่างคือไหนๆ ขบวนนี้ก็เผื่อเวลาไว้มากแล้ว น่าจะเพิ่มสถานีหยุดรับส่งผู้โดยสาร อย่างเช่น ต้นสำโรง หนองปลาดุก เจ็ดเสมียน หนองจอก วังก์พง ปราณบุรี สามร้อยยอด ห้วยยาง ห้วยสัก คลองวังช้าง สะพลี เข้าไปด้วย