RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311280
ทั่วไป:13261441
ทั้งหมด:13572721
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวทางรถไฟสายอุบลราชธานี-ช่องเม็ก
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวทางรถไฟสายอุบลราชธานี-ช่องเม็ก
Goto page Previous  1, 2, 3, 4  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 28/02/2011 2:26 pm    Post subject: Reply with quote

^^
ถ้ามีรถสองแถวเดินจาก ตัวเมืองอุบลมาที่ วิทยาลัยเทคนิควารินทร์ก็ไม่มีปัญหาแน่
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 08/03/2011 12:21 am    Post subject: Reply with quote

เร่งรถไฟทางคู่เชื่อมสปป.ลาว

เขียนโดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหา Real Estate - อสังหาฯ-คมนาคม
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 04 มีนาคม 2011 เวลา 11:33 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,615 6-9 มีนาคม พ.ศ. 2554

สนข.เล็งของบปี 55 ศึกษา-ออกแบบก่อสร้าง ขยายโครงข่ายรถไฟทางคู่เส้นทาง อ.วารินชำราบ-อุบลราชธานี-ช่องเม็ก ระยะทาง 80 กิโลเมตร ต่อเชื่อมสปป.ลาว รับการเปิดเขตเสรีการค้าอาเซียน

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า เตรียมขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลตามแผนปฏิบัติการในปี 2555 ที่กระทรวงคมนาคมจะเร่งขยายโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เพิ่ม โดยสนข.อยู่ระหว่างการจัดทำแผนงบประมาณปี 2555 จำนวน 85 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ศึกษาความเหมาะสม และออกแบบก่อสร้างรวมถึงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เส้นทางรถไฟทางคู่จากอำเภอวารินชำราบ ไปยังตัวจังหวัดอุบลราชธานี และให้เชื่อมต่อไปยังด่านช่องเม็กที่สามารถเชื่อมชายแดนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)ได้

ปัจจุบันเส้นทางรถไฟทางคู่ที่ต่อเชื่อมไปยังชายแดนช่องเม็กที่ติดต่อกับชายแดนสปป.ลาวยังไม่มี จะไปสิ้นสุดแค่อำเภอวารินชำราบเท่านั้น จึงต้องเร่งรัดการก่อสร้างทางคู่และขยายโครงข่ายไปทางภาคอีสานเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้าที่แต่ละปีคิดเป็นมูลค่าสูงกว่า 5,500 ล้านบาท สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มน้ำมันดีเซล เหล็กกล้า และส่วนประกอบรถยนต์ โดยโครงการนี้มีระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร มูลค่าการก่อสร้างประมาณ 10,000 ล้านบาท

"สนข.จึงเห็นว่าควรที่จะมีการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในเส้นทางดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อขยายเส้นทางรถไฟรองรับการค้าชายแดน และยังถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะในปี 2558 ที่จะเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนขึ้นในภูมิภาคนี้ คาดว่าจะนำเสนอแผนไปยังกระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) และคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้เร็วๆนี้"


นางสร้อยทิพย์ กล่าวอีกว่า ในปี 2554 ได้เร่งดำเนินการสรุปผลการศึกษาและออกแบบเบื้องต้นและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นระบบรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางโดยจะส่งผลให้ภายในปี 2558 ประเทศไทยจะมีทางรถไฟเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 1,000 กิโลเมตรจากปัจจุบันมีทางรถไฟประมาณ 4,000 กิโลเมตรและตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 เห็นชอบแผนพัฒนารถไฟทางคู่ 5 เส้นทางระยะเร่งด่วน (2553-2557) ระยะทาง 767 กิโลเมตร วงเงิน 66,100 ล้านบาทประกอบด้วย

1.ลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กิโลเมตร วงเงิน 7,860 ล้านบาท
2.มาบกะเบา -ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงิน 11,640 ล้านบาท
3.ชุมทางถนนจิระ- ขอนแก่น ระยะทาง 185กิโลเมตร วงเงิน 13,000 ล้านบาท
4.นครปฐม-ชุมทางหนองปลาดุก ระยะทาง 165 กิโลเมตร วงเงิน 16,600 ล้านบาท และ
5. ประจวบศีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 17,000 ล้านบาท

ส่วนความคืบหน้าทั้ง 5 เส้นทาง ขณะนี้ สนข.อยู่ระหว่างการศึกษาและออกแบบเบื้องต้น การศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น ระบบรถไฟทางคู่ 3 เส้นทางเร่งด่วนระยะทางรวม 415 กิโลเมตร ประกอบด้วย

1. ช่วง มาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ,
2. ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ,
3. ช่วงนครปฐม - ชุมทางหนองปลาดุก - หัวหิน

ส่วนอีก 2 เส้นทางคือ ช่วงชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น วงเงินประมาณ 150 ล้านบาท และช่วงประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร วงเงินประมาณ 164 ล้านบาท คาดว่ากระทรวงคมนาคมจะเห็นชอบให้เปิดขายซองประกวดราคาก่อสร้างได้ในช่วงปลายปี 2554
Back to top
View user's profile Send private message
nutsiwat
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 03/03/2011
Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร

PostPosted: 08/03/2011 9:52 am    Post subject: Reply with quote

อยากจะให้ทางรถไฟของเรามีรางคู่ทั่วทั้งประเทศ แต่ในตอนนี้ก็ค่อย ๆ ขยายที่ละส่วนไปก่อน ผมอยากจะเห็นทางรถไฟสายนี้ เป็นเส้นทางรถไฟลอยน้ำเหมือนแบบสายแก่งคอย - บัวใหญ่ จัง อย่างน้อย ๆ ก้อขอเป็นเส้นทางรถไฟลอยน้ำสัก 1 - 2 กิโลเมตร ก็ดีนะครับ จะได้มีการบูมการท่องเที่ยวสายนี้ด้วยนะครับ และอีกอย่างเส้นทางจะได้ไม่อ้อมอ่างเก็บน้ำมาก เป็นการร่นระยะทางและเวลาด้วยนะครับ
Back to top
View user's profile Send private message Yahoo Messenger MSN Messenger
Bogieman
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 02/07/2009
Posts: 104
Location: สายอีสานใต้

PostPosted: 08/03/2011 1:39 pm    Post subject: Reply with quote

bigbigtee wrote:
Wisarut wrote:
^^^
หลังจากการตรวจสอบโดยละเอียดแล้ว พบว่า สถานีอุบลราชธานีแห่งใหม่ จะอยู่ไม่ไกลจาก วิทยาลัยการอาชีพวารินชำราบ ถนนวารินกันทรลักษณ์ (ทางหลวง 2085) หมู่ 7 ตำบลแสนสุุข อำเภอ วารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี - ไกลจาก ตัวเมือง วารินชำราบ 7 กิโลเมตร และ ไกลจาก ตัวเมือง อุบลราชธานี 10 กิโลเมตร ... ข้อนี้น่าคิด แฮะ เพราะ พอไปสำรวจตอนบน ตั้งแต่ กุดปลาขาว กุดศรีมังคละ แล้ว ถึงได้รู้ว่า เขาต้องการลดต้นทุนโดยไม่ต้องผ่านบึงและที่ลุ่มเหล่านั้น Rolling Eyes

พ้นจากถนนวารินกันทรลักษณ์ (ทางหลวง 2085) ก็เป็น ถนนเดชอุดม (ทางหลวง 24), ถนน สถลมารค (ทางไป อบต. แสนสุข) ถนน อุบล ตระการพืชผล (ทางหลวง 231), และ ตัดกับ ทางหลวงชนบทอีกหลายสาย จนมาถึง บริเวณที่จะเป็น สถานีสว่างวีรวงศ์ ที่ บ่้านโดนเต่าเต็ก - วัดโคกสมบูรณ์ บนทางหลวงชนบท 3050 ก้อนจะตัดกับ บนทางหลวงชนบท 3050 เป็นคำรบ 2 ที่ ตำบลแก่งโดม และ ตัดถัีบ ถนน สถิตย์นิมานการ (ทางหลวง 217) แถว บ้านโนนเจริญ (ไม่ไกลจากโรงสีทวีโชค) - ห่างจาก พิบูลมังสาหาร 7-8 กิโลเมตร จากนั้นต้องสร้างสะพาน ฃ้ามคลอง แถว บ้านกุดชมพู ส่วนที่ตั้งที่เหมาะสมที่สุด สำหรับสถานีสิรินธรเห็นจะได้แก่ แถววัดกว้าง ก่อนข้าม ห้วยกว้าง เพราะ มีถนน ดินลูกรังไปบ้านหินลาด ที่พอจะ ยกระดับ ให้เป็นถนนคอนกรีต ได้

จากนั้นจึงข้ามห้วยกว้าง ลำโดมน้อย ทางหลวง 2173 ค่อยลงตรงช่องเม็ก ในแผนที่ผ่าไปอยู่ทางเหือ ช่องเม็ก 10 กิโลเมตร - ไกลไป - น่าจะลงมาอีก


ทำไม สถานีรถไฟอุบลราชธานีแห่งใหม่ ถึงอยู่ไกลจากบ้านผมจังแฮะ ทุกวันนี้บ้านผมที่วารินฯ อยู่ห่างจากสถานีรถไฟเพียง 1 กม. เท่านั้นเอง ถ้าได้ย้ายไปจริงกลัวจะได้เสียค่ารถโดยสารเพิ่มขึ้นน่ะสิ Rolling Eyes

ถนนวารินชำราบ-หนองงูเหลือม สาย 2178 รึป่าวครับ ไม่ใช่ 2085 ถ้าทางหลวง 2085 จะเป็นสาย กันทรารมย์-กันทรลักษ์ ส่วนเรื่องรถโดยสาร ก็มีรถสายอุบล-กันทรลักษ์ ซึ่งออกทุกๆ 30 นาที ผ่านตลอดอยู่แล้ว กับสองแถวสายอะไรก็ไม่รู้ สีชมพู ที่ไปทางวัดหนองป่าพง โดยรวมแล้วก็ถือว่า เดินทางไม่ยากเท่าไรครับ กับสถานีอุบลราชธานี(ใหม่) แห่งนี้
_________________
I LOVE ROTFAITHAI
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
srinopkun
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2010
Posts: 2877
Location: นครปฐม

PostPosted: 08/03/2011 1:41 pm    Post subject: Reply with quote

ระยะทางถนนจากอุบลไปด่านช่องเม็ก 85 กม.

ถ้ามองในจุดนี้ อืม ..... เป็นไปได้ ระยะทางไม่ไกล ใช้งบไม่มาก




แต่ .......

ตัดไปช่องเม็กทำไมล่ะ ? ไปขนส่งสินค้า, ขนส่งคน หรือทั้งสองอย่าง

..... หรือไม่ใช่ทั้งสองอย่าง




ด่านชายแดนช่องเม็กทุกวันนี้ ปริมาณการขนส่งคน - สินค้า ยังไม่มากพอที่การลงทุนระบบรางจะสามารถคุ้มค่าการลงทุนได้เลย

(ที่ด่านช่องเม็ก แม้จะมีโกดังสินค้า แต่ก็ดูเล็กน้อยซะเหลือเกิน)




อีกทั้งทาง สปป.ลาวเองจะเริ่มโครงการการรถไฟจริงจังได้ตามที่แจ้งหรือเปล่าไม่รู้

(ดูอย่้างสถานีท่านาแล้งสิ .... เงียบเหงาทุกครั้งที่ไปเยือน เฮ้อ ....)



รอให้ทางโน้นเค้าถมดินทำคันทางมาถึงวังเต่าซะก่อน เราค่อยถมดิน อัดหิน วางรางไปหายังได้

(ปากเซ - วังเต่า 45 กม. / อุบล - ช่องเม็ก 85 กม.)

ถนนเส้นใหม่ ลัดจากปากเซไปจำปาสัก ยังไม่รู้ว่าปี 2554 เนี่ย จะได้วิ่งหรือเปล่าเลย



ผมไปเรื่อยแหละ ฝั่งโน้นน่ะ

ข้ามด่านทุกด่านชายแดนแล้ว

ฮิ ฮิ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 08/03/2011 3:56 pm    Post subject: Reply with quote

^^^
นั่นแหละ อาการของโรค The Field of Dream Syndrome => built & They'll come.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44502
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/03/2011 5:37 pm    Post subject: Reply with quote

The Field of Dream Syndrome ที่ว่านี้
เห็นได้ชัดมาก กับท่าเรือต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นในยุคหนึ่ง
และที่จะสร้างในยุคต่อไปครับ
นอกจากแหลมฉบังกับคลองเตยแล้ว ยังไม่เห็นท่าเรือไหนใช้งานได้จริงเลยครับ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 19/04/2011 11:59 am    Post subject: Reply with quote

สนข.เล็งขอ700ล.จ้างทำแผนโครงข่ายฯ
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหาฯ Real Estate
ออนไลน์เมื่อ วันอังคารที่ 12 เมษายน 2011 เวลา 11:34 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,627 17-20 เมษายน พ.ศ. 2554

พีระพล ถาวรสุภเจริญสนข.ชงของบปี 2555 กว่า 700 ล้านบาท จ้างศึกษาและจัดทำแผนแม่บทโครงข่ายคมนาคมทั้งในพื้นที่กทม.และต่างจังหวัด จับตางบรถไฟรางคู่ 2 เส้นทางมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท ส่วนเส้นทางรถไฟอุบลราชธานี-ช่องเม็กมีลุ้นขอรับงบ 15 ล้านบาทเพื่อการศึกษา ด้านภาพรวมงบประมาณปี 2555 คาดว่าจะได้รับมากกว่าปี 2554 ส่วนใหญ่เป็นงบผูกพันปี 2554-2556

แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ได้เตรียมนำเสนอของบประมาณปี 2555 ภายใต้กรอบวงเงินจำนวน 757 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าจ้างศึกษาและพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.)-ปริมณฑลและต่างจังหวัด คาดว่าจะได้รับประมาณ 451 ล้านบาท ส่วนในปี 2554 ที่ผ่านมาได้รับอนุมัติงบเพียง 408 ล้านบาท โดยจัดเป็นงบว่าจ้างที่ปรึกษาสูงถึง 272 ล้านบาท

"ในปีนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นงบผูกพัน ทั้งของหน่วยงานกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมการบินพลเรือน การรถไฟฯ เป็นต้น โดยคาดว่าจะใช้งบว่าจ้างที่ปรึกษาประมาณ 316 ล้านบาท ซึ่งการเร่งพัฒนาเพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียน จึงต้องเร่งบูรณาการในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไปพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาจราจรในเมืองใหญ่ การใช้เทคโนโลยี ตลอดจนการปฏิบัติตามกฎการใช้คาร์บอนคาร์บิเนต ซึ่งตามนโยบายของผู้บริหาร สนข.เมื่อหน่วยงานนั้น ๆ มีความเข้มแข็งก็จะปล่อยให้ปฏิบัติงานด้วยตนเอง เช่น การก่อตั้งสำนักงานพัฒนาระบบตั๋วร่วมที่อยู่ระหว่างการผลักดันหากสามารถยืนหยัดอยู่ได้ก็จะไปริเริ่มดำเนินการในส่วนอื่นต่อไป"

ด้านนายพีระพล ถาวรสุภเจริญ ผู้อำนวยการสำนักแผนงาน สนข.กล่าวว่า การใช้งบประมาณปี 2555 ของสนข.นั้นมี 3 ส่วนหลักๆ คือค่าวัสดุครุภัณฑ์ ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง และค่าจ้างที่ปรึกษา โดยเฉพาะงบประมาณเพื่อการจ้างที่ปรึกษานั้นพบว่าปี 2555 มีจำนวนมากถึง 316,788,800 บาท โดยโครงการที่น่าสนใจได้แก่งบเพื่อการศึกษาระบบรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง และการออกแบบทางรถไฟสายใหม่ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี การบูรณาการโครงข่ายถนน สะพานข้ามแม่น้ำพื้นที่กทม.-ปริมณฑล ค่าพัฒนาระบบการเดินทางเชื่อมต่อบริเวณศูนย์คมนาคมพหลโยธิน

สำหรับรายละเอียดตามแผนงานสนข.ปี 2555 ประกอบไปด้วย

1.ค่าจ้างศึกษาและจัดทำแผนแม่บทบูรณาการด้านการจัดระบบการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 28 ล้านบาท

2.ค่าจ้างศึกษาและพัฒนาเส้นทางอัจฉริยะเข้า-ออกกรุงเทพมหานคร(ITC) และการปรับปรุง บำรุงรักษา ระบบบูรณาการข้อมูลด้านการจราจรและขนส่งอัจฉริยะ 37 ล้านบาท

3.ค่าจ้างศึกษาแก้ไขปัญหาการจัดการจราจรระยะสั้นเร่งด่วนแบบเบ็ดเสร็จในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ขอนแก่น และนครราชสีมา 15 ล้านบาท

4. ค่าจ้างศึกษาและออกแบบทางรถไฟสายใหม่ เส้นทางอุบลราชธานี-ช่องเม็ก 71 ล้านบาท

5. ค่าจ้างศึกษาการเชื่อมต่อการเดินทางของผู้โดยสารจากระบบขนส่งมวลชนบริเวณคูคต 3 ล้านบาท

6. ค่าจ้างศึกษาประเมินศักยภาพและการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและบริการระบบขนส่งของไทยสำหรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 13 ล้านบาท

7. ค่าจ้างศึกษาพัฒนาระบบการเชื่อมต่อการเดินทางบริเวณศูนย์คมนาคมพหลโยธิน 15 ล้านบาท

8. ค่าจ้างศึกษาจัดทำแผนเร่งด่วนในการปรับปรุงเบ็ดเสร็จบนถนนสายหลัก 9 ล้านบาท

9.ค่าจ้างศึกษาสำรวจการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อพัฒนาระบบโครงข่ายด้านขนส่งและจราจรในเขตพื้นที่กลุ่มยุทธศาสตร์ชายแดนจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน 1(จ.อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย และเลย) 9 ล้านบาท

10.ค่าจ้างศึกษาพัฒนาปรับปรุง บำรุงรักษาฐานข้อมูลข้อสนเทศและแบบจำลองเพื่อบูรณาการขนส่งและจราจร การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบและระบบโลจิสติกส์ 15 ล้านบาท

11. ค่าจ้างศึกษาจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาและบูรณาการโครงข่ายถนน สะพานข้ามแม่น้ำและการจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล 10 ล้านบาท

12. ค่าจ้างศึกษาการพัฒนาปรับปรุงรักษาศูนย์เทคโนโลยีและการสื่อสารเพื่อการบูรณาการข้อมูลด้านการจราจรและขนส่งอัจฉริยะ การจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบการจราจรและขนส่งอัจฉริยะปี 2555-2560 จำนวน13 ล้านบาท

13.ค่าจ้างศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่เพื่อการขนส่งและการจัดการโลจิสติกส์(ระยะเร่งด่วน ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น) 84 ล้านบาท

14. ค่าจ้างศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่เพื่อการขนส่งและการจัดการโลจิสติกส์(ระยะเร่งด่วน ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร) 76 ล้านบาท

15. ค่าจ้างศึกษาสำรวจการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อพัฒนาระบบโครงข่ายด้านการขนส่งและจราจรในเขตพื้นที่กลุ่มยุทธศาสตร์ชายแดนจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2(จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน) 5 ล้านบาท

16. ค่าจ้างศึกษาพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าในเส้นทางการขนส่งโลจิสติกส์ในแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ และตะวันออก-ตะวันตก ระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน 9 ล้านบาท

17. ค่าจ้างศึกษาเพื่อจัดทำแผนแม่บทในการพัฒนาระบบการขนส่งที่ยั่งยืนและลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ

18. ค่าจ้างศึกษาและพัฒนาระบบงานบริหารสำนักงานอัตโนมัติของ สนข. 3 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 22/08/2011 10:55 am    Post subject: Reply with quote

'ชัจจ์' ดันรถไฟเข้าเขมร-สปป.ลาว

โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหา Real Estate - อสังหาฯ Real Estate
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2011 เวลา 12:49 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,663 21- 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554


"ชัจจ์" หนุนรถไฟทางคู่เชื่อมชายแดนกัมพูชา-สปป.ลาว ขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตรให้สอดรับกับระบบรางประเทศเพื่อนบ้าน เล็งเลิกรางขนาด 1 เมตรทีละโซน ส่วนสนข.เตรียมเสนอของบปี 2555 จำนวน 85 ล้านบาท

เพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการขยายโครงข่ายรถไฟทางคู่เริ่มจาก "วารินชำราบ-อุบลฯ-ช่องเม็ก" ระยะทาง 80 กิโลเมตร รองรับการขนส่งจากสปป.ลาว เพิ่มจาก 5 เส้นทางที่นำเสนอไปแล้ว

พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าพร้อมให้การสนับสนุนโครงการรถไฟทางคู่เชื่อมชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชาและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) ที่ปัจจุบันมีแนวเส้นทางอยู่แล้ว แต่เป็นรางเดี่ยวขนาดรางเป็นระบบมิเตอร์เกจ 1 เมตร โดยจะปรับเปลี่ยนให้เป็นขนาดสแตนดาร์ดเกจมาตรฐานราง 1.435 เมตรที่สอดคล้องกับระบบรางของประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งยังมีแนวคิดที่จะรื้อระบบรางขนาด 1 เมตรออกไปจากระบบการรถไฟทั้งหมด โดยจะค่อย ๆ ดำเนินการทีละโซน เนื่องจากเห็นว่าล้าสมัยเกินไป นอกจากนั้นยังต้องการให้มีการผลิตโบกี้และอุปกรณ์อื่น ๆ ขึ้นเองภายในประเทศ เพื่อประหยัดงบประมาณและสร้างองค์ความรู้ขึ้นภายในประเทศมากกว่าจะซื้อจากต่างประเทศเพียงอย่างเดียว ซึ่งสูญเสียงบประมาณแผ่นดินแต่ละปีจำนวนมหาศาล

"เชื่อว่าหากให้บริการที่ทันสมัยมีคุณภาพมาก จะมีผู้ใช้บริการจำนวนมากขึ้น เพราะสามารถเดินทางเชื่อมโยงไปยังกัมพูชา เวียดนาม สปป.ลาวตลอดจนประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ได้สะดวก รวดเร็วมากขึ้น สิ่งสำคัญ การขนส่งสินค้า ก็จะสะดวกมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่จะลดต้นทุนการขนส่งลงไปได้อีกมาก เพราะปัจจุบันไทยมีรางรถไฟไปยังจังหวัดปราจีนบุรีเชื่อมชายแดนกัมพูชา และสปป.ลาว ที่จังหวัดหนองคาย เชื่อมท่านาแล้งรองรับไว้แล้ว แต่ต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ราง แคร่ขนสินค้าเท่านั้น ก็จะให้บริการได้ทันที โดยรัฐพร้อมส่งเสริมด้านโครงสร้างพื้นฐาน และเปิดให้เอกชนให้บริการเดินรถ ซึ่งจะต้องมีการหารือกับส่วนที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง หากสามารถทำได้เร็วเท่าใดก็จะเกิดผลดีมากขึ้นเท่านั้น"

ด้านนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า ตามแผนนั้น สนข.อยู่ระหว่างการเร่งผลักดันให้เดินหน้าขยายโครงการการก่อสร้างรถไฟทางคู่เพิ่มขึ้นในปี 2555 หลังจากที่ในปี 2554 ได้สรุปผลการศึกษาออกแบบและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นในระบบรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ส่งผลให้ภายในปี 2558 ประเทศไทยจะมีทางรถไฟเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 1,000 กิโลเมตรจากปัจจุบันมีทางรถไฟประมาณ 4,000 กิโลเมตร

ทั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตทางด้านการค้า การขนส่งที่ปัจจุบันมีการนำเข้า-ส่งออกผ่านพื้นที่ชายแดนที่ด่านช่องเม็ก อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ไม่ต่ำกว่า 5,500 ล้านบาทต่อปี รวมถึงรองรับนักท่องเที่ยวที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"ขณะนี้สนข.ได้จัดทำแผนงบประมาณปี 2555 จำนวน 85 ล้านบาท เพื่อใช้ในการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการ รวมถึงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเส้นทางรถไฟทางคู่จากอำเภอวารินชำราบ ไปยังตัวจังหวัดอุบลราชธานี และด่านช่องเม็กเชื่อมชายแดนสปป.ลาวระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร มูลค่าการก่อสร้างราว 10,000 ล้านบาท เพื่อขยายเส้นทางรถไฟรองรับการค้าชายแดน และเป็นอีกทางเลือกในการเดินทางของประชาชน และเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนซึ่งจะนำเสนอกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในรัฐบาลชุดใหม่เร็วๆ นี้"

ผอ.สนข.กล่าวอีกว่า พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามแผนได้มีการผลักดันโครงการรถไฟทางคู่ และการขยายโครงข่ายที่จะไปสู่พื้นที่นี้มากขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเชื่อมโยงเพื่อไปช่องเม็ก และรองรับภาคการขนส่งที่มีมูลค่ากว่า 5,500 ล้านบาทต่อปี โดยสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มน้ำมันดีเซล เหล็กกล้า และส่วนประกอบรถยนต์ ส่วนมูลค่าการนำเข้าสินค้าประมาณ 994 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสินค้าไม้แปรรูป ผักผลไม้ และเสื้อผ้าสำเร็จรูปซึ่งได้รับการส่งเสริมในกลุ่มเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขงในปัจจุบันอยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 เห็นชอบแผนพัฒนารถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ระยะเร่งด่วน (2553-2557) วงเงิน 66,100 ล้านบาท ระยะทาง 767 กิโลเมตร ประกอบด้วย

1.ลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กิโลเมตร วงเงิน 7,860 ล้านบาท

2.มาบกะเบา -ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงิน 11,640 ล้านบาท

3.ชุมทางถนนจิระ- ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร วงเงิน 13,000 ล้านบาท

4.นครปฐม-ชุมทางหนองปลาดุก ระยะทาง 165 กิโลเมตร วงเงิน 16,600 ล้านบาท

และ 5. ประจวบศีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 17,000 ล้านบาท

สำหรับความคืบหน้าของโครงการดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยขออนุมัติงบประมาณเพื่อการศึกษา ออกแบบและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นรถไฟทางคู่ 3 เส้นทางเร่งด่วน ระยะทางรวม 415 กิโลเมตร วงเงินรวม 355 ล้านบาท ประกอบด้วย ช่วง มาบกะเบา -ชุมทางถนนจิระ วงเงิน 135 ล้านบาท, ช่วงนครปฐม-ชุมทางหนองปลาดุก-หัวหิน วงเงิน 130 ล้านบาท และช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ วงเงิน 90 ล้านบาทที่ต้องขออนุมัติงบประมาณปี 2555 ต่อไป

ส่วนอีก 2 เส้นทางที่ สนข.ว่าจ้างออกแบบรายละเอียดก่อสร้างไปแล้ว คือ ช่วงชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น วงเงินประมาณ 150 ล้านบาท และช่วงประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร วงเงินประมาณ 164 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44502
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/09/2012 9:15 pm    Post subject: Reply with quote

หอการค้าอุบลฯเสนอขยายรถไฟทางคู่ถึงชายแดน
สำนักข่าวไทย วันศุกร์ ที่ 21 ก.ย. 2555

“นิมิต สิทธิไตรย์” ประธานหอการค้า จ.อุบลราชธานี ได้เสนอขยายถนนเชื่อมช่องเม็กเป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 200 กม.รวมทั้งขยายรถไฟทางคู่ไปถึงชายแดน เพื่อกระตุ้นการค้าชายแดน และเสนอให้พัฒนาท่าอากาศยานอุบลราชธานี เป็นท่าอากาศยานนานาชาติ โดย ก.คมนาคมจะนำความคิดเห็นต่างๆ กลับมาพิจารณาแผนลงทุนขั้นต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4  Next
Page 3 of 4

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©