ข่าวทางด่วนศรีรัช-วงแหวนบนเขตทางรถไฟบางซื่อ-ตลิ่งชัน

[Mongwin]

ประกาศเวนคืนที่ดินแล้วครับ
------
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี และเขตทวีวัฒนา เขตตลิ่งชัน เขตบางพลัด เขตบางกอกน้อย เขตบางซื่อ และเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เป็นกรณีที่มีความเป็นโดยเร่งด่วน
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2555/E/158/7.PDF

[Mongwin]

ได้ฤกษ์ตอกเข็มด่วนศรีรัช 15 ธ.ค. กทพ.ชูทางด่วนไทยเป็นสี่แยก AEC
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤศจิกายน 2555 18:54 น.

“กทพ.”ดันผุดทางด่วนข้ามประเทศรับAECผ่านชายแดน 4 ด่าน ชูระบบทางด่วนไทยต้องเป็นสี่แยกของอาเซียน เผย 15 ธ.ค.นี้ BECL จะเริ่มสร้างด่วนศรีรัชแล้ว ยันเสร็จใน 48 เดือน ส่วนปี 56 เตรียมเสนอขอลงทุนทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ 4 หมื่นล. เชื่อมโครงข่ายให้สมบูรณ์

นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยในโอกาสที่ครบรอบก่อตั้งกทพ.ปีที่ 40 ว่า การก่อสร้างทางพิเศษนอกจากเน้นการเชื่อมโครงข่ายให้สมบูรณ์แล้วยังเน้นโครงข่ายที่รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) ด้วย โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ทางด่วนของไทยเป็นสี่แยกของAEC ซึ่งในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานการลงทุนออกแบบก่อสร้าง บริหารจัดการให้บริการและบำรุงรักษา

โครงการทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 16.7 กิโลเมตร วงเงินรวม 32,816 ล้านบาทจะเริ่มการก่อสร้างโดยใช้เวลาทั้งสิ้น 48 เดือน ขณะนี้การจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินคืบหน้า 60% โดยใช้ที่ดินของเอกชน20% เวนคืนไปแล้วเกือบหมดแล้ว ที่ดินส่วนราชการคือการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.)อีก 80% อยู่ระหว่างประสานงาน ซึ่งไม่มีปัญหาในการทยอยส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาแน่นอน

นอกจากนี้ ยังมีแผนดำเนินการก่อสร้างทางพิเศษอีก 2 โครงการ คือ
1.โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ (N1,N2,N)ระยะทาง 43.2 กิโลเมตร โดยอยู่ระหว่างทบทวนการศึกษาความเหมาะสมกำหนดแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2556 จากนั้นจะเสนอขออนุมัติโครงการ คาดว่าจะก่อสร้างได้ในปี 2558 วงเงินลงทุนกว่า4 หมื่นล้านบาท โดยจะก่อสร้างในช่วง N 2 (สี่แยกเกษตรศาสตร์ -ถนนนวมินทร์) ระยะทาง9.2 กม. และช่วง N 3 (ถนนนวมินทร์ -ถนนศรีนครินทร์จุดบรรจบระหว่างทางพิเศษศรีรัช ) ระยะทาง11.5 กม. ก่อนเนื่องจากมีโครงสร้างตอม่ออยู่แล้ว ซึ่งโครงการจะทำให้การเดินทางจากด้านตะวันออก-ตะวันตกของกทม.ได้สะดวกมากขึ้นโดยไม่ต้องผ่านใจกลางเมือง และ
2.โครงการทางพิเศษสายดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก ระยะทาง 8.8 กิโลเมตร โดยจะก่อสร้างไปบนถนนพระราม 2 คาดว่าจะเริ่มศึกษาได้กลางปี 2556

ส่วนทางพิเศษรองรับAEC จะอยู่บริเวณด่านชายแดน 4 จุด คือ แม่สาย แม่สอด มุกดาหารและสะเดา ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร มีศูนย์บริการธุรกรรมต่างๆ one stop service เช่น ภาษี การผ่านแดน และค่าธรรมเนียมซึ่งจะสะดวกรวดเร็วกว่าการผ่านแดนโดยเส้นทางปกติ ขณะนี้คณะทำงานอยู่ระหว่างเก็บข้อมูลและจะศึกษารายละเอียดโครงการในปี 2556-2557 เบื้องต้นจะลงทุนค่าก่อสร้างและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องแห่งละประมาณ 3,000 ล้านบาท การใช้ทางด่วนผ่านแดนจึงเป็นทางเลือกรองรับธุรกิจที่จะมีการเติบโตและมีมูลค่าการค้าขายข้ามแดนเพิ่มขึ้นจากการเปิดAEC

สำหรับรูปแบบการลงทุนนั้นมี 2 วิธี คือ กทพ.ลงทุนเองหรือ ร่วมทุนกับเอกชน (PPP) โดยจะนำผลศึกษาและนโยบายมาพิจารณาประกอบกัน โดยวิเคราะห์ผลตอบแทนและจุดคุ้มทุนของโครงการ อย่างไรก็ตาม ในปี 2556 ถือเป็นปีที่จะมีการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ เช่น ระบบจราจรอัตฉริยะ (ITS) ที่ตรวจสอบสภาพจราจรบนทางด่วนได้ผ่าน Application สำหรับ สมาร์ทโฟน ซึ่งกทพ.จะร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตำรวจจราจร บก.จร.เพื่อเชื่อมข้อมูลกัน โดยจะให้บริการได้ครบทุกสายทางไม่เกินกลางปี 2556

----

กทพ.ปรับแบบศรีรัชฯเชื่อมรถไฟสีแดง
ข่าวหุ้น Wednesday, 28 November 2012 06:01

กทพ.ปรับแบบศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ตรงพื้นที่บางกรวย ทำทางเชื่อมต่อรถไฟสีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชัน ผู้ว่าฯระบุต้องหารือร.ฟ.ท.และ BECL เพื่อหาเจ้าภาพลงทุน ขณะปีหน้ามีแผนสร้างทางด่วนสายเหนือ 3 เส้นทาง วงเงินกว่า 40,000 ล้านบาท

นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 16.7 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 32,816 ล้านบาท ว่า ล่าสุดต้องมีการปรับแบบบริเวณอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ให้มีทางเชื่อมต่อกับโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชัน เพื่อความสะดวกของผู้ใช้บริการ

โดยต้องมีการหารือระหว่าง 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าใครจะเป็นผู้รับชอบการลงทุน คือ กทพ. การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL เนื่องจาก BECL เป็นผู้รับงาน เริ่มการก่อสร้างวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ระยะเวลาก่อสร้าง 48 เดือน ขณะที่ ร.ฟ.ท. ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการรถไฟสายสีแดง คือผู้ได้รับประโยชน์

นายอัยยณัฐ กล่าวเพิ่มเติมถึงแผนการลงทุนของ กทพ.ว่า ในปี 2556 กทพ.มีแผนดำเนินโครงการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ N1 N2 และ N3 ระยะทางรวม 43.2 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำการศึกษาเสร็จสิ้นในเดือนสิงหาคม 2556 จากนั้นจะเสนอขออนุมัติโครงการกับคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยคาดว่าจะสามารถทำการก่อสร้างได้ในปี 2558 เบื้องต้นมีรูปแบบการลงทุน 2 รูปแบบที่กำลังพิจารณา คือ กทพ.รับผิดชอบการลงทุนเองทั้งหมด หรือใช้วิธีร่วมทุนกับเอกชน (PPP) และหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จคาดว่าจะมีปริมาณการจราจรเกือบ 2 ล้านคันต่อวัน

ทั้งนี้ กทพ.ยังมีแผนก่อสร้างทางพิเศษตามแนวชายแดนเพื่อเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 จุด จุดละ 4 กิโลเมตร คือ ช่องสะเดา แม่สอด แม่สาย และมุกดาหาร ซึ่งจะเริ่มทำการศึกษาปี 2557 ใช้เวลาศึกษา 1 ปี โดยแต่ละเส้นทางจะใช้วงเงินลงทุน 2,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าทางพิเศษดังกล่าวอาจทับซ้อนกับสะพาน ถนน และทางรถไฟที่เชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้ว แต่ กทพ.ถือเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับผู้ใช้บริการ โดยมีจุดเด่นคือการบริการแบบเบ็ดเสร็จด้านค่าธรรมเนียม หรือภาษีต่างๆ ในการผ่านแดนให้กับผู้ใช้ทางพิเศษ นอกจากนี้ กทพ.ยังมีแผนก่อสร้างทางพิเศษในจังหวัดขนาดใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาการจราจรในภูมิภาค ซึ่งจะเริ่มดำเนินการที่จังหวัดเชียงใหม่และขอนแก่นก่อน โดยทำการศึกษาปี 2556 และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2559

[Mongwin]

เวนคืนด่วนศรีรัช-วงแหวนคืบ 70% เชิญนายกฯ วางศิลาฤกษ์ก่อสร้าง
เดลินิวส์ วันอังคารที่ 25 ธันวาคม 2555 เวลา 07:54 น.

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายศรีรัช-ถนนวงแหวนรอบนอก ว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา กทพ. ได้เริ่มส่งมอบพื้นที่ให้กับบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด หรือ บีเอ็มซีแอล ผู้รับเหมาก่อสร้าง เฟสแรกบริเวณพื้นที่ก่อสร้างด่านเก็บค่าผ่านทางจรัญฯ 1 บริเวณสะพานพระราม 7 ใกล้กับสถานีบางกรวย ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชัน ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ซึ่ง กทพ.ได้ประสานขอใช้พื้นที่และได้รับอนุมัติเรียบร้อยแล้ว และได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อชี้แจงรายละเอียดโครงการและทำความเข้าใจกับประชาชนย่านบางกรวยด้วย คาดว่าผู้รับเหมาจะเริ่มทยอยเข้าพื้นที่ภายใน 1 เดือน ส่วนเฟส 2 ที่การทางพิเศษฯเตรียมจะส่งมอบให้ผู้รับเหมาในลำดับต่อไปก็คือ บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต ขณะนี้ กทพ.อยู่ระหว่างประสานขอใช้พื้นที่กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตามแผนจะเร่งส่งมอบเฟส 2 ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน และส่งมอบพื้นที่ทั้งโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 18 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2555 เป็นต้นไป

พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการเวนคืนที่ดินสำหรับก่อสร้างโครงการทางพิเศษศรีรัช-ถนนวงแหวนรอบนอก ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ที่ดินแปลงเปล่า รวมบ้านพักอาศัยของเอกชน กับที่ดินของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของ รฟท.คาดว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะสังกัดกระทรวงคมนาคมเหมือนกัน สำหรับวงเงินค่าเวนคืนที่ดินประมาณ 9,000 ล้านบาท ขณะนี้ผลงานภาพรวม กทพ.ดำเนินการจ่ายเงินทดแทนทั้ง 2 ส่วนคืบหน้าไปกว่า 70% พร้อมกันนี้ กทพ.ได้ทำหนังสือเชิญ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโครงการดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอหนังสือตอบรับอย่างเป็นทางการ สำหรับโครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร เริ่มต้นที่ถนนกาญนาภิเษก บริเวณใกล้ทางแยกต่างระดับฉิมพลี จากนั้นแนวเส้นทางจะใช้พื้นที่เขตทางรถไฟสายตะวันตกข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระราม 6 จนถึงบริเวณบางซื่อ และเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัช บริเวณด้านเหนือของสถานีขนส่งหมอชิต 2 มีระยะทางประมาณ 16.7 กม. ขนาด 6 ช่องจราจร ทางขึ้น-ลง รวม 6 แห่ง จำนวนด่าน 10 ด่าน แบ่งเป็นขาเข้า 6 ด่าน และ ขาออก 4 ด่านโดยใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 48 เดือน กำหนดแล้วเสร็จปี 2558.

[Mongwin]

“กิตติรัตน์” วางศิลาฤกษ์ทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพ
สำนักข่าวไทย TNA News | 18 ม.ค. 2556 15:10

กรุงเทพฯ 18 ม.ค. - นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานวางศิลาฤกษ์โครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ร่วมด้วย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม และ นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)

สำหรับโครงการนี้เป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทางรวมประมาณ 17 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 32,816 ล้านบาท ซึ่งบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับสัมปทานดำเนินโครงการในรูปแบบ Built - Transfer - Operate (BTO) จาก กทพ. ระยะเวลา 30 ปี มีกำหนดก่อสร้างเสร็จ 48 เดือน นับจากวันที่ 15 ธันวาคม 2555 เมื่อเสร็จจะเป็นการขยายโครงข่ายถนนของทางพิเศษในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในทางทิศตะวันตก การก่อสร้างจะเริ่มต้นที่ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร หรือถนนกาญจนาภิเษก โดยจะก่อสร้างขนานกับรถไฟสายใต้ทางฝั่งด้านเหนือ แนวเส้นทางจะข้ามทางรถไฟมาฝั่งด้านใต้ บริเวณถนนราชพฤกษ์แล้ววิ่งต่อไปจะเบี่ยงแนวทางมาด้านเหนืออีกครั้งเพื่อหลบสถานีบางบำหรุ แล้วเบี่ยงกลับมาทางด้านทิศใต้ ข้ามแม่น้ำบริเวณสะพานพระราม 6 สิ้นสุดโครงการบริเวณย่านบางซื่อ ซี่งเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัช บริเวณด้านเหนือของสถานีขนส่งหมอชิต 2 ซี่งสามารถลงสู่ระดับพื้นดินที่บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 ได้

ทั้งนี้ โครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในโครงการภายใต้แผนพื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ซึ่งสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ทำการศึกษาออกแบบโครงการระบบทางด่วนทดแทนโครงการทางด่วนสายพญาไท-พุทธมณฑล แล้วเสร็จเมื่อปี 2548. - สำนักข่าวไทย

[Mongwin]

ไฮสปีดเทรน"หัวหิน"สะดุดตอม่อ เล็งเวนคืนเขตทางเพิ่ม 20 เมตร
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 25 มี.ค. 2556 เวลา 12:29:52 น.

ไฮสปีดเทรนสายใต้ "กทม.-หัวหิน" สะดุดปัญหาไม่มีพื้นที่ว่างตอกเข็มตอม่อโครงการ หลังถูกทางด่วน "ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก" ยึดพื้นที่เต็มเขตทาง จ่อขยายเวนคืนเพิ่มอีก 20 เมตรกระทบชิ่งต้นทุนก่อสร้าง ด้าน "ชัชชาติ" สั่ง สนข.หาทางแก้ปัญหาด่วน หวั่นเป็นตัวถ่วงโครงการสะดุด

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมร่วม 3 หน่วยงาน มีการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงหรือไฮสปีดเทรนสายกรุงเทพฯ-หัวหิน-ปาดังเบซาร์ ที่วางแผนจะก่อสร้างตามแนวรถไฟสายใต้

ทั้งนี้ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการใช้พื้นที่ก่อสร้างโครงการช่วงบางบำหรุ-ตลิ่งชัน ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เพราะปัจจุบันมีการใช้พื้นที่ก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร ซึ่งสร้างเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว

นอกจากนี้ ทาง กทพ.จะขอใช้พื้นที่เพื่อก่อสร้างทางด่วนสายใหม่เชื่อมศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก ระยะทาง 17 กิโลเมตร โดยบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้รับสัมปทาน 30 ปี เป็นผู้ออกแบบและก่อสร้างโครงการ ล่าสุดได้เข้าพื้นที่ก่อสร้างตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

"เพราะฉะนั้นทำให้บริเวณนี้ไม่มีพื้นที่เหลือจะใช้ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ในขณะที่ต้องใช้เขตทางเพื่อสร้างตอม่อและวางรางประมาณ 20 เมตร แต่เขตทางปัจจุบันถูกใช้ไปหมดแล้ว ทำให้ตอนนี้กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างหาทางออกเพื่อให้มีผลกระทบการเวนคืนน้อยที่สุด เพราะหากวางตามรูปแบบเดิมจะต้องเวนคืนเพิ่ม รวมทั้งกระทบต่อต้นทุนก่อสร้างอีกด้วย โดยช่วงแรกจะก่อสร้างจากกรุงเทพฯ-หัวหินก่อน ระยะทาง 225 กิโลเมตร เงินลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท"

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ปัญหาคือการรถไฟฯ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ไม่ยอมยกระดับรางรถไฟที่วิ่งบริการในปัจจุบันขึ้น ทั้งที่ในแบบก่อสร้างในอนาคตจะต้องยกขึ้นหลังจากเปิดบริการสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันอย่างเป็นทางการแล้ว หากเคลียร์กับการรถไฟฯ ได้ก็ไม่มีปัญหา และหากเป็นไปตามนี้ ตามรูปแบบโครงการจะมีทางด่วนอยู่ตรงกลาง ด้านซ้ายจะเป็นรถไฟสายสีแดง ฝั่งขวาจะเป็นรถไฟความเร็วสูง

"บริเวณสถานีกลางบางซื่อที่จะเป็นศูนย์รวมรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ และศูนย์กลางของรถไฟความเร็วสูง ทางการรถไฟฯ แจ้งที่ประชุมว่าไม่มีปัญหา เพราะเคลียร์แบบก่อสร้างร่วมกับการทางพิเศษฯที่จะใช้ที่ดินบริเวณนี้ประมาณ 50,000 ตารางเมตรเรียบร้อย" แหล่งข่าวกล่าว

[Mongwin]

รถไฟสายสีแดงเจอปัญหาผู้บุกรุกเพิ่ม ทำงบฯ รื้อถอนไม่พอ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 มีนาคม 2556 17:33 น.

“ประภัสร์” เผยพบผู้บุกรุกที่ดินรถไฟสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) เพิ่มจาก 500 เป็นกว่า 1,000 หลังคาเรือน เตรียมสำรวจสุดท้ายก่อนเสนอของบฯ รื้อถอนเพิ่มจากเดิมกำหนดไว้เพียง 70 ล้านบาท พร้อมเร่งปรับแบบสถานีกลางบางซื่อ รับรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูงและแอร์พอร์ตลิงก์ เล็งเพิ่มรางแยกวิ่งเพื่อความปลอดภัย เดินหน้าเซ้นจ้างที่ปรึกษาคุมงานก่อสร้างและงานระบบกว่า 1,500 ล้านบาท ส่วนสัญญา 3 (รถไฟฟ้า) คาดเปิดซองเทคนิค เม.ย.นี้ ด้าน ครม.เห็นชอบเพิ่มค่าเวนคืนทางด่วนศรีรัชอีก 605 ล้าน

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังลงนามสัญญาจ้างงานบริการที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต กับกลุ่มบริษัท TEAM Association วานนี้ (26 มี.ค.) ว่า ความคืบหน้าการก่อสร้างงานโยธาสัญญา 1 (สถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง) และสัญญา 2 (งานโยธาสำหรับทางรถไฟ) นั้น ล่าสุดผู้รับเหมาก่อสร้างได้เข้าไปในพื้นที่แล้ว ซึ่งสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง ผู้รับเหมาได้เริ่มการก่อสร้างมาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา และจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี ตามสัญญา ทั้งนี้ได้มีการปรับรูปแบบการก่อสร้างเล็กน้อย โดยเพิ่มราง จาก 3 Track เป็น 4 Track เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูง และรถไฟชานเมืองสายสีแดงและแอร์พอร์ตลิ้งค์ส่วนต่อขยาย (พญาไท-ดอนเมือง) ซึ่งยอมรับว่างอาจจะกระทบต่องบประมาณในการก่อสร้างที่จะเพิ่มขึ้นโดยจะมีการเสนอเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่จากการเพิ่มรางที่ออกแบบไว้จากเดิมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการก่อสร้างให้ล่าช้าออกไป ส่วนเสาและตอม่อโครงการโอปเวลล์เดิมนั้น จากการตรวจสอบพบว่า สามารถนำมาใช้ได้ประมาณ 50% ซึ่งฐานรากของตอม่อโฮปเวลล์ที่ออกแบบไว้มีความแข็งแรงเพียงพอ โดยจะมีการทดสอบความแข็งแรงเพื่อความปลอดภัยอีกครั้งก่อนก่อสร้างแน่นอน

ทั้งนี้ จากการสำรวจล่าสุดยังพบว่า ผู้บุกรุกแนวก่อสร้างของรถไฟสายสีแดงมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยช่วงที่เริ่มออกแบบและสำรวจพบมีผู้บุกรุกประมาณ 500 กว่าหลังคาเรือน ปัจจุบันเพิ่มเป็นกว่า 1,000 หลังคาเรือน ทำให้ต้องเสนอขอเพิ่มงบประมาณในการโยกย้ายผู้บุกรุกที่เดิมตั้งไว้ประมาณ 70 ล้านบาท และจะประสานกับฝ่ายพัสดุกรมบัญชีกลางเพื่อขอว่าจ้างผู้รับเหมาโดยวิธีพิเศษในการโยกย้ายและรื้อถอนด้วย

ส่วนความคืบหน้าในส่วนของสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญา 3 งานระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกล รวมตู้รถไฟฟ้านั้น นายประภัสร์กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำตอบรับจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) ที่ข้อดูข้อมูลทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อความชัดเจน ซึ่งคาดว่าในเร็วๆ นี้จะได้ข้อสรุป จากนั้นถึงจะดำเนินการเปิดซองข้อเสนอด้านเทคนิคได้ภายในเดือนเมษายนนี้

สำหรับงานควบคุมงานก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต มูลค่าสัญญา 1,168,433,400 บาท และ 676,762,500 เยน และควบคุมงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมตู้รถไฟฟ้า ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน มูลค่าสัญญา 89,863,712 บาท

ครม.เห็นชอบเพิ่มค่าเวนคืนทางด่วนศรีรัชอีก 605 ล้านบาท

นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.วันนี้ (26 มี.ค.) เห็นชอบขยายกรอบวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 หรือทางพิเศษศรีรัช ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพิ่มเติมอีก 605 ล้านบาท จากวงเงินทั้งหมดที่ กทพ.ต้องรับภาระ 31,300 ล้านบาท เนื่องจากไม่เพียงพอต่อการจ่ายค่ากรรมสิทธิ์ที่ดิน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 55 ได้เบิกจ่ายไปแล้วจำนวน 31,299.58 ล้านบาท คงเหลือเงินอยู่เพียง 420,000 บาท

[Mongwin]

ร.ฟ.ท.ปัดเวนคืนเพิ่มไฮสปีดเทรนไป "หัวหิน"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 01 เม.ย 2556 เวลา 11:13:37 น.

บานปลายปมหาพื้นที่ปักตอม่อรถไฟความเร็งสูงสาย "กทม.-หัวหิน" ระยะทาง 8 กม. ช่วงบางบำหรุ-ตลิ่งชัน หลัง ร.ฟ.ท.ปัดเวนคืนที่ดินเพิ่ม โยนการทางพิเศษฯรับผิดชอบเอง ด้าน สนข.เสนอทางเลือกเพิ่ม เจาะอุโมงค์ใต้ดินพาดยาว 7 กม.ใต้เขตทางรถไฟเดิม ลดแรงต้าน คาดใช้เงินก่อสร้างเพิ่ม 8,000 ล้าน เตรียมชง "ชัชชาติ" ชี้ขาดเร็ว ๆ นี้

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ว่าในเร็ว ๆ นี้จะเสนอแนวทางเลือกที่ 5 ให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พิจารณาเพิ่ม เพื่อประกอบการพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นที่ในแนวเส้นทางรถไฟสายใต้ ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่จะนำมาก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 225 กิโลเมตร แต่ติดปัญหามีพื้นที่เขตทางไม่เพียงพอที่จะสร้างตอม่อรถไฟความเร็วสูง เนื่องจากพื้นที่ในบริเวณดังกล่าวมีการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และทางด่วนสายศรีรัช-วงแหวนตะวันตก ไปหมดแล้ว

โดยแนวทางใหม่ที่จะเสนอเพิ่มเติม ทางที่ปรึกษาเสนอให้เจาะอุโมงค์ใต้ดินไปตามแนวเขตทางรถไฟ ช่วงสถานีบางบำหรุ-ตลิ่งชัน ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร เพื่อเป็นการลดปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดิน อีกทั้งยังลดระยะทางได้อีกประมาณ 1 กิโลเมตร เนื่องจากเส้นทางตัดตรงมากขึ้น แต่จะใช้เงินค่าก่อสร้างเพิ่มอีกประมาณ 8,000 ล้านบาท จากวงเงินลงทุนทั้งโครงการกว่า 123,000 ล้านบาท

แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับ 4 แนวทางเลือกเดิม ประกอบด้วย

[Mongwin]

ปรับแบบทางด่วนศรีรัช-วงแหวนฯรอรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ-หัวหิน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 เมษายน 2556 21:52 น.


คมนาคมสั่งกทพ.ประสานร.ฟ.ท.เร่งออกแบบรถไฟความเร็วสูงสายใต้ เหตุพื้นที่ก่อสร้างทับซ้อนกับทางด่วนศรีรัช-วงแหวนฯ ก่อนประสาน BECL ปรับแบบฐานรากทางด่วนรองรับ ส่วนเวนคืนด่วนศรีรัชคืบ79% จ่ายค่าเวนคืนแล้ว 2 พันล. ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างช่วงกลางแล้วบางส่วน คาดครบ100% ในก.พ.57

แหล่งข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 16.5 กิโลเมตรว่า แนวเส้นทางใช้พื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งล่าสุดจะมีพื้นที่บางส่วนทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพ-หัวหิน ของรัฐบาล บริเวณหมอชิต 2 และจากบางบำหรุ-ตลิ่งชัน ระยะทางประมาณ 7-8 กิโลเมตรในขณะที่ทางด่วนศรีรัชต้องเริ่มก่อสร้างก่อน ดังนั้นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม สั่งการให้ กทพ.หารือร่วมกับ ร.ฟ.ท.เพื่อเจรจาปรับแบบให้ได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ เพื่อประสานกับบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL เพื่อปรับแบบและเป็นผู้ก่อสร้างในช่วงดังกล่าวให้สอดคล้องกันทั้งทางด่วนและรถไฟความเร็วสูง

ส่วนการเวนคืนที่ดินในพื้นที่ก่อสร้างขณะนี้กทพ.สามารถส่งมอบพื้นที่ช่วงกลางโครงการ บริเวณจากบางกรวยถึงแถวถนนราชพฤกษ์ให้ผู้รับเหมาได้แล้ว และผู้รับเหมาเตรียมทยอยเข้าพื้นที่ภายในสัปดาห์นี้ เหลือเพียงช่วงต้นและท้ายโครงการ คือ ตั้งแต่หมอชิต 2 ถึงแม่น้ำเจ้าพระยา และช่วงถนนวงแหวนรอบนอกตะวันตก บริเวณโรงกรองน้ำมหาสวัสดิ์ ที่ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ โดยความก้าวหน้าของงานอยู่ที่ 79% คิดเป็นเงินที่เวนคืนไปแล้ว 2,000 ล้านบาท จากจำนวนผู้ถูกเวนคืนทั้งสิ้น 600 ราย ที่ดิน 800 แปลง โดยมีงบประมาณในการเวนคืนที่ดินทั้งสิ้น 9,500 ล้านบาท เป็นค่าเวนคืนที่ดินของ ร.ฟ.ท.กว่า 4,000 ล้านบาท ที่ดินของเอกชน 5,000 ล้านบาท มีเป้าหมายเวนคืนที่ดินให้ครบ 100% ในเดือน ก.พ.2557 อย่างไรก็ตามขณะนี้มีผู้ถูกเวนคืนมายื่นขออุทธรณ์แล้ว 300 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์เป็นรายๆ ไป โดยการจ่ายค่าเวนคืนจะพิจารณาจากราคาประเมินที่ดิน บวกค่าเสียประโยชน์ และจะบวกเพิ่มอีก 50% สำหรับที่ดินที่เป็นย่านธุรกิจการค้า

สำหรับโครงการทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ก่อสร้างเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร แนวสายทางเริ่มต้นที่ทางพิเศษศรีรัช โดยมีจุดเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัชบริเวณด้านเหนือของสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) จากนั้นแนวสายทางจะไปทางทิศตะวันตก โดยใช้พื้นที่เขตทางรถไฟสายตะวันตก (สายใต้) ตั้งแต่บริเวณบางซื่อและข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานพระราม 6 หลังจากนั้นแนวสายทางยังคงไปตามเขตทางรถไฟ โดยขนานไปกับถนนบรมราชชนนี จนถึงถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ด้านตะวันตก) โดยท้องที่ที่ถูกเวนคืน ได้แก่ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี และเขตทวีวัฒนา เขตตลิ่งชัน เขตบางพลัด เขตบางกอกน้อย เขตบางซื่อ และเขตจตุจักร

[Mongwin]

ด่วนใหม่ "ศรีรัช-วงแหวนตะวันตก" ผลงานดีเลย์...0.89% เร่งจ่ายเวนคืน 9 พันล.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 21 ม.ค. 2557 เวลา 21:04:40 น.



เริ่มตอกเข็มเมื่อต้นปี 2556 ที่ผ่านมา ผลงานความคืบหน้าล่าสุด โปรเจ็กต์ก่อสร้างทางด่วนสายใหม่เชื่อม "ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก" ระยะทาง 16.7 กิโลเมตร ของ "กทพ.-การทางพิเศษแห่งประเทศไทย" ณ เดือนมกราคมนี้ ยังมีผลงานการก่อสร้างหลุดเป้าอยู่ 0.89% โดยทำผลงานได้กว่า 12.31%

สำหรับโครงการนี้มี "บีอีซีแอล-บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ" ธุรกิจในเครือยักษ์รับเหมาก่อสร้าง "บมจ.ช.การช่าง" เป็นผู้รับสัมปทานก่อสร้างและบริหารจัดการโครงการ 30 ปี ด้วยมูลค่าการลงทุน 32,816 ล้านบาท แยกเป็นค่าก่อสร้าง จำนวน 24,417 ล้านบาท วงเงินลงทุนสำหรับการบริหารจัดการให้บริการและบำรุงรักษา จำนวน 8,399 ล้านบาท

โดย "กทพ.-บีอีซีแอล" ลงนามสัญญาเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2555 จะใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 48 เดือน หรือแล้วเสร็จภายใน 4 ปี มีกำหนดเปิดให้บริการได้ปลายปี 2559



แหล่ง ข่าวจาก กทพ.กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในปีนี้คาดว่าผลงานการก่อสร้างจะเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น หลังจากที่ กทพ.ได้ส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาก่อสร้างได้ทั้งหมดแล้ว นับจากต้นปี 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามแผนงานทุกอย่าง ขณะนี้อยู่ระหว่างการทยอยจ่ายค่าเวนคืนที่ดิน เหลือในส่วนที่ดินที่เป็นของเอกชน จากทั้งโครงการจะต้องจ่ายค่าเวนคืนประมาณกว่า 9,000 ล้านบาท

"ตอน นี้ผลงานโดยรวมเข้าเป้าทุกอย่าง แม้ว่าการก่อสร้างจะดีเลย์ไปบ้าง แต่ก็ไม่มาก คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ตามแผนที่กำหนดไว้ในปี"59"

แหล่ง ข่าวกล่าวอีกว่า เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะช่วยเติมโครงข่ายทางด่วนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในโซนตะวันตกให้เดินทาง ได้สะดวกและคล่องตัวมากขึ้น จากปัจจุบันคนในโซนนี้จะมีทางเลือกในการเดินทางน้อยมาก โดยรูปแบบของโครงการตลอดเส้นทางจะเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจรคู่ขนานไปกับแนวรถไฟสายใต้

โดยแนวสายทางจะเริ่มต้นที่ทาง พิเศษศรีรัช เป็นจุดเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัช บริเวณด้านเหนือของสถานีขนส่งสายเหนือ หรือหมอชิต 2 จากนั้นแนวสายทางจะไปทางทิศตะวันตก ไปตามเขตทางรถไฟสายใต้ ตั้งแต่บริเวณบางซื่อ และข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานพระราม 6 จากนั้นแนวสายทางยังคงไปตามเขตทางรถไฟ โดยขนานไปกับถนนบรมราชชนนี จนถึงถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก

และเพื่อให้การเดินทางสะดวกสบายมาก ยิ่งขึ้นไปอีก ในแบบจะมีการก่อสร้างทางต่างระดับเพื่อเป็นจุดขึ้น-ลง จำนวน 7 แห่ง เป็นการรองรับการเดินทางคนในพื้นที่ในแนวเส้นทางให้ครอบคลุมได้ทุกพื้นที่ ประกอบด้วย
1) ย่านถนนกาญจนาภิเษก
2) แยกถนนราชพฤกษ์
3) แยกต่างระดับบรมราชชนนี
4) บางบำหรุ ย่านถนนสิรินธร
5) จรัญสนิทวงศ์ ซอย 97
6) บริเวณพระราม 6 และ
7) ถนนกำแพงเพชร ตรงทางแยกต่างระดับด่วนขั้นที่ 2
และมีด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง 10 ด่าน

ในอนาคตหากทางด่วนสายใหม่นี้ แล้วเสร็จ เชื่อว่าจะเป็นทำเลทองอีกแห่งที่น่าจับตาและมาแรงอีกโซนหนึ่ง ที่ดีเวลอปเปอร์อสังหาฯจะเข้าไปจับจองลงทุนโครงการใหม่รองรับการขยายตัวของ เมืองที่เริ่มมาทางโซนนี้มากขึ้น

[Wisarut]

เร่งเครื่องด่วน "ศรีรัช-วงแหวน" เปิดใช้กลางปี"59 เก็บค่าผ่านทาง 50 บาท
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16:30:33 น.


เริ่มต้นตอกเข็มเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2555 ผ่านมากว่าปีเศษ ปัจจุบันโครงการทางด่วนสายใหม่เชื่อม "ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก" ระยะทาง 16.7 กิโลเมตร ของ "บีอีซีแอล-บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ" กำลังจะเริ่มเห็นเค้าโครงของโครงสร้างทางยกระดับ นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป และมีแนวโน้ม "กทพ.-การทางพิเศษแห่งประเทศไทย" ในฐานะเจ้าของโครงการจะเปิดให้บริการเร็วขึ้น จากแผนเดิมจะแล้วเสร็จปลายปี 2559 เพื่อเป็นการรองรับการเดินทางคนกรุงเทพฯย่านฝั่งธนบุรี

อัพเดตสถานะโครงการล่าสุด "สงวน คุณาธินันท์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานวิศวกรรม บริษัทบีอีซีแอล เปิดเผย"ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเร่งงานก่อสร้างทางด่วนสายใหม่นี้ให้แล้วเสร็จเร็วขึ้น 6 เดือน จากแผนเดิมกำหนดเสร็จวันที่ 14 ธันวาคม 2559 คาดว่าจะเปิดได้ประมาณเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2559

ปัจจุบันงานก่อ สร้างโดยรวมสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คืบหน้าแล้วประมาณ 18-19% เร็วกว่าแผนงานประมาณ 1% และตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไปงานก่อสร้างตลอดเส้นทางจะเริ่มเห็น โครงการสร้างมากขึ้น เนื่องจากผู้รับเหมาคือบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ที่ก่อสร้างให้ จะเพิ่มเครื่องมือ เครื่องจักร เพื่อเร่งงานก่อสร้างให้เร็วขึ้น



พร้อม กันนี้ได้ซับงานบางส่วนให้กับผู้รับเหมาใหญ่ 2 รายมาช่วยเร่งดำเนินการ คือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) จึงทำให้ผู้รับเหมาสามารถกระจายการก่อสร้างได้เต็มพื้นที่ โครงการ จะช่วยทำให้การก่อสร้างรวดเร็วขึ้น จึงมีแนวโน้มสูงที่ทางด่วนสายนี้จะเปิดใช้บริการได้เร็วขึ้น

"เร่ง ให้งานก่อสร้างเสร็จและเปิดใช้เร็วเท่าไหร่ จะทำให้บริษัทมีรายได้จากค่าผ่านทางโครงการได้เร็วขึ้น โดยในปีแรกที่เปิดให้บริการคาดว่าจะมีปริมาณการจราจรประมาณ 8-9 หมื่นคันต่อวัน จะเก็บค่าผ่านทางรถยนต์ 4 ล้อ อยู่ที่ 50 บาท รถ 6-10 ล้อ อยู่ที่ 80 บาท และเกิน 10 ล้อ อยู่ที่ 115 บาท" นายสงวนกล่าวและว่า

สำหรับ โครงการทางด่วนสายนี้ รูปแบบก่อสร้างจะเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร ก่อสร้างเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางรูปกล่อง ใช้ชิ้นส่วนคอนกรีตหล่อสำเร็จ มีจุดเริ่มต้นจากถนนวงแหวนรอบนอกตะวันตก บริเวณใกล้กับโรงกรองน้ำมหาสวัสดิ์ จากนั้นแนวเส้นทางจะไปทางทิศตะวันออกตามแนวเขตทางรถไฟสายใต้เดิม แล้วยกข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระราม 6 มาสิ้นสุดโครงการบริเวณย่านบางซื่อ เชื่อมกับทางด่วนศรีรัชหรือขั้นที่ 2 บริเวณด้านเหนือของสถานีขนส่งหมอชิต 2 และจะลดระดับอยู่บนพื้นดินบริเวณถนนกำแพงเพชร 2 หน้าสวนสมเด็จฯ

และ เพื่อเป็นการรองรับการเดินทาง จะมีทางแยกต่างระดับ 2 แห่ง คือ ทางแยกต่างระดับศรีรัช และทางแยกต่างระดับกาญจนาภิเษก นอกจากนี้ จะมีจุดขึ้น-ลงอีก 6 แห่ง ได้แก่ ถนนพระราม 6 จรัญสนิทวงศ์ บางบำหรุ ราชพฤกษ์ กาญจนาภิเษก และต่างระดับบรมราชชนนี จะช่วยเปิดพื้นที่การพัฒนาย่านกรุงเทพฯโซนตะวันตก และเสริมโครงข่ายการเดินทางมากขึ้น

ด้าน "พเยาว์ มริตตนะพร" กรรมการผู้จัดการ บริษัทบีอีซีแอล เปิดเผยว่า ทางด่วนสายนี้เป็นสัมปทานใหม่ที่บริษัทได้รับจากกทพ.ระยะเวลา 30 ปี ใช้เงินลงทุน 25,491 ล้านบาท นับจากวันที่ 15 ธันวาคม 2555 ถึงปี 2585 ซึ่งบริษัทจะได้รายได้ค่าผ่านทางเต็ม 100% ตลอดอายุสัญญาสัมปทาน เนื่องจากเป็นการลงทุนรูปแบบ PPP ซึ่งบริษัทเป็นผู้หาเงินมาลงทุนทั้งหมด

สำหรับ เงินลงทุนโครงการนี้ในปี 2557 บริษัทจะใช้เงินลงทุน 7,092 ล้านบาท ปี 2558 จำนวน 8,789 ล้านบาท ปี 2559 จำนวน 5,331 ล้านบาท และปี 2560 จำนวน 60 ล้านบาท

โครงการนี้จะช่วยเรื่องการจราจรฝั่งธนฯให้เกิดความคล่องตัว ขึ้น คาดว่ามีผู้ใช้บริการ 1 แสนคันต่อวัน จะเข้ามาเติมในโครงข่ายเดิมทั้งระบบ มีปริมาณการจราจรอยู่เฉลี่ยวันละกว่า 1.1 ล้านคัน