View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 25/05/2011 2:26 pm Post subject: |
|
|
จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศปี 2517 ผมมีความเชื่ออย่างนี้ครับ
1. ศาลาที่พักผู้โดยสารของป้ายหยุดรถบ้านกลางนา อยู่ฝั่งตะวันตกของราง (ฝั่งซ้ายมือ เมื่อมุ่งหน้าไปสงขลา = ฝั่งเดียวกับเสาโทรเลข)
2. ศาลาอยู่ก่อนถึงพิกัด กม. 942.23 เพราะว่าที่ กม. 942.23 ไม่ปรากฏร่องรอยใด ๆ ของป้ายหยุดรถในภาพถ่ายทางอากาศปี 2517
3. ศาลาอยู่ที่ กม. 942.11 หรือก่อนถึงเสาโทรเลขที่ 942/3 เมื่อมุ่งหน้าไปสงขลา
4. ศาลาอยู่ที่พิกัดภูมิศาสตร์ 7.081823,100.547112 (คลิกลิงค์ดูได้ครับ)
5. ภาพถ่ายทางอากาศของศาลาดังกล่าว ปี 2517
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กระทู้ http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=4634&postdays=0&postorder=asc&start=10
ผมมั่นใจว่าคุณตั้มใกล้จะไขปริศนาได้สำเร็จแล้วล่ะครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 25/05/2011 2:46 pm Post subject: |
|
|
นับเป็นการค้นพบครั้งสำคัญจริง ๆ ครับ ทั้งป้ายแบ่งเขตและสะพาน
สะพานแผงขึ้นแห่งนี้ ยังไม่เคยมีใครถ่ายภาพมาให้ชมกันเลยครับ ผมเข้าใจผิดมาตลอดว่าเป็นสะพานไม้ เพิ่งทราบจากการสำรวจของคุณตั้มว่าเป็นสะพานแผงขึ้นครับ
สะพานนี้คือ สะพานข้ามคลองน้ำกระจาย ความยาว 20.00 เมตร มี 1 span
พิกัดจากคุณวิศรุตคือ กม. 947 + 845.60 แต่ผมลองวัดใน Google Earth แล้ว คลาดเคลื่อนไปราว 76 เมตรครับ น่าจะเป็นประมาณ กม. 947 + 921
ระยะทางในภาพ จากขอบชานด้านเหนือถึงขอบชานด้านใต้ของที่หยุดรถน้ำกระจาย
= 100 เมตรพอดีครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 25/05/2011 4:42 pm Post subject: |
|
|
OutRun wrote: |
|
ภาพถ่ายทางอากาศปี 2517 ของสะพานแผงขึ้นแห่งนี้ครับ
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 25/05/2011 4:51 pm Post subject: |
|
|
พี่ khoarupchang (เขารูปช้าง) ซึ่งเป็นสมาชิกรถไฟไทยดอทคอมเช่นกัน
ท่านได้เคยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับสะพานแผงขึ้นแห่งนี้ไว้ดังนี้ครับ
khoarupchang wrote: | ผมเองค่อนข้างมีความผูกพันกับรถไฟไทยพอสมควรครับ เริ่มตั้งแต่วัยเด็กยังเล็กๆ คุณแม่พานั่งรถไฟสาย สงขลา - หาดใหญ่ สมัยที่ยังเป็นรถจักรไอน้ำ จากสงขลาไปชุมทางหาดใหญ่ แล้วต่อรถไฟไอน้ำอีกขบวนไปลงที่สถานี โคกโพธิ์ เพื่อไปกราบนมัสการ หลวงพ่อทวดที่ วัดช้างให้ครับ
ความจำค่อนข้างเลือนไปมากแล้ว แต่จำได้ว่าเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ต่อมาโตขึ้นมาหน่อยคุณพ่อซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย ต้องหารายได้เสริมโดยเข้าหุ้นกับเพื่อนรุ่นพี่ซื้อสวนมะพร้าว ทำสวนมะพร้าวเป็นรายได้เสริมไปสอย เก็บ และปอกเปลือก ส่งขายที่บ้านน้ำกระจายในวันหยุด เสาร์-อาทิตย์
ถึงตอนนี้ก็ได้นั่งรถไฟ จากสถานีสงขลา ไปลงที่ป้ายหยุดรถน้ำกระจายบ่อยครั้ง แล้วเดินตามรางไปทางสถานีหาดใหญ่ ข้ามสะพานเตี้ย ๆ ๑ สะพาน ก่อนลงทางซ้าย ลัดตามทางสัญจรเข้าไปในสวนมะพร้าวของพ่อ แต่ตอนนี้รถไฟได้เปลี่ยนเป็น รถจักรดีเซลไฟฟ้า ลากตู้ ๒-๓ ตู้
เมื่อจบการศึกษาก็ได้สอบเข้าทำงานที่การรถไฟฯ ทำงานอยู่ในหน่วยซ่อมรถจักรประมาณ ๒ ปีครับ ก่อนลาออกมาทำงานเป็นลูกจ้าง บ.เอกชน
จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ได้เข้าไปเห็นการทำงาน รับรู้ปัญหาต่าง ๆ ที่การรถไฟประสพมาพอสมควรครับ แต่ปัจจุบันคงจะเปลี่ยนไปมากแล้ว(หมายถึงปัญหาต่างๆ ทับถมมากขึ้น) แต่เอ.. เขียนเล่ามาเสียยาวแสดงว่าเราเองแก่แล้วจริง ๆ ครับ |
ที่มา : http://gimyong.com/talung/index.php?topic=3312.0
ซึ่งภาพถ่ายทางอากาศปี 2517 ได้พิสูจน์คำกล่าวของพี่ khoarupchang ได้เป็นอย่างดีครับ
ลองสังเกตภาพข้างล่างนี้ จะเห็นว่าด้านใต้ของสะพานแผงขึ้น (ที่พี่ khoarupchang บอกว่าเป็นสะพานเตี้ย ๆ) มีทางเดินขาว ๆ เข้าไปยังสวนมะพร้าว ที่เห็นอยู่ด้านขวาล่างของภาพครับ (ทรงพุ่มของมะพร้าวมองจากด้านบน คงดูกันออกนะครับ )
ใครดูไม่ออก ให้ไปลงเรียนวิชา Aerial Photo Interpretation (การแปลผลภาพถ่ายทางอากาศ) กันนะครับ
สรุปว่า สวนมะพร้าวแห่งนี้เป็นของพี่ khoarupchang นั่นเอง
และเป็นครั้งแรกที่พวกเราได้เห็นสะพานที่ว่านี้ โดยการสำรวจถ่ายภาพของคุณตั้มครับ
ยอดเยี่ยม นับเป็นการค้นพบทางโบราณคดีครั้งสำคัญครับ คล้ายกับที่ อองรี มูโอต์ นักสำรวจชาวฝรั่งเศสค้นพบนครวัดสมัย ร.4 เลย
Quote: | พอรุ่งเจ็ดนาฬิการถสงขลาออก ไปบางกอกข้ามเขตประเทศสถาน
นายรถรีบถีบรถบทยาน จากสถานสงขลาถึงสถานี
ที่น้ำกระจายเจ็ดนาฬิกาเศษ ตามสังเกตทางรถกำหนดที่
สองข้างทางสร้างสวนมะพร้าวมี อ้วนงามดีพึงปลูกตกลูกลาย
ยังคิดถางสร้างป่าต่อต่อไป รอยเอาไฟเผาลนเหมือนปรนไร่
ความโลภะของมนุษย์สุดแรงร้าย ไม่คิดกายว่าจะเหนื่อยเมื่อยกายา
จากน้ำกระจายถึงสถานีบ้านควนหิน เห็นเจ๊กจีนจับหมูยืนอยู่ท่า
จ้างรถไฟทุกไปเป็นสินค้า อนิจจาไม่คิดบาปปิดบัง
แล้วเลื่อนรถเร็วมาอีกสถานี น้ำน้อยอีกที่ดังใจหวัง
เขาน้ำน้อยรอยแร่แม่เหล็กยัง ขุดไปตั้งสูบเผาเอาตีชะแลง
บ้างตีจอบตีพร้าพาไปขาย ซื้อไปใช้ทุกตำบลทุกหนแห่ง
ความโลภะของบุคคลนี้รนแรง อุตส่าห์แสวงหาจะให้มี
จากน้ำน้อยถึงชุมทางอู่ตะเภา สิ้นเขตเขาระหว่างคีรีศรี
คนเดินไขว่ไปมาที่สถานี สถานที่เปลี่ยนรถปลดไปมา |
ที่มา : นิราศรับพัชนิ์ พระครูวิจารณ์ศีลคุณ (ชู) วัดจะทิ้งพระ ปี 2464 |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 25/05/2011 10:08 pm Post subject: |
|
|
คุณตั้ม... ผมคิดว่าเสาที่คุณตั้มบอกว่าเป็นเสาค้ำยันเสาโทรเลขนั้น ไม่น่าจะใช้ค้ำนะครับ เพราะจากรูที่เจาะเอาไว้ จะเป็นรูร้อยสลิงดึงเสาโทรเลขไม่ให้ล้มไปอีกด้านมากกว่าครับ |
|
Back to top |
|
|
OutRun
1st Class Pass (Air)
Joined: 26/05/2006 Posts: 1187
|
Posted: 26/05/2011 4:53 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณครับพี่ตึ๋ง..ที่ชี้แจง..แต่ผมนึกภาพไม่ออกแฮะ..
ว่าแต่กลับไปดูภาพถ่ายดาวเทียมของวันที่ 16 มีนาคม 2549 ทีอาจารย์เอกนำมาลงผมชักเขวแฮะ จาก กม.942.23 ลงมาตำแหน่งที่หยุดรถบ้านกลางนา
จะเห็นถนนที่เลียบทางรถไฟมีทางแยกขวาเข้าไปในสวนยาง และผ่านบ้านชาวบ้าน ก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายออกมายังถนนลาดยาง นั่นคือถนนที่ผมขี่จักรยานเข้าไป
นะครับนั่น และตำแหน่งที่หยุดรถบ้านกลางนาที่อาจารย์เอก Mark เอาไว้ก็ตรงกับตำแหน่งที่ผมเจอเสาโทรเลขด้วยนะครับนั่น คืออยู่ตรงที่ถนนเลี้ยวขวา
ห่างออกจากทางรถไฟพอดี ซึ่งในภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นว่ามีถนนเลียบทางรถไฟต่อไปอีกทางใต้ แต่ในความเป็นจริงที่ผมไปสำรวจมานั้น
ถนนได้เลี้ยวขวาออกห่างจากทางรถไฟไปอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้มีถนนหรือทางเดินต่อไปเหมือนในภาพถ่ายดาวเทียมเลยครับ...มันยังไงกันหล่ะหว่านี่...
_________________ นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ |
|
Back to top |
|
|
OutRun
1st Class Pass (Air)
Joined: 26/05/2006 Posts: 1187
|
Posted: 26/05/2011 5:01 pm Post subject: |
|
|
กลับออกมาที่ทางหลวง 408 กันครับ เราจะข้ามไปฝั่งโน้นบ้าง มีถนนเลียบทางรถไฟไปตลอดจนตัดกับทางหลวง 407 หรือที่หยุดรถบ้านบางดานเลยครับ
_________________ นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ |
|
Back to top |
|
|
OutRun
1st Class Pass (Air)
Joined: 26/05/2006 Posts: 1187
|
Posted: 26/05/2011 5:13 pm Post subject: |
|
|
ทางช่วงนี้เจอกับสะพานแห่งนึงครับ สอบถามจากชาวบ้านได้ความว่าเคยเป็นสะพานไม้ แต่โดนไฟไหม้หมดแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อดีหรือเปล่านะครับ
ชาวบ้านอาจนำเอาไม้สะพานไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นก็ได้ เพราะบริเวณรอบข้างเห็นต้นไม้ทำไมมันอุดมสมบูรณ์จัง ไม่เห็นมีร่องรอยไฟไหม้อะไรเลย
ไหม้แต่ตรงที่เป็นไม้สะพานแฮะ.. อ้อ... สะพานแห่งนี้ชาวบ้านบอกเวลาหน้าน้ำ น้ำจะเยอะครับ ส่วนตอนที่ผมไปไม่มีน้ำเลย เป็นทางลอดให้รถเข้าบ้านชาวบ้านไป
สภาพของทางรถไฟช่วงนี้ที่ยังเห็นเป็นสภาพทางรถไฟอยู่ครับ เอ๊ะ..หรือจะเรียกว่าซากดี..
ครับ..การย้อนกลับไปสำรวจรอบนี้ผมได้ภาพมาเพียงเท่านี้ครับ ส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการปั่นจักรยาน และสอบถามข้อมูลกับชาวบ้านซะมากกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้
ถ้ามีเวลาจะกลับมาเล่าให้ฟังครับ ว่าผมได้ข้อมูลอะไรกับคุณลุงที่อยู่ร้านกาแฟที่สถานีสงขลาครับ _________________ นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 26/05/2011 5:26 pm Post subject: |
|
|
ขออนุญาตเสริมประเด็นที่พี่ตึ๋งให้ข้อสังเกตครับ
เนื่องจากทางรถไฟบริเวณบ้านกลางนา เป็นทางโค้ง เพื่อหลบเนินโคกสูง
และเสาโทรเลขอยู่ฝั่งด้านนอกของโค้ง
ดังนั้นเสาโทรเลขจำเป็นต้องมีตัวรั้งไว้ ไม่ให้เสาล้มเข้าไปในโค้ง
กรณีนี้อาจใช้เหล็กรางค้ำไว้ก็ได้ อย่างที่พบเห็นได้ทั่วไป
แต่กรณีที่คุณตั้มถ่ายมา รางสั้น ๆ เจาะรูทำหน้าที่เหมือนสมอบก แล้วเอาลวดสลิงมาผูกไว้กับรางสมอบกแล้วโยงไปยึดเสาโทรเลขไว้ไม่ให้ล้มครับ
Last edited by Mongwin on 26/05/2011 5:50 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 26/05/2011 5:33 pm Post subject: |
|
|
OutRun wrote: | ทางช่วงนี้เจอกับสะพานแห่งนึงครับ สอบถามจากชาวบ้านได้ความว่าเคยเป็นสะพานไม้ แต่โดนไฟไหม้หมดแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อดีหรือเปล่านะครับ
ชาวบ้านอาจนำเอาไม้สะพานไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นก็ได้ เพราะบริเวณรอบข้างเห็นต้นไม้ทำไมมันอุดมสมบูรณ์จัง ไม่เห็นมีร่องรอยไฟไหม้อะไรเลย
ไหม้แต่ตรงที่เป็นไม้สะพานแฮะ.. อ้อ... สะพานแห่งนี้ชาวบ้านบอกเวลาหน้าน้ำ น้ำจะเยอะครับ ส่วนตอนที่ผมไปไม่มีน้ำเลย เป็นทางลอดให้รถเข้าบ้านชาวบ้านไป
|
ข้อมูลจากคุณวิศรุตครับ
สะพานไม้ ที่ กม. 949+156.00 จากธนบุรี เป็นสะพานไม้ ขนาด 2 x 4.00 เมตร (รวม 8.00 เมตร) โดนตัดบัญชีไปตั้งแต่ 17 ธันวาคม 2550
|
|
Back to top |
|
|
|