View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
nontree
3rd Class Pass
Joined: 28/02/2011 Posts: 58
|
Posted: 04/07/2011 10:09 pm Post subject: อยากทราบเหตุการณ์ตอนที่เราเปลี่ยนรางมาเป็น 1 เมตร |
|
|
1. ไม่ทราบว่าตอนนั้นสายเหนือ สานอีสาน เราสร้างทางไปถึงไหนแล้ว
2.ใช้ระยะเวลานานกี่ปีครับในการไล่รื้อราง
3. แล้วเราเอารถจักรกับอุปกรณ์ที่เคยวิ่งอยู่ไปทำอะไร
ขอบคุณครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
|
Posted: 05/07/2011 6:07 am Post subject: Re: อยากทราบเหตุการณ์ตอนที่เราเปลี่ยนรางมาเป็น 1 เมตร |
|
|
ขั้นแรก, ตอนนั้นปี 2463 วางรางไปถึงเชียงใหม่แต่ไม่เปิดการเดินรถเพราะ ยังตั้งสะพานหอสูงที่สั่งมาแต่ฮอลันดาไม่เสร็จดี ต้่องใช้ ทางลาดชั่วคราว และ เครื่องกว้าน ยกรถจักร รถโดยสาร กำลังทำทางสายเหนือขึ้นไปพอ ตอนนั้นสายอีสานกำลังวางรางจากโคราชไปท่าช้างเพื่อต่อกะ ท่าเรือกลไฟไปอุบล ส่วนสายตะวัีนออกยังอยู่แค่ริมแม่น้ำบ่างปะกงที่ฉะเชิงเทราในปี 2464 และ เริ่มการวางรางที่บริเวณสถานีแปดริ้วใหม่กม. 61 เมื่อ 5 มกราคม 2464 ได้
ขั้นที่2 ก็เริ่มแต่ทำประแจพิเศษเพื่อรองรับการวางรางที่ 3 แทรกเข้าไปในสายตะวันออกก่อน แล้วจัดการวางรางแทรก ในรีถสายตะวันออก จากนั้นก็ปลดถ่ายรถรางมาตรฐานไปใช้กะ สายเหนือ แล้ว เอารถจักรอีคลาส และ รถโดยสาร จากสายใต้ ไปใช้ จากนั้นก็วางรางแทรกในสายโคราช แล้่วปลดถ่ายรถจักรรางมาตรฐานไปใช้กะสายเหนือ แล้วเอารถจักรอีคลาส และ รถโดยสารกะรถพ่วงไปใช้กะสายโคราช เมื่อกรกฎาคม 2464 ทำให้ มีรถพอเดิน รถด่วนสายเหนือ กรุงเทพ - เชียงใหม่ เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2465 จากนั้นจึงเริ่มวางรางที่ 3 จากบ้านภาชีไปถึงเชียงใหม่ จนสามารถเดินรถด่วนสายเหนือที่ใช้รถจักรบอลด์วินในทางราบ (กรุงเทพ - อุตรดิตถ์) และ รถจักรสวิสคอนโซลิเดดในทางภูเขา (อุตรดิตถ์ - เชียงใหม่) เอา 21 ธันวาคม 2469 และ เดินรถเร็ว กรุงเทพ - พิษณุโลก ซึ่งมีเดินทุกวัน 1 มกราคม 2469
ในเวลาเดียวกัน ก็เริ่มรื้อรางช่วงเป็นรางมาตรฐานจากสายตะวันออก (ช่วงแยกยมราช ถึงแปดริ้วเดิมที่กม. 63.4) กับสายโคราชนับตั้งแต่สถานีโคราช กม. 264 ลงไปจนถึงแก่งคอย เมือปี 2467-68 และ รื้อรางช่วงเป็นรางมาตรฐาน จากเชียงใหม่ไล่ไปกรุงเทพ ตั้งแต่ต้นปี 2470 จนสำเร็จเสร็จสิ้นพร้อมการปรับศูนย์กลางรางแล้วเลื่อยไม้หมอนเอาเมื่อปลายปี 2473
จากนั้นจึงนำรางดังกล่าวไปสร้างทางรถไฟช่วงแต่ท่าช้างไปอุบล (แริ่มตั้งกะปี 2467-68) จนเปิดการเดินรถถึงบุรีรัมย์ 1 เมษายน 2468 ถึงสุรินทร์ 1 เมษายน 2469 ถึงศรีสะเกษ ปี 2471 และถึงวารินทร์ 1 เมษายน 2473
ส่วนรถจักรรถพ่วงรางมาตรฐานนั้น เริ่มการแปลงลูกล้อแต่ปี 2469 โดยขนรถจักรไปแปลงที่โรงงานของฮาโนแมก ที่เมืองฮาโนเวอร์ ประเทศเยอร์มัน แต่กรณีรถพ่วงนั้นไม่แน่ใจว่าแปลงที่โรงงานมักกะสันหรือเปล่า แต่ รถจักรเก่า 28 หลังแรก (แก่กว่ารถจัีกรฮาโนแมกล้อโมกุล) ละรถพ่วงเดิม นั้นเห็นว่าไม่คุ้มกะการแปลงลูกล้อ แลยขายเป็นเศษเหล็กเศษโลหะไป ในส่วนที่นำไปใช้ประโยชน์ในโรงงานมักกะสันไม่ได้ |
|
Back to top |
|
|
kikoo
1st Class Pass (Air)
Joined: 01/02/2010 Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง
|
Posted: 05/07/2011 9:10 am Post subject: |
|
|
^
เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่เกิดกระแสอยากให้เปลี่ยนกลับไปใช้ความกว้างของรางแบบมาตรฐาน(1.435เมตร)อีกน่ะ
แต่ว่า เห็นแต่ละขั้นตอนแล้ว แม้จะทำในยุคปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยครับ
ผมเคยเห็นรูปภาพเก่าๆในวารสารรถไฟสัมพันธ์ เป็นภาพเส้นทางช่วงระหว่างออกจากหัวลำโพง เห็นเป็นแบบDual Gauge(มีราง3เส้น)ด้วยครับ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับแผนการเริ่มต้นของการเปลี่ยนความกว้างจาก1.435เมตรเป็น1เมตรรึเปล่า? _________________ ความคืบหน้าโครงการปรับปรุงทางช่วงที่วัง-กันตัง
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5618 |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 05/07/2011 9:18 am Post subject: |
|
|
ลดความกว้างของรางง่ายกว่าขยายความกว้างรางนะครับ เพราะการขยายกวามกว้างราง ต้องคำนึงถึงไม้หมอน โครงสร้าง สะพาน และอุโมงค์ที่ต้องรับความกว้างของตัวรถด้วย
ภาพรางสามที่สะพานข้ามคลองมหานาค เข้าใจถูกต้องแล้วครับ |
|
Back to top |
|
|
boatteam
2nd Class Pass (Air)
Joined: 05/04/2010 Posts: 910
Location: แจ้งวัฒนะ หลักสี่ ปากเกร็ด
|
Posted: 05/07/2011 9:33 am Post subject: |
|
|
ณ เวลานี้ ถ้าจะทำรางมาตรฐาน(1.435เมตร) คงต้องดำเนินการสร้างใหม่แยกต่างหากจากรางเดิมจะสะดวกกว่าสิครับ
_________________ สถานีบ้านเกิดอรัญประเทศ สุดเขตแดนสยามฝั่งตะวันออก |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 05/07/2011 9:35 am Post subject: |
|
|
ต้องดูความคุ้มค่า หากจะก่อสร้างใหม่ด้วยครับ |
|
Back to top |
|
|
nontree
3rd Class Pass
Joined: 28/02/2011 Posts: 58
|
Posted: 06/07/2011 9:06 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณครับ เป็นอย่างนี้นี่เอง วิธีการวางรางแทรก |
|
Back to top |
|
|
nutsiwat
2nd Class Pass
Joined: 03/03/2011 Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร
|
Posted: 07/07/2011 2:03 pm Post subject: |
|
|
ในอนาคตข้างหน้า คงจะไม่มีการขยายความกว้างของรางจาก 1.00 เมตร มาเป็น 1.435 เมตร นะครับ ไม่อย่างงั้นคงจะต้องลงทุนสูงมากเลยทีเดียว แต่ถ้าหากว่ามีการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็คงต้องคิดหนักเลยนะครับเกี่ยวกับงบประมาณ และการเปลี่ยนรางใหม่ทุกเส้นทาง |
|
Back to top |
|
|
siriwadhna
3rd Class Pass
Joined: 05/10/2009 Posts: 126
|
Posted: 07/07/2011 2:57 pm Post subject: |
|
|
nutsiwat wrote: | ในอนาคตข้างหน้า คงจะไม่มีการขยายความกว้างของรางจาก 1.00 เมตร มาเป็น 1.435 เมตร นะครับ ไม่อย่างงั้นคงจะต้องลงทุนสูงมากเลยทีเดียว แต่ถ้าหากว่ามีการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็คงต้องคิดหนักเลยนะครับเกี่ยวกับงบประมาณ และการเปลี่ยนรางใหม่ทุกเส้นทาง |
เห็นด้วยที่ว่าลงทุนสูงมาก
รถไฟใหม่ = หลายแสนล้าน
รางใหม่ = หลายแสนล้าน
สะพาน อุโมงค์ = หลายแสนล้าน
ปรับสถานี = หมื่นล้าน
เพราะรัศมีวงเลี้ยงกว้างกว่า = อาจต้องเวรคืนที่ดินเพิ่ม อีกไม่รู้เท่าไหร่
ล้านๆเอาไม่อยู่แน่ |
|
Back to top |
|
|
Dahlia
1st Class Pass (Air)
Joined: 17/02/2007 Posts: 1030
Location: BKK / NST
|
Posted: 07/07/2011 8:38 pm Post subject: |
|
|
ทุกวันนี้ผมยังไม่เข้าใจเลย ว่าทำไมถึงมีแนวคิดจะไปใช้รางขนาด ๑.๔๓๕ เมตร
เพื่อความสากล?
เพื่อความเร็วที่เพิ่มขึ้น?
เพื่อเชื่อต่อกับประเทศรอบบ้าน?
จะเปลี่ยนไปเพื่ออะไร???? |
|
Back to top |
|
|
|