ความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานีกลางบางซื่อและรถไฟฟ้า

[Wisarut]

รฟท.-จิตอาสา 904 -กทม. ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง พื้นที่รอบสถานีกลางบางซื่อ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 7 สิงหาคม 2564 เวลา 11:55 น.
ปรับปรุง: วันที่ 7 สิงหาคม 2564 เวลา 11:55 น.



การรถไฟฯ ร่วมกับคณะจิตอาสา 904 และกทม. ลงพื้นที่จัดเก็บขยะมูลฝอย ทำความสะอาดบริเวณโดยรอบอาคารสถานีกลางบางซื่อ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้รับบริการวัคซีน และประชาชนที่ใช้บริการรถไฟสายสีแดง

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00 น. บริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นประธานในกิจกรรม big cleaning ลงพื้นที่จัดเก็บขยะมูลฝอย ล้างทำความสะอาดพื้นผิวถนน ฟุตบาทด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และทำความสะอาดพื้นที่บริเวณโดยรอบอาคารสถานีกลางบางซื่อ ร่วมกับคณะจิตอาสา 904 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสิ่งแวดล้อม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เพื่อบำรุงรักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในสถานีกลางบางซื่อ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนที่เข้ามารับบริการวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ รวมถึงผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการขบวนรถไฟชานเมืองสายสีแดง ให้เกิดความสะอาด สะดวด ปลอดภัยตามมาตรฐานสาธารณสุข

ทั้งนี้ การดำเนินดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ซึ่งการรถไฟฯ พร้อมเป็นหน่วยงานสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ให้กับเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างเต็มที่ โดยมีการเปิดสถานีกลางบางซื่อให้เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ปัจจุบัน การรถไฟฯ ได้เปิดให้ใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดงโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจนถึงสิ้นปีนี้ โดยมีตารางเวลาเดินรถ เส้นทางบางซื่อ-รังสิต เที่ยวแรกออกจากบางซื่อ และจากรังสิต เวลา 06.00 น. ส่วนเที่ยวสุดท้ายออกจากบางซื่อ และสถานีรังสิตเวลา 19.30 น. ขณะที่เส้นทางบางซื่อ-ตลิ่งชัน ออกเที่ยวแรกจากบางซื่อเวลา 06.00 น. และเที่ยวแรกจากรังสิตเวลา 06.06 น. เที่ยวสุดท้ายจากบางซื่อเวลา 19.30 น. และเที่ยวสุดท้ายจากรังสิตเวลา 19.36 น.

[Wisarut]

เจาะลึก “สถานีกลางบางซื่อ” สถานีรถไฟแห่งใหม่ของไทย
เศรษฐกิจ-ยานยนต์
9 สิงหาคม 2564 เวลา 17:41 น.

มาทำความรู้จัก 'สถานีกลางบางซื่อ' ให้มากขึ้น ศูนย์กลางการคมนาคมแห่งใหม่เทียบเท่าสถานีรถไฟชั้นนำของโลก



สถานีกลางบางซื่อ Grand Station หรือ “สถานีรถไฟหลัก” แห่งใหม่ของประเทศไทย ที่ได้รับการพัฒนาและยกระดับให้เป็น “ศูนย์กลางรถไฟไทย” ทุกระบบ ครอบคลุมทุกบริการ “ระบบราง” สามารถเชื่อมต่อทุกรูปแบบการเดินทาง โดยเชื่อมต่อระบบรางกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น “การเดินทางแบบไร้รอยต่อ น้ำ บก อากาศ” ทั้ง “รถไฟฟ้าทางไกล” ไม่ว่าจะเป็นสายเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก “รถไฟความเร็วสูง” “รถไฟชานเมือง” รวมถึง “รถไฟเชื่อมท่าอากาศยาน” ทั้งเชื่อมต่อกับระบบ “รถไฟฟ้ามหานคร” และโครงข่าย “ถนนสายหลัก” ซึ่งนอกเหนือจากความงดงามที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยรูปทรงโค้งแบบร่วมสมัย ยังเน้นเรื่องความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และประหยัดเวลา เพื่อให้ประชาชนสามารถเชื่อมการเดินทางไปยังทุกจุดหมาย บนพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางกว่า 298,200 ตารางเมตร โดยสามารถรองรับผู้โดยสารมากถึง 624,000 คน/วัน เทียบเท่าสถานีรถไฟชั้นนำระดับสากล ประกอบไปด้วย


• ชั้นใต้ดิน พื้นที่รวม 72,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ไว้สำหรับจอดรถประมาณ 1,700 คัน พื้นที่จอดรถยนต์ สำหรับบุคคลทั่วไป 1,681 คัน และพื้นที่จอดรถยนต์ผู้พิการ 19 คัน



• ชั้นลอย พื้นที่รวม 12,000 ตารางเมตร ใช้เป็นพื้นที่ร้านค้าเพื่อจำหน่ายสินค้า ทั้งสินค้า OTOP และสินค้าที่น่าสนใจหลายรายการ รวมทั้งเป็นพื้นที่ของห้องควบคุมของสถานีกลางบางซื่อ


ADVERTISEMENT


• ชั้นที่ 1 พื้นที่รวม 86,000 ตารางเมตร เป็นพื้นที่จำหน่ายตั๋วโดยสาร ร้านค้า ศูนย์อาหาร พื้นที่พักคอยและจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรือ MRT


• ชั้นที่ 2 พื้นที่รวม 86,000 ตารางเมตร เป็นพื้นที่สำหรับชานชาลารองรับระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง จำนวน 4 ชานชาลา และรถไฟทางไกล จำนวน 8 ชานชาลา


• ชั้นที่ 3 พื้นที่รวม 67,000 ตารางเมตร เป็นชานชาลารองรับรถไฟความเร็วสูง จำนวน 10 ชานชาลา และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ที่เดินทางไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 2 ชานชาลา


นอกจากนี้จุดเด่นและสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานีกลางบางซื่อที่ควรรู้ ได้แก่

1.เป็นศูนย์กลางการคมนาคมแห่งใหม่เทียบเท่าสถานีรถไฟชั้นนำของโลก และเป็นแกนกลางการเดินทางสู่มหานคร



2.เป็นสถานี “อารยสถาปัตย์” ตามหลัก Universal Design โครงสร้างนาฬิกาแบบหน้าปัดมีเข็มนาฬิกา ซึ่งหน้าปัดมีเพียงตัวเลขบอกเวลาหมายเลข ๙ เท่านั้น ได้ถูกยกเพื่อติดตั้งที่หน้าโดมของสถานีกลางบางซื่อแล้ว หลังจากนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบจะได้จัดการวางระบบต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ใช้งานได้เป็นปกติ จากภาพนาฬิกานี้ผลิตโดยบริษัท Electric Time Company, Inc. อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นาฬิกานี้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 เมตร ติดตั้งอยู่บนผนังกระจกสถานีกลางบางซื่อ มีความสูงจากระดับพื้นดินถึงจุดศูนย์กลางนาฬิกา 21 เมตร สำหรับหน้าปัดนาฬิกาที่มีเพียงหมายเลข ๙ เกิดจากความตั้งใจของผู้ออกแบบ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ ๙ และตั้งใจที่จะให้เป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญของสถานี


3.โครงการนําร่องสถานีอัจฉริยะ (Smart Station) ด้วยเทคโนโลยี 5G เป็นการพัฒนาต้นแบบสถานีอัจฉริยะ ที่ใช้เทคโนโลยี 5G เต็มรูปแบบแห่งแรกในประเทศไทย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงบริการ 5G ได้จากที่นี่ เนื่องจากสถานีกลางบางซื่อจะเป็นศูนย์กลางแห่งการเดินทาง ทั้งทางบก ทางราง เชื่อมโยงไปถึงทางน้ำและทางอากาศด้วย ยกตัวอย่างบริการ 5G ที่อยู่ภายในสถานีกลางบางซื่อ เช่น เทคโนโลยีหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือนักเดินทาง ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ มีระบบรักษาความปลอดภัย การให้บริการข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงในระหว่างการเดินทาง รวมถึงการจัดการเดินขบวนต่างๆ คาดว่ามีผู้ใช้บริการกว่า 200,000 คน/วัน


4.เข้าใจถึงรูปแบบขบวนรถไฟสายสีแดง (The S.R.T. Red Line Mass Transit System Project) เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทำหน้าที่ในการบริการขนส่งผู้โดยสารที่อยู่อาศัยในพื้นที่ชานเมืองเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ด้วยระบบรางที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อป้อนผู้โดยสารเข้าสู่โครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนอันได้แก่ รถไฟฟ้ามหานคร ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) หรือ รถไฟฟ้าบีทีเอส ของ กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยมีสถานีหลักคือสถานีกลางบางซื่อ


5.เรียนรู้การพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชนตามหลัก TOD เป็นแนวคิดการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน (Transit-Oriented Development หรือ TOD) คือการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีหรือระบบขนส่งมวลชน ที่มีการใช้ประโยชน์ที่ดินและกิจกรรมในรูปแบบผสมผสาน ทั้งตั้งอยู่ในระยะเดินเท้าจากสถานีขนส่งมวลชนและศูนย์กลางพาณิชยกรรม โดยจัดสรรการใช้พื้นที่ให้มีทั้งที่อยู่อาศัย ร้านค้า สำนักงาน พื้นที่โล่งว่าง และพื้นที่สาธารณะ รวมทั้งบริการพื้นฐานต่างๆ และส่งเสริมให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เดินทางด้วยยานพาหนะหลากหลายประเภท ทั้งระบบขนส่งมวลชน จักรยาน และการเดินเท้า ลดการพึ่งพาการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งแนวคิด TOD ได้รับความสนใจในนโยบายการพัฒนาเมืองสมัยใหม่ สร้างโอกาสในการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชนให้ใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ การพัฒนาขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพสูงจะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมาใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางราง การที่ปริมาณผู้ใช้ระบบขนส่งมวลชนสูงขึ้น นอกจากจะเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางที่มีมูลค่าสูงรวมทั้งต้นทุนในการพัฒนาสาธารณูปโภคในพื้นที่ความหนาแน่นสูงแล้ว ยังทำให้มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ ที่พักอาศัยและสำนักงานที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงสูงขึ้น โดยภาครัฐหรือเอกชนที่ลงทุนในการพัฒนาระบบสามารถนำมูลค่าส่วนเพิ่มมาสนับสนุนเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนได้ โดยต้องมีการวางแผนครอบคลุมทุก ๆ ด้าน ได้แก่ ผังเมือง ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน สาธารณูปโภค สาธารณูปการ และมาตรการต่าง ๆ

ใจความสำคัญ!! สถานีกลางบางซื่อผู้โดยสาร6.2แสนคน/วัน
*นาฬิกาเลข๙-อารยสถาปัตย์-อัจฉริยะ5จี-TOD
*ศูนย์กลางรถไฟไทยมาตรฐานโลกเชื่อมทุกระบบ
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2972183843003114

[Wisarut]

พ.ย.นี้"รถไฟทางไกล" วิ่งลอยฟ้า
*ขึ้นทางยกระดับรังสิต-บางซื่อ
*กางแผน22 ขบวนเข้าหัวลำโพง
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4311135305600048

ปลาย พ.ย.นี้ “รถไฟทางไกล” วิ่งลอยฟ้า!!
*ขึ้นทางยกระดับ “รังสิต-บางซื่อ”
*กางแผน 22 ขบวนเข้าหัวลำโพง
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2972878356266996

[Wisarut]

[Wisarut]

NEWS : ขสมก. กำลังเตรียมดำเนินการย้ายต้นทางรถโดยสารจากอู่หมอชิต2 ไปออกต้นทางที่อู่กำแพงเพชร 2 ด้านข้างสถานีกลางบางซื่อ หลังศาลเด็ก ซึ่งจะมีผลในวันที่ 16 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไปครับ
รถเมล์ที่ ต้อง เปลี่ยน ไปใช้อู่กำแพงเพชร 2
สาย 104,
สาย 136,
สาย 138,
สาย 145,
สาย 509,
สาย 536
สาย 96,
สาย 134,
สาย 138
สาย 145,
สาย 157
สาย 517 และ
สาย 77
https://www.facebook.com/Travelwithtransport/posts/893141947965698

แจง ขสมก. เตรียมยกเลิกอู่หมอชิต 2ไม่เป็นความจริง
หน้าเศรษฐกิจมหภาค - คมนาคม

15 สิงหาคม 2564 เวลา 20:30 น.

กระทรวงคมนาคม ชี้แจงข่าว ขสมก. เตรียมยกเลิกอู่หมอชิต 2 ส่งผลให้ประชาชนที่ลงรถโดยสารต่างจังหวัด ต้องรอรถโดยสาร ขสมก. ที่หน้าสถานีขนส่ง “ไม่เป็นความจริง”



กรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เตรียมยกเลิกท่าปล่อยรถอู่หมอชิต 2 บนพื้นที่ 16 ไร่ ข้างสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพฯ ในเร็ว ๆ นี้ ส่งผลให้เมื่อผู้โดยสารลงรถทัวร์ต่างจังหวัด ต้องไปรอรถเมล์หน้าสถานีขนส่ง นั้น

กระทรวงคมนาคมขอชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าว “ไม่เป็นความจริง” ถึงแม้ว่าจะยกเลิกอู่รถโดยสารของ ขสมก. แต่รถโดยสารของ ขสมก. ก็ยังต้องเข้ามาอำนวยความสะดวกรับ – ส่งประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว โดย บขส .และ ขสมก. จะบูรณาการร่วมกันในการให้บริการประชาชนเช่นเดิมตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

ที่ต้องการให้ทุกหน่วยงานบริการด้านการคมนาคมขนส่ง ต้องให้บริการประชาชนในทุกมิติแบบไร้รอยต่อ นอกจากนี้ ได้มอบนโยบายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) บูรณาการ ด้านระบบขนส่งสาธารณะทุกระบบให้เชื่อมโยงทุกโหมดการเดินทาง

ไม่ว่าจะเป็นรถโดยสารของ บขส. ขสมก. หรือ รถโดยสารระหว่างเมือง ให้สามารถเชื่อมต่อกับรถในเมืองหรือระบบรถไฟฟ้า และรถไฟระหว่างเมืองได้ เพราะฉะนั้นจะไม่มีเหตุการณ์ปล่อยให้ประชาชนต้องเดินตากแดดตากฝนไปขึ้นรถอย่างที่เป็นข่าวแน่นอน

[Wisarut]

เปิดเบื้องลึก!! ขสมก.ยกเลิกเช่าอู่หมอชิต 2 ตั้งแต่ 1ก.ย.
*เซฟค่าใช้จ่ายเช่าที่รถไฟฯ8.9แสนบาทต่อเดือน
*ย้ายสำนักงาน/รถเมล์100คันไปอู่กำแพงเพชร
*ยังใช้พื้นที่หมอชิต2เป็นจุดจอดรับส่งประชาชน
*ทัวร์ลงเพราะอ่อนประชาสัมพันธ์คมนาคมเบรก
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2977219932499505

[Wisarut]

การรถไฟฯ ชี้แจงฟุตบาทชำรุด และพื้นหินแกรนิตในบริเวณชั้นโถงผู้โดยสารมีรอยด่าง
ตามที่มีสื่อสังคมออนไลน์ได้โพสต์ข้อความ รูปภาพ และคลิปเกี่ยวกับฟุตบาท และพื้นหินแกรนิตในบริเวณชั้นโถงผู้โดยสาร (Concourse) ภายในสถานีกลางบางซื่อ นั้น
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย ขอเรียนชี้แจงว่า พื้นหินแกรนิตในบริเวณชั้นโถงผู้โดยสาร (Concourse) ของสถานีกลางบางซื่อ ดูดซึมน้ำ ด่าง เห็นเป็นรอยความชื้นรอบแผ่นนั้น จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณที่เกิดปัญหาดังกล่าว อยู่ในพื้นที่บริเวณประตูทางเข้า- ออก และบริเวณภายในห้องสุขา กรณีบริเวณประตูทางเข้า-ออก ความชื้นดังกล่าวเกิดจากน้ำฝนด้านนอกอาคารระบายไม่ทัน เกิดการอุดตันของรางระบายน้ำที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า-ออก ส่งผลให้น้ำฝนไหลเข้าอาคารและซึมเข้าสู่ใต้แผ่นพื้นหินแกรนิต ก่อให้เกิดความชื้นกระจายตัวออกไปโดยรอบประตูทางเข้า-ออก ส่วนบริเวณภายในห้องสุขา เกิดจากการรั่วซึมของน้ำที่สุขภัณฑ์ซึมเข้าสู่ใต้แผ่นพื้นหินแกรนิตเช่นกัน นอกจากนี้ในส่วนของพื้นฟุตบาทด้านหน้าอาคารนั้นมีสาเหตุเกิดจากการยุบตัวของชั้นทรายใต้พื้นปัญหาดังกล่าวทั้งหมดนี้ การรถไฟฯ ได้สั่งการให้ผู้รับจ้างรีบดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วน
ซึ่งผลงานก่อสร้างนี้ยังอยู่ในช่วงระยะเวลาของการรับประกันผลงาน 2 ปี โดยภายในอาคารนั้น ได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหารางระบายน้ำเพื่อไม่ให้มีน้ำฝนเข้ามาภายในตัวอาคารได้ และดำเนินการอบพื้นหินแกรนิตด้วยความร้อนเพื่อไล่ความชื้นออก พร้อมทั้งขัดทำความสะอาดใหม่ ส่วนบริเวณพื้นฟุตบาทด้านหน้าอาคาร ได้สั่งการให้ผู้รับจ้างดำเนินการรื้อแล้วปูใหม่ โดยได้มีการเริ่มดำเนินการแก้ไขแล้วและจะดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
เพื่อประโยชน์ของประชาชนผู้มาใช้บริการ
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4332994123414166

รฟท.สั่งผู้รับเหมาเร่งแก้ฟุตปาธและพื้นโถงสถานีกลางบางซื่อชำรุด ชี้เหตุจากรางระบายน้ำอุดตัน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 16 สิงหาคม 2564 เวลา 17:27 น.
ปรับปรุง: 16 สิงหาคม 2564 เวลา 17:27 น.



การรถไฟฯ ชี้แจงฟุตปาธชำรุด และพื้นหินแกรนิตในบริเวณชั้นโถงผู้โดยสารสถานีกลางบางซื่อมีรอยด่าง จากปัญหารางระบายน้ำอุดตัน น้ำฝนไหลเข้าอาคาร และซึมเข้าใต้พื้นหินแกรนิต สั่งผู้รับเหมาเร่งแก้ไขแล้ว ชี้ยังอยู่ในช่วงรับประกัน 2 ปี

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงกรณีมีสื่อสังคมออนไลน์ได้โพสต์ข้อความ รูปภาพ และคลิปเกี่ยวกับฟุตปาธ และพื้นหินแกรนิตในบริเวณชั้นโถงผู้โดยสาร (Concourse) ภายในสถานีกลางบางซื่อ ว่า การที่พื้นหินแกรนิตในบริเวณชั้นโถงผู้โดยสาร (Concourse) ของสถานีกลางบางซื่อดูดซึมน้ำ ด่าง เห็นเป็นรอยความชื้นรอบแผ่นนั้น จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณที่เกิดปัญหาดังกล่าวอยู่ในพื้นที่บริเวณประตูทางเข้า- ออก และบริเวณภายในห้องสุขา กรณีบริเวณประตูทางเข้า-ออก ความชื้นดังกล่าวเกิดจากน้ำฝนด้านนอกอาคารระบายไม่ทัน จึงเกิดการอุดตันของรางระบายน้ำที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า-ออก ส่งผลให้น้ำฝนไหลเข้าอาคารและซึมเข้าสู่ใต้แผ่นพื้นหินแกรนิต ก่อให้เกิดความชื้นกระจายตัวออกไปโดยรอบประตูทางเข้า-ออก

ส่วนบริเวณภายในห้องสุขา เกิดจากการรั่วซึมของน้ำที่สุขภัณฑ์ซึมเข้าสู่ใต้แผ่นพื้นหินแกรนิตเช่นกัน นอกจากนี้ ในส่วนของพื้นฟุตปาธด้านหน้าอาคารนั้นมีสาเหตุเกิดจากการยุบตัวของชั้นทรายใต้พื้น

จากปัญหาดังกล่าวทั้งหมดนี้ การรถไฟฯ ได้สั่งการให้ผู้รับจ้างรีบดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วน ซึ่งผลงานก่อสร้างนี้ยังอยู่ในช่วงระยะเวลาของการรับประกันผลงาน 2 ปี โดยภายในอาคารนั้นได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหารางระบายน้ำเพื่อไม่ให้มีน้ำฝนเข้ามาภายในตัวอาคารได้ และดำเนินการอบพื้นหินแกรนิตด้วยความร้อนเพื่อไล่ความชื้นออก พร้อมทั้งขัดทำความสะอาดใหม่ ส่วนบริเวณพื้นฟุตปาธด้านหน้าอาคาร ได้สั่งการให้ผู้รับจ้างดำเนินการรื้อแล้วปูใหม่ โดยได้มีการเริ่มดำเนินการแก้ไขแล้วและจะดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดเพื่อประโยชน์ของประชาชนผู้มาใช้บริการ

รฟท.ตื่นได้ยินเสียงประชาชนร้อง!! สั่งผู้รับเหมารื้อทำใหม่
*สถานีกลางบางซื่อทางเท้าพัง/น้ำซึมพื้นหินแกรนิตดำ
*เคลมบริษัทรับจ้างได้ยังอยู่ในระยะประกันผลงาน 2ปี
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2977433852478113

[Wisarut]

"อัศวิน" ตรวจเยี่ยมศูนย์พักคอยฯ โรงซ่อมบำรุงรถไฟสถานีบางซื่อ เปิดรับแล้ววันนี้ มีผู้ป่วยครองเตียง 50 ราย รองรับ 400 เตียง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: 17 สิงหาคม 2564 เวลา 11:55
ปรับปรุง: 17 สิงหาคม 2564 เวลา 11:55



ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ บริเวณศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟสถานีกลางบางซื่อ อีกสถานที่รองรับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว เผยพร้อมเปิดรับวันนี้วันแรก รองรับได้ 400 เตียง



วันนี้ (17 ส.ค.) เวลา 08.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมความพร้อมศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) "ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟสถานีกลางบางซื่อ" เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีผลตรวจรับรองว่าติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียว รองรับได้ 400 เตียง

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สำหรับศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อแห่งนี้เป็นจุดที่ 64 มีทั้งหมด 400 เตียง แบ่งเป็นชาย 200 เตียง หญิง 200 เตียง มีห้องน้ำรองรับแบ่งออกเป็น ชาย 18 ห้อง ห้องน้ำหญิง 22 ห้อง มีความพร้อมเปิดทันทีในวันนี้ เวลา 11.00 น. โดยมีรายงานผู้ป่วยประมาณ 50 คน ส่วนวิธีการปฏิบัติจะทำการตรวจ ATK (Antigen Test Kit) ก่อน หากเป็นบวก จะให้คอยบนโบกี้ และตรวจ RT-PCR ซ้ำอีกครั้ง เพื่อแยกระดับอาการ โดยมีโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง เป็นผู้บริหารจัดการผู้ป่วย นอกจากนี้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมให้การสนับสนุนระบบอินเตอร์เน็ตด้วย

ทั้งนี้ ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อดำเนินงานตามมาตรการความปลอดภัยในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มีจุดลงทะเบียน จุดคัดกรองผู้ป่วย จุดวัดอุณหภูมิและวัดค่าออกซิเจน จุดบริการอาหารและน้ำดื่ม ติดตั้งเตียงจัดวางที่นอน ติดตั้งระบบไฟฟ้าเพิ่มเติม ระบบเสียงตามสาย ระบบรักษาความปลอดภัย CCTV ระบบอินเตอร์เน็ต ติดตั้งพัดลม ฉีดพ่นยากำจัดยุงลาย ทำความสะอาดห้องน้ำและห้องสุขา ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบกำจัดขยะทั่วไปและขยะติดเชื้อ นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วย เช่น ชุดเครื่องนอน มุ้ง ผ้าเช็ดตัว ครีมอาบน้ำ ยาสระผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เป็นต้น พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ดูแลความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อย

ปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้จัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีผลตรวจรับรองว่าติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งสิ้น 69 แห่ง สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 9,190 เตียง โดยมีการยกระดับศูนย์พักคอย 7 แห่ง ให้เป็นศูนย์พักคอยกึ่งโรงพยาบาลสนาม (Community Isolation Plus : CI Plus) เพื่อรองรับผู้ป่วยระดับสีเหลืองให้ได้รับการรักษาเพิ่มขึ้น รองรับผู้ป่วยได้ 990 เตียง ขณะนี้ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อของกรุงเทพมหานครเปิดรับผู้ป่วยแล้ว 64 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 8,322 เตียง อัตราการครองเตียงขณะนี้ 3,609 เตียง เตียงว่าง 4,713 เตียง โดยแยกผู้ป่วยออกมาจากบ้าน นำมาพักคอยที่ศูนย์ฯ เพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดและติดเชื้อของคนในครอบครัวและชุมชน มีการคัดกรองอาการและดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น เพื่อรอการส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลตามการประเมินจากแพทย์ ด้านโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลสนาม และ Hospitel ในความดูแลของกรุงเทพมหานคร สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 3,706 เตียง อัตราการครองเตียง 3,428 เตียง คิดเป็นร้อยละ 92.5 นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังมีศูนย์พักคอยแบบ Semi Community Isolation (Semi CI) อีก 28 แห่ง สามารถรับผู้ป่วยได้ 1,487 เตียง (ข้อมูล ณ วันที่ 16 ส.ค. 64)


ปรับปรุงโรงซ่อมบำรุงรถไฟสถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์พักคอยพร้อมเปิดให้เข้าพักวันนี้
17 สิงหาคม 2564, 12:33 น.


ปรับปรุงโรงซ่อมบำรุงรถไฟสถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์พักคอยพร้อมเปิดให้เข้าพักวันนี้
โดยศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) ไว้สำหรับรองรับผู้ป่วยที่มีผลตรวจรับรองว่าติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจความพร้อมศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อกลาง กรุงเทพมหานคร เขตจตุจักร แห่งที่ 3 (Community Isolation : CI) โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตจตุจักร โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้ข้อมูล ที่ โรงซ่อมบำรุงรถไฟสถานีกลางบางซื่อ เขตจตุจักร

ศูนย์พักคอยแห่งนี้สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 400 เตียง แบ่งเป็นชาย 200 เตียง และ หญิง 200 เตียง พร้อมเปิดให้บริการวันนี้ ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป โดยมีโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง เป็นผู้บริหารจัดการผู้ป่วย นอกจากนี้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมให้การสนับสนุนระบบอินเตอร์เน็ตด้วย

(เมื่อวันที่ 17 ส.ค.64)

ปรับสถานีซ่อมรถไฟเป็นศูนย์พักคอย
17 สิงหาคม 2564 เวลา 16:18 น.

การมีศูนย์พักคอยไว้รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ในตอนนี้ จะทำให้เราแยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชนและครอบครัวได้มากขึ้น กทม. จึงต้องหาสถานที่ทำศูนย์พักคอยให้เพิ่มขึ้นได้มากๆ ซึ่งตอนนี้ กทม. ได้นำศูนย์กีฬาและโรงเรียนของ กทม. ศาสนสถานในชุมชน และสถานที่จากหน่วนงานอื่นๆ ที่เข้ามาช่วย จนมีศูนย์พักคอยแล้ว 118 แห่ง รับผู้ป่วยได้ ถึง 9,190 ราย
.
การรถไฟแห่งประเทศไทย ก็ได้ให้พื้นที่ภายในโรงซ่อมรถไฟ เขตจตุจักร กับ กทม. ใช้เป็นศูนย์พักคอย เพื่อรับผู้ป่วยในพื้นที่เขตจตุจักรและเขตใกล้เคียง
.
ซึ่งจากที่ผมได้ไปตรวจมาวันนี้ ก็ได้เห็นถึงความพร้อมในการรับผู้ป่วยของที่นี่ ด้วยพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ กว้างขวาง อากาศถ่ายเทสะดวก ทำให้สามารถรับผู้ป่วยได้มากถึง 400 เตียง ซึ่งใกล้เคียงกับโรงพยาบาลสนามบางกอกอารีน่า และยังมีพื้นที่แยกโซนผู้ติดเชื้อของผู้มีผลตรวจจาก ATK แยกพักคอยระหว่างรอผลตรวจซ้ำบนโบกี้รถไฟอีกด้วยครับ โดยศูนย์พักคอยแห่งนี้จะเริ่มรับผู้ป่วยเข้าในวันนี้ (17 สิงหาคม)
.
ผมขอขอบคุณ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ให้ใช้สถานที่ และขอขอบคุณทีมหมอ พยาบาลจาก รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง ที่คอยดูแลรักษาผู้ป่วยในศูนย์พักคอยแห่งนี้
.
ยังมีอีกหลายสถานที่ที่สามารถใช้เป็นศูนย์พักคอยได้ หน่วยงานที่มีอาคารหรือสถานที่ที่เหมาะสมทำเป็นศูนย์พักคอย กทม.ก็ยินดีครับ
.
หากการแพร่ระบาดรุนแรงขึ้น กทม.ก็พร้อมที่จะปรับศูนย์พักคอยที่มีเครื่องมือทางการแพทย์พร้อมให้เป็นกึ่งโรงพยาบาลสนามต่อไปครับ

พาชม! ‘ศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด’ @โรงซ่อมรถไฟ จตุจักร รองรับผู้ป่วย 400 เตียง พร้อมรับผู้ป่วยแล้ววันนี้
17 สิงหาคม 2564

เฟซบุ๊ก “ผู้ว่าฯ อัศวิน” เผยแพร่การปรับสถานีซ่อมรถไฟ จตุจักรเป็น “ศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด-19” รองรับได้ 400 เตียง เปิดให้บริการแล้ววันนี้ พร้อมขอบคุณ “ศักดิ์สยาม–การรถไฟฯ–แพทย์” เผยหากสถานการณ์แพร่ระบาดรุนแรงขึ้น กทม.พร้อมปรับสถานที่เป็น “กึ่ง รพ.สนาม”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ส.ค. 2564) เฟซบุ๊ก “ผู้ว่าฯ อัศวิน” (https://www.facebook.com/219158378492326/posts/1118254685249353/) ได้โพสต์ข้อมูลและเผยแพร่ภาพ “ปรับสถานีซ่อมรถไฟเป็นศูนย์พักคอย” โดยระบุข้อความว่า การมีศูนย์พักคอยไว้รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ในตอนนี้ จะทำให้เราแยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชนและครอบครัวได้มากขึ้น โดยกรุงเทพมหานคร (กทม.) จึงต้องหาสถานที่ทำศูนย์พักคอยให้เพิ่มขึ้นได้มากๆ ซึ่งตอนนี้ กทม. ได้นำศูนย์กีฬา และโรงเรียนของ กทม. ศาสนสถานในชุมชน และสถานที่จากหน่วนงานอื่นๆ ที่เข้ามาช่วย จนมีศูนย์พักคอยแล้ว 118 แห่ง รับผู้ป่วยได้ ถึง 9,190 ราย



ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก็เป็นอีก 1 หน่วยงาน ที่ได้ให้พื้นที่ภายในโรงซ่อมรถไฟ เขตจตุจักร กับ กทม. โดยการปรับใช้เป็นศูนย์พักคอย เพื่อรับผู้ป่วยในพื้นที่เขตจตุจักรและเขตใกล้เคียง โดยจากที่ตนได้ไปตรวจมาวันนี้(17 ส.ค. 2564) ได้เห็นถึงความพร้อมในการรับผู้ป่วยของที่นี่ ด้วยพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ กว้างขวาง อากาศถ่ายเทสะดวกทำให้สามารถรับผู้ป่วยได้มากถึง 400 เตียง ซึ่งใกล้เคียงกับโรงพยาบาลสนามบางกอกอารีน่า และยังมีพื้นที่แยกโซนผู้ติดเชื้อของผู้มีผลตรวจจาก ATK แยกพักคอยระหว่างรอผลตรวจซ้ำบนโบกี้รถไฟอีกด้วย โดยศูนย์พักคอยแห่งนี้ ได้เริ่มรับผู้ป่วยเข้าในวันนี้แล้ว

“ผมขอขอบคุณ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ ที่ให้ใช้สถานที่ และขอขอบคุณทีมหมอ พยาบาลจากโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ที่คอยดูแลรักษาผู้ป่วยในศูนย์พักคอยแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสถานที่ที่สามารถใช้เป็นศูนย์พักคอยได้ หน่วยงานที่มีอาคารหรือสถานที่ที่เหมาะสมทำเป็นศูนย์พักคอยกทม.ก็ยินดี อย่างไรก็ตาม หากการแพร่ระบาดโควิด-19 รุนแรงขึ้น กทม.ก็พร้อมที่จะปรับศูนย์พักคอยที่มีเครื่องมือทางการแพทย์พร้อมให้เป็นกึ่งโรงพยาบาลสนามต่อไป” ผู้ว่าฯ อัศวิน โพสต์เฟซบุ๊ก

[Mongwin]

กทม.เปิดศูนย์พักคอยผู้ป่วยที่โรงซ่อมรถไฟสถานีกลางบางซื่อ
Aug 18, 2021
TV5HD1


https://www.youtube.com/watch?v=ohX9LspPY8U

[Wisarut]

คนบ่นเรื่องสถานีกลางบางซื่อที่ไม่มีเอกลักษณ์
https://www.facebook.com/groups/685357704847197/posts/4277869772262621/