RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311234
ทั่วไป:13180489
ทั้งหมด:13491723
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานีกลางบางซื่อและรถไฟฟ้า
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานีกลางบางซื่อและรถไฟฟ้า
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 30, 31, 32 ... 63, 64, 65  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 06/10/2021 12:43 am    Post subject: Reply with quote


ชั้นB1 สถานีกลางบางซื่อ ที่จอดรถชั้นใต้ดินที่เพิ่งเคยเห็น
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=113880431048918&id=102531745517120
https://www.youtube.com/watch?v=xKVqb6bERdg
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 06/10/2021 9:19 pm    Post subject: Reply with quote

ตั้งเป้า 30 พ.ย.นี้ สถานีกลางบางซื่อ ฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 2 ครบ 5.1 แสนโดส
หน้าเศรษฐกิจมหภาคคมนาคม
วันศุกร์ ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 15:43 น.

"คมนาคม" ปลื้มยอดผู้ฉีดวัคซีนโควิดสถานีกลางบางซื่อแตะ 1.9 ล้านโดส ตั้งเป้าเข็ม 2 ครบ 5.1 แสนโดสสิ้นเดือนพ.ย.นี้ ฟากรฟท.เตรียมเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีกลางฯ-สายสีแดงต้นปี 65

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster dose) (เข็มที่ 3) ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ สถานีกลางบางซื่อ ว่า กระทรวงคมนาคมได้รับนโยบายจากรัฐบาล ทำหน้าที่สนับสนุนภารกิจด้านสาธารณสุขดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จึงได้มีการจัดเตรียมพื้นที่บางส่วนของสถานีกลางบางซื่อ เพื่อเปิดเป็น “ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ” สำหรับรองรับการให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นมา รวมทั้งสิ้น 130 วัน โดยปัจจุบันได้ให้บริการฉีดวัคซีนแก่บุคลากรด่านหน้ากระทรวงคมนาคม พนักงาน ผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ รวมถึงประชาชนทั่วไปแล้วทั้งสิ้น 1,948,160 โดส รองรับการฉีดวัคซีนได้เฉลี่ย 14,986 คนต่อวัน แบ่งออกเป็นการฉีดวัคซีนเข็มแรกจำนวน 1,358,923 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 514,353 โดส และเข็มที่ 3 ซึ่งเริ่มฉีดไปเมื่อ 24 กันยายน 2564 จำนวน 74,884 โดส โดยคาดว่าในส่วนของการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จะฉีดได้ครบเป้าหมายภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564


ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมยังพร้อมสนับสนุนให้ศูนย์วัคซีนกลางบางซื่อ รองรับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 สำหรับผู้ที่เคยได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 จากศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2564 โดยได้จัดเตรียมพื้นที่บริเวณประตู 2 และประตู 3 รองรับผู้มารับวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่กระทบต่อแผนการเปิดให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ซึ่งได้ทดลองเปิดให้บริการไปแล้วเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 รวมถึงแผนการให้บริการรถไฟทางไกลในอนาคต ซึ่งกำหนดใช้พื้นที่ประตู 4 เป็นทางเข้า-ออกสำหรับรถไฟทางไกล และใช้ประตู 1 สำหรับเป็นทางเข้า-ออก รถไฟสายสีแดง


ขณะที่ความคืบหน้าการเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบของสถานีกลางบางซื่อ ได้มอบให้การรถไฟฯ ดำเนินการทั้งในส่วนการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานีกลางบางซื่อ และสถานีรถไฟสายสีแดง 12 สถานี โดยแบ่งเป็น 4 สัญญาได้แก่
1. เชิญชวนยื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์บริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ
2. เชิญชวนยื่นข้อเสนอเพื่อสิทธิการบริหารจัดการพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ โดยทั้ง 2 สัญญานี้จะเป็นสัญญาระยะยาว 20 ปี เพื่อให้เกิดประโยชน์ตอบแทน ที่คุ้มค่าต่อการลงทุน
3. เชิญชวนยื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์บริเวณอาคารสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง 12 สถานี และ
4. เชิญชวนยื่นข้อเสนอเพื่อสิทธิการบริหารจัดการพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณา บริเวณอาคารสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง 12 สถานี ซึ่ง 2 สัญญานี้เป็นสัญญาระยะสั้น 3 ปี

ทั้งนี้รฟท. กำหนดออกประกาศเชิญชวนเอกชนเข้ามายื่นข้อเสนอในเดือนตุลาคมนี้ ในส่วนกระบวนการพิจารณาผลการประกวดราคาและเอกชนสามารถเข้ามาดำเนินการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในต้นปี 2565 โดยระยะเร่งด่วนจะต้องเข้ามาบริหารพื้นที่บริเวณประตู 4 ซึ่งจะพัฒนาเป็นร้านอาหารสำหรับให้บริการ แก่ผู้โดยสาร ตามด้วยการพัฒนาพื้นที่ห้างร้านต่างๆ ในรูปแบบชอปปิ้งมอลล์ ซึ่งเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ได้จัดเตรียม ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ หรือคีออสมาให้บริการอาหารและเครื่องดื่มแก่ประชาชนไว้แล้ว ส่วนการให้บริการรถทางไกล บริเวณสถานีกลางบางซื่อ ขณะนี้ได้เริ่มทดลองขบวนรถทางไกลขึ้น-ลง สถานีกลางบางซื่อ ชั้นที่ 2 ซึ่งได้เริ่มทดสอบตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา โดยให้ประเมินการควบคุมเวลาของขบวนรถทางไกล และจัดทำตารางเดินรถใหม่ให้แล้วเสร็จ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน ก่อนเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ธันวาคม 2564

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวต่อว่า การรถไฟฯ มีการเตรียมความพร้อม ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ โดยจัดพื้นที่จอดรถยนต์ชั้นใต้ดินของสถานีกลางบางซื่อ ให้บริการฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย 1,700 คัน และยังได้รับความร่วมมือจากกรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจรถไฟ หน่วยงานทหาร จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัย เพื่อกำกับดูแลพื้นที่โดยรอบสถานีให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย การรถไฟฯ ไม่อนุญาตให้หาบเร่แผงลอยเข้ามาค้าขายในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย


นอกจากนี้ผู้ได้รับสิทธิฉีดวัคซีนเข็มที่3 เดินทางด้วยระบบขนส่งรถไฟชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินหรือระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ มาที่ศูนย์ฉีดวัดซีนกลางบางซื่อได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณภายในสถานี โดยมีขบวนรถไฟชานเมืองสายสีแดงเปิดให้บริการ ช่วงบางซื่อ – รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 20.00 น. เดินรถในช่วงเวลาเร่งด่วนทุก ๆ 15 นาที ช่วงเวลาปกติทุก ๆ 30 นาที โดยประชาชนสามารถนำรถยนต์ไปจอดที่สถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดงได้ทุกสถานี และยังคงดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 อย่างเคร่งครัด ด้วยการจำกัดจำนวนผู้โดยสารในขบวนรถและสถานีไม่เกินร้อยละ 50

Wisarut wrote:
“ศักดิ์สยาม” เผยศูนย์วัคซีนบางซื่อฉีดเกือบ 2 ล้านโดสแล้ว คาด 28 พ.ย.เสร็จสิ้นภารกิจส่งพื้นที่คืน รฟท.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 17:28 น.
ปรับปรุง: วันศุกร์ ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 17:28 น.

“ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ” เตรียมคืนพื้นที่ให้การรถไฟฯ 28 พ.ย. นี้
อสังหาริมทรัพย์
วันศุกร์ ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 15:22 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 13/10/2021 11:17 pm    Post subject: Reply with quote

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดพิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 2564
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ 13 ตุลาคม 2564 เวลา 12:04 น.

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2564 เวลา 08.30 น. ณ สถานีกลางบางซื่อ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟ
แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยรองผู้ว่าการรถไฟฯ คณะผู้บริหาร ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ พนักงาน และจิตอาสา 904 เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในกิจกรรมร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 2564 พร้อมกับยืนสงบนิ่ง 89 วินาที จากนั้นได้ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสา บำเพ็ญสาธารณประโยชน์พัฒนาพื้นที่ จัดเก็บขยะมูลฝอย บริเวณย่านสถานีกลางบางซื่อ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด สวยงาม
นายนิรุฒฯ เผยว่า การรถไฟฯ ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เพื่อประโยชน์สุขแก่พสกนิกรชาวไทยมาอย่างยาวนาน และได้น้อมนำพระราชดำริแห่งการพัฒนาระบบคมนาคมของไทย มาเป็นแบบอย่างในการดำเนินงานเพื่อประโยชน์แก่ประชาชน การให้บริการ การพัฒนาประเทศ และการเชื่อมโยงโครงข่ายระบบคมนาคมไทย
นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้ติดตั้งนาฬิกา ที่หน้าปัดมีหมายเลข ๙ เพียงเลขเดียว บนผนังกระจกด้านหน้า
ของสถานีกลางบางซื่อ เพื่อร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยตัวเรือนนาฬิกามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เมตร สูงจากระดับพื้นดิน 21 เมตร เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของสถานีกลางบางซื่ออีกด้วย
https://www.facebook.com/pr.railway/posts/5073190199362477
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 15/10/2021 9:56 pm    Post subject: Reply with quote

“ศูนย์อาหารบางซื่อราคาไม่แพงงงง” ผู้ว่ารถไฟฯกล่าว
*รฟท.ใช้ที่ติดกันสร้างเองให้เดินเชื่อมอาคารมาซื้อ
*แบ่งโซนเอกชนพัฒนาพื้นที่โมเดลทอท.ลดขาดทุน
*ชงบอร์ดอีกรอบ18 ต.ค.นี้เคาะประมูล 5 หมื่นตร.ม.
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/3023381424550022

Note: มีคนบ่นว่า ราคาปกติแบบ น้ำดื่มข้างนอก 7 บาท ขาย 10 บาท ข้างนอก 15 บาท ขาย 22 บาทอีกรึเปล่าครับ?
ศูนย์อาหารข้างนอก ตรงแปลง A ? ท่าทางจะออกมาแบบศูนย์อาหารเดิมหลังป้ายรถเมล์ข้างสถานีบางซื่อซะละมั้ง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 20/10/2021 4:07 am    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.จุดพลุพื้นที่เชิงพาณิชย์ ยึดโมเดล ทอท.ชิงสถานีบางซื่อ
เศรษฐกิจ
วันที่ 16 ตุลาคม 2564 เวลา 10:00 น.

ร.ฟ.ท.ชงบอร์ด 18 ต.ค.นี้ ประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ สถานีกลางบางซื่อ 5 หมื่น ตร.ม.ยึดโมเดล ทอท.ประมูลสุวรรณภูมิ จัดพื้นที่และผลประโยชน์ตอบแทน ปั้นช็อปปิ้งมอลล์ ศูนย์รวมแบรนด์เนมกลางกรุง เดินหน้าแผนพัฒนาแปลง A ปรับคอนเซ็ปต์ศูนย์อาหาร

สถานีกลางบางซื่อมีแผนที่จะเปิดบริการเชิงพาณิชย์เดือน พ.ย.2564 ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ปรับแนวทางการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์หลังจากที่ผ่านมาการประมูลพัฒนาพื้นที่แปลง A ไม่ประสบความสำเร็จ โดยจะเปิดประมูลใช้ประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์และป้ายโฆษณา บริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ และสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง 12 สถานี รวม 50,000 ตารางเมตร

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.เตรียมเสนอโครงการเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ร.ฟ.ท.พิจารณาอนุมัติประมูลอีกครั้ง หลังจากที่การประชุมก่อนหน้านี้คณะกรรมการ ร.ฟ.ท.มอบหมายให้กลับไปจัดทำข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมมอบให้ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ช่วยพิจารณาเพื่อให้ได้รูปแบบที่สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน

ทั้งนี้ แนวทางการจัดใช้ประโยชน์และจัดเก็บค่าตอบแทนนั้น ร.ฟ.ท.ได้ศึกษานำแนวทางการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ที่ดำเนินการในท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิมาปรับใช้กับการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งนำมาเป็นต้นแบบการทำธุรกิจในเชิงการจัดสรรผลประโยชน์ การจัดเก็บผลประโยชน์ตอบแทน เพื่อให้การบริหารงานของพื้นที่สถานีกลางบางซื่อเกิดผลกำไรและประโยชน์สูงสุด

“การรถไฟฯ นำโมเดล ทอท.มาใช้ในเรื่องของการบริหารพื้นที่ การจัดเก็บผลประโยชน์ตอบแทน แต่ยืนยันว่าจะไม่ได้ทำพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่มุ่งเน้นกำไรจนกระทบต่อราคาสินค้ามากเกินไป และไม่ได้ให้เอกชนเข้าบริหารพื้นที่สถานีกลางบางซื่อทั้งหมด ยังมีพื้นที่ที่การรถไฟฯ บริหารจัดการเอง ดังนั้นราคาอาหารที่จะจำหน่ายในสถานีกลางบางซื่อจะมีราคาไม่แพง”



ปรับรูปแบบชิงแปลง A

นายนิรุฒ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ร.ฟ.ท.ยังมีแผนพัฒนาพื้นที่แปลง A สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งจากเดิมเคยมีการศึกษาจะเปิดประกวดราคาจัดหาเอกชนร่วมลงทุน (พีพีพี) ในคอนเซ็ปต์พื้นที่เชิงพาณิชย์แบบผสมผสาน (มิกส์ยูส) เนื้อที่ประมาณ 32 ไร่ แต่เนื่องจากพื้นที่แปลงนี้มีทางด่วนผ่ากลางทำให้ไม่ได้รับความสนใจจากเอกชน ล่าสุด ร.ฟ.ท.จึงมีแผนปรับคอนเซ็ปต์พัฒนาพื้นที่ใหม่ ให้เป็นศูนย์อาหาร ทำพื้นที่เชื่อมโยงกับสถานีกลางบางซื่อ

“เราจะพัฒนาแปลง A ให้เป็นศูนย์อาหารราคาไม่แพง ทำพื้นที่เชื่อมต่อกับสถานีกลางบางซื่อในลักษณะที่เดินเชื่อมต่อกันได้แบบไม่รู้ตัว เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยของผู้ที่มาใช้บริการสถานีกลางบางซื่อเพิ่มขึ้น ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าเมื่อพื้นที่สถานีกลางบางซื่อเปิดประมูลให้เอกชนแล้ว จะไม่มีอาหารราคาประหยัดไว้บริการ เพราะเราจะพัฒนาพื้นที่แปลง A เพื่อรองรับเพิ่มเติม”


พัฒนา“ชอปปิงมอลล์”

รายงานข่าวจาก ร.ฟ.ท. ระบุว่า ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ต้องการให้ ร.ฟ.ท.นำโมเดลการพัฒนาพื้นที่และรูปแบบจัดการผลประโยชน์ตอบแทนของ ทอท.มาศึกษาเพื่อปรับใช้กับการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีกลางบางซื่อ เนื่องจาก ทอท.เป็นต้นแบบที่สำเร็จในการจัดสรรพื้นที่ในท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิ โดยสร้างรายได้เชิงพาณิชย์เพื่อสนับสนุนองค์กรได้ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เบื้องต้นโมเดลที่ ร.ฟ.ท.จะนำมาปรับใช้ คือ การจัดสรรพื้นที่ภายในสถานีกลางบางซื่อให้พัฒนาห้างร้านรูปแบบชอปปิงมอลล์ มีสินค้าและบริการที่หลากหลาย รวมไปถึงสินค้าแบรนด์เนมคล้ายการบริการในท่าอากาศยาน เพื่อยกระดับให้สถานีกลางบางซื่อไม่เป็นเพียงสถานีบริการการเดินทาง แต่เป็นสถานีพักผ่อนของผู้เดินทางและบุคคลทั่วไป รองรับเปิดบริการรถไฟความเร็วสูงปี 2568-2569

“โมเดลของ ทอท.ที่นำมาศึกษาจะเห็นได้ว่ามีการจัดสรรพื้นที่หลากหลาย สินค้าและบริการตอบโจทย์ผู้ใช้บริการ ผู้ที่เดินทางทำให้สถานีรถไฟมีชีวิตชีวา ผู้โดยสารหรือประชาชนมาใช้บริการได้ เป็นอีกหนึ่งจุดนัดพบ และยังศึกษาการจัดเก็บผลประโยชน์ตอบแทนที่ ทอท.ทำในรูปแบบจ่ายส่วนแบ่งรายได้”

ขยายพื้นที่เชิงพาณิชย์

สำหรับพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานีกลางบางซื่อ เดิม ร.ฟ.ท.มีการศึกษาพัฒนาประมาณ 1.2 หมื่นตารางเมตร แต่เนื่องจากนโยบายกระทรวงคมนาคมที่ต้องการให้เพิ่มรายได้พื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อสนับสนุนรายได้จากการเดินรถเพื่อทำให้สถานีกลางบางซื่อสร้างรายได้คุ้มค่าต่อการลงทุน ร.ฟ.ท.จึงศึกษาเพิ่มพื้นที่เชิงพาณิชย์เป็น 5.1 หมื่นตารางเมตรโดยเพิ่มพื้นที่ส่วนของโซนรถไฟความเร็วสูงราว 1.8 ตารางเมตร และมีพื้นที่โฆษณาอีกราว 2.3 พันตารางเมตร

โดย ร.ฟ.ท.จะเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานีกลางบางชื่อ และสถานีรถไฟสายสีแดง 12 สถานี แบ่งเป็น 4 สัญญา ได้แก่

1.เชิญชวนยื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์บริเวณอาคารสถานีกลางบางชื่อ

2.เชิญชวนยื่นข้อเสนอเพื่อสิทธิการบริหารจัดการพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณอาคารสถานีกลางบางชื่อ โดยทั้ง 2 สัญญาเป็นสัญญาระยะยาว 20 ปี

3.เชิญชวนยื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ บริเวณอาคารสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง 12 สถานี

4.เชิญชวนยื่นข้อเสนอเพื่อสิทธิการบริหารจัดการพื้นที่ ติดตั้งป้ายโฆษณา บริเวณอาคารสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง 12 สถานี ซึ่ง 2 สัญญาเป็นสัญญาระยะสั้น 3 ปี

คาดเปิดประมูล ต.ค.นี้

ทั้งนี้ คาดว่า ร.ฟ.ท.จะให้เอกชนยื่นข้อเสนอภายในเดือน ต.ค.นี้ และเอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ต้นปี 2565 โดยระยะเร่งด่วนเอกชนผู้ชนะการประมูล ต้องเข้ามาบริหารพื้นที่บริเวณประตู 4 ที่จะพัฒนาเป็นร้านอาหารสำหรับให้บริการผู้โดยสาร ตามด้วยการพัฒนาพื้นที่ในรูปแบบช็อปปิ้งมอลล์ ร้านค้า และสินค้าแบรนด์เนม

รายงานข่าวระบุว่า รูปแบบการจัดเก็บผลประโยชน์ตอบแทนที่ ทอท.ดำเนินการภายใต้สัญญาบริหารพื้นที่ท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ซึ่งมีคู่สัญญาเป็นกลุ่มคิงเพาเวอร์ กำหนดให้จ่ายส่วนแบ่งรายได้ (Revenue sharing) 20% ตลอดสัญญา 10 ปี หรือถ้าปีใดส่วนแบ่งรายได้น้อยกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ (Minimum guarantee) ที่คิงเพาเวอร์เสนอไว้ให้จ่ายตามอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำแทน
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/10/2021 8:00 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ร.ฟ.ท.จุดพลุพื้นที่เชิงพาณิชย์ ยึดโมเดล ทอท.ชิงสถานีบางซื่อ
เศรษฐกิจ
วันที่ 16 ตุลาคม 2564 เวลา 10:00 น.

เปิดแผน รฟท.ประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ “สถานีกลางบางซื่อ”
ฐานเศรษฐกิจ หน้าแรก เศรษฐกิจ Mega Project
21 ต.ค. 2564 เวลา 19:18 น.

รฟท.เล็งชงบอร์ดไฟเขียวแผนประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีกลางบางซื่อ 5 หมื่นตร.ม. ดึงแปลงA ปรับโฉมเป็นศูนย์อาหาร เชื่อมต่อการเดินทางผู้ใช้บริการ ดึงเอกชนร่วมทุนบริหารต้นปี 65

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า สำหรับ ความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีกลางบางซื่อ นั้น เบื้องต้นรฟท.ได้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท.ขออนุมัติออกประกาศเชิญชวนการจัดประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์ และป้ายโฆษณา บริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ และสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง 12 สถานี รวมกว่า 5 หมื่นตารางเมตร (ตร.ม.) อีกครั้ง หลังจากที่การประชุมบอร์ด รฟท. ครั้งก่อนหน้านี้ได้มอบให้ รฟท. กลับไปจัดทำข้อมูลเพิ่มเติม โดยให้บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกดูแลบริหารทรัพย์สินของ รฟท. ช่วยพิจารณาด้วย เพื่อให้ได้รูปแบบที่ดีที่สุด

สำหรับแนวทางการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ที่ดำเนินการในท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมาปรับใช้กับสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งได้นำมาเป็นต้นแบบการทำธุรกิจในเชิงการจัดสรรผลประโยชน์เท่านั้น ไม่ใช่เรื่องของราคา และไม่ได้ให้เอกชนเข้าบริหารพื้นที่สถานีกลางบางซื่อทั้งหมด ยังมีพื้นที่ที่ รฟท. บริหารจัดการเอง เบื้องต้นเรื่องราคาอาหารที่จะจำหน่ายในสถานีกลางบางซื่อ ทางบอร์ด รฟท. ก็ต้องการให้ผู้ที่มาใช้บริการสามารถซื้อน้ำ หรืออาหารในราคาปกติได้

ขณะเดียวกันรฟท. มีแผนนำพื้นที่แปลง A บางส่วน ซึ่งอยู่ติดกับสถานีกลางบางซื่อ มาออกแบบให้เชื่อมต่อกับสถานีกลางบางซื่อ และทำเป็นศูนย์อาหาร (Food Court) จำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มในราคาปกติไม่แพง โดยผู้มาใช้บริการจะสามารถเดินเชื่อมทั้ง 2 อาคารได้เหมือนเป็นอาคารเดียวกันเลย ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าสถานีกลางบางซื่อจะไม่มีสินค้า อาหาร และเครื่องดื่มราคาถูกไว้คอยบริการผู้มาใช้บริการ โดยร้านค้าภายในสถานีกลางบางซื่อจะมีการจำหน่ายอาหารในระดับราคาที่หลากหลาย เพื่อไม่ให้ประชาชนที่มาใช้บริการได้รับความเดือดร้อน

“ยอมรับว่าหาก รฟท. ไม่เปิดประมูลให้เอกชนเข้ามาพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ สถานีกลางบางซื่อ รฟท. ก็อาจไปไม่รอด ต้องขาดทุนเหมือนเดิม ดังนั้นจึงต้องหารายได้จากพื้นที่เชิงพาณิชย์ด้วย เพื่อนำมาชดเชยในส่วนของค่าโดยสารที่ต้องควบคุมไม่ให้มีราคาสูงเกินไป จนกระทบกับประชาชนผู้มาใช้บริการ”

ทั้งนี้การบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานีกลางบางชื่อ และสถานีรถไฟสายสีแดง 12 สถานี แบ่งเป็น 4 สัญญา ได้แก่

1.เชิญชวนยื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์บริเวณอาคารสถานีกลางบางชื่อ

2. เชิญชวนยื่นข้อเสนอเพื่อสิทธิการบริหารจัดการพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณอาคารสถานีกลางบางชื่อ โดยทั้ง 2 สัญญาเป็นสัญญาระยะยาว 20 ปี

3. เชิญชวนยื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ บริเวณอาคารสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง 12 สถานี และ

4.เชิญชวนยื่นข้อเสนอเพื่อสิทธิการบริหารจัดการพื้นที่ ติดตั้งป้ายโฆษณา บริเวณอาคารสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง 12 สถานี ซึ่ง 2 สัญญาเป็นสัญญาระยะสั้น 3 ปี

อย่างไรก็ตามทั้งนี้คาดว่า รฟท. จะให้เอกชนยื่นข้อเสนอภายในเดือน ต.ค.นี้ และเอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ต้นปี 65 โดยระยะเร่งด่วนต้องเข้ามาบริหารพื้นที่บริเวณประตู 4 ที่จะพัฒนาเป็นร้านอาหารสำหรับให้บริการผู้โดยสาร ตามด้วยการพัฒนาพื้นที่ในรูปแบบชอปปิ้งมอลล์ ซึ่งเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ได้จัดเตรียมตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ(คีออส) มาให้บริการอาหาร และเครื่องดื่มแก่ประชาชนไว้แล้ว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/10/2021 3:45 pm    Post subject: Reply with quote

ผู้ว่าฯ รฟท.ตรวจความพร้อมการเดินรถไฟทางไกล ณ สถานีกลางบางซื่อ
เผยแพร่: 26 ต.ค. 2564 15:06 ปรับปรุง: 26 ต.ค. 2564 15:06 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

วันนี้ (26 ต.ค.) เวลา 08.00 น. นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นำคณะผู้บริหารการรถไฟฯ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อม เพื่อรองรับการเปิดเดินรถขบวนรถไฟทางไกล ที่จุดจอดรถ บนชานชาลาชั้น 2 สถานีกลางบางซื่อ โดยมีการตรวจความพร้อมในขบวนรถ ห้องควบคุมรถไฟทางไกล รวมถึงทดลองโดยสารขบวนรถไฟทางไกลจากสถานีกลางบางซื่อ-รังสิต และทดสอบการวัดคุณภาพอากาศ ความร้อนและเสียง ก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ธันวาคม 2564

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายให้สถานีกลางบางซื่อ เป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางของประเทศ การรถไฟฯ ได้มีการลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้า และตรวจความพร้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดได้มีการตรวจความพร้อมของขบวนรถไฟทางไกลและห้องควบคุมรถไฟทางไกล ซึ่งทำหน้าควบคุมการเตรียมทาง ประแจ และระบบอาณัติสัญญาณภายในย่านการปล่อยรถ ตลอดจนแผนการเดินรถทางไกลขบวนต่างๆ ซึ่งมีความเรียบร้อยดี และพร้อมจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ตามกำหนด

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้มีการการตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ปลดปล่อยจากขบวนรถไฟทางไกล การตรวจระดับความดังของเสียง และการตรวจวัดความร้อนของอากาศ โดยผลการทดสอบพบว่าอยู่ในค่ามาตรฐานทั้งหมด ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ชุมชน รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการ

ทั้งนี้ ในขั้นตอนตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 บริเวณข้างขบวนรถไฟ โดยเว้นระยะห่างตรวจวัด จากข้างรถไฟประมาณ 2 เมตร ขณะที่ขบวนรถไฟจอดรอเวลาออก และจอดรอรถสับเปลี่ยนมาต่อเพื่อลากลงไปที่ โรงซ่อมบำรุงรถไฟทางไกลพบว่ามีค่าฝุ่นละอองอยู่ในเกณฑ์วัดดัชนีคุณภาพอากาศ โดยมีค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศเทียบเท่าค่าดัชนีคุณภาพอากาศเฉลี่ยอยู่ที่ 0-50 AQI ตามมาตรฐานกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งเป็นระดับที่สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งและการท่องเที่ยวได้เป็นปกติ

ส่วนการตรวจระดับความดังของเสียง บริเวณชานชาลาที่ 1 ก่อนขบวนรถเทียบ มีค่าระดับของเสียงอยู่ที่ 80-90 เดซิเบล ซึ่งเป็นระดับเสียงที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษ ขณะที่การตรวจวัดความร้อนของอากาศโดยรอบมีค่าเฉลี่ยไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส ซึ่งมีการติดตั้งระบบระบายอากาศภายในไว้ ทำให้อุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานปกติเช่นเดียวกัน “เห็นได้ว่าจากการลงตรวจความพร้อม เพื่อรองรับการเปิดเดินรถขบวนรถไฟทางไกล สถานีกลางบางซื่อ พบว่ามีความเรียบร้อยเป็นอย่างดี และพร้อมเปิดให้บริการตามกำหนดในวันที่ 23 ธันวาคม 2564 เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางของประเทศที่ดีและทันสมัยที่สุดในภูมิภาค ตลอดจนเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งของประเทศไทยต่อไป”
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 26/10/2021 7:42 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ผู้ว่าฯ รฟท.ตรวจความพร้อมการเดินรถไฟทางไกล ณ สถานีกลางบางซื่อ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 15:06 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 15:06 น.

ดีเดย์ 23 ธ.ค.! รถไฟทางไกลพร้อมวิ่งเข้าสถานีกลางบางซื่อ ตรวจวัด PM 2.5-ระดับเสียงไม่เกินเกณฑ์
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 18:15 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 18:15 น.

รฟท.ตรวจเช็กคุณภาพอากาศ ความร้อน -เสียง รถไฟสายสีแดงยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
27 ตุลาคม 2564 เวลา 10:30 น.



ผู้ว่าการรถไฟฯ ลงตรวจความพร้อมการเดินรถขบวนรถไฟทางไกล สถานีกลางบางซื่อ พร้อมทดสอบคุณภาพอากาศ ความร้อน และเสียง พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 23 ธ.ค.64

“ผู้ว่าฯ รฟท.” เผยความพร้อมและทดสอบขบวนรถไฟทางไกล พร้อมวิ่งเข้าบริการที่สถานีกลางบางซื่ออย่างเป็นทางการ 23 ธ.ค. 64 ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ไม่เกินเกณฑ์ วัดค่าเสียงระดับ 80-90 เดซิเบลไม่เป็นอันตรายต่อผู้โดยสาร

วันที่ 26 ต.ค. 2564 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำคณะผู้บริหาร รฟท.ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดเดินรถขบวนรถไฟทางไกลที่จุดจอดรถบนชานชาลาชั้น 2 สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ธ.ค. 2564 โดยมีการตรวจความพร้อมในขบวนรถ ห้องควบคุมรถไฟทางไกล รวมถึงทดลองโดยสารขบวนรถไฟทางไกลจากสถานีกลางบางซื่อ-รังสิต และทดสอบการวัดคุณภาพอากาศ ความร้อนและเสียง

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าฯ รฟท. เปิดเผยว่า ตามที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายให้สถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางของประเทศ ล่าสุด รฟท.ได้มีการตรวจความพร้อมของขบวนรถไฟทางไกลและห้องควบคุมรถไฟทางไกล ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการเตรียมทาง ประแจ และระบบอาณัติสัญญาณภายในย่านการปล่อยรถ ตลอดจนแผนการเดินรถทางไกลขบวนต่างๆ ซึ่งมีความเรียบร้อยดี และพร้อมจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ตามกำหนด

นอกจากนี้ ยังได้มีการตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ปลดปล่อยจากขบวนรถไฟทางไกล การตรวจระดับความดังของเสียง และการตรวจวัดความร้อนของอากาศ โดยผลการทดสอบพบว่าอยู่ในค่ามาตรฐานทั้งหมด ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ชุมชน รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการ

ทั้งนี้ ในขั้นตอนตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 บริเวณข้างขบวนรถไฟ โดยเว้นระยะห่างตรวจวัดจากข้างรถไฟประมาณ 2 เมตร ขณะที่ขบวนรถไฟจอดรอเวลาออก และจอดรอรถสับเปลี่ยนมาต่อเพื่อลากลงไปที่โรงซ่อมบำรุงรถไฟทางไกลพบว่ามีค่าฝุ่นละอองอยู่ในเกณฑ์วัดดัชนีคุณภาพอากาศ โดยมีค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศเทียบเท่าค่าดัชนีคุณภาพอากาศเฉลี่ยอยู่ที่ 0-50 AQI ตามมาตรฐานกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งเป็นระดับที่สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งและการท่องเที่ยวได้เป็นปกติ

ส่วนการตรวจระดับความดังของเสียง บริเวณชานชาลาที่ 1 ก่อนขบวนรถเทียบ มีค่าระดับของเสียงอยู่ที่ 80-90 เดซิเบล ซึ่งเป็นระดับเสียงที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษ ขณะที่การตรวจวัดความร้อนของอากาศโดยรอบมีค่าเฉลี่ยไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส ซึ่งมีการติดตั้งระบบระบายอากาศภายในไว้ ทำให้อุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานปกติเช่นเดียวกัน

“การลงตรวจความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดเดินรถขบวนรถไฟทางไกลสถานีกลางบางซื่อ พบว่ามีความเรียบร้อยเป็นอย่างดี และพร้อมเปิดให้บริการตามกำหนดในวันที่ 23 ธันวาคม 2564 เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางของประเทศที่ดีและทันสมัยที่สุดในภูมิภาค ตลอดจนเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งของประเทศไทยต่อไป”
พร้อมมาก! รถไฟทางไกล เตรียมให้บริการ @สถานีกลางบางซื่อ 23 ธ.ค.นี้
เศรษฐกิจ-ยานยนต์
วันอังคาร ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 16:54 น.

ขบวนรถไฟทางไกล เตรียมให้บริการ @สถานีกลางบางซื่อ 23 ธ.ค.นี้ “ผู้ว่า รฟท.” เช็กแล้วเรียบร้อยดี ฝุ่น-เสียง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ร้อน มีระบบระบายอากาศ

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีนโยบายให้สถานีกลางบางซื่อ เป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางของประเทศ โดยที่ผ่านมา รฟท. ได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้า และตรวจความพร้อมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้นำคณะผู้บริหาร รฟท. ลงพื้นที่ตรวจความพร้อม เพื่อรองรับการเปิดเดินรถขบวนรถไฟทางไกล ที่จุดจอดรถบนชานชาลาชั้น 2 สถานีกลางบางซื่อ โดยได้ตรวจความพร้อมของขบวนรถไฟทางไกล และห้องควบคุมรถไฟทางไกล ซึ่งทำหน้าควบคุมการเตรียมทาง ประแจ และระบบอาณัติสัญญาณภายในย่านการปล่อยรถ ตลอดจนแผนการเดินรถทางไกลขบวนต่างๆ



นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ปลดปล่อยจากขบวนรถไฟทางไกล การตรวจระดับความดังของเสียง และการตรวจวัดความร้อนของอากาศ พบว่า อยู่ในค่ามาตรฐานทั้งหมด ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ชุมชน รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ในขั้นตอนตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 บริเวณข้างขบวนรถไฟ โดยเว้นระยะห่างตรวจวัดจากข้างรถไฟประมาณ 2 เมตร ขณะที่ขบวนรถไฟจอดรอเวลาออก และจอดรอรถสับเปลี่ยนมาต่อ เพื่อลากลงไปที่โรงซ่อมบำรุงรถไฟทางไกล พบว่า มีค่าฝุ่นละอองอยู่ในเกณฑ์วัดดัชนีคุณภาพอากาศ โดยมีค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศเทียบเท่าค่าดัชนีคุณภาพอากาศเฉลี่ยอยู่ที่ 0-50 AQI ตามมาตรฐานกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งเป็นระดับที่สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้ง และการท่องเที่ยวได้เป็นปกติ


นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า ส่วนการตรวจระดับความดังของเสียงบริเวณชานชาลาที่ 1 ก่อนขบวนรถเทียบ มีค่าระดับของเสียงอยู่ที่ 80-90 เดซิเบล ซึ่งเป็นระดับเสียงที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษ ขณะที่การตรวจวัดความร้อนของอากาศโดยรอบมีค่าเฉลี่ยไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส ซึ่งมีการติดตั้งระบบระบายอากาศภายในไว้ ทำให้อุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานปกติเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามในภาพรวมเบื้องต้นพบว่ามีความเรียบร้อยดี และพร้อมเปิดให้บริการขบวนรถไฟทางไกล ตามกำหนดในวันที่ 23 ธ.ค.64 เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางของประเทศที่ดีและทันสมัยที่สุดในภูมิภาค ตลอดจนเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งของประเทศไทยต่อไป.
https://www.youtube.com/watch?v=c7nhsLjbE0I


Last edited by Wisarut on 28/10/2021 6:12 pm; edited 3 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 27/10/2021 7:23 pm    Post subject: Reply with quote

อยากไปเดินงานหนังสือที่สถานีกลางบางซื่อ
27 ตุลาคม 2564 เวลา 11:05 น.

ตั้งแต่วันที่ 23-31 ตุลาคมนี้มีงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 26 เกิดขึ้นในชื่อ Hybrid Book Fair คือเป็นการจัดคู่ขนานกัน ระหว่างในโลกออนไลน์ ผ่าน www.thaibookfair.com และเว็บไซต์ของสำนักพิมพ์ต่าง ๆ กับตามร้านหนังสือทั่วประเทศ ซึ่งมีโปรโมชั่นที่ลดราคาแตกต่างกันออกไป

ในช่วงที่ต้องเก็บตัวอยู่ที่บ้าน ทำงานอยู่ที่บ้าน และใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน การอ่านหนังสือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ยอดการใช้จ่ายเงินซื้อหนังสือออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก สอดคล้องกับแนวโน้มการอ่านคนของไทยที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

กระนั้นก็ดี นักอ่านหลายคน รวมถึงผมด้วย กลับคิดถึงบรรยากาศของการเดินงานหนังสือขนาดใหญ่ในพื้นที่ที่ได้พบปะนักเขียน เพื่อนนักอ่าน และได้เลือกซื้อหนังสือต่าง ๆ อย่างจุใจ เพราะงานหนังสือที่ว่านี้ ไม่เพียงแต่มีหนังสือลดราคามาขายกันเท่านั้น ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย มีนิทรรศการดี ๆ ให้ได้ชม และเปิดโอกาสให้นักอ่านได้เจอหนังสือหนังหาอื่น ๆ มากขึ้นกว่าที่ “เล็ง” ไว้แล้วอีกด้วย เนื่องจากงานหนังสือขนาดใหญ่เช่นนี้ มีทั้งหนังสือใหม่ที่จะออกในงาน และหนังสือที่ออกมาก่อนหน้านี้เราอาจไม่เคยเห็นตามหน้าร้านทั่วไป มาให้นักอ่านได้เลือกซื้อหาอีกด้วย

จึงไม่แปลกใจที่เรามักจะพบว่า หลายคนเดินงานหนังสือกันหลายครั้งหลายวัน ไม่ใช่เพียงครั้งเดียวในแต่ละการจัดงานเท่านั้น นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่คนในกรุงเทพฯ เท่านั้น หลายคนยังเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อเยี่ยมชมงานนี้ด้วย โดยตามสถิตินั้น แต่ละปีที่จัดงานนี้มีคนไปร่วมงานเป็นหลักล้านคน

แต่ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 ทำให้ไม่อาจจัดงานในลักษณะนี้ได้เลย ไม่ว่าในขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก ดังนั้น จึงหวังว่า เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว ในครั้งต่อไป นักอ่านอย่างผมจะสามารถไปเดินงานหนังสือได้สักที สมกับที่เฝ้าคอยมานาน

พร้อมกันกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 ศูนย์ฉีดวัคซีนใหญ่ที่มีผู้ไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก ก็คือ สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเร็ว ๆ นี้

สถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์กลางระบบรางของไทย ซึ่งเปิดให้บริการแล้วพร้อมกับเดินรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT) นับได้ว่าเป็นสถานีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน มีพื้นที่ใช้สอย (ไม่รวมพื้นที่บึงน้ำ) กว่า 274,000 ตารางเมตร หรือถ้านับเฉพาะชั้นจำหน่ายตั๋ว ที่มีร้านค้า ศูนย์อาหาร สำนักงาน และพื้นที่พักคอย ก็มีพื้นที่กว่า 86,000 ตารางเมตร

และที่สำคัญคือ ต้องไม่ลืมว่า การพัฒนาพื้นที่ให้เกิดเป็นสถานีกลางบางซื่อนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงการสร้างสถานีขนาดใหญ่ให้รองรับจำนวนผู้โดยสารได้มากขึ้นกว่าสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เท่านั้น แต่ยังเป็นการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นย่านธุรกิจใหม่ (Central Business District : CBD) อีกด้วย (ข้อมูลจากเว็บไซต์การรถไฟแห่งประเทศไทย)

จึงน่าสนใจมากถ้ารัฐบาลจะมีนโยบายสนับสนุนธุรกิจหนังสือของไทยด้วยการเปิดให้ใช้พื้นที่ของสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานที่จัดงานหนังสือครั้งต่อไปขึ้น เพราะมีพื้นที่กว้างขวาง มีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวก ทั้งรถไฟฟ้าชานเมืองและในเมือง รวมถึงมีที่จอดรถยนต์ได้ถึง 1,700 คัน

ยิ่งในช่วงที่ “เยาวรุ่น” เยาวชนคนรุ่นใหม่ตื่นตัวกับปัญหาทางสังคมการเมือง และอ่านหนังสือกันมากขึ้นมาก การจัดงานหนังสือขนาดใหญ่ที่เดินทางได้สะดวก ก็น่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จะว่าเป็นประโยชน์ถึงสองต่อก็ว่าได้ คือ นอกจากได้ให้พื้นที่จัดงานแก่ภาคเอกชนแล้ว ภาครัฐยังได้ประชาสัมพันธ์การเปิดตัวสถานีกลางบางซื่อนี้อีกด้วย

นอกไปจากนี้แล้ว ยังเปิดโอกาสให้กับ “คนเดินทาง” ได้มาเยี่ยมชมนิทรรศการ และแวะเลือกซื้อหนังสือตามความสนใจ ซึ่งจะครอบคลุมหลากหลายมากไปกว่าคนรักการอ่านที่เป็นฐานแฟนคลับเดิม เยาวชน หรือผู้ปกครอง หรืออาจกล่าวได้ว่า นี่จะเป็นครั้งแรกที่นำหนังสือเผยแพร่ไปกว้างขวางที่สุดตั้งแต่ระดับรากหญ้า จนถึงคนมีฐานะที่จะมาเดินชมงาน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์สังคมอุดมปัญญาที่มีรากฐานที่เข้มแข็งมาจากการอ่านหนังสือ

ถ้ารัฐบาลอุดหนุนให้เกิดงานหนังสือที่สถานีกลางบางซื่อได้จริง นี่จะนับว่าเป็นหมุดหมายสำคัญของการเดินทางในสังคมไทย ทั้งการเดินทางในชีวิตจริงผ่านระบบราง และการเดินทางในทางความคิดผ่านงานมหกรรมที่มีหนังสือจำนวนมากให้ได้เลือกซื้อหากลับไปอ่าน จึงกล่าวได้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่การเดินทางภายนอกและภายในของคนไทยจะได้มาบรรจบกันในงานนี้

ทั้งนี้ รัฐบาลไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมายอะไรนัก เพียงแต่เอื้อเฟื้อให้สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ใช้สถานที่ได้ฟรี และให้เงินสนับสนุนเพื่อการจัดงานบ้างเท่านั้น หรือถ้าจะกระตุ้นการจับจ่ายผ่านมาตรการ “คนละครึ่ง” หรือซื้อหนังสือแล้วลดหย่อนภาษีได้อีกก็สุดแท้แต่ แม้กระทั่งการลดภาษีกระดาษเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตของแต่ละสำนักพิมพ์ลงก็ทำได้

ข้อเสนอในทางนโยบายเหล่านี้ เข้าใจว่าทาง PUBAT น่าจะมีเสนอให้กับรัฐบาลได้ เพราะจากบทสัมภาษณ์ล่าสุดของ “ทิพย์สุดา สินชวาลวัฒน์” นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ คนล่าสุด ใน cont-reading.com กล่าวไว้ว่า อยากเห็น “การสนับสนุนจากรัฐบาล” เพราะ “ประชากรไทยจะก้าวหน้าไม่ได้ ถ้าเราไม่อ่านหนังสือ”

ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง คงไม่ได้หวังมากไป หากหวังที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติในเร็ววันเมื่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 ลดน้อยลง และจะได้ไปเดินงานหนังสือที่สถานีกลางบางซื่อในเร็ววันนี้

กษิดิศ อนันทนาธร กลุ่มนโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/10/2021 8:55 am    Post subject: Reply with quote

ว้าวลอยฟ้า-จอดแค่3สถานี-อั้นฉี่ 25 นาที
Source - เดลินิวส์
Thursday, October 28, 2021 04:17

แผนใหม่วิ่งรถไฟทางไกล118ขบวน เริ่ม23ธ.ค.นี้'เหนือ-อีสาน42ขบวน'

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. 64 รฟท. พร้อมเปิดให้บริการขบวนรถไฟทางไกล ที่สถานีกลางบางซื่อ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางของประเทศที่ดี ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค และเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งของไทยตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ทั้งนี้จากการตรวจความพร้อมของ ขบวนรถ และห้องควบคุมรถไฟทางไกล ที่ควบคุมการ เตรียมทาง ประแจ และระบบอาณัติสัญญาณภายใน ย่านการปล่อยรถ พบว่า เรียบร้อยดี ขณะที่ผลตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ปล่อยจากขบวนรถไฟทางไกล, ความดังของเสียง และความร้อนของอากาศ อยู่ในค่ามาตรฐาน ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ชุมชน และผู้ใช้บริการ

รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งว่า สำหรับแผนการเดินรถไฟทางไกลทั้ง 118 ขบวน ประกอบด้วย

1. รถไฟชานเมืองที่ยังคงเข้า-ออกสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) 22 ขบวน แบ่งเป็น รถไฟทางไกลสายเหนือ 4 ขบวน สายอีสาน 2 ขบวน สายใต้ 2 ขบวน และสายตะวันออก 14 ขบวน โดยรถไฟสายเหนือ สายอีสาน และสายใต้ จะวิ่งเส้นทางเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีแดง แต่ไม่เข้าสถานีกลางบางซื่อ จะลงวิ่งด้านล่างเข้าสู่เส้นทางเดิมบริเวณจตุจักร และเลี้ยวขวาเข้าสู่สถานีรถไฟบางซื่อ เพื่อสิ้นสุดการเดินรถที่สถานีหัวลำโพง ส่วนสายตะวันออกจะเดินรถเข้าสถานีหัวลำโพงได้เลย ไม่ผ่านสถานีกลางบางซื่อ

2. รถไฟเชิงพาณิชย์สายเหนือ และสายอีสาน วิ่งบนทางยกระดับเข้า-ออกสถานีกลางบางซื่อ 42 ขบวน แบ่งเป็น สายเหนือ 18 ขบวน และสายอีสาน 24 ขบวน

3. รถไฟที่ไม่เข้าสถานีหัวลำโพง และปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง 47 ขบวน แบ่งเป็น
3.1 สายเหนือ 10 ขบวน และสายอีสาน 4 ขบวน มีต้นทาง/ปลายทาง สถานีดอนเมือง (รังสิตเป็นสถานีเปลี่ยนถ่าย),
3.2 สายเหนือ 2 ขบวน วิ่งบนทางยกระดับ ต้นทาง/ปลายทาง สถานีชุมทางบางซื่อ,
3.3 สายใต้ 24 ขบวน ต้นทาง/ปลายทาง สถานีชุมทางบางซื่อ และสายใต้ 2 ขบวน ต้นทาง/ปลายทาง ที่สถานีธนบุรี (ตลิ่งชันเป็นสถานีเปลี่ยนถ่าย) และ
3.4 สายตะวันออก 5 ขบวน ต้นทาง/ปลายทางสถานีมักกะสัน (ป้ายหยุดรถอโศกเป็นจุดเปลี่ยนถ่าย) และ
4.ยกเลิกรถไฟชานเมืองสายตะวันออก 7 ขบวน

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า รฟท. ยังคงทยอยนำขบวนรถไฟทางไกลทุกประเภท ที่ไม่มีผู้โดยสาร เดินรถขึ้นบนทางยกระดับเส้นทางเดียวกับรถไฟชานเมืองสายสีแดง เพื่อทดสอบการเดินรถ, ระบบอาณัติสัญญาณ, ความพร้อมของทาง และสร้างความคุ้นเคยให้กับพนักงานขับรถ โดยจะต้องทดสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่จะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ นอกจากนี้จะมีการซ้อมแผนฉุกเฉินด้วย อย่างไรก็ตาม การเดินรถบนทางยกระดับ พิกัดทางรองรับความเร็วได้ 100 กิโลเมตร (กม.) ต่อชั่วโมง (ชม.) ซึ่ง การให้บริการรถไฟทางไกล เมื่อวิ่งเส้นทางเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีแดงแล้ว จะจอดเพียงแค่สถานีรังสิต สถานีดอนเมือง และสถานีกลางบางซื่อเท่านั้น

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า รถไฟสายเหนือ และสายอีสาน ที่วิ่งบนทางยกระดับเข้า-ออกสถานีกลางบางซื่อ 42 ขบวน มีทุกประเภท อาทิ รถด่วนพิเศษ รถด่วน และรถเร็ว มีครบทุกชั้น ทั้งชั้นที่ 1, 2 และ 3 ในระยะแรกการให้บริการจะต้องปิดประตูห้องน้ำภายในขบวนรถไฟที่เป็นระบบเปิดอยู่ เพื่อห้ามไม่ให้ผู้โดยสารใช้บริการในระหว่างที่รถไฟเดินรถเส้นทางเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีแดง ตั้งแต่สถานีรังสิตถึงสถานีกลางบางซื่อ ประมาณ 25 นาที โดยเจ้าหน้าที่จะประกาศให้ผู้โดยสารทราบล่วงหน้า โดยรฟท. กำลังเร่งปรับปรุงขบวนรถไฟที่มีห้องน้ำระบบเปิดให้เป็นระบบสุญญากาศ และติดตั้งเครื่องสุขภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้เป็นระบบปิดทุกคัน

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 29 ต.ค. 2564 (กรอบบ่าย)

----------

ก.หูกวาง ลุยขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อ
สยามรัฐออนไลน์ 30 ตุลาคม 2564 17:47 น. เศรษฐกิจ

Click on the image for full size

กระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งพื้นที่รอบสถานีกลางบางซื่อของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่เป็นเมืองอัจฉริยะรองรับการเปิดให้บริการของสถานีกลางบางซื่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจึงได้มีคำสั่งกระทรวงคมนาคมแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อเพื่อขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติ

ทั้งนี้ "นายชยธรรม์ พรหมศร" ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อาทิ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนกรุงเทพมหานคร ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวงพลังงาน ผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้แทนสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ผู้แทนกรมการขนส่งทางบก ผู้แทนกรมการขนส่งทางราง ผู้แทนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้แทนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้แทนบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ผู้แทนการรถไฟฟ้านครหลวง ผู้แทนการประปานครหลวง กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด และมีรองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และรองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยมีผู้แทนฝ่ายญี่ปุ่น ประกอบด้วย กระทรวงกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (Ministry of Land, Infrastructure, Transport and Tourism : MLIT) องค์กรพัฒนาและฟื้นฟูเมืองของญี่ปุ่น (Urban Renaissance Agency : UR) ผู้แทน JICA Thailand และผู้แทนสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย

นายชยธรรม์ เผยว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าโครงการ Smart City supported by Japan ASEAN Mutual Partnership หรือ SmartJAMP ซึ่งประเทศไทย โดยกระทรวงคมนาคมได้นำเสนอ Proposal โครงการบางซื่อเข้าร่วม

โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อเสนอแนะในเชิงโครงสร้างการดำเนินงานของบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด และบริษัทผู้ให้บริการสมาร์ทซิตี้ (Smart Service Company : SSC) เพื่อให้ SSC มีโครงสร้างการดำเนินงานที่เข้มแข็งและสามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาทิศทางการพัฒนาพื้นที่บางซื่อตามที่ผู้แทน UR เสนอ โดยที่เป้าหมายการพัฒนาพื้นที่บางซื่อ คือ การสร้างเมืองที่มีเสน่ห์ มีความน่าสนใจ เป็นที่ชื่นชอบของประชาชนชาวไทย และเป็นเมืองที่น่าภาคภูมิใจที่จะสืบทอดไปยังคนรุ่นหลัง รวมถึงการปรับปรุงสถานะทางการเงินของการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงได้นำ Concept ของ TOD หรือ Smart city มาใช้ รวมทั้งการเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน โดยการพัฒนาพื้นที่บางซื่อมีลักษณะพิเศษ กล่าวคือ พื้นที่การพัฒนาทั้งหมด มีขนาดใหญ่จึงจำเป็นต้องมีการควบคุมการพัฒนาโดยคำนึงถึงผลกระทบ รวมทั้งความเสี่ยงในการลงทุน ประกอบกับอุปสงค์ (demand) ณ ปัจจุบันยังมีน้อย แต่มีความเป็นไปได้ที่มูลค่าของพื้นที่บางซื่อจะสูงขึ้นในอนาคต

พื้นที่บางซื่อจึงจำเป็นต้องพัฒนาแบบเป็นขั้นเป็นตอน (stepwise development) โดยการเพิ่มมูลค่าของที่ดินขึ้นตามลำดับ จึงจำเป็นต้องมีแผนการพัฒนาที่มีความครอบคลุมและเป็นองค์รวม ได้แก่ แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรวม คู่มือการพัฒนา รวมถึงการพิจารณารูปแบบธุรกิจ (Business scheme) เป็นต้น

นายชยธรรม์ฯ กล่าวว่า ได้ให้ข้อเสนอแนะต่อทิศทางการพัฒนาพื้นที่บางซื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน โดยมอบหมายให้ รฟท. และ SRTA หารือในรายละเอียดของแนวทางการพัฒนาฯ (Action Plan) ร่วมกับ MLIT และ UR เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ และมอบหมาย SRTA เร่งรัดการดำเนินการเพื่อสมัครเข้ารับการประเมินการเป็นเมืองอัจฉริยะต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมมอบหมายคณะทำงาน (Working Team) เพื่อร่วมพิจารณารายงานการศึกษาร่วมกับฝ่ายญี่ปุ่น โดยมีองค์ประกอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการคลัง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานนโยบายแผนการขนส่งและจราจร การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ก่อนเสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อพิจารณาเพื่อให้โครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อเป็นไปตามแผนที่วางไว้ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 30, 31, 32 ... 63, 64, 65  Next
Page 31 of 65

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©