View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
rimura
2nd Class Pass (Air)
Joined: 16/08/2006 Posts: 778
Location: Suan luang Rama IX, Pravet, Bangkok
|
Posted: 15/12/2011 4:16 pm Post subject: |
|
|
ตอนนี้ทาง บขส. ก็มีรถทัวร์ที่ออกแบบเป็นรถทึบเอาไว้ใช้วิ่งขนส่งพัสดุส่งลงตามสถานีขนส่งไว้บริการโดยเฉพาะด้วยแล้วครับ
พูดถึงรถไฟเอง เรามีรถที่ออกแบบมาเพื่อการบรรทุกสัมภาระอย่าง บสพ. บทพ. บพห. อยู่หลายคันเหมือนกัน หากจะดัดแปลงรถคอกหมูส่วนหนึ่งเอาไว้ให้เป็นโบกี้บรรทุกสัมภาระโดยเฉพาะจริงๆจังๆเลยก็น่าจะดี (ลักษณะคล้ายกันกับ บปณ. เมื่อก่อน) ซึ่งถ้าหากจัดเป็นริ้วขบวนรถบรรทุกพัสดุโดยเฉพาะแล้ว ข้อดีของขบวนรถนี้ก็คือ สามารถขนส่งพัสดุที่มีความเปราะบางได้ดีขึ้นกว่าส่งไปกับขบวนรถสินค้า ที่ทุกวันนี้หลายๆขบวนเอาแน่เอานอนเรื่องเวลาได้ลำบากอยู่บ่อยครั้ง, สามารถขนส่งได้รวดเร็วกว่าเพราะสามารถวิ่ง 90 กม./ชม.ได้เทียบเท่ารถโดยสาร เฉลี่ยเวลาเดินทางรวมในการขนส่งของขึ้น-ลงตามสถานีรายทาง เอาเฉพาะสถานีใหญ่ระดับจังหวัด อำเภอ หรือสถานีระดับตำบลใหญ่ๆ ก็น่าจะช้ากว่าขบวนรถเร็วโดยสารนิดหน่อย
ส่วนรถนอน บนท.ที่เห็นนิยมเอามาทำเป็นรถพนักงานกันเยอะอยู่ทุกวันนี้ จะนำบางส่วนไปดัดแปลงให้เป็นรถพนักงานเป็นเรื่องเป็นราว โดยออกแบบว่าให้มีที่พักที่นอนสำหรับพนักงานประจำขบวนรถกี่ที่ ดัดแปลงพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้สำหรับเป็นห้องทำงานของพนักงานขบวนรถ และอีกส่วนหนึ่งสำหรับบรรทุกสัมภาระพัสดุของผู้โดยสารที่เดินทางไปกับขบวนรถซึ่งก็คงจะใช้พื้นที่ไม่มาก เพราะของที่ใหญ่หรือไม่ได้ส่งด่วนก็ให้ไปกับขบวนรถพัสดุที่ว่า
แต่ปัญหาก็อาจจะอยู่ไม่พ้นที่ว่า เรามีรถพอไหม ทั้งรถพ่วงและรถจักร ตลอดจนเงื่อนไขเรื่องงบประมาณและ Third party ต่างๆที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องครับ
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ทราบว่าจะมีใครเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ไหม.... |
|
Back to top |
|
|
pasakorn
2nd Class Pass
Joined: 06/01/2009 Posts: 671
Location: ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ., หลักสี่
|
Posted: 15/12/2011 6:44 pm Post subject: |
|
|
srinopkun wrote: | กองสินค้า สนใจรับเหมาส่ง "พัสดุ" ไหมล่ะ
ทำแบบบริษัท NTC / TNT / NML ที่เขาส่งทางรถยนต์น่ะ
ของกองสินค้าก็จัดขบวนรถ "ด่วนพิเศษสินค้า-พัสดุ" เดินวันละ 1 ขบวน มีกำหนดเวลาเดินรถที่แน่นอนแบบเดียวกับรถโดยสาร และประกาศไปบนตารางเวลารถโดยสารด้วย เพื่อให้ลูกค้าจะส่งของได้รู้เวลาออก - ถึง ของสินค้า/พัสดุที่เขาจัดส่ง
ตามแนวคิด-การดำเนินการแบบบริษัทขนส่งสินค้าตามที่กล่าวถึง
รถไฟจะให้บริการแบบ ภาค - ภาค และ เมือง - เมือง ---> เมื่อของลงที่สถานีแล้วผู้รับจะมารับเอง
อย่ากังวลว่าจะไปแย่งงานไปรษณีย์เขา เพราะทุกวันนี้ก็แย่งอยู่แล้วแหละ ถ้าคิดอย่างนั้น 555
ลูกค้าจะเลือกใช้บริการครับ เพราะขนาด+น้ำหนักที่เห็นขนขึ้นขบวนรถกันทุกวันนี้น่ะ ถ้าส่งทางไปรษณีย์ แพงกว่ามากมาย
สนมั้ย ท่าน ผตก. |
^ เห็นด้วยกับพี่ครับ เพราะวันนี้(และทุกครั้ง)ที่ผมไปหัวลำโพง ผมจะเดินผ่านหน่วยรับส่งสินค้า (ที่อยู่ตรงแถวๆชานชลาที่ 12) จะมีสัมภาระพัสดุรอโหลดขึ้นรถ บพห. ไปกับขบวนรถด่วนรถเร็วต่างๆเป็นจำนวนมาก ผมยังแอบคิดเล่นๆเหมือนกันครับว่าถ้ามีขบวนรถรับ-ส่งสัมภาระและพัสดุพวกนี้ไปตามเส้นทางต่างๆ วันละ 1-2 เที่ยว จะเพิ่มรายได้จากการขนส่งสัมภาระเหล่านี้ได้มากเท่าไหร่ ให้ไปตามเส้นทางต่างๆ เช่น เชียงใหม่ หนองคาย อุบลราชธานี อรัญประเทศ บ้านพลูตาหลวง กันตัง นครศรีธรรมราช สุไหงโกลก ปาดังเบซาร์
เพราะสัมภาระเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นของชิ้นใหญ่ๆ ลังใหญ่ๆกันทั้งนั้น (แต่ไม่มากถึงกับต้องใช้บริการของขบวนรถสินค้า) ดังนั้น ถ้าเราแยกเป็นขบวนรถสัมภาระและพัสดุไปต่างหาก จะประหยัดเวลาในการขนถ่ายสินค้าขึ้นลงรถ บพห. ในขบวนรถด่วนรถเร็วได้มากเชียวครับ ส่วนรถ บสพ. บพห. ที่พ่วงกับขบวนรถโดยสารนั้น ก็สามารถใช้ขนสัมภาระชิ้นใหญ่ๆที่ผู้โดยสารนำติดตัวมาไปกับขบวนรถโดยสารได้ครับ (พวกถุงผ้าหรือลังกระดาษใบใหญ่/รถจักรยาน ฯลฯ) ไม่ต้องวางให้เกะกะทางเดินในรถโดยสาร _________________ ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ก่อนที่ท่านจะลงจากขบวนรถ โปรดตรวจสอบสัมภาระของท่านที่นำติดตัวมา นำลงให้ถูกต้องครบถ้วนด้วยครับ....
|
|
Back to top |
|
|
RORONOA
2nd Class Pass
Joined: 06/12/2007 Posts: 705
|
Posted: 15/12/2011 11:02 pm Post subject: |
|
|
กรณี ขบวน 171/172 หยุด รับส่งผู้โดยสาร ที่สถานีวัดงิ้วราย ไม่ได้ตั้งใจจะหยุด รับส่งผู้โดยสารอยู่แล้ว ส่วนจะหยุดเพื่ออะไรนั้น ไม่ขอกล่าวในที่แจ้งเช่นนี้ แต่อยากให้ทราบเพิ่มเติมว่า กรณีการหยุดแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นที่วัดงิ้วรายแห่งเดียว แต่เกิดขึ้นในหลายๆสถานีแล้ว
พูดถึงเรื่องการรับส่ง พัสดุ - สินค้า จากการที่ได้ช่วยงานในส่วนนี้มาก่อน(เด็กยกของนั่นเองครับ) ปัญหานี้แก้ง่ายนิดเดียว และจะเพิ่มรายได้แก่รฟท. อีกมาก เพียงแค่เพิ่มตู้ที่สามารถโหลดของได้อย่างสะดวกในขบวนรถเร็ว(ไม่ควรเพิ่มในขบวนรถด่วน เพราะจะเสียเวลาโหลดของ) เช่น รถข้างโถง(ไม่ต้องปรับปรุงดัดแปลงอะไร ถ้าจะทำ เพียงแค่เจาะประตูด้านหนึ่งให้กว้างก็พอแล้ว) แต่ปัญหาที่สำคัญกว่านั้น ต้องแก้ปัญหาการคิดค่าบริการใหม่ ควรจะเก็บค่าระวาง ค่าขน ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่ให้มีการเรียกเก็บค่าขน ขึ้นลง เพิ่มจากค่าระวาง ค่าระวางนั้นถูกจริง แต่เมื่อรวมค่าขน ขึ้นลงซึ่งบางสถานีเรียกเก็บในราคาที่มากกว่าค่าระวางเสียอีก รฟท.ควรปรับระบบในการจัดเก็บค่าขนส่งให้คิดมาเสร็จ แล้วนำเงินในส่วนนั้นมาจ้างพนักงานยกของต่างหาก ไม่ให้มาเรียกเก็บในภายหลัง เพราะผู้ใช้บริการหลายท่าน ต่างเสียอารมณ์และความรู้สึกจนเลิกใช้บริการไปหลายราย หลายครั้งที่พบว่า เมื่อรวมค่าขนขึ้นลงแล้ว จะแพงกว่าการขนส่งอื่นเป็นเท่าตัว คล้ายกับกรณีที่หลายคนจะบอกว่าค่าโดยสารรถไฟถูก แต่เมื่อรวมค่าธรรมเนียม เป็นค่าบริการที่ต้องจ่ายจริงแล้ว จะพบว่าแพงมาก ที่สำคัญในส่วนค่าขน ขึ้นลงนี้เงินไม่ได้เข้าถึงรฟท. ความได้เปรียบของรฟท.คือ สามารถส่งถึงปลายทางได้ในหนึ่งวันหรืออย่างช้าหนึ่งคืน ซึ่งแม้รถจะช้ายังไงก็เร็วกว่าการขนส่งอื่นครับ และยังมีเวลาที่ค่อนข้างแน่นอน สังเกตลูกค้าประจำ จะมาในเวลาที่เหมาะสมเสมอครับ
ส่วนที่ว่า ขบวน 171 รอโหลดสินค้าเป็นเวลา 4 นาที นั้น ขอบอกว่าน้อยมากครับ อย่างที่สถานีบ้านโป่ง ขบวน 37 169 บางครั้งใช้เวลาโหลดสินค้าบางครั้ง ถึง 30 นาทีจน ผคร.ต้องเรียกนายสถานีมาสอบถามเพราะนึกว่ารถจักรตายเป็นประจำ สาเหตุเพราะปริมาณสินค้ามีจำนวนมาก อย่างขบวน 169 มีรายการส่ง เฉลี่ย 70 รายการต่อวัน น้ำหนักต่อเที่ยว เกิน 1 ตัน ทุกวันครับ และเคยทำสถิติ 1 ขบวน มีรายการส่ง 120 รายการ คิดเป็นน้ำหนัก 3 ตัน และมอเตอร์ไซค์ เพียงขบวนเดียว 12 คัน ความจริงปริมาณสินค้ามีมากกว่านี้ แต่อย่างสินค้าอย่างเช่น ปลาสวยงาม พวกนี้จะไว้ค้างคืนไม่ได้ ถ้าส่งไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนวิธี หรือของบางอย่างลูกค้าทนรอไม่ไหว ก็มาเอากลับคืนไป ส่งวีธีอื่นอย่างเช่น ไปรษณีย์ ตอนนี้ที่บ้านโป่งในส่วนของการส่งพัสดุทั่วไป และ EMS ต้องสร้างสำนักงานแยกต่างหาก เพราะไปรษณีย์หลักรับไม่ไหว จะเห็นได้ว่ารฟท.เสียลูกค้าไปอย่างน่าเสียดาย เคยมีการขอขบวนหยุดรับ-ส่งเพิ่ม เพื่อช่วยระบายสินค้า ส่วนนี้รฟท.เองที่ไม่ใส่ใจ ปล่อยลูกค้าหายไปอย่างน่าเสียดาย รวมถึงการรับส่งผู้โดยสาร ที่ทุกวันนี้รถตู้ดึงผู้โดยสารไปหมด ท่ารถตู้จากบ้านโป่ง ไปกรุงเทพ ตอนนี้มี 5 ท่าแล้วครับ(ไม่รวมรถตู้สายเมืองกาญฯ) ที่มีมากขนาดนี้เพราะเดี๋ยวนี้ นักเรียน นักศึกษาทีไปเรียนกรุงเทพ หรือ คนทำงาน สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ จึงมีปริมาณผู้โดยสารมากขึ้น แต่รถไฟแทบจะไม่มีส่วนแบ่งเลย เพราะรถไฟจากบ้านโป่งไปกรุงเทพน้อยขบวนมากครับ แม้จะมีการเรียกร้องหลายครั้ง อย่างในปีนี้ก็มีการสำรองที่ และให้ขบวน 171/172 83/84 หยุดรับส่งให้เป็นกรณีพิเศษเพียงบางวัน ทั้งที่ความจริงน่าจะหยุดถาวรเพราะอย่างไรก็มีผู้โดยสาร ซึ่งแนวโน้มจะยิ่งมีแต่ผู้โดยสารมากขึ้น คิดแล้วได้แต่บอกว่าเสียโอกาสมากมายจริงๆ ทั้งๆที่เป็นเรื่องง่ายๆ
ขบวน 177 ปกติไม่รับพัสดุครับ จำสาเหตุไม่ได้ แต่ช่วงที่ทำงานอยู่ก็แบบนี้ทุกครั้ง
ปล.สอบถามเจ้าของกระทู้ด้วยครับ ว่า 356 เมื่อเช้าที่ท่านนั่งเสียเวลามากหรือไม่ครับ เพราะเพิ่งจะเข้าสุพรรณบุรีได้ราวๆ สองสามวัน แต่ได้ข่าวว่าวันแรกเสียเวลาไปชั่วโมงเศษ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 16/12/2011 9:02 am Post subject: |
|
|
เจ้าของกระทู้ท่านนั่ง ข.356 ตั้งแต่ 27 ส.ค. 54 ก่อนมหาอุทกภัยครับ
ไม่ทราบว่าปัจจุบันยังนั่งเป็นประจำทุกวันหรือเปล่า อยากทราบสถานการณ์เช่นกัน
เข้าใจว่าขบวน 355 วิ่งวันแรกหลังน้ำท่วม เย็นวันรัฐธรรมนูญ 10 ธ.ค. 54 ครับ
ดังนั้น 356 จึงวิ่งวันแรก 11 ธ.ค. 54
ผมเองก็ไม่ได้ออกไปดูรถไฟอีกเลย เลยไม่ทราบว่า 356 ถึงทุ่งบัวกี่โมงครับ
(ปกติ 05.40 น.) |
|
Back to top |
|
|
am_praphan
3rd Class Pass
Joined: 06/10/2011 Posts: 17
|
Posted: 16/12/2011 9:36 am Post subject: |
|
|
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับที่จะให้มีการหยุดรับ-ส่ง ผู้โดยสารหรือรับส่งพัสดุ เพิ่มขึ้นที่สถานีบ้านโป่งเพิ่มเติมหลายๆขบวน
ผู้โดยสารเยอะจริงๆครับ ทั้งที่มาจากทางบ้านโป่งเอง มาจากทางเมืองกาญจน์ก็เยอะ
บางส่วนก็เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ต้องการจะเดินทางไปเที่ยวทะเลทางภาคใต้ของไทยก็ไม่น้อยนะครับ
ส่วนเรื่องของรถไฟชานเมืองนั้นอยากจะให้เพิ่มหรือขยายปลายทางจากต้นทางสถานีกรุงเทพฯ มาถึงบ้านโป่งหรือราชบุรี โดยตรงเช้า-เย็นอีกสักขบวนจะดีมาก แต่ด้วยการตรึงตัวของขบวนรถที่มีน้อยอยู่แล้ว คงอีกนานและครับที่จะมีรถชานเมืองมาบ้านโป่งหรือราชบุรี |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 16/12/2011 9:39 am Post subject: |
|
|
เห็นด้วยตรงที่ว่า หากการรถไฟฯ งดเก็บค่าหยุมหยิม ทำให้ลูกค้าเสียเวลาโดยใช่เหตุ และปรับปรุงบริการขนส่งสัมภาระให้เป็นมาตรฐานแล้ว คงดึงรายได้กลับเข้าสู่องค์การได้ไม่น้อยทีเดียว แบบเดียวกับ บ.ไปรษณีย์ไทย ทำอยู่ นอกเหนือจากรับส่งไปรณีย์ภัณฑ์ ตอนนี้ รับโอนเงิน ชำระค่าบริการจิปาถะ แถมด้วยบริการส่งพัสดุภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่ไม่เกินความจุรถขนส่งไปรษณีย์อีกด้วย
สาเหตุหนึ่งที่การรถไฟฯ ถูกโจมตีและถูกมองเมินจากระดับบนนั้น เห็นจะเป็นเรื่องระบบที่ล้าสมัย บุคลากรไม่พัฒนานี่แหละ หากมีปัญหาหรือมีข้อปรับปรุงใดๆ ที่เชื่อมโยงกับฝ่ายต่างๆ แล้ว หากได้รับคำตอบกลับมาว่าไม่สามารถจัดบริการให้ได้ ด้วยขาดปัจจัย หรือไม่ได้ผลประโยชน์ร่วมและก็ บราๆๆๆๆ ก็เก็บคืนเข้าลิ้นชัก จบเรื่อง
ทีเรื่องโลจิสติกส์นอกระบบลงขบวนรถทางไกลสายใต้แถวนครปฐม หรือหัวโค้งแถวๆ กม.11 ล่ะก็ กลับมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมแทบไม่น่าเชื่อ เนาะ... |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 16/12/2011 9:51 am Post subject: |
|
|
am_praphan wrote: | ส่วนเรื่องของรถไฟชานเมืองนั้นอยากจะให้เพิ่มหรือขยายปลายทางจากต้นทางสถานีกรุงเทพฯ มาถึงบ้านโป่งหรือราชบุรี โดยตรงเช้า-เย็นอีกสักขบวนจะดีมาก แต่ด้วยการตรึงตัวของขบวนรถที่มีน้อยอยู่แล้ว คงอีกนานและครับที่จะมีรถชานเมืองมาบ้านโป่งหรือราชบุรี |
ก็มี ข.351/352 ธนบุรี - ราชบุรี ทำขบวนอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ ? เดี๋ยวนี้ขบวนรถชานเมืองสายใต้มีออกจากสถานีกรุงเทพเพียงขบวนเดียว ไปแค่สุพรรณบุรีเท่านั้น |
|
Back to top |
|
|
RORONOA
2nd Class Pass
Joined: 06/12/2007 Posts: 705
|
Posted: 16/12/2011 12:45 pm Post subject: |
|
|
Quote: | am_praphan wrote:
ส่วนเรื่องของรถไฟชานเมืองนั้นอยากจะให้เพิ่มหรือขยายปลายทางจากต้นทางสถานีกรุงเทพฯ มาถึงบ้านโป่งหรือราชบุรี โดยตรงเช้า-เย็นอีกสักขบวนจะดีมาก แต่ด้วยการตรึงตัวของขบวนรถที่มีน้อยอยู่แล้ว คงอีกนานและครับที่จะมีรถชานเมืองมาบ้านโป่งหรือราชบุรี
ก็มี ข.351/352 ธนบุรี - ราชบุรี ทำขบวนอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ ? เดี๋ยวนี้ขบวนรถชานเมืองสายใต้มีออกจากสถานีกรุงเทพเพียงขบวนเดียว ไปแค่สุพรรณบุรีเท่านั้น |
ไม่เพียงพอครับ คน บ้านโป่ง และ คนกาญจนบุรี ที่ตัวอำเภอติดกับบ้านโป่ง คนราชบุรี เดินทางไปทำงานแถวย่านบางซื่อ สามเสน มีไม่น้อยนะครับ รวมถึงผมด้วย บางครั้งจะนั่ง 351/352 มาต่อขบวน 355/356 ก็มักพบว่าเวลาเหลื่อมล้ำ จนต่อรถไม่ทันหลายครั้ง นอกจากนี้ ผมว่าขบวน 352 นั้นเวลาจะเช้าเกินไปสำหรับผู้ที่ทำงานย่าน นครปฐม ศาลายา เข้าใจว่าการที่รถวิ่งเข้าสุพรรณบุรีเพื่อเป็นการรักษาเส้นทาง แต่อยากให้ปรับตารางเวลาเปลี่ยนเป็นให้รถเข้าสุพรรณบุรีเป็นเที่ยวเช้า และสลับรถเที่ยวเข้ากรุงเทพตอนเช้า มาเป็นต้นทางที่ราชบุรีแทน การที่ให้รถชานเมืองเข้าสุพรรณบุรีเป็นการสร้างความเสี่ยงให้ผู้โดยสารชานเมืองที่รถจะเสียเวลาและเกิดอุบัติเหตุ อย่างช่วงนี้ได้ข่าวแว่วๆมาว่าเสียเวลาร่วมชม.ทุกวัน ส่วนนี้อาจจะฟังดูยุ่งยาก ถ้าจะให้ง่ายกว่านั้น คือให้ขบวน 83/84/85/86/171/172 หยุดรับ-ส่ง ที่บ้านดป่งก็จะช่วยการโดยสารได้ทั้งผู้โดยสารระยะใกล้ และระยะไกล รวมถึงช่วยระบายสินค้าอีกด้วย หรืออย่างขบวน 355/356 ืี่ขณะนี้ ใช้ชุดรถ 4 คันแล้ว น่าจะสามารถตัดรถแยกเป็น 2 ชุดเดินรถมาเส้นทางราชบุรี ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเกินความสามารถ จริงอยู่ที่ว่าการเดินรถชานเมืองมีแต่ขาดทุน แต่ไม่ในเมื่อวิ่งแล้วก็ควรให้เกิดประโยชน์สูงสุดไม่ใช่หรือครับ นอกจากนี้อย่าตีค่ารถชานเมืองหรือผู้โดยสารระยะใกล้ต่ำไปนัก เพราะบ่อยครั้งที่ผู้โดยสารชั้น 1 ชั้น 2 ก็ต้องอาศัยรถเหล่านี้เข้าไปต่อรถระยะไกลที่กรุงเทพ ซึ่งบ่อยครั้งที่ผู้โดยสารยกเลิกการเดินทาง หรือไม่ใช้บริการเพราะต่อรถไม่สะดวก |
|
Back to top |
|
|
|