RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179821
ทั้งหมด:13491053
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - เล่าอะไรนิดนึง เกี่ยวกับเส้นทาง
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

เล่าอะไรนิดนึง เกี่ยวกับเส้นทาง
Goto page Previous  1, 2
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> เส้นทางรถไฟ, ค่าโดยสาร และเรื่องเกี่ยวกับการเดินรถ
View previous topic :: View next topic  
Author Message
rimura
2nd Class Pass (Air)
2nd Class Pass (Air)


Joined: 16/08/2006
Posts: 778
Location: Suan luang Rama IX, Pravet, Bangkok

PostPosted: 15/12/2011 4:16 pm    Post subject: Reply with quote

ตอนนี้ทาง บขส. ก็มีรถทัวร์ที่ออกแบบเป็นรถทึบเอาไว้ใช้วิ่งขนส่งพัสดุส่งลงตามสถานีขนส่งไว้บริการโดยเฉพาะด้วยแล้วครับ

พูดถึงรถไฟเอง เรามีรถที่ออกแบบมาเพื่อการบรรทุกสัมภาระอย่าง บสพ. บทพ. บพห. อยู่หลายคันเหมือนกัน หากจะดัดแปลงรถคอกหมูส่วนหนึ่งเอาไว้ให้เป็นโบกี้บรรทุกสัมภาระโดยเฉพาะจริงๆจังๆเลยก็น่าจะดี (ลักษณะคล้ายกันกับ บปณ. เมื่อก่อน) ซึ่งถ้าหากจัดเป็นริ้วขบวนรถบรรทุกพัสดุโดยเฉพาะแล้ว ข้อดีของขบวนรถนี้ก็คือ สามารถขนส่งพัสดุที่มีความเปราะบางได้ดีขึ้นกว่าส่งไปกับขบวนรถสินค้า ที่ทุกวันนี้หลายๆขบวนเอาแน่เอานอนเรื่องเวลาได้ลำบากอยู่บ่อยครั้ง, สามารถขนส่งได้รวดเร็วกว่าเพราะสามารถวิ่ง 90 กม./ชม.ได้เทียบเท่ารถโดยสาร เฉลี่ยเวลาเดินทางรวมในการขนส่งของขึ้น-ลงตามสถานีรายทาง เอาเฉพาะสถานีใหญ่ระดับจังหวัด อำเภอ หรือสถานีระดับตำบลใหญ่ๆ ก็น่าจะช้ากว่าขบวนรถเร็วโดยสารนิดหน่อย

ส่วนรถนอน บนท.ที่เห็นนิยมเอามาทำเป็นรถพนักงานกันเยอะอยู่ทุกวันนี้ จะนำบางส่วนไปดัดแปลงให้เป็นรถพนักงานเป็นเรื่องเป็นราว โดยออกแบบว่าให้มีที่พักที่นอนสำหรับพนักงานประจำขบวนรถกี่ที่ ดัดแปลงพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้สำหรับเป็นห้องทำงานของพนักงานขบวนรถ และอีกส่วนหนึ่งสำหรับบรรทุกสัมภาระพัสดุของผู้โดยสารที่เดินทางไปกับขบวนรถซึ่งก็คงจะใช้พื้นที่ไม่มาก เพราะของที่ใหญ่หรือไม่ได้ส่งด่วนก็ให้ไปกับขบวนรถพัสดุที่ว่า

แต่ปัญหาก็อาจจะอยู่ไม่พ้นที่ว่า เรามีรถพอไหม ทั้งรถพ่วงและรถจักร ตลอดจนเงื่อนไขเรื่องงบประมาณและ Third party ต่างๆที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องครับ

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ทราบว่าจะมีใครเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ไหม....
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
pasakorn
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 06/01/2009
Posts: 671
Location: ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ., หลักสี่

PostPosted: 15/12/2011 6:44 pm    Post subject: Reply with quote

srinopkun wrote:
กองสินค้า สนใจรับเหมาส่ง "พัสดุ" ไหมล่ะ

ทำแบบบริษัท NTC / TNT / NML ที่เขาส่งทางรถยนต์น่ะ

ของกองสินค้าก็จัดขบวนรถ "ด่วนพิเศษสินค้า-พัสดุ" เดินวันละ 1 ขบวน มีกำหนดเวลาเดินรถที่แน่นอนแบบเดียวกับรถโดยสาร และประกาศไปบนตารางเวลารถโดยสารด้วย เพื่อให้ลูกค้าจะส่งของได้รู้เวลาออก - ถึง ของสินค้า/พัสดุที่เขาจัดส่ง
ตามแนวคิด-การดำเนินการแบบบริษัทขนส่งสินค้าตามที่กล่าวถึง

รถไฟจะให้บริการแบบ ภาค - ภาค และ เมือง - เมือง ---> เมื่อของลงที่สถานีแล้วผู้รับจะมารับเอง

อย่ากังวลว่าจะไปแย่งงานไปรษณีย์เขา เพราะทุกวันนี้ก็แย่งอยู่แล้วแหละ ถ้าคิดอย่างนั้น 555

ลูกค้าจะเลือกใช้บริการครับ เพราะขนาด+น้ำหนักที่เห็นขนขึ้นขบวนรถกันทุกวันนี้น่ะ ถ้าส่งทางไปรษณีย์ แพงกว่ามากมาย

สนมั้ย ท่าน ผตก.


^ เห็นด้วยกับพี่ครับ เพราะวันนี้(และทุกครั้ง)ที่ผมไปหัวลำโพง ผมจะเดินผ่านหน่วยรับส่งสินค้า (ที่อยู่ตรงแถวๆชานชลาที่ 12) จะมีสัมภาระพัสดุรอโหลดขึ้นรถ บพห. ไปกับขบวนรถด่วนรถเร็วต่างๆเป็นจำนวนมาก ผมยังแอบคิดเล่นๆเหมือนกันครับว่าถ้ามีขบวนรถรับ-ส่งสัมภาระและพัสดุพวกนี้ไปตามเส้นทางต่างๆ วันละ 1-2 เที่ยว จะเพิ่มรายได้จากการขนส่งสัมภาระเหล่านี้ได้มากเท่าไหร่ ให้ไปตามเส้นทางต่างๆ เช่น เชียงใหม่ หนองคาย อุบลราชธานี อรัญประเทศ บ้านพลูตาหลวง กันตัง นครศรีธรรมราช สุไหงโกลก ปาดังเบซาร์
เพราะสัมภาระเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นของชิ้นใหญ่ๆ ลังใหญ่ๆกันทั้งนั้น (แต่ไม่มากถึงกับต้องใช้บริการของขบวนรถสินค้า) ดังนั้น ถ้าเราแยกเป็นขบวนรถสัมภาระและพัสดุไปต่างหาก จะประหยัดเวลาในการขนถ่ายสินค้าขึ้นลงรถ บพห. ในขบวนรถด่วนรถเร็วได้มากเชียวครับ ส่วนรถ บสพ. บพห. ที่พ่วงกับขบวนรถโดยสารนั้น ก็สามารถใช้ขนสัมภาระชิ้นใหญ่ๆที่ผู้โดยสารนำติดตัวมาไปกับขบวนรถโดยสารได้ครับ (พวกถุงผ้าหรือลังกระดาษใบใหญ่/รถจักรยาน ฯลฯ) ไม่ต้องวางให้เกะกะทางเดินในรถโดยสาร
_________________
ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ก่อนที่ท่านจะลงจากขบวนรถ โปรดตรวจสอบสัมภาระของท่านที่นำติดตัวมา นำลงให้ถูกต้องครบถ้วนด้วยครับ....

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
RORONOA
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 06/12/2007
Posts: 705

PostPosted: 15/12/2011 11:02 pm    Post subject: Reply with quote

กรณี ขบวน 171/172 หยุด รับส่งผู้โดยสาร ที่สถานีวัดงิ้วราย ไม่ได้ตั้งใจจะหยุด รับส่งผู้โดยสารอยู่แล้ว ส่วนจะหยุดเพื่ออะไรนั้น ไม่ขอกล่าวในที่แจ้งเช่นนี้ แต่อยากให้ทราบเพิ่มเติมว่า กรณีการหยุดแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นที่วัดงิ้วรายแห่งเดียว แต่เกิดขึ้นในหลายๆสถานีแล้ว

พูดถึงเรื่องการรับส่ง พัสดุ - สินค้า จากการที่ได้ช่วยงานในส่วนนี้มาก่อน(เด็กยกของนั่นเองครับ) ปัญหานี้แก้ง่ายนิดเดียว และจะเพิ่มรายได้แก่รฟท. อีกมาก เพียงแค่เพิ่มตู้ที่สามารถโหลดของได้อย่างสะดวกในขบวนรถเร็ว(ไม่ควรเพิ่มในขบวนรถด่วน เพราะจะเสียเวลาโหลดของ) เช่น รถข้างโถง(ไม่ต้องปรับปรุงดัดแปลงอะไร ถ้าจะทำ เพียงแค่เจาะประตูด้านหนึ่งให้กว้างก็พอแล้ว) แต่ปัญหาที่สำคัญกว่านั้น ต้องแก้ปัญหาการคิดค่าบริการใหม่ ควรจะเก็บค่าระวาง ค่าขน ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่ให้มีการเรียกเก็บค่าขน ขึ้นลง เพิ่มจากค่าระวาง ค่าระวางนั้นถูกจริง แต่เมื่อรวมค่าขน ขึ้นลงซึ่งบางสถานีเรียกเก็บในราคาที่มากกว่าค่าระวางเสียอีก รฟท.ควรปรับระบบในการจัดเก็บค่าขนส่งให้คิดมาเสร็จ แล้วนำเงินในส่วนนั้นมาจ้างพนักงานยกของต่างหาก ไม่ให้มาเรียกเก็บในภายหลัง เพราะผู้ใช้บริการหลายท่าน ต่างเสียอารมณ์และความรู้สึกจนเลิกใช้บริการไปหลายราย หลายครั้งที่พบว่า เมื่อรวมค่าขนขึ้นลงแล้ว จะแพงกว่าการขนส่งอื่นเป็นเท่าตัว คล้ายกับกรณีที่หลายคนจะบอกว่าค่าโดยสารรถไฟถูก แต่เมื่อรวมค่าธรรมเนียม เป็นค่าบริการที่ต้องจ่ายจริงแล้ว จะพบว่าแพงมาก ที่สำคัญในส่วนค่าขน ขึ้นลงนี้เงินไม่ได้เข้าถึงรฟท. ความได้เปรียบของรฟท.คือ สามารถส่งถึงปลายทางได้ในหนึ่งวันหรืออย่างช้าหนึ่งคืน ซึ่งแม้รถจะช้ายังไงก็เร็วกว่าการขนส่งอื่นครับ และยังมีเวลาที่ค่อนข้างแน่นอน สังเกตลูกค้าประจำ จะมาในเวลาที่เหมาะสมเสมอครับ

ส่วนที่ว่า ขบวน 171 รอโหลดสินค้าเป็นเวลา 4 นาที นั้น ขอบอกว่าน้อยมากครับ อย่างที่สถานีบ้านโป่ง ขบวน 37 169 บางครั้งใช้เวลาโหลดสินค้าบางครั้ง ถึง 30 นาทีจน ผคร.ต้องเรียกนายสถานีมาสอบถามเพราะนึกว่ารถจักรตายเป็นประจำ สาเหตุเพราะปริมาณสินค้ามีจำนวนมาก อย่างขบวน 169 มีรายการส่ง เฉลี่ย 70 รายการต่อวัน น้ำหนักต่อเที่ยว เกิน 1 ตัน ทุกวันครับ และเคยทำสถิติ 1 ขบวน มีรายการส่ง 120 รายการ คิดเป็นน้ำหนัก 3 ตัน และมอเตอร์ไซค์ เพียงขบวนเดียว 12 คัน ความจริงปริมาณสินค้ามีมากกว่านี้ แต่อย่างสินค้าอย่างเช่น ปลาสวยงาม พวกนี้จะไว้ค้างคืนไม่ได้ ถ้าส่งไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนวิธี หรือของบางอย่างลูกค้าทนรอไม่ไหว ก็มาเอากลับคืนไป ส่งวีธีอื่นอย่างเช่น ไปรษณีย์ ตอนนี้ที่บ้านโป่งในส่วนของการส่งพัสดุทั่วไป และ EMS ต้องสร้างสำนักงานแยกต่างหาก เพราะไปรษณีย์หลักรับไม่ไหว จะเห็นได้ว่ารฟท.เสียลูกค้าไปอย่างน่าเสียดาย เคยมีการขอขบวนหยุดรับ-ส่งเพิ่ม เพื่อช่วยระบายสินค้า ส่วนนี้รฟท.เองที่ไม่ใส่ใจ ปล่อยลูกค้าหายไปอย่างน่าเสียดาย รวมถึงการรับส่งผู้โดยสาร ที่ทุกวันนี้รถตู้ดึงผู้โดยสารไปหมด ท่ารถตู้จากบ้านโป่ง ไปกรุงเทพ ตอนนี้มี 5 ท่าแล้วครับ(ไม่รวมรถตู้สายเมืองกาญฯ) ที่มีมากขนาดนี้เพราะเดี๋ยวนี้ นักเรียน นักศึกษาทีไปเรียนกรุงเทพ หรือ คนทำงาน สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ จึงมีปริมาณผู้โดยสารมากขึ้น แต่รถไฟแทบจะไม่มีส่วนแบ่งเลย เพราะรถไฟจากบ้านโป่งไปกรุงเทพน้อยขบวนมากครับ แม้จะมีการเรียกร้องหลายครั้ง อย่างในปีนี้ก็มีการสำรองที่ และให้ขบวน 171/172 83/84 หยุดรับส่งให้เป็นกรณีพิเศษเพียงบางวัน ทั้งที่ความจริงน่าจะหยุดถาวรเพราะอย่างไรก็มีผู้โดยสาร ซึ่งแนวโน้มจะยิ่งมีแต่ผู้โดยสารมากขึ้น คิดแล้วได้แต่บอกว่าเสียโอกาสมากมายจริงๆ ทั้งๆที่เป็นเรื่องง่ายๆ

ขบวน 177 ปกติไม่รับพัสดุครับ จำสาเหตุไม่ได้ แต่ช่วงที่ทำงานอยู่ก็แบบนี้ทุกครั้ง


ปล.สอบถามเจ้าของกระทู้ด้วยครับ ว่า 356 เมื่อเช้าที่ท่านนั่งเสียเวลามากหรือไม่ครับ เพราะเพิ่งจะเข้าสุพรรณบุรีได้ราวๆ สองสามวัน แต่ได้ข่าวว่าวันแรกเสียเวลาไปชั่วโมงเศษ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/12/2011 9:02 am    Post subject: Reply with quote

เจ้าของกระทู้ท่านนั่ง ข.356 ตั้งแต่ 27 ส.ค. 54 ก่อนมหาอุทกภัยครับ
ไม่ทราบว่าปัจจุบันยังนั่งเป็นประจำทุกวันหรือเปล่า อยากทราบสถานการณ์เช่นกัน
เข้าใจว่าขบวน 355 วิ่งวันแรกหลังน้ำท่วม เย็นวันรัฐธรรมนูญ 10 ธ.ค. 54 ครับ
ดังนั้น 356 จึงวิ่งวันแรก 11 ธ.ค. 54
ผมเองก็ไม่ได้ออกไปดูรถไฟอีกเลย เลยไม่ทราบว่า 356 ถึงทุ่งบัวกี่โมงครับ
(ปกติ 05.40 น.)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
am_praphan
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 06/10/2011
Posts: 17

PostPosted: 16/12/2011 9:36 am    Post subject: Reply with quote

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับที่จะให้มีการหยุดรับ-ส่ง ผู้โดยสารหรือรับส่งพัสดุ เพิ่มขึ้นที่สถานีบ้านโป่งเพิ่มเติมหลายๆขบวน
ผู้โดยสารเยอะจริงๆครับ ทั้งที่มาจากทางบ้านโป่งเอง มาจากทางเมืองกาญจน์ก็เยอะ
บางส่วนก็เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ต้องการจะเดินทางไปเที่ยวทะเลทางภาคใต้ของไทยก็ไม่น้อยนะครับ

ส่วนเรื่องของรถไฟชานเมืองนั้นอยากจะให้เพิ่มหรือขยายปลายทางจากต้นทางสถานีกรุงเทพฯ มาถึงบ้านโป่งหรือราชบุรี โดยตรงเช้า-เย็นอีกสักขบวนจะดีมาก แต่ด้วยการตรึงตัวของขบวนรถที่มีน้อยอยู่แล้ว คงอีกนานและครับที่จะมีรถชานเมืองมาบ้านโป่งหรือราชบุรี
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 16/12/2011 9:39 am    Post subject: Reply with quote

เห็นด้วยตรงที่ว่า หากการรถไฟฯ งดเก็บค่าหยุมหยิม ทำให้ลูกค้าเสียเวลาโดยใช่เหตุ และปรับปรุงบริการขนส่งสัมภาระให้เป็นมาตรฐานแล้ว คงดึงรายได้กลับเข้าสู่องค์การได้ไม่น้อยทีเดียว แบบเดียวกับ บ.ไปรษณีย์ไทย ทำอยู่ นอกเหนือจากรับส่งไปรณีย์ภัณฑ์ ตอนนี้ รับโอนเงิน ชำระค่าบริการจิปาถะ แถมด้วยบริการส่งพัสดุภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่ไม่เกินความจุรถขนส่งไปรษณีย์อีกด้วย

สาเหตุหนึ่งที่การรถไฟฯ ถูกโจมตีและถูกมองเมินจากระดับบนนั้น เห็นจะเป็นเรื่องระบบที่ล้าสมัย บุคลากรไม่พัฒนานี่แหละ หากมีปัญหาหรือมีข้อปรับปรุงใดๆ ที่เชื่อมโยงกับฝ่ายต่างๆ แล้ว หากได้รับคำตอบกลับมาว่าไม่สามารถจัดบริการให้ได้ ด้วยขาดปัจจัย หรือไม่ได้ผลประโยชน์ร่วมและก็ บราๆๆๆๆ ก็เก็บคืนเข้าลิ้นชัก จบเรื่อง

ทีเรื่องโลจิสติกส์นอกระบบลงขบวนรถทางไกลสายใต้แถวนครปฐม หรือหัวโค้งแถวๆ กม.11 ล่ะก็ กลับมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมแทบไม่น่าเชื่อ เนาะ...
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 16/12/2011 9:51 am    Post subject: Reply with quote

am_praphan wrote:
ส่วนเรื่องของรถไฟชานเมืองนั้นอยากจะให้เพิ่มหรือขยายปลายทางจากต้นทางสถานีกรุงเทพฯ มาถึงบ้านโป่งหรือราชบุรี โดยตรงเช้า-เย็นอีกสักขบวนจะดีมาก แต่ด้วยการตรึงตัวของขบวนรถที่มีน้อยอยู่แล้ว คงอีกนานและครับที่จะมีรถชานเมืองมาบ้านโป่งหรือราชบุรี


ก็มี ข.351/352 ธนบุรี - ราชบุรี ทำขบวนอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ ? เดี๋ยวนี้ขบวนรถชานเมืองสายใต้มีออกจากสถานีกรุงเทพเพียงขบวนเดียว ไปแค่สุพรรณบุรีเท่านั้น
Back to top
View user's profile Send private message
RORONOA
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 06/12/2007
Posts: 705

PostPosted: 16/12/2011 12:45 pm    Post subject: Reply with quote

Quote:
am_praphan wrote:
ส่วนเรื่องของรถไฟชานเมืองนั้นอยากจะให้เพิ่มหรือขยายปลายทางจากต้นทางสถานีกรุงเทพฯ มาถึงบ้านโป่งหรือราชบุรี โดยตรงเช้า-เย็นอีกสักขบวนจะดีมาก แต่ด้วยการตรึงตัวของขบวนรถที่มีน้อยอยู่แล้ว คงอีกนานและครับที่จะมีรถชานเมืองมาบ้านโป่งหรือราชบุรี


ก็มี ข.351/352 ธนบุรี - ราชบุรี ทำขบวนอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ ? เดี๋ยวนี้ขบวนรถชานเมืองสายใต้มีออกจากสถานีกรุงเทพเพียงขบวนเดียว ไปแค่สุพรรณบุรีเท่านั้น


ไม่เพียงพอครับ คน บ้านโป่ง และ คนกาญจนบุรี ที่ตัวอำเภอติดกับบ้านโป่ง คนราชบุรี เดินทางไปทำงานแถวย่านบางซื่อ สามเสน มีไม่น้อยนะครับ รวมถึงผมด้วย บางครั้งจะนั่ง 351/352 มาต่อขบวน 355/356 ก็มักพบว่าเวลาเหลื่อมล้ำ จนต่อรถไม่ทันหลายครั้ง นอกจากนี้ ผมว่าขบวน 352 นั้นเวลาจะเช้าเกินไปสำหรับผู้ที่ทำงานย่าน นครปฐม ศาลายา เข้าใจว่าการที่รถวิ่งเข้าสุพรรณบุรีเพื่อเป็นการรักษาเส้นทาง แต่อยากให้ปรับตารางเวลาเปลี่ยนเป็นให้รถเข้าสุพรรณบุรีเป็นเที่ยวเช้า และสลับรถเที่ยวเข้ากรุงเทพตอนเช้า มาเป็นต้นทางที่ราชบุรีแทน การที่ให้รถชานเมืองเข้าสุพรรณบุรีเป็นการสร้างความเสี่ยงให้ผู้โดยสารชานเมืองที่รถจะเสียเวลาและเกิดอุบัติเหตุ อย่างช่วงนี้ได้ข่าวแว่วๆมาว่าเสียเวลาร่วมชม.ทุกวัน ส่วนนี้อาจจะฟังดูยุ่งยาก ถ้าจะให้ง่ายกว่านั้น คือให้ขบวน 83/84/85/86/171/172 หยุดรับ-ส่ง ที่บ้านดป่งก็จะช่วยการโดยสารได้ทั้งผู้โดยสารระยะใกล้ และระยะไกล รวมถึงช่วยระบายสินค้าอีกด้วย หรืออย่างขบวน 355/356 ืี่ขณะนี้ ใช้ชุดรถ 4 คันแล้ว น่าจะสามารถตัดรถแยกเป็น 2 ชุดเดินรถมาเส้นทางราชบุรี ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเกินความสามารถ จริงอยู่ที่ว่าการเดินรถชานเมืองมีแต่ขาดทุน แต่ไม่ในเมื่อวิ่งแล้วก็ควรให้เกิดประโยชน์สูงสุดไม่ใช่หรือครับ นอกจากนี้อย่าตีค่ารถชานเมืองหรือผู้โดยสารระยะใกล้ต่ำไปนัก เพราะบ่อยครั้งที่ผู้โดยสารชั้น 1 ชั้น 2 ก็ต้องอาศัยรถเหล่านี้เข้าไปต่อรถระยะไกลที่กรุงเทพ ซึ่งบ่อยครั้งที่ผู้โดยสารยกเลิกการเดินทาง หรือไม่ใช้บริการเพราะต่อรถไม่สะดวก
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> เส้นทางรถไฟ, ค่าโดยสาร และเรื่องเกี่ยวกับการเดินรถ All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2
Page 2 of 2

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©