Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311289
ทั่วไป:13271481
ทั้งหมด:13582770
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 79, 80, 81 ... 100, 101, 102  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 01/07/2020 4:33 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมรายงาน ครม.ผลศึกษาทำไมต้องขยายสัมปทาน”ทางด่วน-รถไฟฟ้าสายสีเขียว”
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 - 12:06 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 30 มิ.ย. 2563 มีมติรับทราบผลการศึกษาเรื่องการพิจารณาศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้าบีทีเอส ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า (บีทีเอส) สภาผู้แทนราษฎร ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป

โดยกระทรวงคมนาคมได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของรายงานการพิจารณาศึกษาการขยายสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้าบีทีเอส ของคณะกรรมาธิการวิสามัญ สภาผู้แทนราษฎร

ในกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เห็นด้วยกับขยายสัญญาสัมปทานทางด่วน ซึ่งการขยายระยะเวลาสัมปทานทางด่วนนั้น ครม.มีมติวันที่ 18 ก.พ. 2563 เห็นชอบการแก้ไขสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 รวมถึงส่วน D และสัญญาทางด่วนสายบางปะอิน – ปากเกร็ด รวม 2 ฉบับ ตามที่คมนาคมเสนอ

โดยให้ต่อขยายระยะเวลาสัญญาทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน A B C ออกไปอีก 15 ปี 8 เดือน นับแต่วันสัญญาสิ้นสุดในวันที่ 29 ก.พ. 2563 สำหรับส่วน D ขยายเป็นระยะเวลา 8 ปี 6 เดือน นับแต่สัญญาส่วน D สิ้นสุดในวันที่ 21 เม.ย. 2570 และทางด่วนสายบางปะอิน – ปากเกร็ดต่อขยายเป็นระยะเวลา 9 ปี 1 เดือน นับแต่วันสัญญาสิ้นสุดในวันที่ 26 ก.ย. 2569

เพื่อยุติปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นตามสัญญาเดิมทั้งหมด เป็นการบริหารความเสี่ยงเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กพท.) โดยไม่ต้องต่อสู้คดีกันต่อไป

สำหรับการต่อสัมปทานใน 15 ปีหลัง ซึ่งให้มีการก่อสร้างทางด่วนขึ้นที่ 2 นั้น ครม.มีมติให้คมนาคมไปพิจารณาศึกษา แล้วนำเสนอ ครม.ต่อไป

รวมทั้งเอกชนที่เป็นคู่สัญญาตกลงให้ความร่วมมือยกเว้นค่าผ่านทางในเทศกาลต่าง ๆ และจะไม่เรียกร้องค่าชดเชยและค่าเสียหายด้วย ส่วนการสอบสวนหาผู้กระทำความผิดเพื่อตรวจสอบการดำเนินการเกี่ยวกับการเกิดข้อพิพาทจนนำไปสู่การขยายสัญญาสัมปทาน ในเรื่องนี้คมนาคมได้ส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปแล้ว

ทั้งนี้การขยายสัญญาสัมปทานดังกล่าวเป็นการบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ กทพ. โดย กทพ.ไม่ต้องนำส่วนแบ่งรายได้ชำระหนี้ให้แก่เอกชน และหาก กทพ.ต้องจ่ายค่าชดเชยตามคำพิพากษาก็ยังสามารถให้บริการประชาชนต่อไปได้โดยไม่เกิดผลกระทบต่อรายได้ที่จะนำส่งรัฐ ซึ่งการขยายสัมปทานเป็นการลดความสูญเสียจากการแพ้คดี



และในสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ฉบับแก้ไข) และสัญญาทางด่วนสายบางปะอิน – ปากเกร็ด (ฉบับแก้ไข) ยังคงเงื่อนไขให้ปรับอัตราค่าผ่านทางทุก 5 ปี และยังมีการยกเว้นค่าผ่านทางให้แก่ประชาชนในเทศกาลต่าง ๆ ด้วย

และการแก้ไขสัญญาสัมปทานกรณีนี้เป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 มาตรา 47 ประกอบกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นไปตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ

ส่วนผลการศึกษาการขยายสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวของ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บีทีเอส)
ของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2562 เรื่อง การดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ลงวันที่ 11 เม.ย.2562 ให้ครบถ้วน และเป็นไปตามกฎหมาย เพื่อให้มีการต่อสัญญาสัมปทานนี้ต่อไป

ขอบเขตของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าวจะมีผลให้เอกชนต้องรับภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แทน กทม. ในช่วงต้นโครงการ และ กทม. ได้รับส่วนแบ่งจากค่าโดยสาร สถานีเชื่อมต่อการเดินทาง เช่น สถานีห้าแยกลาดพร้าว ได้มีการออกแบบเพื่อรองรับการเดินรถในระบบ Through Operation

และไม่มีการเรียกเก็บค่าแรกเข้าซ้ำซ้อน อัตราค่าโดยสารตามสัญญาร่วมทุนมีราคาน้อยกว่าหรือเท่ากับอัตราค่าโดยสารที่มีการจัดเก็บในปัจจุบัน และอัตราค่าโดยสารตลอดสายสูงสุด 65 บาท และตามสัญญาร่วมลงทุนได้รวมการปรับปรุงบริเวณสถานีตากสินไว้ด้วย จะทำให้สถานีสีลมมีค่าความถี่การให้บริการดีขึ้น และมีการกำหนดค่าความหนาแน่นของผู้โดยสารตามมาตรฐานที่มีความเหมาะสม

เป็นการแก้ไขปัญหาภาระการเงินของ กทม. ในอนาคต ซึ่ง กทม.อาจนำส่วนแบ่งผลประโยชน์มาเป็นส่วนลดค่าโดยสารให้กับประชาชนนั้น เนื่องจากการเจรจาผลตอบแทนกับภาคเอกชน ได้พิจารณารายได้จากเส้นทางหลัก ส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ในคราวเดียวกัน โดยนำผลกำไรจากเส้นทางหลักมาชดเชยผลขาดทุนของส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2

จากแนวทางดังกล่าวจะทำให้มีอัตราค่าโดยสารเหมาะสม คือสูงสุดไม่เกิน 65 บาท และไม่กระทบภาระทางการเงินของ กทม. สำหรับต้นทุนภาระทางการเงิน 107,000 ล้านบาท ในการสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น กทม. จะนำเงินรายได้ของโครงการมาชำระค่างานโยธา ดอกเบี้ย และภาระอื่น ๆ สำหรับส่วนต่อขยายที่ 2 จากการรับโอนทรัพย์สินและหนี้สินจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

การที่ไม่ส่งข้อมูลให้คณะกรรมาธิการฯ ทำให้ไม่สามารถพิจารณาประเด็นภาระต้นทุนทางการเงินของ กทม. ได้นั้น กทม. ได้ให้ข้อมูลสูงสุดที่สามารถให้ได้จากการเจรจาแล้ว

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาทางการเงินของภาครัฐด้วยการขยายสัญญาสัมปทานควรอยู่ 5 ในกรอบของ 1.ระยะเวลาการขยายสัมปทาน 2.อัตราค่าโดยสาร 3.การจัดหาผู้ประกอบการที่สามารถบริการตามความต้องการของประชาชน และ 4.การดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย นั้น กทม.ได้ยึดถือแนวทางดังกล่าวเป็นกรอบในการเจรจาสัญญาร่วมลงทุนระหว่าง กทม. กับภาคเอกชน

อย่างไรก็ตาม กทพ. ควรเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2563 และเพื่อความรอบคอบในการบริหารกิจการขององค์กร กทพ.ควรศึกษาผลกระทบและปัจจัยเสี่ยงอันเกิดจากการดำเนินการตามข้อสัญญาเดิม เพื่อมิให้เกิดข้อพิพาทในลักษณะเช่นเดียวกันกับที่ผ่านมา

สำหรับกรณี กทม.ควรดำเนินการตามขั้นตอนของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2562 ดังกล่าวให้ครบถ้วน รวมทั้งต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 05/07/2020 11:14 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดผลศึกษา แลกหนี้แสนล้าน ขยายสัมปทานบีทีเอส
หน้าเศรษฐกิจมหภาค - การค้า - การเกษตร
ออนไลน์เมื่อ วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 09:25 น.
ตีพิมพ์ใน หน้า 8
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,589 วันที่ 5-8 กรกฎาคม พ.ศ. 2563


มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) (วันที่ 30 มิ.ย.63)เห็นชอบ ผลศึกษา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอขยายสัมปทาน เดินรถให้กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี (BTSC) รวม3ส่วนเข้าด้วยกัน โดยพิจารณาจาก
1. บีทีเอส เป็นผู้ชำนาญเดินรถในเส้นทางนี้หากใครแข่งขันเชื่อว่า ยากที่จะเข้ามา
2. รัฐลดภาระหนี้กว่าแสนล้านบาท ในยามที่งบประมาณมีจำกัดท่ามกลางสถานการณ์โควิด - 19
3. ดึงคนใช้รถไฟฟ้าจากค่าโดยสารถูกลง ไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย ต่างจากอัตราค่าโดยสารเดิมที่ บีทีเอสคำนวนไว้ ที่ 158 บาท
4.เห็นด้วยว่าชอบด้วยกฎหมาย กรณีกรุงเทพมหานครยึดตามแนวทาง คำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ตามมาตรา 44 แทนพ.ร.บ. เอกชนร่วมลงทุนรัฐปี 2562 (พีพีพี )

หลังมีข้อท้วงติงข้ามปีของคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญที่เห็นต่างกระทั่งนำมาถึงการตั้งคณะกรรมการศึกษาเพื่อให้ ครม.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชี้ขาด นำโดย หมอหนูนาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุขในฐานะกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม

หากย้อนไปในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นการเจรจาขยายสัญญาสัมปทานหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นข้อพิพาทสัญญาทางด่วนขั้นที่2ระหว่าง บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด (มหาชน) หรือ BEM กับคู่กรณีการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ที่เพิ่งได้ข้อยุติลงไม่นาน กมธ.วิสามัญ ชุดนี้กลับเห็นด้วย ดังนั้น จึงมองว่า การขยายสัมปทานเดินรถบีทีเอส เพื่อแลกภาระหนี้กับ กรณีทางด่วน จึงไม่น่าจะแตกต่างกัน



โดยรายละเอียดผลศึกษากระทรวงคมนาคม ที่ออกมาจากแฟ้มทำเนียบรัฐบาล ระบุไว้ว่า “ภายหลังจากคณะกรรมการฯ พิจารณารายงานของกมธ.วิสามัญ กรณี ผลการศึกษาการขยายสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวของบีทีเอสนั้น เบื้องต้นกระทรวงคมนาคมได้สรุปความเห็นถึงการขยายสัมปทานดังกล่าวพบว่า กมธ.มีเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย จำนวน 19 คน เห็นด้วย 12 คน งดออกเสียง 6 คน ไม่ส่งความเห็น 1 คน และลาการประชุม 1 คน”

เสียงส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยเนื่องจากสัญญาสัมปทานที่เหลือ ระยะเวลา 10 ปี ที่จะสิ้นสุดปี 2572 นั้น ควรทำสัญญาจ้างเดินรถส่วนต่อขยายส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 ไปก่อน หากสิ้นสุดสัญญาภายในปี 2572 จึงดำเนินการจัดหาผู้เดินรถไฟฟ้ารายใหม่ที่สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนพีพีพี โดยให้กทม.เข้ามาดำเนินการรับผิดชอบ เพื่อให้ค่าโดยสารถูกสุดสำหรับประชาชน รวมถึงการขยายสัมปทานอาจเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในส่วนของสายสีเขียว ทำให้ปัญหาสายสีอื่นๆยังคงอยู่ ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหาแบบบูรณาการ ทั้งนี้การให้เอกชนทำพีพีพีแบบ Gross caost น่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด



ขณะกมธ.ฯ เสียงส่วนน้อยมีความเห็นให้ขยายสัญญาสัมปทานดังกล่าว เนื่องจากการใช้คำสั่งคสช.ทดแทนพีพีพีถูกต้องตามกฎหมาย หากสามารถดำเนินการเสนอให้มีการต่อสัญญาสัมปทาน ทางกทม. ควรกำหนดกรอบการดำเนินการ เพื่อแก้ไขปัญหาภาระหนี้และค่าใช้จ่ายของกทม. ตลอดจนการเดินระบบรถและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการลดค่าโดยสารเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนทั้งด้านคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการ

ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าการขยายสัญญาสัมปทานฯ นั้น ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อการให้บริการประชาชนหรือผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าและผลตอบแทนแก่รัฐที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ผู้รับสัมปทาน โดยการดำเนินการดังกล่าวจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนสูงสุดมากกว่าผลตอบแทนที่รัฐหรือผู้รับสัมปทานจะได้รับ ขณะที่ กทม.ได้เจรจากับผู้รับสัมปทานโดยรวม ว่า การเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตลอดทั้งสายหลักและส่วนต่อขยาย นั้น เป็นเส้นทางเดียวโดยให้มีการปรับลดอัตราค่าโดยสารสายสีเขียวสูงสุดไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย ส่งผลให้ลดอัตราค่าโดยสารของสาย สีเขียวสายหลักลดลง ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าเดินทางให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ หากเทียบกับอัตราค่าโดยสารที่มีการคิดตามระยะทางในปัจจุบัน พบว่า มีอัตราค่าโดยสารสูงสุด อยู่ที่ 158 บาท ทำให้อัตราค่าโดยสารขั้นสูงมีส่วนต่างอยู่ที่ 93 บาท ขณะเดียวกันการเจรจาขยายสัมปทานในครั้งนี้ จะทำให้ ผู้โดยสารไม่ได้รับผลกระทบ จากค่าโดยสาร เนื่องจากค่าโดยสารแบบราคาเดียว เป็นอัตราที่ต่ำกว่าค่าโดยสารที่คิดตามระยะทางในปัจจุบัน หากมีการจ้างเอกชนราย อื่นมาเดินรถในส่วนต่อขยาย อาจมีข้อจำกัดให้การเดินรถของทั้งโครงการไม่เกิดประโยชน์สูงสุด

บทสรุปสุดท้าย เสียงเคาะโต๊ะดังปัง จากครม.ลุงตู่ เชื่อว่าเร็วๆนี้ ผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส จะมีข่าวดี!!!
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 17/07/2020 9:46 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้า 'บีทีเอส' ระบบควบคุมการเดินรถขัดข้องตั้งแต่ตี 5 เร่งแก้ไข
17 กรกฎาคม 2563

ความคืบหน้า รถไฟฟ้า 'บีทีเอส' ระบบควบคุมการเดินรถขัดข้องตั้งแต่ตี 5 เร่งแก้ไข

บีทีเอส รายงาน เมื่อเวลา 05.00 น. ระบบควบคุมการเดินรถขัดข้องระหว่างสถานีสำโรง ถึงสถานีปลายทางเคหะฯ ทำให้ขบวนรถไม่สามารถให้บริการได้

เวลา 05.56 น. ระบบควบคุมการเดินรถขัดข้อง กำลังทำการแก้ไข โดยสามารถเดินรถจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุถึงสถานีแบริ่ง ยังคงทำการปิดสถานีสำโรงถึงสถานีปลายทางเคหะฯ ชั่วคราว ผู้โดยสารโปรดพิจาราณาการเดินทาง ขออภัยในความไม่สะดวก


เวลา 07.00 เนื่องจากระบบควบคุมการเดินรถขัดข้อง กำลังทำการแก้ไข โดยสามารถเดินรถจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุถึงสถานีแบริ่ง ยังคงทำการปิดสถานีสำโรงถึงสถานีปลายทางเคหะฯ ชั่วคราว ผู้โดยสารโปรดพิจารณาการเดินทาง ขออภัยในความไม่สะดวก

เวลา 07.45 น. เนื่องจากระบบควบคุมการเดินรถขัดข้อง กำลังทำการแก้ไข โดยจะมีรถให้บริการจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุถึงสถานีแบริ่ง ยังคงปิดสถานีสำโรงถึงสถานีปลายทางเคหะฯ ชั่วคราว การเดินรถในสายสีลม สามารถเดินรถได้ตามปกติ ผู้โดยสารโปรดพิจารณาการเดินทาง ขออภัยในความไม่สะดวก

เมื่อเวลา 08.34 น. เนื่องจากระบบควบคุมการเดินรถขัดข้อง อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข โดยจะมีรถให้บริการจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุถึงสถานีแบริ่ง ยังคงปิดสถานีสำโรงถึงสถานีปลายทางเคหะฯ ชั่วคราว การเดินรถในสายสีลม สามารถเดินรถได้ตามปกติ ผู้โดยสารโปรดพิจารณาการเดินทาง ขออภัยในความไม่สะดวก

เมื่อเวลา 09.00 น. เนื่องจากระบบควบคุมการเดินรถขัดข้อง อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข โดยจะมีรถให้บริการจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุถึงสถานีแบริ่ง ยังคงปิดสถานีสำโรงถึงสถานีปลายทางเคหะฯ ชั่วคราว การเดินรถในสายสีลม สามารถเดินรถได้ตามปกติ ผู้โดยสารโปรดพิจารณาการเดินทาง ขออภัยในความไม่สะดวก

งานเข้าแต่เช้า!!รถไฟฟ้าบีทีเอสเจ๊ง..ยังเร่งแก้ไขอยู่
*จากสถานีสำโรง-เคหะฯเดินรถไม่ได้
*ประสานขสมก.เพิ่มความถี่ปล่อยรถเมล์
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2654519958102839

บีทีเอสเดี้ยง!สำโรง- เคหะฯ" ระบบขัดข้อง กรมรางฯจัดรถขสมก.ช่วย
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 17 กรกฎาคม 2563 เวลา 09:16



บีทีเอสพังแต่เช้า ตั้งแต่ สำโรงถึงสถานีปลายทางเคหะฯ ระบบขัดข้องหยุดให้บริการชั่วคราว กรมรางสั่งเร่งแก้ไข พร้อมประสานขสมก. เพื่มความถี่ ช่วงระบายประชาชนช่วง"ปากน้ำ-ถนนสุขุมวิท"

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (17 ก.ค.) ตั้งแต่ เวลา 05.00 น. รถไฟฟ้าบีทีเอส ได้เกิดระบบควบคุมการเดินรถBTS สายสุขุมวิท ขัดข้อง ระหว่างสถานีสำโรงถึงสถานีปลายทางเคหะฯ ทำให้ขบวนรถไม่สามารถให้บริการได้ ตั้งแต่สถานีปู่เจ้า สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีเคหะฯ ชั่วคราว

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าว
ว่า ขณะนี้ ทางบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BTS อยู่ระหว่างทำการแก้ไข
โดยในส่วนของรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทช่วงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ-แบริ่ง ยังเปิดให้บริการตามปกติ

อย่างไรก็ตาม ภายหลังกรมการขนส่งทางรางได้รับแจ้งเหตุขัดข้อง จึงได้ประสานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถที่มาจากอู่ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ให้เพิ่มความถี่ในการปล่อยรถมากขึ้น เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงปากน้ำ-ถนนสุขุมวิทด้วยแล้ว



เช้านี้ BTS แจ้งระบบควบคุมเดินรถไฟฟ้าเกิดเหตุขัดข้อง
หน้าอสังหาริมทรัพย์
เผยแพร่: 17 กรกฎาคม 2563 เวลา 07:54 น.


เผยระบบควบคุมขัดข้องระหว่างสถานีสำโรง ถึงสถานีปลายทางเคหะฯ กำลังเร่งดำเนินการแก้ไข


วันนี้ 17 ก.ค. บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ได้ทวิตเตอร์ข้อความล่าสุด เมื่อเวลา 07.00 เนื่องจากระบบควบคุมการเดินรถขัดข้อง กำลังทำการแก้ไข โดยสามารถเดินรถจากสถานี วัดพระศรีมหาธาตุ ถึง สถานีแบริ่ง ยังคงทำการปิดสถานีสำโรงถึงสถานีปลายทางเคหะฯ ชั่วคราว ผู้โดยสารโปรดพิจารณาการเดินทาง ขออภัยในความไม่สะดวก


โดย BTS แจ้งว่าระบบควบคุมการเดินรถขัดข้องระหว่างสถานีสำโรง ถึงสถานีปลายทางเคหะฯ ทำให้ขบวนรถไม่สามารถให้บริการได้ ตั้งแต่เมื่อเวลา 05.00 น.


รถไฟฟ้าบีทีเอส ระบบขัดข้อง “สำโรง-เคหะ” จัดรถเมล์รับผู้โดยสาร
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 - 09:17 น.




รถไฟฟ้าบีทีเอส “สถานีสำโรง-สถานีเคหะ” ระบบขัดข้อง กรมรางจัดรถเมล์ ขสมก.รับคนเดินทาง

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวภายในการลงพื้นที่รถไฟฟ้าบีทีเอสแบริ่ง ว่า สืบเนื่องจากวันนี้ (17 กรกฎาคม 2563) เมื่อเวลา 05.00 น. เกิดเหตุระบบควบคุมการเดินรถ BTS สายสุขุมวิท ขัดข้องระหว่างสถานีสำโรงถึงสถานีปลายทางเคหะฯ


ทำให้ขบวนรถไม่สามารถให้บริการได้ ตั้งแต่สถานีปู่เจ้า สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีเคหะฯ ชั่วคราว

ซึ่งทางบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS อยู่ระหว่างทำการแก้ไข โดยยังเปิดให้บริการสายสุขุมวิทช่วงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ-แบริ่งตามปกติ

อย่างไรก็ตาม ภายหลังกรมการขนส่งทางรางได้รับแจ้งเหตุขัดข้อง จึงได้ประสานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถที่มาจากอู่ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ให้เพิ่มความถี่ในการปล่อยรถมากขึ้น เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงปากน้ำ-ถนนสุขุมวิทด้วยแล้ว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 17/07/2020 5:12 pm    Post subject: Reply with quote

โชว์บูรณาการร่วมคมนาคมเร่งคลี่คลายบีทีเอสขัดข้อง
Thaimotnews ข่าวคมนาคมและก่อสร้าง
17 กรกฎาคม 2563

“บีทีเอส” โชว์ศักยภาพร่วมบูรณาการกรมราง-ขสมก. - กทม. แก้ไขเหตุฉุกเฉิน กรณีระบบควบคุมการเดินรถไฟฟ้าขัดข้องไม่สามารถให้บริการได้ตั้งแต่สถานีสำโรง ถึง สถานีเคหะฯ ช่วงเช้าวันนี้ ขร.ประสาน ขสมก. เพิ่มความถี่จัดรถรองรับบริการประชาชนอย่างเพียงพอ จนรถไฟฟ้าให้บริการได้ตามปกติตั้งแต่ 11.15 น.

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่รถไฟฟ้าบีทีเอสแบริ่ง ว่า สืบเนื่องจากวันนี้ (17 กรกฎาคม 2563) เมื่อเวลา 05.00 น. เกิดเหตุระบบควบคุมการเดินรถ BTS สายสุขุมวิทขัดข้องระหว่างสถานีสำโรงถึงสถานีปลายทางเคหะฯ ทำให้ขบวนรถไม่สามารถให้บริการได้ ตั้งแต่สถานีปู่เจ้า สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีเคหะฯ ชั่วคราว

ทั้งนี้ทางบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BTS อยู่ระหว่างทำการแก้ไขโดยยังเปิดให้บริการสายสุขุมวิทช่วงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ-แบริ่งตามปกติ อย่างไรก็ตามภายหลังกรมการขนส่งทางราง(ขร.) ได้รับแจ้งเหตุขัดข้อง จึงได้ประสานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถที่มาจากอู่ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ให้เพิ่มความถี่ในการปล่อยรถมากขึ้น เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงปากน้ำ-ถนนสุขุมวิทด้วยแล้ว

ด้านฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่ากรณีระบบควบคุมการเดินรถไฟฟ้าขัดข้อง เมื่อเวลา 05.00 น. ของวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2563 อันเนื่องมาจากระบบควบคุมการเดินรถขัดข้อง ทำให้ขบวนรถไฟฟ้าไม่สามารถให้บริการได้ ตั้งแต่ สถานีสำโรง, สถานีปู่เจ้า, สถานีช้างเอราวัณ, สถานีโรงเรียนนายเรือ, สถานีปากน้ำ, สถานีศรีนครินทร์, สถานีแพรกษา, สถานีสายลวด และสถานีเคหะฯ รวม 9 สถานี จำต้องปิดสถานีชั่วคราว ทำให้มีผู้โดยสารตกค้าง และสะสมบริเวณชั้นชานชาลา

โดยบริษัทฯ ได้ปรับรูปแบบการเดินรถแบบชั่วคราว ดังนี้ สายสุขุมวิท ผู้โดยสารสามารถเดินทางจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ถึงสถานีแบริ่ง สามารถใช้บริการได้ตามปกติ ส่วนสายสีลมใช้บริการได้ตามปกติ อีกทั้งบริษัทฯ ได้เพิ่มจำนวนขบวนรถไฟฟ้า และเพิ่มความถี่ในการให้บริการ เพื่อรองรับผู้โดยสารที่ตกค้างบนชั้นชานชาลา

นอกจากนั้นทางบริษัทฯ ได้รายงานเหตุดังกล่าวให้ผู้โดยสารทราบในช่องทาง Application: BTSSkyTrain Line Official : @BTSSKYTRAIN Twitter: @BTS_SkyTrain อีกทั้งบริษัทฯ ได้แจ้งเหตุดังกล่าวไปยัง กทม. ทันที และได้ประสานไปยังกรมการขนส่งทางราง ให้ขอความร่วมมือไปยังองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถโดยสารที่มาจากอู่ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ให้เพิ่มความถี่ในการนำรถเข้ามาเสริม เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงสถานีเคหะฯ ถึงสถานีสำโรง

ทั้งนี้ บีทีเอส-กรมการขนส่งทางราง-ขสมก.-กทม.ได้ร่วมกันบูรณาการในการแก้ไขสถานการณ์เหตุฉุกเฉินเพื่อความสะดวกผู้โดยสาร จนรถไฟฟ้าสามารถให้บริการได้ตามปกติตั้งแต่เวลา 11.15 น. เป็นต้นไป ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ถือเป็นการบูรณาการระหว่างกรมการขนส่งทางรางฯ - BTS - ขสมก.-กทม.ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในการเดินทางของประชาชนเป็นครั้งแรกในทันทีที่มีเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน

“บริษัทฯ ต้องขออภัยผู้ใช้บริการทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย และเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสารบริษัทฯ จะเร่งดำเนินการแก้ไขให้ระบบกลับมาให้บริการเป็นปกติได้อย่างรวดเร็วที่สุด และขอขอบพระคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในครั้งนี้”

บีทีเอส ร่วมบูรณาการกับ กรมรางฯ ขสมก. ในการแก้ไขเหตุฉุกเฉิน กรณีระบบควบคุมการเดินรถไฟฟ้าขัดข้องไม่สามารถให้บริการได้ ตั้งแต่สถานีสำโรง ถึง สถานีเคหะฯ
ประชาสัมพันธ์
17 กรกฎาคม 2563 10:41น.




บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ฝ่ายสื่อสารองค์กร ชี้แจงกรณีระบบควบคุมการเดินรถไฟฟ้าขัดข้อง เมื่อเวลา 05.00 น. ของวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2563 อันเนื่องมาจากระบบควบคุมการเดินรถขัดข้อง ทำให้ขบวนรถไฟฟ้าไม่สามารถให้บริการได้ ตั้งแต่ สถานีสำโรง, สถานีปู่เจ้า, สถานีช้างเอราวัณ, สถานีโรงเรียนนายเรือ, สถานีปากน้ำ, สถานีศรีนครินทร์, สถานีแพรกษา, สถานีสายลวด และสถานีเคหะฯ รวม 9 สถานี จำต้องปิดสถานีชั่วคราว ทำให้มีผู้โดยสารตกค้าง และสะสมบริเวณชั้นชานชาลา

บริษัทฯ ได้ปรับรูปแบบการเดินรถแบบชั่วคราว ดังนี้ สายสุขุมวิท ผู้โดยสารสามารถเดินทางจาก สถานี วัดพระศรีมหาธาตุ ถึง สถานีแบริ่ง สามารถใช้บริการได้ตามปกติ ส่วนสายสีลมใช้บริการได้ตามปกติ อีกทั้งบริษัทฯ ได้เพิ่มจำนวนขบวนรถไฟฟ้า และเพิ่มความถี่ในการให้บริการ เพื่อรองรับผู้โดยสารที่ตกค้างบนชั้นชานชาลา
ทางบริษัทฯ ได้รายงานเหตุดังกล่าวให้ผู้โดยสารทราบในช่องทาง Application: BTSSkyTrain Line Official : @BTSSKYTRAIN Twitter: @BTS_SkyTrain บริษัทฯ ได้แจ้งเหตุดังกล่าวไปยัง กทม. ทันที และได้ประสานไปยังกรมการขนส่งทางราง โดยทางกรมการขนส่งทางรางได้ขอความร่วมมือไปยัง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถโดยสารที่มาจากอู่ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ให้เพิ่มความถี่ในการนำรถเข้ามาเสริม เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนช่วง สถานีเคหะฯ ถึงสถานีสำโรง

ทั้งนี้ บีทีเอส-กรมราง-ขสมก. ได้ร่วมกันบูรณาการในการแก้ไขสถานการณ์เหตุฉุกเฉินเพื่อความสะดวกผู้โดยสาร จากเหตุการณ์ดัวกล่าว ถือเป็นการบูรณาการระหว่าง กรมรางฯ - BTS - ขสมก. ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในการเดินทางของประชาชน เป็นครั้งแรกในทันทีที่มีเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน และเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสาร บริษัทฯ จะเร่งดำเนินการแก้ไขให้ระบบกลับมาให้บริการเป็นปกติได้อย่างรวดเร็วที่สุด

ผู้โดยสารสามารถติดตามช่องทางการสื่อสาร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บีทีเอส โทรศัพท์ 0 2617 6000 Line Official : @BTSSKYTRAIN Twitter: @BTS_SkyTrain Application: BTSSkyTrain

11:15 บีทีเอส แจ้งระบบควบคุมการเดินรถที่ขัดข้อง ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ทำการเปิดสถานีสำโรงถึงสถานีปลายทางเคหะฯ การเดินรถในสายสุขุมวิท สามารถเดินรถได้ตามปกติ

อัปเดต รถไฟฟ้า BTS ขัดข้อง ให้บริการตามปกติครบทั้ง 9 สถานี (เคหะฯ-สำโรง)
โดย PPTV Online

เผยแพร่ 17 กรกฎาคม 2563,11:44น.
ปรับปรุงล่าสุด 17 กรกฎาคม 2563,11:57น.

11.15 น. BTS ระบบควบคุมการเดินรถที่ขัดข้อง ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว การเดินรถในสายสุขุมวิท สามารถเดินรถได้ตามปกติ

อัปเดต รถไฟฟ้า BTS ขัดข้อง ให้บริการตามปกติครบทั้ง 9 สถานี (เคหะฯ-สำโรง)
ตั้งแต่ 05.00 น. ที่รถไฟฟ้า BTS (เคหะฯ-สำโรง) เกิดการขัดข้องจนส่งผลให้ประชาชนต้องยืนรอใช้บริการจนล้นออกมานอกสถานแบริ่งตลอดช่วงเช้า ล่าสุด ได้แก้ไขระบบควบคุมการเดินรถที่ขัดข้องเรียบร้อยแล้ว ทำให้การเดินรถไฟฟ้า BTS ในสายสุขุมวิทกลับมาให้บริการได้ตามปกติ


รถไฟฟ้า BTS สำโรง-เคหะ ขัดข้องตั้งแต่ตีห้า ปชช.รอยาวล้นสถานี

บีทีเอส ขัดข้องตั้งแต่ตี 5 ทำขบวนล่าช้าเช้านี้ ล่าสุดจนท.กำลังแก้ไข

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวภายในการลงพื้นที่รถไฟฟ้าบีทีเอสแบริ่ง ว่า สืบเนื่องจากวันนี้ (17 กรกฎาคม 2563) เมื่อเวลา 05.00 น. เกิดเหตุระบบควบคุมการเดินรถBTS สายสุขุมวิท ขัดข้องระหว่างสถานีสำโรงถึงสถานีปลายทางเคหะฯ ทำให้ขบวนรถไม่สามารถให้บริการได้ ตั้งแต่สถานีปู่เจ้า สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีเคหะฯ ชั่วคราว

อัปเดต รถไฟฟ้า BTS ขัดข้อง ให้บริการตามปกติครบทั้ง 9 สถานี (เคหะฯ-สำโรง)
บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ฝ่ายสื่อสารองค์กร ชี้แจงกรณีระบบควบคุมการเดินรถไฟฟ้าขัดข้อง เมื่อเวลา 05.00 น. ของวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2563 อันเนื่องมาจากระบบควบคุมการเดินรถขัดข้อง ทำให้ขบวนรถไฟฟ้าไม่สามารถให้บริการได้ ตั้งแต่ สถานีสำโรง, สถานีปู่เจ้า, สถานีช้างเอราวัณ, สถานีโรงเรียนนายเรือ, สถานีปากน้ำ, สถานีศรีนครินทร์, สถานีแพรกษา, สถานีสายลวด และสถานีเคหะฯ รวม 9 สถานี จำต้องปิดสถานีชั่วคราว ทำให้มีผู้โดยสารตกค้าง และสะสมบริเวณชั้นชานชาลา บริษัทฯ ได้ปรับรูปแบบการเดินรถแบบชั่วคราว ดังนี้ สายสุขุมวิท ผู้โดยสารสามารถเดินทางจาก สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ถึง สถานีแบริ่ง สามารถใช้บริการได้ตามปกติ ส่วนสายสีลมใช้บริการได้ตามปกติ อีกทั้งบริษัทฯ ได้เพิ่มจำนวนขบวนรถไฟฟ้า และเพิ่มความถี่ในการให้บริการ เพื่อรองรับผู้โดยสารที่ตกค้างบนชั้นชานชาลา


ทางบริษัทฯ ได้รายงานเหตุดังกล่าวให้ผู้โดยสารทราบในช่องทาง Application: BTSSkyTrain Line Official : @BTSSKYTRAIN Twitter: @BTS_SkyTrain บริษัทฯ ได้แจ้งเหตุดังกล่าวไปยัง กทม. ทันที และได้ประสานไปยังกรมการขนส่งทางราง โดยทางกรมการขนส่งทางรางได้ขอความร่วมมือไปยัง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถโดยสารที่มาจากอู่ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ให้เพิ่มความถี่ในการนำรถเข้ามาเสริม เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนช่วง สถานีเคหะฯ ถึงสถานีสำโรง

ทั้งนี้ บีทีเอส-กรมราง-ขสมก. ได้ร่วมกันบูรณาการในการแก้ไขสถานการณ์เหตุฉุกเฉินเพื่อความสะดวกผู้โดยสาร จากเหตุการณ์ดัวกล่าว ถือเป็นการบูรณาการระหว่าง กรมรางฯ - BTS - ขสมก. ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในการเดินทางของประชาชน เป็นครั้งแรกในทันทีที่มีเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน
บริษัทฯ ต้องขออภัยผู้ใช้บริการทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย และเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสาร บริษัทฯ จะเร่งดำเนินการแก้ไขให้ระบบกลับมาให้บริการเป็นปกติได้อย่างรวดเร็วที่สุด และขอขอบพระคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในครั้งนี้

ผู้โดยสารสามารถติดตามช่องทางการสื่อสาร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บีทีเอส โทรศัพท์ 0 2617 6000 Line Official : @BTSSKYTRAIN Twitter: @BTS_SkyTrain Application: BTSSkyTrain



BTS ขออภัยระบบรถไฟฟ้าขัดข้อง ล่าสุดเปิดบริการแล้ว “สำโรง-เคหะ”
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 - 11:20 น.



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ฝ่ายสื่อสารองค์กร ชี้แจงกรณีระบบควบคุมการเดินรถไฟฟ้าขัดข้อง เมื่อเวลา 05.00 น. ของวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2563 อันเนื่องมาจากระบบควบคุมการเดินรถขัดข้อง

ทำให้ขบวนรถไฟฟ้าไม่สามารถให้บริการได้ ตั้งแต่สถานีสำโรง, สถานีปู่เจ้า, สถานีช้างเอราวัณ, สถานีโรงเรียนนายเรือ, สถานีปากน้ำ, สถานีศรีนครินทร์, สถานีแพรกษา, สถานีสายลวด และสถานีเคหะฯ รวม 9 สถานี จำต้องปิดสถานีชั่วคราว ทำให้มีผู้โดยสารตกค้าง และสะสมบริเวณชั้นชานชาลา

บริษัทฯ ได้ปรับรูปแบบการเดินรถแบบชั่วคราว ดังนี้ สายสุขุมวิท ผู้โดยสารสามารถเดินทางจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ถึงสถานีแบริ่ง สามารถใช้บริการได้ตามปกติ ส่วนสายสีลมใช้บริการได้ตามปกติ อีกทั้งบริษัทฯ ได้เพิ่มจำนวนขบวนรถไฟฟ้า และเพิ่มความถี่ในการให้บริการ เพื่อรองรับผู้โดยสารที่ตกค้างบนชั้นชานชาลา

ทางบริษัทฯ ได้รายงานเหตุดังกล่าวให้ผู้โดยสารทราบในช่องทาง Application : BTSSkyTrain Line Official : @BTSSKYTRAIN Twitter : @BTS_SkyTrain และบริษัทฯ ได้แจ้งเหตุดังกล่าวไปยัง กทม. ทันที


และได้ประสานไปยังกรมการขนส่งทางราง โดยทางกรมการขนส่งทางรางได้ขอความร่วมมือไปยัง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถโดยสารที่มาจากอู่ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ให้เพิ่มความถี่ในการนำรถเข้ามาเสริม เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนช่วง สถานีเคหะฯ ถึงสถานีสำโรง

ทั้งนี้ บีทีเอส-กรมราง-ขสมก. ได้ร่วมกันบูรณาการในการแก้ไขสถานการณ์เหตุฉุกเฉินเพื่อความสะดวกผู้โดยสาร จากเหตุการณ์ดัวกล่าวถือเป็นการบูรณาการระหว่าง กรมรางฯ – BTS – ขสมก. ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในการเดินทางของประชาชน เป็นครั้งแรกในทันทีที่มีเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน

บริษัทฯ ต้องขออภัยผู้ใช้บริการทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย และเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสาร บริษัทฯ จะเร่งดำเนินการแก้ไขให้ระบบกลับมาให้บริการเป็นปกติได้อย่างรวดเร็วที่สุด และขอขอบพระคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.15 น. BTS ระบบควบคุมการเดินรถที่ขัดข้อง ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว การเดินรถในสายสุขุมวิท สามารถเดินรถได้ตามปกติ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 18/07/2020 11:58 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้าสายสีเขียวบูม‘คูคต’ ‘เสนา’ จุดไฟตลาดแนวราบ ดันโซลาร์ กระชากดีมานด์ชนชั้นกลาง
หน้าอสังหาริมทรัพย์
ออนไลน์เมื่อ วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 02:00 น.
ตีพิมพ์ใน หน้า 19-20
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,592
วันที่ 16 - 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ สร้างความคึกคักตลาดแนวราบ หวนพัฒนาทาวน์โฮมในรอบ 10 ปี ชูติดโซลาร์แห่งแรก แข่งขันชิงยอดขายดีมานด์กลุ่มคนระดับกลาง นำร่องทำเล “ลำลูกกา ปทุมธานี” รับอานิสงค์รถไฟฟ้าสายสีเขียว คูคต เปิดให้บริการ

ชาวคูคต จังหวัดปทุมธานี รอใจจดใจจ่อ ให้บริการ เส้นทางวิ่งผ่านเข้าเมือง ขณะดีเวลอปเปอร์ ตุนที่ดินรอบสถานีได้อานิสงค์ ขึ้นคอนโดมิเนียม และบ้านแนวราบรองรับกำลังซื้อ กันอย่างคึกคักโดยชูจุดขายที่แตกต่างกันออกไป

นายประกิต อัครเสรีนนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจ ว่าหลังจากบริษัทเล็งเห็นพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปมาก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เข้ามากดดันวิถีชีวิตและการอยู่อาศัยแบบมีระยะห่าง ทำให้ดีมานด์ในโปรดักต์กลุ่มแนวราบเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน พบมีผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมเปลี่ยนใจมาซื้อบ้านเป็นจำนวนมาก โดยความคึกคักของตลาดดังกล่าว ยังสะท้อนได้มาจากการปรับตัวของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ที่ต่างชะลอแผนการลงทุนในตลาดคอนโดฯ และหันมาโฟกัสในโปรดักต์แนวราบแทน
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตสินค้าแนวราบที่อยู่ระหว่างการขายและทยอยก่อสร้าง รวม 7 โปรเจ็กต์ โดยตั้งแต่ต้นปี จนถึง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน มียอดขายแล้วกว่า 500 ล้านบาท ขณะเป้ายอดขายทั้งปี 2563 วางไว้ 1.8 พันล้านบาท ซึ่งนับเป็นสัดส่วนประมาณ 15% จากเป้ายอดขายทั้งหมด อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนเพิ่มสัดส่วนยอดขายในกลุ่มแนวราบให้สูงขึ้นอีก เพื่อปรับให้สอดคล้องรับโอกาสจากดีมานด์ความต้องการที่มีแนวโน้มดีกว่าในตลาดคอนโดฯ โดยเฉพาะในกลุ่มคนระดับรายได้ปานกลาง 2.5-3 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักในตลาดทาวน์โฮม พบลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างบริษัทเอกชน มีการ Work From Home ขณะบางส่วนทำธุรกิจส่วนตัวค้าขายออนไลน์ ซึ่งต่างต้องการพื้นที่รองรับ สวนทางกับภาระรายจ่ายค่อนข้างมาก กลายเป็นโจทย์ความท้าทายในการพัฒาโปรดักต์ที่ตอบโจทย์มากที่สุด

ล่าสุด บริษัทเตรียมเปิดนิวโปรดักต์ “ทาวน์โฮมติดโซลาร์” เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง โดยถือเป็นโปรเจ็กต์แรกของไทย ขนาดติดตั้งโซลาร์ 1.28 กิโลวัตต์ ภายในโครงการ “เสนา วิลล์ ลำลูกกา คลอง 6” ชูจุดเด่น ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าที่เกิดเพิ่มขึ้นระหว่างวัน จากการ Work From Home โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องไฟฟ้าหลัก เช่น แอร์ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น อายุการใช้งาน 25 ปี“บริษัทเล็งเห็นโอกาสหลังสถานการณ์โควิด ปัจจุบันพอร์ตแนวราบอยู่ที่ 15% แต่ตั้งใจจะเพิ่มสัดส่วนขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มทาวน์โฮม 2 ชั้น ราคาเริ่มไม่ถึง 3 ล้านบาท โปรเจ็กต์นี้นอกจากเป็นทาวน์โฮมแรกของไทยที่ติดโซลาร์แล้ว ยังถือเป็นโครงการทาวน์โฮมแรกที่เรากลับมาพัฒนาในรอบกว่า 10 ปีด้วย ตั้งเป้ายอดขายวันพรีเซล 20 ล้านบาท ขณะช่วงปลายปีเตรียมเปิดอีก 1 โครงการ ย่านพุทธมณฑลสาย 7”

นายประกิต ยังกล่าวถึงทำเล ลำลูกกา-ธัญบุรี ว่า ปัจจุบันยังเป็นทำเลที่ดีมานด์ความต้องการสูงในกลุ่มแนวราบ ทั้งกลุ่มทาวน์โฮมราคามากกว่า 2 ล้านบาท และ บ้านเดี่ยว-บ้านแฝด 4-5 ล้านบาท โดยมีอัตราดูดซับ 4-5 หลังต่อเดือน ซึ่งตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่เกิดขึ้น มีเพียงโครงการเก่าซึ่งพัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ก่อนหน้า รวมรัศมี 10 กิโลเมตร มีสินค้าเหลือขายประมาณ 1 พันหน่วย ขณะราคาที่ดิน (พัฒนาแล้ว) เฉลี่ยขายที่ 5.3 หมื่นบาทต่อตารางวา อย่างไรก็ตาม คาดในอนาคตทำเลดังกล่าวจะคึกคักได้รับอานิสงส์จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายจากหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่จะแล้วเสร็จ (กำหนด ธ.ค 2563) ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางมากยิ่งขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 03/08/2020 10:42 am    Post subject: Reply with quote

BTS ปิดดีล รถไฟฟ้าสายสีเขียว ยึด ม.44 ขยายสัญญาแลกหนี้แสนล้าน
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project

ออนไลน์เมื่อ วันที่ 3 สิงหาคม 2563 เวลา 09:30 น.
ตีพิมพ์ใน หน้า 1
ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับ 3597
วันที่ 2-5 สิงหาคม 2563

ลุ้นครม.ไฟเขียวขยายสัมปทาน รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว 3 ช่วงแลกหนี้ แสนล้าน 4 ส.ค.นี้ หลังรับทราบผลการศึกษา คมนาคม หัก กมธ.–ด้านสคร.ร่อนหนังสือ ยํ้า ม.44 ใช้แทนพีพีพีได้

กำลังเป็นที่จับตาถึงการขยายสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ที่เหลือระยะเวลาอีก 10 ปี โดยให้รายเดิมดำเนินการต่อไป




ตามการใช้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ วันที่ 11 เมษายน 2562 (ม.44) ทดแทนกฎหมายว่าด้วยการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชนในการพิจารณาให้ขยายระยะเวลาสัมปทานออกไปว่าจะถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากยังมีข้อขัดแย้งของหลายฝ่าย โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่ได้ศึกษาในเรื่องนี้เสียส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการให้ขยายสัญญาสัมปทานออกไป แต่ควรจะทำสัญญาจ้างเดินรถส่วนต่อขยายที่ 1 และที่ 2 ไปก่อน เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาสัมปทานในปี 2572 และ เปิดให้จัดหาผู้เดินรถไฟฟ้ารายใหม่ ตามขั้นตอนของพ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ในรูปแบบพีพีพีเป็นทางออกที่เหมาะสม



ระหว่างนี้กรุงเทพมหานคร ในฐานะคู่สัญญาอยู่ระหว่างขอความเห็นชอบในการขยายสัญญาสัมปทานเดินรถจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่าจะออกมาในรูปแบบใด ขณะที่ครม.เองต้องไปขอความเห็นจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องด้วยว่า หากยึดตามคำสั่งม.44 แล้ว จะมีข้อท้วงติงอย่างไร ล่าสุดหน่วยงานต่างๆ ได้เสนอความเห็นเข้ามาแล้ว และคาดว่าจะมีการพิจารณาของครม.วันที่ 4 สิงหาคมนี้


ครม.รับทราบผลศึกษา

ขณะที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาเรื่องการพิจารณาศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า (บีทีเอส) ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า (บีทีเอส) สภาผู้แทนราษฎร ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบ โดยสรุปดังนี้

กรณีรายงานผลการศึกษาการขยายสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวของบีทีเอสของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ในการขยายสัญญาร่วมทุนในเรื่องนี้ กรุงเทพมหานครได้ดำเนินงานตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2562 เรื่อง การดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ลงวันที่ 11 เมษายน ปี 2562 ซึ่งขอบเขตของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าว



จะมีผลให้เอกชนต้องรับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ แทนกรุงเทพมหานครในช่วงต้นโครงการ และกรุงเทพมหานครได้รับส่วนแบ่งจากค่าโดยสาร สถานีเชื่อมต่อการเดินทาง อัตราค่าโดยสารตามสัญญาร่วมทุนมีราคาน้อยกว่าหรือเท่ากับอัตราค่าโดยสารที่มีการจัดเก็บในปัจจุบัน และอัตราค่าโดยสารตลอดสายสูงสุด 65 บาท และรวมการปรับปรุงบริเวณสถานีตากสินไว้ด้วย ซึ่งจะทำให้สถานีสีลมมีค่าความถี่การให้บริการดีขึ้น



สำหรับต้นทุนภาระทางการเงิน 107,000ล้านบาท ในการสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น กรุงเทพมหานครจะนำเงินรายได้ของโครงการมาชำระค่างานโยธาดอกเบี้ย และภาระอื่น ๆ สำหรับส่วนต่อขยายที่ 2 จากการรับโอนทรัพย์สินและหนี้สินจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

สคร.ยัน ใช้ม.44ไม่ผิด

ด้านนายประภาส คงเอียด ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สคร.ได้ทำหนังสื้อแสดงความคิดเห็นกรณีการขยายสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวของบีทีเอสตามคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เมื่อ 11 เมษายน 2562ไปยังสำนักงานเลขาคณะรัฐมนตรี(สลค.) เรียบร้อยแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยให้ความเห็นว่า การดำเนินการของเอกชนภายใต้คำสั่งคสช.เมื่อดำเนินการแล้วให้ถือว่าแก้ไขร่วมลงทุน โดยให้มีคณะกรรมการกำกับดูแลต่อไปภายใต้กฎหมายการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน (พีพีพี)



ดังนั้นการขยายสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวของบีทีเอสในส่วนต่อขยายถือว่าชอบด้วยกฎหมาย ทั้งดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้าคสช.จากนั้นให้อยู่ภายใต้คณะกรรมการกำกับดูแลภายใต้กฎหมายพีพีพีส่วนจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้เมื่อไหร่นั้น ขึ้นกับการพิจารณาของสลค.

ขณะเดียวกัน คมนาคม พบว่ากมธ.มีเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย จำนวน 19 คนเห็นด้วย 12 คน งดออกเสียง 6 คน ไม่ส่งความเห็น 1 คน และลาการประชุม 1 คน โดยเสียงส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยกับการขยายสัญญาสัมปทานในส่วนสายสีเขียว เนื่องจากมีความเห็นว่าสัญญาสัมปทานที่เหลือระยะเวลา 10 ปี ที่จะสิ้นสุดปี 2572 นั้น ควรทำสัญญาจ้างเดินรถส่วนต่อขยายส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 ไปก่อน

หากสิ้นสุดสัญญาภายในปี 2572 ค่อยดำเนินการจัดหาผู้เดิน รถไฟฟ้ารายใหม่ที่สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ปี 2562 (พ.ร.บ.พีพีพี)ระยะสัญญา30 ปีโดยให้กรุงเทพ มหานคร (กทม.) เข้ามาดำเนินการรับผิดชอบ เพื่อให้ค่าโดยสารถูกสุดสำหรับประชาชนที่ใช้บริการพื้นที่ในกรุงเทพฯ รวมถึงการขยายสัมปทานอาจเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในส่วนของสายสีเขียว ทำให้ปัญหาสายสีอื่นๆยังคงอยู่ ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหาแบบบูรณาการ ทั้งนี้การให้เอกชนทำพีพีพีแบบ Gross caost น่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุดในกรณีนี้

กมธ.เสียงส่วนน้อยมีความเห็นให้ขยายสัญญาสัมปทานดังกล่าว เนื่องจากการใช้คำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติทดแทนกฎหมายว่าด้วยการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชนในการพิจารณาให้ขยายระยะเวลาสัมปทานออกไปถูกต้องตามกฎหมายหากสามารถดำเนินการเสนอให้มีการต่อสัญญาสัมปทาน ทางกทม. ควรกำหนดกรอบการดำเนินการ เพื่อแก้ไขปัญหาภาระหนี้และค่าใช้จ่ายของกทม.ตลอดจนการเดินระบบรถและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการลดค่าโดยสารเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนทั้งด้านคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44627
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/08/2020 10:57 am    Post subject: Reply with quote

กทม.ยังเดินหน้าสายสีเทา แจงกรมขนส่งทางราง
ข่าวทั่วไทย
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
5 ส.ค. 2563 10:04 น.

นายพานุรักษ์ กลั่นนุรักษ์ ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. กล่าวกรณีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) มีแนวคิดเสนอให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทา รามอินทรา-ลำลูกกา และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย สมุทรปราการ-บางปู มาดำเนินการแทน กทม.

เนื่องจากทั้ง 2 โครงการไม่มีความคืบหน้า ว่า ในส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทานั้น เป็นส่วนหนึ่งของระบบขนส่งมวลชนสายรอง กทม.ได้จัดทำแบบเบื้องต้นและจัดเตรียมเอกสารประกวด ราคาของโครงการ โดยได้รับงบประมาณในปี 2557 และ กทม.ได้ศึกษาและเสนอรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 และได้มีการเสนอรายงานต่อ สผ.ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.62

โดยที่ประชุมคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) ได้พิจารณาเมื่อวันที่ 6 มี.ค.63 และได้มีมติให้เพิ่มเติมในประเด็นต่างๆ ได้แก่ การปรับแก้การคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร การประเมินความแออัด ในการให้บริการ การตรวจสอบความถูกต้องของจุดตัดระหว่างโครงการกับ Airport Rail Link การปรับรูปแบบโครงสร้าง ซึ่งปัจจุบัน อยู่ระหว่างปรับแก้รายงานเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถส่งให้ สผ.พิจารณาได้อีกครั้งประมาณปลายเดือน ส.ค.63

สำหรับการร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชน (Public-Private Partnership : PPP) ปัจจุบันได้รับงบประมาณปี 2564 เฉพาะในส่วนของการเสนอโครงการจ้างที่ปรึกษา เพื่อศึกษาและวิเคราะห์โครงการระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) สายสีเทา (ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ) เพื่อนำผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการเข้าสู่กระบวนการ PPP อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาล่าช้าเนื่องจากการพิจารณา EIA ในการดำเนินโครงการต้องได้รับความเห็นชอบในหลักการจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ โดย กทม.ได้ประสาน กทพ.ตั้งแต่ปี 2558 และได้หารือร่วมกัน จนปัจจุบัน กทม.ได้รับอนุญาตจาก กทพ.แล้ว ทั้งนี้ กทม.จะเร่งรัดกระบวนการ PPP เพื่อคัดเลือกเอกชนที่จะดำเนินการก่อสร้าง โดยมีแผนการเปิดให้บริการโครงการดังกล่าวในปี 2568

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายช่วงสมุทรปราการ-บางปู โครงการดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งปัจจุบันได้ผ่านขั้นตอน EIA แล้ว อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติดำเนินการก่อสร้าง.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 20/08/2020 12:04 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้าสายสีเขียว ดันดีมานด์คอนโดฯ "สะพานใหม่" โต 30%
หน้า อสังหาริมทรัพย์ /
วันที่ 19 สิงหาคม 2563 เวลา 17:04 น.

แสนสิริ ลุยโอนคอนโดฯ เดอะเบส สะพานใหม่ มูลค่า 2,800 ลบ. ชี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ (หมอชิด - สะพานใหม่ - คูคต) ช่วยหนุนเรียลดีมานด์ ทำเล "ย่านสะพานใหม่" โตเฉลี่ย 30%

นายปิติ จารุกำจร รองกรรมการผู้จัดการฝ่านพัฒนาโครงการแนวสูงและบริหารกลยุทธ์โครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า บีทีเอส กรุ๊ปฯ และ แสนสิริ ได้ร่วมทุนกันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชน โดยล่าสุดได้เดินหน้าโอนโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะ เบส (THE BASE) ในชื่อโครงการ “เดอะ เบส สะพานใหม่” (THE BASE Saphanmai) จำนวน 820 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท โดยโครงการได้รับการตอบรับจากกลุ่มเรียลดีมานด์เป็นอย่างดี ปัจจุบันโครงการเดอะ เบส สะพานใหม่ มียอดขายกว่า 80% ของจำนวนห้องที่เปิดขาย โดย 60% จากยอดขายเป็นผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยจริง สะท้อนเรียลดีมานด์ของผู้ซื้อในกลุ่มตลาดคอนโดในเซ็กเม้นต์ C และ D ซึ่งเป็นตลาดที่แสนสิริเล็งเห็นถึงศักยภาพในปัจจุบัน ล่าสุดเตรียมเดินหน้าโอนโครงการ เดอะ เบส สะพานใหม่ บนทำเลศักยภาพใจกลางย่านสะพานใหม่ ซึ่งจากครึ่งปีแรกแสนสิริมียอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่สร้างเสร็จสมบูรณ์และส่งมอบให้กับลูกค้าสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 28,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง การคิดและนำเสนอโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้า รวดเร็วทันตลาด ตลอดจนการดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุดที่เป็นหัวใจสำคัญของแสนสิริ ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า


“เดอะ เบส สะพานใหม่” ตั้งอยู่ในทำเลสะพานใหม่ ซึ่งเป็นทำเลแห่งอนาคตที่มีศักยภาพสูง อยู่ติดกับบีทีเอสสถานีสายหยุด เพียง 30 เมตร เป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ที่ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเปิดให้ใช้บริการในเดือนตุลาคม ทั้งนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวได้ขยายความสะดวกไปทางโซนกรุงเทพตอนเหนือ ทำให้หลายๆ พื้นที่ที่รถไฟฟ้าสายนี้ผ่านมีศักยภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งย่านสะพานใหม่ ซึ่งเป็นทำเลที่มีจุดเด่นหลากหลาย มีความเป็นชุมชนเก่า ใกล้สถานที่สำคัญต่างๆ ทั้งมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพียง 7 สถานี, มหาวิทยาลัยศรีปทุม เพียง 5 สถานี ใกล้โรงพยาบาลเช่น โรงพยาบาลภูมิพล, โรงพยาบาลเซ็นทรัล เจ็นเนอร์รัล อีกทั้งยังใกล้กับสถานที่ราชการสำคัญๆ เช่น ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, กองทัพอากาศ, กรมป่าไม้ อีกทั้งยังพร้อมรองรับกับโครงการในอนาคต อาทิ รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายที่จะตัดกันที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และสนามบินดอนเมือง phase 3 จึงส่งผลให้ทำเลนี้กลายเป็นทำเลศักยภาพในอนาคต

" ดีมานด์ในพื้นที่ย่านสะพานใหม่นั้นเติบโตสูงเฉลี่ย 30% ต่อปี โดยในปี 2017 โตสูงถึง 77% นอกจากนี้พื้นที่บริเวณสะพานใหม่ยังมีราคาที่ดินที่เติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการศึกษาของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์พบว่า อัตราการเติบโตของราคาที่ดินเส้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ (คูคต-ลำลูกกา) เพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยถึงปีละ 61.3% ขณะที่ราคาขายต่อของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมาในย่านสะพานใหม่ก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ส่วนใหญ่สามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้น โดย Capital Gain อยู่ที่ 3% ต่อปี ขณะที่การปล่อยเช่าก็สามารถทำราคาได้ดีเช่นกัน โดยมีราคาค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 9,000 – 20,000 บาท โดย Yield อยู่ที่ 5%” นายปิติกล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 06/09/2020 2:53 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดแน่ ต.ค.นี้ “สกายวอล์ก” @ห้าแยกลาดพร้าว
*เดินออกกำลังกายขึ้นรถไฟฟ้า 2 สาย
*ลอยฟ้ามุดใต้ดินช้อปปิ้งสะดวกสบาย
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2701007373454097
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 05/10/2020 1:07 am    Post subject: Reply with quote

5 ต.ค.เปิดใช้สกายวอล์ก “ห้าแยกลาดพร้าว” ปตท.ทุ่ม 400 ล้านสร้างเชื่อม “BTS-MRT”
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 3 ตุลาคม 2563 เวลา 11:10 น.

Click on the image for full size
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคคต เปิดให้บริการ ทำให้ “สถานีห้าแยกลาดพร้าว” จุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีเขียว กลายเป็นหมุดหมายใหม่ของการเดินทาง เนื่องจากเป็นย่านมีแหล่งช็อปปิ้งชื่อดังอย่าง “เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว” และ “ยูเนียนมอลล์” ที่วันนี้มีทางเดินลอดฟ้าหรือSky Walk เชื่อมจากสถานีทะลุถึงประตูห้างกันเลยทีเดียว

ล่าสุด “วิทยา พันธุ์มงคล” รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า วันที่ 5 ต.ค.2563 เป็นต้นไป รฟม.จะเปิดให้บริการSky Walk ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีพหลโยธินกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีห้าแยกลาดพร้าว มีระยะทางประมาณ 300 เมตร

ด้านแหล่งข่าวจากบมจ.ปตท. เปิดเผยว่า ในเร็วๆนี้ปตท.จะเปิดตัวโครงการก่อสร้าง Sky Walk โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท สร้างเชื่อมจากสำนักงานใหญ่ปตท.ข้ามถนนวิภาวดี-รังสิตไปยังรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีน้ำเงิน ที่สถานีห้าแยกลาดพร้าวและสถานีพหลโยธิน


โดยแบ่งเป็น 2 โครงการ แยกเป็น
1.จะปรับปรุงสะพานทางเดินข้ามเดิมจากสำนักงานใหญ่ไปลงบริเวณโรงเรียนหอวัง และ
2.สร้างทางเดินจากด้านข้างสำนักงานใหญ่ ผ่านสำนักงานICAO ไปเชื่อมกับสะพานลอยเดิมที่จะปรับปรุงใหม่ไปลงบริเวณสวน และไปเชื่อมกับทางเดินเชื่อมระหว่างสายสีน้ำเงินและสายสีเขียวบริเวณห้าแยกลาดพร้าว

“เราปรับแบบใหม่ จึงทำให้โครงการล่าช้า จากเดิมจะสร้างเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากไม่ได้พื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งทางห้างเซ็นทรัลไม่ให้พื้นที่สร้างเป็นทางเดินลอยฟ้าตรงด้านข้างห้าง เพื่อไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว และบริเวณฝั่งโรงเรียนหอวังติดสายไฟฟ้าแรงสูง เราจึงต้องปรับแบบใหม่ เป็นระดับดินแทน จะเริ่มก่อสร้างภายในปีนี้ ใช้เวลา 1 ปี คาดว่าปลายปี 2564 จะแล้วเสร็จ”แหล่งข่าวกล่าว

เปิด 5 ต.ค.นี้! Skywalk เชื่อม MRT พหลโยธิน-BTS ห้าแยกลาดพร้าว
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 3 ตุลาคม 2563 เวลา 12:40



รฟม.พร้อมเปิดใช้ Skywalk ทางเดินเชื่อมรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธิน กับสายสีเขียว สถานีห้าแยกลาดพร้าว ตั้งแต่ 5 ต.ค.นี้ เพิ่มความสะดวกผู้โดยสาร

นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พร้อมด้วยผู้แทนจากบริษัทที่ปรึกษาโครงการ และบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต (สัญญาที่ 1) ตรวจติดตามงานก่อสร้างทางเชื่อม Skywalk ระหว่างรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) สถานีพหลโยธิน กับรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีห้าแยกลาดพร้าว มีระยะทางประมาณ 300 เมตร เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดใช้งาน

โดยมีกำหนดจะเปิดให้บริการประชาชนในวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเข้าถึงการใช้บริการขนส่งสาธารณะ
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 79, 80, 81 ... 100, 101, 102  Next
Page 80 of 102

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©