Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
Posted: 07/02/2017 11:35 am Post subject:
ปมหนี้ 6 หมื่นล้านสายสีเขียว "รฟม." ขย่ม "กทม." เปิดศึกชิงเดินรถ
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
updated: 07 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 08:00:20 น.
กำลังเป็นที่จับตารถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยาย "แบริ่ง-สมุทรปราการ" สร้างเชื่อมพื้นที่กรุงเทพฯกับชานเมือง 12.8 กม. ที่ปัจจุบันงานก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ จะซ้ำรอยรถไฟชานเมืองสายสีแดง "บางซื่อ-ตลิ่งชัน" ของ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" สร้างเสร็จมานานหลายปี ถึงขณะนี้ยังไม่เปิดบริการ แถมต้องเสียค่ารักษารางปีละหลาย 10 ล้านบาท
ถ้าหาก "กทม.-กรุงเทพมหานคร" ที่รับโอนโครงการต่อจาก "รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" หาเงินก้อนแรก 3,557.053 ล้านบาท มาชำระคืนให้ รฟม.ก่อนเดือน เม.ย.ไม่ได้ ทำให้ข้อตกลง (MOU) ที่เซ็นร่วมกันเป็นโมฆะ
ล่าสุด "กทม." รอไฟเขียวจากที่ประชุมสภาให้ดึงเงินสะสมมีอยู่กว่า 1 หมื่นล้านบาท จ่ายคืน รฟม. ยังไม่รู้สภา กทม.นัดวันที่ 8 ก.พ.นี้ ที่ประชุมจะโหวตโอเคหรือเซย์โน ในเมื่อ กทม.อยู่ในห้วงถังแตก หากรับหนี้รถไฟฟ้าเข้าไปอีก ต้องแบกหนี้ก้อนโตไปอีกหลาย 10 ปี
แหล่งข่าวจาก กทม.กล่าวว่า มติคณะกรรมการจัดการจราจรทางบก (คจร.) วันที่ 15 มี.ค. 2559 มอบสายสีเขียวต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ กับหมอชิต-คูคต ให้ กทม.เป็นผู้บริหาร เพื่อให้เดินรถต่อเนื่อง และเซ็น MOU วันที่ 28 มี.ค. 2559 โดย กทม.ต้องชำระค่าก่อสร้าง 60,860 ล้านบาท แทน รฟม.
ผลหารือร่วมกันจะเริ่มชำระหนี้สายสีเขียวแบริ่ง-สมุทรปราการ 21,400 ล้านบาท เป็นลำดับแรก เพราะงานก่อสร้างเสร็จแล้ว โดย รฟม.ให้ กทม.จ่ายค่าจัดกรรมสิทธิ์ สำรวจอสังหาริมทรัพย์ จ้างที่ปรึกษา พ.ร.บ.ร่วมทุน และที่ปรึกษาออกแบบให้ก่อนจะเริ่มโอนโครงการเม.ย.นี้
"ปัญหาคือ กทม.ไม่มีเงิน ต้องรอสภาโหวตรับเสียก่อนถึงจะมีเงินไปจ่าย รฟม. ตอนแรกจะประชุม 1 ก.พ. แต่องค์ประชุมไม่ครบเลื่อนเป็น 8 ก.พ.นี้ ตามแนวคิดของผู้ว่าฯ กทม. จะขอสภาดึงเงินสะสมชำระหนี้ส่วนนี้ก่อน เพื่อให้เริ่มทดสอบระบบเพื่อเปิดเดินรถ 1 สถานีจากแบริ่ง-สำโรงได้มี.ค.นี้" แหล่งข่าวกล่าวและว่า
ส่วนค่าก่อสร้าง 17,092.33 ล้านบาท จะรวมกับหนี้ช่วงหมอชิต-คูคตอีกกว่า 39,774 ล้านบาท ซึ่ง กทม.ขอตรวจสอบบัญชีรายการหนี้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม กทม.มีแนวทางเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณา คือ จะขอปลอดหนี้ 10 ปี และเริ่มผ่อนชำระหนี้ปี 2573 เพราะรถไฟฟ้าบีทีเอสที่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอสซี รับสัมปทานจะครบกำหนดปี 2572 ทรัพย์สินจะตกเป็นของ กทม. ซึ่งสามารถนำโครงการนี้ระดมเงินผ่านกองทุนอินฟราฟันด์และนำเงินมาชำระคืนให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) แทน รฟม.
"โครงการนี้เป็นรอยต่อของผู้ว่าฯ กทม.ชุดเก่ากับชุดใหม่ เป็นเงินก้อนโตกว่า 6 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังเป็นโครงการสร้างนอกเขตพื้นที่ กทม. ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการเหมาะสมหรือไม่ที่ กทม.จะนำภาษีของคนกรุงเทพฯไปใช้ลักษณะนี้ อยู่ที่สภา กทม.จะอนุมัติหรือไม่ แต่ฝ่ายบริหารจะอธิบายถึงความจำเป็นในการใช้เงิน"
ผลจากความล่าช้าของ กทม. กระทบชิ่งแผนทดลองเดินรถ 1 สถานี ต้องขยับจากเป้าวันที่ 1 มี.ค.นี้ออกไป และอาจจะขยายวงกว้างไปถึงแผนเปิดเดินรถตลอดเส้นทางด้วย เพราะหาก กทม.ยังยึกยัก-หาทางลงไม่ได้ อาจจะกลายเป็นปมดราม่าพิพาทกันยาว ซึ่งล่าสุดมีข่าวสะพัด "กระทรวงการคลัง" จะไม่รับแผนชำระหนี้ของ กทม. ที่ขอผ่อนชำระปี 2573
ขณะที่ "รฟม." เองกำลังหาจังหวะช่วงชิงโครงการกลับมาสู่อ้อมอกอีกครั้ง
"เปิดเดินรถ 1 สถานีจากแบริ่ง-สำโรง มี.ค.นี้ ไม่น่าจะดำเนินการได้ กว่า รฟม.จะตรวจรับงานเป็นวันที่ 6 ก.พ. และต้องทดสอบระบบอีก 3-6 เดือน ถึงจะเปิดได้" นายสุรเชษฐ์เหล่าพลสุข ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟม. ในฐานะผู้อำนวยการโครงการกล่าวและว่า
ส่วนการโอนโครงการให้ กทม. ขณะนี้รอสภา กทม.อนุมัติ หาก กทม.ไม่สามารถรับโอนสายสีเขียวได้ รฟม.พร้อมจะดำเนินการเอง โดยจะเสนอ คจร. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบให้ รฟม.บริหารโครงการแทน โดยจะเปิดประมูลให้เอกชนลงทุน PPP Fast Track ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน และจะเร่งขั้นตอนต่าง ๆ ให้เสร็จเพื่อเปิดเดินรถตลอดเส้นทางเดือน ธ.ค. 2561
ท่ามกลางการเปิดศึกระหว่าง "กทม.-รฟม." ที่กำลังระอุ ดูเหมือน "บีทีเอส" จะได้ประโยชน์ทั้งขึ้นทั้งล่อง เพราะไม่ว่าสุดท้ายหวยจะไปออกที่ใคร ยังไงสายสีเขียวต่อขยายไปสุดสายที่สมุทรปราการและคูคต ต้องประทับชื่อ "บีทีเอส" เป็นผู้เดินรถเท่านั้น
สอดคล้องแหล่งข่าวจาก รฟม.กล่าวว่า เพื่อเปิดเดินรถได้เร็ว หาก กทม.หาเงินไม่ได้ รฟม.จะเจรจาบีทีเอสติดตั้งระบบ ไม่ให้เกิดสุญญากาศเพราะงานโยธาเสร็จแล้ว ถ้าปล่อยเวลาให้ทอดออกไป รฟม.ต้องเสียงบประมาณปีละหลาย 10 ล้านบาท มาบำรุงรักษาโครงการอีก
ขณะที่ "มานิต เตชอภิโชค" กรรมการผู้อำนวยการ บจ.กรุงเทพธนาคม (KT) กล่าวว่า เดือน มิ.ย. 2559 เซ็นจ้างบีทีเอสติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและวางรางสายสีเขียวแบริ่ง-สมุทรปราการแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท ส่วนการจ้างเดินรถยังไม่ได้เซ็นสัญญา ตามแผนจะจ้างบีทีเอสเดินรถช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการกับหมอชิต-คูคต 25 ปี หมดสัญญาพร้อมกับบีทีเอสเดิมปี 2585 คิดเป็นค่าจ้างประมาณ 1 แสนล้านบาท โดย กทม.จะตั้งงบประมาณจ่ายเป็นรายปี
จากบทเรียนสาย "สีแดง-สีม่วง-สีน้ำเงิน" หวังว่าครั้งนี้ "รัฐบาล คสช." คงจะแก้ปมสายสีเขียวได้ทันเวลาและลงตัว
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
Posted: 07/02/2017 1:26 pm Post subject:
เร่งของบฯโอนรถไฟฟ้า ลุ้น!! มี.ค.เปิดใช้
ชงของบสภากทม. 3.5 พันล้าน 8 ก.พ.นี้ เร่งจ่ายค่าโอนรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้รฟม. ตั้งเป้า "แบริ่ง-สำโรง" เปิดใช้งานได้ มี.ค.
คมชัดลึก
8 กุมภาพันธ์ 2560
8 ก.พ. 60 - ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ประธานสภากรุงเทพมหานคร(กทม.) แจ้งว่า ในวันพุธที่ 8 ก.พ. เวลา 10.00 น. จะมีการประชุมสภากทม. สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 2 (ครั้งที่ 4) ประจำปีพ.ศ.2560 โดยที่ประชุมจะมีการพิจารณาญัตติขอความเห็นชอบให้ กทม. จ่ายขาดเงินสะสมกทม. จำนวน 3,200 ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามภารกิจและอำนาจหน้าที่ตามกฏหมาย เป็นการเร่งด่วน เนื่องจากได้รับการจัดสรรงบประมาณตามข้อบัญญัติ เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ไว้ไม่เพียงพอ นอกจากนี้จะมีญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 (ฉบับที่ ..) ขณะเดียวกันจะมีการรายงานผลการดำเนินการและขอความเห็นชอบในหลักการ ในการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ พร้อมขอจัดสรรงบประมาณด้วย
นายสุธน อาณากุล รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. กล่าวว่า ในการประชุมสภากทม.วันที่ 8 ก.พ.นี้ ฝ่ายบริหารกทม.จะเสนอหลักการและเหตุผล เพื่อขออนุมัติงบประมาณนำใช้จ่ายในการโอนให้ทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รวมจำนวน 3,557.053 ล้านบาท ซึ่งกทม.ต้องชำระ หลังจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ได้ชำระค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการไปแล้วในเบื้องต้น
แบ่งเป็น 1.ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 938.753 ล้านบาท 2.ค่าจ้างสำรวจอสังหาริมทรัพย์ 5.835 ล้านบาท 3.ค่าจ้างที่ปรึกษา พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2.494 ล้านบาท 4.ค่าจ้างที่ปรึกษาออกแบบและคัดเลือก 13.983 ล้านบาท 5.ค่าก่อสร้างงานโยธา 2,545.103 ล้านบาท 6.ค่าใช้จ่ายบุคลากร 50.655 ล้านบาท และ7.ภาษีบำรุงท้องที่ 0.230 แสนบาท เพื่อให้ทันในช่วงที่กำหนดไว้ไม่เกินเดือนมี.ค.
เร่งของบฯโอนรถไฟฟ้า ลุ้น!! มี.ค.เปิดใช้
นายสุธน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กทม.ยังต้องชำระ ต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมการกู้เงิน ค่าก่อสร้างงานโยธา คงเหลือของรัฐบาล ในการดำเนินโครงการ รวมจำนวน 17,538 ล้านบาท โดยเงินต้น 15,420 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1,886 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมการกู้เงิน 232 ล้านบาท
กทม.อยากจะให้เปิดใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ ให้เร็วที่สุด 1 สถานีแรกที่แล้วเสร็จ ช่วงแบริ่ง-สำโรง แต่หากยังไม่สามารถโอนได้ก็ต้องหารือกับรฟม.ว่าจะให้มีการเดินรถไปก่อนเพื่อประชาชนได้หรือไม่ แต่ทางรฟม.มีระเบียบว่าหากมีหน่วยงานอื่นมาใช้พื้นที่ของรฟม. ก็ต้องมีค่าเช่า ดังนั้นคงต้องพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน เพราะเป็นเรื่องการบริการให้ประชาชน อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดก็ต้องรอการอนุมัติจากสภากทม. เพราะการใช้จ่ายเงินต้องผ่านสภากทม. แต่ยังเชื่อว่าจะโอนแล้วเสร็จเพื่อจะเดินรถให้ทันในเดือนมี.ค. ก่อนที่สายสีเขียวใต้จะแล้วเสร็จทั้งระบบในปี 2561 รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. กล่าว
ด้านนายนิรันดร์ ประดิษฐกุล สมาชิกสภากทม. ในฐานะรองประธานสภากทม. กล่าวว่า หากฝ่ายบริการกทม.ต้องการดำเนินการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ก็ต้องนำข้อมูล หลักการและเหตุผล นำมาเสนอต่อที่ประชุมสภากทม.ให้รับทราบ เพื่อขอความเห็นชอบอนุมัติงบประมาณ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก สภากทม.ก็ต้องรับทราบรายละเอียดของโครงการ ว่าจะต้องมีงบประมาณผูกพันเป็นอย่างไร เพื่อจะได้เตรียมแผนการใช้งบประมาณของกทม.ในปีต่อไปได้ โดยไม่กระทบกับการใช้จ่ายในโครงการอื่นๆ
ทางออกเรื่องนี้ต้องทำให้ถูกกฎหมายรองรับไว้ ฝ่ายบริหารจะต้องมาชี้แจงทั้งหมด ไม่ใช่แค่เส้นทางแบริ่ง-สมุทรปราการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเปิดเผยว่ากทม.ต้องมีงบประมาณผูกพันด้านใดอีกหรือไม่ นายนิรันดร์ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับภาระทางการเงินของกทม. จากการรับมอบดำเนินโครงการรวมทั้งสิ้น 84,517.72 ล้านบาท แบ่งเป็น มูลค่างานโครงสร้างพื้นฐาน 60,815.72 ล้านบาท ซึ่งกทม.ต้องชำระคืนให้กระทรวงการคลัง และ มูลค่างานติดตั้งระบบเดินรถ 23,702 ล้านบาท ซึ่งกทม.เป็นผู้ดำเนินการเอง โดยในเส้นทางแบริ่ง-สมุทรปราการ มูลค่างานโครงสร้างพื้นฐาน 21,085.47 ล้านบาท มูลค่างานติดตั้งระบบเดินรถ 8,895 ล้านบาท ส่วนเส้นทางหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต มูลค่างานโครงสร้างพื้นฐาน 39,730.25 ล้านบาท มูลค่างานติดตั้งระบบเดินรถ 14,807 ล้านบาท
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
Posted: 08/02/2017 5:08 pm Post subject:
13.10 น. "อัศวิน" ยืนยันกทม.จะบริหารรถไฟฟ้าสายสีเขียว เตรียมหาผู้ร่วมทุนดำเนินการโครงการร่วม ยันเดินรถแบริ่ง-สำโรงปีนี้แน่
https://twitter.com/tanatpong_nna/status/829210848644177921
ผู้ว่าฯ กทม. ยืนยัน ให้บริการรถไฟฟ้า แบริ่ง-สำโรง ภายในปีนี้ พร้อมเปิดเผยว่า กทม.อาจรับรฟฟ.สีเขียวดำเนินกิจการเอง โดยให้ BTS เป็นผู้ลงทุน
https://twitter.com/tonkumchoke/status/829213531346235393?s=04
ชงของบสภากทม. เร่งจ่ายค่าโอนรถไฟฟ้า
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 07 กุมภาพันธ์ 2560, 11:26
ชงของบสภากทม. 3.5 พันล้าน 8 ก.พ.นี้ เร่งจ่ายค่าโอนให้รฟม. รถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ ตั้งเป้าเปิดใช้งานได้มี.ค.
ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ประธานสภากรุงเทพมหานคร(กทม.) แจ้งว่า ในวันพุธที่ 8 ก.พ. เวลา 10.00 น. จะมีการประชุมสภากทม. สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 2 (ครั้งที่ 4) ประจำปีพ.ศ.2560 โดยที่ประชุมจะมีการพิจารณาญัตติขอความเห็นชอบให้ กทม. จ่ายขาดเงินสะสมกทม. จำนวน 3,200 ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามภารกิจและอำนาจหน้าที่ตามกฏหมาย เป็นการเร่งด่วน เนื่องจากได้รับการจัดสรรงบประมาณตามข้อบัญญัติ เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ไว้ไม่เพียงพอ นอกจากนี้จะมีญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 (ฉบับที่..) ขณะเดียวกันจะมีการรายงานผลการดำเนินการและขอความเห็นชอบในหลักการ ในการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ พร้อมขอจัดสรรงบประมาณด้วย
นายสุธน อาณากุล รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. กล่าวว่า ในการประชุมสภากทม.วันที่ 8 ก.พ.นี้ ฝ่ายบริหารกทม.จะเสนอหลักการและเหตุผล เพื่อขออนุมัติงบประมาณนำใช้จ่ายในการโอนให้ทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รวมจำนวน 3,557.053 ล้านบาท ซึ่งกทม.ต้องชำระ หลังจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ได้ชำระค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการไปแล้วในเบื้องต้น
แบ่งเป็น 1.ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 938.753 ล้านบาท 2.ค่าจ้างสำรวจอสังหาริมทรัพย์ 5.835 ล้านบาท 3.ค่าจ้างที่ปรึกษา พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2.494 ล้านบาท 4.ค่าจ้างที่ปรึกษาออกแบบและคัดเลือก13.983 ล้านบาท 5.ค่าก่อสร้างงานโยธา 2,545.103 ล้านบาท 6.ค่าใช้จ่ายบุคลากร 50.655 ล้านบาท และ7.ภาษีบำรุงท้องที่ 0.230 แสนบาท เพื่อให้ทันในช่วงที่กำหนดไว้ไม่เกินเดือนมี.ค.
นายสุธน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กทม.ยังต้องชำระ ต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมการกู้เงิน ค่าก่อสร้างงานโยธา คงเหลือของรัฐบาล ในการดำเนินโครงการ รวมจำนวน 17,538 ล้านบาท โดยเงินต้น 15,420 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1,886 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมการกู้เงิน 232 ล้านบาท
กทม.อยากจะให้เปิดใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ ให้เร็วที่สุด 1 สถานีแรกที่แล้วเสร็จ ช่วงแบริ่ง-สำโรง แต่หากยังไม่สามารถโอนได้ก็ต้องหารือกับรฟม.ว่าจะให้มีการเดินรถไปก่อนเพื่อประชาชนได้หรือไม่ แต่ทางรฟม.มีระเบียบว่าหากมีหน่วยงานอื่นมาใช้พื้นที่ของรฟม. ก็ต้องมีค่าเช่า ดังนั้นคงต้องพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน เพราะเป็นเรื่องการบริการให้ประชาชน อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดก็ต้องรอการอนุมัติจากสภากทม. เพราะการใช้จ่ายเงินต้องผ่านสภากทม. แต่ยังเชื่อว่าจะโอนแล้วเสร็จเพื่อจะเดินรถให้ทันในเดือนมี.ค. ก่อนที่สายสีเขียวใต้จะแล้วเสร็จทั้งระบบในปี 2561 รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. กล่าว
ด้านนายนิรันดร์ ประดิษฐกุล สมาชิกสภากทม. ในฐานะรองประธานสภากทม. กล่าวว่า หากฝ่ายบริการกทม.ต้องการดำเนินการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ก็ต้องนำข้อมูล หลักการและเหตุผล นำมาเสนอต่อที่ประชุมสภากทม.ให้รับทราบ เพื่อขอความเห็นชอบอนุมัติงบประมาณ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก สภากทม.ก็ต้องรับทราบรายละเอียดของโครงการ ว่าจะต้องมีงบประมาณผูกพันเป็นอย่างไร เพื่อจะได้เตรียมแผนการใช้งบประมาณของกทม.ในปีต่อไปได้ โดยไม่กระทบกับการใช้จ่ายในโครงการอื่นๆ
ทางออกเรื่องนี้ต้องทำให้ถูกกฎหมายรองรับไว้ ฝ่ายบริหารจะต้องมาชี้แจงทั้งหมด ไม่ใช่แค่เส้นทางแบริ่ง-สมุทรปราการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเปิดเผยว่ากทม.ต้องมีงบประมาณผูกพันด้านใดอีกหรือไม่ นายนิรันดร์ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับภาระทางการเงินของกทม. จากการรับมอบดำเนินโครงการรวมทั้งสิ้น 84,517.72 ล้านบาท แบ่งเป็น มูลค่างานโครงสร้างพื้นฐาน 60,815.72 ล้านบาท ซึ่งกทม.ต้องชำระคืนให้กระทรวงการคลัง และ มูลค่างานติดตั้งระบบเดินรถ 23,702 ล้านบาท ซึ่งกทม.เป็นผู้ดำเนินการเอง โดยในเส้นทางแบริ่ง-สมุทรปราการ มูลค่างานโครงสร้างพื้นฐาน 21,085.47 ล้านบาท มูลค่างานติดตั้งระบบเดินรถ 8,895 ล้านบาท ส่วนเส้นทางหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต มูลค่างานโครงสร้างพื้นฐาน 39,730.25 ล้านบาท มูลค่างานติดตั้งระบบเดินรถ 14,807 ล้านบาท
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 15/02/2017 10:44 am Post subject:
กทม.โล่งคจร.ไฟเขียว เดินรถแบริ่ง-สำโรง
โดย ฐานเศรษฐกิจ - 15 February 2560
คจร.ไฟเขียวให้กทม.เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ แทนรฟม. ยังมีลุ้นเดินรถทัน มี.ค.นี้เชื่อมแบริ่ง-สำโรง 1 สถานี
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) ซึ่งมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า ที่ประชุมได้มีมติให้เปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จำนวน 1 ช่วงสถานีในวันที่ 1 มีนาคมนี้ตามเดิม คือจากสถานีแบริ่ง สำโรง ส่วนในระยะแรกจะเป็นให้เช่าหรือเปิดให้บริการฟรีก็ให้ทางกรุงเทพมหานคร(กทม.)และทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)ไปตกลงแนวทางเดินรถร่วมกัน รวมถึงการโอนทรัพย์สินในส่วนของสถานีที่เหลือของโครงการ
โดยที่ประชุมยังได้รับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกระทรวงคมนาคม รฟม. และ กทม. ในการมอบหมายให้กทม.เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และเห็นชอบในหลักการโอนหนี้สินและทรัพย์สินโครงการ รวมทั้งมอบหมายกระทรวงคมนาคมรายงานผลการดำเนินงานให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) ทราบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
หากต้องมีการโอนย้ายทรัพย์สินรถไฟฟ้าเส้นทางนี้จริงทางกทม.ต้องจ่ายเงินเพื่อชำระหนี้ให้กับรฟม. 3,500 ล้านบาท ส่วนอีก 1.75 หมื่นล้านบาทที่เหลือให้ไปตกลงกับกระทรวงการคลัง นอกจากนั้นคจร.ยังให้ร่วมกันกลับไปพิจารณาการโอนทรัพย์สินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงต่อขยายจากสมุทรปราการ-บางปูและคูคต-ลำลูกกา ในอนาคตด้วยว่ากทม.มีศักยภาพในการรองรับโครงการหรือไม่
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,235 วันที่ 12 15 กุมภาพันธ์ 2560
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 20/02/2017 6:14 pm Post subject:
'คนร.' เคาะกทม.คุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว 'เหนือ-ใต้'
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560, 15:18
"คนร." เคาะกทม.คุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว "เหนือ-ใต้" เล็งชำระเงินค่าติดตั้งระบบเดินรถ 2.3 หมื่นล้านล็อตแรกปี 63
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ได้หารือกับ บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (มหาชน) (เคที) ในฐานะวิสาหกิจ กทม. และสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. ในการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ซึ่งมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมมีมติให้กทม. เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โดยได้มอบหมายให้เคที ไปดำเนินการหาผู้ดำเนินการ เดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จากนั้นให้ผู้ดำเนินการเดินรถ รับภาระทางการเงิน จากการรับมอบดำเนินทั้ง 2 โครงการรวมทั้งสิ้น 84,517.72 ล้านบาทไปก่อน เนื่องจากกทม.ไม่มีงบประมาณในการรับโอน อีกทั้งงบประมาณโครงการนี้มีจำนวนมาก สภากรุงเทพมหานคร ไม่สบายใจที่จะต้องอนุมัติงบประมาณจำนวนมาก จากนั้นกทม.จึงจะเริ่มทยอยจ่ายในปี 2572 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน จะเร่งให้เปิดใช้บริการภายในปีนี้
ด้านนายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (มหาชน)(เคที) กล่าวว่า ผู้ที่จะดำเนินการเดินรถ คือ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัดมหาชน (บีทีเอสซี) เพราะบีทีเอสซี ได้เข้ามาดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลการเดินรถไว้แล้ว หลังจากที่นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯกทม. ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าฯ กทม.ในขณะนั้น ได้เห็นชอบและมอบหมายให้เคที เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ รวมทั้งจัดการติดตั้งระบบเดินรถเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2559 โดยมูลค่างานติดตั้งระบบเดินรถ ใน 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางแบริ่ง-สมุทรปราการ จำนวน 8,895 ล้านบาท เส้นทางหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จำนวน 14,807 ล้านบาท รวม 23,702 ล้านบาท เคทีจะชำระให้ภายใน 4 ปี หลังจากลงนาม หรือภายในปี 2563
นายมานิต กล่าวต่อว่า ส่วนมูลค่างานโครงสร้างพื้นฐานใน 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางแบริ่ง-สมุทรปราการ จำนวน 21,085.47 ล้านบาท เส้นทางหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จำนวน 39,730.25 ล้านบาท รวมเป็น 60,815.72 ล้านบาทนั้น เคที จะชำระให้ในปี 2572 เป็นต้นไป ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการให้กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รวมจำนวน 3,557.053 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 938.753 ล้านบาท 2.ค่าจ้างสำรวจอสังหาริมทรัพย์ 5.835 ล้านบาท 3.ค่าจ้างที่ปรึกษา พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2.494 ล้านบาท 4.ค่าจ้างที่ปรึกษาออกแบบและคัดเลือก 13.983 ล้านบาท 5.ค่าก่อสร้างงานโยธา 2,545.103 ล้านบาท 6.ค่าใช้จ่ายบุคลากร 50.655 ล้านบาท และ7.ภาษีบำรุงท้องที่ 0.230 แสนบาทนั้น ผู้ว่าฯกทม. ได้ตั้งคณะทำงานต่อรองค่าใช้จ่ายดังกล่าว อย่างไรก็ตามยืนยันว่าเคที จะชำระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้อย่างแน่นอน แต่ต้องขอเวลาไปพิจารณาในรายละเอียดดังกล่าวก่อน
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 27/02/2017 11:11 pm Post subject:
รฟม.ปิดช่องจราจรพหลโยธิน
เดลินิวส์ จันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 17.20 น.
รฟม.เผยอิตาเลียนไทยฯเตรียมยกชิ้นส่วนงานสถานี-ทางวิ่งรถไฟฟ้า 1มี.ค.-31 มี.ค. ตั้งแต่ 22.00-05.00 น. ถนนพหลโยธิน วอนประชาชนหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางหวั่นจราจรติดขัด
รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต สะพานใหม่ คูคต สัญญาที่ 1 จะดำเนินการยกชิ้นส่วนงานสถานีและงานทางวิ่งรถไฟฟ้า จึงมีความจำเป็นต้องเบี่ยงการจราจรบนถนนพหลโยธิน ในวันที่ 1 มี.ค.- 31 มีนาคม 2560 เวลา 22.00 05.00 น. ตั้งแต่บริเวณปากซอยพหลโยธิน 21 ถึง โรงพยาบาลสัตว์ม.เกษตรศาสตร์ จะทำการเบี่ยงช่องทางการจราจรบนถนนพหลโยธินทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกเพิ่ม (ชิดเกาะกลาง) ฝั่งละ 1 ช่องทาง ทำให้มีช่องทางทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกคงเหลือ 1 ช่องทาง ส่วนบริเวณปากซอยพหลโยธิน 45 ถึง ถาวรวิลล่า จะทำการเบี่ยงช่องทางการจราจรบนถนนพหลโยธินทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกเพิ่ม (ชิดเกาะกลาง) ฝั่งละ 1 ช่องทาง ทำให้มีช่องทางทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกคงเหลือ 1 ช่องทาง
นอกจากนี้ดำเนินการบริเวณปากซอยพหลโยธิน 57 ถึง ตลาดยิ่งเจริญ จะทำการเบี่ยงช่องทางการจราจรบนถนนพหลโยธินทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกเพิ่ม (ชิดเกาะกลาง) ฝั่งละ 1 ช่องทาง ทำให้มีช่องทางฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกคงเหลือฝั่งละ 1 ช่องทาง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางและอาจจะมีเสียงดังรบกวนและหากไม่มีความจำเป็น โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 08/03/2017 10:21 pm Post subject:
เคาะแล้ว! เปิดหวูดรถไฟฟ้าสีเขียวแบริ่ง-สำโรง 1 เม.ย.นี้
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 08 มี.ค. 2560 เวลา 19:20:38 น.
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. เมื่อวันที่ 8 มี.ค.60 เห็นชอบให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ดำเนินการเดินรถ 1 สถานี (แบริ่ง-สำโรง) ตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เมื่อวันที่ 9 ก.พ.60 ซึ่ง กทม. และ รฟม.จะต้องหารือในรายละเอียดการเช่า บำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานของสถานีต่อไป
โดย กทม.มีสิทธิในการเดินรถเท่านั้น ไม่สามารถทำการพาณิชย์ในสถานีได้ เบื้องต้นคาดว่า กทม.จะทำการเปิดเดินรถ 1 สถานี ในวันที่ 1 เม.ย.60 ระหว่างนี้ในระยะยาวจะต้องเจรจาในการโอนสินทรัพย์และหนี้ของสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สำโรง) ด้วย
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 14/03/2017 7:29 pm Post subject:
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ศาลาว่าการ กทม.นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธุ์ รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือร่วมระหว่าง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กับ พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานบอร์ด และคณะผู้บริหาร รฟม. เรื่องการเตรียมความพร้อมเปิดทดลองเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จำนวน 1 สถานี จากสถานีแบริ่งมายังสถานีสำโรงว่า ที่ประชุมพิจารณาเรื่องกำหนดการที่จะเปิดทดลองเดินรถ 1 สถานี เบื้องต้นกำหนดไว้ประมาณวันที่ 1 เม.ย.นี้ ซึ่งตรงกับวันหยุด อาจจะไม่สะดวก จึงได้เสนอให้เลื่อนเป็นวันที่ 3 เม.ย. ในส่วนพิธีการนั้น ที่ประชุมเห็นชอบเรียนเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดการทดลองครั้งนี้ เพื่อเป็นเกียรติกับโครงการรถไฟฟ้าสายแรกที่เชื่อมกรุงเทพฯกับสมุทรปราการ
นายทวีศักดิ์กล่าวว่า สำหรับเรื่องการโอนทรัพย์สินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จาก รฟม.ให้ กทม.นั้น วันนี้ไม่ได้เจรจาเพราะก่อนหน้านี้ได้เจรจาและเห็นชอบหลักการไปเรียบร้อย เพียงแต่ รฟม.ได้แจ้งเพิ่มเติมเรื่องการขอคิดค่าเช่าใช้พื้นที่รางและสถานีสำโรง ระหว่างรอเรื่องการโอนจะเสร็จสิ้น มีการเสนอตัวเลขค่าเช่า โดยคิดจากค่าเสื่อมราคา ซึ่งเป็นการเสนอตามหลักการ เนื่องจากทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของ รฟม.ยังไม่มีการส่งมอบพื้นที่ให้ กทม. หากให้ กทม.เข้าไปใช้พื้นที่โดยไม่มีเอกสารรับรอง รฟม. อาจจะมีผลทางด้านข้อกฎหมาย ทาง กทม.รับทราบ แต่ยังไม่ได้ตกลงเพราะต้องนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนของ กทม.ด้วย ซึ่งขณะนี้กระบวนการของ กทม. อยู่ระหว่างเสนอผ่านกระทรวงมหาดไทย เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณางบประมาณ สนับสนุนรับโอนรถไฟฟ้าสายสีเขียวเต็มวงเงินโครงการประมาณ 60,000 ล้านบาท หากคณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่เสนอทุกอย่างก็จบลง ส่วนเงินงวดแรกที่จะต้องจ่ายให้ รฟม.ก่อน 3,500 ล้านบาท ซึ่งรวมอยู่ในงบประมาณโครงการ หรือค่าเช่ารายเดือนที่ รฟม.เสนอก็ยุติไปโดยปริยาย.
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group