Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 24/12/2012 10:21 am Post subject:
รถไฟสายสีเขียว ประมูล 2.6 หมื่นล้าน
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 23 ธันวาคม 2555 23:11 น.
บอร์ดรฟม.เคาะประมูล 4 สัญญา สร้างรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม (หมอชิต-คูคต) 2.65 หมื่นล. ชงครม.หวังขายซองต้นปี56 พร้อมเดินหน้าแผนจัดการหนี้เงินเยน 8 หมื่นล. CFO เผย ตกลงร่วมสบน.ใช้ 2 รูปแบบ สว๊อปและรีไฟแนนซ์ เชื่อใน 2 ปีการเงินมั่นคงลดขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน เตรียมรีไฟแนนซ์ก้อนแรก หมื่นล.
นางสาวรัชนี ตรีพิพัฒน์กุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด)การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดรฟม. เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม มีมติเห็นชอบการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ระยะทาง 19.5 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 26,569 ล้านบาท โดยแบ่งงานเป็น 4 สัญญา ประกอบด้วย
1 สัญญาก่อสร้างช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 12 กิโลเมตรวงเงิน 14,207ล้านบาท
2 สัญญาก่อสร้างช่วงสะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 7.5 กิโลเมตร วงเงิน 6,115 ล้านบาท
3. สัญญาก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและพื้นที่จอดรถไฟฟ้า (Depo)วงเงิน 3,638 ล้านบาท และ
4. สัญญาระบบราง วงเงิน 2,609 ล้านบาท โดยจะส่งเรื่องไปกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติประกวดราคาในต้นปี 2556
ส่วนปัญหาการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนนั้น ขณะนี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน (CFO) ของ รฟม.อยู่ระหว่างทำแผนบริหารความเสี่ยงหนี้เงินกู้สกุลเยน กว่า 80,000 ล้านบาท พร้อมทั้งแผนเพิ่มรายได้ ซึ่งปี 2554 รฟม.ประสบกับการขาดทุนสะสมถึง 35,066 ล้านบาท โดยขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนถึง 10,000 ล้านบาท ส่วนในปี 2555 (ต.ค.54-ก.ย.55) ขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 35,711ล้านบาทซึ่งค่าเงินเยนผันผวนตลอดเวลา ในขณะที่หน้าที่หลักของ รฟม.คือการก่อสร้างรถไฟฟ้า 6 สายให้เป็นไปตามแผนงาน จึงต้องแก้ความเสี่ยงเงินกู้ในระยะยาวเพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินงาน โดยมีเป้าหมายว่าจะต้องสร้างรายได้เพิ่มและทำให้ผลประกอบการมีกำไรต่อไปโดยตั้งเป้าว่าสุดท้าย รฟม.จะต้องมีกำไร เนื่อง จากที่ผ่านมา รฟม.ไม่มีผู้รับผิดชอบด้านนี้โดยตรงและเน้นแต่เรื่องการก่อสร้างระบบรางให้เป็นไปตามแผนของรัฐบาล
ด้านนายธนสาร สุรวุฒิกุล CFO รฟม.กล่าวว่า ทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)ได้แนะวิธีบริหารความเสี่ยงหนี้เงินกู้สกุลเยนที่รฟม.กู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) 2 รูปแบบ คือ
1. วงเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ 0.75% ประมาณ 70,000 ล้านบาท จะทำการ Cross Currency Swap หรือ การตกลงกับธนาคารภายในประเทศเข้ามาบริหารหนี้ให้ซึ่งจะทำให้เงินกู้ส่วนหนี้สว๊อปเป็นเงินบาท โดยธนาคารเป็นผู้บริหารจัดการ มีข้อดีเพราะจะลดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนลง โดยจะทยอยปรับตามภาวะตลาดที่เหมาะสม
2. วงเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง 2.7% ประมาณ 10,000 ล้านบาท จะรีไฟแนนซ์โดยสบน.จัดหาแหล่งเงินในประเทศมาใช้คืนไจก้าทั้งหมดคาดว่าจะดำเนินการได้ในไตรมาสที่ 2ของปี 2556 โดยภายใน 2 ปีนี้เชื่อว่าภาวะทางการเงินของรฟม.จะไม่มีความเสี่ยงและมีความมั่นคงมากขึ้นเนื่องจากหลังจากนี้จะใช้เงินกู้ในประเทศก่อสร้างรถไฟฟ้าเป็นหลัก
ทั้งนี้ ในปี 2554 รฟม.ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 9,187 ล้านบาท ส่งผลให้มีรายจ่ายรวมถึง 11,827 ล้าน ขณะที่มีรายได้รวม 554 ล้านบาท บาท จึงต้องขาดทุนกว่า 12,000 ล้านบาท ส่วนปี 2555 เงินเยนอ่อนค่า ทำให้รฟม.มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 8,000 ล้านบาทส่งผลให้มีรายได้รวม 8,500 ล้านบาท รายจ่าย9,200 ล้านบาท จึงขาดทุนเพียง 674 ล้านบาท
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
Posted: 04/01/2013 7:20 pm Post subject:
คมนาคมเตรียมเจรจากับรถไฟฟ้า BTS รับบริหารช่วงเส้นทางหมอชิต-คูคต
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
4 มกราคม 2556 เวลา 18:15:44 น.
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เตรียมเจรจากับผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อมาทำหน้าที่ให้บริการเดินรถไฟฟ้าช่วงต่อขยายในเส้นทางหมอชิต-คูคต โดยหากมีผู้ให้บริการรายเดียวกันจะช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเจราจา คือ ศึกษารายละเอียดสัญญาสัมปทานเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสว่าหน่วยงานใดเป็นเจ้าของขบวนรถไฟฟ้าที่ให้บริการระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) หรือ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) เพื่อจะได้เจรจาให้ถูกต้อง
"ขณะนี้ต้องเริ่มคิดหาผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-คูคตได้แล้ว ซึ่งแนวทางจะเจรจากับผู้ให้บริการเดินรถเส้นทางเดิมที่ต่อเชื่อมก่อน เพราะต้นทุนจะต่ำกว่าผู้ให้บริการรายใหม่ เนื่องจากสามารถใช้ประโยชน์ศูนย์ซ่อมบำรุงร่วมกันได้ แต่งานโยธาสายสีเขียวช่วงหมอชิต-คูคต ก็ยังต้องมีงานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง เพื่อเป็นอำนาจต่อรองในการเจรจากับผู้ให้บริการเดินไฟฟ้ารายเดิม" นายชัชชาติกล่าว
ส่วนกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาผู้บริหาร กทม., ผู้บริหารบริษัท กรุงเทพธนาคม (KT) และผู้บริหาร BTSC กรณีทำสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าบีทีเอสโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นเป็นคนละส่วนกัน และการเจรจาไม่จำเป็นต้องรอให้คดีฟ้องร้องยุติ
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 08/01/2013 4:59 pm Post subject:
เตรียมทุบสะพานรัชโยธิน-เกษตรฯ ทำรถไฟฟ้าสายสีเขียวปลายปี 56 นี้
เดลินิวส์ วันอังคารที่ 8 มกราคม 2556 เวลา 08:50 น.
นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา เปิดเผยว่า จากที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงหมอชิตสะพานใหม่ ซึ่งในแนวเส้นทางที่จะก่อสร้างยกระดับไปบนถนนพหลโยธิน จากจุดสิ้นสุดบีทีเอสปัจจุบันที่สถานีหมอชิตไปจนถึงสะพานใหม่นั้น จะมีการรื้อสะพานข้ามแยกในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร (กทม.) 2 แห่ง คือ สะพานข้ามแยกรัชโยธิน และสะพานข้ามแยกเกษตร โดยในระดับเจ้าหน้าที่คาดว่ามีการประสานงานเบื้องต้นบ้างแล้ว โดยสะพานทั้ง 2 แห่ง หาก รฟม. จะสร้างโครงสร้างรถไฟฟ้า โดยต้องรื้อโครงสร้างสะพานของ กทม. ออก ตามหลักการแล้ว รฟม. ก็ต้องรับผิดชอบค่ารื้อถอนสะพานรวมทั้งก่อสร้างทดแทนของเดิมคืนให้ กทม. โดยจะพยายามประสานให้มีการก่อสร้างคืนให้ได้จำนวนช่องจราจรกลับมาเท่าเดิม ซึ่งในส่วนของสะพานข้ามแยกรัชโยธินจะก่อสร้างเป็นอุโมงค์ทดแทนสะพานข้ามทางแยก เพื่อระบายจราจรในแนววงแหวนรัชดาภิเษกเช่นเดิม ขาไปและกลับด้านละ 2 ช่องจราจร ส่วนของสะพานข้ามแยกเกษตรนั้นเนื่องจากผิวการจราจรมีจำกัดและต้องใช้พื้นที่ในการก่อสร้างเสาตอม่อของโครงสร้างรถไฟฟ้า อาจจะสร้างกลับคืนมาใหม่เหลือเพียง 2 ช่องจราจร จากจำนวนผิวการจราจรบนสะพานเดิมที่มี 3 ช่องจราจร โดยจะมีการประชุมรายละเอียดร่วมกันก่อนเริ่มดำเนินการ รวมทั้งแผนการจัดการจราจรในช่วงการก่อสร้างที่ต้องมีหลายหน่วยงานวางแผนร่วมกันเนื่อง จากในแนวเส้นทางดังกล่าวปริมาณการจราจรหนาแน่นคับคั่ง
ทั้งนี้สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต-สะพานใหม่ ก่อสร้างเป็นทางยกระดับตลอดสายระยะทาง 12 กิโลเมตร จากสถานีหมอชิตปัจจุบัน ตรงไปตามแนวถนนพหลโยธิน ข้ามทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ผ่านแยกรัชโยธิน แยกเกษตรศาสตร์ ไปจนถึงซอยพหลโยธิน 55 เบี่ยงออกทางด้านซ้ายของอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ แล้วเบี่ยงกลับเข้าเกาะกลางถนนพหลโยธิน สิ้นสุดหน้าตลาดสะพานใหม่ มี 12 สถานี คาดว่าจะประกาศประกวดราคาและเริ่มการก่อสร้างได้ปลายปีนี้.
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
Posted: 22/01/2013 2:56 am Post subject:
CKจ่อเซ็นสีเขียวสัญญา2เดือนนี้ ยอมลดค่าก่อสร้างลงอีก2%จากราคากลาง
ข่าวหุ้น
21 มกราคม 2556 04:08:35
CK จ่อเซ็นสัญญา 2 สีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการในเดือนหน้า หลังล่าสุดกรรมการประกวดราคาเจรจาสำเร็จขอดั๊มค่าก่อสร้างลงอีก 2% จากราคากลาง 2,406.67 ล้านบาท จ่อชงบอร์ดพิจารณา 24 ม.ค.นี้
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ เปิดเผยว่า สำหรับสัญญา 2 (ระบบราง) ที่บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เสนอราคาต่ำสุดนั้น ขณะนี้คณะกรรมการประกวดราคาได้สรุปผลการประกวดราคาแล้ว โดยมีมติให้ CK เป็นผู้รับงาน
นอกจากนี้คณะกรรมการประกวดราคาได้เจรจากับ CK และสามารถปรับลดค่าก่อสร้างลงมาได้อีกประมาณ 2% จากราคากลาง 2,406,666,819 บาท ขณะ CK เสนอราคาเริ่มต้นที่ 2,465,006,800 บาท โดยรฟม.จะเสนอผลการประกวดราคาต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ที่มีนางสาวรัชนี ตรีพิพัฒน์กุล เป็นประธานในการประชุมวันที่ 24 มกราคมนี้ ส่วนการลงนามในสัญญานั้น คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยล่าสุด รฟม.ได้ส่งร่างสัญญาไปให้อัยการตรวจสอบตามขั้นตอนแล้ว และเชื่อว่าไม่มีปัญหา หรือข้อท้วงติงเพิ่มเติม
สำหรับสัญญา 2 สีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ กรรมการประกวดราคาสรุปผลแล้วว่า CK ได้รับงาน และเราได้ต่อรองราคาลงมาอีกประมาณ 2% จากราคากลาง โดยเราจะเสนอบอร์ดวันที่ 24 ม.ค.นี้ ส่วนเรื่องสัญญา เรากำลังส่งให้อัยการตรวจสอบร่างสัญญาตามขั้นตอนอยู่ คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เชื่อว่าจะเซ็นได้ในเดือนกุมภาพันธ์นี้แน่นอน นายพีระยุทธ กล่าว
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
Posted: 26/01/2013 12:09 am Post subject:
CK จ่อเซ็นสีเขียวก.พ.นี้ หั่นราคาเหลือ2.4พันล.
ข่าวหน้า 1
ข่าวหุ้น
25 มกราคม 2556
บอร์ดรฟม.ไฟเขียว CK รับงานสัญญา 2 สีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ ยอมหั่นราคาเหลือ 2.4 พันล้าน มั่นใจเดือนหน้าได้เซ็นสัญญา ขณะวานนี้ CK เปิดเดินเครื่องหัวเจาะสร้างอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาส่วนต่อขยายสีน้ำเงิน นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.
ที่มีนางสาวรัชนี ตรีพิพัฒน์กุล เป็นประธาน วานนี้ (24 ม.ค.) ได้มีมติเห็นชอบผลการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ สัญญา 2 (ระบบราง) โดยบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เป็นผู้รับงานวงเงิน 2,400 ล้านบาท ซึ่งลดจากที่ CK เสนอมาครั้งแรกที่ 2,465,006,800 บาท
โดยจากนี้ รฟม.จะนำส่งให้กระทรวงคมนาคม เพื่อรายงานให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ ก่อนลงนามในสัญญากับผู้รับงาน ซึ่งคาดว่าจะลงนามได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เมื่อวานบอร์ดได้เห็นชอบผลประมูลสัญญา 2 สีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการแล้ว และเราจะรีบส่งกระทรวงคมนาคมเพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.เพื่อรับทราบแล้ว เราจะนัดเซ็นสัญญากับ CK คิดว่าเดือนหน้าคงได้เซ็นแน่นอน นายยงสิทธิ์ กล่าว
นายยงสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการที่จะดำเนินการต่อจากนี้ คือ สายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 19.5 กิโลเมตร วงเงิน 26,569 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 4 สัญญา คือ สัญญาที่ 1 งานโยธา ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ วงเงิน 14,207 ล้านบาท สัญญาที่ 2 งานโยธา ช่วงสะพานใหม่-คูคต วงเงิน 6,115 ล้านบาท สัญญาที่ 3 งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถ วงเงิน 3,638 ล้านบาท และสัญญาที่ 4 ระบบราง วงเงิน 2,609 ล้านบาท
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
Posted: 28/01/2013 9:32 am Post subject: ข่าวเก่า
เปิดโมเดลรถไฟฟ้าสะพานใหม่-ลำลูกกา
ยืดเส้นทางถึงคลอง 5
Thai Contractors
เปิดโมเดลรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ′สะพานใหม่-ลำลูกกา′ ของสนข. ใช้งบฯ เกือบ 2.4 หมื่นล้าน โครงสร้างทางยกระดับ ยืดเส้นทางถึงคลอง5 คาดแล้วเสร็จปี 2555
แม้โครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มช่วงสะพานใหม่-ลำลูกกา จะไม่ใช่เส้นทางใหม่แกะกล่องเพราะโครงการนี้เดิมกรุงเทพมหานคร (กทม.) เคยเป็นเจ้าภาพในการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมโครงการเบื้องต้นมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2548
แต่รัฐบาลชุดที่ผ่านมามีมติให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวไปอยู่ในความดูแลของกระทรวงคมนาคมโดยให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบดูแลล่าสุดสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้นำโครงการนี้กลับมาปัดฝุ่นใหม่โดยทุ่มงบประมาณ กว่า 100 ล้านบาท ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา คือ กลุ่มทีมคอนซัลติ้ง เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มเดิมที่เคยศึกษาให้กทม. ออกแบบรายละเอียดโครงการ
ผลการศึกษาครั้งใหม่ระบุว่า ต้องใช้งบประมาณลงทุนโครงการ 23,698 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าเวนคืนกว่า 2,600 ล้านบาท ค่างานโยธา 13,249 ล้านบาท งานระบบ 6,140 ล้านบาท และระบบรถไฟฟ้า 1,600 กว่า ล้านบาท
โดยที่โมเดลโครงการยังคงเหมือนเดิมทั้งแนวเส้นทาง รูปแบบสถานี และโครงสร้างสถานี โดยที่ตลอดเส้นทางจะเป็นโครงสร้างยกระดับ เน้นความสวยงาม ทันสมัย และมีความโปร่งแบบง่ายต่อการก่อสร้างในแนวเขตทางถนน ขณะที่ค่าก่อสร้างไม่สูงมาก
ที่แตกต่างจากเดิมเล็กน้อยคือ ตำแหน่งที่ตั้งของสถานีซึ่งบริษัทที่ปรึกษาปรับให้เหมาะสมมากขึ้น โดยขยับจากจุดที่กทม.เคยกำหนดไว้เดิมสถานีละประมาณ 200 เมตร นอกจากนี้มีการเพิ่มสถานีอีก 2 สถานีคือ สถานี N 23 บริเวณ ก.ม.25 และสถานี N 28 สถานีปลายทางเยื้องๆ กับห้างบิ๊กซี ลำลูกกา จากแนวเดิมของกทม. จุดสิ้นสุดสถานีสุดท้ายจะอยู่บริเวณคลอง 4 ก่อนถึงถนนวงแหวนรอบนอก พร้อมเพิ่มองค์ประกอบต่างๆ ให้ครบเครื่องมากขึ้น เช่น อาคารจอดแล้วจร (park and ride) 2 แห่ง คือ สถานี ก.ม. 25 และสถานีวงแหวนรอบนอก ศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่งบริเวณด้านหลังสถานีวงแหวนรอบนอก และทางเดินเชื่อมต่อแต่ละสถานี หรือ sky walk
สำหรับแนวเส้นทางจุดเริ่มต้นต่อจากจุดสิ้นสุดส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ บริเวณด้านหน้าตลาดยิ่งเจริญ โดยแนวเส้นทางส่วนใหญ่จะอยู่บนเกาะกลางถนนพหลโยธิน และถนนลำลูกกา ยกเว้นช่วงที่ต้องวิ่งผ่านพื้นที่ของเอกชน (ที่ดินของนายวิเชียร กลิ่นสุคนธ์ เจ้าของโรงแรมกานต์มณี ถนนประดิพัทธ) บริเวณพื้นที่ประตูกรุงเทพฯ ซึ่งบริเวณนี้จะมีการเวนคืน 45 ไร่ ค่าเวนคืน 450 ล้านบาท เพื่อสร้างโครงสร้างตัดผ่านโดยไม่ต้องอ้อมตามแนวถนนเดิม
พร้อมกับสร้างสถานี N 23 อาคารจอดแล้วจร และตัดถนนใหม่เป็นถนนโลคอลโรดเชื่อมระหว่างถนนพหลโยธิน-ลำลูกกา (บริเวณด้านข้างสถานีตำรวจภูธรคูคต) ระยะทาง 2.3 กิโลเมตร ขนาด 4 ช่องจราจร ซึ่งจะอยู่ด้านล่าง และมีรถไฟฟ้าอยู่ด้านบนทำให้ประชาชนในพื้นที่เข้า-ออกได้สะดวกมากขึ้น
จากนั้นแนวเส้นทางเบี่ยงเข้าเกาะกลางของถนนลำลูกกาอีกครั้ง แล้วผ่านวงแหวนรอบนอกสิ้นสุดแนวเส้นทางบริเวณด้านหน้าหมู่บ้านวราบดินทร์ ระยะทางรวม 13.92 กิโลเมตร โดยสถานีปลายทางจะมีศูนย์ซ่อมบำรุงอยู่ด้านหลังสถานี ทางเข้าอยู่ฝั่งตรงข้ามไปรษณีย์ลำลูกกา มีการเวนคืนที่ดิน 130 ไร่ เป็นที่ดินเอกชน 17 ราย ค่าเวนคืนกว่า 500 ล้านบาท
สำหรับตำแหน่งสถานีรถไฟฟ้าตลอดเส้นทางมี 8 สถานี จะมีการเวนคืนเล็กๆ น้อยๆ บริเวณทางขึ้น-ลงสถานีประกอบด้วย
1.สถานี N 21 (สถานีโรงพยาบาลภูมิพล) อยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลภูมิพลฯ และกรมแพทย์ทหารอากาศ
2.สถานี N 22 (สถานีพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ) อยู่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์กองทัพทหารอากาศบริเวณแยกถนนจันทรุเบกษา
3.สถานี N23 (สถานี ก.ม.25) อยู่ด้านหน้าประตูกรุงเทพฯ
4.สถานี N 24 (สถานีคูคต) ห่างสถานีตำรวจภูธรคูคตไปทางลำลูกกา 200 เมตร
5.สถานี N 25 (สถานีคลอง 3) อยู่ใกล้สะพานข้ามคลอง 3
6.สถานี N 26 (สถานีคลอง 4) บริเวณถนนไสวประชาราษฎร์ก่อนถึงซอยลำลูกกา 55 ประมาณ 100 เมตร 7.สถานี N 27 (สถานีคลอง 5) ก่อนถึงเชิงสะพานข้ามคลอง 5 100 เมตร
8.สถานี N 28 (สถานีวงแหวนรอบนอกตะวันออก) อยู่ด้านหน้าหมู่บ้าน วราบดินทร์เยื้องๆ บิ๊กซี ลำลูกกา
เพื่อให้เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ บริษัทที่ปรึกษาได้ศึกษาความเหมาะสมของระบบฟีดเดอร์ ที่จะนำมาช่วยเสริมโครงข่ายรถไฟฟ้าสายนี้ทั้งไป-กลับในแต่ละสถานี หรือเรียกว่าเป็นการ ขนส่งผู้โดยสารจากประตูบ้านไปสู่ประตูที่ทำงาน (door to door) มีทั้งหมด 7 เส้นทาง คือ
1.สถานีวงแหวนรอบนอก-คลอง 10 ระยะทาง 22 กิโลเมตร
2.สถานีวงแหวนรอบนอก-วัดราษฎร์ศรัทธาราม (คลอง 7) ระยะทาง 14.5 กิโลเมตร
3.สถานีคลอง 4-รังสิต (ถนนไสวประชาราษฎร์) 15.5 กิโลเมตร
4.สถานีคลอง 4-ออเงิน (ถนนเฉลิม พงษ์-ถนนออเงิน) 11 กิโลเมตร
5.สถานีคลอง 3-รังสิต (ซอยลำลูกกา 11) 15 กิโลเมตร
6.สถานีคูคต-รังสิต (ซอยลำลูกกา 11) 14 กิโลเมตร
7.สถานี ก.ม.25 (ถนนลำลูกกา-พหลโยธิน วนเป็นวงกลม) 9 กิโลเมตร
ด้านความเป็นไปได้ของโครงการ "ถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ" รองปลัดกระทรวงคมนาคมยืนยันว่า โครงการนี้น่าจะทำได้เร็ว เพราะเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งทางรางและขนส่งมวลชน และเป็นโครงข่ายต่อเชื่อมกับสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ทั้งนี้เมื่อผลการศึกษาแล้วเสร็จเดือนพฤษภาคมนี้ จะส่งให้ให้ทาง รฟม.ไปดำเนินการต่อ เริ่มประกาศเชิญชวนหาผู้รับเหมาได้ในช่วงปลายปี 2553 โดยจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี คาดเปิดให้บริการปี 2555 ปริมาณผู้โดยสาร 57,000 เที่ยวการเดินทางต่อวัน
Back to top
nutsiwat
2nd Class Pass Joined: 03/03/2011 Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร
Posted: 29/01/2013 3:39 pm Post subject:
ในใจของผมในเส้นทางสายหมอชิต - สพานใหม่ - ลำลูกกา (คลอง 5) อยากจะให้มีเส้นทางแยกจาก แยกลำลูกกา ไปสิ้นสุดที่ รังสิต (ในอนาคตขยายถึงนวนคร) ตามเส้นทางถนนพหลโยธิน เนื่องจากการจราจรในเส้นทางดังกล่าว ค่อนข้างที่จะติด หากมีผู้ใช้บริการคิดว่า น่าจะช่วยได้มาก ซึ่งทางด่วนยกระดับดอนเมือง - โทลเวย์ ก็ยังช่วยอะไรไม่ค่อยได้ เพราะค่าผ่านทางที่แพง คนจึงวิ่งข้างล่างกันเป็นส่วนใหญ่ หากมีแผนหรือโครงการที่จะทำทางต่อไปยังเส้นทางจาก แยกลำลูกกา - รังสิต (ในอนาคตขยายไปถึงนวนคร) ก็คิดว่าน่าจะทำรายได้ได้ให้กับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้ดี และช่วยแก้ปัญหาการจราจรได้ในระดับหนึ่งครับ
-----------------------------
สถานีต่อไป สถานีรถไฟเรณูนคร
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 13/02/2013 6:56 am Post subject:
วันที่ 8 ก.พ. ถึง 19 มี.ค. 56 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ) จะทำการปิดเบี่ยงการจราจร ถ.สุขุมวิท บริเวณโค้งบางปิ้ง ฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก เพื่อวางท่อประปาข้ามถนนสุขุมวิท
ThaiPR.net -- อังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556 11:52:24 น.
กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--ช.การช่าง
ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ถึง 19 มีนาคม 2556 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ) จะทำการปิดเบี่ยงจราจร บริเวณโค้งบางปิ้ง ฝั่งขาเข้ากรุงเทพ และฝั่งขาออกไปบางปู เพื่อวางท่อประปาข้ามถนนสุขุมวิท โดยจะดำเนินการ ดังนี้
ช่วงที่ 1 : ตั้งแต่วันที่ 8 - 17 ก.พ. 56 ปิดเบี่ยงการจราจร 1 ช่้องทาง (ฝั่งขาออกไปบางปู) เฉพาะช่วงเวลา 22.00น. - 05.00น.
ช่วงที่ 2 : ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. -19 มี.ค. 56 จะทำการติดตั้งรั้วคอนกรีต 1 ช่องจราจร ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้ากรุงเทพ ตั้งแต่บริเวณโค้งบางปิ้ง ถึง สะพานข้ามคลองบางปิ้ง ตลอดเวลา
***หมายเหตุ กำหนดการคืนผิวจราจรในวันที่ 20 มีนาคม 2556
โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทาง
ขออภัยในความไม่สะดวก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
HOTLINE สายด่วน : 02 753-8777
ฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการฯ (PR-CK) โทร. (084) 874-5571
สำนักงานโครงการฯ โทร. 02 753-9140 ต่อ 321 ถึง 323
Email : prgreenline1106@gmail.com
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
Posted: 25/03/2013 6:14 am Post subject:
ย้ายประปารับ สายสีเขียว คืนนี้ สายลวด ประปาอ่อน
ข่าวทั่วไทย: กทม.
โดย: ทีมข่าวกทม.
ไทยรัฐออนไลน์
23 มีนาคม 2556, 05:15 น.
กปน. วางท่อประปาใหม่ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) คืนวันเสาร์ที่ 23 มี.ค.56 เวลา 21.00-05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ส่งผลให้น้ำประปาไหลอ่อนถึงไม่ไหลในถนนหลายสาย ...
การประปานครหลวง กปน. แจ้งว่า เนื่องด้วย กปน. มีความจำเป็นต้องยกเลิกท่อประปาเดิมและวางท่อประปาใหม่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1,000 มิลลิเมตรทดแทน ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) บริเวณแยกหอนาฬิกา ถนนสุขุมวิท จังหวัดสมุทรปราการ ในคืนวันเสาร์ที่ 23 มี.ค.56 เวลา 21.00-05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้น้ำประปาไหลอ่อนถึงไม่ไหล ในถนนดังต่อไปนี้ 1.ถนนสุขุมวิทฝั่งขาออก ตั้งแต่ซอยเทศบาล 21-29, ตั้งแต่สามแยกการไฟฟ้า ถึงแยกตัดถนนสายลวด ทั้ง 2 ฝั่ง และตั้งแต่แยกเทพารักษ์ ถึงแยกหอนาฬิกา จ.สมุทรปราการทั้ง 2 ฝั่ง 2. ถนนประโคนชัยทั้ง 2 ฝั่ง ตลอดเส้นทาง 3.ถนนสายลวดทั้ง 2 ฝั่งตลอดเส้นทาง 4.ถนนท้ายบ้านทั้ง 2 ฝั่ง
และในคืนวันเดียวกัน (23 มี.ค.56) เวลา 22.00-05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น มีความจำเป็นต้องบำรุงรักษาเครื่องจักรของสถานีสูบจ่ายน้ำลุมพินี เพื่อให้การบริการน้ำประปาแก่ประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะส่งผลกระทบให้น้ำประปาไหลอ่อนถึงไม่ไหลเป็นบริเวณกว้าง ในถนนดังต่อไปนี้ 1.ถนนสาทรเหนือใต้ 2.ถนนพระราม 4 ตั้งแต่ทางด่วนถึงหัวลำโพง 3.ถนนอังรีดูนังต์ ถนนจันทร์ ถนนสวนพลู ถนนนางลิ้นจี่ ถนนสาธุประดิษฐ์ ถนนพระราม 3 4.ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่แยกตัดถนนสีลม ถึงแยกตัดถนนพระราม 3 5.ถนนสีลม ถนนสี่พระยา ถนนราชดำริ ถนนสาทร.
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group