Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311234
ทั่วไป:13180505
ทั้งหมด:13491739
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 87, 88, 89 ... 100, 101, 102  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 08/12/2021 6:02 pm    Post subject: Reply with quote

ประยุทธ์ รับ แก้ปมสายสีเขียวไม่ง่าย ต้องต่อระยะให้สุดทาง เพื่อใช้หนี้
ข่าวการเมือง

วันที่ 7 ธันวาคม 2564 - 17:27 น.


นายกรัฐมนตรี ยอมรับแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวไม่ง่าย หนี้เพิ่มทุกวัน ต้องต่อระยะให้สุดทาง ไม่เช่นนั้นขาดทุน รัฐยอมแบกหนี้ ไม่ยอมให้ประชาขนได้รับผลกระทบ

วันที่ 7 ธันวาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ว่า อยู่ในขั้นตอนการเจรจาหารือกันอยู่ ปัญหาคือหนี้สินที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งก็เพิ่มขึ้นไปทุกวัน


ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร ต้องหารือร่วมกัน ไม่ว่าจะตัดสินทางไหนก็ตาม ก็ยังมีปัญหาเรื่องหนี้ที่ค้างอยู่ จะทำอย่างไรให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์เร็วขึ้น

ตอนนี้อยู่ในระยะ 2 ถ้าใช้อันเดียวยังไงก็ขาดทุน ต้องต่อระยะให้ได้สุดทาง ต้นทาง ปลายทาง ต้องทำให้ได้ ดังนั้นต้องสร้างให้ได้ เพียงแต่ทำอย่างไรไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชน


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต้องเกิดกับรัฐบาลอยู่แล้ว เพราะมีหนี้สินที่ต้องใช้หนี้ให้เขา มันไม่ง่ายนักหรอก แต่คิดว่าเดี๋ยวก็ได้ ต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วไปหาวิธีการ ตนไปสั่งอะไรเขาไม่ได้ อย่าลืมว่าอำนาจมันอยู่ที่ใคร แล้วกฎหมายมันว่าอย่างไร ตนก็ต้องระวังเรื่องข้อกฎหมายเหมือนกัน

“เราอยากแก้ไขทุกปัญหาให้โดยเร็วที่สุด แต่ถ้ามันติดขัดเรื่องการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผมก็ไม่ทำ มันต้องพูดคุยกันให้ได้ หลายอย่าง เราสร้างไว้เยอะ บางอย่างก็สำเร็จ บางอย่างก็ติดนู่น ติดนี่ มันก็ต้องแก้ไป เพราะปัญหามันเป็นปัญหาที่ทุกคนต้องร่วมมือแก้กันไข โดยเฉพาะ ครม.”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/01/2022 10:32 am    Post subject: Reply with quote

ทวงหนี้ 3.7หมื่นล้านบีทีเอสฟ้องกทม.จ่ายค่าเดินรถ-วางระบบสายสีเขียว
หน้าแรก เศรษฐกิจ Mega Project
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล | 06 ม.ค. 2565 เวลา 9:30 น.

รถไฟฟ้าสายสีเขียวอลเวง กทม.อ่วม หนี้พุ่ง บีทีเอสฟ้องศาลปกครอง ทวงหนี้ 3.7 หมื่นล้าน 2 คดีรวด 4 ปี หนี้งอกอีก 5 พันล้าน จากเดิม3.2หมื่นล้าน ขณะ “อัศวิน” ผู้ว่ากทม. ยันเป็นสิทธิ์เอกชน-พร้อมแนะทางออกรัฐบาล

ปมขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งระบบ ให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี แลกหนี้ 100,700 ล้านบาท ให้กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ของกระทรวงมหาดไทย อาจกลายเป็นเส้นขนาน เพราะกระทรวงคมนาคม และสภาองค์กรของผู้บริโภคจับมือคัดค้าน

ไม่เห็นด้วย กับข้ออ้างที่ว่า อาจเป็นการเอื้อให้กับภาคเอกชนทั้งที่อายุสัมปทานยังเหลืออีกมาก ครั้นเมื่อ กทม. จะเรียกเก็บค่าโดยสาร ตลอดสาย 65 บาท เพื่อนำมาชำระหนี้ให้กับบีทีเอสซี กลับถูกคัดค้านว่าเป็นราคาที่สูงเกินจริงเมื่อเทียบกับMRTสายสีน้ำเงิน

บีทีเอสแบกหนี้ไม่ไหว

ท่ามกลางสงครามทางการเมืองที่ใช้ประชาชนเป็นตัวประกัน ได้สร้างความเดือดอย่างหนักให้กับ เอกชนผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวอย่างบีทีเอส ต้องแบกภาระหนี้แทน กทม. ที่เกิดจากค่าจ้างเดินรถ ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน และค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) รวมดอกเบี้ยที่พอกพูนกว่า 3.7 หมื่นล้านบาท

จนถึงขั้น บีทีเอสซี ประกาศหยุดเดินรถ และในที่สุด นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชนทางรางสายแรกของประเทศไทย ได้ออกมาประกาศยืนยันจะให้บริการเดินรถต่อไป พร้อมกับหาทางทวงหนี้ กทม. ในทุกช่องทางจนในที่สุดได้ ยืนฟ้องศาลปกครองในที่สุด

ฟ้องทวงหนี้3.7หมื่นล้าน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือน สิงหาคม 2564 บีทีเอสซีได้ยื่นฟ้อง กทม.ต่อศาลปกครองเพื่อทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถพร้อมดอกเบี้ย วงเงิน 12,000 ล้านบาท ซึ่งศาลได้ผ่อนปรน กทม. เป็นระยะเวลา 2 เดือนเพื่อหาเอกสารหลักฐานนำมาชี้แจงต่อศาล นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้าการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อทวงหนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) แก่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด เบื้องต้นอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสาร เนื่อง จากมีรายการค่อนข้างเยอะ เช่น ค่างาน VO รวมทั้งสัญญาที่ต้องดำเนินการ หลังจากที่ผ่านมาบริษัทฯได้ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถ 12,000 ล้านบาท คาดว่าจะฟ้องร้องเพิ่มเติมต่อศาลปกครองได้เร็วๆ นี้

Click on the image for full size
    “กรณีที่บริษัทฟ้องร้องทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถ จำนวน 12,000 ล้านบาท กับกทม.และบ.กรุงเทพธนาคมนั้น เบื้องต้นศาลปกครองกำหนดให้ กทม. และ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ทำคำชี้แจงต่อศาลปกครองเพื่อนำข้อมูลมาประกอบ ซึ่งได้รับรายงานว่าทางกทม.-บ.กรุงเทพธนาคม ขอเลื่อนการทำคำชี้แจงดังกล่าวออกไปก่อน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการขอเลื่อนเวลาทำคำชี้แจงไปแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่ทราบว่าศาลปกครองฯให้เลื่อนนัดหรือไม่ ซึ่งปัจจุบัน กทม. ยังไม่มีการนัดเจรจากับบริษัทแต่อย่างใด ส่วนค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับกทม.เป็นผู้พิจารณา”
4 ปีหนี้พุ่ง 5,000 ล้าน

สำหรับภาระหนี้สะสมที่ภาครัฐมีต่อบีทีเอสตั้งแต่เดือนเมษายน 2560-ปัจจุบัน มีหนี้ค่าจ้างเดินรถและหนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) เพิ่มขึ้นจำนวน 5,000 ล้านบาท (รวมดอกเบี้ย) เนื่องจากปัจจุบันบริษัทยังคงให้บริการเดินรถฟรีแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมหนี้สะสม จำนวน 37,000 ล้านบาท จากเดิมที่มีมูลหนี้อยู่ที่ 32,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ค่าจ้างเดินรถ จำนวน 12,000 ล้านบาท และหนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) จำนวน 20,000 ล้านบาท

“อัศวิน” ยึดขั้นตอนศาล

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีบีทีเอสซี ฟ้องร้องทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถและค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) ต่อศาลปกครองนั้น ทาง กทม. ต้องดำเนินการทำคำชี้แจงตามที่ศาลปกครองให้ดำเนินการอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันทางศาลปกครองยังไม่ได้เรียกให้ทำคำชี้แจง เบื้องต้นทางกทม. ได้ทำหนังสือถึงภาครัฐเพื่อหาแนวทางแก้ไขภาระหนี้สินที่มีต่อบีทีเอส และของบประมาณมาชำระหนี้กว่า 30,000 ล้านบาท ให้กับบีทีเอสที่ฟ้องร้อง จำนวน 2ครั้งแล้ว
    “เรามองว่าเป็นเรื่องปกติที่บีทีเอสจะฟ้องร้องเพราะเป็นสิทธิ์ของเขา ที่ผ่านมาเราก็ไม่มีงบประมาณมาชำระหนี้ให้กับเขาเช่นกัน ส่วนการจัดเก็บอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ปัจจุบัน กทม. อยู่ระหว่างการจัดทำตารางเปรียบเทียบอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว คาดว่าจะได้ข้อสรุปการจัดเก็บค่าโดยสารภายในเดือนมกราคมนี้ หลังจากได้ข้อสรุปดังกล่าวแล้ว เราจะเร่งดำเนินการจัดเก็บอัตราค่าโดยสารกับประชาชนที่ใช้บริการต่อไป”
กทม.เสนอทางออก

ด้านทางออก กทม. ได้เสนอ ต่อรัฐบาลดังนี้
1.โอนคืนรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปบริหารตามเดิม
2.ภาครัฐให้งบประมาณ กว่า 30,000 ล้านบาท แก่กทม.เพื่อชำระหนี้ให้บีทีเอส 3.ต่ออายุสัญญาสัมปทานสายสีเขียวให้กับบีทีเอส 30 ปี จนถึงปี 2602


นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคข้อทักท้วง 4 ประเด็นของกระทรวงคมนาคม 1.ความครบถ้วนตามหลักการของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 2.การคิดคำนวณอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยมาใช้บริการต่ำกว่า 65 บาท 3. การใช้สินทรัพย์ของรัฐที่ได้รับโอนจากเอกชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควรพิจารณาให้เกิดความชัดเจนถึงการใช้สินทรัพย์ว่า

รัฐควรได้ประโยชน์จากการขยายสัญญาสัมปทานอย่างไรจนกว่าจะครบอายุสัญญา 4. ข้อพิพาททางกฎหมาย เนื่องจาก กทม. ได้ทำสัญญาจ้างเอกชนปี 2585 และได้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ดังนั้นจึงสมควรรอผลการไต่สวนข้อเท็จจริงก่อนเพื่อให้เกิดความชัดเจน

ขยายสัมปทานอลเวง

แหล่งข่าววงการก่อสร้าง เปิดเผยว่า กรณีการแก้ปัญหาหนี้ท่วมของกทม.ที่ค้างจ่ายค่าจ้างเดินรถสายสีเขียวและค่าก่อสร้างระบบ รวมมูลหนี้กว่า 120,000 ล้านบาท ที่ยังคงหาข้อยุติไม่ได้ จนถูกบริษัทเอกชนคู่สัญญา ฟ้องแม้กระทรวงมหาดไทยจะตั้งคณะกรรมการเจรจาปัญหาหนี้ดังกล่าวตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2562 ลงวันที่ 11 เม.ย.2562 จนได้ข้อยุติ ที่จะให้ต่อขยายสัมปทาน 30 ปี ให้บีทีเอส แต่การเสนอเข้าครม.แต่ละครั้งได้ถูกกระทรวงคมนาคมคัดค้าน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/02/2022 2:30 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้าสีเขียวคนเอี่ยวมีเยอะ-ไม่ใช่แค่ ‘ดร.เอ้’
เดลินิวส์ 7 กุมภาพันธ์ 2565 13:33 น.
การเมือง

'วิษณุ' รอ ครม.ชี้ขาดปมต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ระบุคนเอี่ยวโครงการมีเยอะ ไม่ใช่แค่ 'ดร.เอ้' เผยใครค้างคาใจหลังผ่าน ครม. มีช่องฟ้องร้องได้

เมื่อวันที่ 7 ก.พ. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 8 ก.พ.นี้ มีวาระพิจารณาโครงการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว มูลค่า 400,000 ล้านบาท ออกไป 40 ปี ให้กับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) ว่ากระทรวงมหาดไทยคงจะนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.  เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเปิดเผยว่านายสุชัชวีร์ สุวรรณวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จากพรรคประชาธิปัตย์ มีส่วนเข้าไปเจรจาโครงการนี้ เพราะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวด้วย หากเป็นเช่นนี้ มีโอกาสที่ ครม. อาจถอนเรื่องออกก่อนหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าไม่ทราบ เป็นไปได้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตามส่วนตัวไม่คิดว่าจะไปเกี่ยวอะไรถึงนายสุชัชวีร์ เพราะคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มีจำนวนมาก

ต่อข้อถามว่าอะไรจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ ครม.ต้องหยุดชะงักในการที่จะพิจารณาโครงการนี้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าเหมือนกับเรื่องทั่วไปที่มีการเสนอมา และถ้า ครม.ยังติดใจว่ายังไม่พร้อม ก็ดึงกลับออกไปเพื่อให้ไปหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ซึ่งโครงการนี้เคยถูกเสนอมาแล้ว และถูกดึงออกไป

เมื่อถามว่าการที่เสนอเข้า ครม.มาได้ในวันพรุ่งนี้ แสดงว่าปัญหาที่เคยมี ได้คลี่คลายแล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่ากระทรวงมหาดไทยได้รายงานว่า ได้มีการทำความกระจ่างแจ้งแล้วในระดับหนึ่ง ก็เอาเข้ามาได้ ถ้า ครม.ยังติดใจอยู่ก็ส่งกลับให้กระทรวงมหาดไทยไปหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป เมื่อถามต่อว่าถ้าครม.พิจารณาให้โครงการนี้ผ่านไปแล้ว และฝ่ายค้านยังคงติดใจและนำมาอภิปรายในสภา โครงการนี้จะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ ก็เดินต่อไป ติดตรงไหนก็แก้ตรงนั้น ส่วนที่จะไม่พอใจอะไรกัน ถ้า ครม.ผ่านไปแล้ว ก็ไปหาช่องทางฟ้องร้องกันโดยวิธีอื่นเอา แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ปกติ ทางฝ่ายค้านเขาจะยื่นอภิปรายในสภาอยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/02/2022 6:21 am    Post subject: Reply with quote

ครม.ถกปลดล็อก'สายสีเขียว'
Source - กรุงเทพธุรกิจ
Tuesday, February 08, 2022 04:09

มท.ส่งชี้ขาด'ต่อสัญญา'วันนี้ หลังยื้อ3ปี แก้หนี้ กทม.'3.7 หมื่นล้าน'

"คมนาคม" ตั้งป้อมค้าน 4 ประเด็นเดิม

กรุงเทพธุรกิจ "มหาดไทย" ชงต่อสัมปทาน บีทีเอสเข้า ครม.วันนี้ แก้วิกฤติหนี้ กทม. 3.7 หมื่นล้าน รัฐบาลไม่ห่วงโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ "วิษณุ" ชี้ กทม.แจงข้อมูลเพิ่มแล้ว "คมนาคม" ยืนยันค้าน 4 ประเด็น ย้ำยังไม่ทำตามกฎหมาย-มติ ครม.ให้ครบ

กระบวนการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.2562 เมื่อมีคำสั่ง คสช.ให้กระทรวงมหาดไทยตั้ง คณะกรรมการดูแลการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียว 30 ปี ให้กับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส หลังจากนี้ร่างสัญญาได้ผ่านความเห็นชอบจาก คณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ในเดือน พ.ย.2562

เมื่อมีการนำวาระการต่อสัญญาเข้า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ถูกตีกลับให้หา ข้อมูลเพิ่ม รวมทั้งกระทรวงมหาดไทยขอถอนวาระเองตลอดปี 2563-2564 จนกระทั่งมีการเสนอ ครม.ครั้งล่าสุด วันที่ 19 ต.ค.2564 แต่กระทรวงมหาดไทย ขอถอนวาระหลังจากกระทรวงคมนาคม มีข้อท้วงติงเพิ่ม 4 ข้อ

ล่าสุดกระทรวงมหาดไทยจะเสนอ ครม. อีกครั้งในวันนี้ (8 ก.พ.) ซึ่งสำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้บรรจุเป็นวาระเพื่อพิจารณาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้รายงานว่าได้มีการทำความกระจ่างแล้วระดับหนึ่งในประเด็น ที่เคยมีการท้วงติงจึงนำมาเสนอ ครม.ได้ แต่ถ้า ครม.ยังติดใจอยู่ก็ส่งกลับให้กระทรวงมหาดไทยไปหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป

ทั้งนี้ การเสนอ ครม.ในช่วงที่ผ่านมาเหมือนกับโครงการอื่นที่ในกรณี ครม.ยังติดใจว่ายังไม่พร้อมก็ดึงเรื่องออกไปก่อนเพื่อหาข้อมูลมาเพิ่ม ซึ่งการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเคยเสนอ ครม.และขอถอนวาระออกไปแล้ว และถ้า ครม.เห็นชอบแล้วฝ่ายค้านติดใจนำไปอภิปรายในสภา ผู้แทนราษฎรเห็นว่าโครงการนี้ยังเดินต่อไป เพราะถ้าติดปัญญาจุดใดก็แก้จุดนั้น

รัฐบาลไม่ห่วงโดนอภิปราย

"ส่วนที่จะไม่พอใจอะไรกันถ้า ครม.ผ่านแล้วก็ไปหาช่องทางฟ้องร้องโดยวิธีอื่น แต่เรื่องนี้ถ้าค้านจะยื่นอภิปรายในสภาอยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร" นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวตอบคำถามประเด็น ที่มีการโยงคณะกรรมการเจรจาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีชื่อนายสุชัชวีร์ สุวรรณวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีส่วนร่วมในการเจรจาจะทำให้มีการถอนเรื่องหรือไม่ ว่า "ไม่ทราบ เป็นไปได้ทั้งนั้น"

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตอบคำถามประเด็น ที่กระทรวงมหาดไทยจะเสนอวาระต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ ครม.พิจารณาว่า กรุงเทพมหานครยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องดังกล่าวกับภาครัฐแต่อย่างใด ส่วนการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวและการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าให้กับบีทีเอสจะเป็นอย่างไรนั้น คงต้องรอให้ทางภาครัฐเป็นผู้พิจารณาในวันนี้ (8 ก.พ.) ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ

"คมนาคม"ยันค้าน4ประเด็น

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมยังมีความเห็นคงเดิมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยืนยันใน 4 ข้อทักท้วงที่ต้องการให้กรุงเทพมหานครตอบคำถามในประเด็นของการเสนอขอต่อสัมปทาน

รายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมได้ทำข้อทักท้วงการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว 4 เรื่อง ประกอบด้วย

1.ประเด็นความครบถ้วนตามหลักการของ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 (มาตรา 46 และมาตรา 47) เพราะในขั้นตอนการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนไม่มีการเสนอความเห็นว่า การต่อสัญญาสัมปทานควรมีการประกวดราคาหรือควรเจรจาต่อรองกับเอกชนรายเดิม

2.ประเด็นการคิดค่าโดยสารที่เหมาะสม และเป็นธรรมแก่ผู้ใช้บริการ รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียวสามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารสูงสุดได้ต่ำกว่า 65 บาท โดยกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้ผลักดันนโยบายการกำหนดอัตราค่าโดยสารขั้นสูงในการเดินทางภายในโครงข่ายรถไฟฟ้าที่มีการเดินทางเชื่อมต่อกัน และได้ประสานไปยังกรุงเทพมหานคร เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมในการพิจารณากำหนดอัตราค่าโดยสารที่ถูกลง

3.ประเด็นการใช้สินทรัพย์ของรัฐที่ได้รับโอนจากเอกชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควรพิจารณาถึงการใช้สินทรัพย์ว่ารัฐควรได้ประโยชน์จากการขยายสัญญาสัมปทานเป็นจำนวนเท่าไร อย่างไร จนกว่าจะครบอายุสัญญา

ยังมีข้อพิพาททางกฎหมาย

4.ประเด็นข้อพิพาททางกฎหมาย ซึ่งเกิดขึ้นจากกรณีกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ทำสัญญาจ้าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC เดินรถส่วนต่อขยายที่ 1 และ ส่วนต่อขยายที่ 2 ไปจนถึงปี 2585 และได้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ดังนั้นควรรอผลการไต่สวนข้อเท็จจริงก่อนเพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อน

ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมากระทรวงคมนาคม ได้สอบถามถึง 4 ข้อทักท้วงไปยังกรุงเทพมหานคร เพราะเห็นว่าการดำเนินการ ในประเด็นดังกล่าวยังไม่ครบถ้วนตามระเบียบกฎหมายและมติ ครม.แต่พบว่ายังได้รับคำตอบของข้อทักท้วงที่ยังไม่ครบทุกประเด็น โดยหากกระทรวงมหาดไทยเสนอร่างสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวในครั้งนี้ กระทรวงคมนาคมยังยืนยันที่จะมีข้อทักท้วงสอบถามให้ประเด็นเดิม

"บีทีเอส"ใช้สิทธิทางกฎหมาย

รายงานข่าวระบุว่า การเจรจาระหว่างกระทรวงมหาดไทยและบีทีเอสเพื่อพิจารณาต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้มีการนำประเด็นหนี้ที่เกิดจากค่าจ้างที่กรุงเทพมหานครจ้างให้เดินรถส่วน ต่อขยายและวางระบบการเดินรถไฟฟ้า โดยเมื่อการเสนอ ครม.เพื่อต่อสัมปทาน ไม่มีความคืบหน้าส่งผลให้บีทีเอส ยื่นขอใช้สิทธิทางกฎหมาย โดยยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด เพื่อให้ชำระหนี้ เพื่อลดปัญหาสภาพคล่องของบีทีเอส

สำหรับภาระหนี้สะสมที่ภาครัฐบาล มีต่อบีทีเอส แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.หนี้ค่าจ้างเดินรถส่วนต่อขยายตั้งแต่ เดือน เม.ย.2560 จนถึงเดือน ก.ค.2564 ประมาณ 12,000 ล้านบาท 2.หนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) ประมาณ 20,000 ล้านบาท เมื่อรวมดอกเบี้ยจะเป็นหนี้ทั้งหมด 37,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ บีทีเอสการยื่นคำฟ้องครั้งนี้ครอบคลุมเฉพาะหนี้สัญญาจ้างเดินรถ วงเงิน 12,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2564 ซึ่งที่ผ่านมาบีทีเอสยอมรับว่าการค้างจ่ายค่าจ้างดังกล่าวที่มีมูลค่ามากกว่า 30,000 ล้านบาท นั้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจทำให้บีทีเอสจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อนำมาบริหารจัดการ

ส่วนหนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้า และเครื่องกล) อยู่ในขั้นตอนเตรียมการฟ้องร้อง ต่อศาลปกครองเพื่อให้กรุงเทพมหานคร และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ชำระหนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารที่มีรายละเอียดจำนวนมาก เช่น ค่างานตามสัญญา

ที่มา: นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 8 ก.พ. 2565
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 08/02/2022 11:40 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ครม.ถกปลดล็อก'สายสีเขียว'
Source - กรุงเทพธุรกิจ
วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 04:09



จับตาวาระ ครม. ต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว BTS 30 ปี
การเมือง
วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 08:01 น.


จับตาวาระ ครม.ประยุทธ์ ไฟเขียว ต่อสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ BTS 30 ปี ลุ้น ค่าโดยสารถูกกว่า 65 บาทตลอดสาย

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ 6/2565 เต็มคณะ ด้วยชุดผ้าไทยแขนยาว ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญ ดังนี้

เรื่องเพื่อทราบ หากไม่มีข้อทักท้วงให้ถือเป็นเรื่องที่ ครม.เห็นชอบ/อนุมัติ อาทิ ร่างระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยมาตรการทางบริหารในการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ (ฉบับที่…) พ.ศ. …

ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ รวม 5 ฉบับ เรื่องเพื่อทราบ อาทิ รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลที่มีระยะเวลาการชำระหนี้เกิน 12 เดือน ซึ่งดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

รายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2564 เรื่องเพื่อพิจารณา อาทิ การขอโอนสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 1/2547/67 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L10/43 และ L11/43

ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ซึ่งจะครบกำหนดสัญญาในปี พ.ศ. 2572

ทั้งนี้ มติ ครม.เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 กระทรวงมหาดไทย โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยได้รายงานผลการเจรจาต่อรองกับผู้รับสัมปทาน โดยคณะกรรมการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2562 และคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 1109/2562 ประชุมครั้งที่ 9/2562 เมื่อวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2562 และครั้งที่ 10/2562 เมื่อวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2562 อาทิ 1.ระยะเวลาร่วมลงทุนเพิ่มเติม โดยจะมีการขยายระยะเวลาร่วมลงทุนเพิ่มเติมจากเดิมสิ้นสุดปี พ.ศ. 2572 เป็นสิ้นสุดปี พ.ศ. 2602 หรือ 30 ปี

2.โครงสร้างอัตราค่าโดยสารส่วนต่อขยาย ระหว่างปี 2562-2602 และเส้นทางหลัก ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2572-2602 กำหนดเป็น 15+3x (x คือ จำนวนสถานี) (ราคา ณ ปี 2562) โดยอัตราค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 65 บาท โดยจะปรับอัตราค่าโดยสารทุก ๆ 24 เดือน นับจากวันที่เริ่มใช้อัตราค่าโดยสารตารางเดียว


อย่างไรก็ตาม มติ ครม.เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 กระทรวงคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้มีความเห็นว่าประเด็นการคิดค่าโดยสารที่เหมาะสม เป็นธรรมแก่ประชาชนผู้ใช้บริการในร่างสัญญา กำหนดให้มีอัตราค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย ซึ่งเป็นอัตราค่าโดยสารสูงกว่ารถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในปัจจุบัน จึงเห็นว่า ควรคิดอัตราค่าโดยสารที่เป็นธรรมและถูกลงกว่า 65 บาทได้

นอกจากนี้ยังมีประเด็นข้อพิพาททางกฎหมาย ซึ่งเกิดขึ้นจากกรณีกรุงเทพมหานครได้ทำสัญญาจ้าง BTSC เดินรถส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ไปจนถึงปี พ.ศ. 2585 และได้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะมีผลกระทบต่อสัญญาสัมปทานที่อยู่ระหว่างดำเนินการต่อสัญญา

จึงสมควรรอผลการไต่สวนข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความชัดเจนแล้วพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพื่อให้ประโยชน์สูงสุดกับรัฐและประชาชนตามหลักการจัดทำสัญญาเพื่อประโยชน์สาธารณะ



ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อทำเหมืองแร่ของนายประสาน ยุวานนท์ ที่จังหวัดนครราชสีมา การกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2563/2564

การกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2564/2565 ผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ของพื้นที่กลุ่มที่ 1 จำนวน 11 จังหวัด

ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ฉบับที่…) พ.ศ. …

การขอขยายระยะเวลาการดำเนินการศูนย์จัดเก็บข้อมูลแรงงานเมียนมาชั่วคราว (The Temporary Data Collection Centre : TDCC) ของทางการเมียนมา และการได้มาซึ่งเอกสารประจำตัวของคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564


การพิจารณารับรองร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุม OECD SEARP ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 การแต่งตั้งกรรมการระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการภายหลังประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิก ที่ประชุมกรุงเฮกว่าด้วยกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล

“นิพนธ์” ขอ 2 สัปดาห์ สรุปข้อมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียว ชงครม.
หน้าเศรษฐกิจ คมนาคม
วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 14:45 น.

นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ขอเวลา 2 สัปดาห์ สรุปรายละเอียดรถไฟฟ้าสายสีเขียว หลังพบยังมีปัญหาเรื่องการติดตั้งสะพานเหล็ก 2 แห่งในโครงการ ก่อนเสนอครม.อีกครั้ง

จากกรณีที่ประชุมครม.เลื่อนการพิจารณาร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยกระทรวงมหาดไทยเสนอ เพื่อขอขยายสัญญาสัมปทานให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในเครือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ออกไปอีก 30 ปี จากเดิมสิ้นสุดปี 2572 เป็นสิ้นสุด ปี 2602 โดยแลกกับการเก็บค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสายนั้น


นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวภายหลังการประชุมครม. ว่า ที่ประชุมครม. ขอให้กระทรวงมหาดไทยกลับไปดูรายละเอียดของกระทรวงคมนาคมที่ทำความเห็นมาประกอบการพิจารณาอีกครั้ง



โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการตามเงื่อนไขการอนุญาตให้เข้าพื้นที่กรณีการติดตั้งสะพานเหล็กแยกหทัยราษฎร์ และแยกพุทธมณฑลสาย 2 ที่จะต้องพิจารณาประกอบเพื่อจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายของโครงการ

รวมทั้งยังให้ไปดูเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ป.ป.ช. ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะรีบกลับไปดูข้อมูลทั้งหมด เพื่อสรุปมาเสนอครม.อีกครั้งโดยเร็วที่สุดภายใน 2 สัปดาห์นี้


“ครม.ขอให้ไปดูเรื่องนี้ให้ชัดก่อน โดยเฉพาะเรื่องสะพานทั้ง 2 แห่ง และขอให้สรุปโดยเร็วที่สุด น่าจะ 2 สัปดาห์คงเอามาเสนอใหม่ได้”


ภท.หักดิบ! 7 รมต.พร้อมใจลาประชุม ครม.ค้านมหาดไทยขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสีเขียว
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 09:43 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 09:43 น.
รมต.ภูมิใจไทย แท็กทีมโดดประชุม ครม. ไม่สบายใจปมพิจารณา รถไฟฟ้าสายสีเขียว
CH3ThailandNews
8 กุมภาพันธ์ 2565
‘รถไฟฟ้าสายสีเขียว’แผลงฤทธิ์ ‘รมต.ภูมิใจไทย’ยื่นลาครม.ยกเหตุ‘ไม่สะดวกพิจารณา’
วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 08.50 น.

7 รัฐมนตรีภูมิใจไทย ตบเท้ายื่นหนังสือลาประชุม ครม. พร้อมเพรียง ไม่เห็นด้วย หลัง มท. 1 ดันขยายสัญญาสัมปทานสายสีเขียว เข้า ครม. วันนี้ เหตุมหาดไทยไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย และ หลักธรรมาภิบาล แถมส่วนต่อขยายสายสีเขียวยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟม.โดยสมบูรณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (8 ก.พ.65) รัฐมนตรีในสังกัดพรรคภูมิใจไทย จำนวน 7 คน ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข , นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม , นายทรงศักดิ์ ทรงศรี รมช.มหาดไทย ,นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา , นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ได้ยื่นหนังสือขอลาการประชุม ครม. เนื่องจากติดภารกิจ และแสดงออกถึงความเห็น ที่ไม่เห็นด้วยกรณีกระทรวงมหาดไทย เสนอวาระเพื่อพิจารณา ขอความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ของกรุงเทพมหานคร(กทม.) เพื่อขยายสัญญาสัมปทานให้กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC บริษัทในเครือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ออกไปอีก 30 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572 ออกไปเป็นปี 2602 แลกกับเก็บค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย ให้ ครม.พิจารณาอนุมัติ ประกอบกับมองว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย และหลักธรรมาภิบาล หากมีการอนุมัติวาระดังกล่าวจะส่งผลทางด้านกฎหมายในอนาคตได้




ขณะเดียวกันมีรายงานว่ารัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทั้งหมดจะไม่เข้าร่วมประชุมครม.ในวันนี้ โดย รมต.พรรคภูมิใจไทยได้ยื่นใบลาประชุม ครม.ต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้วเมื่อค่ำวานนี้ (7 ก.พ.65) โดยระบุเหตุผลว่าไม่สะดวกที่จะพิจารณาเรื่องนี้


สำหรับเรื่องดังกล่าวทาง กระทรวงคมนาคม ได้แสดงความเห็นคัดค้านต่อการขยายสัญญาสัมปทานมาโดยตลอด พร้อมเสนอความเห็นเพิ่มเติม เข้า ครม. ทุกครั้งที่จะมีการเสนอ โดยเฉพาะใน4 ประเด็นหลัก คือ

1.ประเด็นความครบถ้วนตามหลักการของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562

2.ประเด็นการคิดค่าโดยสารที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ผู้ใช้บริการเพื่อส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยมาใช้บริการ รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารสูงสุดได้ต่ำกว่า 65 บาท



3.ประเด็นการใช้สินทรัพย์ของรัฐที่ได้รับโอนจากเอกชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควรพิจารณาให้เกิดความถ่องแท้ถึงการใช้สินทรัพย์ว่ารัฐควรได้ประโยชน์จากการขยายสัญญาสัมปทานเป็นจำนวนเท่าไร อย่างไร จนกว่าจะครบอายุสัญญา

4.ประเด็นข้อพิพาททางกฎหมาย ซึ่งเกิดขึ้นจากกรณี กทม.ได้ทำสัญญาจ้าง BTSC เดินรถส่วนต่อขยายที่ 1 และ ส่วนต่อขยายที่ 2 ไปจนถึงปี 2585 และได้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ดังนั้นจึงสมควรรอผลการไต่สวนข้อเท็จจริงก่อนเพื่อให้เกิดความชัดเจน

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้ขอให้กทม.ชี้แจงทั้ง 4 ประเด็นนี้ให้ชัดเจนก่อน และล่าสุดในการประชุม ครม. วันนี้ทางกระทรวงคมนาคมยังได้เสนอความเห็นเพิ่มเติมเสนอเข้าไปประกอบด้วย เนื่องจากข้อมูลที่ กทม. จัดทำเพิ่มเติมนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในข้อเท็จจริงที่ทำให้การวิเคราะห์ของกระทรวงคมนาคมแตกต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะในประเด็น 1.การเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในสิ่งก่อสร้างและที่ดินตลอดแนวโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 ช่วงยังคงเป็นของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)เนื่องจากยังไม่มีการโอนไปยัง กทม. เนื่องจากยังไม่มีการจ่ายค่าชดเชยสิ่งปลูกสร้าง 2.การคำนวณค่าโดยสาร ,และการรองรับระบบตั๋วร่วม รวมถึงความชัดเจนของประเด็นข้อกฎหมาย ที่ทาง กทม.ยืนยันว่าจะเข้าดำเนินการตั๋วร่วมแต่จะไม่ยอมลงทุนเอง



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกระแสข่าวการโดดประชุมของรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ยื่นลาการประชุมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้เหตุผลว่าเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศโดยอยู่ระหว่างกลางกักตัว ส่วนจะเกี่ยวกับการประท้วง หลังจากที่คณะรัฐมนตรีจะนำเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้าพิจารณาหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ

ขณะที่นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่าไม่ได้เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีเช่นเดียวกัน เนื่องจากติดภารกิจ ส่วนที่วันนี้ พรรคภูมิใจไทยแท็กทีมประท้วงไม่เข้าร่วมการประชุม ครม. จะเกี่ยวข้องกับการที่กระทรวงมหาดไทยดันเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้าคณะรัฐมนตรีหรือไม่ นายทรงศักดิ์ ระบุว่าเป็นความไม่สบายใจในของข้อกฎหมาย ที่จะต้องให้กรุงเทพมหานครไปดำเนินการให้เรียบร้อยก่อน



ขณะเดียวกันนางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็อยู่ระหว่างการกักตัวจึงไม่ได้เข้าร่วมการประชุมครม.ในวันนี้ ขณะที่มีกระแสข่าวว่ารัฐมนตรีท่านอื่นในพรรคภูมิใจไทย ไม่ร่วมเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีเช่นกัน เนื่องจาก ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ กระทรวงมหาดไทยนั้นนำการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเพื่ออนุมัติในที่ประชุม
https://www.thebangkokinsight.com/news/business/economics/801822/


https://www.facebook.com/Ch3ThailandNews/posts/4860272557341879

'ลุงป้อม'เผยยังไม่มีการพิจารณา'รถไฟฟ้าสายสีเขียว' ย้ำต้องรอบคอบ
วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 10.03 น.

"ลุงป้อม"เผยยังไม่มีการพิจารณา"รถไฟฟ้าสายสีเขียว" ย้ำต้องรอบคอบ เพราะเสี่ยงอาจเจอผิดมาตรา 157 ได้

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐมนตรีจากภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมใจกันลาประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีข่าวว่าไม่ต้องการร่วมพิจารณาโครงการขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันนี้ ซึ่งอาจมีผลต่อความสัมพันธ์ในพรรคร่วมรัฐบาล ว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทางรัฐบาลยังไม่มีการพิจารณา กำลังพิจารณาว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป ยังไม่ได้ตกลงใจว่าจะเอาอย่างโน้นอย่างนี้ ก็ต้องพิจารณากันให้รอบคอบ ไม่เช่นนั้นก็อาจจะผิดมาตรา 157 ได้ (ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘รถไฟฟ้าสายสีเขียว’แผลงฤทธิ์ ‘รมต.ภูมิใจไทย’ยื่นลาครม.ยกเหตุ‘ไม่สะดวกพิจารณา’)


Last edited by Wisarut on 18/02/2022 5:04 pm; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 08/02/2022 1:38 pm    Post subject: Reply with quote

สส. ภูมิใจไทย หนุน 7 รมต. ค้านร่างสัญญาร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีเขียว
วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

#ค่าโดยสารมหาโหด ⁉ขูดเลือดขูดเนื้อคนจน👉 สส. #ภูมิใจไทย หนุน 7 รมต.ไม่ร่วมประชุม ครม.💪 แสดงออก #ค้านร่างสัญญาร่วมลงทุน #รถไฟฟ้าสายสีเขียว 🚃

วันนี้ (8 ก.พ.65) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า สส.พรรคภูมิใจไทย เห็นด้วยกับการที่รัฐมนตรีทั้ง 7 คน ของพรรค ไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการพิจารณา วาระขอความเห็นชอบผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ด้วยเหตุผลที่ว่าหากดำเนินการไปแล้วจะกลายเป็นภาระของประชาชน เนื่องจากค่าโดยสารที่มากเกินไป โดยการกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ 65 บาทตลอดสาย เพื่อส่งเสริมผู้มีรายได้น้อยมาใช้บริการ ซึ่งหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม เห็นว่าสามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารสูงสุดต่ำกว่า 65 บาทได้

“ราคา 65 บาท ที่กำหนดมานั้น ตัวแทนภาคประชาชน สมาคม องค์กร ผู้บริโภค ล้วนแสดงความเป็นห่วงในเรื่องภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน เป็นราคาค่าโดยสารมหาโหด ขูดเลือด ขูดเนื้อ คนจน ประชาชนผู้มีรายได้น้อยต้องแบกรับภาระค่าเดินทางที่มากเกินไป อีกทั้งยังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน รายรับไม่เพียงพอกับรายจ่าย และกลายเป็นหนี้สิน ซึ่ง สส.ของพรรคภูมิใจไทย กำลังหาวิธีในการดำเนินการเรื่องนี้อยู่” นายสิริพงศ์กล่าว
https://www.facebook.com/Ch7HDNews/posts/5546012742105143


รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ไม่เข้าประชุม ครม. กังขาต่อสัมปทานสายสีเขียว
การเมือง
วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 10:56 น.



รัฐมนตรีสังกัดพรรคภูมิใจไทย พร้อมใจกัน “ลา” ไม่เข้าประชุม ครม. หลังกระทรวงมหาดไทยยื่นต่อสัมปทานสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว 30 ปี อีกครั้ง

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ครั้งที่ 6/2565 เต็มคณะ ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญ คือ กระทรวงมหาดไทยจะเสนอให้ ครม. เห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อขยายสัญญาสัมปทานให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในเครือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ออกไปอีก 30 ปี เป็นสิ้นสุด ปี 2602 จากเดิมสิ้นสุดปี 2572 แลกกับการเก็บค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย

อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่าโครงการดังกล่าวรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่เห็นด้วย

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า ค่ำวานนี้ (7 ก.พ.) รัฐมนตรีในสังกัดพรรคภูมิใจไทยทั้งหมดได้ยื่นใบลาการประชุม ครม. ต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และไม่ได้ร่วมเข้าการประชุมครั้งนี้ โดยระบุเหตุผลว่าไม่สะดวกที่จะพิจารณาเรื่องนี้

ทำให้ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย มีแค่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมเพียงคนเดียว

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากไม่เห็นด้วยกรณีกระทรวงมหาดไทยจะเสนอให้ ครม.เห็นชอบการต่อสัมปทานขยายสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า ขณะนี้ยังไม่รับรายงานและไม่มีข้อมูลว่าใครลาประชุมบ้าง จะทราบเมื่อถึงเวลาการประชุมว่า ใครขาด


เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าเหตุผลที่ไม่เข้า เนื่องจากไม่เห็นด้วยเรื่องการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้ใหญ่และ ครม. ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่อง

รายงานข่าวระบุว่า รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทั้งหมดจะไม่เข้าร่วมประชุม ครม.ในวันนี้ โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็ได้ลาการประชุม ครม.เช่นกัน ได้ให้เหตุผลว่าเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศโดยอยู่ระหว่างกลางกักตัว




นางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลาการประชุมตั้งแต่บ่ายวานนี้ (7 ก.พ.) เนื่องจากติดภารกิจที่จังหวัดอุทัยธานี ขณะเดียวกันนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่าไม่ได้เข้าร่วมการประชุมเช่นเดียวกัน เนื่องจากติดภารกิจ

ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันเดียวกันนี้จะกระทบกับการพิจารณาต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือไม่ เพียงสั้น ๆ ว่า “ไม่ทราบ ไม่รู้”


สำหรับรัฐมนตรีในสังกัดพรรคภูมิใจไทยมีทั้งสิ้น 7 คน ประกอบด้วย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยคมนาคม
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/02/2022 5:28 pm    Post subject: Reply with quote

สอบ.ค้าน ครม.ต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสีเขียว 30 ปี ซ้ำเติม ปชช.
Feb 8, 2022
Thai PBS News

สภาองค์กรของผู้บริโภค คัดค้าน ครม.ที่จะต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวล่วงหน้าไปอีก 30 ปี โดยเฉพาะการขึ้นราคาโดยสารรถไฟฟ้าสีเขียวที่ 65 บาทตลอดสาย ซึ่งเป็นการสร้างวิกฤตใหม่ซ้ำเติมประชาชนและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และขอให้คงอัตราค่ารถไฟฟ้าสีเขียวไว้ที่ 44 บาทตลอดสาย ไปจนสิ้นสุดสัมปทานในปี 2572


https://www.youtube.com/watch?v=sGberpyDimE
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/02/2022 5:33 pm    Post subject: Reply with quote

ครม.ตีกลับต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสีเขียวอีก 30 ปี
Feb 8, 2022
Thai PBS News

ที่ประชุม ครม.ยังไม่เห็นชอบร่างสัญญาขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยให้กระทรวงมหาดไทยกลับไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมกระทรวงคมนาคมใหม่หลังมีข้อสงสัย


https://www.youtube.com/watch?v=w_hSM9oXBGo
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 08/02/2022 5:50 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ครม.ตีกลับต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสีเขียวอีก 30 ปี
Feb 8, 2022
Thai PBS News

https://www.youtube.com/watch?v=w_hSM9oXBGo


เปิดภาระหนี้รถไฟฟ้าสีเขียวกว่า 5.3 หมื่นล้าน ”คมนาคม”ยัน กทม.จ่ายไม่ครบ โอนกรรมสิทธิ์ยังไม่สมบูรณ์
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 17:01
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 17:01




”คมนาคม”เปิดภาระหนี้สีเขียว กว่า 5.3 หมื่นล้าน กทม.ยังชำระไม่ครบ โอนกรรมสิทธิ์ยังไม่สมบูรณ์ เผยหนังสือด่วนถึงเลขาฯ ครม.ค้านอนุมัติสัญญาร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสีเขียว แฉ กทม.ยื้อเคลียร์ย้ายโครงเหล็กสะพานรัชโยธิน, เกษตร ไปทำใหม่ ที่แยกหทัยราษฎร์, บางแวก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยจำนวน 7 คน ได้ยื่นหนังสือขอลาการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (8 ก.พ.) พร้อมกัน โดยอ้างเหตุ จากกรณี เรื่องขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบ ร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งรมต. พรรคภูมิใจไทย ระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของกรุงเทพมหานคร (กทม.) และเห็นด้วยกับความเห็นของกระทรวงคมนาคม ตามหนังสือกระทรวงคมนาคม ด่วนที่สุด ที่ กค (ปคร) 0208/24วันที่ 7 กุมภาพันธ์2565 ถือเป็นจุดยืนที่ชัดเจน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงคมนาคม ได้เสนอความเห็นไปเหมือนเดิม ซึ่งยังไม่มีการชี้แจงที่ชัดเจนจากกทม. ทั้งนี้ จุดยืนของกระทรวงคมนาคม เห็นว่า ควรจะต้องดำเนินการให้ครบถ้วน เพราะกรณีนี้เป็นการบริหารบริการสาธารณะซึ่งมีผลกระทบต่อประชาชนหากในอนาคต มีผู้ร้องเรียนและพบว่ามีการดำเนินการไม่ถูกต้อง ครบถ้วนตามกฎหมาย จะเกิดความเสียหาย

โดยวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้ทำหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ คค.(ปคร.)0208/28 วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เรื่องความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเรื่อง ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว

อ้างอิง หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร 0506/1360 ลงวันที่ 17 มกราคม 2565 พร้อมสำเนาหนังสือกระทรวงคมนาคมอีก 6 ฉบับ โดยระบุว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้มีหนังสือถึงกระทรวงคมนาคมแจ้งว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมได้เสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เรื่อง ขอความเห็นชอบผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว กรุงเทพมหานครได้จัดส่งข้อมูลและชี้แจงการดำเนินการ ตามความเห็นของกระทรวงคมนาคมเพื่อประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม หากกระทรวงคมนาคมมีความเห็น เพิ่มเติมประการใด ขอให้แจ้งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบโดยด่วน ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น

กระทรวงคมนาคม ได้พิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมของกรุงเทพมหานคร (กทม.) แล้ว ขอยืนยัน ตามความเห็นเดิมว่า ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของ กทม. เนื่องจากข้อมูลที่ กทม. จัดทำเพิ่มเติมนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในข้อเท็จจริงที่ทำให้การวิเคราะห์ของกระทรวงคมนาคมแตกต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะในประเด็นของการคำนวณอัตราค่าโดยสาร การรองรับระบบตั๋วร่วม และความชัดเจนของประเด็นข้อกฎหมาย นอกจากนี้ ปัจจุบันการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยังคงเป็นหน่วยงานเจ้าของกรรมสิทธิ์ ในสิ่งก่อสร้างและที่ดินตลอดแนวโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 ช่วง อันเป็นสาระสำคัญที่ไม่อาจเห็นด้วยต่อแนวทาง การดำเนินการตามข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย นอกเหนือจากประเด็นอื่นๆ ที่กระทรวงคมนาคมได้เคย นำเสนอและแจ้งยืนยันในครั้งนี้

กระทรวงคมนาคม ขอให้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม กรณีที่กทม. รายงานว่าการโอนกรรมสิทธิ์ ยังไม่สมบูรณ์เนื่องจาก รฟม. ยังไม่สรุปรายละเอียดด้านการเงินช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ทำให้ไม่สามารถรับโอนโครงการได้

กระทรวงคมนาคม ขอรายงานข้อเท็จจริงว่า กทม. รฟม. สำนักงบประมาณ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมเพื่อหารือสรุปรายละเอียดค่าใช้จ่ายโครงการ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ร่วมกันเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 แต่ยังมีประเด็นเกี่ยวกับแนวทาง การดำเนินการตามเงื่อนไขการอนุญาตให้เข้าพื้นที่ กรณีการติดตั้งสะพานเหล็ก แยกหทัยราษฎร์ และแยกพุทธมณฑลสาย 2 ซึ่งรอคำยืนยันจากกทม.

เนื่องจากการพิจารณากรอบวงเงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วง หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จะได้ข้อสรุปมีความจำเป็นต้องทราบความชัดเจน ของแนวทางการติดตั้งสะพานเหล็กทั้ง 2 แห่ง เพื่อประกอบการจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายของโครงการ ซึ่งกระทรวงคมนาคม ได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 และวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 รายละเอียดตามที่ส่งมาด้วย 6 -7 ของทราบผลการพิจารณาของกทม. และปัจจุบันกทม. ยังไม่ได้แจ้งผลการพิจารณาให้กระทรวงคมนาคมทราบ

@เปิดภาระหนี้สีเขียว กว่า 5.3 หมื่นล. กทม.ยังชำระไม่ครบ คมนาคมยังไม่โอนกรรมสิทธิ์

สำหรับภาระทางการเงินและการโอนกรรมสิทธิ์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว นั้น ทางกระทรวงคมนาคมยืนยันว่า ปัจจุบันยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้ง 2 ช่วง คือ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการและ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ - คูคต ให้กทม.แต่อย่างใด เนื่องจาก กทม.ยังไม่ได้ชำระหนี้ครบถ้วน ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว มีภาระค่าใช้จ่าย 3 ประเภท คือ เงินกู้ ใช้

สำหรับค่าก่อสร้างงานโยธา (เงินต้น ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายในการกู้เงิน), งบประมาณแผ่น เป็นค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และค่าจ้างที่ปรึกษารายงาน PPP ,เงินรายได้ของรฟม. เป็นค่าภาษีบำรุงท้องที่ โดยการชำระหนี้สินของโครงการมีดังนี้ 1. ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ วงเงินตามมติครม. จำนวน 19,163 ล้านบาท (วงเงินตามสัญญา 20,967.48 ล้านบาท) แบ่งเป็น เงินกู้ จำนวน 15,019.15 ล้านบาท,งบประมาณ จำนวน 4,115.88 ล้านบาท ,เงินรายได้รฟม. จำนวน 15.06 ล้านบาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 กทม.ได้ทำสัญญายืมเงินกับกระทรวงการคลัง 2 ฉบับ วงเงิน 19,163 ล้านบาท คงค้างจำนวน 15.06 ล้านบาท ที่รฟม.ใช้รายได้ดำเนินการ

ส่วน ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ – คูคต ณ วันที่ 31 มกราคม 2565 กทม.ยังไม่มีการชำระหนี้สินใดๆ โดย วงเงินตามมติครม. จำนวน 38,179 ล้านบาท (วงเงินตามสัญญา 44,339.95 ล้านบาท) แบ่งเป็น เงินกู้ จำนวน 28,166.63 ล้านบาท,งบประมาณ จำนวน 5,868.23 ล้านบาท ,เงินรายได้ รฟม. จำนวน 78.34 ล้านบาท
จากภาระทางการเงินดังกล่าว ที่กทม.ยังชำระไม่ครบถ้วน ดังนั้นจึงยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้กทม. และยังมีประเด็นเกี่ยวกับแนวทาง การดำเนินการติดตั้งสะพานเหล็ก แยกหทัยราษฎร์ และแยกพุทธมณฑลสาย 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดค่าใช้จ่ายโครงการ ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปและรอคำยืนยันจากกทม.

X

@กทม.ไม่เคลียร์ปมย้ายโครงเหล็กสะพานรัชโยธิน, เกษตร ไปทำใหม่ที่หทัยราษฎร์, บางแวก

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวถึง ประเด็น การติดตั้งสะพานเหล็กแยกหทัยราษฎร์ และแยกพุทธมณฑลสาย 2 ว่า เกิดจากช่วงก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ – คูคต ซึ่ง กทม.โดยสำนักการโยธา ได้อนุญาตให้ รฟม.เข้าพื้นที่ก่อสร้าง บริเวณถนนพหลโยธิน ซึ่งต้องมีการรื้อสะพานลอยรถยนต์ข้ามแยก 2 ตัว สะพานข้ามแยกเกษตรศาสตร์ สะพานข้ามแยกรัชโยธิน เพื่อก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งรถไฟฟ้า และก่อสร้างสะพานลอยใหม่โดยใช้โครงสร้างร่วมกับรถไฟฟ้า

โดยกทม.เขียนเงื่อนไข ว่าให้ รฟม.นำโครงเหล็กของสะพานเก่า 2 ตัวที่รื้อออก ไปก่อสร้างใหม่ ในตำแหน่งที่กทม.ระบุ โดยกทม. แจ้งภายหลัง ต่อมา กทม. ได้แจ้งให้ไปติดตั้งใหม่ที่แยกหมัยราษฎร์ 1 แห่ง และแยกพุทธมณฑลสาย2 อีก 1แห่ง ซึ่ง รฟม. ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจาก บริเวณดังกล่าวไม่อยู่ในแนวพื้นที่โครงการ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งได้แจ้งให้สำนักการโยธา ของกทม.ทราบ และเสนอให้โอนเงื่อนไขนี้ไปให้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ในฐานะหน่วยงาน กทม ที่ต้องรับโอนภาระหน้าที่ทั้งหมดของโครงการฯเป็นผู้ดำเนินการ แต่ สำนักการโยธา กับ สจส. ตกลงกันไม่ได้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 08/02/2022 6:04 pm    Post subject: Reply with quote

'ก้าวไกล'โหนสายสีเขียว สบช่องยืนข้าง'ภูมิใจไทย' ค้านสุดลิ่มขยายสัมปทาน
วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565, 13.43 น.

เป็นเรื่องแล้ว! "ก้าวไกล"ยืนข้าง"ภูมิใจไทย" ค้านสุดลิ่มขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ชง"ตั๋วร่วม"แก้ปัญหา จี้ดูในสัญญามีหรือไม่ อย่าให้ซ้ำรอยหนี้ท่วมปี 58

เมื่อเวลา 12.45 น.วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ที่รัฐสภา นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคก้าวไกล ร่วมแถลงข่าวคัดค้านการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เตรียมจะเห็นชอบ การต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในปี 2572 ออกไปอีก 30 ปี ทำให้สัญญาขยายไปถึง พ.ศ.2602 ที่ทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าแรกเข้าซ้ำซ้อน เป็นเหตุให้อัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวแพง




นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลได้คัดค้านการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวมาตั้งแต่ปี2562 และตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษา ซึ่งเสียงส่วนใหญ่คัดค้าน พร้อมทั้งเสนอให้แก้ไขสัญญาอย่างเป็นธรรม โปร่งใส แต่รัฐบาลก็ยังดึงดันจะต่อสัญญาออกไป เห็นได้จากการประชุมครม.วันที่8ก.พ. ที่มีความพยายามจะต่อสัญญาออกไปอีก 30 ปี พรรคก้าวไกลขอคัดค้าน และเห็นว่าทางออกเรื่องนี้คือ ผลักดันให้เกิดตั๋วร่วม โดยบริษัทบีทีเอสควรจะเข้าร่วมค่าโดยสารร่วมด้วยครอบคลุมไปถึงประชาชนที่สัญจรทั้งทางรถไฟฟ้า และรถเมล์ด้วย การมาแถลงข่าวครั้งนี้อยากจะชี้ให้ประชาชนเห็นว่า ใครทำอะไร เมื่อการเลือกตั้งที่จะมาถึงควรเลือกพรรคที่จะมาแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้กับประชาชน โดยไม่เอื้อให้กับบริษัทเอกชน

ส่วนกรณีรัฐมนตรีในพรรคภูมิใจไทยทั้ง 7 คน แสดงจุดยืนคัดค้าน โดยไม่ขอเข้าร่วมประชุม ครม.ในวันนี้นั้น แน่นอนเรื่องนี้ อาจมีทั้งเห็นตรงกัน ต่างกัน แต่เรื่องนี้พรรคก้าวไกลกับพรรคภูมิใจไทยเห็นตรงกัน ที่ไม่ควรขยายสัญญาสัมปทาน จากสัญญาปัจจุบันออกไป



ด้าน นายวิโรจน์ กล่าวว่า คน กทม.เผชิญกับค่าโดยสารรถไฟฟ้าแพง เนื่องจากมีสัญญาสัมปทานพัวพันกันมากกว่า 10 ฉบับ ต้องจ่ายค่าแรกเข้าซ้ำซ้อนเวลาเดินทางที่ต้องเปลี่ยนเส้นทาง เปลี่ยนสี ก็ต้องมาจ่ายค่าแรกเข้าใหม่ ทำให้ค่าโดยสารแพง ผู้ว่าฯ กทม.ต้องกระตือรือร้น ทำให้มั่นใจว่า การที่จะต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวที่จะหมดในปี 2572 และจะมีการต่อสัญญาจากวันนี้ออกไป รวมเป็น 37 ปี ที่จะไปสิ้นสุดลงในปี พ.ศ.2602 ต้องทำให้มั่นใจว่า มีการพูดถึงตั๋วร่วม ค่าโดยสารร่วมด้วยหรือไม่ แต่เท่าที่ติดตามคือ ยังไม่มี ดังนั้นจะทำให้คน กทม.ต้องรับภาระ ค่ารถไฟฟ้าแพง ผู้ว่ากทม.แม้จะมีอำนาจจำกัด แต่ท่านก็ต้องดูแลค่าครองชีพให้ประชาชน ไม่อยากให้เกิดเหมือนกรณีเมื่อปี 2558 ที่ได้ไปรับส่วนต่อขยายจาก รฟม.ทำให้เป็นหนี้กว่าแสนล้านบาท เป็นหนี้ค่าจ้างเดินรถ เนื่องจากประเมินผู้โดยสารผิดพลาด จนมาถึงเรื่องนี้ก็ยังไม่เห็นบทบาทผู้ว่ากทม. ที่กระตือรือร้นว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้ประชาชนอย่างไร

ด่วน! ครม.ตีกลับสัมปทานบีทีเอสสายสีเขียว หลัง 7 รมต.ภูมิใจไทยไม่ร่วมสังฆกรรม
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 14:22
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 14:22 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ด่วน! ครม.ตีกลับ การต่อสัมปทานบีทีเอสสายสีเขียว หลัง 7 รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ไม่ร่วมสังฆกรรม ใน ครม.

วันนี้ (8 ก.พ.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตีกลับวาระที่เสนอโดยกระทรวงมหาดไทย ที่ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และให้นำกลับมาพิจารณาใหม่ภายหลังจากที่ 7 รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ได้ยื่นหนังสือขอลาการประชุม ครม. เนื่องจากอ้างว่าติดภารกิจ และแสดงออกถึงความเห็น ที่ไม่เห็นด้วยกับกรณีดังกล่าว

‘มท.1’เมินภท.สไตรค์ขวาง‘สายสีเขียว’ ลั่นข้อมูลเสร็จเมื่อไรยื่นครม.เมื่อนั้น
วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565, 15.14 น.


เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการพิจารณาการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า ทางกระทรวงคมนาคมต้องการข้อมูลชี้แจงเพิ่มเติม ครม.จึงมีมติให้ไปชี้แจงเพิ่มเติมแล้วนำเรื่องกลับเข้ามา ครม.ใหม่ ซึ่งเป็นไปตามที่กระทรวงคมนาคม ยื่นหนังสือมาและมีข้อทักท้วง 4 ข้อ โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการถอนวาระการพิจารณาออกจากการประชุม ครม.แต่อย่างใด เพียงแต่เป็นการไปนำข้อมูลมาเพิ่มเติม


เมื่อถามถึงกรณี 7 รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยไม่เข้าร่วมประชุม ครม. ถือเป็นปัญหาหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า “ไม่เป็นไร เพราะมติครม. ก็ยังเป็นมติครม.”



เมื่อถามย้ำว่าจะมีการนำเรื่องดังกล่าวกลับเข้าที่ประชุมครม. เมื่อไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า “เสร็จเมื่อไหร่ก็สามารถนำกลับเข้ามาพิจารณาได้เมื่อนั้น”

"บิ๊กตู่"ยันปมรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไม่กระทบการทำงานพรรคร่วม -หาข้อยุติก่อนเข้าครม.ใหม่
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 16:18
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 16:18 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายกฯยันปมรถไฟฟ้าสายสีเขียวไม่กระทบการทำงานพรรคร่วม มอบ กทม.นำข้อสังเกตครม.หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาข้อยุติก่อนเข้าครม.ใหม่

วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.40 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังประชุมครม.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายถึง ข้อเท็จจริงปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวและท่าทีของพรรคภูมิใจไทยที่ไม่เข้าร่วมประชุมครม.จะส่งผลกระทบต่อโครงการและการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร วันนี้การดำเนินการตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่กำหนดให้กระทรวงมหาดไทยและกทม.นำผลการเจรจาเสนอให้ครม. พิจารณาและจากการพิจารณาในวันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบางหน่วยมีข้อสังเกตบางประการ จึงมอบหมายให้กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือกันให้ได้ข้อยุติก่อนเสนอครม.พิจารณาต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 87, 88, 89 ... 100, 101, 102  Next
Page 88 of 102

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©