เล่าเรื่องจากกำหนดเวลาเดินรถในอดีต ภาค ๑

tuie · Posted: 16/02/2008 9:00 pm Post subject:

นอกจากขบวนรถด่วนที่ ๑๑/๑๒ และขบวนรถด่วนที่ ๑๙/๒๐ จะปรับปรุงกำหนดเวลาให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ขบวนรถไปสุไหงโกลกและบัตเตอร์เวอร์ธมีเดินทุกวันแล้ว การจัดริ้วขบวนยังมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยครับ

Click on the image for full size

สมัยขบวนรถด่วนที่ ๑๙/๒๐ ยังเดินระหว่างกรุงเทพ-ยะลา ตามปกติริ้วขบวน ๑๙ ประกอบไปด้วย ๑ บพห. ๕-๖ บชส. ๑ บชท. ๑ บกข. ๒ บนท.(๓๒ ที่) ๑ บนท.ป.(๓๒ ที่) ไปถึงยะลา ต่อจากนั้นถึงเป็นรถที่ตัดที่ชุมทางหาดใหญ่ ๔ คัน ได้แก่ ๑ บนท.ป.(๓๒ ที่) ๓ บนท.(๓๒ ที่) ส่วนเที่ยวกลับขบวน ๒๐ ก็จะสับเปลี่ยน บพห. มาอยู่หน้าสุด นอกนั้นก็ตามด้วย บนท.ป. บนท. บชท. บกข. และ บชส. ที่มาจากยะลา พอถึงชุมทางหาดใหญ่จึงมีการสับเปลี่ยนนำรถ บนท. และ บนท.ป. ที่ตัดไว้ต่อเข้าในลักษณะแทรกระหว่าง บพห. กับ บนท.ป. ที่มาจากยะลาครับ เอกลักษณ์ของด่วน ๑๙/๒๐ เดิม คือ เป็นรถด่วนขบวนเดียวในยุคนั้นที่ไม่มี บนอ.ป. พ่วง กับมี บนท.ป. อยู่สองคันติดกันขนาบหัวท้ายด้วย บนท.

พอขยายปลายทางขบวน ๑๙/๒๐ เป็นกรุงเทพ-สุไหงโกลก แล้ว ริ้วขบวนก็เปลี่ยนแปลงไปครับ ตาปกติขบวน ๑๙ ประกอบไปด้วย ๑ บพห.(กรุงเทพ-สุไหงโกลก) ๑ บนท.ป.(๓๒ ที่) ๒ บนท.(๓๒ ที่) (กรุงเทพ-หาดใหญ่) ๑ บนท.(๓๒ ที่) (กรุงเทพ-ยะลา) ๕ บชส. ๑ บชท. ๑ บกข. ๒-๓ บนท.(๓๒ ที่) ๑ บนท.ป.(๓๒ ที่) และ ๑ บนอ.ป. (กรุงเทพ-สุไหงโกลก) เท่ากับรถขบวนนี้มีการตัดโบกี้ระหว่างทางถึงสองสถานี คือ ที่ชุมทางหาดใหญ่ และยะลาซึ่งเคยเป็นสถานีปลายทางของขบวน ๑๙ ครับ

แต่พอเป็นเที่ยวกลับ ขบวน ๒๐ นอกจากจะมีการสับเปลี่ยน บพห.มาอยู่หน้าสุดแล้วจัดริ้วขบวนในลำดับเดิม โดยต่อโบกี้ที่ตัดไว้ตอนขาไปกลับคืนเข้าริ้วขบวนที่ ยะลา และชุมทางหาดใหญ่แล้ว ยังมีการต่อโบกี้ที่ชุมทางทุ่งสงเข้าท้ายขบวน ๒๐ เป็นรถ บนท.(๓๒ ที่) ทุ่งสง-กรุงเทพ อีก ๑ คันครับ เท่ากับเวลานั่งขบวน ๒๐ กลับจากสุไหงโกลก เราจะได้ฟังเสียงกระแทกเวลาต่อโบกี้เข้าริ้วขบวนในระหว่างทางถึง ๓ สถานี Very Happy

ได้แก่ ที่ยะลา ๒ โครม ที่ชุมทางหาดใหญ่ ๒ โครม และที่ชุมทางทุ่งสงอีก ๑ โครม สนุกไปเลยครับ Embarassed

เหตุที่ยะลามี ๒ โครม ก็เพราะรถจักรที่ใช้ทำขบวนต้องไปลากเอารถ บนท. ยะลา-กรุงเทพ มาต่อท้ายขบวน ๑ โครมก่อน แล้วถึงกลับมาต่อเข้ากับรถ บพห.ตามเดิม อีก ๑ โครม ส่วนที่ชุมทางหาดใหญ่นั้น เป็นไปตามปกติที่นอกจากจะมีการต่อรถด้านท้ายขบวนแล้ว ยังมีการสับเปลี่ยนรถจักรที่ใช้ทำขบวนด้วยครับ

Click on the image for full size

รถบนท.ที่ตัดไว้ทุ่งสงแล้วนำมาต่อเข้าท้ายขบวน ๒๐ นี้ เดิมจะพ่วงมากับขบวน ๑๑ แล้วต่อกลับขบวน ๑๒ แต่พอปรับปรุงเวลาใหม่ขบวน ๑๑ ถึงชุมทางทุ่งสงตั้งแต่ตี ๔ ขบวน ๑๒ ออกจากทุ่งสง ๒๐.๐๔ น. เลยมีการเปลี่ยนแปลงนำ บนท. กรุงเทพ-ทุ่งสง ไปพ่วงกับขบวนรถที่เดินในเวลาใกล้เคียงกับเวลาของขบวน ๑๑/๑๒ เดิม คือ เที่ยวไปขบวน ๑๑ เดิม ออกจากกรุงเทพ ๑๖.๑๐ น. ถึงชุมทางทุ่งสง ๖.๓๘ น. เที่ยวกลับขบวน ๑๒ เดิม ออกจากชุมทางทุ่งสง ๑๖.๑๕ น. ถึงกรุงเทพ ๖.๔๕ น.

ตามกำหนดเวลาที่ปรับปรุงใหม่ก็มีขบวนรถเร็วที่ ๔๓ ที่เดินในเวลาใกล้เคียงกับขบวน ๑๑ เดิม คือ ออกจากกรุงเทพ ๑๖.๐๐ น. ถึงชุมทางทุ่งสง ๕.๓๑ น. ส่วนเที่ยวกลับมีขบวน ๒๐ ที่เดินในเวลาใกล้เคียงกับขบวน ๑๒ เดิม คือ ออกจากชุมทางทุ่งสง ๑๘.๑๔ น. ถึงกรุงเทพ ๗.๐๕ น. จึงมีการเปลี่ยนแปลงนำรถ บนท. กรุงเทพ-ทุ่งสง พ่วงท้ายขบวน ๔๓ พอเที่ยวกลับกรุงเทพก็เปลี่ยนมาพ่วงท้ายขบวน ๒๐ ครับ Very Happy

tuie · Posted: 16/02/2008 9:49 pm Post subject:

ริ้วขบวน ๑๑/๑๒ มีความเปลี่ยนแปลงอยู่บ้างแต่ไม่มากเท่าขบวน ๑๙/๒๐ ครับ ขบวน ๑๑/๑๒ ยังมีแต่รถชั้น ๑-๒ ไม่มีชั้น ๓ พ่วงเหมือนเดิม ที่หายไป คือ รถ บนอ.(๘ ห้อง พัดลม) บชท.ป.ที่ตัดที่หาดใหญ่และ บนท.ที่ตัดที่ทุ่งสง ส่วน บนท.ป. และ บนท. ที่ตัดที่หาดใหญ่ ขาไปยังพ่วงตอนหน้าของขบวน ๑๑ เหมือนเดิม ตามปกติจะเรียงลำดับอย่างนี้ครับ ๑ บพห.(บัตเตอร์เวอร์ธ) ๑ บนท.ป.(๓๒ ที่) (กรุงเทพ-หาดใหญ่) ๕ บนท.(๓๒ ที่) ๑ บกข.(กรุงเทพ-หาดใหญ่) ๑ บชท. ๓ บนท. และ ๑ บนอ.ป.(กรุงเทพ-บัตเตอร์เวอร์ธ) ถ้าเป็นเที่ยวกลับขบวน ๑๒ ก็สับเปลี่ยน บพห. มาอยู่หน้าสุดตามด้วย บนอ.ป.บัตเตอร์เวอร์ธ-กรุงเทพ ไล่เรียงตามลำดับเดิมจนถึง บนท.ป. หาดใหญ่-กรุงเทพ เป็นคันสุดท้ายครับ

ส่วนขบวนรถเร็วที่ ๔๕/๔๖ กรุงเทพ-สุไหงโกลก ในยุคนั้นยังมีรถชั้นสองพ่วงเพียง ๒ คัน คือ รถ บนท.(๓๒ ที่) กับ บชท. อย่างละคัน มี บชส. ๓-๔ คันตัดที่หาดใหญ่เหมือนเดิม ริ้วขบวนขบวนรถเร็วที่ ๔๑/๔๒ กรุงเทพ-ตรัง ขบวนรถเร็วที่ ๔๗/๔๘ กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช ก็เช่นกันครับ คงมีแต่ขบวนรถเร็วที่ ๔๓ ที่มีรถ บนท. กรุงเทพ-ทุ่งสง พ่วงท้ายเพิ่มมาอีกหนึ่งคัน

tuie · Posted: 17/02/2008 8:08 pm Post subject:

การนำเสนอกำหนดเวลาเดินรถในตารางฉบับนี้ มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ตารางหลักจะแสดงข้อมูลสถานีในเส้นทางหลักของสายใต้จากกรุงเทพ/ธนบุรี-ชุมทางหาดใหญ่-บัตเตอร์เวอร์ธ ส่วนข้อมูลในเส้นทางแยก เช่น สายคีรีรัฐนิคม สายกันตัง และสายสุไหงโกลก จะอยู่ในตารางย่อยของแต่ละเส้นทางในหน้าหลังสุด แต่เมื่อดูข้อมูลในตารางหลักของกำหนดเวลาเดินรถสายใต้ฉบับนี้ ปรากฏว่า มีข้อมูลรวมไปถึงสายสุไหงโกลก สายกันตัง และสายคีรีรัฐนิคมด้วยครับ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดี สะดวกขึ้นกว่าเดิมเพราะไม่ต้องพลิกดูข้อมูลจากหลายตารางต่อกัน Very Happy

ด้วยเหตุนี้เราจึงได้เห็นขบวนรถรวมทุ่งสง-กันตัง ขบวนรถรวมสุราษฎร์ธานี-คีรีรัฐนิคม ในตารางข้างต้นครับ นอกจากนี้สถานีบางสถานีที่ไม่เคยมีชื่อในตารางปี ๒๕๒๘ ก็ปรากฏชื่อในตารางดังกล่าว เช่น อะลอร์สตาร์(อยู่ที่มาเลเซีย) บ้านส้อง นาสาร

Click on the image for full size

tuie · Posted: 17/02/2008 9:28 pm Post subject:

พลิกมาชมหน้าหลังสุด(หน้า ๔)ของกำหนดเวลาเดินรถฉบับนี้บ้างครับ ที่ว่าข้อมูลกำหนดเวลาขบวนรถที่เดินจาก/ถึงสถานีธนบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี น้ำตก หายไป Shocked

ปรากฏว่ามาอยู่ในสองตารางหน้านี้นี่เอง เป็นการรวมข้อมูลกำหนดเวลาขบวนรถธรรมดา และขบวนรถรวมที่เดินในเส้นทางจากธนบุรี-ชุมทางหนองปลาดุก-กาญจนบุรี-น้ำตก-สุพรรณบุรี-ชุมพร ไว้ในตารางย่อยตารางเดียวกัน ทำให้ปรากฏชื่อสถานี/ที่หยุดรถที่ไม่มีชื่อพิมพ์ในกำหนดเวลาเดินรถสายใต้ ปี ๒๕๒๘ ในตารางนี้ ได้แก่ ท่าเรือน้อย ศรีสำราญ บางสะพานน้อย ปะทิว

Click on the image for full size

สังเกตว่า ในตารางฉบับก่อนๆระบุว่าขบวน ๔๕/๒ และ ๔๖/๒ ธนบุรี-ตลิ่งชัน เป็นขบวนรถธรรมดา แต่ตามตารางฉบับนี้ขบวนรถทั้งสองเป็นขบวนรถเร็วเท่ากับขบวนหลัก คือ ขบวนรถเร็วที่ ๔๕/๔๖ แล้วละครับ

Click on the image for full size

สำหรับกำหนดเวลาขบวนรถธรรมดา และขบวนรถรวมในตารางหน้า ๔ นี้ ยังคงเป็นไปตามเดิม คงมีแต่ขบวนรถเร็วที่เดินระยะทางสั้นที่สุดในประเทศไทย คือ ขบวน ๔๕/๒ และ ๔๖/๒ ที่เปลี่ยนแปลงกำหนดเวลาให้สอดรับกับกำหนดเวลาของขบวน ๔๕/๔๖ ที่ปรับปรุงใหม่ครับ

tuie · Posted: 17/02/2008 9:59 pm Post subject:

นอกจากสองตารางข้างต้นซึ่งอยู่ด้านบนซ้าย และบนขวาหน้า ๔ ของกำหนดเวลาเดินรถฉบับนี้แล้ว ด้านล่างซ้ายยังมีตารางรถไฟมาเลเซียฉบับย่อ เดินระหว่างบัตเตอร์เวอร์ธ-กัวลาลัมเปอร์-สิงคโปร์ ให้ผู้โดยสารขบวนรถด่วนที่ ๑๑/๑๒ ซึ่งจะเดินทางต่อได้ทราบข้อมูลอีกด้วยครับ

Click on the image for full size

ส่วนด้านล่างขวานั้น เป็นโฆษณาพร้อมภาพนางแบบบนเตียงล่าง บนท. ครับ Cool

ท่านที่ติดตามโฆษณารถนอนของการรถไฟในยุคก่อน ท่านคงจำได้ว่า นางแบบมักจะนอนอ่านหนังสือแทบจะทุกที ไม่รู้จะขยันอะไรกันนักหนา ทำไมไม่แอบเปิดมู่ลี่ชมวิวยามราตรี ดูรถสวน รถแซงแบบชาวเวบเราบ้างนะครับ Laughing

จากข้อความที่อยู่ด้านล่างหน้า ๔ จะเห็นได้ว่า ในยุคนั้นเปิดจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าก่อนวันเดินทางนานถึง ๙๐ วัน ซื้อตั๋วได้ทุกชั้น จาก-ถึง สถานีต่างๆทุกสถานี ยังไม่มีระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ใช้ในการสำรองที่นั่งอย่างในยุคปัจจุบันหรอกนะครับ ในทางปฏบัติหากไม่ได้ซื้อตั๋วล่วงหน้าสำหรับขบวนรถที่ต้องสำรองที่นั่งที่ห้องจำหน่ายตั๋วล่วงหน้า สถานีกรุงเทพ สถานีต่างๆ เช่น สามเสน ชุมทางบางซื่อ ก็ต้องใช้โทรศัพท์ติดต่อขอสำรองที่นั่งจากที่นี่ไปใช้ออกตั๋วให้เราอีกทอดหนึ่งครับ

tuie · Posted: 18/02/2008 9:18 pm Post subject:

วันก่อนผมเปิดสมุดสะสมตั๋วรถไฟของผม เห็นตั๋วบางเที่ยวเดียว(สีน้ำตาล)ใบหนึ่งซึ่งมีความหลังเกี่ยวพันกับกำหนดเวลาเดินรถสายใต้ ฉบับปรับปรุงใหม่วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ เลยขอนำมาให้ชมกัน ณ ที่นี้ครับ Very Happy

นับตั้งแต่ทราบข่าวว่ามีการปรับปรุงกำหนดเวลาเดินรถสายใต้ในครั้งดังกล่าว ผมก็อยากจะไปประเดิมนั่งขบวนรถด่วนที่ ๑๙ ให้ถึงสุไหงโกลกสักครั้งหนึ่ง เพราะที่เคยนั่งขบวน ๑๙ ในครั้งก่อนๆยังเป็นด่วนยะลาน่ะครับ จะไปตั้งแต่วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันธรรมดาก็ไม่ได้ เนื่องจากตอนนั้นยังเป็นนักเรียน ม.๓ โรงเรียนเปิดแล้ว จะไปตอนหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็เวลาไม่พอ แม้จะออกเดินทางวันศุกร์ รถออก ๑๔.๐๐ น. ก็ต้องโดดเรียนครึ่งวัน ถ้าจะรอให้ทางบ้านพาไปเที่ยวโดยผนวกโปรแกรมการนั่งขบวน ๑๙ เอาไว้ด้วย ก็ไม่ทราบว่าคุณพ่อคุณแม่ของผมท่านจะว่างพาไปเมื่อใด Sad

ดีไม่ดีต้องรอจนถึงปิดเทอมใหญ่เมษายนเป็นแน่ อยากไปจริงๆ อยากไปจริงๆ ผมคงต้องหาทาง “แอบ” ไปนั่งรถเที่ยวเองละครับ Cool

ว่าแต่วันไหนดีถึงจะไปได้โดยไม่เสียการเรียน(ทางบ้านผมเข้มงวดเรื่องเรียนครับ) ดูๆปฎิทินแล้วมีวันหยุดต่อเนื่องสามวันช่วง ๕ ธันวาคม ๒๕๒๙

งานนี้รอช้าไม่ได้แล้วครับ ในวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ ผมรีบไปซื้อตั๋วที่ห้องจำหน่ายตั๋วล่วงหน้า สถานีกรุงเทพ ทันที ในวันนั้นฝุ่นควัน ร่องรอยจากอุบัติเหตุ คุณปู่ยีอี ๖ คัน ถล่มหัวลำโพงยังไม่ทันจางเลยครับ(ถล่มวันที่ ๘ พ.ย.๒๙) ผมต้องเดินลัดเลาะไปตามแนวรั้ว(ชั่วคราว)กั้นระหว่างโซนที่เจ้าหน้าที่กำลังซ่อมแซมความเสียหายจากอุบัติเหตุดังกล่าว ฝุ่นฟุ้ง เสียงเครื่องจักรเครื่องมือทำงานดังลั่น กว่าจะเข้าไปถึงห้องจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าได้ทุลักทุเลพอสมควรเชียวละครับ Laughing

ในที่สุดผมก็ได้ตั๋วขบวนรถด่วนที่ ๑๙ รถ บนอ.ป. ห้องเตียงเดี่ยว รถคันที่ ๑๗ เลขที่นั่ง/นอน ๒ รถ บนอ.ป. รุ่นแรกนั้น แต่ละคันมีห้องเตียงเดี่ยวแท้ๆ ๓ ห้อง (ไม่ใช่การเดินทางคนเดียวแล้วเหมาห้องเตียงคู่แบบปัจจุบัน) ได้แก่ห้องเบอร์ ๑ ห้องเบอร์ ๒ และห้องเบอร์ ๓ ครับ

Click on the image for full size

ค่าตั๋ว บนอ.ป. กรุงเทพ-สุไหงโกลก ใบนี้ ๑,๑๕๘ บาท สมัยนี้อาจดูไม่แพงเท่าไร แต่ในยุค ๒๐ กว่าปีก่อนที่ราคาก๋วยเตี๋ยวทั่วๆไปชามละ ๗-๘ บาท ค่ารถเมล์ยัง ๒.๕๐ บาท ตลอดสาย ผมเองตอนนั้นยังได้ค่าขนมวันละ ๓๐ บาทเอง เมื่อเทียบกับราคาค่าตั๋วดังกล่าวแล้วถือว่าแพงมากสำหรับเด็กมัธยมต้นครับ ไม่ใช่ว่าจะมีนิสัยฟุ่มเฟือยใช้เงินเกินตัวหรอกนะครับ นอกจากจะชอบเดินทางโดยรถ บนอ.ป.มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ยังมีเหตุผลอยู่เหมือนกันแต่ออกแนวบ้าๆหน่อย Embarassed

คือ ผมอยากได้ตั๋วใบเดียวสำหรับเดินทางคนเดียวที่ราคาแพงที่สุดในประเทศไทยในยุคนั้นมาสะสมน่ะครับ ตั๋วบางใบนี้ย่อมบรรลุวัตถุประสงค์ของผมแน่ๆ เพราะค่าโดยสารรถชั้นหนึ่งแพงที่สุดอยู่แล้ว ระยะทางจากกรุงเทพ-สุไหงโกลก ก็ไกลที่สุดในบรรดาขบวนรถโดยสารที่มีเดินตามปกติ ค่าธรรมเนียมรถ บนอ.ป.ห้องเตียงเดี่ยว ก็แพงที่สุดในบรรดารถโดยสารที่ให้บริการตามปกติน่ะครับ Cool

Compressor · Posted: 18/02/2008 9:27 pm Post subject:

tuie · Posted: 18/02/2008 10:07 pm Post subject:

tuie · Posted: 19/02/2008 8:41 pm Post subject:

ขอเล่าความหลังที่ไปตะลอนทัวร์สุไหงโกลกกับขบวน ๑๙ เมื่อ ๒๐ กว่าปีก่อนต่อให้จบนะครับ Cool

--------------------------------------------------------------------------------

แผนการเดินทางนั่งรถไฟเที่ยวแสนสุขใจของผมก็คือ นั่งขบวน ๑๙ จากกรุงเทพวันศุกร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๒๙ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ(วันเฉลิมฯ)เวลา ๑๔.๐๐ น. ถึงสุไหงโกลกวันเสาร์ที่ ๖ เวลา ๙.๓๕ น. เดินชมสถานีสุไหงโกลกสักหน่อย(ตอนนั้นสถานการณ์ยังสงบครับ) แล้วนั่งขบวนรถเร็วที่ ๔๖ ออกจากสุไหงโกลก ๑๐.๓๐ น. กลับมาถึงชุมทางหาดใหญ่ เวลา ๑๔.๐๘ น. นั่งดูรถไฟสักพัก จากนั้นขึ้นขบวนรถด่วนที่ ๑๒ ออกจากหาดใหญ่ ๑๖.๕๕ น. ถึงกรุงเทพสายวันอาทิตย์ที่ ๗ เวลา ๘.๓๕ น. กลับเข้าบ้านไม่เป็นที่ผิดสังเกต Cool

เอาเข้าจริงพอถึงวันเดินทาง ขบวน ๑๙ เสียเวลามากขึ้นเรื่อยๆจาก ๑๕-๒๐ นาที แถวๆหัวหิน เป็น ๔๕-๕๐ นาที แถวๆละแม พอถึงชุมทางหาดใหญ่ ก็ช้าเพิ่มเป็น ๗๐ นาที แล้ว ลุ้นละสิครับทีนี้ว่าขบวน ๑๙ จะถึงสุไหงโกลกกี่โมง ผมจะทันกลับจากสุไหงโกลกมาหาดใหญ่โดยขบวน ๔๖ ตามแผนหรือไม่ Confused

ถ้าไม่ทันก็ต้องกลับขบวน ๒๐ ซึ่งไม่อยากกลับขบวนนี้เลย เพราะเขินๆเวลาเจ้าหน้าที่บนขบวนนี้ถามว่า อ้าว!กลับเลยหรือน้องฯลฯ ในที่สุดผมก็ไม่ทันกลับขบวน ๔๖ จริงๆแหละครับ Laughing

เพราะในวันนั้นขบวน ๔๖ หลีกขบวน ๑๙ ที่ไอสะเตียหรือโต๊ะเด็ง(จำไม่ได้แน่นอนครับ)เป็นที่เรียบร้อย กว่าขบวน ๑๙ จะถึงสุไหงโกลกก็ประมาณ ๑๑ โมง จอดและสับเปลี่ยนไม่ทันไรก็ทำขบวนกลับเป็นขบวน ๒๐ แล้ว ผมนั่งรถไฟจากกรุงเทพมาไกลถึง ๑,๑๕๙ ก.ม. มีโอกาสเดินอยู่ที่สุไหงโกลกประมาณ ๑๕ นาทีเองครับ

เที่ยวกลับขบวน ๒๐ มีฝนตกตั้งแต่รถถึงยะลาจนถึงชุมทางหาดใหญ่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าฝนจะหยุดตก ยังคงตกอย่างต่อเนื่องเดี๋ยวหนัก เดี๋ยวเบาบาง เคยทราบมาก่อนว่าทางภาคใต้มีฝนตกหนักมากในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เพิ่งจะได้เห็นของจริงเป็นครั้งแรกในคราวนั้นละครับ Shocked

เพราะพอผมขึ้นขบวน ๑๒ ออกจากชุมทางหาดใหญ่ตามเวลา ๑๖.๕๕ น. ระหว่างทางจนมืดแถวๆพัทลุงก็ยังมีฝนตกตลอดทางไม่ขาดเม็ด น้ำเจิ่งนองไปทั่ว บางที่ก็ปริ่มๆทางรถไฟแล้ว น่ากลัวจะเกิดเหตุน้ำท่วมทางขาดจริงๆ หากเป็นเช่นนั้นผมคงแย่แน่ๆเพราะกลับบ้านผิดเวลา Confused

พยายามตัดความกังวลปิดไฟในห้อง บนอ.ป. ให้มืดเพื่อไม่ให้มีแสงสะท้อนกับกระจกชมวิวข้างทางไปเรื่อยๆจนง่วงจึงนอนหลับไป ตื่นขึ้นมาอีกทีประมาณตี ๑ กว่าๆ ขบวนรถจอดที่ทางหลีกสถานีอะไรหว่ามืดจัง Question

กะประมาณดูเทียบกับกำหนดเวลาในตารางว่าน่าจะถึงแถวๆสะพลีได้แล้ว Rolling Eyes

แต่ความที่นั่งรถไฟเที่ยวมาทางใต้บ่อยๆดูวิวรายรอบบริเวณสถานีที่จอดมันไม่ใช่สะพลีแน่ๆ พยายามเพ่งอยู่นานปรากฏว่าเป็นสถานีเขาสวนทุเรียนครับ โอ้โฮ! แบบนี้ช้าเกิน ๒ ชั่วโมงแน่ๆ ว่าแต่ทำไมถึงช้าล่ะ เมื่อตอนหัวค่ำยังไม่เสียเวลาเลย แล้วจอดรอหลีกขบวนอะไรทำไมนานจัง ๑๕ นาทีก็แล้วยังไม่มีวี่แววขบวนรถที่จะแล่นสวนมาเลย Confused

แม้ว่ารถจะจอดนิ่งๆ เงียบสงบดี แอร์ก็เย็นสบายน่านอนหลับแค่ไหน ผมก็นอนไม่หลับครับ กังวลว่าเกิดอะไรขึ้น รถจอดนานเป็นชั่วโมงๆตี ๒ ผ่านไป ตี ๓ ก็แล้ว จนตี ๔ ก็ยังไม่ขยับ แบบนี้จะถึงกรุงเทพกี่โมงละนี่ ตายละวาบอกทางบ้านไว้ว่าจะกลับวันอาทิตย์เก้าโมงเช้า ผมไม่มีประวัติเหลวไหลผิดเวลาเสียด้วย สมัยนั้นโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็ไม่มีจะติดต่อใครก็ไม่ได้ รอไปเรื่อยๆจนเกือบๆตี ๕ ขบวนรถถึงเพิ่งจะเคลื่อนออกจากเขาสวนทุเรียน เพิ่งจะทราบภายหลังครับว่าวันนั้นมีขบวนรถตกรางขวางทางอยู่ที่ทุ่งคา กว่าจะยกออกและเปิดทางได้ก็ตีสี่กว่าๆ

ผลพลอยได้ก็คือ ผมเลยได้นั่งรถ บนอ.ป. ชมวิวเส้นทางสายใต้ตอนกลางวันยาวตั้งแต่แถวๆชุมพร-กรุงเทพ เชียวละครับ ทุกทีเคยแต่นั่งรถธรรมดา หรือบางช่วงก็ใช้รถดีเซลรางที่ ๑๖๙ ธนบุรี-ชุมพร ชมวิวทางช่วงนี้ ซึ่งผมชอบมากครับ มีทั้งภูเขา ทะเล สวนปาล์ม สวนมะพร้าว ทุ่งสามร้อยยอด ฯลฯ จะมีปัญหาอยู่บ้างก็คือ พอสักใกล้ๆเที่ยงอาหารบนรถเสบียงหมดครับ คงไม่ได้เตรียมไว้เผื่อรถเสียงเวลามากถึง ๗ ชั่วโมงแบบวันนั้น โชคดีที่ผมสั่งอาหารเที่ยงไว้ตั้งแต่เช้าเลยรอดตัวไป ในช่วงนั้นขบวน ๑๒ พอออกจากหัวหินแล้วไม่จอดเพชรบุรี-ราชบุรี-บ้านโป่ง-นครปฐม เลยครับ หมดสิทธิซื้ออาหารตามสถานีเหล่านี้มาปะทังชีวิต กว่าจะถึงสามเสนก็บ่ายสามโมงแน่ะครับ รีบกลับเข้าบ้านพร้อมหาทางแก้ตัวให้รอดพ้นจากไม้เรียวมาได้อย่างหวุดหวิด Laughing

แต่ยังไม่เข็ดนะครับกับการ “แอบ” ไปนั่งรถไฟเที่ยวไกลๆ จนโตเป็นผู้ใหญ่ก็ยังไปอยู่เรื่อยๆตามใจปรารถนา และมีเวลาว่างพอครับ Very Happy

tuie · Posted: 19/02/2008 9:39 pm Post subject:

ไม่ทราบว่าท่านยังจำกำหนดเวลาเดินรถสายเหนือฉบับย่อ แบบพกพาสะดวกเพราะขนาดพอๆกับบัตรเอทีเอ็ม ได้ไหมครับ Cool

ผมชอบกำหนดเวลาฉบับย่อแบบพกพานี้มาก เพราะพกใส่กระเป๋าเสื้อได้สบายๆไม่ต้องพับแบบกำหนดเวลาฉบับมาตรฐาน จะหยิบออกมาดูก็สะดวกรวดเร็วเพราะไม่ต้องคลี่รอยพับอย่างฉบับมาตรฐาน รออยู่นานจนจะสิ้นปีไม่เห็นมีการทำกำหนดเวลาสายใต้ฉบับย่อแบบพกพาออกมาแจกบ้าง อย่ากระนั้นเลยไหนๆก็มีกิจกรรมแนวบ้ารถไฟอย่างต่อเนื่องมาหลายเรื่องแล้ว ผมทำเองก็ได้ครับ Laughing