View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 19/02/2008 9:55 pm Post subject: |
|
|
กำหนดเวลาเดินรถสายใต้ฉบับย่อพกพาสะดวก แฮนด์เมด โดย นสน.าย. เมื่อ ๒๐ กว่าปีก่อน มีขนาดใหญ่กว่าบัตรเอทีเอ็มเล็กน้อย แต่ยังสามารถพกใส่กระเป๋าเสื้อได้สบายๆครับ
ไหนๆก็ลงมือทำเองแล้ว ผมก็เลยปรับปรุงแก้ไขสิ่งที่ขาดหายไปในกำหนดเวลาฯฉบับย่อที่การรถไฟฯทำ ให้มีข้อมูลครบถ้วนตามที่ผมต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงระยะทางจากกรุงเทพ ชื่อสถานีรายทางที่มากกว่า ขบวนรถที่ครบถ้วนไม่จำกัดแค่เฉพาะเวลาของขบวนรถด่วนรถเร็ว กว่าจะทำเสร็จมึนงง ตาลายแทบแย่เพราะช่องสำหรับกรอกข้อความ เวลาและรายละเอียดต่างๆเล็กมากครับ ต้องใช้ปากการ็อตติ้งเส้นเล็กขนาด ๐.๑ ซึ่งใช้ในวิชาเรขาคณิตกรอกข้อมูลครับ
อดทนทำอยู่หลายวันจนสำเร็จด้วยความภาคภูมิใจ แต่นำไปใช้งานจริงแทบไม่ได้เพราะอักษร และตัวเลขเล็กมากๆ ดูแล้วปวดตา พอมีเวลาว่างผมเลยทำฉบับปรับปรุงใหม่สีเขียว ช่องใหญ่กว่าเดิม เขียนตัวอักษร ตัวเลขได้ใหญ่ ดูชัดเจนกว่าเดิม
แต่ทว่าทำไม่เสร็จครับ เพราะเกิดเปลี่ยนใจระงับโครงการทำลายสายตานี้ในภายหลัง ยอมพกกำหนดเวลาฉบับมาตรฐานดีกว่า ไม่ต้องปวดตาตอนทำและตอนใช้งานจริง แต่ก็สายไปเสียแล้วเพราะหลังจากนั้นไม่กี่เดือนแพทย์ตรวจพบว่าผมสายตาสั้น เลยต้องสวมแว่นตาเรื่อยมาจนกระทั่งบัดนี้ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 20/02/2008 8:40 am Post subject: |
|
|
ขอนับถือในความพยายามจัดทำตารางเดินรถแบบพกพา สไตล์ อ.ตุ้ย จริงๆ ครับ... |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44531
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 20/02/2008 11:04 am Post subject: ทริปขบวน 129/130 หาดใหญ่-สุไหงโกลก-หาดใหญ่ |
|
|
ยุคนั้น ผมได้อาศัยขบวน 129 หาดใหญ่-สุไหงโกลก โดยขึ้นที่สถานีเทพาตอนเช้า
ไปถึงสถานีสุไหงโกลก เกือบเที่ยง แล้วนั่งสามล้อถีบไปชายแดน ข้ามไปฝั่งรันตูปันจาง
ซื้อพวกลูกเกด อาหารกระป๋อง (ลิ้นจี่กระป๋อง หมูตุ๋นกระป๋อง) ลูกหนำเลี้ยบ ฯลฯ
แล้วรีบกลับมาสถานีสุไหงโกลก ให้ทันขบวน 130 สุไหงโกลก-หาดใหญ่ ซึ่งออกบ่ายโมงกว่า กลับมาเทพาเย็นๆ พอดีครับ มีเวลาเที่ยวสุไหงโกลกแค่ชั่วโมงกว่าๆ ครับ
แถวๆ สถานีตันหยงมัสเป็นต้นไป ในสวนยางพาราข้างทาง จะมีต้นเฟิร์นชายผ้าสีดา เกาะอยู่เต็มไปหมดเลยครับ เดี๋ยวนี้หาดูในธรรมชาติไม่ค่อยได้แล้ว เวลานั่งรถไฟ มองเข้าไปในสวนยาง เพลินมากๆ ครับ นอกเหนือจากมองหาหลักกิโลเกิน ๑๐๐๐ ที่หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้วในประเทศไทย
นับเป็นทริปรถไฟของเด็ก ม.ต้น ที่ผมชอบมากๆ ครับ ไปกับแม่แล้วก็พี่ชาย-พี่สะใภ้ครับ
สถานการณ์ภาคใต้ยุคนั้นสงบเรียบร้อยดีมาก ข้ามไปเที่ยวรันตูไม่ต้องใช้พาสปอร์ตหรือหนังสือผ่านแดนอะไรเลยครับ จำได้ว่าผมถามแม่ครับว่าสะพานเหล็กข้ามแม่น้ำโกลกทำไมไม่มีรถไฟผ่าน แต่แม่ก็ตอบไม่ได้ครับ เคยหมายมั่นปั้นมือว่าสักวันจะเข้าไปสำรวจสะพานนี้ แต่ก็ไม่ได้ไปอีกเลย
ขอบคุณอาจารย์ตุ้ยครับที่ทำให้ความทรงจำของขบวนรถธรรมดาที่ 129/130 สีม่วงแดงกลับมาในความทรงจำของผมอีกครั้งครับ แม้จะผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 20/02/2008 8:02 pm Post subject: |
|
|
black_express wrote: | ขอนับถือในความพยายามจัดทำตารางเดินรถแบบพกพา สไตล์ อ.ตุ้ย จริงๆ ครับ... |
ผลพวงของความเพียรในเรื่องดังกล่าว บวกกับการชอบนอนอ่านหนังสือนานๆมาตั้งแต่เด็ก ผมเลยเริ่มสายตาสั้นมาตั้งแต่ ม.๔ เลยครับ แรกๆไม่ยอมสวมแว่น พอสั้นมากขึ้นสัก ๑๕๐-๒๐๐ ต้องสวมแล้ว ยิ่งเรียนไปก็ยิ่งสายตาสั้นเพิ่มเรื่อยๆตามคุณวุฒิ และวัยวุฒิ ดีว่าหยุดไว้ที่ ๖๐๐ นะครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ คุณMongwin ครับ ที่ช่วยรำลึกความหลังเกี่ยวกับเส้นทางสายใต้ในยุค "ใต้ร่มเย็น" ขอช่วยภาวนาให้สถานการณ์กลับสู่ความสงบโดยเร็วนะครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------
ก่อนจะสิ้นปี ๒๕๒๙ มีการเปลี่ยนแปลงกำหนดเวลาเดินรถสายใต้อีกครั้ง เริ่มใช้วันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๒๙ ครับ
รูปแบบ สีสัน ข้อมูลในตารางต่างๆยังคงเหมือนกับกำหนดเวลาเดินรถสายใต้ ฉบับเริ่มใช้ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ ครับ ยกเว้นกำหนดเวลาของขบวนรถเร็วที่ ๔๕/๔๖ จากเดิมที่ไม่จอดเพชรบุรีเป็นจอดเพชรบุรีแล้วครับ เที่ยวไปขบวน ๔๕ ออกจากเพชรบุรี ๑๕.๒๙ น. เที่ยวกลับขบวน ๔๖ ออกจากเพชรบุรี ๓.๓๖ น. ตอนแรกที่ให้ขบวน ๔๕/๔๖ ไม่จอดเพชรบุรีนั้น ขบวนรถด่วนที่ ๑๙/๒๐ ยังจอดเพชรบุรีเลยครับ อย่างนี้จะไม่ให้ผมเรียกขบวน ๔๕/๔๖ ในยุคนั้นว่า รถเร็วชั้นเลิศ ได้อย่างไร |
|
Back to top |
|
|
anusorn
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/09/2006 Posts: 1642
Location: มณฑลอาคเนย์
|
Posted: 06/03/2008 6:22 pm Post subject: |
|
|
tuie wrote: |
ส่วนด้านล่างขวานั้น เป็นโฆษณาพร้อมภาพนางแบบบนเตียงล่าง บนท. ครับ ท่านที่ติดตามโฆษณารถนอนของการรถไฟในยุคก่อน ท่านคงจำได้ว่า นางแบบมักจะนอนอ่านหนังสือแทบจะทุกที ไม่รู้จะขยันอะไรกันนักหนา ทำไมไม่แอบเปิดมู่ลี่ชมวิวยามราตรี ดูรถสวน รถแซงแบบชาวเวบเราบ้างนะครับ
|
ถ้ามีจอ LCD ขนาดเล็กติดตั้งพร้อมหูฟังเปิดหนังรอบดึกหรือคอนเสิร์ตแสดงสดด้วย ก็ดีนะครับ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 06/03/2008 8:06 pm Post subject: |
|
|
anusorn wrote: | ถ้ามีจอ LCD ขนาดเล็กติดตั้งพร้อมหูฟังเปิดหนังรอบดึกหรือคอนเสิร์ตแสดงสดด้วย ก็ดีนะครับ |
อาจารย์อาร์ตตี้ครับ
สมัย ๒๐ กว่าปีก่อน มีไฟหัวเตียงบนรถนอน เปิดได้ไม่เสีย ก็ถือว่าหรูแล้วครับ ถ้าสมัยนี้มีจอ LCD ก็คงจะดีสำหรับผู้โดยสารทั่วไป แต่สำหรับชาวเวบเราอาจไม่ค่อยได้ดูเท่าไร เพราะมัวแต่คอยดูวิวข้างทาง ดูรถสวน รถแซง แสงสีตามสถานีรายทางน่ะครับ
ทราบข้อมูลมาว่า รถไฟในต่างประเทศอย่าง ICE รุ่นใหม่ ของเยอรมนี บางขบวน ถ้าเป็นที่นั่งชั้น ๑ จะมีจอ LCD ส่วนตัว พร้อมระบบบันเทิง เสริฟอาหาร เครื่องดื่มถึงที่นั่ง ไม่แพ้บริการบนเครื่องบินเชียวละครับ ถ้ามีโอกาสไปนั่งเมื่อไร จะถ่ายภาพ พร้อมเล่าเรื่องราวประกอบ(อันยืดยาว)ให้ฟังต่อไปครับ
น่าไปจริงๆ น่าไปจริงๆ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 06/03/2008 9:45 pm Post subject: |
|
|
เชิญชมกำหนดเวลาเดินรถสายตะวันออกเฉียงเหนือ ปี ๒๕๒๙ กันบ้าง เริ่มจากฉบับเริ่มใช้วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๒๙ ตามภาพนี้ครับ
สีสันยังคงเป็นโทนสีเขียวอ่อนเหมือนกำหนดเวลาเดินรถสายตะวันออกเฉียงเหนือ ปี ๒๕๒๘ แต่เปลี่ยนภาพปกหน้ามุมบนซ้ายเป็นภาพพระธาตุพนม โดยมีข้อความด้านล่างภาพว่า พระธาตุพนม ลงต่อรถยนต์ที่อุบลราชธานี ตอนเห็นภาพปกอดคิดฝันไม่ได้ว่า โครงการสร้างทางรถไฟสายใหม่ ชุมทางบัวใหญ่-มุกดาหาร-นครพนม คงจะได้เกิดในอนาคตอันใกล้ (นับจากปี ๒๕๒๙) อีกไม่นานเราคงมีโอกาสได้นั่งรถไฟไปนครพนมโดยตรงสักที ๒๐ กว่าปีผ่านไปทุกอย่างเกี่ยวกับรถไฟสายนครพนมยังคงเดิมในขณะที่มีถนนตัดใหม่ ขยายใหม่เกิดขึ้นนับไม่ถ้วน พอถึงยุคน้ำมันแพงจะหันไปพึ่งรถไฟก็ยังมีเครือข่ายเส้นทางไม่ครอบคลุมทุกจังหวัด เฮ้อ...อนิจจาประเทศไทย
เผลอบ่นออกนอกเรื่องจนได้ กลับเข้าเรื่องของเราต่อดีกว่าครับ การแสดงข้อมูลค่าโดยสารอัตราพิเศษ ชั้นที่ ๓ รวมค่าธรรมเนียมรถเร็ว ตารางอัตราค่าโดยสาร และค่าธรรมเนียม ยังคงจัดวางในลักษณะเดิม และยังเป็นราคาเดียวกับเมื่อปี ๒๕๒๘ ครับ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 15/04/2008 7:25 pm Post subject: |
|
|
ห่างหายไปจากกระทู้นี้หลายสัปดาห์เนื่องจากภารกิจต่างๆทั้งงานหลวง งานราษฎร์ ออกทริปสุขใจ สมหวังจริงๆสารพัด แต่ยังไม่ทิ้งร้างกระทู้นี้นะครับ จะพยายามมาลงข้อมูลต่อเรื่อยๆ ต้องขออภัยในความล่าช้าด้วยครับ
--------------------------------------------------------------------------------------
พลิกมาชมตารางรถไฟสายอีสาน ปี ๒๕๒๙ ต่อนะครับ เริ่มจากเที่ยวขึ้น ขบวนรถโดยสารที่ออกจากกรุงเทพยังคงใช้เวลาเดิมเหมือนเมื่อปี ๒๕๒๘ แต่หลายขบวนมีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี กล่าวคือ ใช้ระยะเวลาเดินทางน้อยลง หรือถึงปลายทางเร็วขึ้นครับ เช่น ขบวนรถธรรมดาที่ ๖๑ กรุงเทพ-อุบลราชธานี ออกจากกรุงเทพ ๗.๑๕ น. ถึงอุบลฯ ๒๐.๑๕ น.(เดิมถึง ๒๐.๒๐ น.)
ขบวนรถดีเซลรางที่ ๒๑๑/๑๑๕ กรุงเทพ-นครราชสีมา ออกจากกรุงเทพ ๙.๐๕ น. ถึงนครราชสีมา ๑๔.๓๕ น. (เดิมถึง ๑๕.๒๓ น.) เร็วกว่าเดิมตั้ง ๔๘ นาทีเชียวนะครับ ทั้งๆที่ในตารางก็ยังปรากฏว่าจอดเท่าเดิม เข้าใจว่าเหตุผลหนึ่งน่าจะมาจากการเปลี่ยนไปใช้รถดีเซลราง NKF ซึ่งตอนนั้นยังใหม่วิ่งดีมากๆทำขบวนน่ะครับ เห็นแล้วคิดถึงรถดีเซลรางขบวนนี้จริงๆ
ในยุคนั้นผู้โดยสารขบวนรถดีเซลรางที่ ๒๑๑/๑๑๕ พอลงที่นครราชสีมาแล้ว หากจะเดินทางต่อไปในเส้นทางสายอีสานใต้ก็สามารถโดยสารต่อขบวนรถดีเซลรางที่ ๘๕ นครราชสีมา-สุรินทร์ ซึ่งออกจากนครราชสีมา ๑๕.๕๐ น. ถึงสุรินทร์ ๑๙.๐๕ น. ครับ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 15/04/2008 7:57 pm Post subject: |
|
|
น่าสังเกตว่าเครื่องหมายรถปรับอากาศในช่องตารางเวลาของขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ ๙๓๑,๙๓๓ กรุงเทพ-สุรินทร์ ก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ใช้เครื่องหมาย ป ในกรอบสี่เหลี่ยม เป็น ป ในวงกลม
ขบวน ๙๓๑ ปีนี้ ใช้เวลาวิ่งจากกรุงเทพ-นครราชสีมา ไม่ถึง ๔ ชั่วโมงนะครับ เพราะออกจากกรุงเทพ ๑๐.๕๕ น. ถึงนครราชสีมา ๑๔.๕๔ น. ขาดไป ๑ นาทีก็จะครบ ๔ ชั่วโมง แต่ขบวน ๙๓๑ ออกจากนครราชสีมา ๑๔.๕๙ น. ช้ากว่าเดิม ๒ นาที จอดห้วยแถลง กระสัง เพิ่มขึ้นมาทำให้ถึงสุรินทร์ ๑๗.๑๐ น. (ช้ากว่าเดิม ๕ นาที)
ส่วนขบวน ๙๓๓ ออกจากกรุงเทพ ๒๑.๕๐ น. ถึงนครราชสีมา ๒.๒๘ น. (เดิมถึง ๒.๔๙ น.) ถึงสุรินทร์ ๔.๕๐ น. (เดิมถึง ๕.๐๐ น.) ในปี ๒๕๒๙ นี้ ขบวน ๙๓๑/๙๓๒ ขบวน ๙๓๓/๙๓๔ ไม่จอดสระบุรีแล้ว จากเดิมที่จอดขบวนละ ๑ นาทีครับ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 15/04/2008 8:49 pm Post subject: |
|
|
ขบวนรถธรรมดาที่ ๖๓ และ ๖๕ กรุงเทพ-อุบลราชธานี ยังคงออกจากกรุงเทพตามเวลาเดิม คือ ๑๕.๒๕ น. และ ๒๓.๒๐ น. ตามลำดับ แต่ทั้งสองขบวนถึงปลายทางเร็วกว่าเดิม กล่าวคือ ขบวน ๖๓ ถึงอุบลราชธานี ๓.๓๕ น. (เดิมถึง ๔.๐๐ น.) ขบวน ๖๕ ถึงอุบลราชธานี ๑๒.๓๐ น. (เดิมถึง ๑๓.๒๒ น.)
ขบวนรถเร็วกลางคืน หนึ่งเดียวในเส้นทางสายอีสานใต้ยุคนั้น คือ ขบวนรถเร็วที่ ๓๙ กรุงเทพ-อุบลราชธานี ยังคงออกจากกรุงเทพเวลาเดิม ๑๘.๔๕ น. ถึงอุบลราชธานี ๔.๔๐ น. (เดิมถึง ๕.๑๕ น.) เร็วขึ้นกว่าเดิมตั้ง ๓๕ นาที ขบวนรถด่วนที่ ๑ กรุงเทพ-อุบลราชธานี เปลี่ยนแปลงเวลาออกจากกรุงเทพ จากเดิม ๒๐.๓๐ น. เป็น ๒๑.๐๐ น. ถึงอุบลราชธานี ๖.๓๐ น. (เดิมถึง ๖.๒๕ น.) ออกจากต้นทางช้ากว่าเดิมครึ่งชั่วโมงแต่ถึงปลายทางช้ากว่าเดิมแค่ ๕ นาที แสดงว่าขบวน ๑ เร็วขึ้น ๒๕ นาทีครับ
ขบวนรถท้องถิ่นในเส้นทางสายอีสานใต้ที่มีความเปลี่ยนแปลงมากก็ คือ ขบวนรถดีเซลรางที่ ๗๙ เดิมในปี ๒๕๒๘ เดินระหว่างนครราชสีมา-สุรินทร์ โดยออกจากต้นทาง ๑๖.๔๕ น. ถึงสุรินทร์ ๑๙.๕๕ น. พอมาถึงปี ๒๕๒๙ ขบวน ๘๕ เปลี่ยนเป็นเดินระหว่าง นครราชสีมา-ศรีสะเกษ โดยออกจากนครราชสีมา ๘.๑๐ น. ถึงศรีสะเกษ ๑๓.๑๕ น. จอดศรีสะเกษได้ ๑๕ นาที ก็ต้องทำขบวนกลับโดย เดินร่วม กับขบวนรถดีเซลรางที่ ๗๘ อุบลราชธานี-นครราชสีมา ซึ่งออกจากอุบลฯ ๑๒.๐๕ น. กลายเป็นขบวนรถดีเซลรางที่ ๗๘/๘๖ ออกจากศรีสะเกษ ๑๓.๓๐ น. ถึงนครราชสีมา ๑๘.๓๕ น. สรุปว่าสถานีศรีสะเกษเคยเป็นสถานีปลายทางของขบวนรถโดยสารอีกครั้งในปี ๒๕๒๙ หลังจากที่ขบวนรถธรรมดาที่ ๘๕/๘๖ ศรีสะเกษ-อุบลราชธานี ในยุคปี ๒๕๒๑ งดเดิน
ขบวนรถดีเซลรางที่ ๒๐๕/๒๐๖ แก่งคอย-สุรินทร์ ที่เคยมีในปี ๒๕๒๘ นั้น ไม่มีเดินในปี ๒๕๒๙ แล้วครับ |
|
Back to top |
|
|
|