View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 30/01/2015 8:51 am Post subject: |
|
|
ksomchai wrote: | สองข้างทางสายถนนสาย ๔๐๑ จากทางแยกเพชรเกษมเข้าไปบรรยากาศร่มรื่น ตรงนี้ประมาณ กม.๔ ครับ
ช่วง กม.๗-กม.๘ ครับ
|
น่าเสียดาย ครับ ถูกตัดเสียแล้า ไม่น่าเลย
http://www.nationtv.tv/main/content/social/378442253/
แจ้งความเอาผิด จนท.ตัดต้นหางนกยูงอายุ30ปี ทำลายแลนด์มาร์คอุโมงค์ต้นไม้ตะกั่วป่า
พังงา - ชาวบ้านอ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โวยหมวดการทางตัดต้นหางนกยูงอายุ ไม่น้อยกว่า 30 ปี ชี้ทำลายแลนด์มาร์คอุโมงต้นไม้ของเมือง เข้าแจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ หัวหน้าหมวดการทางคุระบุรี ยอมรับออกคำสั่งตัดต้นไม้ที่มีสภาพใกล้ตาย หลังผู้ใช้รถร้องเรียนบดบังทัศนวิสัยการขับขี่
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบต้นไม้ที่หมวดการทางคุระบุรี ได้ทำการตัดโค่นบริเวณจุดชมวิวอุโมงต้นไม้บ้านควนปัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา บนถนนสาย 401 อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มุ่งหน้า จ.สุราษฎร์ธานี ช่วง กม.7-8 หลังจากกลุ่มชาวโซเชียลทั่วทั้งจังหวัดพังงา ได้แชร์รูปภาพ ถนนสายอุโมงต้นหางนกยูง ในอดีดอันสวยงาม กับ ปัจจุบันซึ่งถูกตัดทำให้อุโมงต้นไม้เสียหายไปกว่า 200 เมตร จนกระทั่ง นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่าทราบเรื่อง และเกรงว่าจะมีการตัดต้นไม้ทั้งหมดทิ้ง จึงได้สั่งการให้หยุดตัดและทำลายต้นไม้ดังกล่าวพร้อมทั้ง พร้อมทั้งให้ผู้รับผิดชอบทำหนังสือชี้แจงเหตุผลต่อไป
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าตลอดเส้นทางดังกล่าวไปจนถึงอำเภอกะปง ได้มีการตัดต้นไม้ใหญ่ 2 ข้างทางเป็นจำนวนมากอีกด้วย และล่าสุดนายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้สั่งการให้สำนักงานบำรุงทางจังหวัดพังงาเข้าชี้แจงเหตุผลในการตัดต้นไม้ครั้งนี้ภายในวันนี้ (29 ม.ค. 58)
นางสาวชมพูนุช ประเสริฐพรพงศ์ ชาวบ้านในอำเภอตะกั่วป่า กล่าวว่า ต้นไม้ดังกล่าวอยู่คู่กับอำเภอตะกั่วป่ามาไม่น้อยกว่า 30 ปี จนกระทั่งเป็นอุโมงต้นหางนกยูงที่มีความยาวกว่า 1 กม. จึงทำให้ผู้ที่ผ่านไปมาต้องแวะถ่ายรูปอยู่เป็นประจำ บ่อยครั้งมีการใช้เป็นฉากประกอบในการถ่ายรูปแต่งงาน ซึ่งถือได้กลายเป็น แลนด์มาร์คของอำเภอตะกั่วป่า และ ถนนสายดังกล่าวไปเสียแล้ว โดยอุโมงต้นหางนกยูงนั้นจะมีความสวยงามในแต่ละฤดูแตกต่างกันไป ทั้งช่วงที่ออกดอก ผลัดใบ และเขียวชะอุ่ม เมื่อเจอเหตุการณ์ดังกล่าวตนและเพื่อนๆชาวโซเชียลมีเดียจึงเกิดความเศร้าใจ และ เสียใจ ที่แลนด์มาร์คของเมืองต้องพังไป จึงอยากให้ภาครัฐหาผู้รับผิดชอบก่อนจะหาทางดำเนินการแก้ไขให้กลับคืนสภาพเดิม
นายเรวัตร เสือเดช หัวหน้าหมวดการทางคุระบุรี ผู้รับผิดชอบถนนสายดังกล่าว กล่าวว่า ตนเป็นผู้ออกคำสั่งให้ทำการตัดแต่งกิ่งไม้ที่ยื่นออกมาในถนน และ อนุญาต ให้ทำการตัดต้นที่มีสภาพใกล้ตายและเอนไปในถนนออก เนื่องจากได้รับแจ้งจาก สภ.ตลาดใหญ่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ว่า ทัศนวิสัยในการขับรถไม่ดีทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวตนเองได้ไปราชการนอกพื้นที่ไม่สามารถเข้าควบคุมงานเองได้ อาจเกิดการเข้าใจผิดในคำสั่งจึงเกิดเหตุข้างต้น
นายสุรชัย ชินโสภณพันธ์ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดพังงา กล่าวว่า วันนี้ตนพร้อมชาวบ้านอำเภอตะกั่วป่า ได้เดินทางมาที่ สภ.ตลาดใหญ่เพื่อแจ้งความเพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่มาตัดต้นไม้เพราะว่าถนนสายนี้เป็นถนนที่มีหน้ามีตาของชาวอำเภอตะกั่วป่า เพราะหน่วยงานที่มาตัดต้นไม้ไม่ได้มีการทำประชาพิจารณ์กับชาวบ้านว่าเห็นด้วยหรือไม่ จากนี้ไปตนจะทำหนังสือไปยื่นเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพราะชาวบ้านรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำในครั้งนี้
--------------------------------------
ไม่ได้โจมตีกรมทางหลวงหรอกนะ ครับ ถ้าจำเป็นต้องตัดก็น่าจะตัดแต่งกิ่งให้สวยงาม ไม่ใช่ ตัดแบบถอนรากถอนโคนแบบนี้ _________________
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44505
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 30/01/2015 11:51 am Post subject: |
|
|
เห็นแล้วเสียดายมากครับ คงต้องแก้ปัญหาโดยการขุดล้อมต้นหางนกยูงฝรั่งจากที่อื่นมาปลูกทดแทน แต่กว่าจะเป็นอุโมงค์สวย ๆ แบบที่พี่สมชายถ่ายมาให้ชมคงอีกหลายปี
ต้นหางนกยูงฝรั่งไม่ค่อยนิยมปลูกตามบ้านเรือนทั่วไป เพราะรากใหญ่ยาว เป็นอันตรายต่อโครงสร้างได้ครับ
ที่ที่หยุดรถกำแพงแสนก็มีหางนกยูงฝรั่งด้วยครับ ต้นโตแล้วเหมือนกัน พอถึงหน้าแล้งก็จะดูเหมือนใกล้ตาย แต่พอถึงหน้าออกดอก (เม.ย.-พ.ค.) ก็จะออกดอกสวยครับ ไม่รู้ว่าใครมาปลูกไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=239196#239196 |
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 12/03/2015 7:01 am Post subject: |
|
|
ขออนุรักษ์เก็บอุโมงค์ต้นไม้ประวัติศาสตร์เมืองน่าน ในโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 1080
https://d22r54gnmuhwmk.cloudfront.net/photos/6/bw/ko/AQBWkOogzeTaGPf-800x450-noPad.jpg
เนื่องจากกรมทางหลวง ได้มีโครงการขยายไหล่ทางถนนสายน่าน - ทุ่งช้าง จาก 9 เมตร เป็น 12 เมตร ระยะทาง 138 กิโลเมตร ถึงชายแดนห้วยโก๋น ทำให้มีการตัดต้นไม้ข้างทางจำนวนมาก ทางกลุ่มและเครือข่ายจึงมีความเห็นว่า การพัฒนาอย่างยั่งยืนควรจะต้องร่วมไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ถูกต้อง จึงอยากขอร้องต่อคณะกรรมาธิการคมนาคมให้มีการอนุรักษ์เก็บอุโมงค์ต้นไม้ประวัติศาสตร์เมืองน่าน ในโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 1080 น่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ ด้วยเหตุผลสำคัญ 7 ประการ ดังนี้
1. ประโยชน์ด้านนิเวศบริการ: ให้ความร่มรื่นแก่ผู้ใช้ถนน สร้างอากาศบริสุทธิ์ ป้องกันฝุ่นมลพิษ
2. เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว เสน่ห์ของเมืองน่านสร้างบรรยากาศที่ดีในการเดินทางที่มีต้นไม้
หลากหลายสายพันธุ์ ดอกไม้แต่ละสีสลับกันตลอดทาง นักท่องเที่ยวไม่ได้มาเพราะถนนกว้าง แต่มาเพราะมีอุโมงค์ต้นไม้ที่ไม่เหมือนใคร
3. เป็นสถานที่ไม่กี่แห่งในโลกที่มีอุโมงค์จามจุรีและอุโมงค์ต้นสัก เป็นเอกลักษณ์ของน่านที่ชาวน่านภาคภูมิใจ
4. สิ่งที่สูญเสียคือต้นไม้นับพันต้น ไม่คุ้มค่ากับเพียงแค่การขยายไหล่ทางออกไปข้างละ 1.5 เมตร
5. ส่วนข้ออ้างที่ว่าตัดต้นไม้เพื่อความปลอดภัยนั้น ทางกลุ่มเห็นว่าที่จริงแล้วต้นไม้ไม่ได้เป็นอันตรายต่อการขับขี่ อันตรายและอุบัติเหตุต่างๆที่เกิดขึ้นมาจากความประมาทของคน เพราะคนที่เคารพกฎจราจรไม่เคยมีใครตายเพราะต้นไม้ นอกจากนั้น ยิ่งถนนกว้างก็ยิ่งทำให้คนขับรถเร็ว โอกาสประสบอุบัติเหตุก็มากขึ้น และถ้ารถเสียหลักโดยไม่มีต้นไม้สองข้างทางคอยป้องกัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือการตกหน้าผา
6. การขยายไหล่ทางไม่ได้ช่วยชาวบ้านให้มีเศรษฐกิจดีขึ้น เพราะถ้าอุโมงค์ต้นไม้หายไป ไม่มีทัศนียภาพที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว เมืองน่านก็จะเป็นเมืองทางผ่านโดยสมบูรณ์
7. เป็นต้นแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนควบคู่กับการอนุรักษ์ ให้กับจังหวัดอื่นๆและประเทศในกลุ่ม AEC
ถ้าเกิดการตัดอุโมงค์ต้นไม้และกลุ่มต้นไม้หลายสายพันธุ์ ก็จะไม่หลงเหลือเป็นประวัติศาสตร์ให้รุ่นลูกหลานได้ภูมิใจ มรดกทางธรรมชาตินี้ก็จะสูญเสียไปโดยไม่สามารถนำกลับคืนมาได้
ข้อเรียกร้องเพื่อเก็บอุโมงค์ต้นไม้เส้นประวัติศาสตร์ของทางหลวงหมายเลข 1080 น่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ
1. การเก็บอุโมงค์ต้นไม้ และต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษของจังหวัดน่านในช่วง
อุโมงค์ต้นไม้ผาสิงห์: ต้นไม้ระหว่าง กม.ที่ 379 ถึง กม. ที่ 386 ซึ่งเป็นต้นสัก ประดู่ เชื่อมกับอุโมงค์ต้นไม้จามจุรีที่มีความสมบูรณ์และสวยงามที่สุดในจังหวัดน่าน
อุโมงค์ต้นไม้ท่าวังผา: เขตอำเภอท่าวังผา บ้านปง-ฝายมูล ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร
อุโมงค์ต้นไม้ปัว-เชียงกลาง ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร
2. การขุดล้อม ขอให้ทำอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ
3. ทำให้เป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองน่าน แหล่งท่องเที่ยวและจุดถ่ายรูป
ดังนั้นทางกลุ่มขอให้ทางคณะกรรมาธิการการคมนาคม ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อระงับการตัดต้นไม้ในบริเวณดังกล่าวจนกว่าจะมีการทำประชาพิจารณ์หรือการหาทางออกร่วมกันระหว่างแขวงการทางน่านที่ 2 กับเครือข่ายศูนย์ประสานงานประชาคมจังหวัดน่าน หากกรมทางหลวงร่วมกันเก็บทัศนียภาพแบบน่านน่านควบคู่ไปกับทางหลวงสาย 1080 จะถือเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ อันสำคัญ และเป็นต้นแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนควบคู่กับการอนุรักษ์เป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆและประเทศในกลุ่ม AEC อย่างดียิ่ง
*****************************
อยากไปเห็นและถ่ายรูปเก็บไว้ ครับ ก่อนที่จะถูกทำลายไป ตอนนี้ทางใต้ ต้นไม้ข้างทางที่ร่มรื่น ตามถนนทางหลวงหมายดลข ๔
ชุมพร-ระนองก็หมดไปแล้ว ภาคเหนือทางหลวงหมายเลข ๑๑ อุตรดิตถ์-เด่นชัย ก็หมดไปแล้ว ช่วง เด่นชัย-ลำปาง น่าจะเป็นสายต่อไป
------------------------------------------------
มีวิธีการใดบ้างครับ ที่จะพัฒนาทางหลวง โดยที่ไม่ต้องทำลายให้ต้นไม้เหล่านี้ ได้คงอยู่ต่อไป _________________
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 12/03/2015 9:15 am Post subject: |
|
|
เรื่องปลูกต้นไม้ริมทางหลวงเริ่มเป็นปัญหาโลกแตกแล้วครับ
ตอนปลูกก็ทำกันตรงไหล่ทางนั่นแหละ จะรอดไม่รอดก็ขึ้นอยู่กับเทวดาจะโปรยฝนลงมาให้ เพราะว่ามักจะรดกันวันปลูกเท่านั้น
พอต้นไม้โตขึ้น ความเจริญของบ้านเมืองมีมากขึ้น คิดจะขยายถนน อ้าว... ต้องโค่นต้นไม้ที่ปลูกไว้ก่อนนั้นทิ้ง ดูไม่ค่อยยุติธรรมสำหรับต้นไม้ และทำร้ายจิตใจคนปลูกหรือคนที่ผ่านไปมาประจำ ตัวอย่างเช่น จะโค่นต้นไม้ริมทางหลวงช่วงขึ้นเขาใหญ่ เป็นต้น
เส้นทางหลวงสาย เชียงใหม่ - ลำพูน หมดสิทธิ์ขยายผิวจราจรแน่นอนแล้ว เพราะต้นยางสูงลิบลิ่วเรียงรายสองข้างทางนับร้อยต้น หากจะตาย ก็เพราะชาวบ้านสองข้างทางนั่นแหละครับ ช่วยกันตอกตาปูขึงผ้าใบหน้าร้าน หรือติดป้ายโฆษณาจิปาถะ ฯลฯ
สมัยก่อน เมื่อกรมทางหลวงคิดจะโค่นต้นไม้ริมทางเพื่อขยายถนนพหลโยธินช่วงเชียงราย - แม่สาย เป็นถนนสีเลน สมเด็จย่าทราบข่าวและทรงขอเอาไว้ เพราะเสียดายต้นไม้ที่จัดปลูก เลยใช้วิธีขุดแล้วย้ายไปปลูกบริเวณพระตำหนักดอยตุงให้นักท่องเที่ยวผู้พบเห็นได้ชื่นชมกันทุกวันนี้ |
|
Back to top |
|
|
headtrack
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/05/2009 Posts: 1627
Location: ละแวกภาคกลางตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44505
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 15/03/2015 9:36 pm Post subject: |
|
|
ไม่มีวิธีการอื่น ๆ ที่ดีกว่าตัดต้นไม้ทิ้งแล้วหรือ ? ในการขยายถนน ผมเองก็เห็นด้วยครับกับการขยายผิวการจราจรออกไป
แต่การรักษาตั้นไม้สองข้างทางที่มีคุณค่าก็ต้องทำควบคู่กันไปด้วยนะ ครับ ถ้าปล่อยใหเป็นอยุ่อย่างนี้ีอีกหน่อยเราก็คงจะได้เห็นเพียง
พื้นถนนคอนกรีตหรือลาดยางมะตอย กับแท่งคอนกรีต สองข้างทางแทนต้นไม้เท่านั้นเอง
อย่าว่าแต่สองข้างทางหลวงเลย ครับแม้แต่ต้นไม้ในเขตรถไฟเอง ปัจจุบันตันไม้ใหญ่ ๆ เหลือน้อยเต็มทีเพราะมีการลักลอบตัดตั้นไม้กัน
หลงเหลือบ้างก็แค่ป่าละเมาะเท่านั้นเอง _________________
|
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 09/05/2015 10:15 pm Post subject: |
|
|
เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ผมได้มีโอกาสขับรถไป อ.เขื่องใน ทางหลวงหมายเลข ๒๓ ถนนแจ้งสนิท
ผ่านหน้าโรงพยาบาลเขื่องใน กับดงยางที่ร่มรื่น ผมเคยมาที่นี่ก็หลายครั้งแล้ว แม้ว่าปัจจุบันดูเหมือนพื้นที่จะเหลือน้อยกว่าเก่า
เพราะ บ้านเรือนรอบ ๆ ดงยางมีมากขึ้น แต่ประชากรต้นยางต้นใหญ่ ๆ ก็ยังมีอยู่เท่าเดิม ผมอดที่จะจอดรถลงไปถ่ายภาพไม่ได้
สภาพถนนแจ้งสนิท ตั้งแต่เริ่ม ออกจากเมืองอุบลราธานี จนถึง อ.เขื่องใน กลายเป็นถนนสี่เลน ขับรถไม่กี่นาทีก็ถึง อ.เขื่องในแล้ว
ตรงหน้าโรงพยาบาลเขื่องในผมจอดรถขึ้นไปถ่ายภาพจากบนสะพานลอย มองไปทาง จ.อุบลราชธานี ครับ ติดไฟส่งสว่างยามค่ำคืน คงสวยงามมาก
_____________________:)
ภาพนี้มองไปทาง จ.ยโสธร ครับ ถนนจะโค้งไปทางขวา ออกนอก อ.เขื่องใน ถ้าตรงไปเข้าตัว อ.เขื่องใน มีป้อมไฟเขียว ไฟแดง
ที่ผมสงสัยก็คือ ถนนแจ้งสนิท แต่ก่อนนี้ คงตรงไปเข้าตัวอำเภอเขื่องใน ส่วยถนนที่โค้งไปทางขวามือ คือ ถนนที่ตัดใหม่ เพื่อเลี่ยงเข้าตัวอำเภอเขื่องใน
ไม่ทราบผมเข้าใจถูกหรือเปล่า _________________
|
|
Back to top |
|
|
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/03/2006 Posts: 3292
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง
|
Posted: 09/05/2015 10:55 pm Post subject: |
|
|
^
ผมไม่เคยไปที่นั่นนะครับ แต่ดูจากร่องรอยแล้วคิดว่าใช่อย่างที่พี่สมชายเข้าใจนั่นแหละครับ จุดที่ยังเห็นร่องรอยว่าแนวถนนเส้นที่เบี่ยงไปทางขวาไม่ใช่แนวถนนดั้งเดิม อยู่ตรงทางเชื่อมถนนเดิมกับถนนเลี่ยงเมืองด้านเหนือของตัวอำเภอครับ เห็นร่องรอยชัดเจนเลย
|
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 10/05/2015 9:45 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณพี่หนุมนครลำปางมากครับ สำหรับคำตอบ การเดินทางไปอุบลราชธานี โดยรถยนต์ สมัยก่อนเป็นเรื่องที่ทรมานมาก
ออกจากสระบุรีเลี้ยวขวาตามถนนมิตรภาพแล้วมาแยกเข้ามางหลวงหมายเลข ๒๓ ถนนแจ้งสนิท ที่บ้านไผ่
เข้ามหาสารคาม ผ่านร้อยเอ็ด ผ่านยโสธร แล้วเข้าเมืองอุบลราชธานี
ปัจจุบันคงไม่มีรถสายอุบล ฯ ผ่านเส้นทางสายนี้แล้ว _________________
|
|
Back to top |
|
|
|