View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
pattharachai
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
Posted: 20/05/2012 9:19 am Post subject: |
|
|
ฮ่าๆ เป็นธรรมดาของทัวร์ครับพี่ตึ๋ง ซึ่งมักจะเร่งๆเรื่องเวลา ขัดใจอุปนิสัยของเราๆยิ่งนัก |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 20/05/2012 10:06 am Post subject: |
|
|
เห็นด้วยกับคุณบอย แต่ผมยังไม่เคยเจอบรรยากาศกรุ๊ปทัวร์ลักษณะนั้นสักที
เอ... พี่สมชายตั้งใจถ่ายแนวทางรถไฟเก่า หรือนางแบบกันแน่ครับ เพราะภาพชัดเจนมากทีเดียว ฮ่าๆๆ
ท่อน้ำที่เห็น ต่อจากน้ำตกนำน้ำไปใช้ในชุมชนข้างล่างแน่นอนครับ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 20/05/2012 7:30 pm Post subject: |
|
|
หลังจากอิ่มเอมกับบรรยากาศน้ำตกไทรโยคน้อยแล้ว มีการหารือกันระหว่างชาวคณะว่า จะเดินย่ำไม้หมอนกลับสถานีน้ำตก หรือว่าขึ้นรถสองแถวกลับดังเดิม
มีความเห็นให้กลับโดยรถสองแถวด้วยเหตุผลน่ารับฟังว่า ช่วงบ่ายวันนี้ แดดกำลังแรง ขืนเดินนับไม้หมอนกลับอาจเกิดอาการเป็นลมเป็นแล้งระหว่างทางขึ้นมาได้ จึงมีมติกลับโดยรถสองแถวดีกว่า
ก่อนเข้าในอาคารสถานี ต่างคนต่างแวะชมร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกกันก่อนตามธรรมเนียม
เข้าไปนั่งพักในอาคารสถานีกันก่อนครับ มองดูรอบๆ มีสิ่งที่น่าสนใจที่น่าเดินไปดูอยู่ไม่น้อยทีเดียว |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 20/05/2012 7:40 pm Post subject: |
|
|
สิ่งแรกที่สะดุดตา เห็นจะเป็นป้ายแจ้งกำหนดเวลาเดินรถไฟโดยสารที่สถานีน้ำตกครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่รวมถึงกำหนดเวลาเดินรถไฟท่องเที่ยวสุดสัปดาห์แต่อย่างใด
ข้างๆ ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสาร(ฟรี) มีแผนที่แสดงเส้นทางรถไฟทั่วประเทศ และเส้นทางในโครงการติดอยู่ด้วยครับ
แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุด เห็นจะเป็นบรรดาภาพถ่ายประวัติศาสตร์ของการก่อสร้างเส้นทางสายนี้ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งกลายเป็นงานที่ถูกกล่าวขวัญไปทั่วโลกในชื่อว่า "ทางรถไฟสายมรณะ" |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 20/05/2012 7:57 pm Post subject: |
|
|
แรงงานในการก่อสร้างส่วนใหญ่ ซึ่งทางรัฐบาลไทยไม่สามารถจัดหาให้ทางกองทัพญี่ปุ่นได้ตามกำหนด ทางกองทัพญี่ปุ่นได้นำกำลังเชลยศึกชาวอังกฤษ ฮอลันดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์จากสิงคโปร์ เดินทางรอนแรมโดยทางรถไฟมาพักยังค่ายใหญ่ที่หนองปลาดุก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ก่อนที่ส่งจ่ายไปยังหัวงานต่างๆ ซึ่งตั้งเรียงรายตามแนวก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า ต่อไป
นอกจากนั้น ยังมีแรงงานจากชาวอินโดนีเซีย มาเลเซีย และชาวจีน มารับจ้างแรงงานก่อสร้างทางรถไฟกับทางกองทัพญี่ปุ่นอีกด้วย แต่ส่วนใหญ่มักเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บมากกว่า
สภาพความลำเค็ญของเหล่าเชลยศึก ขณะก่อสร้างสะพานโดยไม่มีเครื่องจักรทุ่นแรงต่างๆ มาช่วยเหลือในการทำงานแต่ประการใด
สภาพงานดินตัดบนเขาที่สำเร็จลงด้วยมือ และเครื่องมือช่างแบบง่ายๆ เท่านั้น แต่ต้องถูกเร่งรัดให้ก่อสร้างให้แล้วเสร็จทันตามกำหนดเวลาของกองทัพญี่ปุ่น |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 20/05/2012 8:11 pm Post subject: |
|
|
อย่างไรก็ตาม งานก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่าก็สำเร็จจนได้ โดยมีจุดเชื่อมต่อเส้นทางจากประเทศไทย และจากพม่า บริเวณใกล้ด่านพระเจดีย์สามองค์
คำอธิบายใต้ภาพนี้คงคลาดเคลื่อนครับ ตามจริงแล้ว เป็นพิธีตอกหมุดเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า โดยกองทัพญี่ปุ่น ที่สถานีนิเถะ ใกล้ชายแดนไทยตรงด่านพระเจดีย์สามองค์
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีตอกหมุดเชื่อมต่อราง ขบวนรถไฟทหารของกองทัพญี่ปุ่นขบวนแรก ได้เริ่มเปิดบริการ เมื่อปี พ.ศ.2486 แต่ทว่า ลมสงครามได้เริ่มหวนกลับเข้าสู่ฝ่ายอักษะ ทำให้การขนส่งกำลังทหารและอาวุธยุทธภัณฑ์ของกองทัพญี่ปุ่น ไม่สามารถกระทำได้เต็มที่ เนื่องจากการทิ้งระเบิดโจมตีจากฝูงบินกองทัพสัมพันธมิตร ที่เมืองกัลกัตตา บริติชอินเดีย สร้างความเสียหายแก่ขบวนรถและเส้นทางรถไฟอย่างมากมายครับ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 20/05/2012 8:26 pm Post subject: |
|
|
แล้วในที่สุด ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ส่งฝูงบินทิ้งระเบิดทำลายสะพานข้ามแม่น้ำแควจนสำเร็จ ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางกองทัพญี่ปุ่นจึงได้เร่งสร้างสะพานไม้ชั่วคราวในช่วงโครงสะพานที่ขาด และสงครามได้ยุติลง เมื่อปี พ.ศ.2488
ภายหลังที่รัฐบาลไทยได้ซื้อเส้นทางรถไฟสายนี้พร้อมกับรถจักรและล้อเลื่อนจากฝ่ายสัมพันธมิตรในราคา 50 ล้านบาทแล้ว ได้เริ่มปรับปรุงเส้นทางและรื้อรางในส่วนที่ชำรุดมาก ไม่ปลอดภัยต่อการเดินรถ จากบริเวณชายแดนไทย-พม่าลงมาถึงสถานีน้ำตกจนแล้วเสร็จ และเริ่มเปิดการเดินรถไฟอีกครั้งหนึ่ง มาจนทุกวันนี้
การบูรณะซ่อมสะพานข้ามแม่น้ำแควช่วงที่ชำรุดจากการทิ้งระเบิด โดยใช้เงินค่าปฏิกรรมสงครามจากรัฐบาลญี่ปุ่น และสมาชิกหลายรายได้ทราบกันดีอยู่แล้ว คงไม่ต้องยกมากล่าวซ้ำกันอีกนะครับ
ออกมาเก็บภาพด้านนอกอาคารสถานีกันบ้าง มีแผ่นหล่อทองเหลืองขนาดใหญ่ตั้งแสดงถึงแนวเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า ข้อมูลโดยสรุปที่น่าสนใจ พร้อมค่าแรงงานเชลยศึกต่างๆ ตามเส้นทาง เช่นเดียวกับที่ตั้งอยู่บริเวณริมสะพานข้ามแม่น้ำแควครับ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 20/05/2012 8:37 pm Post subject: |
|
|
ด้านล่างตัวแท่น จะมีแผ่นป้ายทองเหลืองแสดงแนวทางไปยังที่ตั้งอนุสรณ์นักโทษสงคราม ที่ช่องไฟนรก (Hell Fire Pass) ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางบริเวณน้ำตกไทรโยคใหญ่ด้วยครับ
ขอจบเรื่องราวในอดีตที่น่าเศร้า กลับมาชมความรื่นรมย์ในยุคปัจจุบันกันดีกว่า
กับป้ายประเพณีบอกระยะทางสถานีถัดไปของสถานีน้ำตกครับ
ผมคิดว่าตรงที่ระบุว่าเป็นสุดปลายทาง น่าจะเปลี่ยนเป็นที่หนุดรถน้ำตกไทรโยคน้อยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จมาหลายปีเต็มทีแล้วล่ะ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 20/05/2012 8:47 pm Post subject: |
|
|
ฝากรูปมายังคุณบอมบ์ ท่าน วมต.ผู้ไม่มีอาวุธคู่มือติดไปในวันนั้น
และอีกท่านหนึ่ง ไว้เป็นที่ระลึกว่าคราวนี้ก็มาเที่ยวกับเขาด้วยนะ
พอได้เวลา 15.00 น. ขบวนรภไฟท่องเที่ยวก็เริ่มเคลื่อนขบวนลงจากหิ้งข้างๆ สถานี มาเทียบชานชาลาเพื่อเตรียมรับบรรดานักท่องเที่ยวเดินทางกลับกันต่อไป |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 20/05/2012 8:52 pm Post subject: |
|
|
ขากลับคราวนี้ ผมก้าวไปอยู่ด้านท้ายขบวน พร้อมพี่สมชาย เฮียไช้ และสมาชิกอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อเก็บภาพสองข้างทางจนกระทั่งถึงที่หยุดรถถ้ำกระแซนั่นแหละครับ
หลังจากนายสถานีน้ำตกให้สัญญาณธงเขียวแล้ว ไม่นานนัก บริเวณสถานีน้ำตกก็ค่อยๆ ห่างออกไปจนลับจากสายตา... |
|
Back to top |
|
|
|