View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 11/05/2018 12:36 pm Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: | 14 กรกฎาคม 2502 เวลาประมาณ 10.30 น. ขบวนรถไฟพิเศษลำเลียงลำไยจากทางภาคเหนือ ลากจูงด้วยรถจักรดาร์เวนปอร์ตหมายเลข 529 และ 532 และขับ โดย นายวุฒิ สุวรรณมณีได้ชนกับรถโดยสาร ของสหมิตร หมายเลข 19 เลขทะเบียน ลบ. 00456 ซึ่งขับโดยนายบุญมี แล้วประเสริฐซึ่งขับออกจากปั๊มน้ำมัน ตัดหน้าขบวนรถไฟ ที่ ทางตัดเหนือสถานีตาคลี ประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นผลทำให้่
1. รถจักรดาร์เวนปอร์ต 500 แรงม้าทั้งคู่ และ รถ ตญ. เปล่า ตกราง 9 หลัง ทางเสียหายประมาณ 8000 บาท รถจักรและล้อเลื่อนเสียหายประมาณ 50000 บาท
2. ผู้โดยสารรถประจำทางของสหมิตร เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บสาหัส 10 คน บาดเจ็บเล็กน้อย 20 คน
เจ้าหน้าที่ได้ยกรถและซ่อมทางจนรถผ่านไปได้ในเวลา 0255 น. ของวันใหม่ |
ภาพประกอบเหตุการณ์ ขบวนรถไฟพิเศษลำเลียงลำไยจากทางภาคเหนือ ลากจูงด้วยรถจักรดาร์เวนปอร์ตหมายเลข 529 และ 532 และขับ โดย นายวุฒิ สุวรรณมณีได้ชนกับรถโดยสาร ของสหมิตร หมายเลข 19 เลขทะเบียน ลบ. 00456 ซึ่งขับโดยนายบุญมี แล้วประเสริฐ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2502 ดูได้ที่นี่
https://www.facebook.com/groups/1013178692026224/permalink/1925850564092361/ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 21/08/2019 11:56 am Post subject: |
|
|
นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2522 ซึ่งพาดหัวลงข่าวเหตุการณ์รถไฟชนกันที่ตลิ่งชัน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2522 (เนื่องในโอกาสครบ 40 ปี ของการเหตุการณ์นี้)
วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2522 เกิดเหตุการณ์รถไฟ ชานเมือง 176 ราชบุรี - นครปฐม -ธนบุรี ชนกับรถไฟขนส่งสินค้า ขบวน 729 บางซื่อ - ปาดังเบซาร์ ที่ทางแยกบริเวณสถานีรถไฟชุมทางตลิ่งชัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 51 คน (เท่าที่พบศพ ... รวมเด็กทารกที่ทะลักออกจากท้องแม่แล้วกลายเป็นผีตายทั้งกลม ... ไม่รวมพวกที่เป็นเศษเนื้อเศษกระดูกหาศพไม่เจอ) บาดเจ็บ 138 คน ผู้ประสบภัยส่วนมากเป็นนักเรียน และพ่อค้าที่นำสินค้ามาขายที่ตลาด ค่าเสียหายฝ่าย รฟท. 2,038.2 ล้านบาท ค่าเสียหายประชาชน 2,911.4 ล้านบาท
จากการสอบสวนพบว่า อุบัติเหตุเกิดจากความผิดพลาดของพนักงานขับรถสินค้า ขบวน 729 เนื่องจากทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน และ พนักงานผู้ควบคุมสัญญาณหางปลาที่หอประแจสถานีรถไฟชุมทางตลิ่งชัน
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2375459892540168&set=gm.1290589314451478&type=3&theater&ifg=1
3 นาทีคดีดัง : รถไฟชนรถไฟ คร่า 51 ศพ (คลิป)
เหตุการณ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2522
https://www.thairath.co.th/scoop/1954565
Last edited by Wisarut on 19/10/2020 9:16 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 07/02/2020 11:00 am Post subject: |
|
|
5 ก.พ. 2546 "รถไฟชนกัน" มีอยู่จริง
วันนี้ในอดีต
5 กุมภาพันธ์ 2562 - 02:00 น.
ขณะที่ประชาชนที่เคยใช้เส้นทางนี้ คงจะเคยได้พบกับซากรถทั้ง 2 ขบวน ที่ทิ้งไว้ในเกิดเหตุ สยดสยองและน่าขนลุกยิ่งนัก
จะว่าเปฺ็นเหตุการณ์เล็กๆ ก็คงได้ เพราะสมัยนั้น ข่าวคราวมันหายเงียบไปภายในไม่กี่วัน ด้วยเพราะสมัยก่อนยังไม่มีสื่อสังคมออนล์มาช่วยแพร่กระจายข่าวเฉกเช่นทุกวันนี้
แต่ที่จริงสำหรับเหตุการณ์นี้ ซึ่งแนนนอว่าเราอาจจะลืมไปแล้ว กลับไม่ใช่เรื้่องเล็กสำหรับผุ้ประสบชะตากรรมนี้เลย เมื่อวันนี้เมื่อ 16 ปีก่อน ตรงกับคืนวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2546 ได้เกิดเหตุรถไฟชนกัน!!
และก็เป็นรถไฟจริงๆ หาใช่เปรียบเปรยถึงรักสามเส้าเราสามคนไม่ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ รถไฟ ข.133 (4148) พุ่งชนเข้ากับ รถไฟ ข. 2008 (4309) สนั่นหวั่นไหวอยู่ตรงทางระหว่างโคกคลี-แผ่นดินทอง จ.ลพบุรี ส่งผลให้ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังนี้คือ
พนักงานขับรถ ข.133 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งพนักงานทำความสะอาดบนรถ บสพ.เสียชีวิต 1 คน, ช่างเครื่อง ข.2008 ถูกตัดขาทิ้ง 1 ข้าง ส่วน พนักงานขับรถรถพิเศษน้ำตาล ไหวตัวทันกระโดดออกจากแค็บ ผลคือแขน ขา หัก ขIะที่ภายหลังมีรายงานว่า รวมแล้วเสียชีวิต 5 ราย!
ประชาชนที่เคยใช้เส้นทางนี้ คงจะเคยได้พบกับซากรถทั้ง 2 ขบวน ที่ทิ้งไว้ในเกิดเหตุ สยดสยองและน่าขนลุกยิ่งนัก
ย้อนกลับไปในวันนั้น ใครจะคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายไม่คาดฝันขึ้นมาได้ โดยเส้นทางดังกล่าว นั้น เป็นเส้นทางระหว่าง โคกคลี-แผ่นดินทอง ซึ่งสถานีโคกคลีเป็นสถานีเล็กๆ ณ หลักกม.ที่ 240 บนเส้นทางชุมทางแก่งคอย-ชุมทางบัวใหญ่ ตั้งอยู่ระหว่างสถานีแผ่นดินทอง-สถานีช่องสำราญ
แถมเส้นทางนี้ ในยุคนั้นมีขบวนรถรับส่งผู้โดยสารวันละ 4 ขบวนเท่านั้น ได้แก่ขบวน 433/439/440/434 แต่ก็ยังอุตส่าห์เกิดเหตุการณ์รถไฟชนกันเข้าจนได้
โดยช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2546 ขณะนายสถานีโคกคลีเตรียมทางให้ขบวนรถสินค้าที่ 2008 โนนพยอม-แหลมฉบัง เข้าจอดทาง 2 เพื่อรอหลีกขบวนรถเร็วที่ 133 กรุงเทพ-หนองคาย
ปรากฏว่า จู่ๆ นายสถานีโคกคลีก็ได้รับแจ้งจาก พขร.ขบวน 2008 ทางวิทยุสื่อสารว่า ขบวนรถมีปัญหาระบบห้ามล้อไม่สามารถหยุดรถได้ในขณะนั้น และขอทำขบวนผ่านทางประธานแทน
ต่อมานายสถานีโคกคลีได้พยายามแจ้ง พขร.ขบวน 133 ผ่านทางวิทยุสื่อสาร ให้ทราบถึงเหตุอันตรายที่อาจเกิดขึ้น แต่ไม่สามารถติดต่อกับ พขร.133 ได้ แถมขบวน 133 ก็เพิ่งผ่านสถานีแผ่นดินทองมาในขณะนั้น
แน่นอน ที่่สุดขบวน 2008 ที่มีปัญหาระบบห้ามล้อ จึงได้พุ่งจูบบดขยี้อย่างจังเข้ากับขบวน 133 บนทางโค้ง ณ หลัก กม.ที่ 237 ห่างจากสถานีโคกคลีไปเพียง 4 กม.
อย่างที่กล่าวไป อุบัติเหตุครั้งนั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และมีผู้บาดเจ็บหลายราย ขณะที่ยังมีรถจักรดีเซล Alsthom ถูกตัดบัญชีไป 2 คัน หมายเลข 4148/4309
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลบรรยายจากเฟซบุคแฟนเพจ กรมรถไฟหลวงThe Royal State Railways of Siam, กรมรถไฟ Thai State Railways ที่ได้เล่าเหตุการณ์ไว้อย่างละเอียด ดังนี้
วันพุธที่ 5 ก.พ. 2546
เวลา 22.05 ผคร.กค.2 สั่งให้ ข.2008 กับ ข.133 หลีกกันที่สถานีโคกคลี ข.2008 ออกจากสถานีช่องสำราญ(ด้านเหนือสถานีโคกคลี)
เวลา 22.55 น. ส่วน ข.133 ออกจากสถานีแผ่นดินทอง(ด้านใต้สถานีโคกคลี เวลา 22.58 น. นสน.โคกคลีเตรียมทาง 2 ให้ ข.2008เข้า,
เวลา 23.02 น. นสน.โคกคลีได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารจาก พขร. ข.2008 ว่า ห้ามล้อไม่ดี ไม่สามารถหยุดขบวนรถได้ทันที ขอทำขบวนเข้าทาง 1 (ย่านโคกคลี) นสน.โคกคลีแจ้งทางวิทยุสื่อสารให้ พขร., พรร. ข.133 และแจ้งทางโทรศัพท์ให้ ผคร.กค.2 และ นสน.แผ่นดินทองทราบร่วมกัน
เวลา 23.05 น. พรร. ข.133 ซึ่งได้รับแจ้งทางวิทยุจาก นสน.โคกคลี ได้ดึง แวคคั่มเบรกลง เพื่อแจ้งเหตุให้ พขร.ข.133 ทราบ และป้องกันอันตรายต่อไป นสน.โคกคลีได้ทำลายตรา(ฉุกเฉิน) ยกเลิกการเตรียมทาง คืนเสาสัญญาณเข้าเขตในด้านเหนือ คืนประแจเป็นท่าทาง 1 (ประธาน), ข.2008 ฝ่าสัญญาณเสาเข้าเขตในด้านเหนือ ผ่านทาง 1 หน้าสถานีโคกคลี
เวลา 23.06 น. ฝ่าสัญญาณออก และออกอันนอกเข้าไปในทางตอนระหว่าง โคกคลี แผ่นดินทอง นสน.โคกคลีให้ทางระหว่างโคกคลี แผ่นดินทองเป็นทางปิด ตั้งแต่เวลา 23.06 น. เป็นต้นไป ข.2008 ได้ชนกับ ข.133 ที่ สทล.237/17-18 เวลาประมาณ 23.10 น. ของวันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2546 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 26/06/2020 12:43 am Post subject: |
|
|
ครบรอบ 22 ปี กับ เหตุการณ์ใหญ่ในวงการรถไฟไทยในค่ำคืนวันเสาร์ที่26 มิถุนายน 2541 กับเหตุการณ์ไม่คาดคิดกับขบวนรถเร็วขบวนที่38ต้นทาง สถานี เชียงใหม่ - ปลายทางสถานี กรุงเทพ ตกรางทางโค้งลงเหว ระหว่าง สถานี ผาคัน-บ้านปิน สทล.569 ม.3 ต.บ้านปิน อ.ลอง จ.แพร่ เวลาประมาณ 21.35นาทีทำให้รถจักรดีเซลไฟฟ้าหมายเลข4104 พร้อมรถพ่วง8คันตกลงไปเหวข้างทาง ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3รายบาดเจ็บ 134 คน ทำให้ทางรถไฟชำรุดเป็นหลายกิโลและการกู้ซากรถไฟเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะ2ข้างทางเป็นหุบเหว เหตุการณ์นี้ทำให้รถจักรดีเซล 4104ถึงกับ ตัดบัญชีเลยเพราะเสียหายหนัก ริ้วในขบวนประกอบไปด้วยเบื้องต้น บพห.46บนอ.ป.8บนท.1064บนท.1031บชท76 บชส.1004 บชส1259บชส1159ที่ตกราง นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงในการรถไฟช่วงนั้นเลยเพราะเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ครั้ง1แล้วในปี2532กับดีเซล4412ขบวน38เหมือนกันอีก
ปล.22ปีแห่งตำนานเหตุการณ์ของน้าต้อม4104ที่จากเราไป
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=588125125453341&id=100027675768969 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 08/08/2020 7:43 pm Post subject: |
|
|
เหตุการณ์รถไฟชน หรือ ตกราง ซึ่งเป็นรถจักรไอน้ำ แปซิฟิค บอลด์วิน หมายเลข 251 ซึ่งจัดซื้อมาในปี 2472 (หมายเลข 246-251) เป็นรถรถจักรไอน้ำใช้ฟืนชนิดวางล้อ 4-6-2 ใช้กับทาง 1 เมตร จากในภาพ (คลิ๊กดูหลายๆภาพนะครับ) จะเห็นข้อความใต้ภาพ น่าจะเขียนว่า "สถานีนาบอน" ซึ่งคงจะหมายถึง "สถานีรถไฟนาบอน" ตั้งอยู่บนถนนเทศบาล 7 ตำบลนาบอน อำเภอนาบอน จังหวัดนครศรีธรรมราช ของทางรถไฟสายใต้ เหตุการณ์เมื่อ "มิถุนายน ๒๔๘๔"
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3227006504056715&set=a.104664316290965&type=3&theater |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 30/09/2020 10:43 am Post subject: |
|
|
สืบเนื่องจากคดีด่วน 71
รังษี อุปแก้ว
28 กันยายน 2560
เหตุจากขบวนรถไฟที่ 71 ชนรถยนต์รับส่งนักเรียนที่ ลำปลายมาศ เมื่อ 14 มกราคม 2552
จากเหตุดังกล่าว ก็เกิดเป็นคดีความแพ่งขึ้น 3 คดี (คดีอาญา จบในชั้นพนักงานสอบสวน) ผมในฐานะของพนักงานขับรถขบวนดังกล่าว ต้องเทียวขึ้นศาลไม่น้อยกว่า 6 ครั้ง ทั้งในฐานะจำเลยและพยาน
***คดีแรก ญาติของผู้เสียชีวิต ฟ้องการรถไฟฯจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่โจทย์ ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยว่า จุดที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางข้ามรถไฟอยู่ในเขตเทศบาลมีประชาชนสัญจรไปมาพลุกพล่านตลอดเวลา แต่กลับไม่มีการติดตั้งเครื่องกั้น ทั้งที่ทางจำเลยมีหน้าที่ดูแลกิจการด้านรถไฟของประเทศไทย ทั้งด้านการจัดระเบียบเกี่ยวกับความปลอดภัย การให้บริการ และความสะดวกต่างๆ ของกิจการรถไฟ แต่กลับปล่อยปะละเลย และไม่มีพนักงานควบคุมดูแลประจำ
การรถไฟประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ไม่ทำการติดตั้งเครื่องกั้นรถไฟ จนก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว จึงได้มีคำสั่ง ให้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นจำเลย รับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ให้กับโจทก์ เป็นเงินรวมกว่า 14 ล้านบาท
การรถไฟฯอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทย์ยื่น ฏีกา
***คดีที่ 2 การรถไฟฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อเจ้าของรถยนต์และบริษัทเดินรถ คดีนี้จบในชั้นศาลอุทธรณ์ ซึ่งพิพากษาให้การรถไฟฯชนะคดี
***คดีที่3 บริษัทประกันภัย ฟ้องละเมิดต่อ พนักงานขับรถ เป็นจำเลยที่1 การรถไฟฯเป็นจำเลยที่2
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่1 ขับรถโดยประมาท แม้จะใช้ความเร็วอยู่ในพิกัดที่จำเลยที่2 กำหนดไว้ก็ตาม จึงให้ไล่เบี้ยเอากับจำเลยที่2 ในฐานะหน่วยงานรัฐ แต่เนื่องจากคนขับรถยนต์ก็มีความประมาทไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน จึงให้จำเลยที่2 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทย์จำนวนกึ่งหนึ่ง เป็นเงิน 4 แสนกว่าบาท
การรถไฟอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษาว่าเป็นความประมาทของคนขับรถยนต์ขับรถด้วยความประมาทร้ายแรงแต่เพียงฝ่ายเดียว จำเลยที่1 ไม่ต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น โจทย์จึงไม่อาจรับช่วงสิทธิมาไล่เบี้ยเอากับจำเลยที่2ได้ และจำเลยที่2 ก็ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดในมาตรา 73 แล้ว เหตุรถชนกันจึงไม่ได้เกิดจากความประมาทของจำเลยที่2ด้วย
พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทย์ยื่นฎีกา ศาลฎีกา พิพากษายืน
*** มาถึงคดีแรก ที่โจทย์ยื่นฎีกา ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาเมื่อ วันที่ 19 มิถุนายน 2560 ว่าจำเลยได้ปฏิบัติตาม พรบ.จัดวางทางรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464 มาตรา72 และ73 ครบถ้วนแล้ว อีกทั้งพนักงานขับรถ ซึ่งเป็นพยานของจำเลยเบิกความยืนยันว่าเปิดหวีดก่อนจะถึงจุดตัดแล้ว และโจทย์ก็มิได้โต้แย้งในเรื่องนี้ พยานหลักฐานของจำเลยมีน้ำหนักรับฟังได้ดีกว่าพยานหลักฐานของโจทย์ จึงรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำประมาทเลินเล่อทำให้เกิดเหตุคดีนี้
พิพากษายืน
*** จบทุกคดี รถไฟฯชนะทั้ง 3 คดี ระยะเวลา 8 ปี ประสบการณ์ ความรู้ ได้รับมากมาย เป็นกรณีศึกษา
ความเร็ว และสัญญาณหวีด ช่วยได้จริงๆ แต่บางครั้ง การปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบการ ยังไม่เพียงพอ ต้องคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม ความหนาแน่นของจราจร ชุมชน ประกอบด้วย*** |
|
Back to top |
|
|
|