ข่าวรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช)

Mongwin · Posted: 29/12/2022 5:38 am Post subject:

ศักดิ์สยามทิ้งทวน โปรเจกต์5แสนล.
Source - ข่าวหุ้น
Thursday, December 29, 2022 05:26

“คมนาคม” เสนอโครงการใหญ่ รถไฟไทย-จีน เฟส 2 และรถไฟทางคู่ วงเงินกว่า 5 แสนล้านบาท เข้าครม.ภายในเดือน ม.ค.-ก.พ. 66 นี้ ส่วน “แลนด์บริดจ์” ชุมพร-ระนอง เตรียมเสนอต้นปีด้วย ด้านโบรกฯ มองส่งผลดีต่อกลุ่มก่อสร้างรายใหญ่ ดันแบ็กล็อก CK และ STEC พุ่งเกิน 1-2 แสนล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอโครงการลงทุนในปี 2566 วงเงินประมาณ 5.1 แสนล้านบาท เข้าสู่คณะรัฐมนตรี ภายในเดือน ม.ค.นี้ ก่อนการเลือกตั้งใหม่

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายในเดือน ม.ค.-ก.พ. 66 กระทรวงคมนาคมมีแผนที่จะผลักดันโครงการที่มีความพร้อมเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาอนุมัติ ได้แก่ โครงการ พัฒนารถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะที่ 2 เส้นทางนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กม. วงเงินลงทุน 3.2 แสนล้านบาท, โครงการสายสีแดง ส่วนต่อขยาย 5 เส้นทาง วงเงินกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท คือ ช่วงรังสิต-มธ.รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 5.76 กม. ช่วงบางซื่อ-มักกะสัน-หัวหมาก ระยะทาง 20.14 กม. ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.80 กม. ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.70 กม. และคาดว่าจะเปิดประกวดราคาในปี 2566

นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 เช่น เส้นทางขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. มูลค่าโครงการ 29,748 ล้านบาท เส้นทางปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 280.5 กม. วงเงิน 59,399.80 ล้านบาท เส้นทางชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 36,683 ล้านบาท

อีกทั้งจะเร่งสรุปการปรับแบบและเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ (M6) สายบางปะอิน-นครราชสีมา จำนวน 16 ตอน ซึ่งขณะนี้กรมทางหลวง (ทล.) ได้สรุปรายละเอียดแล้ว กระทรวงคมนาคมจะตรวจสอบเพื่อนำเสนอ ครม.ต่อไป โดยค่างานที่เพิ่มขึ้นจะไม่เกิน 6,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นกรอบวงเงินโครงการที่ยังเหลือ

รมว.คมนาคม ยังกล่าวว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2566 จะมีการปรับปรุงวิธีการปฏิบัติงานของกระทรวงฯ ทุกส่วนงานทั้งหมด โดยกรณีที่มีการนำเสนอเรื่องมาที่กระทรวงคมนาคมแล้วกระทรวงฯ พิจารณาเห็นว่า เรื่องยังไม่เรียบร้อย ให้หน่วยงานไปดำเนินการเพิ่มเติม จะต้องเร่งดำเนินการให้เรียบร้อยภายใน 14 วัน เพื่อให้เร่งเสนอกลับมากระทรวงฯ หากล่าช้า ก็จะมีการพิจารณาประเมินผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ทั้งนี้เพื่อการทำงานมีประสิทธิภาพ ชัดเจน รวดเร็วและโปร่งใส เพราะว่า ที่ผ่านมามีตกค้างอยู่หลายจุด และทำให้ล่าช้า

"ในการทำงานของผม ไม่คิดเรื่องวาระ ซึ่งตั้งแต่ผมเข้ารับตำแหน่ง รมว.คมนาคม ได้มีการทำงานต่อเนื่องจาก รัฐมนตรีคนเก่า โดยสิ่งที่ดำเนินการจะเป็นไปตาม Action Plan ผลการศึกษาของแต่ละโครงการ ที่มีความพร้อม ก็เร่งนำเสนอ ครม.และเดินหน้าเต็มที่"
ส่วนความคืบหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (แลนด์บริดจ์ ) ชุมพร-ระนอง คาดว่าจะนำเสนอ ครม.ได้ในเดือน ม.ค. 2566 เช่นกัน โดยอยู่ระหว่างทำตารางเปรียบเทียบการลงทุนโครงการแลนด์บริดจ์กับโครงการที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เห็นมูลค่าที่มีความเป็นไปได้ในการลงทุน ซึ่งโครงการนี้ นักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจอย่างมาก

นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดในการสนับสนุนการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน อุดหนุนค่าเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะ สำหรับค่าเดินทาง 1,500 บาทต่อเดือน หักลดหย่อน 30,000 บาท/ปี ซึ่งเป็นแนวคิดที่กระทรวงคมนาคมจะนำเสนอ ในการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ทั้งนี้ต้องดูภาระทางการเงินของกระทรวงการคลังประกอบการพิจารณาด้วย

สำหรับผลงานในปี 2565 มี 79 นโยบาย 167 โครงการ สามารถสรุปภาพรวมได้ว่าดำเนินการแล้วเสร็จหรือเปิดให้บริการแล้ว รวม 61 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 64 โครงการ และอยู่ในช่วงจัดทำแผนงานหรือออกแบบ จำนวน 42 โครงการ โดยเห็นว่า งานที่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ด้านทางบก ในส่วนของการให้บริการขนส่งสาธารณะนั้น การนำรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (EV Bus) มาให้บริการ ทางน้ำ คือ การให้บริการ เรือพลังงานไฟฟ้า (EV Boat) ส่วนทางรางคือ การเปิดให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ที่เป็นรูปแบบการบริหารรถไฟฟ้าที่เป็นต้นแบบ แม้จะรอการต่อขยาย 5 เส้นทางแต่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และในปี 2566 จะมีการนำรถไฟพลังงานไฟฟ้า (EV on Train ) มาใช้

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จํากัด หรือ ASPS กล่าวว่า กลุ่มรับเหมาน่าจะได้ประโยชน์มากสุดจากโครงการลงทุนของกระทรวงคมนาคมในปีหน้า วงเงินประมาณ 5 แสนล้านบาท โดยเฉพาะ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC ที่คาดว่าจะได้งานเพิ่มขึ้น ที่ปัจจุบันมีงานอยู่ในมือ หรือ แบ็กล็อก มากอยู่แล้ว โดยปัจจุบัน CK มีแบ็กล็อกอยู่ประมาณ 2 แสนกว่าล้านบาท และ STEC มีอยู่ประมาณ 1 แสนล้านบาท

“โครงการใหม่ของคมนาคมที่จะเริ่มประมูลในปีหน้า จะไปช่วยเพิ่ม ON TOP ให้กับกลุ่มรับเหมารายใหญ่ อย่างเช่น STEC และ CK” นายเทิดศักดิ์ กล่าว

ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 29 ธ.ค. 2565

Mongwin · Posted: 30/01/2023 6:44 am Post subject:

ขยาย3สายสีแดงให้ทันรัฐบาลนี้
Source - เดลินิวส์
Monday, January 30, 2023 04:22

ชงคมนาคมแล้ว21,754ล. อีก1ต้องเพิ่มงบ-แบบไม่จบ

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ซึ่งมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธาน มีมติเห็นชอบผลการทบทวนราคาค่าก่อสร้าง โครงการระบบรถไฟชานเมือง ส่วนต่อขยาย สายสีแดงช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กม.จากวงเงิน 4,694 ล้านบาท เป็น 4,616 ล้านบาท ลดลงประมาณ 78 ล้านบาท หลังจากนี้ รฟท. จะเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป พร้อมกับช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงิน 6,468 ล้านบาท และช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.8 กม. วงเงิน 10,670 ล้านบาท ที่เสนอกระทรวงคมนาคมไปก่อนหน้านี้

สำหรับช่วงตลิ่งชัน-ศิริราชนั้น เดิม ครม. อนุมัติวงเงินอยู่ที่ 6,645 ล้านบาท แต่มีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานในส่วนของการจัดหาขบวนรถ มาอยู่ในการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) งานเดินรถ งานระบบตั๋ว จัดหาขบวนรถ และการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) จึงได้ปรับลดวงเงินเป็น 4,694 ล้านบาท เมื่อนำเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณา ปรากฏว่า กระทรวงคมนาคมส่งเรื่องกลับมาให้ รฟท. พิจารณาปรับลดกรอบวงเงินค่าจ้างที่ปรึกษาลงอีก รฟท. จึงได้พิจารณาทบทวนใหม่อีกครั้ง เบื้องต้นคาดว่าภายใต้รัฐบาลชุดนี้จะสามารถเสนอพิจารณาส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีแดงได้ 3 เส้นทางก่อน วงเงินรวมประมาณ 21,754 ล้านบาท จากทั้งหมด 4 เส้นทาง

ส่วนอีก 1 เส้นทาง ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสันหัวหมาก และช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง (Missing Link) ระยะทาง 25.9 กม. อยู่ระหว่างปรับแบบสถานีราชวิถีใหม่ ให้ผู้โดยสารเดินเชื่อมเข้าสู่อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีได้สะดวก พร้อมทั้งต้องประเมินราคาค่าก่อสร้างใหม่ อาจต้องปรับกรอบวงเงินเพิ่มประมาณ 2,843 ล้านบาท จากเดิม 44,157 ล้านบาท เป็นประมาณ 47,000 ล้านบาท เมื่อออกแบบแล้วเสร็จต้องจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ใหม่ รฟท. ต้องพิจารณาทางเลือกว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปได้บ้าง เพราะหากรออีไอเอแล้วเสร็จจะต้องใช้ระยะเวลานาน เบื้องต้นคาดว่าจะเสนอ ครม. พิจารณาไม่ทันภายในรัฐบาลชุดนี้

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับงานเดินรถ งานระบบตั๋ว จัดหาขบวนรถ และการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ซึ่งจะเป็นการลงทุนในรูปแบบร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ขณะนี้เรื่องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. แล้ว เตรียมเสนอกระทรวงคมนาคม ก่อนเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และครม. พิจารณาต่อไป คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในปี 67 ทั้งนี้คาดการณ์ว่าปีแรกของการเปิดให้บริการครบทั้ง 6 เส้นทาง จะมีผู้โดยสารประมาณ 9 หมื่นคนต่อวัน ประมาณการรายได้ 50 ปี อยู่ที่ประมาณ 5.8 แสนล้านบาท.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 30 ม.ค. 2566

https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/732680914975812

Wisarut · Posted: 30/01/2023 8:25 pm Post subject:

Mongwin · Posted: 20/02/2023 3:22 pm Post subject:

'ศักดิ์สยาม' ทิ้งทวนรัฐบาล เร่งต่อขยายรถไฟสายสีแดง 2.1 หมื่นล้าน
กรุงเทพธุรกิจ 20 ก.พ. 2566 เวลา 14:48 น.

"ศักดิ์สยาม" มั่นใจชง 3 โครงการลงทุนส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีแดงส่งท้ายรัฐบาลนี้ รวมวงเงินกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงฯ อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดโครงการลงทุนส่วนต่อขยายรถไฟชานเมืองสายสีแดง ซึ่งพบว่ามี 3 โครงการที่มีความพร้อมในการเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในรัฐบาลนี้ และเข้าสู่ขั้นตอนประกวดราคาจัดหาเอกชนเริ่มงานก่อสร้าง โดยปัจจุบันสถานะของ 3 โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างกระทรวงคมนาคมเปรียบเทียบต้นทุนการลงทุน ทบทวนงบประมาณให้เหมาะสม และผลกระทบประชาชน เพื่อให้โครงการสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่มั่นใจว่าจะเป็น 3 โครงการที่มีความพร้อมเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ชุดนี้อย่างแน่นอน

"ตอนนี้ส่วนต่อขยายสายสีแดง 3 เส้นทาง ถือเป็นโครงการที่มีความพร้อมจะนำเสนอ ครม.ได้แล้ว เพราะรายละเอียดการศึกษาทั้งหมดอยู่ในมือกระทรวงคมนาคมแล้ว แต่เราต้องทบทวนเปรียบเทียบตัวเลขให้ละเอียด สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด ขอเวลาดูตัวเลขการลงทุนก่อนอีกนิด แต่เสนอทันรัฐบาลนี้แน่นอน เพราะรัฐบาลนี้ยังอยู่ แต่หากไม่อยู่รัฐบาลรักษาการก็ยังเสนอได้"

สำหรับโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง (ส่วนต่อขยาย) 3 เส้นทางดังกล่าว มีวงเงินลงทุนรวมประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย

1.ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.8 กิโลเมตร วงเงิน 10,670 ล้านบาท

2. ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กิโลเมตร วงเงิน 4,694 ล้านบาท

3.ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) ระยะทาง 8.84 กิโลเมตร วงเงิน 6,468 ล้านบาท

ส่วนช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และช่วงบางซื่อ –หัวลำโพง (Missing Link) ที่มีระยะทาง 25.9 กิโลเมตร วงเงิน 47,000 ล้านบาท สถานะปัจจุบันยังอยู่ระหว่างปรับปรุงรายละเอียดโครงการ เช่น แบบสถานีราชวิถีใหม่ให้ผู้โดยสารเดินเชื่อมเข้าสู่อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีได้สะดวก

Mongwin · Posted: 21/02/2023 7:35 am Post subject:

'คมนาคม'ชงครม.เคาะ2.1หมื่นล้านลงทุนโปรเจกต์ส่วนต่อขยายสายสีแดง
Source - กรุงเทพธุรกิจ
Tuesday, February 21, 2023 04:07

กรุงเทพธุรกิจ "ศักดิ์สยาม" ส่งท้ายรัฐบาล ดันลงทุน 2.1 หมื่นล้าน เตรียมชง ครม.ลุย 3 โครงการส่วนต่อขยายรถไฟชานเมืองสายสีแดง ขณะที่ลงนามสัญญา "บีอีเอ็ม" รถไฟฟ้าสายสีส้ม ลุ้นศาลปกครองสูงสุดเคาะปมแก้เกณฑ์ทีโออาร์

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การที่หลายฝ่ายมองว่าขณะนี้ อยู่ในช่วงท้ายรัฐบาลแล้ว อาจทำให้โครงการลงทุนสะดุดนั้น กระทรวงฯ ยืนยันว่าโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนับเป็นโครงการที่ต้อง ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และ ไม่ว่ารัฐบาลใดจะเข้ามาก็ต้อง ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนแม่บทกำหนดไว้

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันกระทรวงฯ เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติเปิดประมูลก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง (ส่วนต่อขยาย) ที่ขณะนี้ มีความพร้อมแล้วจำนวน 3 โครงการ วงเงินลงทุนรวมกว่า 2.1 หมื่นล้าน บาท "ตอนนี้ส่วนต่อขยายสายสีแดง 3 เส้นทาง ถือเป็นโครงการที่มีความพร้อมจะนำเสนอ ครม.ได้แล้ว เพราะรายละเอียดการศึกษาทั้งหมดอยู่ในมือกระทรวงคมนาคมแล้ว แต่ต้องทบทวนเปรียบเทียบตัวเลขให้ละเอียด ดูต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้าง ผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบโครงการ เพราะสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปจากที่เคยศึกษาไว้ แต่คิดว่าจะเสนอทันภายในรัฐบาลนี้แน่นอน เพราะรัฐบาลนี้ยังอยู่ แต่หากไม่อยู่รัฐบาลรักษาการ ก็ยังเสนอได้" สำหรับโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง (ส่วน ต่อขยาย) 3 เส้นทาง ดังกล่าว มีวงเงินลงทุนรวมประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย 1.ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.8 กิโลเมตร วงเงิน 10,670 ล้านบาท 2.ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กิโลเมตร วงเงิน 4,694 ล้านบาท และ 3.ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) ระยะทาง 8.84 กิโลเมตร วงเงิน 6,468 ล้านบาท ส่วนช่วงบางซื่อพญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และช่วงบางซื่อ- หัวลำโพง (Missing Link) ที่มีระยะทาง 25.9 กิโลเมตร วงเงิน 47,000 ล้านบาท สถานะปัจจุบันยังอยู่ระหว่างปรับปรุงรายละเอียดโครงการ เช่น แบบสถานีราชวิถีใหม่ ให้ผู้โดยสารเดินเชื่อมเข้าสู่อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีได้สะดวก

รัฐบาลรักษาการอนุมัติโครงการลงทุนได้

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังมีเวลาในการทำงานของรัฐบาลนี้ เพราะห้วงเวลา ของรัฐบาลจะหมดวาระในวันที่ 23 มี.ค.2566 แต่ถ้ามีการยุบสภาเกิดขึ้นก่อน ก็จะต้องมีรัฐบาล รักษาการที่มีอำนาจในการพิจารณาโครงการต่างๆ ให้เดินหน้าตามแผนได้ โดยรัฐบาลรักษาการสามารถพิจารณาอนุมัติโครงการลงทุนได้ ซึ่งจะต้องมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้พิจารณาความถูกต้องด้วย

ดังนั้น หากโครงการลงทุนเสนอตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมาย การพิจารณาอนุมัติก็เกิดขึ้นได้ในรัฐบาลรักษาการ ซึ่งจะทำให้โครงการลงทุนไม่มีการสะดุด อย่างไรก็ดี นอกจาก

โครงการส่วนต่อขยายรถไฟชานเมืองสาย สีแดงที่อยู่ในขั้นตอนเตรียมเสนอ ครม.แล้ว ปัจจุบันยังมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่อยู่ในขั้นตอนเจ้าของหน่วยงานกำลังรวบรวมรายละเอียดเตรียมเสนอขออนุมัติ อาทิ ส่วนต่อขยายดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงรังสิตบางปะอิน ระยะทาง 22 กิโลเมตร วงเงิน 3.1 หมื่นล้านบาท และโครงการทางพิเศษ สายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ระยะแรก ช่วงจตุโชติ-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 (MR 10) ระยะทาง 19.25 กิโลเมตร วงเงิน 33,400 ล้านบาท

ลุ้นศาลชี้ขาดสายสีส้มก่อนลุยต่อ

กรณีความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ปัจจุบันการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เปิดประกวดราคาและ ได้ตัวเอกชนร่วมลงทุนแล้ว แต่ยังไม่สามารถ ลงนามกับเอกชนได้นั้น กระทรวงฯ ได้รับรายงาน จาก รฟม.ว่าขณะนี้โครงการดังกล่าวยังอยู่ใน กระบวนการยุติธรรมที่อยู่ระหว่างการฟ้องร้อง ซึ่งจะต้องรอคำวินิจฉัยของศาลให้สิ้นสุดลงก่อน หลังจากนั้นจึงจะปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขณะเดียวกัน โครงการนี้เป็น กระบวนการที่อยู่ใน พ.ร.บ. ร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนปี 2562 โดยขั้นตอนดังกล่าว รฟม.เป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบ ส่วนรัฐมนตรีมีหน้าที่ ตรวจสอบให้เกิดความเรียบร้อย ดังนั้น หากศาลมี คำพิพากษาได้ข้อยุติเกี่ยวกับคดี ดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นรัฐบาลที่อยู่ ระหว่างรักษาการตำแหน่งก็ยังสามารถเสนอโครงการต่อ ครม.พิจารณาได้ ซึ่งจะต้องผ่านความเห็นชอบจาก กกต. หาก กกต.เห็นว่าการดำเนินการถูกต้องตามระเบียบกฎหมายและมติ ครม. ก็สามารถดำเนินการได้

"ตอนนี้ก็รอกระบวนการยุติธรรมก่อน ซึ่งเรื่องที่เป็นสาระสำคัญก็น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแก้ TOR หากเรื่องนี้ตัดสินถูกผิดอย่างไร เราก็จะพิจารณาและกำหนดแนวทางดำเนินงานกันต่อ เรื่องนี้ไม่มีอะไรเยอะ อย่าไปมโน มาก ยังไงก็ต้องรอให้เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง"
สำหรับการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ปัจจุบันมีข้อพิพาทที่อยู่ในกระบวนการ ศาลปกครองกลางพิจารณา ประกอบด้วย

1.การประมูลครั้งที่ 1 คดีหมายเลขดำ ที่ 2280/2563 คดีเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาผู้ชนะในการประมูล ครั้งที่ 1 ขณะนี้รอศาลปกครองสูงสุดมี คำพิพากษา

2.การประมูลครั้งที่ 1 คดีหมายเลขดำ ที่ 580/2564 คดียกเลิกการประมูล ซึ่ง ศาลปกครองกลางพิพากษาเมื่อวันที่ 7 ก.ค.2565 ชี้ว่าการยกเลิกประมูลผลจากการ เปลี่ยนหลักเกณฑ์คัดเลือกในครั้งนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขณะนี้รอศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา

3.การประมูลครั้งที่ 2 คดีหมายเลขดำที่ 1646/2565 โดย BTSC ฟ้องประเด็นที่มีการกีดกันไม่ให้เข้าร่วมการประมูล ซึ่งเป็นคดีล่าสุดที่ศาลปกครองกลางรับไว้พิจารณา ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนพิจารณา ยังไม่มีกำหนดนัดไต่สวนเพิ่มเติม

ที่มา: นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 21 ก.พ. 2566

Wisarut · Posted: 21/02/2023 12:26 pm Post subject:

Mongwin · Posted: 27/02/2023 8:35 pm Post subject:

ไม่ทันโค้งสุดท้าย รถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยายรอรัฐบาลหน้าจะว่ายังไง
Nimda Variety
Feb 27, 2023

รถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย ที่รออีก 4 เส้นทาง ปัจจุบันเสนอครม.ไปแล้ว 3 เส้นทาง ส่วนเส้นทาง Missing link มีแววรออีกนานเพราะต้องของบฯ เพิ่มและทำประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA ใหม่ สุดท้ายโครงการใหญ่จะต้องรอรัฐบาลใหม่พิจารณาอีกทีค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=G5sDyTBF5Sg

Mongwin · Posted: 17/03/2023 9:31 am Post subject:

ขยายรถไฟฟ้าสีแดงลุ้นรัฐบาลหน้า
Source - เดลินิวส์
Friday, March 17, 2023 05:29

ครม.อนุมัติตั้งแต่ปี2559 มาเสียเวลารื้อศึกษาPPP

รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายก่อนรัฐบาลยุบสภา ที่ประชุมไม่ได้พิจารณาโครงการระบบรถไฟชานเมือง ส่วนต่อขยายสายสีแดง(รถไฟฟ้าสายสีแดง) ของกระทรวงคมนาคม เวลานี้โครงการทั้ง 4 เส้นทางวงเงินรวม 7.4 หมื่นล้านบาทได้แก่ ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กม.วงเงิน 4,616 ล้านบาท, ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต 8.84 กม. วงเงิน 6,468 ล้านบาท, ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา 14.8 กม. วงเงิน 10,670 ล้านบาท และช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง (Missing Link) 25.9 กม. วงเงินประมาณ 4.7 หมื่นล้านบาท จึงต้องรอเสนอรัฐบาลชุดใหม่เป็นผู้พิจารณา

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า การที่โครงการยังไม่ได้รับการอนุมัติภายในรัฐบาลชุดนี้ ส่งผลกระทบต่อแผนงานที่วางไว้ ซึ่งทันทีที่ได้รัฐบาลชุดใหม่ทางกระทรวงคมนาคม จะเร่งเสนอโครงการเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ส่วนต่อขยายสีแดง ทั้ง 4 เส้นทาง ก่อนหน้านี้ ครม. อนุมัติโครงการทั้งหมดแล้ว ช่วง Missing Link อนุมัติตั้งแต่ปี 59 ส่วนอีก 3 เส้นทางอนุมัติตั้งแต่ปี 62 แต่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีหลายปัจจัยที่ทำให้ต้นทุนก่อสร้างเพิ่มขึ้น แต่ละโครงการจึงต้องทบทวนราคาค่าก่อสร้าง และปรับกรอบวงเงินใหม่ ทำให้ต้องเสนอที่ประชุม ครม. พิจารณาเห็นชอบอีกครั้ง ก่อนที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเปิดประกวดราคาและก่อสร้างต่อไป

ตามแผนงานเดิม รฟท. จะเปิดประกวดราคา ช่วงตลิ่งชันศิริราช, ช่วงรังสิต-มธ.ศูนย์รังสิต และช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา เดือน ม.ค.-ก.พ. 66 ได้ผู้รับจ้างเดือน พ.ค. 66 ลงนามสัญญากับผู้รับจ้างเดือน มิ.ย. 66 เริ่มก่อสร้างช่วงรังสิต-มธ.ศูนย์รังสิต จะแล้วเสร็จและเปิดบริการเดือน พ.ค. 69 ส่วนช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดบริการเดือน มิ.ย. 69 ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จเปิดบริการเดือน พ.ค. 70 ส่วนช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง (Missing Link) จะเปิดประกวดราคาภายในปี 66 ได้ผู้รับจ้างเดือน ก.ย. 66 และเปิดบริการเดือน เม.ย. 71

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนต่อขยายสายสีแดงเดิม รฟท. มีเป้าหมายเปิดประมูล และเริ่มงานก่อสร้างตั้งแต่ปี 64 แต่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีนโยบายปรับแผนการลงทุนโครงการเป็นรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) จึงต้องใช้เวลาศึกษารายละเอียดอีกครั้ง ได้ผลสรุปว่าจะเปิดประมูลงานก่อสร้าง และงานระบบ 4 เส้นทางก่อน จากนั้นจึงเปิดประมูล PPP งานเดินรถ จัดหาขบวนรถ และการดำเนินงาน และบำรุงรักษา (O&M) ต่อไป

ด้านนายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณ ผู้โดยสารยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แบบค่อยเป็น ค่อยไป ไม่ได้ก้าวกระโดด ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณวันละ 21,000-22,000 คน แต่หากเป็นวันศุกร์ปริมาณผู้โดยสารจะสูงกว่าวันทั่วไปวันละ 23,000-24,000 คน ยังตั้งเป้าหมายว่าปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มสูงขึ้นเกินวันละ 25,000 คน ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มี.ค. 66

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์มีผู้โดยสารสูงสุดที่ประมาณ 7,800 คน/วัน รองลงมาสถานีดอนเมือง 3,600 คน/วัน, สถานีรังสิต 2,600 คน/วัน, สถานีหลักสี่ 2,000 คน/วัน และสถานีบางเขน 1,300 คน/วัน รฟฟท. ได้เพิ่มเก้าอี้พักคอยในสถานีต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว รวมถึงปรับปรุง และติดป้ายบอกทางให้ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะที่สถานีดอนเมือง ได้ร่วมกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. ติดตั้งป้ายบอกทางจากท่าอากาศยานดอนเมืองมายังสถานีดอนเมือง ตลอดทางเดินเพื่อป้องกันการสับสน และอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 17 มี.ค. 2566

Wisarut · Posted: 17/03/2023 5:32 pm Post subject:

Mongwin · Posted: 24/07/2023 10:40 am Post subject:

เดินหน้าสถานีร่วมศิริราช
Source - เดลินิวส์
Monday, July 24, 2023 06:01

แก้สัญญาเหมาจ่าย161ล.

น.ส.มณฑกาญจน์ ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ซึ่งมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะประธานบอร์ด รฟท. เป็นประธาน ได้พิจารณาทบทวนมติบอร์ด รฟท. ครั้งที่ 13/2563 เมื่อวันที่ 13 ส.ค 63 กรณีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เช่าที่ดินของ รฟท. เพื่อก่อสร้างสถานีร่วมศิริราช และโครงการอาคารรักษาพยาบาล บริเวณสถานีธนบุรี ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบเปลี่ยนหลักการการชำระค่าเช่าตามอายุสัญญา 30 ปี วงเงิน 161 ล้านบาท จากเดิมชำระค่าเช่าเป็นรายปี ปีละประมาณกว่า 5 ล้านบาท เป็นชำระค่าเช่าครั้งเดียว 161 ล้านบาท คาดว่าจะลงนามสัญญาเช่าที่ดินภายในเดือน ก.ย. 66

รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการอาคารรักษาพยาบาล และสถานีศิริราช เป็นการบูรณาการการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณสถานีศิริราชของโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช (ระดับพื้นดิน) ของ รฟท. และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) (ระดับใต้ดิน) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บนพื้นที่ รฟท. ซึ่งต่อเนื่องกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลฯ บริเวณสถานีรถไฟธนบุรี-ศิริราช ช่วงเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน เลียบคลองบางกอกน้อย พื้นที่ 4.67 ไร่ (7,456 ตารางเมตร) ระยะเวลาเช่า 30 ปี

อาคารรักษาพยาบาลฯ มีความสูง 15 ชั้น ชั้นใต้ดิน 3 ชั้น รวมความสูงของอาคารเท่ากับ 81 เมตร มีพื้นที่ใช้สอย 51,853 ตร.ม. แบ่งเป็น พื้นที่โรงพยาบาล 47,537 ตร.ม. พื้นที่รถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน 3,410 ตร.ม. และพื้นที่รถไฟฟ้าสายสีส้ม 906 ตร.ม. เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นสถานีร่วมที่ใช้ประโยชน์ในการเดินทาง อำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลาเดินทาง และลดความแออัดภายในโรงพยาบาล ส่งผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และสะดวกสบายจากการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะ และการบริการสาธารณสุขมากยิ่งขึ้น เป็น "สถานีขนส่งมวลชนเพื่อสุขภาพ และสาธารณสุขแห่งแรกในประวัติศาสตร์ของไทย" จะเป็นโมเดลต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่สถานีขนส่งมวลชนสำหรับโครงการอื่น ๆ ด้วย

ขณะนี้อาคารรักษาพยาบาลและสถานีศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) แล้ว วงเงินรวม 3,851 ล้านบาท โดยอนุมัติงบประมาณตั้งแต่ปี 66-69 มีแผนจะเริ่มก่อสร้างในปี 66 และเปิดบริการ ปี 70 ส่วนโครงการรถไฟสายสีแดงอ่อน เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ชุดใหม่พิจารณา และรถไฟฟ้าสายสีส้ม รอเสนอ ครม. ชุดใหม่ พิจารณาผลการประมูลและสัญญาร่วมลงทุนโครงการฯ.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 25 ก.ค. 2566 (กรอบบ่าย)

อัปเดตรถไฟฟ้า 4 สายทาง | ฟังหูไว้หู (31 ก.ค. 66)
9MCOT
Aug 1, 2023

https://www.youtube.com/watch?v=TO8PK4e4vx4