Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311289
ทั่วไป:13270818
ทั้งหมด:13582107
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวแผนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของประเทศ 2558-65
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวแผนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของประเทศ 2558-65
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 39, 40, 41 ... 121, 122, 123  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 07/04/2015 11:51 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟทางคู่ไทย-ลาว-จีน เร่งเชื่อมระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ-คมนาคม
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 03 เมษายน 2558 เวลา 09:04 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,041 วันที่ 5 - 8 เมษายน พ.ศ. 2558

ได้เห็นความชัดเจนถึงแนวทางการขับเคลื่อนภายใต้ความร่วมมือโครงการพัฒนารถไฟไทย-จีนมากขึ้น ล่าสุดศูนย์อาเซียน-จีนศึกษา สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)ระดมความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งจากไทยและจีนต่อยุทธศาสตร์หุ้นส่วนพัฒนารถไฟทางคู่ไทย-จีน สายเอเชียอาคเนย์เพื่อให้ได้เห็นถึงความสำคัญ ความคืบหน้าและความพร้อมของไทย-จีนที่จะผลักดันโครงการภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวให้สำเร็จตามเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ทุกฝ่ายพร้อมรับมือต่อการพัฒนาดังกล่าว
**หนุนไทยใช้ระบบรางลดต้นทุนโลจิสติกส์
รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดี สถาบันปัญญาภิวัฒน์ ได้เสนอแนะแนวทางความเป็นไปได้ของโครงการว่าหากประเทศไทยสามารถบริหารจัดการโลจิสติกส์ที่ดี ไทยก็จะมีต้นทุนโลจิสติกส์ที่ถูกลง สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆได้ ซึ่งระบบรางถูกนำมาใช้ในการดำเนินการขับเคลื่อนให้ได้ตามวัตถุประสงค์ ปัจจุบันสัดส่วนการส่งออกมีมากถึง 60% ของจีดีพี ดังนั้นหากไทยสามารถทำให้จีดีพีของประเทศขยายตัวตามศักยภาพที่ควรจะเป็นคือขึ้นมาเป็น 1% ของโลก ไทยก็จะมีจีดีพีมากกว่าปัจจุบันนี้อีก 1 เท่าตัวคือจาก 12.5 ล้านล้านบาทเป็น 25 ล้านล้านบาท จึงจะสามารถบริหารจัดการทางด้านเศรษฐกิจของประเทศได้อีกมากมาย โดยเฉพาะเศรษฐกิจภาคอื่นๆก็จะเติบโตตามไปด้วยโดยเชื่อมโยงด้วยระบบรางอย่างมีประสิทธิภาพ
ประการสำคัญไทยควรเร่งพัฒนาให้เป็นไปในรูปแบบโครงข่าย "กรุงเทพจตุรทิศพัฒนา" นั่นคือมีจำนวน 4 สาย ระยะทางยาว 100-200 กม.จากกรุงเทพฯ แล้วในอนาคตค่อยขยายโครงข่ายออกไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีการกำหนดเส้นทางเอาไว้แล้วแต่ยังไม่ได้รับการขับเคลื่อนอย่างจริงจังเท่านั้น โดยภาคอีสานเชื่อมโยงไปสู่สปป.ลาว ภาคใต้ไปยังมาเลเซียและสิงคโปร์ ส่วนภาคตะวันออกเชื่อมโยงถึงกัมพูชา และภาคตะวันตกเชื่อมไปยังเมียนมาร์ ตัวอย่างที่ดีคือกรณีเช่นที่ญี่ปุ่นและจีนดำเนินการ ซึ่งนั่นหมายถึงโอกาสใหม่ในการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยทั้งด้านการบริการ การท่องเที่ยวตลอดจนการส่งออกหรือด้านอื่นๆย่อมมีมากขึ้นตามไปด้วย
**คมนาคมเร่งเชื่อมโยงระบบรางไทย-ลาว-จีน
นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ได้ชี้ให้เห็นความคืบหน้าว่าไทย-จีนได้แบ่งแผนการดำเนินการรถไฟไทย-จีนในครั้งนี้ออกเป็น 4 ช่วง เส้นทางคือช่วงแรกคลองสิบเก้า-แก่งคอย 133 กม. ช่วงที่ 2 แก่งคอย-มาบตาพุด 246 กม. ช่วงที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา 138 กม. และช่วงที่ 4 นครราชสีมา-หนองคาย 355 กม. โดยจุดที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงฝ่ายจีนจะเป็นผู้ดำเนินการเอง
alt นอกจากนั้นยังชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของการพัฒนาระบบรางภายใต้ยุทธศาสตร์เส้นทางรถไฟทางคู่แนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ ในครั้งนี้ว่า การเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านจะมีความสำคัญมากขึ้น เพราะจะเกิดประโยชน์ด้านโลจิสติกส์อย่างเห็นได้ชัดทั้งการเชื่อมต่อจากจีนและสปป.ลาวโดยจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับประตูการค้าชายแดน โดยฝ่ายไทยจะหารือร่วมกับสปป.ลาว ช่วงก่อนสงกรานต์นี้เพื่อให้ได้เห็นความชัดเจน อีกทั้งปัจจุบันภาคโลจิสติกส์ยังใช้การขนส่งสินค้าทางถนนเป็นหลัก แต่หากส่งเสริมให้ใช้ระบบรางมากขึ้นก็จะสามารถเปรียบเทียบเวลาและค่าขนส่งซึ่งรูปแบบการขนส่งที่ใช้เวลาการเดินทางน้อยที่สุดคือระบบราง
**จีนยันพร้อมลงทุนในอาเซียน
นางหยิน ไห่หง ที่ปรึกษาฝ่ายการเมือง สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำ ราชอาณาจักรไทย กล่าวว่าปัจจุบันจีนมองปัจจัยในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในภาพรวมมากขึ้น จึงเร่งเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะการเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค โดยเฉพาะโครงการ 1 แถบ 1 เส้นทางคือการค้าขายร่วมกัน การพัฒนาร่วมกันเพื่อให้ได้รับประโยชน์อย่างเปิดกว้างวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาซึ่งกันและกันอย่างยั่งยืน ให้ผืนดินทุกภูมิภาคสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ทั้งหมดด้วยระบบรางนั่นเองเพื่อเป็นส่วนช่วยกระตุ้นการลงทุนและเกิดการบริโภคสินค้ามากขึ้น นอกเหนือจากการจ้างงานและการรุกตลาดการค้าใหม่ๆ
ทั้งนี้ปี 2020 จีนตั้งเป้ามูลค่าการค้าระหว่างจีน-อาเซียนว่าจะขยายตัวได้ถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะเดียวกันจีนจะเพิ่มการนำเข้าสะสมจากอาเซียนให้ถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และยังจะลงทุนในอาเซียนไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมกับการเร่งตั้งเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเพื่อให้โครงสร้างสินค้ามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจีนพร้อมสนับสนุนหลักประกันการลงทุนให้กับไทยและประเทศต่างๆ
"จีนพร้อมเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเข้าไปเสริมเติมจุดแข็งให้กับแต่ละประเทศ โดยเน้นให้เกิดการเชื่อมโยงแบบบูรณาการในทุกทาง ให้ครอบคลุมประชากรกว่า 1,900 ล้านคน ในส่วนการพัฒนาเส้นทางรถไฟในประเทศไทยนั้นส่วนใหญ่เป็นพื้นราบ ซึ่งเทคโนโลยีของจีนสามารถดำเนินการได้เร็วกว่าเส้นทางผ่านสปป.ลาวที่เป็นภูเขาสูง แต่ภาคเอกชนของจีนมีความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างอุโมงค์เป็นอย่างดี อีกทั้งโซนตอนใต้ของจีนที่จะเชื่อมกับสปป.ลาวนั้นอยู่ระหว่างการก่อสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมกับทางด้านเหนือของสปป.ลาวก็จะแล้วเสร็จใน 1-2 ปีนี้"

//----------------------

หนองคายป่วนรับรถไฟไทย-จีน "บิ๊กจิน"ถกลาวผุดสะพานข้ามโขง
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
6 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21:01:16 น.


ชาวหนองคายต้านเวนคืน แห่ซื้อที่ดินเก็งกำไรรับสะพานข้ามโขงแห่งใหม่ จุดเชื่อมรถไฟจีน-ลาว-ไทย "ประจิน" ปรับแนวใหม่ใช้แนวรถไฟเส้นทางหนองคาย-ท่านาแล้ง ขยายสะพานเพิ่มวางราง 1.435 เมตร บินถก สปป.ลาวหาข้อสรุป

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ระหว่าง 3-4 เมษายน 2558 ได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว ถึงข้อสรุปแนวเส้นทางรถไฟที่จะต่อเชื่อมกันบริเวณข้ามแม่น้ำโขงในแนวเส้นทางรถไฟจีน ความเร็วปานกลาง 160 กม./ชม. จะลงทุนก่อสร้างจากคุนหมิงลงมาเวียงจันทน์เชื่อมกับรถไฟไทย-จีนที่สถานีหนองคาย ซึ่งเป็นสถานีปลายทางของโครงการรถไฟรางมาตรฐาน 1.435 เมตร เส้นทางนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ 873 กม. วิ่งด้วยความเร็ว 180 กม./ชม.

ล่าสุดได้กำหนดจุดที่เชื่อมเส้นทางใหม่ จากเดิมสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กำหนดสร้างเป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ห่างจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาวเดิม 800-900 เมตร แต่สภาพพื้นที่อาจเวนคืนที่ดินพอสมควร และเพื่อลดต้นทุนก่อสร้างลงจึงปรับแนวเส้นทางมาสร้างคู่ขนานสะพานมิตรภาพไทย-ลาวเดิมที่มีรางรถไฟหนองคาย-ท่านาแล้งอยู่แล้ว แต่จะสร้างสะพานใหม่เพิ่มทางด้านขวามือ (มุ่งหน้าเวียงจันทน์) รองรับรางมาตรฐาน 1.435 เมตร

"ผมได้รับทราบข้อมูลจากผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายว่า จุดที่ สนข.เลือกไว้เดิมนั้นมีผลกระทบต่อพื้นที่เอกชน สวนสาธารณะ และใกล้วัด จึงให้ปรับตำแหน่งใหม่ ต้องรอผลหารือร่วมกับรัฐบาลลาวจะเห็นด้วยกับแนวที่เราเสนอหรือไม่"

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการกว้านซื้อที่ดินเก็งกำไรมาก จังหวัดหนองคายจึงขอให้กระทรวงเปลี่ยนที่ตั้งสะพานข้ามแม่น้ำโขงใหม่อีกครั้ง เพื่อลดผลกระทบเวนคืนที่ดินด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 08/04/2015 12:07 am    Post subject: Reply with quote

เอกชน-รัฐ 8 จังหวัดภาคเหนือ สัมมนา "เที่ยววิถีไทย เศรษฐกิจก้าวหน้า ล้านนายั่งยืน" คึกคัก
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
5 เมษายน พ.ศ.2558 เวลา 05:41:38 น.
เอกชน-รัฐ 8 จังหวัดภาคเหนือ สัมมนา "เที่ยววิถีไทย เศรษฐกิจก้าวหน้า ล้านนายั่งยืน" คึกคัก "บิ๊กจิน"สั่งลุยแก้จราจร จ.เชียงใหม่ เฮ ได้ไฮสปีดเทรน "กรุงเทพฯ-เชียงใหม่" ปลายปีนี้ หลังถกญี่ปุ่นลงตัว ดันขยายสนามบินรองรับ 20 ล้านคน

ลุยไฮสปีดเทรนปีนี้

พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รัฐบาลมีแผนงานแก้ปัญหาจราจรเชียงใหม่เร่งด่วน หลังปีที่ผ่านมามีปัญหารถติดหนักทุกพื้นที่ โดยต้องใช้เทคโนโลยีและระบบใหม่ดำเนินการ เช่น โมโนเรล รถรางไฟฟ้า (Tram) อาจเป็นโครงสร้างยกระดับหรือระดับดิน เหมือนภูเก็ต ขอนแก่น ที่กำลังจะดำเนินการ แต่ยังคงระบบขนส่งสาธารณะรูปแบบเดิม ๆ ไว้ เช่น รถเมล์แดง โดยจะให้ท้องถิ่นคือจังหวัดหรือศูนย์พิงคนครดำเนินการ กระทรวงคมนาคมเป็นผู้สนับสนุนผลักดัน รวมถึงสร้างถนนวงแหวนรอบนอกและทางด่วนเพิ่ม รองรับเมืองที่ขยายตัวออกรอบนอกมากขึ้น ปีหน้าจะเริ่มต้นโครงการได้

นอกจาก นี้จะสร้างทางรถไฟทางคู่ขนาด 1 เมตร เชื่อมการเดินทางและขนสินค้าจากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ลดเวลาเดินทางจาก 13 ชั่วโมงเหลือ 10 ชั่วโมง ทำให้ต้นทุนขนส่งถูกลง รัฐบาลชุดนี้มีแผนชัดเจนจะก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 672 กิโลเมตร ความเร็ว 200-250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งรัฐบาลไทย-ญี่ปุ่นได้ข้อสรุปร่วมกันเมื่อ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา จะลงนาม MOU เดือน พ.ค.นี้ และเริ่มสำรวจเส้นทางปลายปีนี้ เริ่มก่อสร้างต้นปี 2559 ใช้เวลา 3 ปีถึง 3 ปีครึ่ง เมื่อแล้วเสร็จการเดินทางจากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จะใช้เวลา 5 ชั่วโมง แต่ถ้าเพิ่มความเร็วเป็น 300-350 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะเหลือ 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยออกแบบให้จะขนทั้งคนและสินค้าที่มีมูลค่าสูง

//----------------
ญี่ปุ่นเสนอคมนาคมปรับรถไฟทางคู่กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทำไฮสปีดเทรนเต็มรูปแบบ
ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 08 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 08:00 น.

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวว่าให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม รายงานต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว กรณีที่ญี่ปุ่นสนใจที่จะเข้ามาลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ รางมาตรฐาน 1.435 เมตร จำนวน 2 เส้นทาง คือเส้นทางกาญจนบุรี-กรุงเทพ-อรัญประเทศ-แหลมฉบัง ซึ่งจะเชื่อมกับโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย และเส้นทางกรุงเทพฯ-พิษณุโลก-เชียงใหม่

ซึ่งเส้นทางกรุงบเทพฯ-เชียงใหม่นั้นญี่ปุ่น เสนอขอทำเป็นรถไฟความเร็วสูง โดยพล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้นายอาคม ไปเจรจากับทางญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 23 -27 เม.ย.นี้ เพื่อให้ได้ข้อสรุปในรายละเอียดเสนอ ครม.ภายในเดือนนี้ จากนั้นจะสามารถลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกัน(เอ็มโอยู)ต่อไป

“ญี่ปุ่นสนใจเข้ามาดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เพราะผลการศึกษาเดิมพบว่าเส้นทางนี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด มีระยะ ทาง 670-700 กม. ในขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูงนั้นจะต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูง และใช้งบประมาณที่สูงด้วยเช่นกัน”

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวอีกว่าส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจีนก็สนใจเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่นั้น ทางฝ่ายจีนเป็นผู้ที่แจ้งยกเลิก หลังจากที่ไม่สามารถเจรจาเพื่อเชื่อมต่อเส้นทางจากคุนหมิงผ่านทางเชียงของ ของ สปป.ลาว เพื่อเข้าสู่ประเทศไทยทางตอนเหนือได้ ทำให้เส้นทางนี้ต้องพับแผนไป แต่ทางญี่ปุ่นแสดงความสนใจอย่างชัดเจน และมีแนวโน้มที่ดีที่ญี่ปุ่นจะมีโอกาสเข้ามาดำเนินการได้ ขอให้รอหลังจากที่นายอาคมกลับจากหารือกับทางญี่ปุ่นก่อน

พร้อมกันนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กระทรวงคมนาคมรายงานความก้าวหน้า โครงการความร่วมมือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟระหว่างไทยกับจีน และขอความเห็นชอบร่างบันทึกความร่วมมือ (Memorandum of Cooperation หรือ MOC) เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายร่วมสำรวจพื้นที่และออกแบบ

ฝ่ายไทยจะสนับสนุนด้านการจัดเตรียมเอกสารข้อมูล บุคลากร และประสานหน่วยงานต่างเช่นขอแผนที่หรือถ่ายภาพทางอากาศจากรมแผนที่ทหารและสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า ให้กระทรวงแรงงานดูแลเรื่องการออกใบอนุญาตทำงานให้กับต่างชาติ กระทรวงการคลังช่วยดูแลเรื่องการยกเว้นภาษีการนำเข้าเครื่องจักร

ส่วนการแบ่งหน้าที่ของทั้ง 2 ฝ่ายก็มีความชัดเจน จีนดูเรื่องการออกแบบและการก่อสร้างในส่วนของอุโมงค์ ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบไฟฟ้าและการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ส่วนฝ่ายไทยรับผิดชอบการเวนคืนที่ดิน การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม งานก่อสร้างต่างๆ ส่วนการเดินรถและการซ่อมบำรุงจะพิจารณาในเดือน พ.ค. 2558
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44618
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/04/2015 7:22 pm    Post subject: Reply with quote

ประจินปัดข้อเสนอ BTS ลงทุนรถไฟทางคู่สายอีสานเปลี่ยนหัวรถจักรเป็นไฟฟ้า
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 21 เมษายน 2558 18:22:49 น.

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้หารือกับนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เนื่องจากบีทีเอสสนใจที่จะลงทุนก่อสร้างเดินรถไฟทางคู่สายอีสาน ขอนแก่น-แหลมฉบัง เพื่อขนส่งสินค้า โดยก่อสร้างเป็นทางขนาด 1 เมตร และเสนอปรับเปลี่ยนระบบรถไฟจากเครื่องยนต์ดีเซลเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมดทั่วประเทศ

ทั้งนี้ พล.อ.ประจิน กล่าวว่า ได้ยืนยันกับบีทีเอสว่ากระทรวงคมนาคมมีแผนก่อสร้างตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558-2565 อยู่แล้ว ดังนั้นคงไม่สามารถยกเลิกการดำเนินงานและนำมาให้สัมปทานกับบีทีเอสได้

ส่วนการเดินรถไฟนั้น เป็นแนวทางที่ต้องการเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาร่วมพัฒนาได้เพื่อประโยชน์ต่อประเทศ โดยจะต้องพิจารณาในเรื่องระยะเวลาการเปลี่ยนผ่านที่เหมาะสม การใช้งานหัวรถจักรที่มีในปัจจุบัน โดยมีเป้าหมาย คือ เกิดการใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัย การใช้พลังงานลดลง ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมีความปลอดภัยสูงสุด

"กระทรวงไม่สามารถยกเลิกแผนการก่อสร้างแล้วให้สัมปทานเส้นทางให้บีทีเอสไปดำเนินการก่อสร้างและเดินรถได้ บีทีเอสต้องกลับไปทำการบ้านเพิ่มเติม เพื่อนำข้อมูลมาหารือกันครั้งหน้า เช่น แนวคิดในการร่วมลงทุน แนวคิดในการเดินรถสินค้า เงื่อนไขของแหล่งเงินและผลตอบแทนต่างๆ ในขณะที่กระทรวงสนใจเรื่องการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงาน"รมว.คมนาคม กล่าว

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า บีทีเอสไม่เข้าใจว่ากระทรวงคมนาคมมีแผนก่อสร้างรถไฟทางคู่แล้ว จึงเสนอก่อสร้างและเดินรถมาให้ ซึ่งคงไม่ได้ เพราะจะทำให้การก่อสร้างล่าช้า กว่าจะนำเสนอข้อมูลและตกลงก็ใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี แผนงานรวมจะช้าไปหมด ดังนั้นจะเหลือในส่วนของการเดินรถที่บีทีเอสจะเสนอได้ โดยเข้าร่วมลงทุนโดยใช้รูปแบบ PPP ส่วนการเปลี่ยนระบบรถไฟดีเซลเป็นระบบรถไฟฟ้านั้น ซึ่งตรงกับแนวคิดที่สนข.

อย่างไรก็ตาม ทางรถไฟปัจจุบันเมื่อทำเป็นรถไฟทางคู่แล้ว จะมีความจุในการเดินรถมากขึ้นซึ่งร.ฟ.ท.สามารถใช้รถไฟดีเซลวิ่งได้และมีส่วนที่ให้บีทีเอสเข้ามารับสัมปทานได้ ลักษณะใช้ทางร่วม ซึ่งต้องไปศึกษาว่าจะใช้รถไฟฟ้าวิ่งได้วันละกี่ขบวน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 22/04/2015 1:54 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ประจินปัดข้อเสนอ BTS ลงทุนรถไฟทางคู่สายอีสานเปลี่ยนหัวรถจักรเป็นไฟฟ้า
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 21 เมษายน 2558 18:22:49 น.


เวอร์ชันไทยนรัฐอยู่นี่

บิ๊กจิน ปัดข้อเสนอบีทีเอส เปลี่ยนรถไฟทางคู่ เป็นระบบไฟฟ้า
โดย ไทยรัฐออนไลน์
อังคารที่ 21 เมษายน 2558 20:26

บีทีเอสเสนอสัมปทานเดินรถไฟสายอีสาน พร้อมรื้อหัวจักรดีเซลเป็นไฟฟ้า


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
21 เมษายน 2558 19:54 น.


คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
บีทีเอสเสนอสัมปทานเดินรถไฟสายอีสาน พร้อมรื้อหัวจักรดีเซลเป็นไฟฟ้า



“บีทีเอส”เสนอลงทุนสัมปทาน 30 ปี ก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาด 1 เมตร สายอีสานช่วงขอนแก่น-แหลมฉบัง ขนส่งสินค้าพร้อมเสนอรื้อระบบรถจักรดีเซลใช้รถไฟฟ้าแทนทั่วประเทศ “ประจิน”ยันรัฐบาลลงทุนก่อสร้างรถไฟทางคู่เองเปิดทางสัมปทานเดินรถได้ แต่ต้องศึกษาการร่วมทุนตามแบบ PPP

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เข้าพบ วันนี้ (21 เม.ย.) ว่า ทางบีทีเอสเสนอที่จะขอรับสัมปทานก่อสร้างและเดินรถไฟทางคู่ สายอีสาน จากขอนแก่น-แหลมฉบัง เพื่อขนส่งสินค้า ระยะเวลา 30 ปี โดยก่อสร้างเป็นทางขนาด 1 เมตรโดยใช้รถไฟฟ้า พร้อมทั้งเสนอปรับเปลี่ยนระบบรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รงฟ.ท.) จากเครื่องยนต์ดีเซลเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมด ด้วย ซึ่งในเรื่องการก่อสร้างรถไฟทางคู่นั้น กระทรวงคมนาคมมีแผนการก่อสร้างตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 อยู่แล้ว ดังนั้นคงไม่สามารถยกเลิกการดำเนินงานและนำมาให้สัมปทานกับบีทีเอสได้

ส่วนการเดินรถไฟนั้น เป็นแนวทางที่ต้องการเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาร่วมพัฒนาได้เพื่อประโยชน์ต่อ ร.ฟ.ท. และประชาชน และประเทศอยู่แล้ว โดยจะต้องพิจารณาและศึกษาในเรื่องระยะเวลาการเปลี่ยนผ่านที่เหมาะสม การใช้งานหัวรถจักรที่มีในปัจจุบันให้เกิดประโยชน์อย่างไร เพื่อกำหนดแผนทยอยปลดระวางอย่างไร เมื่อใด โดยมีเป้าหมาย คือ 1. เกิดการใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัย 2 . การใช้พลังงานลดลง 3. ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และ4.มีความปลอดภัยสูงสุด

ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้นทางบีทีเอสมีตัวเลขผลตอบแทนการลงทุนแต่ไม่สูงมากนักซึ่งรวมทั้งการก่อสร้างและเดินรถ ดังนั้นต้องไปศึกษาใหม่แยกเฉพาะการเดินรถ โดยนำอัตราการเติบโตของปริมาณสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตมาคิดด้วย ต้องศึกษาปริมาณตู้สินค้าและวิธีการรับส่งสินค้า จำนวนเที่ยว ระบบการควบคุมการเดินรถด้วยและเสนอกลับมาอีกครั้ง

“ทางกระทรวงไม่สามารถยกเลิกแผนการก่อสร้างแล้วให้สัมปทานเส้นทางให้บีทีเอสไปดำเนินการก่อสร้างและเดินรถได้ บีทีเอสต้องกลับไปทำการบ้านเพิ่มเติม เพื่อนำข้อมูลมาหารือกันครั้งหน้า เข่น แนวคิดในการร่วมลงทุน แนวคิดในการเดินรถสินค้า เงื่อนไขของแหล่งเงินและผลตอบแทนต่างๆ ในขณะที่กระทรวงสนใจเรื่องการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงาน”
โดยโครงการรถไฟทางคู่ที่ก่อสร้างเสร็จแล้วคือช่วง แหลมฉบัง –ฉะเชิงเทรา และที่จะก่อสร้างภายในปีนี้ คือ เส้นทาง ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กม. วงเงิน 11,348.36 ล้านบาท อยู่ระหว่างการประกวดราคา,เส้นทาง มาบกะเบา –ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,855.08 ล้านบาท อยู่ระหว่างพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ,เส้นทาง ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม. วงเงิน 26,007.20 ล้านบาท ผ่านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ทางบีทีเอส ไม่เข้าใจว่า กระทรวงคมนาคมมีแผนก่อสร้างรถไฟทางคู่แล้ว จึงเสนอก่อสร้างและเดินรถมาซึ่งคงไม่ได้ เพราะจะทำให้การก่อสร้างล่าช้า กว่าจะนำเสนอข้อมูลและตกลง ก็ใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี แผนงานรวมจะช้าไปหมด ดังนั้นจะเหลือในส่วนของการเดินรถที่บีทีเอสจะเสนอได้ โดยเข้าร่วมลงทุนโดยใช้รูปแบบ PPP ส่วนการเปลี่ยนระบบรถไฟดีเซลเป็นระบบรถไฟฟ้านั้น ซึ่งตรงกับแนวคิดที่สนข.ที่ขณะนี้กำลังศึกษาการเดินรถไฟฟ้าเชื่อมต่อ ขนาดราง 1 เมตรเชื่อมจากมาเลเซีย-หาดใหญ่ ซึ่งจะสอดคล้องกับที่มาเลเซีย จะเดินรถไฟฟ้าขนาด 1 เมตรมาถึงชายแดนไทยดังนั้น หากอนาคตจะมีการปรับเปลี่ยนรถไฟทางคู่เป็นรถไฟฟ้าเหมือนประเทศมาเลเซีย หากบีทีเอสเข้ามา จะเป็นโครงการนำร่องที่เส้นทางสายอีสาน

อย่างไรก็ตามทางรถไฟปัจจุบันเมื่อทำเป็นรถไฟทางคู่แล้ว จะมีความจุในการเดินรถมากขึ้นซึ่งร.ฟ.ท.สามารถใช้รถไฟดีเซลวิ่งได้และมีส่วนที่ให้บีทีเอสเข้ามารับสัมปทานได้ ลักษณะใช้ทางร่วม หรือ Share Track หรือทางเดียวกันวิ่งได้หลายผู้ประกอบการ ซึ่งต้องไปศึกษาว่าจะใช้รถไฟฟ้าวิ่งได้วันละกี่ขบวน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 30/04/2015 10:12 am    Post subject: Reply with quote

ญี่ปุ่นเข้าวินคว้ารถไฟ 2 สาย ลงนาม พ.ค.นี้ดันเชื่อมเศรษฐกิจทวาย
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
30 เมษายน 2558 06:15


ไทย-ญี่ปุ่นลงนามเอ็มโอยู พ.ค.นี้ สร้างรถไฟ 2 เส้นทาง ความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และทางคู่กาญจนบุรี-อรัญประเทศ ด้านบอร์ด ทอท.ปรับลดค่าก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 ลง 10,000 ล้านบาท พร้อมปลด “ประพนธ์” พ้น ผอ.สนามบินสุวรรณภูมิ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยถึงผลหารือโครงการความร่วมมือพัฒนาระบบรางร่วมกับรัฐบาลญี่ปุ่นว่า ได้ข้อสรุปว่าจะให้ญี่ปุ่นก่อสร้างโครงการรถไฟไทย 2 เส้นทาง คือ รถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตร เส้นทางกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง และกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-อรัญประเทศระยะทาง 574 กิโลเมตร (กม.) และ รถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 670 กม. โดยรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศจะลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ภายในเดือน พ.ค.นี้

“กระทรวงคมนาคมเห็นว่า รถไฟทั้ง 2 เส้นทางมีความเหมาะสม เพราะเชื่อมโยงเศรษฐกิจฟากตะวันออกไปตะวันตกตอนใต้ของไทย โดยขนส่งสินค้าจากท่าเรือแหลงฉบังไปท่าเรือทวาย ขณะที่ญี่ปุ่นก็มีแผนขยายการลงทุนการผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ไปยังเมียนมาร์ซึ่งจะเชื่อมต่อมาไทยได้ และอนาคตยังมีแผนเชื่อมไปยังเวียดนามด้วย”

ส่วนการสร้างรถไฟทางคู่แม่สอด จ.ตาก-มุกดาหาร จะให้ญี่ปุ่นช่วยศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างตลอดเส้นทาง หลังจากก่อนหน้านี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ศึกษาเฉพาะเส้นทางแม่สอด-พิษณุโลกเท่านั้น รวมทั้งขอให้ญี่ปุ่นส่งผู้เชี่ยวชาญมาศึกษาและให้คำแนะนำในการวางโครงข่ายรถไฟในภาคตะวันออกของไทย เนื่องจากมีหลายเส้นทางที่อาจทับซ้อนกัน

นายอาคมยังกล่าวถึงความร่วมมือรถไฟทางคู่ไทย-จีน เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ ว่า จะใช้รูปแบบการลงทุนแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ งานฐานรากและการก่อสร้าง รวมทั้งการเวนคืนที่ดิน จะใช้เงินงบประมาณรัฐและแหล่งเงินกู้ในประเทศ ส่วนงานระบบการเดินรถเห็นตรงกันให้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเป็นนิติบุคคล ทำหน้าที่ลงทุนงานระบบกับการเดินรถ โดยใช้เงินกู้จากจีน ซึ่งไทยได้เสนอขอเงื่อนไขเงินกู้พิเศษดอกเบี้ยต่ำกว่า 2% ระยะเวลา 30 ปี ในจำนวนนี้เป็นระยะเวลาปลอดชำระหนี้ 6-7 ปี

ด้าน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวหลังประชุมเตรียมการก่อนร่วมหารือการลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ไทย-จีน ครั้งที่ 4 ที่ประเทศจีน วันที่ 6-8 พ.ค.นี้ ว่า มีการสรุปความก้าวหน้าการสำรวจออกแบบและความร่วมมือในการดำเนินงานและการลงทุน การจัดเตรียมบุคลากรเพื่อรับการฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมทั้งเห็นชอบให้มีการทำรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร เส้นทางเชื่อมต่อจากเวียงจันทน์ไปหนองคาย 30 กม. และมีแผนวางโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกตลอดเส้นทางอีกด้วย

//---------------------

ญี่ปุ่นลุยไฮสปีดเทรนเชียงใหม่ ทำทางคู่เชื่อมทวาย-แหลมฉบัง
มติชน
วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 12:22:20 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 11:05:49 น.


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงผลการหารือโครงการความร่วมมือพัฒนาระบบรางร่วมกับรัฐบาลญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 23-27 เมษายนที่ผ่านมาว่า ได้หารือกับผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ดินโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น โดยได้ข้อสรุปว่าญี่ปุ่นจะเข้ามาดำเนินโครงการรถไฟในไทย 2 เส้นทาง คือ รถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตร เส้นทางกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง และกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-อรัญประเทศ ระยะทาง 574 กิโลเมตร (กม.) และรถไฟฟ้าความเร็วสูง ความเร็ว 300 กม.ต่อชั่วโมง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 670 กม. โดยรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายจะลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (เอ็มโอยู) ภายในเดือนพฤษภาคมนี้

"รถไฟทั้ง 2 เส้นทางนี้ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์การพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ของไทย เพื่อเชื่อมการขนส่งสินค้าจากท่าเรือแหลมฉบังไปยังท่าเรือน้ำลึกทวาย เป็นการเชื่อมฐานการผลิตอุตสาหกรรม 2 ฐาน และเชื่อมจากสระแก้วไปยังปอยเปต พนมเปญ ของกัมพูชา และอนาคตเชื่อมไปยังนครโฮจิมินห์ของเวียดนามด้วย" นายอาคมกล่าว

นายอาคมกล่าวว่า ได้ขอให้ญี่ปุ่นช่วยศึกษาความเป็นไปได้ในเส้นทางรถไฟจากแม่สอด จ.ตาก-มุกดาหาร เพราะการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ศึกษาเฉพาะเส้นทางแม่สอด-พิษณุโลก ส่วนที่เหลือไม่ได้ศึกษา จึงขอให้ดูการเชื่อมต่อ เพราะทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวนโยบายที่รัฐบาลได้ประกาศไปแล้ว

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังประชุมเตรียมการก่อนร่วมหารือการลงทุนโครงการรถไฟไทย-จีน ครั้งที่ 4 ที่คุนหมิง ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 6-8 พฤษภาคมนี้ว่า การก่อสร้างช่วงที่ 1-2 จากกรุงเทพฯ-แก่งคอย-มาบตาพุด จะเริ่มก่อสร้างภายในเดือนกันยายน 2558 ช่วงที่ 3-4 จากแก่งคอย-นครราชสีมา-หนองคาย จะเริ่มก่อสร้างภายในเดือนธันวาคม 2558 แน่นอน สำหรับช่วงที่ต้องทำจุดเชื่อมต่อจากเวียงจันทน์ไปหนองคาย ระยะทาง 30 กม. ได้เห็นชอบร่วมกันว่าจะทำเป็นทางรถไฟขนาด 1.435 เมตร ให้สามารถเชื่อมต่อเส้นทางจากไทยไปลาวและคุนหมิงของจีนได้


Last edited by Wisarut on 30/04/2015 1:26 pm; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 30/04/2015 12:47 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมเตรียมบินไปจีน หารือโครงการทำรถไฟฟ้า
แนวหน้า
วันพฤหัสบดี ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558, 06.00 น.

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมเตรียมการสำหรับการประชุมร่วมไทย – จีน ว่า ได้มีการเตรียมการเพื่อเดินทางประชุมกับจีนครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 6-8 พ.ค. 2558 ที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน โดยจะมีการเสนอผลการศึกษาเบื้องต้นของโครงการผลการศึกษาสิ่งแวดล้อม หลักเกณฑ์เงื่อนไขเงินกู้และรูปแบบบริษัทร่วมทุน หลักสูตรถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งการลงนามบันทึกผลการเห็นชอบข้อตกลงเรื่องการปฏิบัติงานร่วมกันในวันที่ 7 พ.ค. 2558

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม กล่าวว่า สำหรับงานทางด้านการลงทุนฐานราก เช่น การเวนคืนที่ดิน การก่อสร้าง จะใช้แหล่งเงินกู้ภายในประเทศของไทย ส่วนงานระบบการเดินรถ เห็นชอบให้มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเป็นนิติบุคคล ดูแลทางด้านแรงงาน และการเดินรถ ส่วนงานระบบเทคโนโลยีอาณัติสัญญาณและระบบตัวรถนั้นจะใช้แหล่งเงินกู้จากจีนโดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ดำเนินการ ศึกษาในเงื่อนไขและรายละเอียดระยะเวลารวมถึงอัตราดอกเบี้ย
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44618
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/04/2015 3:44 pm    Post subject: Reply with quote

เอกชนปลื้มรฟท.สร้างรถไฟผ่านเพชรบูรณ์
โพสต์ทูเดย์ 30 เมษายน 2558 เวลา 14:14 น.

เพชรบูรณ์-ภาคเอกชนมั่นใจรฟท.สร้างรถไฟสายลำนารายณ์-หล่มเก่าส่งเสริมท่องเที่ยวและเศรษฐกิจคึกคัก เมื่อวันที่ 30 เม.ย. นายบัณฑิตต์ เทวีทิวารักษ์ ผวจ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ภาคเอกชนดีใจมากที่การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)และบริษัทที่ปรึกษาตัดสินใจจะผลักดันรถไฟผ่านเพชรบูรณ์ สายลำนารายณ์-หล่มเก่า โดยจะนำเสนอต่อรัฐบาลภายใน 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งหากโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จจะส่งเสริมภาคธุรกิจท่องเที่ยว การค้า การลงทุนและเศรษฐกิจคึกคักทันทีเนื่องจากเมืองเพชรบุรณ์มีแหล่งท่องเที่ยวดึกดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาในจังหวัดตลอดทั้งปี

นายวิศัลย์ โฆษิตานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ในฐานะคณะทำงานรวบรวมข้อมูลจังหวัด กล่าวว่า หลังจากนี้คงเป็นขั้นตอนบริษัทจะนำเสนอรายงานให้ทางการรถไฟพิจารณา เพื่อของบประมาณจากรัฐบาล ในการสำรวจออกแบบและคาเวนคืนที่ดินของการการก่อสร้างเส้นทางรถไฟรางคู่สายลำนารายณ์-หล่มเก่า ระยะทาง 187 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 32,000 ล้านบาท จากการพูดคุยกับทีมงานบริษัทก็รับปากว่า จะเสนอแบบทางเดี่ยวควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้างลดต่ำค่อนข้างมาก

นายวิศัลย์ กล่าวอีกว่า ไม่ว่าจะเป็นทางรถไฟทางคู่หรือทางเดี่ยว ชาวเพชรบูรณ์ไม่เกี่ยงขอเพียงให้มีรางรถไฟเข้ามาก่อน จากนั้นค่อยไปต่อยอดในอนาคต เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนรอคอยมายาวนานมาก ส่วนผลที่ออกมาถือเป็นความสำเร็จแค่บันไดขั้นแรกเท่านั้นทุกภาคส่วนยังต้องดำเนินขับเคลื่อนไปต่อ

สำหรับแผนงานของการรถไฟแจ้งไว้ในเอกสารเผยแพร่โครงการระบุว่าหลังเสร็จสิ้นการศึกษาและได้เส้นทางรถไฟที่เหมาะสมแล้วในปี 2560 ของบประมาณเพื่อสำรวจออกแบบ ปี 2561-2562 ทำการสำรวจออกแบบก่อสร้าง ปี 2562-2563 ของบประมาณและเริ่มดำเนินการเวนคืนที่ดินพร้อมเตรียมความพร้อมปี 2564-2567 เริ่มทำการก่อสร้างและจะเปิดใช้บริการในปี 2568
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 06/05/2015 9:08 pm    Post subject: Reply with quote

สัมภาษณ์: 'ประจิน จั่นตอง'เร่งกดปุ่มรถไฟโลว์คอสต์ยันไฮสปีดเทรน
Wednesday, 06 May 2015 09:27
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
ร่วม 3 เดือนกับการนั่งหัวโต๊ะในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)คุม 7 กระทรวงหลัก ก่อนที่จะรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ของ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ซึ่งต้องรับภาระอันหนักอึ้งกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย (2558-2565) ภายใต้งบประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท ในกรอบการดำเนินการ 8 ปีให้เห็นเป็นรูปธรรม

ครม.อนุมัติแล้ว
ล่าสุด ยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้เดินหน้ามาถึงขั้นคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรอบของ "แอกชันแพลน" ยุทธศาสตร์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2558 ซึ่งแน่นอนว่าแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลก็ต้องดำเนินการตามแผนที่วางไว้ และไฮไลต์สำคัญของแผนอยู่ที่ระบบขนส่งทางราง ที่นอกเหนือจากรถไฟฟ้าในเขต กทม.และปริมณฑล 10 เส้นทางที่ต้องเร่งผลักดันแล้วยังมีเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงระหว่างเมือง ระหว่างภาคและเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคถือเป็นโครงการเร่งด่วนตามมาด้วย

รมว.คมนาคมฉายภาพว่า การพัฒนาระบบรางตามกรอบยุทธศาสตร์แบ่งเป็น 3 ระบบ คือ 1. ระบบรางเดียวขนาด 1 เมตร ที่มีอยู่ดั้งเดิมแล้ว 4,043 ตารางกิโลเมตรครอบคลุม 47 จังหวัด สร้างมานานเสื่อมสภาพต้องมีการซ่อมแซมครั้งใหญ่ ตั้งแต่ไม้หมอน หัวรถจักร ระบบอาณัติสัญญาณ เพิ่มรางคู่ 5 เส้นทาง ซึ่งจะทำให้เพิ่มความเร็วรถไฟจาก 40- เป็น 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับรถขนส่งสินค้า ส่วนรถโดยสารจะปรับจาก 50 เป็น 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อแผนแล้วเสร็จและจะทำให้รับส่งผู้โดยสารและสินค้าได้ในราคายุติธรรมหรือโลว์คอสต์มากยิ่งขึ้น
รถไฟไทย-จีนตุลาฯนี้ลงเสาเข็ม
ส่วนระบบที่ 2 ขนาดราง 1.435 เมตร ความเร็วปานกลาง 160-180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่เกิดจากความร่วมมือแบบรัฐบาลต่อรัฐบาลหรือจีทูจี ระหว่างไทยกับจีนและญี่ปุ่น ซึ่งเส้นทางรถไฟภายใต้ความร่วมมือระหว่างไทยกับจีนนั้นมีความคืบหน้าไปมาก และตั้งเป้าหมายในเดือนกันยายนนี้จะออกแบบและให้แล้วเสร็จจากนั้นจะใช้เวลา 1 เดือนในการร่างสัญญา ตั้งเป้าภายในเดือนตุลาคมนี้ก็น่าจะ
ก่อสร้างได้ในช่วงตอนที่ 1 และ 2 แบ่ง คือช่วงกรุงเทพฯ-แก่งคอย-มาบตาพุด ส่วนช่วงที่ 3 และ 4 จากแก่งคอยนครราชสีมา-หนองคาย จะเริ่มก่อสร้างในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้
เชื่อมทะลุไทย-ลาว-จีน
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวเพิ่มเติมว่า เส้นทางรถไฟสายนี้ถ้าก่อสร้างเสร็จจะเป็นการพลิกโฉมการเดินทางท่องเที่ยว และขนส่งสินค้าครั้งใหญ่ของภูมิภาคนี้ ที่จะมีการเชื่อมโยงตั้งแต่จีนตอนใต้จากคุนหมิงมาถึงเวียงจันทน์ เชื่อมมายังไทยที่หนองคาย ต่อมาถึงกรุงเทพฯ และในอนาคตจะขยายไปปาดังเบซาร์ มาเลเซียและสิงคโปร์ โดยมีไทยเป็นผู้ริเริ่ม
"ล่าสุด ตนได้เดินทางไปเจรจากับลาวเพื่อพัฒนาร่วมกัน ในส่วนที่เป็นมิสซิ่งลิงก์ เวียงจันทน์-หนองคาย ระยะทางราว 30 กิโลเมตร ส่วนเส้นทางจากคุนหมิงมาเวียงจันทน์จะเป็นความร่วมมือระหว่างจีนกับลาว ซึ่งลาวตกลงที่จะใช้ระบบราง 1.435 เมตร"
อย่างไรก็ดี ตามแผนที่วางไว้เมื่อการก่อสร้างรถไฟไทยกับจีนแล้วเสร็จ ช่วงระหว่างจีนกับลาวสร้างเสร็จ ก็จะเดินหน้าสร้างช่วงรอยต่อระหว่างไทยกับลาวทันที โครงการนี้มั่นใจว่าเริ่มก่อสร้างในปีนี้แน่และแล้วเสร็จในปี 2556 ส่วนลาวอาจจะล่าช้ากว่าไทยไป 1 ปีเพราะมีลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขา ส่วนการเชื่อมโยงจากกรุงเทพฯ ไปปาดังเบซาร์ มาเลเซีย และสิงคโปร์ นั้นก็ขึ้นอยู่กับแผนว่าจะเริ่มได้เมื่อไร แต่เมื่อการดำเนินการแล้วเสร็จ จะเป็นมิติใหม่การเดินทางที่เชื่อมโยงระหว่างอาเซียนกับจีน เป็นเส้นทางสายไหมโดยมีไทยเป็นจุดเริ่มต้น
ส่วนความคืบหน้าโครงการเมื่อออกแบบแล้วเสร็จถึงจะรู้ว่าจะใช้งบประมาณเท่าไร ใช้แหล่งเงินกู้จากที่ไหน ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะต้องดูรายละเอียดต่างๆ ประกอบไม่ว่าจะเป็น ภูมิประเทศ เส้นทางผ่านเทือกเขา ร่องน้ำ มีความแตกต่างกัน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต้องเสนอตัวเลขมาแล้ว และต้องหาคนกลางมาประเมินราคา ซึ่งฝ่ายไทยจะลงทุนด้านระบบงานฐานราก ระบบผิวดิน ส่วนของจีนจะเป็นเรื่องการเดินรถ ระบบพลังงานต่างๆ รมว.คมนาคม แจง
ซีพี/ไทยเบฟ ตื่นตัวสุด
สำหรับระบบที่ 3 เป็นรถไฟความเร็วสูง ความเร็ว 200-250-300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มี 2 เส้นทางคือกรุงเทพฯ-พัทยา หรือกรุงเทพฯ-ระยอง ระยะทาง 129 กิโลเมตร วงเงิน 1.11 แสนล้านบาท และกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 211 กิโลเมตร วงเงิน 8.11 หมื่นล้านบาท ซึ่งใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง รัฐบาลจึงเปิดทางเชิญชวนให้ภาคเอกชนไทยเข้ามาร่วมลงทุน เบื้องต้นมี 3 กลุ่มธุรกิจใหญ่ของไทย เข้าหารือในเรื่องนี้กับกระทรวงคมนาคมแล้วประกอบด้วย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี กลุ่มบีทีเอส ของ คีรี กาญจนพาสน์ และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ แต่ภายหลัง บีทีเอส เสนอตัวขอทำรถไฟขนาด 1 เมตร จึงเหลือเพียง 2 กลุ่มเท่านั้น
"ซีพีและไทยเบฟ มีความกระตือรือร้นมาก เขามีการเตรียมการรูปแบบการลงทุนซึ่งเพราะไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือแบบรัฐและเอกชนร่วมกัน (พีพีพี) โดยการพบครั้งที่ 2 ซีพีได้มีการเปิดตัว 2 พันธมิตรใหม่ คือบริษัท ซิทิก คอนสทรัคชั่นฯ จากฮ่องกง ซึ่งเป็นบริษัททางด้านการเงิน และไห่หนาน จากฮ่องกง ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ด้านการก่อสร้าง ด้านบกและน้ำ ทำให้เขาและเรามั่นใจว่าโครงการจะเกิดขึ้นได้แน่เพราะเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการระดมทุน และยังลดภาระรัฐบาล"
ปี 59 แจ้งเกิดไฮสปีดเทรน
อย่างไรก็ตาม พล.อ.อ.ประจิน มีความเชื่อว่ากลุ่มทุนไทยคงรวมตัวกันมาเป็นคอนซอร์เตียม ส่วนการเข้ามาหารือก็เพื่อหาข้อมูลดูลู่ทางของความร่วมมือ เช่น มีกี่สถานี สร้างเมื่อไร รูปแบบการลงทุน เพื่อนำไปศึกษาถึงลู่ทางการลงทุน ซึ่งได้ให้ข้อมูลถึงดีมานด์ที่มีมาก ทั้งประชากร นักท่องเที่ยว จากปริมาณการใช้รถบัส รถส่วนตัว ช่วงเทศกาล รถติดหนึบ ทั้งยังมีแหล่งอุตสาหกรรม ประมง เกษตร เป็นต้น
ด้านเงินลงทุนและอัตราค่าโดยสารนั้น ต้องมีความสัมพันธ์กัน และจะเป็นตัวแปรหลักในการลงทุน ราคาตั๋ว เพราะยิ่งใช้เทคโนโลยี ราคาก็จะเพิ่มสูงตามมา ซึ่งคาดว่าทีโออาร์น่าจะทำเสร็จในเดือนพฤษภาคมเพราะของเดิมที่เคยศึกษาไว้นั้นใช้ได้ 50% โดยจะมีการเวนคืนที่ดินเท่าที่จำเป็น ส่วนการพัฒนาบริเวณสถานีเพื่อสร้างชุมชนใหม่คอมเมอร์เชียล นั้นต้องตกลงกันว่าจะเอาอย่างไร โดยต้องอยู่ในหลักการ "สมาร์ทซิตี้ กรีน เทคโนโลยี" ซึ่งขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างสำรวจออกแบบ ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและนำเสนอ ครม.
"รถไฟความเร็วสูงน่าจะเกิดได้ภายในปี 2559 โดยขั้นตอนอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ (ฟลีตอะบิลิตีสตัดดี้) พอเป็นรูปเป็นร่างอนุมัติเป็นกรอบวงเงิน จากนั้นจะทำดีเทลดีไซน์เหมือนแบบสร้างบ้าน ก่อสร้าง จากนั้นจะเป็นการจัดการเดินรถ ทำเป็นสเต็ป"
อีกเส้นทางที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันนักคือรถไฟไทย-ญี่ปุ่น ล่าสุดญี่ปุ่นแจ้งว่าสนใจ 2 เส้นทางเชื่อมจากทวายมายังแหลมฉบัง จากกาญจนบุรีกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง และกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-อรัญประเทศ ระยะทาง 574 กิโลเมตร อนาคตสามารถเชื่อมไปถึงเวียดนาม เป็นรถไฟรางคู่ขนาด 1 เมตรและรถไฟความเร็วสูง (300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 670 กิโลเมตร ซึ่งจะมีการลงนามข้อตกลงเบื้องต้น (เอ็มโอยู) กันในเดือนพฤษภาคมนี้
ดูเหมือนทุกโครงการจะเดินหน้าไปได้ด้วยดี รอเพียงแค่รัฐบาลออกแรงเท่านั้น !!
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 09/05/2015 10:53 pm    Post subject: Reply with quote


รถไฟ ไทย - จีน - หนองคาย - โคราช - แก่งคอย - คลอง 19 - ฉะเชิงเทรา - แหลมฉบัง - มาบตาพุด
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=80nN1iIE2Js
http://www.korat-maptaphutstandardgauge.com/index.php
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 11/05/2015 9:37 am    Post subject: Reply with quote

Click on the image for full size
Click on the image for full size
ใครสนใจจะเข้ารวมประชาพิจารณ์ ก็ไปตามวันและสถานที่ดังกล่าวนี้นะครับ
http://www.korat-maptaphutstandardgauge.com/news_detail.php?id_file=52
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 39, 40, 41 ... 121, 122, 123  Next
Page 40 of 123

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©