RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311280
ทั่วไป:13262387
ทั้งหมด:13573667
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวแผนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของประเทศ 2558-65
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวแผนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของประเทศ 2558-65
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 90, 91, 92 ... 121, 122, 123  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/01/2018 7:00 pm    Post subject: Reply with quote

ททท. บุกอีสานหลังเชื่อมสายการบิน-รถไฟ ลุ้นรายได้สะพัด 8.2 หมื่นล้าน ในปี’61
ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 26 มกราคม 2561 - 16:41 น.

นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ตั้งเป้าปี 2561 มีนักท่องเที่ยวคนไทยมาเที่ยวอีสาน จำนวน 36 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 8.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วทั้งเชิงจำนวนคนและรายได้ ปัจจุบันสถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวและเดินทางไปภาคอีสานในภาพรวมถือว่าดีขึ้น มีสายการบินให้บริการเที่ยวบินไปภาคอีสานครบทั้ง 9 สนามบิน มีโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-โคราช ได้ลงเสาเข็มไปแล้วเมื่อปลายปี 2560 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ภาคอีสานสามารถปักหมุดตลาดต่างประเทศได้แค่บางจังหวัดเท่านั้น ซึ่ง ททท. ตั้งใจขายอีสานให้เป็น บูทีค สไตล์ เน้นสร้างเสน่ห์ ไม่จำเป็นต้องมีโรงแรมและจำนวนห้องพักมากเหมือนเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ แต่ต้องมีสไตล์เฉพาะตัว และสามารถท่องเที่ยวได้ทั้ง 3 ฤดู ด้วยการชูแหล่งท่องเที่ยวโดดเด่นในแต่ละฤดู โดยเฉพาะ อุดรธานี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีศักยภาพในการเป็นเมืองหลักในอนาคต มีนักท่องเที่ยวจากฝั่ง สปป.ลาว นิยมเดินทางมาพักผ่อน มีร้านค้าร้านอาหารนานาชาติรองรับ นอกจากนี้ อุดรธานียังเป็นจังหวัดที่มีเขยเป็นชาวต่างชาติจำนวนมาก มักจะพาครอบครัวไปช็อปปิ้งและจับจ่ายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และคนอุดรฯ เดินทางไปทำงานเมืองนอก ส่งเงินกลับมาที่บ้านเกิดแต่ละเดือนสะพัดกว่า 4-5 พันล้านบาท ถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายในพื้นที่

“ททท. วางเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง สปป.ลาว และกัมพูชา ด้วยการเดินทางผ่านด่านถาวรที่มีอยู่ทุกจังหวัดของภาคอีสานที่ติดเขตแดนทั้งสองประเทศ คาดว่าปีนี้ จะเห็นเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) จากจีนนำร่องมาลงภาคอีสาน โดยสายการบินจีน ทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำเข้า 3 จังหวัดในภาคอีสาน ได้แก่ ขอนแก่น อุดรธานี และอุบลราชธานี เพราะมีสนามบินนานาชาติรองรับ ซึ่งจะช่วยยกระดับการใช้จ่ายในภาคอีสานให้สูงขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องเร่งเตรียมความพร้อมรองรับ ทั้งเรื่องที่พัก อาหาร และมัคคุเทศก์”

นายสมชาย กล่าวว่า นครราชสีมา หรือ โคราช ททท. จะผลักดันให้เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มีสนามบิน มีรถไฟความเร็วสูง ตั้งเป้า มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติไปเยือนเกิน 5 ล้านคนต่อปีได้ ส่วน ขอนแก่น ททท. วางเป้าหมายขยายฐานนักท่องเที่ยวให้เพิ่มเป็น 5.5 ล้านคน ขึ้นแท่นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก อาศัยปัจจัยเรื่องจำนวนเที่ยวบินของสายการบินราคาประหยัด รวมถึงหลายๆ จุดเด่นของขอนแก่นที่เป็นทั้งเมืองท่องเที่ยว เมืองจัดประชุมสัมมนา เมืองการศึกษา และเมืองสุขภาพกับความงาม นอกจากนี้ ขอนแก่นเองยังเตรียมการลงทุนรถไฟรางเบา ภายใต้แนวคิด ขอนแก่น สมาร์ทซิตี้ขับเคลื่อนการลงทุนโดยคนในจังหวัด
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 29/01/2018 12:06 pm    Post subject: Reply with quote

ครม.สัญจรโชว์คืบหน้าอีอีซี "สมคิด" ปรับแผนรถไฟทางคู่วิ่งทะลุตราด
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
29 มกราคม 2561 - 08:30

“สมคิด” สั่งปรับแผนให้เร่งรถไฟทางคู่วิ่งทะลุถึง จ.ตราด เสริมแกร่งท่องเที่ยวภาคตะวันออก โชว์ความคืบหน้าอีอีซีรับ ครม.สัญจร เชื่อมให้คนในพื้นที่ได้ประโยชน์ไม่เฉพาะแค่ภาคอุตสาหกรรม
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/01/2018 5:13 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมถกแอคชั่นแพลน20โครงการ1.3ล้านล.
INN News ข่าวเศรษฐกิจ วันจันทร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2561 16:20 น.

กระทรวงคมนาคม ถกคืบหน้า แอคชั่นแพลน 20โครงการ วงเงิน 1.3 ล้านล้านบาท ขณะ 31 ม.ค.เสนอสคร. พิจารณารถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หัวหิน

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมแผนปฏิบัติการของกระทรวงคมนาคาม ว่า ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งตามแผนปฏิบัติการ หรือแอคชั่นแพลน รวม 20โครงการ วงเงินลงทุน 1.3 ล้านล้านบาท โดยมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างประกอบด้วย ทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น คืบหน้าร้อยละ47.87 โครงการพัมนาท่าเทียบเรือชายฝั่งAที่ท่าเรือแหลมฉบัง คืบหน้าร้อยละ 99.14 โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สาย พัทยา-มาบตาพุด ร้อยละ 65.60 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ร้อยละ24.87 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี งานโยธา ร้อยละ4.66 ขณะที่โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ช่วงนครปฐม-หัวหินและช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ลงนามในสัญญาครบแล้ว

ด้านรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ส่วนงานโยธาเตรียมประกวดราคาภายในไตรมาส1 ปีนี้โครงการระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระของท่าอากาศยานสุวรรรภูมิ เตรียมก่อสร้างในเดือนมีนาคม2561 โครงการทางด่วนพระรม3-ดาวคะนองเตรียมประกวดราคาเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2561และเริ่มก่อสร้างเดือนมิถุนายน2561 และในวันที่31มกราคมนี้กระทรวงฯจะเสนอข้อมุลเพิ่มเติมโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-หัวหิน ให้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร.พิจารณา รวมถึงช่วงกรุงเทพฯ-ระยอง ที่จะเชื่อมโยง3สนามบินอยู่ระหว่างขอความคิดเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำเสนอคระกรรมการนโยบายเศราบกิจระหว่างประเทศ หรือ กนศ.ตามขั้นตอนของ EEC Track ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/01/2018 7:18 pm    Post subject: Reply with quote

คค.เร่งเมกะโปรเจ็กต์ ชงรถไฟทางคู่เฟส2 เข้าครม. – เสนอสคร.เคาะไฮสปีด”กรุงเทพฯ-หัวหิน”
เผยแพร่: 29 ม.ค. 2561 18:23:00 โดย: MGR Online

“คมนาคม”เร่งAction Plan ปี 60 สรุปรถไฟทางคู่ระยะ 2 ,รถไฟชานเมืองสายสีแดง,ทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ชงครม. ขณะที่ เร่งขสมก.ปรับแผนฟื้นฟู เพื่อสรุปการซื้อรถเมล์ไฟฟ้า ส่วนรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-หัวหิน เตรียมเสนอข้อมูลเพิ่มเติมต่อสคร. 31 ม.ค. นี้

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง) เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ว่า ตามแผนปฏิบัติการ(Action Plan) ระยะเร่งด่วน พ.ศ. 2560 จำนวน 36 โครงการ วงเงินลงทุน 895,757.55 ล้านบาท นั้น ในส่วนที่อยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้แก่ รถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 8 โครงการ นั้นกระทรวงคมนาคมให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ทำข้อมูลเพิ่มเติม ได้แก่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย/ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี/ช่วงขอนแก่น-หนองคาย/ช่วงชุมพร-สุราษฏร์ธานี/ช่วงสุราษฏร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา/ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ / ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ/ช่วงบ้านไผ่-นครพนม

รถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อนช่วง ตลิ่งชัน-ศาลายาและตลิ่งชัน-ศิริราช วงเงิน 17,671 ล้านบาทขณะนี้รอความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง , สายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-มธ.(ศูนย์รังสิต) วงเงิน 7,596 ล้านบาท ขณะนี้รอความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ,ทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือวงเงิน 14,382 ล้านบาท ให้กทพ.ทำความเห็นประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม, รถเมล์ไฟฟ้า(EV) และสถานีประจุไฟฟ้า อยู่ระหว่างจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เพื่อเปลี่ยนแปลงการจัดหารถโดยสาร

ส่วนโครงการที่เตรียมเสนอคณะกรรมการ PPP จำนวน 8 โครงการ ได้แก่ มอเตอร์เวย์ นครปฐม-ชะอำ วงเงิน 80,600 ล้านบาท,มอเตอร์เวย์หาดใหญ่-ชายแดนไทย/มาเลเซีย วงเงิน30,500 ล้านบาท ,ทางด่วนสายกะทู้-ปาตอง วงเงิน13,916 ล้านบาท ,ศูนย์ขนส่งนครพนม วงเงิน1,239 ล้านบาท ,สถานีขนส่งภูมิภาคชายแดน วงเงิน 8,162 ล้านบาท และสถานขนส่งสินค้าภูมิภาคเมืองหลัก วงเงิน 7,793 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ วงเงิน123,354 ล้านบาท ,โครงการศูนย์ซ่อมอู่ตะเภา MRO และท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 วงเงิน 35,099 ล้านบาท

ส่วน Action Plan จำนวน 20โครงการ วงเงินลงทุน 1,383,938.89 ล้านบาทนั้น ขณะนี้มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างรวม 13 โครงการ ได้แก่ รถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น คืบหน้า 47.87% โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง A ที่ท่าเรือแหลมฉบัง คืบหน้า 99.14% โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สาย พัทยา-มาบตาพุด คืบหน้า 65.60% สายบางปะอิน-นครราชสีมาคืบหน้า 24.87% โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี งานโยธา คืบหน้า 4.66% ,โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ช่วงนครปฐม-หัวหินและช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ลงนามในสัญญาครบแล้ว เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560

ขณะที่ รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ เตรียมประกวดราคางานโยธา ภายในไตรมาส1 ปีนี้ โครงการระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เตรียมก่อสร้างในเดือนมีนาคม2561 โครงการทางด่วนพระราม3-ดาวคะนอง เตรียมประกวดราคาเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2561และเริ่มก่อสร้างเดือนมิถุนายน2561

และโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-หัวหิน เตรียมเสนอข้อมูลเพิ่มเติม ให้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร.พิจารณาในวันที่31มกราคม นี้ ส่วนรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-ระยอง อยู่ระหว่างรอความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อรายงานการศึกษารถไฟเชื่อม 3 สนามบิน เพื่อนำเสนอคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ หรือ กนศ.ตามขั้นตอนของ EEC Track ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 31/01/2018 5:13 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ตกลงใช้เส้นทางเดิมสมัยสงครามนะครับ Very Happy

ฟังเสียงชาวใต้ 2 จังหวัดต่อโครงการรถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง
เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2560 เวลา 13.39 น.

รถไฟสายใหม่ชุมพร-ระนอง 1-2 ก.พ. นัดฟังเสียงชาวบ้าน
เดลินิวส์
พุธที่ 31 มกราคม 2561 เวลา 11.20 น.

1-2 ก.พ. สนข. จัดฟังเสียงชาวชุมพร-ระนอง โครงการศึกษารถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนองครั้งสุดท้าย พร้อมจัดเวิร์กชอป ระดมสมองร่วมผลักดันแนวทางพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวจังหวัด

รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) แจ้งความคืบหน้าโครงการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และสิ่งแวดล้อม เส้นทางรถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนองว่า วันที่ 1 ก.พ. จะจัดประชุมสัมมนาเสนอผลการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นร่างรายงานฉบับสุดท้ายที่โรงแรมนานาบุรี อ.เมือง  จ.ชุมพร โดยที่ปรึกษาจะนำเสนอผลการศึกษาออกแบบเบื้องต้นรวมถึงทั้งเสนอผลการศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ การเงินและรูปแบบการลงทุน  รวมถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (ไออีอี) และมาตรการจัดการกับผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น


โดยมีรูปแบบเป็นรถไฟรางเดี่ยวระยะทาง 102.5 กม. ใช้เวลาก่อสร้าง 3-4 ปี และเปิดให้บริการได้ประมาณปี 77 มี 9 สถานี ได้แก่ สถานีขุนกระทิง สถานีบ้านนา สถานีวังใหม่ สถานีปากจั่น สถานีกระบุรี สถานีบางใหญ่ สถานีละอุ่น สถานีท่าเรือระนอง และจากสถานีท่าเรือระนอง จะมีเส้นทางแยก เข้าสู่เมืองระนอง สิ้นสุดที่สถานีระนอง ระยะทางประมาณ 4 กม. จุดเริ่มต้นแนวเส้นทางบริเวณพื้นที่ทางใต้ของสถานีรถไฟชุมพรและอยู่ด้านเหนือของสถานีรถไฟแสงแดด  แนวเส้นทางรถไฟจะโค้งออกจากรถไฟสายใต้เดิมมุ่งไปยังทิศตะวันตกและขนานกับทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านพื้นที่เขต อ.เมือง จ.ชุมพร อ.กระบุรี อ.ละอุ่น และ อ.เมือง จ.ระนอง จนสิ้นสุดโครงการที่บริเวณท่าเรือน้ำลึกระนอง

ส่วนวันที่ 2 ก.พ. จะจัดประชุมสัมมนาเสนอผลการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นร่างรายงานฉบับสุดท้ายที่โรงแรมทินิดี แอท ระนอง อ.เมือง จ.ระนอง และยังจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กชอป) กลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจังหวัด ได้แก่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และปราชญ์ชาวบ้าน จ.ระนอง ที่มีความรู้กับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัด เพื่อร่วมกันเสนอแนะแนวทางของจังหวัดให้เกิดความต้องการในการเดินทางของนักท่องเที่ยวและประชาชนในอนาคต เพื่อเกิดการสร้างรถไฟได้เร็ว เช่น ระนองมีจุดเด่นเรื่องน้ำแร่ มีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีชื่อเสียง อาทิ อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สามารถดึงดูดการเดินทางของนักท่องเที่ยวได้ รวมทั้งเส้นทางรถไฟสายชุมพร-กระบุรี-คลองละอุ่น หรือทางรถไฟสายคอคอดกระ  ซึ่งเป็นทางรถไฟที่ญี่ปุ่นสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และพิพิธภัณฑ์เชิงประวัติศาสตร์ สงครามโลกครั้งที่ 2 อ.ละอุ่น จ.ระนอง เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อนำมาพัฒนาพื้นที่ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 01/02/2018 8:21 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดวงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท สร้าง "รถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง"
เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 19.12 น.

สนข. เปิดมูลค่าลงทุน 4.5 หมื่นล้านบาท รถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง ด้านชาวชุมพรหวั่นเวนคืน-แนวทางเยียวยา-อยากให้เกิด หวังเพิ่มมูลค่าจังหวัดในอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่โรงแรมนานาบุรี อ.เมือง จ.ชุมพร นายชัยสิทธิ์ พานิชพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานการประชุมสัมมนาเสนอผลการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นร่างรายงานฉบับสุดท้าย โครงการการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อมเส้นทางรถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง โดยมีนางวิไลรัตน์ ศิริโสภณศิลป์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองท้องถิ่นและประชาชนร่วมสัมมนา 

นางวิไลรัตน์ เปิดเผยว่า การสัมมนาครั้งนี้ที่ปรึกษาได้นำเสนอผลการศึกษาออกแบบเบื้องต้นตามแนวเส้นทางของโครงการ และโครงสร้างพื้นฐาน โดยโครงการรถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง ซึ่งเป็นรถไฟรางเดี่ยว มีระยะทาง 108 กม. เส้นทางหลัก 103 กม. และเส้นทางแยกเข้าสู่ตัวเมืองระนอง 5 กม. เบื้องต้นมี 9 สถานี ได้แก่ สถานีขุนกระทิง สถานีบ้านนา สถานีวังใหม่ สถานีปากจั่น สถานีกระบุรี สถานีบางใหญ่ สถานีละอุ่น สถานีท่าเรือน้ำลึกระนอง และสถานีระนอง 

นางวิไลรัตน์ กล่าวต่อว่า ใช้วงเงินลงทุนเบื้องต้น 45,300 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ 1.ช่วงก่อนก่อสร้าง ค่าสำรวจและออกแบบ วงเงิน 300 ล้านบาท 2.ช่วงระหว่างก่อสร้าง ค่าเวนคืนที่ดิน งานโยธา และงานระบบราง วงเงิน 31,000 ล้านบาท และ 3.ช่วงเปิดให้บริการเดินรถ 30 ปี ค่าจัดหาขบวนรถไฟ และค่าบำรุงรักษา วงเงิน 14,000 ล้านบาท ส่วนด้านผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) จะอยู่ที่12.20% สำหรับปริมาณคาดการณ์ผู้โดยสารในปีแรกที่เปิดให้บริการจะอยู่ที่ราว 5,724 คนต่อปี และจะเพิ่มเป็นจำนวน 11,710 คนต่อปีภายในระยะเวลา30 ปีหลังจากเปิดให้บริการ คิดเป็นปริมาณการเติบโตราว 100% หรือคิดเป็น 28% ต่อระยะเวลา 10 ปี ส่วนด้านปริมาณการขนส่งสินค้านั้นในปีแรกที่เปิดบริการจะมีปริมาณสินค้านำเข้า-ส่งออกราว 33,116 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี และจะเพิ่มเป็น 85,502 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี คิดเป็นปริมาณการเติบโตราว 158% หรือคิดเป็น 53% ต่อระยะเวลา 10 ปี แบ่งเป็นสินค้านำเข้าทั่วไปอาทิ เหล็ก สินค้าเกษตร สินค้าบริโภค สินค้ากลุ่มก่อสร้างและสินค้าอุตสาหกรรม

นางวิไลรัตน์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ทางรถไฟสายดังกล่าว พบว่าแนวเส้นทางโครงการจะผ่านพื้นที่อ่อนไหว ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ แนวเส้นทางบางช่วงพาดผ่านพื้นที่ อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี ระยะทาง 12 กม. และพื้นที่ป่าชายเลน 17 กม. ผ่านลำน้ำสายหลักที่แนวเส้นทางตัดผ่าน อาทิ คลองชุมพร คลองนาคราช คลองมะมุ เป็นต้น รวมทั้งพื้นที่อ่อนไหวบริเวณพื้นที่ศึกษาโครงการข้างละ 500 เมตร จากกึ่งกลางแนวเส้นทางรถไฟ แบ่งเป็น ศาสนสถาน 10 แห่ง สถานีอนาคต/โรงพยาบาลส่งเสิมสุขภาพตำบล 6 แห่ง สถานศึกษา 14 แห่ง และชุมชน หมู่บ้าน 44 แห่ง รวมทั้งสิ้น 74 แห่ง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ที่ปรึกษาส่งรายงานฉบับสมบูรณ์ให้ สนข. ภายในปลายเดือน ก.พ.61 ก่อนที่ สนข. นำเสนอให้กระทรวงคมนาคมทราบ เพื่อมอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)  ไปศึกษารายละเอียดออกแบบโครงการ จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) กำหนดพื้นที่เวนคืนและดำเนินการก่อสร้างต่อไป

ด้านนายชัยสิทธิ์ กล่าวว่า การขนส่งสินค้าและผู้โดยสารทางรถไฟเป็นการขนส่งที่ปลอดภัยและคุ้มทุนสูงสุดรองจากการขนส่งทางเรือ ประกอบกับนโยบายของภาครัฐส่งเสริมพัฒนาคมนาคมทางราง ตอนนี้เริ่มต้นโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่มา ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร และพัฒนาโครงข่ายคมนคมหลากหลาย เพื่อให้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น อย่างไรก็ตามการพัฒนาโครงการดังกล่าว ทำให้ชุมพรเป็นจังหวัดจุดศูนย์กลางของการคมนาคม ทั้งเรือ บก อากาศ และทางรถไฟได้ในอนาคต รองจากสุราษฎร์ธานี เนื่องจากชุมพรมีการแปรรูปสินค้าเกษตรและสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ที่ทำให้ประชาชนและเส้นทางรถไฟดังกล่าวเป็นจุดจูงใจให้นักท่องเที่ยว นักเดินทาง การค้าขาย ขยายธุรกิจและมั่นใจบริการภาครัฐ ทั้งนี้เป็นอีกเส้นทางหนึ่งเชื่อมต่อทะเล 2 ฝั่ง ทั้งทะเลอันดามัน และอ่าวไทย น่าจะเป็นเส้นทางเพิ่มการขนส่งสินค้าในคราบสมุทร นอกจากนี้เป็นเส้นทางจุดสนใจของนักท่องเที่ยวกลายกลุ่ม เพราะแนวเส้นทางผ่านธรรมชาติที่สมบูรณ์มาก ทั้งภูเขา และริมทะเล ตลอดจนเพิ่มรายได้ทางด้านเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามชาวชุมพรมีความคาดหวังและต้องการโครงการดังกล่าว เพื่อความสะดวก และเพิ่มคุณค่าของจังหวัดชุมพรได้ในอนาคต

ขณะที่ผู้ร่วมสัมมนาในครั้งนี้ประชาชนเห็นด้วย แต่ชาวบ้านบางส่วน เช่น ต.บ้านนา ยังกังวลเรื่องเวนคืนที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์และอาศัยอยู่ก่อนที่จะมี กฎหมายของกรมป่าไม้มาบังคับใช้ และเยียวยาอย่างไร รวมทั้งให้ไปจัดรับฟังความคิดเห็นประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้ทั่วถึง ทั้งนี้โครงการวงเงิน 4.5 หมื่นกว่าล้านบาทจะคุ้มทุนหรือไม่ หากมีความคุ้มทุนมีจำนวนเท่าไหร่ เพราะเงินทุกบาทมาจากภาษีของชาวบ้านทั้งหมด นอกจากนี้อยากให้โครงการดังกล่าวเกิด เพื่อพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของภาคใต้ ตลอดจนท่าเรือน้ำลึกระนองเชื่อมต่อไม่สมบูรณ์หวังว่ารถไฟดังกล่าวจะช่วยเติมเต็มได้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/02/2018 9:04 pm    Post subject: Reply with quote

ชาวระนองเชียร์รถไฟสายใหม่ ชุมพร-ท่าเรือน้ำลึก
เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 13.30 น.

โครงการรถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนองฉลุย ชาวระนองหนุนเต็มที่ ชี้ทำให้ชุมชนมีความเจริญ มีงานทำ แอบหวั่นไม่คุ้มทุน ห่วงสิ่งแวดล้อม ย้ำเวนคืนต้องชัด ขอความชัดเจนด่วน จะได้เตรียมตัวหาที่อยู่ใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่โรงแรมทินิดี แอท ระนอง อ.เมือง จ.ระนอง นายพรเทพ ผ่องศรี รองผู้ว่าราชการ จังหวัดระนอง พร้อมนางวิไลรัตน์ ศิริโสภณศิลป์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ร่วมเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาเสนอผลการศึกษา และรับฟังความคิดเห็นร่างรายงานฉบับสุดท้ายโครงการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อม เส้นทางรถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองท้องถิ่นและประชาชนร่วมสัมมนา

นางวิไลรัตน์ เปิดเผยว่า การสัมมนาครั้งนี้ที่ปรึกษาได้นำเสนอผลการศึกษาออกแบบโครงการรถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง ซึ่งเป็นรถไฟรางเดี่ยว มีระยะทาง 108 กม. เบื้องต้นมี 9 สถานี ได้แก่ สถานีขุนกระทิง สถานีบ้านนา สถานีวังใหม่ สถานีปากจั่น สถานีกระบุรี สถานีบางใหญ่ สถานีละอุ่น สถานีท่าเรือน้ำลึกระนอง และสถานีระนอง โดยจุดเริ่มต้นเป็นแนวเส้นทางบริเวณพื้นที่ทางใต้ของสถานีรถไฟชุมพร จากนั้นมุ่งไปทางด้านทิศตะวันตกตัดผ่านทางหลวงหมายเลข  ชพ.3009 มุ่งต่อไปทางทิศตะวันตกและขนานกับทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านพื้นที่เขต ต.ขุนกระทิง ต.บ้านนา ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร และผ่าน ต. จ.ป.ร. ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง จากนั้นแนวเส้นทางมุ่งลงทางทิศใต้และขนานไปกับถนนเพชรเกษม ด้านฝั่งตะวันออกผ่านพื้นที่ ต.มะมุ ต.น้ำจืดน้อย ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง แนวเส้นทางยังมุ่งลงทางทิศใต้ขนานกับถนนเพชรเกษม แต่สลับมาอยู่ด้านตะวันตก ผ่านพื้นที่ ต.ลำเลียง ต.บางใหญ่ อ.กระบุรี และ ต.บางแก้ว ต.บางพระใต้ อ.ละอุ่น ต.ทรายแดง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง มีสภาพื้นที่เป็นป่าชายเลน สลับกับเนินเขาและตัดผ่านคลองสำคัญ เช่น คลองลำเลียง คลองละอุ่นแมะไปสิ้นสุดโครงการบริเวณท่าเรือน้ำลึกระนอง รวมระยะทาง 103 กม.

นางวิไลรัตน์ กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าวมีวงเงินลงทุนเบื้องต้น 45,300 ล้านบาท ส่วนด้านผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) จะอยู่ที่ 12.20% สำหรับปริมาณคาดการณ์ผู้โดยสารในปีแรกที่เปิดให้บริการจะอยู่ที่ราว 5,724 คนต่อปี และจะเพิ่มเป็นจำนวน 11,710 คนต่อปีภายในระยะเวลา 30 ปีหลังจากเปิดให้บริการ คิดเป็นปริมาณการเติบโตราว 100% หรือคิดเป็น 28% ต่อระยะเวลา 10 ปี ส่วนด้านปริมาณการขนส่งสินค้านั้นในปีแรกที่เปิดบริการจะมีปริมาณสินค้านำเข้า-ส่งออกราว 33,116 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี และจะเพิ่มเป็น 85,502 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี คิดเป็นปริมาณการเติบโตราว 158% หรือคิดเป็น 53% ต่อระยะเวลา 10 ปี แบ่งเป็นสินค้านำเข้าทั่วไป อาทิ เหล็ก สินค้าเกษตร สินค้าบริโภค สินค้ากลุ่มก่อสร้างและสินค้าอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ที่ปรึกษาจะส่งรายงานฉบับสมบูรณ์ให้ สนข. ภายในปลายเดือน ก.พ.61 ก่อนที่ สนข. นำเสนอให้กระทรวงคมนาคมทราบ เพื่อมอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไปศึกษารายละเอียดออกแบบโครงการ จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) กำหนดพื้นที่เวนคืนและดำเนินการก่อสร้างต่อไป

ด้านนายพรเทพ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นการเชื่อมโยงโครงข่ายทางรถไฟในพื้นที่อ่าวไทยและทะเลอันดามัน พัฒนาศักยภาพการแข่งขันของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ส่งประโยชน์ในการเดินทางสะดวกต่อทั้งประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดระนองที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังช่วยสนับสนุนการขนส่งสินค้าจาก กทม. ไป ชุมพร และมายังท่าเรือน้ำลึกระนอง ซึ่งถือเป็นประตูเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศบิมสเท็ก (BIMSTEC) ประกอบด้วย บังคลาเทศ อินเดีย เมียนมา ศรีลังกา และไทย

ขณะที่ผู้เข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้มองว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดี และต้องการให้เกิดเร็วที่สุด และช่วยกันพัฒนาให้เจริญ เพื่อชาวระนองจะได้มีงานทำ ทั้งนี้งบประมาณลงทุนโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่ภาครัฐลงทุนในพื้นที่กรุงเทพฯ ภาคเหนือและภาคอีสาน แต่ภาคใต้มีโอกาสน้อยมากที่จะมาลงทุนสิ่งเหล่านี้ ทั้งนี้ผู้ที่มีบ้านใกล้เคียงกับเขตก่อสร้างจะได้รับผลกระทบเกิดความเสียหายจะเยียวยาอย่างไร รวมทั้งระนองไม่มีเอกสารสิทธิ์ หากเวนคืนเจ้าของที่ได้รับผลกระทบไม่ได้รับการเยียวยาจริง แนะตั้งแต่เริ่มก่อสร้างอยากให้ตั้งศูนย์ร้องเรียนจนก่อสร้างจบ ต้องการความชัดเจนของรูปแบบการลงทุน และมีใครกล้าลงทุน จะคุ้มทุนหรือไม่ ทั้งนี้การลงทุนมีความคุ้มทุนอยู่แล้วถ้ามีโครงการดังกล่าว เพราะระนองจะเชื่อมโยงอาเซียนด้วย ขอความชัดเจนการเวนคืนว่ามีกี่หลังคาเรือน เพื่อมีระยะการเตรียมตัวหาที่อยู่ใหม่ รวมทั้งยังห่วงสิ่งแวดล้อม ที่เป็นป่าชายเลนที่เป็นมรดกโลก ที่จะโดนผลกระทบ.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44506
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/02/2018 10:19 am    Post subject: Reply with quote

ดันรถไฟ 14 สายใหม่ 5 แสนล้านเชื่อมเมืองรองหนุนท่องเที่ยว
กรุงเทพธุรกิจ 3 ก.พ. 61

ร.ฟ.ท.ทำแผนผุดโครงข่ายรถไฟสายใหม่ 14 เส้นทาง วงเงินลงทุน 5 แสนล้าน เชื่อมเมืองรอง-หนุนท่องเที่ยว สมคิด มอบนโยบายให้เส้นทางเป็นลูป เชื่อมธุรกิจตลาดท่องเที่ยว พร้อมเปิดทางร.ฟ.ท. แก้มติ ครม. เพิ่มจำนวนพนักงาน

หลังจากไทยว่างเว้นการลงทุนระบบรางไปหลายสิบปี มาถึงรัฐบาลชุดนี้ได้ให้ความสำคัญกับการขนส่งทางรางมากขึ้น โดยระบุว่าต้องการแก้ไขปัญหาจราจร ลดต้นทุนขนส่ง ลดอุบัติเหตุ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสาธารณะ ขณะที่ปัจจุบันการลงทุนรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑลคืบหน้าไปมาก น้ำหนักการลงทุนในปีนี้ จึงย้ายมาอยู่ที่โครงการก่อสร้างรถไฟระยะไกล เชื่อมระหว่างเมืองและภูมิภาค

Click on the image for full size

+++ สายอีสาน +++
อุบลราชธานี-ช่องเม็ก (87 กม.) 9,197 ล้านบาท
ศรีสะเกษ-ยโสธร-ร้อยเอ็ด (162 กม.) 20,435 ล้านบาท

+++ เชื่อมตะวันตก-ตะวันออก (ตอนล่าง)+++
กาญจนบุรี-สุพรรณบุรี-บ้านภาชี (221 กม.) 41,771 ล้านบาท
กาญจนบุรี-บ้านพุน้ำร้อน (36 กม.) 6,497 ล้านบาท
ศรีราชา-ระยอง (70 กม.) 13,357 ล้านบาท
มาบตาพุด-ระยอง-จันทบุรี-ตราด (197 กม.) 34,649 ล้านบาท

+++ สายใต้ +++
ชุมพร-ระนอง (116 กม.) 18,748 ล้านบาท
สุราษฎร์ธานี-ดอนสัก (76 กม.) 17,147 ล้านบาท
สุราษฎร์ธานี-พังงา-ท่านุ่น (158 กม.) 34,237 ล้านบาท
ทับปุต-กระบี่ (68 กม.) 15,223 ล้านบาท

+++ เชื่อมตะวันตก-ตะวันออก (ตอนบน)
บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม (355 กม.) 60,352 ล้านบาท
แม่สอด-ตาก-กำแพงเพชร-นครสวรรค์ (256 กม.) 96,785 ล้านบาท
นครสวรรค์-บ้านไผ่ (291 กม.) 47,712 ล้านบาท

+++ สายเหนือ +++
เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ (326 กม.) 85,345 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 05/02/2018 10:40 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ดันรถไฟ 14 สายใหม่ 5 แสนล้านเชื่อมเมืองรองหนุนท่องเที่ยว
กรุงเทพธุรกิจ 3 ก.พ. 61


รฟท. เตรียมลงทุนแสนล้านขยายเส้นทางสู่เมืองรอง
วันอาทิตย์ 4 กุมภาพันธ์ 2018 8:29 pm


ในอีก 6 ปีข้างหน้า ประชาชนที่อยู่ในเส้นทางที่รถไฟยังไปไม่ถึง อาจจะมีโอกาสได้เดินทางด้วยรถไฟ เพราะการรถไฟแห่งประเทศไทย เสนอรัฐบาลขอพัฒนาเส้นทางรถไฟทั้งสายใหม่ และ ทางคู่ เพิ่มอีก 681 กิโลเมตร ให้ครอบคลุมพื้นที่ 61 จังหวัด ด้วยเงินลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท

สำหรับเส้นทางรถไฟที่จะขยายเพิ่มเติม 14 เส้นทาง ภายใต้วงเงินลงทุนรวม กว่า 5 แสนล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มเส้นทางเชื่อมตะวันตกไปตะวันออก ระยะทาง 335 กิโลเมตร วงเงิน 6 หมื่นล้านบาท เส้นทางจากแม่สอดไปนครสวรรค์ อีก 97,000 ล้านบาท จากนั้นในปี 2563 จะขยายจากนครสวรรค์ไปบ้านไผ่อีก 48,000 ล้านบาท

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเส้นทางอุบลราชธานี ช่องเม็ก 87 กิโลเมตรใช้งบกว่า 9 พันล้านบาท และขอศึกษาความเหมาะสมเส้นทางศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด ด้วยงบลงทุน 2 หมื่นล้านบาท

สายเหนือ อยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการจากเด่นชัย จังหวัดแพร่ ไปยังเชียงของ จังหวัดเชียงราย เม็ดเงิน 8 หมื่น 5 พันล้านบาท


ส้นทางสายใต้ อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม ทั้งเส้นทางชุมพร-ระนอง สุราษฎร์ธานี-ดอนสัก สุราษฎร์ธานี-พังงา-ท่านุ่น และนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุว่า เส้นทางรถไฟสายใหม่ จะครอบคลุมพื้นที่ 61 จังหวัด จากเดิมที่มีโครงข่ายครอบคลุม 47 จังหวัด และจะมีระยะทางเพิ่มอีก 681 กิโลเมตร จากเดิมมีอยู่ 4,044 กิโลเมตร



นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้รถไฟสายใหม่ต้องพัฒนาเส้นทางเป็นแบบวงกลม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการเดินทาง ที่สำคัญต้องประสานกับเอกชนเพื่อพัฒนาแพ็คเกจท่องเที่ยวร่วมกัน เนื่องจากปัจจุบันการท่องเที่ยวทางรถไฟได้รับความนิยมมากขึ้นทับปุดกระบี่

รถไฟอัด 5 แสนล้านเพิ่ม 14 สายใหม่ ปี 61 ลุยซื้อหัวจักร 134 คัน-รถโดยสารใหม่ 953 คัน
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 10:00:00


ร.ฟ.ท.กางแผนลงทุนอีกกว่า 5 เสนล้านผุดโครงข่ายรถไฟสายใหม่เชื่อมต่อจังหวัดสำคัญและเมืองท่องเที่ยวอีก 14 เส้นทางครอบคลุม 61 จังหวัด ขณะที่ปี 61 เร่งลงทุนซื้อหัวรถจักร 134 คัน รถโดยสาร 953 คัน ทดแทนรถเก่าและรองรับทางคู่ที่ก่อสร้างเสร็จ “อานนท์” เร่งจดทะเบียนบริษัทลูกบริหารสินทรัพย์ มี.ค.นี้เริ่มถ่ายโอนทรัพย์สิน ชง กก.PPP ประมูลแปลง A ย่านพหลฯ นำร่อง

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างก่อสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 993 กม. วงเงินค่าก่อสร้างรวม 113,660.20 ล้านบาท ซึ่งการก่อสร้างจะแล้วเสร็จเดือน ต.ค. 2565 ส่วนรถไฟทางคู่ระยะ 2 จำนวน 7 เส้นทาง และสายใหม่ 2 เส้นทาง ระยะทางรวม 2,174 กม. มูลค่าโครงการรวม 427,012.03 ล้านบาทนั้นอยู่ในขั้นตอนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งวางเป้าหมายก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน ก.ค. 2566 และเดือน ส.ค. 2567 ตามลำดับ

ทำให้ในปี 2567 จะมีระยะทางรวม 4,832 กม. มีความจุทางรถไฟเพิ่มขึ้น 4 เท่าจากปัจจุบัน ครอบคลุม 53 จังหวัด โดยเป็นระบบทางเดี่ยว 1,568 กม. (32.41%) ทางคู่ 3,157 กม. (65.33%)

ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.ได้วางโครงข่ายทางรถไฟสายใหม่เชื่อมต่อจังหวัดสำคัญรวม 14 เส้นทาง วงเงินลงทุน 501,455 ล้านบาท ซึ่งจะเพิ่มโครงข่ายครอบคลุมจาก 47 จังหวัดเป็น 61 จังหวัด อีกทั้งเป็นเส้นทางเชื่อมกับเมืองท่องเที่ยวตามนโยบายอีกด้วย ได้แก่

1) เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 326 กม. มูลค่า 85,345 ล้านบาท EIA ได้รับอนุมัติแล้ว อยู่ระหว่างเสนอ ครม. นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางตะวันออก-ตะวันตกตอนบน (E-W Upper)

2) จากแม่สอด-ตาก-กำแพงเพชร-นครสวรรค์ (256 กม. วงเงิน 96,785 ล้านบาท) โดยศึกษาความเหมาะสมแล้ว เตรียมของบออกแบบในปี 2563
3) ช่วงนครสวรรค์-บ้านไผ่ (291 กม. วงเงิน 47,712 ล้านบาท ของบปี 2563 สำหรับการศึกษาความเหมาะสม
4) ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม (355 กม. วงเงิน 60,352 ล้านบาท) อยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการ

โครงการเส้นทางตะวันออก-ตะวันตกตอนบน (E-W Lower)
5) กาญจนบุรี-บ้านพุน้ำร้อน (36 กม. วงเงิน 6,497 ล้านบาท)
6) กาญจนบุรี-สุพรรณบุรี-บ้านภาชี (221 กม. วงเงิน 41,771 ล้านบาท)
7) ศรีราชา-ระยอง (Bypass ออก ไปทาง Motorway, เส้น -ุ เส้น 331 70 กม. วงเงิน 13,357 ล้านบาท)
8) มาบตาพุด-ระยอง-จันทบุรี-ตราด (197 กม. วงเงิน 34,649 ล้านบาท) อยู่ระหว่างเริ่มศึกษาความเหมาะสม

นอกจากนี้ ยังมี
9) เส้นทางชุมพร-ระนอง (116 กม. วงเงิน 18,748 ล้านบาท)
10) สุราษฎร์ธานี-พังงา-ท่านุ่น (158 กม. วงเงิน 34,237 ล้านบาท)
11) สุราษฎร์ธานี-ดอนสัก (76 กม. วงเงิน 17,147 ล้านบาท)
12) ทับปูด-กระบี่ (68 กม. วงเงิน 15,223 ล้านบาท)
13) ศรีสะเกษ-ยโสธร-ร้อยเอ็ด (162 กม. วงเงิน 20,435.50 ล้านบาท)
14) อุบลราชธานี-ช่องเม็ก (87 กม. วงเงิน 9,197 ล้านบาท) ซึ่งบางเส้นกำลังศึกษาความเหมาะสม บางเส้นอยู่ในขั้นออกแบบรายละเอียด

สำหรับแผนงานในปี 2561 นี้จะเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 ซึ่งได้ลงนามสัญญากับผู้รับเหมาเมื่อเดือน ธ.ค. 2560 ส่วนทางคู่ระยะ 2 จะเร่งประมูลและลงนามสัญญาภายในเดือน ธ.ค. 2561 พร้อมกันนี้จะเดินหน้าการจัดหารถจักรและล้อเลื่อน ได้แก่ ซื้อรถจักร 50 คัน วงเงิน 6,240 ล้านบาท คาดว่าจะจัดทำร่างทีโออาร์เสร็จในเดือน ก.พ.นี้ และเปิดประมูลให้เรียบร้อยในเดือน มิ.ย., เช่าหัวรถจักร 50 คัน เพื่อทดแทนรถเก่า, โครงการจัดหารถจักร 34 คัน จัดหารถโดยสารใหม่ 429 คัน จัดหารถดีเซลราง 524 คัน รองรับรถไฟทางคู่เฟส1, 2 ซึ่งจะเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาในเดือน มิ.ย.

ส่วนการตั้งบริษัทลูกบริหารทรัพย์สินจะดำเนินการจดทะเบียนในเดือน มี.ค. และในเดือน ก.ย.จะเริ่มทยอยส่งมอบทรัพย์สินไปยังบริษัทลูก ส่วนบริษัทลูกเดินรถสายสีแดง จะเสนอ ครม.อนุมัติได้ในเดือน ก.ค. และจดทะเบียนบริษัทในเดือน ส.ค. 2561 โดยแนวทางนั้นจะอัปเกรดจาก บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (แอร์พอร์ตเรลลิงก์) ในปัจจุบันมาบริหารสายสีแดง

“ที่ดินแปลง A ติดสถานีกลางบางซื่อ เสนอคณะกรรมการ PPP แล้ว ซึ่งมีความเห็นว่าควรรวมแปลง B, C, D เป็นแปลงใหญ่เพื่อทำให้มีผลตอบแทนดีขึ้น ซึ่ง ร.ฟ.ท.จะทำข้อมูลเพิ่มเติม โดยยืนยันแยกแปลง A ประมูลก่อน เพราะการรวมแปลงจะมีข้อเสียที่ผู้เข้ามาลงทุนได้น้อยเพราะต้องใช้เงินจำนวนมาก”


Last edited by Wisarut on 05/02/2018 1:18 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 05/02/2018 10:50 am    Post subject: Reply with quote

นายก ส.ส่งเสริมการท่องเที่ยวจันท์ ขอรัฐบาลหนุนเส้นทางรถไฟรางคู่ระยอง - ตราด เสริมการท่องเที่ยว
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 21:25:00




จันทบุรี- นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.จันทบุรี เตรียมนำเสนอการพัฒนาการท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูมิภาค พร้อมขอให้รัฐบาล ขยายเส้นทางคมนาคมทางรถไฟรางคู่จาก จ.ระยอง ถึง จ.ตราด เพิ่มทางเลือกในการเดินทางมาท่องเที่ยว ระหว่างการประชุม ครม.สัญจร ขณะที่ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เยี่ยมชมวิถีชีวิตชุมชน 3 เชื้อชาติ 3 วัฒนธรรม ริมน้ำจันทบูร
วันนี้( 4 ก.พ.) นางณิชชา วัฒนพงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรี ได้กล่าวระหว่างให้การต้อนรับ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะที่เดินเข้าเยี่ยมชมสถาปัตยกรรม ความสวยงามของวัดโรมันคาทอลิกจันทบุรี และชื่นชมวิถีชีวิตของชุมชน 3 เชื้อชาติ ไทย - จีน - ญวน ที่อาศัยอยู่อย่างสงบสุขที่ริมน้ำจันทบูร ณอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลว่่า ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีมาประชุมสัญจรนอกสถานที่ภาคตะวันออก ที่ จ.จันทบุ รีถือเป็นโอกาสดีที่จะได้นำเสนอการพัฒนาการท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูมิภาค

โดย จ.จันทบุรี ต้องการที่จะให้รัฐบาล ขยายเส้นทางคมนาคมทางรถไฟรางคู่จาก จ.ระยองถึง จ.ตราด ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชน และนักท่องเที่ย วมีทางเลือกในการเดินทางมาท่องเที่ยว จ.จันทบุรีและตราด รวมทั้งยังเป็นส่งเสริมการขนส่งสินค้า

นอกจากนั้น ยังจะขอให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไท ยเปิดสำนักงานการท่องเที่ยวที่ จ.จันทบุรี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบและบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมมิติใหม่การท่องเที่ยววิถีชุมชนที่ต้องอาศัยความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วนในการสนับสนุนเพื่อให้ประชาชนในจังหวัดจันทบุรีมีรายได้เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในรูปแบบประชารัฐ

ขณะที่ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวเชิญชวน ชาวไทยและนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสัมผัสความ สงบของวีถีชีวิตชุมชนริมน้ำจันทบูรที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน และความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดจันทบุรีที่มีความสมบูรณ์ ถึงแม้จะเป็นเมืองรองทางการท่องเที่ยวแต่มีมนต์เสน่ห์ชวนให้หลงใหล ความเข้มแข็งของชุมชนที่ทำให้เกิดกระบวนการท่องเที่ยวในชุมชนที่แตกต่างจากที่อื่น และธรรมชาติที่งดงามเป็นจุดเด่นดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้ตลอดทั้งปี

และยังเป็นประธานเปิดงาน ท่องเที่ยววิถีไทย สุขใจที่เมืองจันท์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรี กระตุ้นเศรษฐกิจ ที่จัดงานในรูปแบบงานวัดย้อนยุคและร่วมรำวงกับคณะนางรำท่ามกลางบรรยากาศสนุกสนานอีกด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 90, 91, 92 ... 121, 122, 123  Next
Page 91 of 123

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©