View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 02/06/2014 12:12 am Post subject: |
|
|
ร.ฟ.ท.ชงคสช.อนุมัติรถไฟสายสีแดง
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 31 พฤษภาคม 2557 16:27
"ร.ฟ.ท." เสนอวาระเร่งด่วน ขอ "คสช." อนุมัติแบบใหม่ โครงการรถไฟสายสีแดง พร้อมเดินหน้าทำแผนส่งจันทร์นี้
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังการประชุมผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ 58 หน่วยงาน ร่วมกับ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตองผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฝ่ายเศรษฐกิจ ว่า ได้มีการนำเสนอวาระเร่งด่วน ขอให้ คสช.อนุมัติ โครงการรถไฟสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและตั้งแบบก่อสร้างโครงการใหม่ เพื่อให้รองรับในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง โดยจะให้ คสช.อนุมัติแบบใหม่ ส่วนงานโครงสร้างสถานีกลางบางซื่อ และทางรถไฟ จะเพิ่ม 1 ราง ซึ่งจะขอให้มีการดำเนินงานเฉพาะส่วนที่เป็นฐานรากสถานีกลางบางซื่อก่อน ส่วนโครงสร้างด้านบนสามารถก่อสร้างภายหลัง ซึ่งตามแผนเดิมโครงการดังกล่าว มีระยะเวลาในการดำเนินงาน 4 ปี คาดว่าการดำเนินจะล่าช้าออกไปเนื่องจากต้องรอการอนุมัติ
อย่างไรก็ตาม จะมีการส่งแผนการดำเนินงานของโครงการดังกล่าวให้สำนักปฏิรูป (สปร.) ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รวบรวมข้อมูลรายละเอียดโครงการต่างๆ ภายในเที่ยงวันจันทร์ที่ 2 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ เพื่อกลั่นกรองข้อมูลและเสนอต่อ คสช.อีกที ในวันอังคารที่ 3 มิ.ย.จะถึงนี้ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44528
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 02/06/2014 4:33 pm Post subject: |
|
|
ผวา! ขุดสร้างรถไฟฟ้าเจอระเบิด
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 มิ.ย. 2557 14:00
คนงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายบางซื่อ ผวา!ขุดเจอระเบิดอากาศ ขนาด 500 ปอนด์ สมัยสงครามโลกครั้งที่2 EODเร่งเก็บกู้
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 04/06/2014 6:17 pm Post subject: |
|
|
ย้ายสถานีรถไฟฟ้าหลักสี่ หึ่ง!เอื้อบ.เอสซีฯ
แนวหน้าโลกธุรกิจ
แนวหน้า
วันพุธ ที่ 04 มิถุนายน พ.ศ. 2557, 06.00 น.
ย้ายสถานีรถไฟฟ้าหลักสี่ หึ่ง!เอื้อบ.เอสซีฯ อยู่ฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านหรูวิศวกรอ้างติดแนวท่อแก๊สเลยต้องเปลี่ยนจุดก่อสร้าง
เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับข่าวการย้ายสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ช่วงสถานีหลักสี่ที่จากเดิมมีแผนจะก่อสร้างสถานีที่บริเวณถนนกำแพงเพชร 6 ซึ่งใกล้ๆ กับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ย้ายไปสร้างที่จุดใหม่คือบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์แทน ซึ่งประชาชนมองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกิจการของ บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่มีโครงการหมู่บ้านสุดหรูตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์หรือไม่
โดยผู้ที่ทราบข่าวนี้ตั้งประเด็นข้อสงสัยว่า การย้ายสถานีรถไฟฟ้าดังกล่าวมีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ ใครเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ ซึ่งที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการก่อสร้างก็ต้องทำการศึกษาพื้นที่ ความเหมาะสม และผลกระทบให้ชัดเจนเสียก่อน และได้มีการประกาศจุดที่จะก่อสร้างชัดเจนไปแล้ว แต่อยู่ๆ ก็กลับมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้างอย่างง่ายดาย
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก น่าจะมีเหตุผลที่ซ่อนเร้นอยู่ เพราะมีผลกระทบตามมาหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องราคาที่ดินในบริเวณใกล้เคียงกับสถานีรถไฟฟ้าที่จะถีบตัวสูงขึ้น และบริเวณดังกล่าวยังจะกลายเป็นแหล่งทำเลทองที่จะดึงดูดผู้คนได้ ดังนั้นการย้ายสถานีรถไฟฟ้าครั้งนี้น่าสงสัยว่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนอย่างบริษัทเอสซีฯ อย่างชัดเจนหรือไม่ประชาชนรายหนึ่งตั้งข้อสังเกตุ
จากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าวพบว่า บริษัท ทีมกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) รับผิดชอบดูแลช่วงสถานีหลักสี่ โดยวิศวรกรรายหนึ่งในบริษัททีมกรุ๊ปให้ข้อมูลถึงการย้ายสถานีหลักสี่ว่า จากการลงพื้นที่สำรวจจุดก่อสร้างในแผนเดิม คือบริเวณถนนกำแพงเพชร 6 พบว่าใต้พื้นถนนบริเวณแยกหลักสี่ มีท่อแก๊สวางขวางตลอดแนวถนนแจ้งวัฒนะ จึงตัดสินใจย้ายสถานี ไปสร้างบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์แทน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า สำหรับสถานีอื่นๆ นั้น จะไม่มีการย้ายการก่อสร้างอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 5-6 ปี ที่ผ่านมา เคยมีเหตุการณ์ทุบสะพานลอยบริเวณหน้าวัดหลักสี่ก่อนที่จะมีการก่อสร้างโครงการหมู่บ้านสุดหรูของบริษัทเอสซีฯฝั่งตรงข้ามวัดหลักสี่ ซึ่งในครั้งนั้นมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากเนื่องจากสะพานลอยดังกล่าวถูกสร้างมานาน และมีขนาดกว้างขวางสามารถนำรถจักรยานขับขี่ข้ามไปมาได้อย่างสะดวก ซึ่งสาเหตุการทุบสะพานลอยดังกล่าว ถูกมองว่าเนื่องจากทางขึ้นลงสะพานมีขนาดใหญ่บดบังภูมิทัศน์ของหมู่บ้าน
ต่อมาได้มีสร้างสะพานลอยใหม่ห่างจากจุดเดิม 20 เมตร แต่เล็กกว่าเดิม และบริเวณทางขึ้นลงไม่บดบังความสวยงามของหมู่บ้าน ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวเคยถูก นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เคยไปอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฏรมาแล้ว และเมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้หนักเข้า ปรากฎว่า ได้มีการนำสติ๊กเกอร์ไปติดไว้ที่บริเวณสะพานลอยระบุว่า บริษัทเอสซีแอสเสทเป็นผู้ออกเงินค่าก่อสร้างสะพานลอยให้ทั้งหมด และการก่อสร้างสะพานลอยขึ้นใหม่นี้ ได้รับความเห็นชอบจากกรมทางหลวงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
//------------
'ประภัสร์'โต้ย้ายสถานีเอื้อเอสซีฯ แค่ปรับหลบสิ่งกีดขวาง-ท่อแก๊ส
แนวหน้าโลกธุรกิจ
แนวหน้า
วันพุธ ที่ 04 มิถุนายน พ.ศ. 2557, 16.31 น.
4 มิ.ย. 57 นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แถลงถึงกรณีการย้ายสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงสถานีหลักสี่ ซึ่งจากเดิมจะก่อสร้างบริเวณถนนกำแพงเพชร 6 ใกล้สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ไปสร้างบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์ และกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า การย้ายสถานีครั้งนี้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับโครงการหมู่บ้านหรู ของบริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด
นายประภัสร์ ยืนยันว่าไม่มีการย้ายจุดก่อสร้างสถานี เพียงแต่มีความจำเป็นต้องปรับฐานตอม่อในจุดที่มีการก่อสร้าง ให้พ้นสิ่งกีดขวาง รวมถึงท่อแก๊สที่วางขวางตลอดแนวถนนแจ้งวัฒนะเท่านั้น และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจของใครอย่างแน่นอน
"ถ้าจะมีการย้ายจุดก่อสร้างสถานีจริงต้องมีการรายงานแจ้งให้ผมทราบ และกระบวนการขั้นตอนในการที่จะทำการย้ายสถานที่ก่อสร้างของสถานีต้องมีกระบวนการหลายอย่าง ผ่านหลายขั้นตอนจึงจะทำได้ จะย้ายปุปปับไม่ได้ และจากข้อเท็จจริงเป็นเพียงการปรับฐานตอม่อในจุดที่มีการก่อสร้างให้พ้นสิ่งกีดขวางเท่านั้น" นายประภัสร์กล่าว |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 09/06/2014 12:32 pm Post subject: |
|
|
อีกยาวนานแค่ไหน ความหวังได้นั่งรถไฟฟ้า10สาย
ทีมข่าวกทม./จราจร
เดลินิสส์
วันจันทร์ 9 มิถุนายน 2557 เวลา 09:32 น.
ทางเลือกลดปริมาณการใช้รถยนต์บนท้องถนน คือ การก่อสร้างรถไฟฟ้า
ปัญหาการจราจรในเมืองกรุง นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เกือบจะเกิดกับเมืองหลัก ๆ ทั่วประเทศ เป็นปัญหาที่ทุกรัฐบาลหยิบยกขึ้นมาหาหนทางแก้ไข ซึ่งความหวังหนึ่งที่จะช่วยคลี่คลายปัญหาได้คือการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน เป็นทางเลือกให้ลดปริมาณการใช้รถยนต์บนท้องถนน การก่อสร้างรถไฟฟ้าจึงเป็นทางเลือกสำคัญ
การบริหารประเทศภายใต้การนำของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว มาดูกันซิว่า ตามแผนแม่บทรถไฟฟ้า 10 สาย ที่วางกันไว้ จะมีการขับเคลื่อนอย่างไร อนาคตข้างหน้า อีกยาวนานแค่ไหนที่จะได้ใช้กัน
ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีรถไฟฟ้าวิ่งให้บริการอยู่ทั้งสิ้น 4 สาย ได้แก่
1. รถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิท จากหมอชิตถึงแบริ่ง
2.รถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลม จากสนามกีฬาแห่งชาติ ถึงบางหว้า ซึ่งเป็นเส้นทางแรกที่เปิดให้บริการในพื้นที่ฝั่งธนบุรี
3. รถไฟฟ้าใต้ดินสายเฉลิมรัชมงคล จากบางซื่อถึงหัวลำโพง และ
4. รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ จากพญาไทถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นระยะทางรวมกว่า 87 กม.
แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ซึ่งแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าของกระทรวงคมนาคม มีการจัดทำในแผนแม่บทไว้ล่าสุดที่ 10 เส้นทาง ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างขณะนี้ และที่อยู่ในแผนยังไม่ได้ดำเนินการ
นี่คือความคืบหน้าของรถไฟฟ้าแต่ละสาย ซึ่งโครงการจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการได้ตามแผนที่กำหนดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการขับเคลื่อนของหน่วยงานที่รับผิดชอบ และการให้ความสำคัญของ คสช. ผู้นำในการบริหารประเทศ.
********************
เส้นทางที่จะได้ใช้ภายใน 5 ปี
1. สายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ ระยะทาง 23 กม. มีแผนเปิดให้บริการกลางปี 2559
2. สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ระยะทาง 13 กม. และ ช่วงหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 14 กม. มีแผนเปิดให้บริการในปี 2560
3. สายสีเขียวเข้ม ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 12.8 กม. เปิดให้บริการในปี 2559
4. สายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 18.4 กม. อยู่ในขั้นตอนการประกวดราคา ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี
5. สายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน มีแผน เปิดให้บริการปี 2560 6. สายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-รังสิต มีแผนเปิดให้บริการปี 2560
*********************
สายที่มีแผนจะสร้างในอนาคต
นอกจากนี้ยังมีโครงการที่ศึกษาไว้และมีแผนที่จะสร้างต่อขยายเส้นทางในอนาคตอีก คือ
1. สายสีแดงอ่อน จาก ตลิ่งชัน-ศาลายา
2. สายสีแดงอ่อน ช่วงจากบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน 9 กม.
3. สายสีแดงอ่อน ช่วงบางบำหรุ-มักกะสัน 10.5 กม.
4. สายสีแดงเข้ม ช่วงจากรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
5. สายสีแดงเข้ม จากบางซื่อ-หัวลำโพง 6.5 กม.
6. สายสีแดงเข้ม ช่วงบางบอน-มหาชัย 20 กม.
7. สีเขียวอ่อน จากสนามกีฬาแห่งชาติ-ยศเส ระยะทาง 1 กม.
**********************
สายที่รอการอนุมัติก่อสร้าง
1. สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) 36 กม.
2.สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 19.8 กม.
3. สายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) 37.5 กม.
4. สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-พัฒนาการ-สำโรง) 30.4 กม.
5. สายเชื่อมแอร์พอร์ตลิงก์ (พญาไท-ดอนเมือง) 7.9 กม.
********************** |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44528
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 10/06/2014 10:44 am Post subject: |
|
|
สถาบันจุฬาภรณ์โต้ รฟท.มั่ว! โยนบาปอ้างใบสั่งย้าย
หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อังคารที่ 10 มิถุนายน 2557 06:00:00 น.
สถาบันจุฬาภรณ์โต้ รฟท.มั่ว! โยนบาปอ้างใบสั่งย้ายสถานีรถไฟฟ้าหลักสี่ รถไฟแจงคลาดเคลื่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ฝ่ายบริหารและประชาสัมพันธ์ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ได้ออกคำแถลงการณ์ชี้แจงต่อสื่อมวลชน หลังจากที่มีข่าวปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ เรื่องการย้ายการก่อสร้างสถานีหลักสี่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) จากบริเวณเดิม คือ ด้านข้างสถานีรถไฟหลักสี่ ใกล้สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ไปอยู่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า ไอที สแควร์
โดยแถลงการณ์ระบุว่า กรณีดังกล่าว นายจเร รุ่งฐานีย วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ร.ฟ.ท. อ้างว่า แต่เดิมมีการวางจุดของสถานีไว้บริเวณหน้าสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์จริง แต่เนื่องจากทางสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ให้ความเห็นว่า ในการก่อสร้างสถานีดังกล่าวจะทำให้บดบังทัศนียภาพในบริเวณนั้น จึงได้มีการย้ายไปสร้างสถานีในจุดใหม่คือ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า ไอที สแควร์ มิใช่เพื่อเอื้อต่อประโยชน์แก่หมู่บ้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งมี บริษัท เอสซี แอสเซท จำกัด เป็นเจ้าของ นั้น สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ขอชี้แจงว่า ข้อมูลและเหตุผลที่ นายจเร กล่าวอ้างนั้น ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ไม่เคยให้ความเห็นเกี่ยวกับการวางจุดของสถานีหลักสี่ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงแก่หน่วยงานใดๆ ทั้งสิ้น
สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร เห็นว่าการก่อสร้างสถานีของโครงการรถไฟฟ้าสีแดง ณ บริเวณใกล้สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ มีความสำคัญ และเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เนื่องจากภายในบริเวณสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ มีองค์กรหลักๆ อีก 2 องค์กร คือ สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ ซึ่งมีนักศึกษาทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศศึกษาอยู่เป็นจำนวนมาก และโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่มีบุคลากรทางการแพทย์มากมาย ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่จะต้องเดินทางเข้ามารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงญาติผู้ป่วยที่จะเดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็งอีกด้วย ดังนั้น จะเห็นได้ชัดเจนว่า การก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง ณ บริเวณใกล้สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ผู้ที่ได้รับอานิสงส์คือประชาชนทั่วไป ผู้ป่วย และนักศึกษา แถลงการณ์ ระบุ
แถลงการณ์ฉบับดังกล่าว ยังได้ระบุทิ้งท้ายว่า การย้ายสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดงบริเวณแยกหลักสี่ จากด้านข้างสถานีรถไฟเดิม ใกล้สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ไปยังบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าไอที สแควร์นั้น ทางสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่เห็นว่าจะทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง บุคลากรทางการแพทย์ นักวิจัย นักศึกษาจำนวนมาก และประชาชนส่วนหนึ่งได้รับความสะดวกน้อยลง
ทางด้าน นายจเร ได้ยืนยันเรื่องการย้ายตำแหน่งของการสร้างสถานีหลักสี่ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงของการรถไฟแห่งประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งว่า การก่อสร้างสถานีหลักสี่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์ เป็นการก่อสร้างที่ตำแหน่งเดิมตามแบบในสัญญาที่แจ้งไว้กับทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ไม่มีการย้ายตำแหน่งตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ส่วนการเสนอข่าวว่าทางสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ให้ความเห็นว่าในการก่อสร้างสถานีดังกล่าวจะทำให้บดบังทัศนียภาพในบริเวณนั้น เป็นการเสนอข่าวคลาดเคลื่อน ขอยืนยันว่าสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพิจารณาเรื่องนี้แต่อย่างใด |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44528
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 13/06/2014 9:56 am Post subject: |
|
|
ย้ายสถานีรถไฟฟ้าหลักสี่ เรื่องจำเป็นหรืออื้อนายทุน?
แนวหน้า วันศุกร์ ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2557, 02.00 น.
แผนผังเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง เดิม ในเวบไซต์ของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ระบุชัดว่า ที่ตั้งของสถานีหลักสี่อยู่บริเวณใกล้สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
ความไม่ชอบมาพากลในการย้ายที่ตั้งสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ช่วงสถานีหลักสี่ จากเดิมที่มีแผนจะก่อสร้างตัวสถานีบริเวณถนนกำแพงเพชร 6 ใกล้กับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ขยับไปสร้างที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์แทน ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพื้นที่โครงการที่อยู่อาศัยของ บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด ยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลชินวัตร ทำให้เกิดประเด็นข้อสงสัยเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ขึ้นในสังคมอย่างมาก
ข่าวดังกล่าว ทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยว่า การย้ายตัวสถานีรถไฟฟ้า ถือเป็นเรื่องใหญ่ ต้องมีเหตุผลเพียงพอ ก่อนสร้างก็ต้องศึกษาผลกระทบให้ชัดเจนเสียก่อน การเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้างอย่างฉับพลัน จึงน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ กรณีนี้จึงถูกมองว่า มีการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทของตระกูลชินวัตรหรือไม่
เรื่องนี้ไม่ใช่คิดกันขึ้นมาลอยๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันมาแล้ว คือ การทุบสะพานลอยบริเวณใกล้แยกหลักสี่ทิ้ง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ภาคธุรกิจ ในยุครัฐบาลทักษิณ หลังจากคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร สมัยเป็นภรรยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น เข้ามาซื้อที่ดินฝั่งตรงข้ามวัดหลักสี่ ทำโครงการหมู่บ้านจัดสรรระดับหรูหรา ภายใต้แบรนด์บริษัทเอสซี แอสเสท แล้วเห็นว่า สะพานลอยดังกล่าวบดบังภูมิทัศน์ทางเข้าหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าว
ดังนั้น เมื่อมีแนวโน้มจะเกิดปัญหาลักษณะเดียวกันขึ้นอีกครั้ง แนวหน้าจึงพยายามเสาะหาความจริงจากฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง เริ่มจากวิศวกรตรวจสอบงานก่อสร้าง บริษัท ทีมกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ซึ่งควบคุมงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) รับผิดชอบดูแลช่วงสถานีหลักสี่ ได้รับคำตอบว่า จะมีการย้ายจุดก่อสร้างสถานีจริง โดยอ้างตอนแรกว่า เนื่องจากจุดก่อสร้างในแผนเดิม บริเวณถนนกำแพงเพชร 6 นั้น สำรวจพบว่า ใต้พื้นถนนบริเวณแยกหลักสี่มีท่อแก๊สของปตท.วางขวางตลอดแนวถนนแจ้งวัฒนะ จึงตัดสินใจย้ายสถานีไปสร้างบริเวณหน้าห้างฯไอทีสแควร์แทน
แต่ทางด้าน นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการดังกล่าว ออกมายืนยันเสียงแข็งว่า ข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับใคร แต่จำเป็นต้องมีการปรับฐานตอม่อในจุดที่มีการก่อสร้างให้พ้นสิ่งกีดขวางเท่านั้น พร้อมยืนยันว่า ไม่มีการย้ายจุดที่ทำการก่อสร้างสถานีแน่นอน ทั้งนี้ หากจะมีการย้ายจุดก่อสร้างสถานีจริง ต้องมีการรายงานให้ตนทราบ และกระบวนการที่จะย้ายสถานที่ก่อสร้างของสถานี ต้องมีกระบวนการหลายอย่าง ผ่านหลายขั้นตอน จึงจะทำได้
ในขณะที่ นายจเร รุ่งฐานีย วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)ก็อ้างเช่นเดียวกันว่า ประเด็นดังกล่าวไม่เป็นความจริง ไม่มีการเอื้อผลประโยชน์ให้แก่ฝ่ายใด ซึ่งแต่เดิมมีการวางจุดที่ตั้งสถานีไว้บริเวณหน้าสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ แต่เนื่องจากทางสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ให้ความเห็นว่า ในการก่อสร้างสถานีดังกล่าวจะทำให้บดบังทัศนียภาพในบริเวณนั้น จึงได้ย้ายไปสร้างสถานีไปอยู่ที่บริเวณหน้าไอทีสแควร์แทน ดังนั้นจึงไม่มีมูลความจริงในการเอื้อประโยชน์กับเอกชน เพราะดำเนินไปตามแผนเดิมที่มีแบบที่ได้รับจากทางสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ตั้งแต่แรก
แต่หลังจากฝั่ง ร.ฟ.ท.ออกมาชี้แจงอยู่ฝ่ายเดียวได้ไม่นาน ทางฝ่ายบริหารและประชาสัมพันธ์ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ก็มีคำแถลงการณ์ชี้แจงต่อสื่อเรี่องที่ นายจเรอ้างว่า ทางสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ให้ความเห็นว่า การก่อสร้างสถานีจะทำให้บดบังทัศนียภาพของสถาบัน จึงต้องย้ายไปสร้างสถานีบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า ไอที สแควร์นั้น ไม่เป็นความจริง สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ไม่เคยให้ความเห็นเกี่ยวกับการวางจุดที่ตั้งสถานีหลักสี่ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงแก่หน่วยงานใดๆทั้งสิ้น
แถลงการณ์ดังกล่าวยืนยันว่า สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร การก่อสร้างสถานีโครงการรถไฟฟ้าสีแดง ณ บริเวณใกล้สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ มีความสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนทั่วไปที่เดินทางมาติดต่อกับสถาบัน ทั้งในส่วนนักศึกษา ผู้ป่วยและญาติจะได้รับประโยชน์โดยตรง ทางสถาบันฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการที่จะตัดสินใจย้ายหรือไม่ย้ายสถานีแต่อย่างใด
จากคำแถลงการณ์ของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ในครั้งนี้ ทำให้ นายจเร วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ร.ฟ.ท. ออกมาแก้ข่าวอีกครั้งว่า เรื่องการย้ายตำแหน่งของการสร้างสถานีรถไฟฟ้าหลักสี่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์นั้น เป็นการก่อสร้างที่ตำแหน่งเดิม ตามแบบในสัญญาที่แจ้งไว้กับทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ไม่มีการย้ายตำแหน่งตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ส่วนการที่มีข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่า การย้ายสถานีดังกล่าวนั้น ส่วนหนึ่งมีเหตุผลมาจากการที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ให้ความเห็นว่าในการก่อสร้างสถานีดังกล่าวจะทำให้บดบังทัศนียภาพในบริเวณนั้น นายจเรอ้างว่า เป็นการเสนอข่าวคลาดเคลื่อน ขอยืนยันว่าสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพิจารณาเรื่องนี้แต่อย่างใด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ แหล่งข่าวจาก สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงบางซื่อ-รังสิต นั้น ในการออกแบบสถานีรถไฟฟ้า ทางสนข.ไม่ทราบรายละเอียดของในการก่อสร้างตัวสถานี รวมถึงการย้ายสถานีหลักสี่ว่า เป็นอย่างไร เนื่องจากในกระบวนการขั้นตอนในการทำการก่อสร้างนั้น เป็นในส่วนของการบริหารสัญญาการก่อสร้างที่มี การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. เป็นผู้รับผิดชอบสัญญาการก่อสร้าง
ขณะที่ นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สนข. ชี้แจงต่อผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า ไม่ทราบเรื่องครับ เนื่องจากเป็นการบริหารสัญญาก่อสร้างที่ รฟท. รับผิดชอบสัญญาก่อสร้าง
จนถึงขณะนี้คำชี้แจงของรฟท.กับผู้รับเหมาก่อสร้างก็ยังคงคลุมเคลือ ตกลงการย้ายจุดก่อสร้างตัวสถานีหลักสี่เป็นเช่นไรกันแน่ ปัญหาในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผู้มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ ควรจะต้องให้ความกระจ่างต่อสังคมให้ได้ว่า การดำเนินการทั้งหมดทั้งมวล เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ถูกต้องตามกฎหมาย ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่ และที่สำคัญ ไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจรายใดอย่างหนึ่ง ดังที่ประชาชนตั้งข้อแคลงใจอยู่ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 13/06/2014 10:59 am Post subject: |
|
|
อิตัลไทยยัน 20 มิ.ย. ทุบสะพานเอกทักษิณแน่นอน
โพสโดย: journalism108
เมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557, 19:01
ทางเบี่ยง, การรถไฟแห่งประเทศไทย, บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน), ทุบสะพาน, ชาวบ้านเมืองเอก
อิตัลไทย รับสาเหตุเลื่อนทุบสะพาน เพราะปัญหาค่าชดเชยผู้อาศัย แจงแก้ปัญหาเรียบร้อยจึงกำหนดวันทุบใหม่เป็น 20 มิถุนายน เผยปรับทางเบี่ยงใหม่ เป็นทางตรง จากเดิมต้องอ้อม 300 เมตร เสร็จแล้ว 80 เปอร์เซนต์ เชื่อ 18 มิถุนายน เปิดใช้ได้หากไม่มีเหตุการณ์สุดวิสัย
จากกรณีก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมือง(สายสีเเดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต ที่ส่งผลให้มีการรื้อถอนสะพานเอกทักษิณ (ทางผ่านเข้าหมู่บ้านเมืองเอก ซึ่งเป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยรังสิต) เนื่องจากตัวสะพานต่ำจนหัวขบวนรถไฟไม่สามารถลอดผ่านใต้สะพานได้ เดิมที่มีกำหนดว่า บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด(มหาชน)ซึ่งรับผิดชอบโครงการก่อสร้าง จะมีการรื้อถอนสะพานในวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เเต่ขณะนี้ผ่านมากว่า 3 เดือน ยังไม่มีความคืบหน้าในการรื้อถอน มีเพียงป้ายประกาศจากการรถไฟเเห่งประเทศไทยเเจ้งว่า จะมีการปิดการจราจรสะพานเอกทักษิณเพื่อก่อสร้างสะพานใหม่ ตั้งเเต่ 20 มิถุนายน 2557 - 20 มิถุนายน 2558
วิศวกรเเหล่งข่าวจากบริษัทอิตาเลียนไทยฯ กล่าวถึงความล่าช้าในการทุบสะพานว่า ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการจ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้ที่อาศัยอยู่ใต้สะพานเอกทักษิณทำให้การทุบสะพานไม่เป็นไปตามกำหนด แต่ขณะนี้็ได้แก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว จึงได้มีประกาศกำหนดวันทุบสะพานใหม่ขึ้นมา
วิศวกรบริษัทอิตาเลียนไทยฯ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ทางเบี่ยงที่จะใช้สัญจรเข้าหมู่บ้านเมืองเอกเเทนเส้นทางสะพานเอกทักษิณ มีความคืบหน้าในการก่อสร้างแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็น โดยมีการปรับเส้นทางจากเดิมที่เคยอ้อม 300 เมตรให้สามารถเดินรถในเส้นทางตรงเพื่อแก้ปัญาการจราจรติดขัด อีกทั้งยังมีการขยายทางข้ามทางรถไฟให้กว้างจากแผนเดิม โดยทางข้ามทางรถไฟจะมีลักษณะคล้ายกับทางข้ามทางรถไฟบริเวณดอนเมือง ซึ่งการก่อสร้างบริเวณดังกล่าวได้รับคำสั่งโดยตรงมาจากทางการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เนื่องจากมีประชาชนเมืองเอกบางส่วนเรียกร้องกับคณะรัฐมนตรีชุดก่อนให้สร้างทางข้ามทางรถไฟดังกล่าวเป็นเส้นทางตรงเพื่อรองรับหากจะมีการทุบสะพานเอกทักษิณขึ้น และในวันที่ 14 มิถุนายน 2557จะมีการติดตั้งสัญญาณไฟจราจรบริเวณทางเบี่ยงดังกล่าว เเละคาดว่าวันที่ 18 มิถุนายน เส้นทางเบี่ยงจะเเล้วเสร็จหากไม่มีเหตุการณ์สุดวิสัย |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44528
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 13/06/2014 11:11 am Post subject: |
|
|
สะพานเอกทักษิณ คือ สะพานข้ามทางรถไฟของถนนเอกทักษิณ ด้านเหนือของป้ายหยุดรถหลักหกครับ |
|
Back to top |
|
|
rungrodn
3rd Class Pass
Joined: 11/06/2014 Posts: 3
|
Posted: 16/06/2014 9:15 am Post subject: |
|
|
ท่านคิดว่าส่วนต่อขยายไปม.ธรรมศาสตร์จะสร้างเมื่อไรได้ข่าวว่าจะเพิ่มรางจาก สามเป็นสี่ ความคิดผมน่าจะอีกสองสามปี เส้นนี้คนใช้น่าจะใช้เยอะมาก |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44528
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 16/06/2014 12:48 pm Post subject: |
|
|
แนวรถไฟฟ้า10สาย กับอนาคตกรุงเทพฯ สยามฯแพงสุด1.7ล./ตร.ว. พระราม4-กล้วยน้ำไท แป้ก!
รถไฟฟ้ามีผลสำคัญต่อราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างยิ่ง ประชาชนผู้บริโภคอสังหาริมทรัพย์ จึงพึงสังวร
เดลินิวส์ วันจันทร์ 16 มิถุนายน 2557 เวลา 09:17 น.
รถไฟฟ้ามีผลสำคัญต่อราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างยิ่ง ประชาชนผู้บริโภคอสังหาริมทรัพย์ จึงพึงสังวร ครั้งนี้เรามาทบทวนรถไฟฟ้าทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกัน
รถไฟฟ้ามีผลอย่างสำคัญ
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ที่เก็บข้อมูลมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานที่สุดและเป็นแห่งแรกในประเทศไทยพบความจริงประการหนึ่งว่า รถไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อราคาที่ดินอย่างชัดเจน ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้
จะเห็นได้ว่า รถไฟฟ้าที่ผ่านสยามสแควร์ ทำให้บริเวณนั้นซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าสำคัญ ๆ หลายแห่งมีราคาที่ดินแพงสุดในประเทศไทยในขณะนี้ ตกเป็นเงินถึง 1,700,000 บาทต่อตารางวา ส่วนสีลมที่เป็นศูนย์ธุรกิจการเงิน ที่เคยมีราคาแพงกว่าในอดีตเมื่อ 20 ปีก่อน กลับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้ากว่า เพราะมีรถไฟฟ้าผ่านเพียงสายเดียว ในขณะที่บริเวณถนนเยาวราชที่แต่เดิมราคาแพงสุด กลับเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำ เพราะยังไม่มีรถไฟฟ้าผ่านนั่นเอง
อีกบริเวณหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ บริเวณท้องฟ้าจำลอง ถนนสุขุมวิท กับบริเวณกล้วยน้ำไท ถนนพระรามที่ 4 ปรากฏว่าแต่เดิมราคาเกือบจะเท่ากัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป 20 ปีกลับปรากฏว่าราคาต่างกัน ราวฟ้ากับเหว เพราะถนนสุขุมวิทมีรถไฟฟ้าในขณะที่ถนนพระรามที่ 4 ไม่มีรถไฟฟ้า อันที่จริงที่ถนนพระรามที่ 4 และถนนเพชรบุรีตัดใหม่จะมีรถไฟฟ้า ไม่ใช่ถนนสุขุมวิท แต่รถไฟฟ้าสายดังกล่าวที่ลงนามกันเพียง 1 วัน ก่อนรัฐบาลน้าชาติจะถูก รสช. (คณะรัฐประหาร) โค่นในปี พ.ศ. 2534 ซึ่งแนวรถไฟฟ้าจึงเปลี่ยนไปแทบหมด อันนี้อาจเป็นกรณีตัวอย่างของการทุจริตเชิงนโยบายในอดีตก็ว่าได้
ความคืบหน้าของรถไฟฟ้า
ตามโครงการ 2 ล้านล้านบาท ของรัฐบาลปูที่ถูกล้มล้างไปแล้ว และคาดว่า คสช. (คณะรัฐประหาร) ในปัจจุบันอาจนำมาสานต่อ มีรถไฟฟ้า 10 สาย ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมอยู่ด้วย ความคืบหน้าเป็นดังนี้ :
1. รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ม (ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-มหาชัย) โดยระยะที่ 1 ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-บางซื่อ ปัจจุบันมีการประมูลงานโยธาแล้วอยู่ระหว่างดำเนินการรื้อย้ายตอม่อโฮปเวลล์เพื่อเปิดทางก่อสร้าง ระยะที่ 2 บางซื่อ-หัวลำโพง กำหนดเปิดประกวดราคาในปี 2556 ส่วนระยะที่ 3 หัวลำโพง-บางบอน และระยะที่ 4 บางบอน-มหาชัย คาดว่าจะเริ่มดำเนินโครงการหลังปี 2562
2. รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอ่อน (ศาลายา-หัวหมาก) โดยระยะที่ 1 บางซื่อ-ตลิ่งชัน อยู่ระหว่างเปิดทดลองให้บริการ 3 สถานี (ตลิ่งชัน-บางบำหรุ-บางซ่อน) ส่วนระยะที่ 2 คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลภายในปี 2557
3. ส่วนต่อขยายแอร์พอร์ต เรลลิงก์ (พญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง) ทั้งนี้ส่วนแรก พญาไท-มักกะสัน-สุวรรณภูมิ เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่ปี 2551 ส่วนต่อขยายนี้ได้รับการเห็นชอบด้าน EIA แล้ว คาดว่าจะเปิดประมูลภายในปี 2557
4. สายสีม่วง ส่วนเหนือ-ใต้ (บางใหญ่-บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ) ในส่วนด้านเหนือคือ บางใหญ่-บางซื่อ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คืบหน้าไปราว 75% แต่ในส่วนใต้ บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในปี 2557-58
5. สายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ-บางปู) นี่เป็นรถไฟฟ้าที่ต่อเชื่อมจากโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิท (หมอชิต-อ่อนนุช) ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2542 ทั้งนี้ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เริ่มก่อสร้างแล้ว 20% ช่วงสมุทรปราการ-บางปู คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างไปแล้วประมาณ 10% สำหรับช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลได้ภายในปี 2557-58
6. สายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค และ บางซื่อ-ท่าพระ-พุทธมณฑล สาย 4) เป็นเส้นทางต่อขยายจากรถไฟฟ้าใต้ดิน สายเฉลิมรัชมงคล ทั้งนี้ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คืบหน้าประมาณ 40% ช่วงหัวลำโพง-บางแค อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนช่วงบางแค-พุทธมณฑล สาย 4 จะเริ่มดำเนินโครงการหลังปี 2562
7. สายสีส้ม (ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) ทั้งนี้ช่วงจรัญสนิทวงศ์-ศูนย์วัฒนธรรม ยังมีปัญหาเรื่องการจัดสรรพื้นที่เวนคืนในบางช่วง และยังไม่สามารถประเมินงบประมาณได้ ส่วนช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ และช่วงบางกะปิ-มีนบุรี อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในปี 2557-58
8. สายสีชมพู (แคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี) อยู่ระหว่างทบทวนรายละเอียดความเหมาะสม คาดว่าจะเปิดประมูลภายในปี 2557-58
9. สายสีเหลือง (ลาด พร้าว-พัฒนาการ-สำโรง) ปรากฏว่าช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ (แฮปปี้แลนด์) การออกแบบเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสม คาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในปี 2557-58
10. สายสีเขียวอ่อน (ยศเส-สนามกีฬาฯ-สะพานตากสิน-บางหว้า) ทั้งนี้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อมาจากโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลม (สนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน) ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2552 โดยช่วงตากสิน-บางหว้า อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนช่วงสนามกีฬา-ยศเส คาดว่าจะดำเนินการในระยะต่อไปหลังปี 2562
จะสังเกตได้ว่าบางเส้นยังไปไม่ถึงไหน หากคิดจะซื้อที่อยู่อาศัยไว้ ก็จงอย่าเพิ่งผลีผลาม อย่าลืมว่า ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม นะครับ
บทวิพากษ์รถไฟฟ้า
รถไฟฟ้าบางสายอาจขัดกันบ้าง เช่น รถไฟฟ้าสายสีแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวบนถนนพหลโยธิน ซึ่งวิ่งขนานไปทางทิศเหนือห่างกันเพียง 2 กิโลเมตร อาจแย่งลูกค้ากันเองบ้าง อย่างไรก็ตามโครงการที่พึงดำเนินการมากที่สุดได้แก่โครงการที่ 3 ส่วนต่อขยายแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ) ระยะทาง 50.3 กม. เชื่อมต่อการเดินทางระหว่าง 2 สนามบิน เพราะการติดต่อระหว่างกันทำได้จำกัดในเวลานี้ รวมทั้งโครงการที่ 5 รถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน (ยศเส-บางหว้า) และโครงการที่ 6 รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-ท่าพระ, บางซื่อ-พุทธมณฑล สาย 4) ซึ่งเชื่อมต่อกับสายเฉลิมรัชมงคลในลักษณะวงแหวนเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน
โดยหลักการแล้ว หลายเส้นไม่พึงทำ เพราะจำนวนประชากรอาจมีน้อยเกินไป และที่สำคัญทำให้เมืองขยายออกไปข้างนอกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้สาธารณูปโภคต้องขยายตัวอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และสิ้นเปลืองงบประมาณอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่แน่นอนว่าประชาชนที่อยู่แถวนั้นคงอยากได้ เพียงแต่สร้างแล้วคุ้มทุนยากเมื่อเทียบกับสายอื่น ตัวอย่างเช่น รถไฟฟ้าสายที่ 4 รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ช่วงสะพานใหม่-คูคต โครงการที่ 8 รถไฟฟ้าสายสีส้ม (จรัญสนิทวงศ์-มีนบุรี) โดยเฉพาะช่วงจากบางกะปิไปมีนบุรี ที่ประชากรเบาบางกว่าพื้นที่อื่น และโครงการที่ 9 รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) เชื่อมทิศเหนือ-ตะวันออก และศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เพราะน่าจะมีประชากรน้อยกว่าที่อื่นเช่นกัน
บริเวณชานเมือง หากมีรถไฟรางคู่ที่มีประสิทธิภาพ ก็จะทำให้การขนส่งสินค้าและคนทำงาน เดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวกไม่ต้องใช้รถไฟฟ้าแต่อย่างใด ดังเช่น รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ม (ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตมหาชัย) 80.8 กม. เชื่อมการเดินทางพื้นที่ชานเมืองเข้าสู่กรุงเทพมหานครในแนวเหนือใต้
พึงสร้างรถไฟฟ้ามวลเบา
นอกจากโครงการรถไฟฟ้า 10 สายที่ต้องลงทุนสูงแล้ว สิ่งที่กรุงเทพมหานครพึงมีที่สุดในขณะนี้ก็คือรถไฟฟ้ามวลเบา โดยพื้นที่ที่ควรดำเนินการได้แก่ :
1. บริเวณถนนเจริญกรุง (ถนนตก) ถนนจันทน์ ถนนเซ็นต์หลุยส์ ถนนนราธิวาส ถนนนางลิ้นจี่ ถนนงามดูพลี ออกถนนพระรามที่ 4 ซึ่งเป็นการเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าหลักสาทร สุรศักดิ์ และสถานีลุมพินีของรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (MRT)
2. บริเวณถนนอุดมสุข ออกสวนหลวง ร.9 วกออกสถานีอ่อนนุช
3. ประดิพัทธ์-ซอยอารีย์ประดิพัทธ์-วิภาวดีรังสิต
4. อินทามระ-ห้วยขวาง
5. พระรามที่ 1-บรรทัด ทอง-พระรามที่ 1
6. คลองเตย-พระรามที่ 4-พระโขนง ฯลฯ
การทำรถไฟฟ้ามวลเบา จะทำให้เปิดทำเลใหม่ ๆ ในการพัฒนาเมือง นอกจากนั้นยังควรสร้างรถไฟฟ้าแบบ BTS บนเกาะกลางถนนของถนนอีกหลายสายในเขตกรุงเทพมหานคร เช่น ถนนลาดพร้าว ถนนสามเสน และอื่น ๆ เป็นต้น แต่ไม่ควรสร้างรถ BRT อีกต่อไป เพราะกีดขวางการจราจร โครงการ BRT บนถนนนราธิวาส-พระรามที่ 3 ควรเปลี่ยนใหม่เป็นรถไฟฟ้า
การพัฒนารถไฟฟ้าควรดำเนินการในใจกลางเมือง และอนุญาตให้ใจกลางเมืองสร้างอาคารได้สูง ๆ โดยกำหนดอัตราส่วนพื้นที่ก่อสร้างต่อพื้นที่ดิน (Floor Area Ratio: FAR) เป็น 20 เท่าต่อ 1 แต่ให้คิดภาษีการก่อสร้างเพิ่มเติม เพื่อนำเงินมาพัฒนาระบบรถไฟฟ้า ทุกวันนี้อาคารต่าง ๆ จำเป็นที่ต้องมีที่จอดรถประมาณ 20-30% ของพื้นที่อาคารเพื่อการจอดรถ ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองทางเศรษฐกิจ แต่หากพัฒนาระบบรถไฟฟ้าที่ดี ก็ให้ก่อสร้างที่จอดรถน้อยลงได้ อากาศก็จะดีขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในโครงการ 2.2 ล้านล้านบาท รัฐบาลน่าจะจัดการประมูลให้เอกชนดำเนินการเช่นกรณี BTS แต่ต้องทำสัญญาให้รัดกุมเพื่อจะไม่ เสียค่าโง่ เช่นที่ผ่าน ๆ มา และให้แต่ละระบบสามารถประสานงานร่วมกันได้ด้วย
การลงทุนขนาดใหญ่นี้ อาจมีข้อครหาถึงความโปร่งใสต่าง ๆ คสช. ซึ่งมีภารกิจหลักในการรักษาความสงบเป็นสำคัญ จึงไม่ควรดำเนินการเอง แต่เมื่อรักษาความสงบแล้ว ก็ควรจัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว เพื่อให้ได้รัฐบาลปกติ ซึ่งนานาชาติเชื่อถือให้สามารถกู้เงินมาดำเนินโครงการขนาดใหญ่ต่าง ๆ ต่อไป.
คอลัมน์ : กูรู'ส่อง'อสังหาฯ
ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย |
|
Back to top |
|
|
|